ไม่รู้ว่าหมอกเริ่มลงตั้งแต่เมื่อใด ปกคลุมไปทั่วทั้งป่าไผ่ หมอกลงหนักจนแม้แต่ในระยะหนึ่งเมตรก็ไม่อาจเห็นได้ชัดกู้ชูหน่วนออกคำสั่ง "น่าจะเป็นค่ายกลหมอก ทุกคนอยู่ใกล้กันไว้ อย่าแยกไปไหน"ไม่มีเสียงตอบรับจากรอบข้าง กู้ชูหน่วนหันไป กลับพบว่าเยี่ยเฟิงแตกแถวไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แม้แต่ฝูกวงที่ตามนางมาติดๆ ก็หายไปด้วย"เยี่ยเฟิง ฝูกวง..."กู้ชูหน่วนตะโกนเรียกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากพวกเขา ในใจอดระแวงไม่ได้ข้างโสตพลันมีเสียงลมพัดผ่านราวกับเสียงวิญญาณคร่ำครวญ เศร้าสลด ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความเย็นยะเยือกต้นไผ่สั่นไหว เงาสีเขียวขจีเอนไปซ้ายทีขวาที ราวกับต้นไผ่มีขาเคลื่อนไหวไปทั่วทุกทิศพื้นดินเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า คล้ายกับว่ากู้ชูหน่วนกำลังอยู่ในเขาวงกดขนาดมหึมา นางไม่ขยับ พื้นดินก็ไม่ขยับ ทันทีที่นางขยับ พื้นดินก็เคลื่อนตามไปด้วยกู้ชูหน่วนหลับตาลง พยายามสัมผัสถึงทิศทางลมและทิศทางการเคลื่อนไหวของค่ายกลอย่างละเอียด ไม่นานนัก นางก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาเย็นยะเยือก มุมปากยกยิ้มมีเลศนัยคิดจะใช้ค่ายกลกับนางหรือคิดว่านางร่ำเรียนวิชาแก้ค่ายกลมาไม่ได้ประโยชน์ใดเลยหรือกู้ชูหน่วนเ
กู้ชูหน่วนใช้วิชาตัวเบา ดีดตัวจากต้นไผ่พุ่งเข้าไปโอบเอวที่แข็งแกร่งของเด็กหนุ่มชุดแดง มืออีกข้างกระหน่ำยิงเข็มเงินออกไปราวกับเม็ดฝนซัดสาด สกัดกั้นเหล่ายอดฝีมือที่กรูกันเข้ามาด้วยความดุดันนางหัวเราะลั่น ภายในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอยากครอบครอง "น้องชายผู้นี้ เป็นของข้าแล้ว"เฮือก...ทุกคนต่างก็ตะลึงงันน้องชาย ?เป็นของนาง ?หญิงผู้นี้ฟั่นเฟือนไปแล้วหรือไรไม่มีกำลังภายในแต่อย่างใด กลับยังกล้าเข้ามาก่อกวนวุ่นวายนางรู้หรือไม่ว่าชายชุดแดงผู้นั้นคือหัวหน้าเผ่าหมอพวกเขาเปลืองแรงไปตั้งมากมาย อีกทั้งยังสละชีวิตคนไปจำนวนไม่น้อย กว่าจะล้อมเขาไว้ในป่าไผ่ได้ยิ่งไปกว่านั้น...นี่ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่กำลังภายในของเขาแตกซ่าน สูญเสียกำลังภายในไปแทบทั้งหมด พวกเขาถึงทำเช่นนี้ได้เซวี่ยซา ผู้ใต้บัญชาที่โหดเหี้ยมของชายหนุ่มชุดแดงสีหน้าพลันเย็นยะเยือก กำลังจะพุ่งเข้าไปชายชุดแดงกลับโบกมือขาวเนียนของตนเบาๆ เป็นสัญญาณให้เขาอยู่เฉยๆ ผู้ใต้บัญชาผู้นั้นถึงได้หยุดฝีเท้า"น้องชาย เจ้าหน้าตาดียิ่งนัก ไม่ต้องกลัว เจ๊จะปกป้องเจ้าเอง"ตึง...ใครหลายคนตะลึงจนหงายหลังเงิบแม้แต่เซวี่ยซาผู้ใต้บัญชาข
