/ รักโบราณ / ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้ / บทที่ 10 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

공유

บทที่ 10 ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

last update 최신 업데이트: 2025-04-06 09:05:57

หลังกลับมาจากงานเลี้ยงจวนตระกูลไป๋แล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาและเสี่ยวเย่วหยาก็ถูกเรียกไปพบที่เรือนใหญ่ในทันที เสี่ยวฮูหยินจ้องมองบุตรสาวทั้งสองของตน ก่อนจะเอ่ยถาม

"ข้าสอนพวกเจ้ายังไง บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าห้ามก่อเรื่อง เจ้าก็อีกคนเย่วหยา ถูกทำร้ายกลางงานเช่นนี้ผู้คนคงเอาไปพูดจากันสนุกปากแล้ว"

"ข้าขออภัยเจ้าค่ะท่านแม่"

เสี่ยวเย่วเยาไม่เอ่ยสิ่งใดมากเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเสี่ยวฮูหยินให้มากความ เมื่อเสี่ยวฮูหยินเห็นเช่นนั้นก็พอจะคลายโทสะลงไปได้บ้าง แต่เมื่อหันมามองเสี่ยวจิ่วฮวาที่มีสีหน้าเรียบเฉย โทสะก็พุ่งปะทุขึ้นมาอีกครา

"อาจิ่ว เจ้าไม่จดไม่จำที่ข้าสอนเลยหรือ ข้าบอกเจ้าว่าอย่ามีเรื่องกับผู้ใด เจ้าทำไมไม่ทำตามที่ข้าสั่ง"

เสี่ยวจิ่วฮวาเงยหน้าขึ้นมามองมารดาของตนเอง ก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่จะให้ข้ายืนมองดูคนพวกนั้นดูแคลนเช่นนั้นหรือเจ้าคะ หลินซินหลันด่าเสี่ยวเย่วหยาว่าเป็นคนโง่ ด่าข้าว่าถูกเลี้ยงดูมาจากอนุที่ต่ำช้า ไม่ให้เกียรติตระกูลเสี่ยว แต่ท่านแม่กับจะให้ข้ารักษาหน้าตาตนเองแล้วปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป ท่านยอมให้คนมาดูแคลนบุตรสาวของท่านหรือ ข้าขอยืนยันคำเดิม ใครไม่ยุ่งกับข้า ข้าก็ไม่ยุ่งด้วย แต่ถ้าใครมาต่อว่าข้า ต่อว่าคนตระกูลเสี่ยวต่อหน้าข้า ข้าก็ไม่ไว้หน้าเช่นกัน ท่านแม่จะลงโทษก็ลงโทษเถิด แต่ข้าจะไม่ยอมรับผิดในเรื่องที่ข้าไม่ได้ทำผิด"

เสี่ยวฮูหยินเดิมทีคิดจะต่อว่าบุตรสาวอีกสักหายประโยค แต่เมื่อได้ยินความหมายในคำพูดของเสี่ยวจิ่วฮวา ว่าจะไม่ยอมให้ใครมาด่าทอหรือรังแกคนในตระกูลเสี่ยวได้ ในใจของนางก็พลันคลายโทสะลงไปได้ไม่น้อย

คล้ายว่าหลายวันมานี้เสี่ยวจิ่วฮวาจะดูเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนไม่น้อย

แต่ถึงอย่างไรย่อมต้องลงโทษ นางจึงสั่งให้สาวใช้ไปนำไม้เรียวยาวออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปหาเสี่ยวจิ่วฮวา

"ยื่นมือมา แม่จะทำโทษเจ้า"

เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที

"ท่านแม่ ไม่ได้นะเจ้าคะ อาจิ่วทำไปเพราะปกป้องข้า หลินซินหลันด่าทอข้าสารพัด อีกทั้งยังลงไม้ลงมือด้วย ท่านแม่ หากจะตีก็ตีข้าด้วยเถอะ ข้าเองก็ผิดที่ไม่ปรามอาจิ่วเจ้าค่ะ!!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นก็ดึงเสี่ยวเย่วหยาไปหลบอยู่ด้านหลังตน ก่อนจะเอ่ย

