Share

บทที่ 19

last update Last Updated: 2024-12-01 20:35:53

ฮวงจุ้ยของจวนไท่เว่ยน่าจะดีเป็นพิเศษ นอกจากมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายระหว่างคุณหนูรองตระกูลจ้าวกับรองเสนาบดีกรมพิธีการในช่วงเช้ากระจายออกไปแล้ว ช่วงบ่ายก็มีขบวนรถจากวังหลวงเดินทางมาถึงจวนไท่เว่ย รถม้าติดตราราชวงศ์หลายสิบคันจอดเรียงรายยาวเหยียดแทบปิดเส้นทางสัญจรฝั่งตะวันออกของเมือง

เฉินซือหยางนำหวังกงกงมาเยือนจวนไท่เว่ยกะทันหัน ทำเอาจ้าวมู่ที่เพิ่งได้รับรายงานจากทหารรับใช้รีบควบม้ากลับจวน เห็นองค์รัชทายาทยืนรอพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวของเขา จ้าวมู่ก็รีบเข้าไปค้อมกายทักทายทันที

“องค์รัชทายาท”

“เจิ้งกั๋วกง” เฉินซือหยางพยักหน้าให้อีกฝ่ายยิ้มๆ อีกฝ่ายมาต้อนรับเขารวดเร็วถึงเพียงนี้ คงได้รับข่าวตั้งแต่เขาก้าวเท้าออกจากวังเลยกระมัง

“เหตุใดองค์รัชทายาทถึงให้เกียรติมาเยือนจวนของผู้น้อยได้ขอรับ”

“เราบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าเราถูกชะตากับบุตรชายของท่านยิ่งนัก ไหนๆ วันนี้เสด็จพ่อก็มีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทราบอยู่แล้ว เราเลยอาสาพาหวังกงกงมาด้วยเสียเลย”

หวังกงกงก้าวออกมาค้อมกายคารวะ จ้าวมู่คารวะตอบด้วยสีหน้าฉงน

“ฝ่าบาทมีเรื่องอะไรจะแจ้งกับกระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“จะเรียกว่ามีเรื่องแจ้งกับท่านก็ไม่เชิง เรียกว่ามีเรื่องกับบุตรชายของท่านจะเหมาะกว่า... หวังกงกง” เฉินซือหยางพยักหน้าให้

“พ่ะย่ะค่ะ” หวังกงกงคลี่ราชโองการออกประกาศเสียงดังให้ผู้คนที่มามุ่งดูได้ยินกันถ้วนทั่ว

“จ้าวลี่หมิงรับราชโองการ”

ตระกูลจ้าวตื่นตระหนกกันถ้วนหน้า กู้ฟางเหนียงสั่งให้บ่าวรับใช้ไปอุ้มคุณชายน้อยมาอย่างรวดเร็ว จ้าวลี่หมิงที่เพิ่งนอนกลางวันได้ไม่นาน พอถูกแม่นมปลุกก็ร้องไห้งอแง น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะ ใบหน้าอ้วนกลมยับยู่ไม่พอใจเมื่อถูกรบกวนการนอน

เห็นจ้าวลี่หมิงสะอึกสะอื้นไม่หยุด หัวใจของเฉินซือหยางก็เกิดอาการคันยุบยิบราวกับมีแมวน้อยข่วนเกา อยากจะเข้าไปปลอบเด็กน้อยแทนกู้ฟางเหนียงก็ได้แต่ข่มใจไว้

จ้าวลี่หมิงโยเยอยู่ชั่วครู่ พอถูกหลายคนปลอบโยนจึงหยุดร้องไห้ ดวงหน้าน่ารักน่าเอ็นดูยังคงแดงก่ำเปื้อนหยาดน้ำตามองดูแล้วหัวใจแทบละลายเพราะความน่ารักน่าใคร่ของเด็กน้อย

“จ้าวลี่หมิงรับราชโองการ”

“แอ๊ะ” จ้าวลี่หมิงได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองร้องอ้อแอ้ตอบ กู้ฟางเหนียงจับจ้าวลี่หมิงนั่งคุกเข่ารับราชโองการ

