แชร์

บทที่ 22

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
ฮะ...

ให้เธอดีดฉิน?

เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?

จะให้เธอดีดอะไร?

เธอไม่รู้ว่าเมื่อกี้เขาสอนอะไรด้วยซ้ำ?

กู้ชูหน่วนรีบหันไปหาเซียวอวี่เชียน

เซียวอวี่เชียนหันหน้าหนี

อย่าลากเขาไปซวยด้วยเลย

เขาเองก็ไม่รู้ว่าอาจารย์ซ่างกวานสอนอะไร ขืนอาจารย์ซ่างกวานให้เขาดีดฉินขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร?

"คุณหนูสามกู้ เชิญ" อาจารย์ซ่างกวานชี้ไปที่ฉินบนโต๊ะ ทำท่าเชิญอย่างสุภาพ

กู้ชูหน่วนหนังหัวชาดิก

"อา...อาจารย์ ข้าเล่นเพลงไหนก็ได้ใช่ไหม?"

"ก็ย่อมได้ เล่นเพลงถนัดของเจ้าก็ได้"

"เช่นนั้นก็ได้ เล่นก็เล่น ใช่ว่าจะไม่เคยเล่นเสียหน่อย"

กู้ชูหน่วนนั่งลง สองมือวางลงบนฉิน ราวกับกำลังชั่งใจว่านิ้วไหนควรวางตำแหน่งใด

เสียงหัวเราะเยาะดังขึ้นริมทะเลสาบอีกครั้ง

"ฮ่าๆ...คงไม่ถึงขั้นไม่รู้ว่าต้องวางมืออย่างไรหรอกกระมัง"

"ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน ดูท่าวางมือของนางสิ ผิดหมดเลย"

สายตาเย็นชาของกู้ชูหลันมองดูเรื่องตลก สะใจยิ่งนัก

กู้ชูอวิ๋นนิ่งเฉย ราวกับเป็นคนนอก

เจ๋ออ๋องสีหน้าไร้อารมณ์ ประหนึ่งว่าทุกอย่างที่เป็นกู้ชูหน่วนนั้นไม่ข้องเกี่ยวกับเขา

ส่วนคนอื่นก็พากันหัวเราะ รอดูเรื่องขบขัน

เซียวอวี่เชียนโวยกลับอย่างไม่เก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 572

    เย่จิ่งหานนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเสริมขึ้นมาอีกประโยค "ส่งคนออกไปหาเครื่องประดับที่ดีที่สุดในใต้หล้า แล้วส่งไปให้พระชายาพร้อมกันให้เร็วที่สุด" นิ้วเรียวยาวที่กำลังลูบผมดำเงาราวกับไหมของหัวหน้าเผ่าหมอชะงักงัน บนใบหน้าหล่อเหลาราวกับมารร้ายฉายความไม่พอใจ "เสียแรงที่เย่จิ่งหานร่ำรวยมั่งคั่ง กิจการ กองกำลังมีอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า ทว่ากลับไม่มีปัญญาซื้อเครื่องประดับสักชิ้น เซวี่ยซา ไปซื้อเครื่องประดับที่ดีที่สุดในเมืองหลวงมาแล้วนำไปให้พี่สาว" "ทั้งเมืองหลวง ?" "ใช่ แล้วส่งคนไปค้นหาเครื่องประดับที่ดีทีสุดในใต้หล้ามา นำไปให้พี่สาว" "ขอรับ......" เซวี่ยซาแอบเงยหน้าขึ้นมา ทว่ากลับเห็นดวงตาที่สีต่างกันคู่นั้นของนายตัวเองฉาบไปด้วยรอยยิ้ม สะท้อนเพียงแต่ร่างสีแดงเพลิงของกู้ชูหน่วน เขาจินตนาการได้เลยว่า พวกเขาและเย่จิ่งหานได้มีสงครามใหญ่กันแน่ ซ่างกวานฉู่หยิบปิ่นระย้าออกมาจากอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว ปิ่นระย้าทำจากหยกสีขาวดุจหิมะ ใสสว่างพร่างพราว มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นหยกน้ำดี ปลายปิ่นระย้าสลักรูปผีเสื้อคู่กางปีกขนาบกัน ด้านล่างผีเสื้อมีลูกปัดหยกชั้นดีห้อยอยู่ ปิ่นระย้าด้ามนี้ เมื่อมอง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 571

