ข้าก็เป็นสวามีเช่นนี้

ข้าก็เป็นสวามีเช่นนี้

last updateLast Updated : 2025-09-03
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
5Chapters
55views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

หากเจ้าฝันซ้ำซาก ว่าถูกว่าที่สามีสังหารอย่างโหดเหี้ยมจนแยกไม่ออกว่าฝันหรือตื่น เจ้ายังจะแต่งงานกับบุรุษผู้นั้นอยู่อีกหรือไม่?! (นิยายเรื่องนี้มีหลายฉากดาร์กและสยอง ทั้งผ่าศพและสังหารแบบชัดเจน)

View More

Chapter 1

บทนำ

บทนำ

ฤดูหนาวกำลังมาเยือนจิ้งโจว ลมหนาวเสียดแทงถึงกระดูกพัดหวิว หิมะขาวเริ่มโปรยปราย ซากบ้านเมืองที่ถูกเผาและทำลายราบเพียงข้ามคืน กลายเป็นเมืองร้างอ้างว้าง ถนนหลวงเต็มไปด้วยซากรถม้า ศพทับถม เลือดแดงคล้ำกระเซ็นเป็นหย่อม กลิ่นคาวลอยคละคลุ้งอยู่กลางอากาศ

หน้าประตูเสวียนอู่ ป้อมใหญ่ของวังต้าเจา ทหารสองฝ่ายตั้งคุมเชิง ฝ่ายหนึ่งเกราะดำคลุมผ้าแดง ฝ่ายหนึ่งเกราะเงินคลุมผ้าน้ำเงิน ต่างเผชิญหน้ากันด้วยความตึงเครียด

“หากพวกเจ้ายอมจำนน ข้าจะละเว้นครอบครัว ต่อไปพวกเจ้าจะได้เป็นประชาราษฎร์ของเสวียนจงฮ่องเต้ ไม่แบ่งแยก!”

เสียงซ่งอวิ๋นโม่บนหลังอาชาสีดำก้องสะท้อน ทหารในชั้นในเหลือไม่ถึงห้าร้อยนาย ใบหน้าล้วนซีดเผือด เมื่อมองเห็นว่าศัตรูมีพลมากมายมืดฟ้ามัวดิน

ตำหนักชิงหลวน...

ในยามที่ด้านนอกกำลังแตกพ่าย เชื้อพระวงศ์กว่าร่วมร้อยชีวิตต่างรวมตัวในตำหนักใหญ่ด้วยความตื่นตระหนก ไท่หยางฮ่องเต้ผู้ทรงราชย์มานานแปดปี ยังไม่เคยเผชิญเหตุร้ายแรงถึงเพียงนี้

“ฝ่าบาท! กบฏซ่งอวิ๋นโม่ฝ่าประตูเสวียนอู่เข้ามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หวังเฉวียนกงกงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหมอบกราบ

“เราจะทำอย่างไรดีเล่า! ซือหม่าหยวนกับติ้งถิงโหวยังอยู่ไกลถึงซั่วโจว!” หลีไทเฮาเอ่ยเสียงสั่น แววพระเนตรเต็มไปด้วยความกังวล

ซือหม่าอวี้ กุ้ยเฟยผู้กล้าหาญหันมาขวางสามีทันที “ไม่ได้นะฝ่าบาท!”

แต่ไท่หยางฮ่องเต้กลับคว้าดาบแน่น “หากเจิ้นไม่ไป ปล่อยให้มันบุกเข้ามาถึงที่นี่ จะให้พวกเจ้ารับเคราะห์แทนหรือ! อวี้เอ๋อ เจ้าจงคุ้มครองเสด็จแม่กับอาเยว่ เจิ้นจะออกไปเผชิญหน้าด้วยตนเอง!”

สิ้นวาจา พระองค์ก็ผละจากไปพร้อมองครักษ์กว่าเจ็ดสิบชีวิต

หลิ่วถิงเยว่ก้าวมาคุกเข่า ร่ำไห้สะอื้น “เสด็จแม่! พี่สะใภ้! เขาคือสามีของข้า คือบิดาของลูกในครรภ์นี้! ขอให้ข้าออกไปเจรจากับเขาเถิด!”