"อย่าตีนาง!! นางไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ตีข้าคนเดียวก็พอ ข้ามันหนังหนา ทนแรงทุบตีดุด่าได้อยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าโดนเสียหน่อย ท่านแม่รีบตีมาเถอะ ตีเสร็จข้าจะได้ไปนอน ข้าง่วงแล้ว"

ยิ่งได้เห็นท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเสี่ยวจิ่วฮวา เสี่ยวฮูหยินก็โมโหอีกรอบ เพราะไม่ยั้งมือนางจึงตีมือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาจนมีเลือดซึม เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่ามือของน้องสาวมีเลือดไหลซึมแล้วก็รีบเข้าไปคุกเข่าขอร้องมารดาทันที

"ท่านแม่ ฮืออ พอเถอะเจ้าค่ะ!!"

เสี่ยวฮูหยินตีไปน้ำตาก็ไหลไป ก่อนจะเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวา

"เจ้าคิดว่าข้าอยากตีเจ้าหรือ ที่ข้าต้องสั่งสอนเจ้า เพราะว่าข้าไม่อยากให้คนอื่นว่าเจ้าไม่ดี ไม่อยากให้เจ้ามีชื่อเสียงไม่ดี หากเจ้าเป็นที่นินทาของผู้คนเจ้าจะมีชีวิตที่ดีและสงบสุขได้อย่างไร!! เจ้าจะมีงานแต่งงานที่ดีได้อย่างไร หากเจ้าไม่มีวามสุข เจ้าลำบากเจ้าคิดว่าข้าจะตายได้อย่างสงบสุขหรืออาจิ่ว!!"

เสี่ยวฮูหยินโยนไม้เรียวทิ้งลงไปบนพื้น ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นเช็ดน้ำตา นางตีเสี่ยวจิ่วฮาก็เท่ากับตีหัวใจตนเอง แต่หากไม่สั่งสอนนางก็กลัวว่าสักวันบุตรสาวอาจจะไม่ได้พบจุดจบที่ดี

เสี่ยวจิ่วฮวาเม้มริมฝีปากแน่น นางเองไม่ได้โกรธเคืองอันใด ตีแล้วก็แล้วไปเถิด อย่างไรท่านแม่ก็ไม่ได้คิดจะตีนางให้ตายอยู่แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"ท่านแม่ไม่ต้องกังวล เดิมทีข้าก็ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว คนอย่างข้าไม่เหมาะกับใครเขาหรอก แต่งเข้าจวนใดจวนนั้นคงร้อนเป็นไฟ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ขอบคุณท่านแม่ที่สั่งสอน"

เมื่อเห็นว่าบุตรสาวไม่ได้มีท่าทีโกธรเคืองหรืออาละวาดด่าทอเช่นทุกครั้งที่โดนดุด่าลงโทษ ใจของเสี่ยวฮูหยินก็ยิ่งบีบรัด นางพยายามระงับโทสะ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับสาวใช้

"ไปตามท่านหมอมาดูอาการคุณหนูรอง"

เมื่อสาวใช้ออกไปแล้ว นางก็หันไปมองเสี่ยวเย่วหยาที่ยืนร้องไห้ ก่อนจะกวักมือเรียกให้บุตรสาวมานั่งลงข้างๆ ตน

"ไม่ต้องร้อง ทุกคราแม่ก็สั่งสอนอาจิ่วเช่นนี้ ไม่เห็นเจ้าจะร้องไห้เลย"

เสี่ยวเย่วหยายกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะเอ่ย

"ท่านแม่ หลายวันนี้ที่ข้าได้อยู่ใกล้น้องรอง ข้าดูออกว่าน้องรองแท้จริงไม่ได้เลวร้ายอันใด ที่ผ่านมาเพราะนางอยากให้ท่านสนใจจึงทำตัวแบบนั้น ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยงนางไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมกับข้าเลย ไม่หักหน้าข้า ไม่ด่าทอข้า และไม่ได้หาเรื่องใคร แต่ผู้คนกลับมาหาเรื่องน้องรองก่อน นางดูน่ารักน่าชังขึ้นมากนะเจ้าคะ อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้าด้วย ท่านแม่ ท่านลงมือหนักเกินไปแล้วนะเจ้าคะ ข้าสงสารน้องรองยิ่งนัก"