“ลี่หมิงตระกูลจ้าวเพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ความสามารถ รูปโฉมงดงามน่าใคร่ ชาติกำเนิดสูงส่งเหมาะแก่การดำรงตำแหน่งชายาองค์รัชทายาท เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ปวงประชา จึงพระราชทานสมรสให้แก่โอรสของเราเฉินซือหยางกับจ้าวลี่หมิง ประกาศต่อฟ้าดินให้รับรู้ ขอให้ทั้งสองครองคู่กันยาวนาน ร่วมกันสืบทอดแผ่นดินต้าเฉินของเราให้รุ่งเรืองสืบไป จบราชโองการ”

เกิดความเงียบอันยาวนานขึ้นหลังจากหวังกงกงประกาศราชโองการจบ กู้ฟางเหนียงบีบข้อมือจ้าวมู่แน่นจนขึ้นข้อขาว ราชโองการที่ประกาศออกมาเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางใจผู้เป็นมารดาอย่างนาง อนาคตของบุตรชายจะต้องผูกติดกับองค์รัชทายาท หากรุ่งโรจน์ก็จะรุ่งโรจน์ไปด้วยกัน แต่ถ้าหากว่าไม่เล่า...

กู้ฟางเหนียงเนื้อตัวสั่นสะท้าน นึกหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ วังหลวงที่กลืนคนไม่คายกระดูกแห่งนั้น บุตรชายของนางจะไปอยู่ได้อย่างไร

“ท่านพี่”

จ้าวมู่ตบหลังมือปลอบคู่ชีวิตเบาๆ ก้าวออกไปรับราชโองการแทนบุตรชายด้วยหัวใจหนักอึ้ง “เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เสด็จพ่อยังมีของหมั้นหมายมามอบให้เจิ้งกั๋วกงด้วย เชิญเจิ้งกั๋วกงตรวจดู” เฉินซือหยางรับม้วนผ้ามาจากหวังกงกงส่งต่อให้จ้าวมู่ พอคลี่ออกดูม้วนผ้าก็ทิ้งตัวยาวเหยียด รายการของหมั้นหมายมีตั้งแต่ไข่มุกราตรีหลายร้อยหีบ ผ้าแพรไหมเนื้อดีหลายพันพับ เครื่องประดับหยก กวานหยก ทองคำ เครื่องเงินล้วนมีครบ สายคาดเอว รองเท้าหนังกวาง เสื้อคลุมขนจิ้งจอกเงินหายาก ผ้าห่มลายนกยวนยางคู่ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าม่าน โต๊ะ ตู้ ตั่งเตียงที่ทำจากไม้หวงฮวาหลีชั้นยอด นอกจากนี้ยังมีชาบรรณาการ สุราบ่มร้อยปี กระดานหมากล้อมที่ทำมาจากหยกเหอเถียนน้ำงาม เงินตำลึง ตั๋วเงิน ที่ดิน ไร่นา ของเล่นแปลกตา ของสะสมหายากอย่างภาพวาด อักษรภาพของยอดกวี หรือคัมภีร์ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยก่อน สุ่มหยิบชิ้นไหนก็ล้วนแล้วแต่มีค่าควรเมือง

หีบหลายร้อยพันหีบถูกยกเข้าจวนไท่เว่ยหีบแล้วหีบเล่า แทบจะตั้งท้องพระคลังหลวงที่จวนไท่เว่ยได้อีกแห่ง ทำเอาชาวบ้านที่มามุ่งดูล้วนได้เปิดหูเปิดตากับความหรูหราร่ำรวยของชนชั้นสูง

“เชิญองค์รัชทายาทเข้าไปเสวยสุธารสชาก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวมู่กวาดตามองรายการของหมั้นหมายอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเชื้อเชิญเฉินซือหยางเข้าไปพูดคุยกันด้านใน เฉินซือหยางพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจยิ่ง

“ต้องขอรบกวนแล้ว ชีชีเราไปเล่นด้วยกันเถอะ” เฉินซือหยางยอบกายพูดคุยกับเด็กน้อย จ้าวลี่หมิงจำเสียงของอีกฝ่ายได้เลยเดินเตาะแตะเข้าไปหาเฉินซือหยาง สร้างความตกตะลึงให้กับคนตระกูลจ้าวทั้งตระกูล เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวลี่หมิงเริ่มหัดเดิน แต่ทำไมถึงเดินไปหาคนอื่นด้วยเล่า