    "องค์หญิงตังตัง ไม่ทราบว่าตอนนี้จะข้าเลือกเครื่องประดับจากตำหนักเจ้าสักชิ้นได้หรือไม่" องค์หญิงตังตังอัดอั้นจนหน้าแดงก่ำ แต่ก็เค้นคำพูดไม่ออกสักคำ ทำได้เพียงแค่กัดฟันเห็นด้วย "ก็แค่เครื่องประดับชิ้นเดียว หรือคิดว่าข้าแพ้ไม่เป็นหรืออย่างไร เครื่องประดับในตำหนักองค์หญิงเจ้าเลือกตามใจชอบเลย ขอแค่เจ้าถูกใจ ก็หยิบไปได้เลย ข้าไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด" ไทเฮาสงสัยว่ากู้ชูหน่วนจะคิดไม่ดี จวนหานอ๋องอยากได้เครื่องประดับเช่นใดก็หามาได้หมด แต่กลับต้องการเครื่องประดับของตังตัง เกรงว่าจะมีแผนการแฝงอยู่ นางกำลังจะปฏิเสธ คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงตังตังตกปากรับคำไปแล้ว อีกทั้งยังตอบตกลงอย่างง่ายดายขนาดนั้น เจ้าลูกสาวโง่ ตกหลุมพรางแล้วยังไม่รู้ตัวอีก นางพูดออกมาหนักแน่นชัดเจนขนาดนั้น ขืนนางห้าม ก็จะทำให้นางดูเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ไทเฮาทำได้เพียงแค่ส่งสายตา ให้บ่าวรับใช้เก็บเครื่องประดับที่มีราคาเอาไว้ก่อน นางเดาไม่ออกว่ากู้ชูหน่วนต้องการเครื่องประดับชิ้นไหนกันแน่ จึงทำได้เพียงเท่านี้ กู้ชูหน่วนเหลือบไปเห็นขันทีข้างกายไทเฮาเดินออกไปด้วยความรีบร้อน รอยยิ้มจึงเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย "ข้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 570

    ไม่ไกลออกไป เย่จิ่งหานอยู่ในชุดคลุมสีม่วง เขาเห็นทุกเหตุการณ์ของกู้ชูหน่วน หัวใจที่เดิมก็เต็มไปด้วยความชื่นชม ไมรู้ว่าเจริญงอกงามจนเปี่ยมล้นตั้งแต่เมื่อใด นอกจากกู้ชูหน่วน ก็มีแต่กู้ชูหน่วน เดิมที เขาได้ยินว่าไทเฮารังแกนาง ตั้งใจจะมาหนุนหลังให้นาง แต่นางไม่จำเป็นการหนุนหลังแต่อย่างใด นางตัวคนเดียวก็สร้างหน้าตาได้มากพอแล้ว ภรรยาของเขาก็เป็นเช่นนี้ ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระไร้กังวล กล้าหาญชาญชัย เย่จิ่งหานรู้สึกว่าตนมีหน้ามีตาขึ้นเป็นเท่าตัว ได้ภรรยาเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเป็นเกียรติไปด้วย ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้น้อยขึ้นครองราชย์ก็คอยหาเรื่องเขาทุกทาง ครั้งนี้นับว่าได้ทำเรื่องดีบ้างแล้ว เห็นแก่ที่เขายกกู้ชูหน่วนให้ตน เหตุการณ์วิกฤตจากแคว้นหวา ตนจะช่วยเขาสักแรง นอกจากเย่จิ่งหาน อีกมุมหนึ่ง ยังมีบุรุษสวมชุดขาวดุจหิมะ ท่าทางสุภาพเรียบร้อยและอ่อนโยนมองดูนางอยู่ตลอด สายตาของซ่างกวานฉู่ซับซ้อน ความรู้สึกในใจยากจะอธิบาย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้น สะท้อนทุกสีหน้าทุกรอยยิ้มของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าคิดถึงสิ่งใด ใบหน้าของเขาพลันแดงระเรื่อ สีหน้าที่มองไปยังกู้ชูหน่วนมีความกระอักก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 569

    กู้ชูหน่วนปลดอานม้าทั้งหมดออก แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า ท่าทางคล่องแคล่วปราดเปรียว ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ทว่ากู้ชูหน่วนกลับพูดพึมพำคนเดียว "เห็นคนอื่นขึ้นม้าแล้วดูสบายนัก เหตุใดข้าเกือบจะขึ้นไม่รอด ยังดีที่เจ้าเตี้ย ไม่เช่นนั้นข้าได้หน้าทิ่มไปแน่" ประโยคนี้ทำให้ผู้คนมึนงง แท้จริงแล้วนางขี่ม้าเป็นหรือไม่ กู้ชูหน่วนหยิบคันธนู ก่อนจะหยิบลูกธนูสิบดอกขึ้นมาลอง ลองอยู่หลายครั้งก็หาความรู้สึกไม่เจอ ลูกธนูสิบดอกเยอะเกินไป มือเล็กๆ ของนางรวบไม่หมดด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยิงออกไปเลย ทุกคนมองดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เช่นนี้จะยิงอย่างไรเล่า ที่สำคัญที่สุดคือ นางถอดอานม้าออกมาเพื่อสิ่งใด มีเพียงแค่องค์หญิงตังตังและไทเฮาที่กำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ผู้อื่น "ดูเหมือนจะยิงไม่ง่ายเท่าไหร่ เจ้าม้า พวกเราสู้ไปด้วยกันเถอะ" ทันใดนั้นเอง กู้ชูหน่วนดึงเชือกม้า แล้วควบลูกม้าสีดำพุ่งไปทางห่วงไฟอย่างกะทันหัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ ราวกับลูกธนูหลุดออกจากสาย พุ่งผ่านห่วงไฟไปทีละห่วงเพียงชั่วพริบตา ในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็หยิบลูกธนูขึ้นมาสิบลูก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 568