“ไม่ได้นะอาเยว่! เจ้าท้องแก่แล้วอันตรายเกินไป!” หลีไทเฮารีบโผเข้ากอดไว้แน่น

ทันใดนั้น เสียงฆ้องศึกดังสนั่น ประตูเสวียนอู่แตกพัง กองทัพซ่งทะลวงเข้ามา ธงตระกูลซ่งโบกสะบัดเหนือกองทหารเกราะดำขลิบแดง เสียงกรีดร้องโกลาหลดังก้องทั่วลานหน้าวังหลวง องครักษ์ถูกสังหารล้มระเนระนาด ขุนนางและเชื้อพระวงศ์ถูกมัดมือไพล่หลัง เสียงร่ำไห้ดังระงม

“โปรดไว้ชีวิตข้าเถิด!”

กลางลาน หลิ่วถิงเยว่ถูกฉุดออกมาพร้อมหลีไทเฮาและสตรีฝ่ายในนับร้อย ทันทีที่สายตาเหลือไปเห็นสามีตนยืนกดคมดาบที่ลำคอไท่หยางฮ่องเต้ พี่ชายของนาง น้ำตาก็หลั่งนอง

“พี่ใหญ่!”

ซ่งอวิ๋นโม่ผลักร่างฮ่องเต้หนุ่มให้ยืนเด่นกลางฝูงชน ดวงตาเย็นชาปรายมองถิงเยว่ที่กำลังครรภ์แก่โดยไร้ซึ่งความอาวรณ์ “บัดนี้สกุลหลิ่วสิ้นแล้ว แผ่นดินนี้จะเป็นของตระกูลซ่ง!”

ไท่หยางฮ่องเต้กัดฟันตะโกนลั่น “ซ่งอวิ๋นโม่ เจ้ากบฏ! แม้ตระกูลเจิ้นจะสิ้น เจ้าก็ไม่มีวันได้ครองบัลลังก์อย่างสมศักดิ์ศรี!”

ถิงเยว่ร่ำไห้เสียงสั่น “อวิ๋นโม่! สิ่งที่ผ่านมาข้ากับพี่ชายและเสด็จแม่ดีกับเจ้าไม่พอหรือ ไฉนเจ้าต้องทำถึงเพียงนี้!”

แต่บุรุษผู้นั้นไม่เหลียวแลแม้แต่น้อย เพียงหันไปสั่งการเสียงเรียบ “ลากพวกมันไปขังคุก! รอวันชำระบาปต่อหน้าฟ้าดิน!”

“ไม่นะอวิ๋นโม่! เจ้าอย่าทำกับข้าเช่นนี้!” เสียงร้องไห้ปานใจจะขาดของถิงเยว่อื้ออึงไปทั่วลาน ทว่าซ่งอวิ๋นโม่ยังคงไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง…

รุ่งอรุณวันใหม่...

ณ ลานประหารหน้าพระราชวังกว้างใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะเย็นยะเยือก เสียงร่ำไห้ของสตรีและเด็กเล็กดังระงมเมื่อเชื้อพระวงศ์ถูกต้อนออกมาเป็นแถว ๆ หลิ่วถิงเยว่ถูกผลักมากับไท่หยางฮ่องเต้ หลีไทเฮา และซือหม่ากุ้ยเฟย โซ่ตรวนเหล็กกล้าพันธนาการแขนขา พวกเขาถูกบังคับให้คุกเข่าบนแท่นประหารที่นองไปด้วยเลือด

ราชบุตรเขยซ่งอวิ๋นโม่ บุรุษผู้เคยอ่อนโยน บัดนี้กลับยืนเหี้ยมเกรียมในอาภรณ์ดำขลิบทอง ประกาศตนเป็น “เสวียนจงฮ่องเต้” ดวงตาเย็นเฉียบตวัดมองภรรยาที่กำลังครรภ์แก่ราวคนแปลกหน้า

“วันนี้…คือวันที่แซ่หลิ่วต้องชดใช้บาปต่อสกุลจ้าว!” เสียงของเขาดังก้องเหนือสายลมหนาว

ไท่หยางฮ่องเต้กัดฟันแน่น คุกเข่าต่อหน้าผู้ทรยศ “ซ่งอวิ๋นโม่! เจ้ากบฏต่ำช้า!”