เสี่ยวฮูหยินไม่เอ่ยตอบ นางรู้ตัวว่านางลงมือหนักไป แต่ที่ทำก็เพื่อเสี่ยวจิ่วฮวาทั้งสิ้น

ด้านเสี่ยวจิ่วฮวาเมื่อเดินกลับมาที่เรือนก็สั่งให้หูเป่าไปเอาน้ำอุ่นมาให้นางล้างมือ เมื่อแผลโดนน้ำนางก็ถึงกับซูดปาก ท่านแม่มือหนักจริงๆ มือนางแตกเป็นรอยหมดแล้ว

หูเป่าร้อนใจยิ่งนัก นางรีบเอ่ยกับเสี่ยวจิ่วฮวาทันที

"คุณหนู ท่านอย่ายั่วโทสะฮูหยินอีกเลยเจ้าค่ะ ดูสิ เลือดออกไม่น้อยเลย"

เสี่ยวจิ่วฮวามีท่าทีเรียบเฉย นางใช้ผ้าสะอาดซับเลือด ก่อนจะครุ่นคิดถึงคำพูดของมารดาเมื่อครู่

ท่านแม่กลัวนางจะไม่ได้แต่งเข้าตระกูลดีดี กลัวนางลำบาก แต่ท่านแม่ไม่รู้ว่าแท้จริงนางไม่อยากแต่งงานเลย นางไม่อยากแต่งกับบุรุษใดทั้งสิ้น ชั่วชีวิตนี้นางอยากใช้ชีวิตอิสระ โผบินดั่งนก ไปทุกที่ได้ตามใจหมาย ใช้ชีวิตในทางที่ถูกที่ควร

และเหตุผลสำคัญที่นางไม่ต้องการแต่งงานอีกนั่นก็คือ นางกลัว!

ตั้งแต่คืนนั้นที่โดนกระทำอย่างทารุณมันก็กลายเป็นบาดแผลในใจนาง นางกลัวที่จะต้องแต่งงานมีสัมพันธ์ทางกายกับบุรุษ นางกลัวเหลือเกิน

ยิ่งคิดถึงเรื่องในคืนนั้นนางก็หนาวเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที นางส่ายศีรษะไปมาพยายามสลัดเรื่องเหล่านี้ออกไปจากสมองเสียให้พ้น และจัดการซับเลือดที่มือของนางต่อ หูเป่าจะช่วยนางก็บอกว่าไม่ต้องเพราะหูเป่าทำงานไม่ถูกใจนาง

"อาจิ่ว!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่กำลังใช้ผ่าสะอาดซับเลือดบนฝ่ามือตนอย่างทุลักทุเลเมื่อได้ยินเสียงเรียกก็หันมามอง ก่อนจะพบกับเสี่ยวเย่วหยาที่เดินเข้ามาหานางพอดี เมื่อเห็นรอยแผลบนฝ่ามือของน้องสาว เสี่ยวเย่วหยาก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ ก่อนจะหันมาเอ่ยกับหูเป่า

"เหตุใดเจ้าไม่ทำแผลให้คุณหนูรอง มายืนมองทำไมกัน!!"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่เห็นอย่างนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

"นางทำไม่ถูกใจข้า เจ้าอย่าดุนางเลย ข้าไม่เป็นอันใดหรอก อีกเดี๋ยวเลือดก็คงหยุดไหลแล้ว"

นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวจิ่วฮวาเห็นว่าเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงกับสาวใช้ นับว่าเป็นด้านที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน เวลาเสี่ยวเย่วหยาขึ้นเสียงนี่ก็น่าดูเหมือนกัน

"เจ้ามีอันใดหรือจึงมาที่เรือนของข้า"

เสี่ยวเย่วหยาทิ้งกายลงนั่ง ก่อนจะเอ่ย

"ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ข้าดูแลเจ้าไม่ดี"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกขมฝาดในลำคอไม่น้อยเลย ชาติก่อนเสี่ยวเย่วหยาก็เอ่ยเช่นนี้

"ไม่ใช่ความผิดของเจ้า อย่าใส่ใจเลย ใบหน้าของเจ้าก็อย่าลืมทายาด้วยเล่า"

เสี่ยวเย่วหยาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย

"น้องรอง เจ้าไม่เกลียดข้าแล้วหรือ"

เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้ตอบสิ่งใด เสี่ยวเย่วหยาที่เห็นว่าน้องสาวนิ่งเงียบไม่เอ่ยตอบ ก็รีบลนลานเอ่ยขึ้นมาทันที

"เอ่อ ข้าไม่อยากให้เจ้าเกลียดข้า เราเป็นพี่น้องกัน ข้า คือ.."

