"ข้าไม่เป็นไร แค่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน กลางคืนนอนสักหน่อยก็หายแล้วขอรับ""เจ้านี่นะ ยังหนุ่มยังแน่น ทำงานเยอะปานนี้ สักวันจะเหนื่อยตายเอา เอาล่ะๆ ข้านวดแป้งเอง อย่างไรวันนี้ลูกค้าก็ไม่มาก เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด ข้าให้ค่าแรงเท่าเดิม"เจ้าของร้านแย่งงานเขาทำ แต่เยี่ยเฟิงปฏิเสธ "เวลานี้ถึงข้ากลับไปนอนก็นอนไม่หลับ สู้อยู่ช่วยงานดีกว่า""เจ้าเด็กคนนี้ ทำให้เขาปวดใจเก่งจริงๆ ว่าแต่อาการป่วยย่าเจ้าดีขึ้นบ้างหรือไม่? ข้าได้ยินมาว่ามีหมอพเนจรมาเยือนทางทิศเหนือของเมือง ฝีมือดีนัก หากย่าเจ้ายังอาการไม่ดีขึ้น บางทีลองให้หมอคนใหม่รักษาดูอาจจะหายก็ได้ "มือของเยี่ยเฟิงชะงักลง แววตาเฉยชาพลันเป็นประกาย "หมอพเนจรทางเหนือของเมืองหรือขอรับ?""ใช่แล้ว ได้ยินมาว่ารักษาคนพิการมาหลายคนแล้ว เพื่อนบ้านข้าไปหาหมอมาไม่รู้กี่คน หูหนวกรักษาไม่หาย แต่พอหมอคนนั้นรักษา กินยาไม่กี่ชุด ยาออกฤทธิ์ก็หายทันที เจ้าว่าวิเศษหรือไม่?""ไม่รู้ว่าหมอท่านนั้น... ค่ารักษาแพงหรือไม่?" ยามเยี่ยเฟิงเอ่ยถาม ท่าท่างระแวดระวัง ทั้งยังดูประหม่า"ไม่แพง ไม่แพงเลย เพื่อนบ้านข้าจ่ายแค่หนึ่งร้อยอีแปะ""หนึ่งร้อยอีแปะ... ไม่แพงจริง
"เยี่ยเฟิงเป็นเด็กดี ปกติเห็นเขาเย็นชาเช่นนั้น แต่เขาจิตใจดียิ่งนัก ไม่กี่เดือนก่อนเขาพาย่าที่ป่วยหนักเดินทางผ่านหมู่บ้านข้า หิวจนท้องกิ่ว ไร้เรี่ยวแรง พวกข้าเห็นแล้วสงสารเขาจึงให้หมั่นโถวไปลูกหนึ่ง ตอนแรกเขาไม่ยอมรับไว้ แต่สุดท้ายเห็นย่าเขาใกล้จะหิวตายอยู่รอมร่อ ถึงได้ยอมรับหมั่นโถวลูกหนึ่งจากพวกข้าให้ย่าเขากิน""แต่เจ้ารู้ไหม เพราะพวกข้าให้หมั่นโถวลูกนั้นกับเขา หลายเดือนมานี้ เขาช่วยปลูกผักถางหญ้า แถมยังซ่อมหลังคาบ้านข้าด้วย ภรรยาข้าคลอดยาก ก็ได้เขาแบกภรรยาข้าไปหาหมอตำแย ถึงได้รักษาชีวิตภรรยากับลูกข้าไว้ได้"กู้ชูหน่วนที่กินบะหมี่อยู่ชะงักไปหากเถ้าแก่ร้านบะหมี่พูดจริง เยี่ยเฟิงนั้นก็ไม่ใช่คนเลวร้ายแต่อย่างใด"เยี่ยเฟิงเป็นคนดี ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือพวกข้า แต่ยังช่วยเหลือชาวบ้านในหมู่บ้านอีกเยอะแยะ หากเขาทำได้ ก็จะทำสุดกำลัง คนในหมู่บ้านข้ารักเยี่ยเฟิงยิ่งนัก""ท่านบอกว่าเขากับย่าเขาเดินทางผ่านหมู่บ้านท่านเมื่อไม่กี่เดือนก่อนอย่างนั้นหรือ? นอกจากย่าแล้ว เขายังมีญาติพี่น้องคนอื่นอีกหรือไม่?"เถ้าแก่ส่ายหน้า "ไม่มี ได้ยินมาว่าตั้งแต่เล็กเขามีเพียงย่าเป็นที่พึ่งพิง บ้านเกิดเจอภัยพิบัต
