กู้ชูหน่วนโต้แย้งอย่างเที่ยงธรรมและหนักแน่น "จะเป็นไปได้อย่างไร เยี่ยเฟิงมีภูมิหลังที่น่าสงสารมาก ใครๆ ที่ได้เห็นก็คงรู้สึกสะเทือนใจ ข้าแค่ถือว่าเขาเป็นเพื่อนเท่านั้น""จริงหรือ? แล้วเซียวอวี่เชียนล่ะ?""นั่นสหายของข้า""อี้เฉินเฟยล่ะ?""นั่นพี่น้องของข้า""ซือม่อเฟยล่ะ?""นั่นน้องชายของข้า""ซ่างกวานฉู่ล่ะ""นั่นคือ......อาจารย์ของข้า"กู้ชูหน่วนอยากจะพูดว่าสหาย แต่ครุ่นคิดดูแล้วรู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นอาจารย์ไม่พูดถึงซ่างกวานฉู่ก็คงจะดี พูดถึงซ่างกวานฉู่แล้ว กู้ชูหน่วนก็คิดถึงความงามของเขาขึ้นมา"หึ......คบคนโน้นคนนี้ไปทั่ว"เย่จิ่งหานหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาไม่นับก็ไม่รู้ หากลองนับดู ผู้ชายหล่อๆ รอบตัวนางนั้นมีเป็นกอง และยังมีอีกหลายคนที่เขาไม่ได้พูดถึง เช่นพวกฝูกวง"ท่านอ๋อง ท่านถามในสิ่งที่ท่านควรถามหมดแล้ว ควรรีบส่งคนไปที่เสี่ยวเหอชุนหรือไม่? หากไปช้า เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมาจะทำอย่างไร?""ไม่ไป""ไม่ไปจริงๆ หรือ?"กู้ชูหน่วนรวบแขนเสื้อขึ้น หว่างคิ้วของนางเต็มไปด้วยความโกรธเพื่อที่จะให้เขาเพิ่มคนไปที่เสี่ยวเหอชุน นางพูดคุยกับเขาอยู่ที่นี่นานมาก น้ำลายข
ร่างของมนุษย์นอนตายเกลื่อนพื้น กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น เลือดสดไหลซึมออกจากร่างของพวกเขาอย่างช้าๆ รวมตัวกันเป็นสายน้ำไหลผ่านเท้าของพวกเขาหมู่บ้านถูกเผาทำลาย มองไปทางไหนก็ไม่พบกระท่อมที่สมบูรณ์สักหลัง อีกาหลายตัวเกาะอยู่บนกระเบื้อง ส่งเสียงร้องกากๆ ดังลั่นกู้ชูหน่วนเจ็บปวดมากศพเหล่านั้นมีเจ้าของร้านขายบะหมี่ มีผู้ใหญ่บ้าน และคนอื่นๆ ที่นางคุ้นเคยรวมอยู่ด้วย ทุกคนถูกฟันด้วยมีดนับสิบครั้ง เลือดไหลหมดตัวจนตาย แม้แต่คนชราอายุแปดสิบปีและทารกในอ้อมอกก็ไม่เว้นนี่เป็นโศกนาฏกรรมของมนุษย์มือของกู้ชูหน่วนกำแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบแกร๊บใบหน้าของเยี่ยเฟิงซีดขาวจนไม่มีเลือด เขาแทบไม่อยากมองร่างเหล่านั้น ทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนญาติสนิทเขาวิ่งโซเซ กลับไปที่บ้านของตัวเอง พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"แม่เฒ่า......แม่เฒ่า......"ฝ่ามือของกู้ชูหน่วนสั่นเทา ตะโกนเสียงดัง "เซียวอวี่เชียน เซียวอวี่เชียน อยู่ที่ไหน......หากยังไม่ตายก็ส่งเสียงออกมา"กู้ชูหน่วนมองหาร่างของเซียวอวี่เชียนในกองศพ พร้อมกับตะโกนเสียงดัง ขณะนี้ นางไม่เหลือความเย่อหยิ่งในอดีตแล้ว และมีแต่ความกลัว