สุดปลายทางป่าไผ่ กู้ชูหน่วนยังคงโอบเอวหัวหน้าเผ่าหมอเอาไว้ นางสูดดมกลิ่นหอมจากตัวเขาด้วยความพึงพอใจ"น้องชาย เจ้าใช้แป้งอะไร กลิ่นบนตัวถึงได้ชวนดมเช่นนี้""เพียงแค่แช่กายในน้ำกลีบดอกไม้เล็กน้อย จึงมีกลิ่นหอมดอกไม้หลงเหลืออยู่บนตัวกระมัง" ชายหนุ่มชุดแดงเลิกแขนเสื้อขึ้นมา ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมอย่างอารมณ์ดีตามกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชม "ดวงตาของเจ้างามเสียจริง"ร่างของชายหนุ่มพลันแข็งเกร็งไปชั่วขณะ มองกู้ชูหน่วนด้วยความจริงจัง ทว่ากลับเห็นผ้าคลุมหน้าบดบังใบหน้าของนาง มองไม่เห็นรูปลักษณ์ แต่ดวงตาใสสว่างคู่นั้นกลับกำลังสะท้อนดวงตาที่ข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งฟ้าของเขา เต็มไปด้วยความอิจฉาเขาดูไม่ผิด เป็นความอิจฉาและชื่นชอบจริงๆ ไม่มีสิ่งใดปะปนอยู่เลยมุมปากของหัวหน้าเผ่าหมอขยับเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา "เจ้าเป็นคนแรกที่บอกว่าดวงตาของข้าสวย"มุมปากของเขายังคงรอยยิ้มเอาไว้ตลอด เพียงแต่รอยยิ้มนี้กลับไม่ได้ทำให้คนรู้สึกถึงความอบอุ่นแต่อย่างใด กลับกัน ให้ความรู้สึกที่คลุมเครือลึกลับแต่เพราะประโยคนั้นของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด รอยยิ้มนั้นถึงไ
"ดูเหมือนเจ้าจะมีอคติกับหัวหน้าเผ่าหมออยู่ไม่น้อยเลย" ชายหนุ่มชุดแดงลูบเส้นผมดำเงานุ่มลื่นด้วยท่าทางชวนหลงใหล พลางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจกู้ชูหน่วนแค่นหัวเราะ"จะไม่มีอคติได้อย่างไร หากเขาไม่วิปริต แล้วจะบ่มเพาะหัวหน้ากองธงที่โรคจิตขนาดนั้นออกมาได้อย่างไร" ดูสิ ทำให้เยี่ยเฟิงกลายเป็นเช่นไร"พี่สาว เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าด่าว่าหัวหน้าเผ่าหมออย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ แต่ว่า...ข้าชื่นชม"กู้ชูหน่วนกอดไหล่เขาท่าทางสนิทสนม พลางพูดด้วยรอยยิ้ม "น้องชายรูปโฉมงดงาม เจ๊ชอบเจ้ายิ่งกว่า ไปกันเถอะ เจ๊จะพาเจ้าไปเปิดโลก"ชายชุดแดงเหลือบมองมือเล็กๆ ที่กำลังโอบไหล่เขาอยู่ปราดหนึ่ง รอยยิ้มเบ่งบานอยู่ในดวงตาเรียวยาวเจ้าเล่ห์คู่นั้น ปล่อยให้นางพาเขาไปยังเขาดูดวิญญาณรอยยิ้มของเขาดูสับสนมึนงงอยู่บ้าง แต่คำพูดที่เอ่ยออกมากลับชัดถ้อยชัดคำ "พี่สาว เจ้าจำไว้ให้ดีล่ะ เจ้ากอดข้าสองหนแล้ว ต้องรับผิดชอบข้าด้วยล่ะ ไม่เช่นนั้น...ข้าจะโกรธจริงๆ ด้วย""อ่อ...โกรธเช่นนี้หรือ"กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป บีบใบหน้ารูปไข่ที่งดงามของเขาใบหน้าของเขาทั้งนุ่มทั้งลื่น ที่สำคัญยังดูแล้วเพลินตา พอได้สัมผัสก็รู้สึกเพลิดเพลินใจ กู้ชูห