หลีไทเฮาในฉลองพระองค์ขาวร่ำไห้จนเสียงสั่น ส่วนซือหม่ากุ้ยเฟยนั้นกลับนิ่งงันราวรูปสลัก

ไท่หยางฮ่องเต้ตะโกนอีกครา “เจ้าจะสังหารพวกเราอย่างไรก็ช่าง แต่อาเยว่…นางคือภรรยาเจ้า! นางกำลังอุ้มท้องลูกของเจ้าอยู่นะ!”

ซ่งอวิ๋นโม่เหยียดยิ้มเย็น “ช่วยไม่ได้ นางผิดตั้งแต่เกิดมาเป็นคนสกุลหลิ่วแล้ว คนสกุลหลิ่วเกิดมาก็สมควรตายทั้งโคตร…สายเลือดสกุลข้าจะสะอาดได้ ก็ต้องล้างด้วยเลือดของพวกเจ้า! แม้แต่ลูกในครรภ์…ก็ไม่เว้น!”

เสียงสัญญาณดังขึ้น ทหารฉุดลากไท่หยางฮ่องเต้ขึ้นแท่นประหาร

“พี่ใหญ่! ไม่นะพี่ใหญ่!” ถิงเยว่กรีดร้องสุดเสียง

แต่ดาบฟันลง “ฉัวะ!” เลือดแดงกระเซ็นหิมะขาว ร่างพี่ชายล้มทั้งที่ดวงตายังลืมค้าง

“เสด็จแม่!” ถิงเยว่พยายามดิ้นเข้าหาหลีไทเฮา แต่ถูกตรึงไว้แน่น น้ำตาไหลพราก “อาเยว่ผิดต่อท่านแล้ว…!”

หลีไทเฮาหันมา น้ำตาท่วมสองแก้ม “ลูกรัก…เจ้าอย่าโทษตน...”

“ฉัวะ!” นางยังกล่าวไม่จบคำคมดาบก็ตัดฉับลงบนลำคอระหง ศีรษะของพระนางหล่นสู่พื้น ความเงียบปกคลุมทั้งลาน

ซ่งอวิ๋นโม่เดินเข้าหาถิงเยว่ มือกำดาบแน่น แววตาแข็งกระด้าง “ในฐานะสตรีสกุลหลิ่ว เจ้าต้องชดใช้ ต่อให้ในครรภ์มีสายเลือดของข้าก็ไม่ละเว้น!”

“อวิ๋นโม่! ได้โปรด…อย่าทำลูกข้า! ข้ายอมตายแทน แต่จงรอให้เขาเกิดก่อน!” ถิงเยว่ร้องไห้ พร้อมตะโกนเสียงสั่น

ซ่งอวิ๋นโม่กลับหัวเราะเย็น “เจ้าคิดหรือว่าคำขอร้องของเจ้ามีค่าอันใด?”

สิ้นคำ เขากดร่างนางลงกับพื้น มือหนึ่งล็อกแขน อีกมือจ้วงดาบแทงเข้ากลางท้อง เลือดสดสาดกระจายบนหิมะสีขาว เสียงกรีดร้องของมารดาดังก้องสะท้อนทั้งลาน

ซ่งอวิ๋นโม่คว้านท้องนางอย่างโหดเหี้ยม ล้วงดึงทารกแดงก่ำออกมา ท่ามกลางเสียงโกลาหล เขาชูร่างเล็กจ้อยของทารกเพศชายขึ้นเหนือหัว ตะโกนก้อง “ดูเถิด! สายเลือดหลิ่วสิ้นแล้ว! วันนี้ข้าสังเวยเลือดนี้แด่บรรพบุรุษสกุลจ้าว!”