"กู้ชูหน่วนเอ่ยว่า "ฉะนั้น ตั้งแต่แรกเริ่ม นายท่านหลันก็ต้องการสังหารหมู่ชาวบ้านในเสี่ยวเหอชุน"เยี่ยเฟิงเนื้อตัวสั่นเทา เกือบยืนไม่ไหวเขารู้ดีว่าแม้เขาจะเอากระดิ่งภินวิญญาณกลับคืนมาได้ นายท่านหลันก็คงไม่ปล่อยเขาไปไม่ว่าวันนั้นเขาจะสามารถนำกระดิ่งภินวิญญาณกลับมาได้หรือไม่ นายท่านหลันก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะสังหารชาวบ้านทั้งเสี่ยวเหอชุนโทษเขาเอง......โทษเขาเอง เขาไม่ควรพาแม่เฒ่ามาที่เสี่ยวเหอชุนหากเขาไม่มาที่เสี่ยวเหอชุน เสี่ยวเหอชุนก็คงไม่เกิดเรื่องกู้ชูหน่วนมองเย่จิ่งหานที่ทำสีหน้ามืดมน และเอ่ยต่อว่า "ฉะนั้น ตั้งแต่นายท่านหลันปรากฏตัวที่วัดไป๋อวิ๋น เย่จิ่งหานก็ได้สั่งให้คนมาคุ้มครองเสี่ยวเหอชุนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว"เซียวอวี่เชียนไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ จึงเอ่ยว่า "ลูกน้องของเทพสงครามมาถึงเมื่อวาน แต่น่าเสียดายที่สายไป"ตู้ม......ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำสนิท เสียงฟ้าร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับรู้ถึงความรู้สึกของพวกเขา สวรรค์เริ่มร้องไห้ ฝนตกหนักกระหน่ำลงมา กระทบกับเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น และก้นบึ้งของหัวใจของพวกเยี่ยเฟิงฝนตกลงมาพร้อมกับเลือด รวมตัวกั
"กู้ชูหน่วนทิ้งร่มกระดาษน้ำมัน นั่งลงข้างกายเยี่ยเฟิงเป็นเพื่อนเขาอย่างเงียบๆ ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะปลอบโยนเขาอย่างไรไม่คาดคิดว่าเยี่ยเฟิงจะเอ่ยปากพูดก่อนเขาไม่ได้พูดมานาน เสียงแหบแห้งของเขาดังขึ้นอย่างช้าๆ"ข้าเป็นตัวซวย ใครก็ตามที่ใกล้ชิดข้าก็จะต้องโชคร้าย ในอดีต ท่านอาและอาสะใภ้ที่สนามทาส องครักษ์พี่ใหญ่ใจดีที่เขาหมายวิญญาณ ครอบครัวของแม่เฒ่าเยี่ยและชาวบ้านทุกคนในเสี่ยวเหอชุน ข้ากลัวว่า......"กลัวว่านางและเซียวอวี่เชียนจะถูกเขาทำให้เดือดร้อนไปด้วยกู้ชูหน่วนรู้ความคิดในใจของเขา จึงพูดแทรกเขาทันที "ใครบอกว่าเจ้าเป็นตัวซวย เจ้าจิตใจดี รักเพื่อนพ้อง ผู้คนจำนวนมากต่อแถวอยากเป็นเพื่อนเจ้า"เยี่ยเฟิงยิ้มขมขื่น นั่งอยู่ใต้แสงแดดอันร้อนระอุ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นแม้แต่น้อย"ข้าอยู่ในสนามทาสตั้งแต่ข้าจำความได้ แม้ว่ายามนั้นชีวิตจะลำบากไปบ้าง แต่ข้าก็มีความสุขมาก เพราะที่นั่นมีท่านอาและอาสะใภ้จำนวนมากที่ปฏิบัติต่อข้าดีมาก""เจ้ารู้หรือไม่ว่าความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าในยามนั้นคืออะไร"กู้ชูหน่วนถามอย่างไม่แน่ใจ "ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง กลับไปอยู