"ข้าเคยเกลียดเจ้า เกลียดมากเหลือเกิน แต่ตอนนี้ข้าไม่เกลียดเจ้าแล้วล่ะ และที่ข้าไม่หาเรื่องเจ้าเพราะว่าข้าเบื่อแล้ว อยู่จวนเดียวกัน เป็นพี่น้องกันจะรังแกกันไปทำไม อีกอย่างรังแกเจ้าไม่สนุกสักนิด ข้าชอบคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อมากกว่า เจ้าอ่อนแอเกินไป แกล้งไม่สนุกสักนิด แล้วอีกอย่างนะเย่วหยา จำคำของข้าไว้ อย่าอ่อนแอเกินไป ใครทำเจ้าเจ้าก็ทำกลับเสีย ปกป้องตนเองให้ได้ อย่าไว้วางใจผู้ใดง่ายๆ เข้าใจหรือไม่"

เสี่ยวเย่วหยาพยักหน้าและยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปหยิบผ้ามาช่วยเช็ดเลือดให้เสี่ยวจิ่วฮวาอย่างใส่ใจ

"ข้าไม่เคยคิดแย่งความรักของท่านแม่ไปจากเจ้าเลยแม้แต่น้อย"

"อืม เจ้าก็ไม่ได้แย่งไปเสียหน่อย ท่านแม่ก็ยังรักข้าอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทุบตีดุด่าข้าบ่อยๆ แล้วอีกอย่างหนึ่ง ท่านแม่เลี้ยงดูเจ้ามาตั้งแต่วัยเยาว์ ต่างจากข้าที่แม้จะได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาว แต่อย่างไรก็ไม่ได้ประคบประหงมเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่แบเบาะ ย่อมมีความห่างเหินเป็นธรรมดา ข้าไม่ใส่ใจแล้วล่ะเจ้าวางใจเถอะ"

"น้องรองเจ้าเติบโตขึ้นมากแล้วจริงๆ"

เสี่ยวจิ่วฮวายิ้มออกมาเล็กน้อย สองพี่น้องสนทนากันอยู่ไม่นานท่านหมอก็มาถึง เสี่ยวจิ่วฮวาแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ว่าท่านแม่เป็นคนออกคำสั่งให้สาวใช้ไปตามท่านหมอมาดูอาการของนาง เสี่ยวจิ่วก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก

มือทั้งสองข้างของเสี่ยวจิ่วฮวาถูกพันเอาไว้จนทำสิ่งใดไม่ได้ หลายวันที่รักษาบาดแผลที่มือนางเอาแต่นอนและให้หูเป่าคอยป้อนอาหาร ชีวิตที่สุขสงบ ไม่แย่งชิงดีไม่ริษยาผู้ใดเช่นนี้ก็มีความสุขไม่น้อยเลย

ในขณะเดียวกันเสี่ยวเย่วหยาก็มักจะทำขนมอร่อยๆ มาให้นางกินอยู่เสมอ อีกทั้งยังนำบทละครงิ้วมาให้นางอ่านอีกด้วย และนี่ก็เป็นอีกด้านหนึ่งที่นางได้รู้ พี่สาวของนางที่ภายนอกดูงดงามอ่อนหวาน ปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบอยู่เสมอนั้น แท้จริงก็ชอบอ่านของพวกนี้เช่นเดียวกับนางเหมือนกัน

เสี่ยวจิ่วฮวาอยู่ว่างๆ ก็เหงา นางเอาแต่คิดถึงเรื่องในกาลก่อนนั้น เรื่องที่ตระกูลของนางถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับพวกกบฏ

แน่นอนว่าเรื่องนี้ย่อมต้องเกิดซ้ำรอยเดิมเป็นแน่ นางเป็นสตรีจะต่อสู้กับเรื่องพวกนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย นางจำวันเวลาที่จะเกิดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินได้ มันคืออีกไม่กี่ปีข้างหน้าแล้ว ตอนนี้นางต้องหาทางหนีทีไล่เอาไว้ และหาวิธีบอกเรื่องนี้กับท่านพ่อและพี่ชายใหญ่ หากวันหนึ่งเกิดเรื่องขึ้นมาจะได้เตรียมพร้อมรับมือและลดการสูญเสียให้มากที่สุด

แต่จะบอกด้วยวิธีใดนั้นนางคงต้องคิดใคร่ครวญเตรียมคำพูดดีดีเสียก่อน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 10

    เมื่อได้ยินว่าบุตรชายกลับมาถึงวังหลวงแล้ว เสี่ยวจิ่วฮวาก็ดีใจไม่น้อย นางโผเข้ากอดบุตรชาย ก่อนจะจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกคนหามเข้ามาคราหนึ่ง และจึงเอ่ยถามเติ้งจื่อหยวน"นางคือ?""เสด็จแม่ นางคือสตรีของข้า ข้ารักนาง ท่านอย่าให้นางไปที่ใดเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เสี่ยวจิ่วฮวาหันไปสบตากับเติ้งหมิงซีคราหนึ่ง เห็นว่าสามีเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใด ก่อนจะสั่งให้หมอหลวงในวังมาตรวจดูอาการของคนทั้งสองหลายวันต่อมาอาการของฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีขึ้นมากแล้ว วันต่อมาก็มีนางกำนัลเข้ามาบอกว่า เสี่ยวฮองเฮาเรียกนางให้เข้าไปพบฮวาชิงเหยี่ยนไม่ได้ครุ่นคิดสิ่งใดให้มากความ นางตรงไปที่ตำหนักคุณหนิงในทันที เมื่อเข้ามาถึงก็พบกับเสี่ยวฮองเฮาที่กำลังนั่งจิบชาร้อนอย่างไม่รีบไม่ร้อนอยู่ภายในตำหนัก"ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ"เสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ยินก็มองฮวาชิงเหยี่ยนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย"ลุกขึ้นเถิด หูเป่าหาที่นั่งให้นาง""เพคะฮองเฮา"ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกประหม่าไม่น้อย นางมาที่นี่เดิมทีก็ใช้ชีวิตไม่ง่าย เมื่อมาอยู่ในวังและยังมีกฎเกณฑ์มากมายจึงยิ่งไม่คุ้นชิน เสี่ยวจิ่วฮวาเองก็พอจะมองออก จึงไม่ได้แสดงท่าทีกดดันนางเท่าใดนัก"

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 9

    เติ้งหมิงซีลงมือจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง ส่วนเสี่ยวจิ่วฮวาที่ได้ทราบข่าวก็เริ่มกระวนกระวายเพราะห่วงบุตรชาย โชคดีที่ได้ความช่วยเหลือจากทั้งเจียงซวี่และหลี่จิ่ง ทำให้ไม่กี่วันต่อมาก็สามารถสืบพบกบฏเหล่านั้นได้ และจัดการถอนรากถอนโคนพวกมันทิ้งไปเสีย แต่น่าเสียดายที่คนตระกูลฮวาเกือบทั้งหมดไม่มีใครรอดชีวิตเลยนอกจากฮวาชิงเหยี่ยน เมื่อสอบสวนอย่างละเอ่ียด ก็พบว่าคนพวกนั้นเดิมทีเป็นกลุ่มคนที่เคยขึ้นตรงต่อเติ้งเจี๋ยมาก่อน และหวังจะแก้แค้นแทนเจ้านายของตน ส่วนคนตระกูลฮวานั้นก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่ได้เรื่องได้ราว และถูกหลอกใช้ให้ส่งข่าวความเป็นไปในเมืองหลวงให้ทราบเพียงเท่านั้น ยามนี้สกุลฮวาตายสิ้น บุตรชายเขาและบุตรสาวนักโทษนางนั้นก็ยังหายไปด้วยกันอีกเมื่อจัดการเรื่องนี้จบแล้ว ก็มีฎีการ้องเรียนไม่หยุดว่าเติ้งจื่อหยวนมีใจคิดไม่ซื่อ มีใจคิดก่อกบฏ เพราะเหตุนี้เติ้งหมิงซีจึงสั่งลงโทษพวกขุนนางเหล่านั้น จนเหล่าขุนนางต่างเงียบปากไม่กล้าเอ่ยปากพูดเรื่องใดออกมาอีกด้านเติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนนั้น ยามนี้คนทั้งสองหลบมาอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่ด้านนอกเมืองหลวง ฮวาชิงเหยี่ยนรู้สึกเจ็บเท้าไม่น้อยเล