แล้วเหวี่ยงร่างทารกลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น เลือดนองปกคลุมหิมะ ถิงเยว่หวีดร้องสุดกำลัง น้ำตาไหลพราก ดวงใจแตกร้าวสิ้นสลาย

สายตาสุดท้ายของนางเต็มไปด้วยเพลิงแค้น ก่อนร่างจะสิ้นใจในเงาเลือด เสียงหัวเราะบ้าคลั่งของซ่งอวิ๋นโม่ ดังก้องสะท้อนไปทั่วลานประหาร

—เฮือก!—

ร่างเล็กผวาลุกขึ้นจากเตียงกว้าง สองมือกุมหน้าอกหอบหายใจรัว “นี่มัน…ฝันร้ายอันใดกัน…”

เด็กสาววัยสิบหกปี  พึมพำเสียงแหบพร่า ความน่าสะพรึงยังตามหลอกลอนไม่สิ้น

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
5 Chapters
บทนำ
บทนำฤดูหนาวกำลังมาเยือนจิ้งโจว ลมหนาวเสียดแทงถึงกระดูกพัดหวิว หิมะขาวเริ่มโปรยปราย ซากบ้านเมืองที่ถูกเผาและทำลายราบเพียงข้ามคืน กลายเป็นเมืองร้างอ้างว้าง ถนนหลวงเต็มไปด้วยซากรถม้า ศพทับถม เลือดแดงคล้ำกระเซ็นเป็นหย่อม กลิ่นคาวลอยคละคลุ้งอยู่กลางอากาศหน้าประตูเสวียนอู่ ป้อมใหญ่ของวังต้าเจา ทหารสองฝ่ายตั้งคุมเชิง ฝ่ายหนึ่งเกราะดำคลุมผ้าแดง ฝ่ายหนึ่งเกราะเงินคลุมผ้าน้ำเงิน ต่างเผชิญหน้ากันด้วยความตึงเครียด“หากพวกเจ้ายอมจำนน ข้าจะละเว้นครอบครัว ต่อไปพวกเจ้าจะได้เป็นประชาราษฎร์ของเสวียนจงฮ่องเต้ ไม่แบ่งแยก!”เสียงซ่งอวิ๋นโม่บนหลังอาชาสีดำก้องสะท้อน ทหารในชั้นในเหลือไม่ถึงห้าร้อยนาย ใบหน้าล้วนซีดเผือด เมื่อมองเห็นว่าศัตรูมีพลมากมายมืดฟ้ามัวดินตำหนักชิงหลวน...ในยามที่ด้านนอกกำลังแตกพ่าย เชื้อพระวงศ์กว่าร่วมร้อยชีวิตต่างรวมตัวในตำหนักใหญ่ด้วยความตื่นตระหนก ไท่หยางฮ่องเต้ผู้ทรงราชย์มานานแปดปี ยังไม่เคยเผชิญเหตุร้ายแรงถึงเพียงนี้“ฝ่าบาท! กบฏซ่งอวิ๋นโม่ฝ่าประตูเสวียนอู่เข้ามาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หวังเฉวียนกงกงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหมอบกราบ“เราจะทำอย่างไรดีเล่า! ซือหม่าหยวนกับติ้งถิงโหวยังอยู่ไกลถึง
last updateLast Updated : 2025-09-01
Read more
ตอนที่1 ||หยกเปลี่ยนชะตา
แสงอรุณทอประกายเหนือกำแพงสูงใหญ่ของ นครจิ้งโจว เมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าเจา มองจากมุมสูงจะเห็นยอดหลังคาพระราชวังสีทองอร่ามสลับกระเบื้องมรกตลุกวาวดุจคลื่นทะเลในยามเช้ามหานครจิ้งโจว แห่งนี้คือศูนย์กลางแห่งความรุ่งเรือง ผู้คนต่างเรียกขานว่า ‘หัวใจแห่งต้าเจา’ ถนนสายใหญ่ทอดตรงจากประตูเมืองสู่พระราชวัง