    ฮ่องเต้เย่ถูกตอกกลับจนพูดไม่ออก ขืนเขาพูดต่อ เสด็จแม่คงได้ตั้งแง่กับเขาเป็นแน่ มุมปากของกู้ชูหน่วนยกขึ้นเล็กน้อย ฮ่องเต้น้อยองค์นี้ยังนับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง รู้จักปกป้องนาง "ขอบพระทัยฝ่าบาท แต่เรื่องนี้เป็นการแข่งขันระหว่างข้าและองค์หญิงตังตัง ให้พวกข้าเล่นกันเองเถอะ" พูดมาขนาดนี้แล้ว การแข่งขันรอบที่สามจึงต้องเริ่มต่อ "หานอ๋องเฟยจะเลือกม้าเอง หรือจะให้ข้าน้อยเลือกให้" "ข้าเลือกเองแล้วกัน ที่นี่มีม้าตัวไหนบ้าง เอาทุกตัวออกมาดูหน่อย" เหล่าขันทันทีรับคำสั่งไปลากม้าออกมา ม้าที่ถูกนำออกมาทุกตัวล้วนแต่ทั้งผอมและดำ อีกทั้งยังไม่มีเรี่ยวแรง แค่ดูก็รู้ว่าเป็นม้ามีตำหนิ อวี๋ฮุยพลันเดือดดาล "นี่จะแกล้งกันเกินไปแล้ว ภายในวังมีม้าทุกประเภท แต่กลับเอาออกมาแต่ม้าเด็กม้าผอมม้าป่วย" ขันทันอธิบาย "คุณชายอวี๋ เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้าไม่นานมีการแข่งม้า ม้าดีทุกตัวถูกนำออกไปเข้าร่วม จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้นำกลับมา ม้าที่เหลืออยู่ในวังล้วนแต่ไม่ใช่ม้าดีเท่าใดนัก ม้าเหล่านี้ เป็นม้าที่ถูกเลือกมาอย่างดีแล้ว" อวี๋ฮุยฉุน คิดว่าเขาโง่หรืออย่างไร แคว้นเย่ที่ยิ่งใหญ่ จะไม่มีม้าดีๆ สักต

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 567

    สุดท้ายขันทีก็แผดเสียงตะโกนออกมา ทำให้ทุกคนดึงสติกลับมาได้ "หานอ๋องเฟย ยิงเข้าเป้าทั้งสิบดอก" เงียบกริบ ทั่วทั้งงานเงียบสงัด ผ่านไปสักพัก องค์หญิงตังตังถึงจะตะโกนออกมา "เจ้าโกง" กู้ชูหน่วนแบมือสองข้างด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ "องค์หญิงตังตัง เจ้าเล่นลูกไม้อีกแล้ว ข้าโกงที่ไหน เจ้าลองพูดมาดูซิ ข้าเชิญให้ใครมาช่วยข้ายิง หรือเชิญใครมาเก็บศรแล้วปักเข้ากลางเป้ารึ" องค์หญิงตังตังชะงัก คนจำนวนไม่น้อยพากันตำหนิองค์หญิงตังตัง ก่อนหน้านี้ นางเคยแข่งกับกู้ชูหน่วนมาหลายครั้ง แล้วก็แพ้ให้กู้ชูหน่วน แต่ทุกครั้งนางมักจะเล่นตุกติกใส่ความว่าคนอื่นโกง โกงหรือไม่ ทุกคนต่างก็ประจักษ์ชัดเจนดี หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยพูดด้วยความชื่นชมนับถือ "ลูกพี่ พวกข้าเชื่อมาตลอดว่าท่านชำนาญเรื่องบุ๋น คิดไม่ถึงว่าท่านจะยิงธนูเก่งกาจเพียงนี้ เมื่อไหร่ท่านจะสอนพวกข้าบ้าง พวกข้าอยากยิงลูกแล้วเข้าเป้าสิบลูกด้วยบ้าง ไม่สิ ยิงร้อยโดนร้อยไปเลย" "วางใจเถอะ เวลามีถมเถ รอพรุ่งนี้ถ้าว่าง ข้าค่อยสอนพวกเจ้า" กู้ชูหน่วนขยิบตา องค์หญิงตังตังคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด "ยังเหลืออีกด่าน จะได้ใจไปทำไม ในเมื่อแข่งยิงธ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status