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 8

    เช้าวันต่อมาก็มีคนพบศพของชายวัยกลางคนผู้นั้นที่โรงเตี๊ยม แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้หวาดหวั่นยิ่งกว่าก็คือ ในตัวเขามีจดหมายฉบับหนึ่ง เนื้อหาในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า เขากำลังติดต่อกับคนที่เติ้งจื่อหยวนและฮวาชิงเหยี่ยนพบเจอ และดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่ร่วมมือกับกบฏนอกวังหลวงเติ้งจื่อหยวนรู้สึกว่ามันเกินความคาดหมายไปไม่น้อยเลย แต่เรื่องนี้จะเก็บเงียบไม่ได้ย่อมต้องกราบทูลเสด็จพ่อ เมื่อเติ้งหมิงซีรู้จึงสั่งตรวจสอบคนใกล้ชิดกับชายผู้นั้นทันทีไม่เว้นแม้แต่จวนสกุลฮวาสุดท้ายแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาพบว่าฮวาหยวนเองก็มีส่วนสมคบคิดกับชายผู้นั้นเช่นเดียวกัน เขาเป็นคนส่งเรื่องราวและความเป็นไปของในเมืองหลวงให้แก่เหล่ากบฏ เพื่อแลกกับเงินไปใช้จ่ายในโรงพนันเขาคิดว่าอย่างไรย่อมไม่มีคนสาวมาถึงตัวเขา แต่ฮวาชิงเหยี่ยนบุตรสาวตัวดีกลับไปรู้เรื่องเข้า เขาตัดใจฆ่านางไม่ลง จึงสั่งให้นางแต่งงานกับบุรุษผู้นั้นไปเสีย เมื่อแต่งงานออกไปไกลแล้ว ย่อมไม่สามารถก่อคลื่นลมใดได้อีกแต่เรื่องราวกลับไม่เป็นดังที่ใจของเขาคิด สุดท้ายตระกูลฮวาทั้งตระกูลกำลังจะถูกสั่งประหารชีวิตโทษฐานกบฏแต่เพราะเติ้งจื่อหยวนไปขอร้องบิดา ทำให

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 7

    เติ้งจื่อหยวนหันมาสบตากับฮวาชิงเหยี่ยนอีกครา คนทั้งสองมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเป็นฮวาชิงเหยี่ยนที่เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน"ข้าเคยมาหาของป่าที่นี่อยู่บ่อยครั้ง ท่านกับข้าเราต้องลงเขาไปด้วยกันในเวลานี้ ซึ่งมีเพียงทางเดียวคือกระโดดลงไปในแม่น้ำด้านล่างนั่นถึงจะหนีได้ ท่านกลัวหรือไม่"เติ้งจื่อหยวนรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ให้ตายเถอะ ประโยคนี้ควรเป็นเขาที่ถามนางมากกว่าสิ เหตุใดจึงกลายเป็นนางมาเอ่ยถามเขาเช่นนี้เล่ายามนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเช่นนี้แล้ว เขาต้องเร่งหนีออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เมื่อคิดได้เช่นนั้นเติ้งจื่อหยวนจึงหันมาเอ่ยกับฮวาชิงเหยี่ยนในทันที"ข้าไม่เคยกลัวสิ่งใด เราไปกันเถอะ""อืม"เติ้งจื่อหยวนจับมือของฮวาชิงเหยี่ยนเอาไว้แน่น ในขณะที่คนทั้งสองกำลังจะพากันกระโดดหนีไปนั้น ก็มีธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาเฉียดที่แขนของฮวาชิงเหยี่ยน จนนางเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะหันไปมอง ทำให้สบตากับคนที่ยิงธนูใส่นางได้อย่างชัดเจน แต่ทว่ากลับไม่เห็นอีกคนที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลัง เติ้งจื่อหยวนที่เห็นเช่นนั้นก็ตกใจไม่น้อย เขาใช้มีดสั้นที่มักพกติดกายมาด้วยเขวี้ยงใส่คนผู้นั้นจนได้รับบาดเจ็บ และสั่งให้อง