หากไม่ใช่เพราะในหมู่บ้านมีผักสดร่วงเป็นครั้งคราว มีเนื้อหมูและอาวุธ กู้ชูหน่วนเกือบจะคิดว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านร้างที่ไม่มีผู้ใดอยู่ไปแล้วเมื่อหลับตาลง ยังคงสามารถสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณในหมู่บ้านอยู่รางๆ เพียงแต่ลมหายใจเหล่านั้นเร็วขึ้น และสั่นเทาราวกับกำลังหวาดกลัวสิ่งใดอยู่"ข้าก็คิดว่าผู้ใด ที่แท้ก็เจ้าเด็กบ้านี่เอง"ไม่ไกลออกไป แม่นางสวีค่อยๆ เดินเข้ามาเนิบๆ ด้วยท่าทางอ้อยอิง ดวงตาของนางฉายแววความเกลียดชังที่เข้มข้นรุนแรง จ้องมองมาที่กู้ชูหน่วนราวกับกำลังจ้องคนตายข้างกายแม่นางสวี ยังมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผอมกะหร่องอย่างกับลิงอีกคนหนึ่ง สวีเจิ้นสวีเจิ้นหรี่ตาเพ่งไปยังรูปร่างที่อ้อนแอ้นอรชรของนาง พลางเลียนิ้วชี้ของตัวเองด้วยท่าทางชั่วร้ายเห็นสายตาแทะโลมของสวีเจิ้น รังสีอำมหิตของหัวหน้าเผ่าหมอพลันฉายประกายออกแวบหนึ่ง รวดเร็วจนไม่มีผู้ใดสัมผัสได้"เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความเหนื่อยหน่ายแม่นางสวียกหัตถ์โลหิตของตัวเองขึ้นมา เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาดถูกโปะด้วยแป้งหนาเตอะ ยามที่นางเดินโยกย้ายไปมา ผงแป้งบนใบหน้าพลอยร่วงหล่นลงม
สถานการณ์กำลังตึงเครียดถึงขีดสุด และในขณะนั้นเอง ก็มีแรงกดดันอันทรงพลังแผ่มาจากที่ไม่ไกลทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นมอง ปรากฏว่าผู้ที่มาเยือนคือผู้เฒ่าใกล้หกสิบเขาผมขาวโพลน มีหนวดเครา ดวงตาคมกริบ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชา เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้คนอื่นไม่กล้าสบตา"ลูกพี่"สวีซานเหนียงและสวีเจิ้นต่างร้องเรียก"พวกเจ้ายังอยู่ที่นี่อีกรึ?" ผู้เฒ่าผมขาวอินต้ากุ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ"ลูกพี่ หญิงคนนี้ฆ่าเจ้าเจี่ยน หากไม่ฆ่านาง ความแค้นในใจจะไม่มีวันหายไป"สวีเจิ้นลูบผมหยิกในมือ เขายิ้มเยาะอย่างน่ากลัว "ทั้งสองล้วนไม่มีวิทยายุทธอยู่ การฆ่าพวกเขาไม่ต้องใช้เวลา ไม่เป็นไรหรอก"อินต้ากุ่ยหัวหน้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมองกู้ชูหน่วนและหัวหน้าเผ่าหมอเมื่อมองกู้ชูหน่วน เขาก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรมากนักแต่เมื่อเห็นหัวหน้าเผ่าหมอที่ซบอยู่บนตักของกู้ชูหน่วน เขาก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หายใจหอบหนัก และดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว"ไป รีบไปจากที่นี่เร็ว" อินต้ากุ่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับการโต้แย้งสวีซานเหนียงและสวีเ