ที่ประดับพื้นด้วยหินอ่อนที่ปูเรียงกันเป็นแนวยาวเป็นประกายวาววับเมื่อแสงแดดสาดส่องสองฟากถนนหลวงสายหลักเต็มไปด้วยหอคณิกาหรูหรา โรงสุรามีชื่อ และโรงน้ำชาที่ขุนนางและนักปราชญ์แวะเวียนไม่ขาด เสียงพิณขับกล่อมแว่วจากหน้าต่างชั้นสองคลอเคล้ากับเสียงหัวเราะรื่นเริงของบรรดานักกวีมีร้านผ้าไหมจากแดนซูโจวแขวนแพรพรรณหลากสีงดงาม ล่อตาล่อใจสตรีในตระกูลสูงศักดิ์ให้หยุดชมตลาดย่านตะวันออกอบอวลด้วยกลิ่นเครื่องเทศหอมกรุ่นจากแดนไกล หีบชาเขียวจากแคว้นหนานหรงกองสูงเป็นภูเขาถัดไปเป็นร้านขายหยกและทองคำที่เปล่งประกายราวภูผาเงินภูผาทอง เสียงพ่อค้าเรียกลูกค้าขายแข่งกันดังขรม ขณะที่เกวียนสินค้าจากหัวเมืองต่างก็ทยอยเข้ามาในนครไม่ขาดสายเหนือหลังคาร้านค้าเป็นหอชมวิวสูงเสียดฟ้า แขวนระฆังทองทุกทิศ เมื่อกระแสลมพัดผ่าน เสียง
last updateLast Updated : 2025-09-01
Read more
ตอนที่ 2 ||คืนหยกที่อารามถานไถ่
สายลมต้นยามเฉินพัดกลิ่นสนหอมจาง ๆ ลอยมาจากเชิงเขา ถานไถ่ สายหมอกบางลอยต่ำไปตามยอดไม้ เมื่อขบวนเสด็จเลี้ยวผ่านซุ้มประตูอาราม เสียงระฆังทองดังรับสามครั้งกังวานไปทั้งหุบเขาบนลานหินหยกหน้าวิหารใหญ่ แม่ชีในจีวรสีหม่นเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ สือเหล่าซือไท่ เจ้าอารามผู้สูงวัย ยืนรออยู่เบื้องหน้า ผมสีเงินเกล้ามวยเรียบ ใบหน้าสงบสว่างราวแสงยามเช้า นางประนมมือคำนับงดงาม“ถวายคำนับ หลีไทเฮา และ ฉางหลันจ่างกงจู่ อารามถานไถ่ยินดีต้อนรับเพคะ”ไทเฮายิ้มบาง ๆ รับคำ พลางพยักหน้าให้ขันทีและนางกำนัลถอยเป็นระยะพอเหมาะ เหลือเพียงข้ารับใช้คนสนิทสองสามนาง รวมถึง อาหลิว อากุ่ย และหลิวหมัวมัว กับติ้งกงกง ที่ตามเฝ้าฉางหลิงจ่างกงจู่ไม่ห่างสือเหล่าซือไท่เชื้อเชิญเข้าไปในวิหารใหญ่ พื้นศิลาขาวสะอาดสะท้อนเงาเปลวเทียนเป็นสาย ๆ กลางวิหารตั้ง พระประธานหินขาว สูงตระหง่าน กระถางกำยานสามขาตั้งเรียงด้านหน้า ควันหอมลอยเป็นเส้นบางขับให้บรรยากาศยิ่งสงบ“ฉางหลิงจ่างกงจู่ นำหยกกลับไปวาง ‘ที่เดิม’ เถิดเพคะ ที่ซึ่งหยิบจากมา ถือว่าคืนเจ้าของดังเดิม” เสียงสือเหล่าซือไท่เรียบอ่อน แต่มีน้ำหนักหลีไทเฮา พยักหน้าเรียกถิงเยว่าเบา ๆ “อ
last updateLast Updated : 2025-09-01
Read more
ตอนที่ 3 || อู่จั๋วซือหม่า