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 6

    ฮวาชิงเหยี่ยนที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหันก็ตั้งรับไม่ทัน นางพยายามดิ้นให้หลุดจากเงื้อมมือของเฉินเย่ แต่ทว่าเฉินเย่เหมือนจะระวังตัวและเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี จึงไม่เหลือทางให้นางได้จัดการเขาเลย "ดิ้นรนไปเถิด เจ้าไม่รอดเงื้อมมือของข้าหรอก ข้าชอบเจ้ามากนะชิงชิง เป็นของข้าเถอะ" พูดจบก็โน้มใบหน้าเข้ามาคิดจะจูบที่หน้าผากของนาง แต่ทว่าเฉินเย่ยังไม่ทันได้ทำเช่นนั้นก็ถูกใครบางคนลากไปจัดการเสียก่อน แสงเทียนที่สลัวรางทำให้มองเห็นทุกอย่างได้บ้าง ฮวาชิงเหยี่ยนมองเห็นว่าเติ้งจื่อหยวนกำลังจัดการเฉินเย่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ฝีมือของเขาดีมาก เฉินเย่ไม่ทันได้เอ่ยปากร้องขอความเมตตาก็โดนซ้อมจนสลบเหมือดไปเสียแล้ว เมื่อซ้อมคนเสร็จเติ้งจื่อหยวนก็สั่งให้คนของเขาลากเฉินเย่ไปโยนเอาไว้ที่ตลาดในสภาพเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ ต้องสั่งสอนให้รู้จักความอัปยศและความอับอายเสียบ้างเมื่อจัดการคนเรียบร้อย เติ้งจื่อหยวนก็หันมาเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนในทันที "เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่"ฮวาชิงเหยี่ยนส่ายหน้าไปมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย "เจ้าสาม ท่านมาได้อย่างไรกัน"เติ้งจื่อหยวนจ้องมองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย"เจ้

  • ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้   ตอนพิเศษ 5

    เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ฮวาชิงเหยี่ยนก็ดีใจเป็นอย่างมาก นางหันมามองเติ้งจื่อหยวนอย่างกระอักกระอ่วน ก่อนหน้านี้นางด่าเขาในใจเอาไว้มากมาย ยามนี้เมื่อได้เขาช่วยเหลือจนได้เงินคืนมาก็รู้สึกผิดในใจ"ท่านจะให้ข้าตอบแทนเช่นไรก็ว่ามา"เติ้งจื่อหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็หันมามองฮวาชิงเหยี่ยนคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ย "เลี้ยงบะหมี่ข้าก่อน แล้วข้าจะบอก"ฮวาชิงเหยี่ยนคิดว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด นางจึงพาเขาไปกินบะหมี่ที่ร้านลุงหลี่ตามเดิม หลี่จิ่งมองดูคนทั้งสองก่อนจะยกยิ้มมุมปากคราหนึ่งเห็นทีอาจิ่วคงกำลังจะมีลูกสะใภ้คนที่สามเสียแล้ว!!เมื่อกินอิ่มแล้ว เติ้งจื่อหยวนจึงเอ่ยถามฮวาชิงเหยี่ยนทันที"เจ้าชื่ออันใด""ฮวาชิงเหยี่ยน เรียกชิงชิงก็ได้ ท่านเล่า""เรียกข้าว่า เจ้าสามก็ได้"ฮวาชิงเหยี่ยนพยักหน้าคราหนึ่ง ชื่อแปลกพิลึกดีเติ้งจื่อหยวนจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา ก่อนจะเอ่ย"ภาพเหล่านั้นเจ้าวาดได้เช่นไรกัน มันไม่เหมือนกับยุคสมัยนี้เลย ข้าชอบมาก มันคือที่ใดกัน"ฮวาชิงเหยี่ยนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเอ่ยเช่นไรดี นางคิดใคร่ครวญคำพูด ก่อนจะเอ่ยออกมา"ความจริงมันก็เป็นเรื่องที่เหลือเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status