จ้าวมู่หน้าดำเป็นก้นหม้อ ตอนแรกหนักใจเรื่องสมรสพระราชทานของบุตรชาย ตอนนี้ต้องมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความอิจฉาริษยาเฉินซือหยาง ทำไมคนที่บุตรชายเดินไปหาคนแรกไม่เป็นเขา ทำไมต้องเป็นเจ้าเด็กหน้าเหม็นผู้นี้ด้วย! นี่สินะที่เขาบอกว่า บุตรพอแต่งออกไปก็เหมือนน้ำถูกสาดทิ้ง เห็นคนอื่นดีกว่าบิดา!!

จ้าวลี่หมิงไม่รู้ตัวว่าได้ทำร้ายจิตใจของผู้เป็นบิดาอย่างแสนสาหัส โผเข้าสู่อ้อมแขนของเฉินซือหยาง เด็กน้อยจับใบหน้าอวบยุ้ยเหมือนตัวเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น บีบไปบีบมาจนองค์รัชทายาทหน้าตาบู้บี้

หวังกงกงถึงกับเหงื่อตกแทนเด็กน้อย แต่เฉินซือหยางซึ่งปกติเป็นคนหยิ่งทะนงและถือตนยิ่งนักกลับหัวเราะชอบใจเสียอย่างนั้น ทำเอาหวังกงกงที่เห็นเฉินซือหยางมาตั้งแต่เด็กอดแปลกใจไม่ได้ คงจะจริงอย่างที่จางกงกงบอกว่าองค์รัชทายาททรงโปรดปรานจ้าวลี่หมิงด้วยใจจริง

“ชีชีคิดถึงข้าหรือไม่”

“แอ๊” จ้าวลี่หมิงตบหน้าเฉินซือหยางแปะๆ ริมฝีปากเล็กดูดแก้มเฉินซือหยางด้วยความหิวจนน้ำลายยืด ทำเอาผู้คนในบริเวณนั้นตกตะลึงตาค้างไปตามๆ กัน ถึงกับกล้ากระตุกหนวดมังกรเล่น ความกล้าหาญของคุณชายจ้าวช่างน่านับถือโดยแท้

เฉินซือหยางหัวเราะเบาๆ ด้วยความจั๊กจี้ อุ้มเด็กน้อยเดินเข้าจวนไท่เว่ยราวกับเป็นตำหนักของตนเอง “ห้องของชีชีอยู่ไหนหรือ” เขาหยุดถามคนตระกูลจ้าว ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องของจ้าวลี่หมิงตามการนำทางของกู้ฟางเหนียง

เรือนหลังน้อยท่ามกลางทุ่งดอกทานตะวันพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า แสงทองมลังเมลืองจากดอกไม้สาดประกายไปทั่ว ทำให้เรือนช่านไฉ่แลดูสว่างสดใสสมชื่อ เฉินซือหยางยืนชมผีเสื้อเชยบุปผาร่วมกับจ้าวลี่หมิงชั่วครู่ค่อยย่างกรายเข้าไปในเรือนหลังเล็ก ตรงเข้าไปในห้องนอนของเด็กน้อยโดยไม่รอให้ใครอนุญาต

“พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าจะดูแลชีชีเอง”

กู้ฟางเหนียงและจ้าวมู่มองหน้ากันไปมา ดูจากท่าทางขององค์รัชทายาทตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว หากปล่อยให้บุตรชายอยู่ด้วยคงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกระมัง

“พ่ะย่ะค่ะ / เพคะ”

ทั้งคู่ถอยห่างจากห้องตามพระประสงค์ แต่ก็ยังไม่วายเกาะขอบหน้าต่างแอบมองบุตรชายด้วยความห่วงใย

เฉินซือหยางไม่สนใจพ่อแม่ของเด็กน้อย เขาวางจ้าวลี่หมิงลงบนเตียงอุ่นอย่างเบามือ แต่เด็กน้อยกลับไม่ยอมนั่งดีๆ ลุกขึ้นเกาะคอยื่นหน้ามาจะงับใบหูเขาให้ได้ เฉินซือหยางเลยฟัดแก้มป่องเป็นการเอาคืน จนจ้าวลี่หมิงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากสนุกสนาน

“นี่แน่ะๆ หิวมาจากไหนหึเรา”

“แอ๊ะ แอ๊” จ้าวลี่หมิงขยุ้มผมนิ่ม ดึงทึ้งไปมาจนองค์รัชทายาทน้อยผู้เคร่งขรึมหมดสภาพ จำต้องยกมือยอมแพ้เด็กน้อยแต่โดยดี

“โอ๊ยๆ ยอมแล้วๆ ปล่อยผมเราก่อนได้หรือไม่ ข้าเอาของกินมาให้เจ้าด้วยนะ นี่ไง” เฉินซือหยางล้วงขนมในแขนเสื้อออกมาล่อ เด็กน้อยจึงยอมปล่อยผมของเขาแต่โดยดี ขนมนี้เขาให้แม่ครัวในห้องเครื่องนำนมวัวกวนผสมกับแป้งข้าวโพดและน้ำผึ้ง แล้วนำมาปั้นเป็นรูปกระต่ายชิ้นเล็กๆ พอดีคำ ซึ่งกระต่ายขาวกลิ่นหอมละมุนนี่เองที่ดึงดูดให้จ้าวลี่หมิงเกาะติดเขามาตั้งแต่ต้น

“มา ข้าป้อนเจ้า อ้า... อ้ำ” เฉินซือหยางส่งกระต่ายน้อยตัวนุ่มเข้าปากจ้าวลี่หมิง เด็กน้อยเคี้ยวกระต่ายรสนมอย่างไร้ความปรานี ท่าทางเอร็ดอร่อยยิ่ง ไม่นานก็เกาะแขนร้องขอขนมจากเฉินซือหยางอีกชิ้น เฉินซือหยางเองก็ไม่อิดออดป้อนเด็กน้อยแต่โดยดี

“อร่อยหรือไม่”

“\(@^0^@)/”

จ้าวลี่หมิงเคี้ยวตุ่ยๆ ไม่ตอบคำ เฉินซือหยางเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กน้อยจะส่งเสียงตอบเขา เด็กชายหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเศษขนมเลอะตรงมุมปากของเด็กน้อยอย่างเอาอกเอาใจ ทั้งยังรินน้ำอุ่นบนโต๊ะไม้ข้างเตียงไว้รอท่าเผื่อจ้าวลี่หมิงสำลัก ท่าทางปรนนิบัติคนเช่นนี้ชำนิชำนาญยิ่งเหมือนเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ในความเป็นจริงแล้วนี่คือครั้งแรกที่เขาปรนนิบัติเอาใจผู้อื่นนอกเหนือจากเสด็จพ่อ

เฉินซือหยางรอจนเด็กน้อยกินอิ่ม ค่อยเช็ดหน้าเช็ดมือให้ พอจ้าวลี่หมิงตาปรือทำท่าจะหลับ เด็กชายจึงจัดการห่มผ้าให้จ้าวลี่หมิง มือป้อมตบก้นนิ่มเบาๆ ฮัมเพลงกล่อมเด็กน้อย กล่อมไปกล่อมมากลายเป็นว่าตัวเองเผลอหลับตามไปด้วยอีกคน เพราะต้องจัดการสะสางราชกิจแทนเสด็จพ่อที่ยังไม่ได้สติอยู่หลายวัน ตกกลางคืนยังต้องคอยปรนนิบัติข้างแท่นบรรทมด้วยความห่วงใยจนไม่มีเวลาพักผ่อนดีๆ สักวัน ทำให้เหนื่อยล้าสะสมทั้งกายทั้งใจ เฉินซือหยางจึงหลับไปอย่างง่ายดาย ทั้งยังเป็นการหลับสนิทโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใดอย่างแท้จริง

ภาพที่ปรากฏในครรลองสายตาตั้งแต่ต้นจนจบ ทำเอาจ้าวมู่และกู้ฟางเหนียงได้แต่มองหน้ากันไปมา สุดท้ายทั้งคู่จึงปล่อยให้เด็กน้อยนอนกลางวันด้วยกัน เรียกเพียงหวังกงกงและแม่นมมากำชับให้ดูแลเด็กทั้งสองคนให้ดีค่อยเดินจากมา
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 244