ยามเหม่า แสงยามเช้าพลางฟ้าเพิ่งสาดสีเงินอ่อน ๆ ลงเหนือทุ่งหมู่บ้านนอกนคร เสียงนกการ้องดังอยู่บนกิ่งไม้แห้ง บริเวณบ่อร้างกลางหมู่บ้านชานเมืองจิ้งโจวบัดนี้กลับคลาคล่ำด้วยผู้คนศพหนึ่งถูกดึงขึ้นจากน้ำ วางไว้บนพื้นหญ้าชื้น มีกลิ่นเน่าคละคลุ้งจนชาวบ้านพากันปิดจมูก บ้างหันหน้าหนี บ้างอาเจียนจนตัวงอ มีเด็กหลายคนที่ตามบิดามารดามาด้วยถึงกับร้องไห้เสียงแหลมผู้ที่ยืนอยู่กลางฝูงชนในวันนี้ คือบุรุษหนุ่มในชุดยาวสีน้ำเงินเข้มเรียบง่ายสะอาดสะอ้าน ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ ดวงตาคมเข้มภายใต้คิ้วหนา ดูเย็นชาราวน้ำแข็งเขาคือซือหม่าหยาง คุณชายสามแห่งตระกูลซือหม่า ผู้ไม่เดินตามรอยบิดา บรรพบุรุษ หรือพี่ชายพี่สาวในฐานะแม่ทัพ หากแต่เขาเลือกทางตนเองด้วยการเป็น หมอชันสูตรศพ หรืออู่จั๋ว ประจำศาลต้าหลีทหารรักษาการณ์ประจำหมู่บ้านโค้งตัวรายงาน “ศพนี้พบตั้งแต่ยามสองเมื่อคืน ก่อนรุ่งสางจึงลากขึ้นมาขอรับ (*) อู่จั๋วซือหม่า”ซือหม่าหยางพยักหน้า รับคำในลำคอสั้น ๆ ก่อนก้าวเข้าใกล้ศพที่เพิ่งวางบนเสื่อฟาง กลิ่นเหม็นคลุ้งยิ่งแรงเมื่อผ้าคลุมถูกเปิดออก ชาวบ้านหลายคนถอยกรูดด้วยสีหน้าขาวซีด กับภาพศพคนตายที่ขึ้นอืดคนยากจะจำ
last updateLast Updated : 2025-09-02
Read more
ตอนที่ ๔ ||ร้านอันเหมียนถังและสกุลซือหม่า
ตอนที่ ๔ ||ร้านอันเหมียนถังและสกุลซือหม่าหลังขบวนเสด็จของสองสตรีคนสำคัญของต้าเจาจากไปแล้ว ถนนเส้นใหญ่กลับมาคึกคักดังเดิม พ่อค้าแม่หาบเร่แผงลอยส่งเสียงป่าวประกาศสรรพคุณสินค้าของตนเองให้คนที่เดินผ่านไปมาหันมาสนใจสินค้าหน้าร้านตนเองผู้คนหลั่งไหลพลุกพล่าน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทว่าปลายถนนกลับมีร้านหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากเฉียดใกล้หากไม่จำเป็นแต่กลับเป็นร้านที่ฮวงจุ้ยโดดเด่น ร้านดังกล่าวมีชื่อว่า......อันเหมียนถังหน้าร้านแขวนโคมกระดาษสีขาว สลักตัวหนังสือคำว่า “หลับใหลอย่างสงบ” ริ้วผ้าขาวพาดเหนือป้ายไม้สีหม่นที่จารึกชื่อร้านชัดเจน ยามลมพัดเงาโคมไฟไหวระริก เงาทอดลงพื้นดุจวิญญาณเร่ร่อนชวนผู้ผ่านทางขนลุกขนพอง ผู้คนที่เดินมาเพียงเหลือบมองก็มักเบี่ยงหลบ หรือข้ามถนนไปอีกฟากเพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นอวลชื้นของกำยานและสมุนไพรประตูไม้สีดำเปิดแง้ม กลิ่นไม้สนผสมขี้ผึ้งที่ใช้เคลือบโลงโชยคลุ้งไปกับกลิ่นเย็นของใบส้มโอ กานพลู และดอกเบญจมาศแห้ง บรรยากาศข้างในกว้างใหญ่แต่ขรึมเงียบสงบ ริมผนังเรียงรายด้วยโลงศพหลากหลายแบบบางใบสลักลายเมฆ ลายดอกเหมย บางใบเรียบง่ายสงบเสงี่ยมโต๊ะเก็บเงิน
last updateLast Updated : 2025-09-03
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status