"ความดีของเขาทำเอาข้าปวดใจนัก ยามปกติแม้แต่มดตัวเดียวยังไม่กล้าเหยียบ ไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดสวรรค์ถึงให้คนแสนดีอย่างเยี่ยเฟิงต้องลำบากเพียงนี้""บางครั้งพวกข้าก็อยากบอกให้เขาปล่อยย่าเขาไปเถิด ตัวเขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ แม้แต่ย่าเขายังขอให้เขาปล่อยตัวเองไปเลย แต่เจ้าเด็กนั่นดื้อดึงนัก ต่อให้ตัวเองเหนื่อยตายก็ต้องให้ย่าอยู่ดีกินดีที่สุด"ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดกู้ชูหน่วนถึงได้รู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างประหลาด"ท่านรู้หรือไม่ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน""ท้ายหมู่บ้านเสี่ยวเหอชุนของพวกข้าน่ะ เขายากจนข้นแค้น เงินที่หามาได้ก็เอาไปรักษาย่าเขาหมด ไม่มีเงินแม้แต่จะสร้างบ้าน ผู้ใหญ่บ้านพวกข้าเมตตาให้กระท่อมฟางเขาอยู่ กันลมกันฝนไปพลางก่อน"กู้ชูหน่วนพลันยิ้มเอ่ย "เขาทำงานกับท่านที่นี่ ท่านให้เขาวันละเท่าไหร่รึ""ไอ้หยา เขาไม่เอาเงินข้าด้วยซ้ำ ข้าต้องยัดใส่มือตลอด เขาถึงจะยอมรับเงินวันละห้าอีแปะจากข้า แต่ก็นะ เขาไม่ได้มาทุกวันหรอก"พูดถึงตรงนั้นเถ้าแก่ก็ชะงักไป พลันเอ่ยอย่างสงสัย "พูดถึงเรื่องนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ข้าสงสัยนัก เยี่ยเฟิงมักจะหายตัวไปสองสามวัน ข้าถามว่าเขาไปไหน เขาไม่เคยบอกเลย ทุกครั้งจะ
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้น ตรงหน้ามีกระท่อมฟางผุพังหลังหนึ่งตั้งอยู่กระท่อมฟางนั้นถูกสร้างอย่างเรียบง่าย มีเพียงสองห้องเล็ก แถมยังเอียงกระเท่เร่ ชวนกังวลว่าจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อแต่สวนรอบกระท่อมนั้นใหญ่ไม่น้อย มีสมุนไพรและผักดองตากอยู่เรียงรายกู้ชูหน่วนสะดุดตากับผู้เฒ่าคนหนึ่งนั่นเป็นหญิงชราอายุล่วงวัยหกสิบ สวมเสื้อผ้าธรรมดา มีรอยเย็บปะมากมาย แต่เสื้อขาวนั้นกลับสะอาดสะอ้านนางกำลังเย็บซ่อมเสื้อผ้า ทว่าสองตานั้นเหมือนจะบอดมืด จึงทำได้เพียงอาศัยมือคลำแล้วเย็บตาม แถมยังต้องยกมือป้องปากไอโขลกเป็นพักๆ"ผู้เฒ่าคนนั้นคือย่าของเยี่ยเฟิง""ขอบคุณท่านลุง""เอาละ เจ้าเข้าไปเองเถิด ข้าอยู่ในไร้ข้างๆ นี่แหละ มีอะไรก็ตะโกนเรียกข้า"เถ้าแก่ร้านบะหมี่พูดเสียอ้อมค้อม แต่กู้ชูหน่วนฟังออกว่าเขานั้นไม่ไว้ใจ ถึงได้คอยเฝ้าจับตามองนางอยู่ไม่ไกล เตือนนางว่าอย่าทำมิดีมิร้ายกับย่าของเยี่ยเฟิงกู้ชูหน่วนยิ้มพลางส่ายหน้าอย่างห้ามไม่ได้คนไม่พูดไม่จาอย่างเยี่ยเฟิงก็มีคนเอ็นดูไม่น้อย"สวัสดีจ้ะท่านย่า ข้าชื่อกู้ชูหน่วนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเยี่ยเฟิง ได้ยินเขาพูดถึงท่าน ข้าเลยมาเยี่ยมท่าน"กู้ชูหน่วนเข้ามา