    ‘เปิดตำหนักลับฉบับวายป่วง’ สำนักข่าวเถียนเถียนรายงานสดจากตำหนักจินหลวน นักข่าวนิรนาม : “มีคนบ่นว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่เหมือนพระเอกจริงหรือไม่ขอรับ” สวีจิ้งเฟิ่ง : “ผู้ใดบอกให้นักเขียนผู้นั้นให้บทเด่นกับท่านพ่อมากเกินไปเล่า” สวีจิ้งเฟิ่งแบมืออย่างช่วยไม่ได้ นักเขียน : “C £ C

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 243

    "หยางหยาง! เจ้าไปไหน..." ไป่ชิงถงยังไม่ทันซักไซ้ไล่เลียง สวีจิ้งเฟิ่งก็ตรงดิ่งเข้าหาภรรยาด้วยความยินดี "ชีชี เจ้าอยู่นี่เอง ข้าตามหาเจ้าเสียทั่ว มากับข้าเร็วเข้า" สวีจิ้งเฟิ่งอุ้มสวีชิงเทียนให้ท่านย่า จูงมือภรรยาออกไปท่ามกลางเสียงโวยวายอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของไป่ชิงถง "หยางหยางเจ้า

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 242

    "เจ้าชอบแบบนี้เองหรอกหรือ" สวีจิ้งเฟิ่งขยับกายเข้าออกเนิบช้า บดคว้านโพรงรักจนถ้วนทั่วสลับกับตอกตรึงหนักเน้นลึกจนถึงแก่น "เปล่านะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อ...ย อ่ะ" ไป่ชิงถงส่ายหน้าไม่อยากจะยอมรับเลยว่าสวีจิ้งเฟิ่งทำแบบนี้เขายิ่งเสียวซ่านมากกว่าเดิมขึ้นไปอีก "งั้นหรือ แล้วแบบนี้เล่า" สวีจิ

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 241

    "อย่าว่าลูก! จ้ำม่ำแบบนี้สิดี กอดแล้วนุ่มนิ่มจะตาย แล้วที่ว่าไม่เหมือนเจ้า ไม่เหมือนตรงไหน ดูผมนี่สิ หน้าก็เหมือนกันแทบจะถอดเค้ามาจากเจ้า มีแค่ตาสีมรกตคู่นี้ที่เหมือนข้า" ไป่ชิงถงประท้วง มองสามีตาเขียว ลูกเหมือนสวีจิ้งเฟิ่งขนาดนี้ เขาไม่เห็นจะว่าอะไรเลย แค่ชอบกินเหมือนเขานิดหน่อยทำมาเป็นโวยวาย

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 240

    ด้วยความเพียรพยายามมุมานะอุตสาหะกกไข่แทนภรรยาของสองพ่อลูกแซ่สวี ในที่สุดไข่ใบน้อยก็เริ่มกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว "อีกนิด ลูกทำได้ เจาะเปลือกบนหัวออกก่อนแบบนั้นแหละ" เสียงพ่อลูกแซ่สวีให้กำลังใจลูกน้อยดังขึ้นเป็นระยะ ไม่นานหงส์ทองตัวน้อยกับมังกรเหมันต์ก็โผล่ศีรษะเล็กๆ ออกมา ดวงตาใสแจ๋วสองคู่มองคนน

  • ชายาข้าน่ารักเกินใคร   บทที่ 239

    "ไม่ค่อยดี" สวีเฟยหลงมีสีหน้าวิตกอย่างเห็นได้ชัด "ข้าจะเข้าไปดูหน่อย" "หยางเอ๋อร์..." สวีเฟยหลงห้ามไม่ทัน ร่างสูงของบุตรชายหายเข้าไปในห้องเสียแล้ว "ท่านตาเสร็จหรือยัง ชีชีจะคลอดแล้วเหมือนกันนะ" "รอก่อน ข้าทำคลอดมารดาเจ้าอยู่ อย่ามาวุ่นวาย" หลินไท่หน้าซีด ถ่ายพลังให้หลินเส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status