"นังตัวดี! ดูซิว่าข้าจะฆ่าเจ้าอย่างไร!" เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับหัตถ์โลหิตของสวีซานเหนียงที่เตรียมจะลงมือกับกู้ชูหน่วนอินต้ากุ่ยจับมือของนางไว้แน่นและเอ่ยเสียงเย็นชาว่า "ไป!""พี่ใหญ่! ตาของสวีเจิ้นก็ถูกคนควักออกไปแล้วนะ!""ข้าบอกให้ไปไง!""วันนี้ข้าจะต้องเอาชีวิตของนังตัวดีให้ได้!" สวีซานเหนียงสะบัดมือออกจากอินต้ากุ่ยด้วยความโกรธแค้นอินต้ากุ่ยโกรธจัดตบหน้านางอย่างแรง "หากเจ้ากล้าเอาชีวิตนาง ข้าจะเอาชีวิตเจ้าก่อน!"สวีเจิ้นตาบอดแล้ว หรือว่านางจะบอดไปด้วย?ไม่เห็นหรือว่าหัวหน้าเผ่าหมอกำลังปกป้องสาวน้อยอยู่?หากสาวน้อยเป็นอะไรไป พวกเราก็อย่าคิดมีชีวิตรอดในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่ทำให้สวีเจิ้นตาบอดและควักดวงตาของเขาออกไปได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น?เป็นฝีมือของหัวหน้าเผ่าหมอชัดๆสวีซานเหนียงเนื้อตัวสั่นและร้องออกมาด้วยความไม่เชื่อ "ลูกพี่......""ไป"อินต้ากุ่ยกลัวว่าจะเสียเวลา จึงอุ้มคนทั้งสองไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจความโกรธแค้นของสวีซานเหนียงและสวีเจิ้นพวกเขามาเร็วไปเร็วในหมู่บ้านเล็กๆ จึงเหลือเพียงกู้ชูหน่วนและหัวหน้าเผ่าหมอกู้ชูหน่วนช่วยพยุงหัวหน้าเผ่าหมอที่ดูอ่อ
ในวังอันโอ่อ่าอลังการ ณ ใจกลางเขาดูดวิญญาณกู้ชูหน่วนจ้องมองหญ้าตี้อวี้ในมืออย่างตกตะลึง แทบจะกัดลิ้นตัวเองแค่......แค่นี้ก็ได้หญ้าตี้อวี้มาแล้ว?นี่นางฝันไปหรือไม่?นางถามหัวหน้าเผ่าหมอที่กำลังพิงประตูด้วยท่าทางสบายอย่างมึนงง ว่า "วังของหัวหน้าเผ่าหมอ เวรยามหละหลวมขนาดนี้เลยหรือ?""หากพี่สาวไม่ชอบ ข้าจะเรียกทหารเวรยามมาให้หมดเลยดีหรือไม่?"ไอ้......นี่ข้าช่วยชีวิตผู้ชายแบบไหนมากันเนี่ย?ความคิดแปลกประหลาดจริงๆนางพูดว่าให้เรียกเวรยามซะที่ไหนกัน?เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเอ่ยปาก กู้ชูหน่วนจึงรีบปิดปากเขา "ไปๆๆ เดินกลับทางลับกันเถอะ"เดิมทีนางไม่อยากพามาด้วยหรอก แต่เขายืนกรานแล้วพานางเดินผ่านทางลับมาจนถึงวังของหัวหน้าเผ่าหมออย่างง่ายดาย ราวกับเป็นบ้านของตนเองยิ่งอยู่กับเขา นางก็ยิ่งสงสัยสถานะของเขาแต่ครุ่นคิดดูแล้ว ก็คิดไม่ออกว่าเขาเป็นใครกันแน่เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีพิษมีภัย จึงพามาด้วยกู้ชูหน่วนเก็บหญ้าตี้อวี้ใส่แหวนปริภูมิ แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกมีหญ้าตี้อวี้ นางจะฟื้นฟูใบหน้าได้ในไม่ช้าดวงตาสีฟ้าอ่อนของหัวหน้าเผ่าหมอที่ดูเฉื่อยชาเมื่อเห็นแหวนปริภูมิแล้วก็ส่อง
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