แม่เฒ่าเยี่ยทอดถอนใจ ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด "ตั้งแต่เล็กเขาโหยหาความอบอุ่น เห็นเด็กคนอื่นกอดขาอ้อนพ่อแม่ เขาก็มักจะมองด้วยความอิจฉา ต่อมาคงกลัวว่าข้าจะเป็นห่วง เขาถึงไม่ยอมแสดงออก แต่ข้าก็รู้ ว่าเราโหยหาพ่อแม่มากกว่าใคร""ท่านไม่ใช่ย่าแท้ๆ ของเขาหรือ?""ข้าก็อยากให้เขาเป็นหลานชายแท้ๆ ของข้าเหมือนกัน แต่เสียดายที่ข้าไม่มีวาสนา มีลูกกี่คนก็ตายจากไปก่อนเสียหมด""ท่านเมตตารับเลี้ยงเยี่ยเฟิงหรือเจ้าคะ?" กู้ชูหน่วนถามอ้อมค้อมความเจ็บปวดฉายแวบผ่านสีหน้าของแม่เฒ่าเยี่ย คล้ายกับว่าไม่อยากตอบคำถามนี้สักเท่าไร เอ่ยเสียงเรียบเพียงว่า "ก็คงใช่กระมัง ข้าให้หมั่นโถวเขาแค่ลูกเดียว เด็กคนนี้รู้จักตอบแทนบุญคุณ หลายปีมานี้ดูแลข้าไม่มีขาดตกบกพร่อง เรียกไปว่ายอมลำบากตราตรำเพื่อข้า""ข้าขอเข้าไปดูในบ้านได้หรือไม่?""ไ้ด้อยู่แล้ว"แม่เฒ่าเยี่ยหมายจะพานางเข้าไป กู้ชูหน่วนรีบประคองนางให้นั่งลง "ท่านสายตาไม่ดี เดินเหินก็ไม่สะดวก ข้าเข้าไปเองก็ได้เจ้าค่ะ""แค่กๆ... ประเด็นคือบ้านคับแคบนัก แถมเพดานยังต่ำ ข้ากลัวว่าแม่หนูจะหัวโขกเพดานเอา""ข้าจะระวังเจ้าค่ะ"กระท่อมผุพัง มีเพียงแค่สองห้อง
กู้ชูหน่วนหยิบพู่กันขึ้นมา เขียนสูตรยาลงบนกระดาษเปล่าแผ่นหนึ่ง เดิมหมายจะให้พวกเขาไปซื้อยาตามนี้ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเงินทองขัดสน กู้ชูหน่วนก็ทอดถอนใจ ออกไปซื้อยาจากในตัวอำเภอแล้วกลับมาต้มในนางดื่มด้วยตัวเองแม่เฒ่าเยี่ยปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า กู้ชูหน่วนกลับยิ้มเอ่ย "ข้าไปซื้อยามาแล้ว ทั้งยังต้มแล้วด้วย หากท่านไม่ดื่ม ข้าคงต้องดื่มหรือไม่ก็เททิ้งเท่านั้นกระมังแล้ว?""เอ่อ...""ในตัวท่านมีพิษ แม้ยานี้จะรักษาพิษไม่ได้ แต่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของท่านได้ แล้วก็ที่ท่านไอหรือปวดกระดูก ก็ช่วยรักษาได้เหมือนกัน""แม่หนู..." แม่เฒ่าเยี่ยท่าท่างเหมือนประหลาดใจไม่น้อย ที่นางมองออกว่านางโดนพิษมากมาย นางยังเด็กอยู่เลยแท้ๆ ไม่ได้จับชีพจรด้วยซ้ำแต่กลับรู้อาการป่วยของนาง"ข้าบอกแล้ว บ้านข้าแต่ก่อนเป็นหมอสืบทอดกันมา ข้าถึงได้พอรู้วิชาบ้างน่ะ""เจ้าเป็นคนดีนัก ทุกคนในหมู่บ้านนี้ล้วนแต่เป็นคนดีทั้งนั้น" แม่เฒ่าเยี่ยสะอื้น ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาเป็นพักๆเบ้าตาของนางกลวงโบ๋ สิ่งที่ไหลออกมามิใช่น้ำตา แต่เป็นเลือดกู้ชูหน่วนเห็นแล้วปวดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกชีวิตลำบากปานนี้ แถมร่างก็ย่ำแย่เห