"ต่อมา ข้าได้รับเลือกเป็นบ่าวรับใช้ และถูกส่งไปยังเรือนใหญ่ของนายท่านหลัน" เยี่ยเฟิงตัวสั่นเทา กอดตัวเองแน่นขึ้น และคำพูดที่เปล่งออกมาสั่นเครือจนฟันกระทบกัน"ตั้งแต่นั้นมา โลกของข้าก็มืดมิด เขาทารุณและโหดร้ายจนเกินจะบรรยาย""เรื่องพวกนั้นผ่านมาแล้ว อย่าคิดถึงอีกเลย" กู้ชูหน่วนอยากกอดเขา แต่นางก็กลัวกลัวว่าหากนางสัมผัสเขา เขาจะแตกสลาย"สิบสามปีที่ผ่านมา ข้าคิดฆ่าตัวตายทุกวัน ทุกวันทุกคืน ราวกับตายทั้งเป็น"เยี่ยเฟิงเงยหน้ามองกู้ชูหน่วน ในดวงตาเย็นชาของเขาน้ำตาคลอเบ้า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นชีวิตอย่างไร? อยู่ในถ้ำน้ำแข็งมืดมิด แม้แต่ความตายก็ยังเป็นความหรูหรา แม้แต่การหายใจก็ยังเจ็บปวด เจ็บปวดมาก......"กู้ชูหน่วนไม่ค่อยเข้าใจว่าเยี่ยเฟิงบอกเรื่องนี้กับนางทำไม?หรือว่าเขาคิดสั้น อยากฆ่าตัวตาย?"ข้ารู้ว่าข้าตายไม่ได้ หากข้าตาย คนสิบคนที่ผูกติดอยู่กับข้าก็จะตายด้วย คนในสนามทาสก็จะตาย พ่อแม่แท้ๆ ของข้าก็จะตายทั้งเป็น""สิบสามปี ข้าทนมาสิบสามปีเต็ม ข้าพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะหนีจากนายท่านหลัน ในเผ่าหมอมีการคัดเลือกผู้มีความสามารถ ตราบใดที่พิณกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีน ภาพวาดจีน เขียน
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธจิตใจดีอะไร? ที่แท้ก็แค่คอยเตือนให้เยี่ยเฟิงเชื่อฟังเขาแต่โดยดีเท่านั้น หากเขาอยากจะทำเมื่อไหร่ ก็สามารถทำให้เขาปางตายได้ทุกเมื่อน่าขยะแขยงน่าขยะแขยงเกินไปแล้วทำไมคนเลวแบบนั้นไม่ตายๆ ไปเสีย"รู้สึกว่าข้าต่ำต้อยและน่าดูถูกมากใช่หรือไม่""ไม่เลย""ข้าเป็นแค่ของเล่นที่คนเอาไว้เล่นสนุก เพื่อความอยู่รอด เพื่อที่จะได้ทรมานน้อยลง ข้าจึงยอมก้มหัว ยอมดูถูกตัวเอง ข้าเป็นคนแบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลก ข้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตัวเองจนหมดสิ้น""ไม่ เจ้ากล้าหาญมาก มีความรับผิดชอบมาก หากเป็นคนอื่นคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว การมีชีวิตอยู่ยากกว่าการตายเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น......"ยิ่งไปกว่านั้นเขายึดมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเองมากเขายึดคำว่าศักดิ์ศรีมากกว่าใครตั้งแต่เกิด เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่โหดร้ายตั้งแต่อายุห้าขวบ ปีกทั้งสองข้างของเขาก็ถูกคนหักจนขาดสะบั้นในโลกแคบๆ และทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสการที่เขายังคงรักษาเจตจำนงเดิมไว้ได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว"เรื่องพวกนั้นผ่านมาแล้ว ต่อไปเจ้าจะมีชีวิตที่ดี เรื่องแม่เฒ่าของเจ
คำพูดของกู้ชูหน่วน พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจเซียวอวี่เชียนส่ายศีรษะ ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก "เทพสงครามหลอกไม่ง่าย วันแต่งงาน เจ้าทำเพื่อชายอื่น และหนีไปช่วยคนที่เผ่าหมอ จุๆ ๆ ข้ากลัวว่าเจ้าไม่ทันได้ช่วยคน ก็อาจเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้งเสียแล้ว"กู้ชูหน่วนกลอกตา "วางใจได้ ข้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงแน่ และข้าจะทำให้ เย่จิ่งหานยอมปล่อยข้าออกมาแต่โดยดี พวกเจ้าเลิกเป็นห่วงเรื่องที่ไม่จำเป็นได้แล้ว""พูดซะเสมือนจริง ไหนลองบอกมาซิ คืนส่งตัวเข้าห้องหอ เจ้าจะหนีออกมาอย่างไร""บอกไปก็ไม่ขลังน่ะสิ"เซียวอวี่เชียนคิดว่านางแค่พูดไปเช่นนั้น ไม่คิดว่านางจะคิดหนีงานแต่งจริงๆทว่า......ในใจของเขาหวังว่างานแต่งของนางกับเทพสงครามจะไม่สำเร็จมากกว่ากู้ชูหน่วนหยิบแผนที่ที่วาดไว้ล่วงหน้าออกมา เรียกฝูกวงมาปรึกษากันว่าจะใช้เย่จิ่งหาน บุกเข้าไปในเขาหมายวิญญาณเพื่อช่วยแม่เฒ่าเยี่ยได้อย่างไรเยี่ยเฟิงมองไปที่ท้องฟ้าสีคราม แต่กลับไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่คำเดียวพวกเขาเคยบุกเข้าไปในเขาหมายวิญญาณมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้อยากจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ไม่ง่ายเลยอีกอย่าง......ชีวิตของเขาไม่มีค่าอะไร พวกเขาจะเสี่ยงอันตรายตามเ
เยี่ยเฟิงคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพ โขกศีรษะสามครั้งอย่างหนักแน่น จากนั้นก็มองไปยังเสี่ยวเหอชุนที่ถูกเผาจนพังพินาศด้วยความอาลัยอยู่นาน ก่อนจะก้าวเดินขึ้นสู่เส้นทางของเขาหมายวิญญาณ ทิ้งไว้เพียงเงาอันโดดเดี่ยวและแน่วแน่ไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่เยี่ยเฟิงจากไปแล้ว เด็กสาวในชุดสีอ่อน สวมผ้าคลุมหน้าค่อยๆ เดินออกมาดวงตาสีดำของเด็กสาวจ้องมองไปยังแผ่นหลังและทิศทางที่เยี่ยเฟิงจากไปด้วยความแน่วแน่ ราวกับมองทะลุอะไรบางอย่างณ จวนหานอ๋องกู้ชูหน่วนวางขวดยาเม็ดหนึ่งลงบนโต๊ะให้เย่จิ่งหานที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ พร้อมกับพูดอย่างตรงไปตรงมา"มาทำข้อตกลงกันเถิด ท่านช่วยข้าช่วยแม่เฒ่าเยี่ยและฆ่านายท่านหลัน ข้าจะขับพิษเหมันต์และพิษมารทลโลหิตของท่านภายในครึ่งปี และแต่งงานกับท่าน"ฟิ้ว......เสียงสูดปากดังขึ้น ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ไม่คาดคิดว่านางจะพูดเช่นนี้ชิวเอ๋อร์ที่ตามมาติดๆ รีบดึงแขนเสื้อของกู้ชูหน่วนด้วยความตกใจการแต่งงานครั้งนี้เดิมทีฮ่องเต้ได้มีพระราชโองการแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแต่งงานแล้ว คุณหนูจะกล้าไม่แต่งงานได้อย่างไร?อีกทั้ง......ยังไม่ทันได้แต่งงาน เพื่อชายอื่นกล
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