เมื่อคืนเซียวอวี่เชียนถูกฟันไปหลายแผล วันนี้จึงพันผ้ามาเสียหนาเตอะ มาเรียนพร้อมกับบาดแผล เขาเหมือนยังโกรธอยู่ไม่น้อย ใบหน้าจึงบึ้งตึงกู้ชูหน่วนสะกิดศอกเขา เอ่ยด้วยร้อยยิ้ม "เจ้าก็ทุ่มเทไปหน่อยกระมัง เจ็บหนักบานนี้ยังมาเรียนอีก"เซียวอวี่เชียนเชิดหน้าขึ้นมองฟ้า ไม่สนใจนาง"โธ่ ยังโกรธอยู่รึ พอได้แล้วน่า แปรงขนให้เจ้าเอาไหม เมื่อคืนเจ็บหนักละสิท่า ข้ากลัวว่าเจ้าจะตายคาที่ ถึงได้ให้ฝูกวงส่งเจ้ากลับไปไงเล่า"เมื่อเห็นว่าเซียวอวี่เชียนไม่สนใจนาง กู้ชูหน่วนขยับเข้ามาใกล้ ใช้สายตากวาดมองเยี่ยเฟิงที่กำลังตั้งใจเรียนอยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงกระซิบ "เสี่ยวเชียนเชียน เจ้าว่าเด็กหนุ่มคนมือคืนจะใช่เยี่ยเฟิงหรือไม่?"ใบหน้าแง่งอนของเซียวอวี่เชียนพลันฉายแววสงสัย เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา "ข้าก็สงสัยเช่นกัน""เช่นนั้นเรามาพิสูจน์กันไหม?""พิสูจน์อย่างไรเล่า?""เมื่อวานเขาถูกฟันตั้งหลายแผลมิใช่หรือ? ข้าจำได้ว่าบนแขนเขามีหนึ่งแผล ที่เสื้อเขาขาดน่ะ""คนเยอะแยะ ถูกเห็นเข้าคงไม่ดีกระมัง?"กู้ชูหน่วนเขกหัวเขา "คิดอะไรเขาเจ้า ข้าบอกให้ถลกแขนเสื้อเขาขึ้นมาต่างหาก""เจ็บๆๆ เมื่อวานหัวข้ากระแทกกำแพงนะ ตอนนี้
"อาจารย์ ตอนนี้อาจารย์ซ่างกวานเป็นผู้สอนนะ" กู้ชูหน่วนเอ่ยเตือนอาจารย์ที่มาเข้าฟัง ยุ่มย่ามเกินขอบเขตไปแล้วคิดไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ซ่างกวานจะค่อยๆ จะจัดชุดขาวของเขา ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "ไม่ตั้งใจฟังเวลาเรียน ทั้งยังรังแกเพื่อนร่วมห้อง พฤติกรรมนี้ขัดต่อธรรมเนียมอันดี ต้องลงโทษให้วิ่งสี่สิบรอบกระมัง"สี่...สี่สิบรอบ?อีกเท่าหนึ่งเลยนะ?กู้ชูหน่วนเกือบจะหุนหันเดินออกจากห้องนางเกือบลืมไปเสียสนิทว่าซ่างกวานฉู่เปลือกนอกดูน่าสงสาร แต่ความจริงแล้วเป็นคนชั่วจอมเจ้าเล่ห์"อาจารย์ ขอโปรดอนุญาตให้ศิษย์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเถิด" เยี่ยเฟิงใบหน้าซีดเซียว ดูไม่สู้ดีนัก"ไปเถิด"กู้ชูหน่วนยกมือขึ้นในทันใด "อาจารย์ เสื้อข้าก็โดนเกี่ยวขาดเช่นกัน ข้าก็อยากไปเปลี่ยนชุดบ้าง""ไม่อนุญาต"พับผ่าสิซ่างกวานฉู่นี่ลำเอีงเกินไปแล้วทุกคนในสำนักบัณฑิตหัวเราะคิกคัก"ดูท่าทีร้อนรนของคุณสามกู้สิ ดูท่าคงอยากแอบดูเยี่ยเฟิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกกระมัง เฮ้อ เสียดายที่ไม่กี่วันก่อนข้ายังนับถือนางอยู่เลย""นั่นน่ะสิ สำนวนนางดีก็จริง แต่เหตุใดถึงดูเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ""ข้ารู้สึกว่าข้าโดนหลอก ข้าสงสัยว่านางแต
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