ดวงตาสุกสกาวของกู้ชูหน่วนฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผาดหนึ่งจู่ๆ นางก็กุมหัวใจของตัวเองไว้แน่น เลือดพลันพุ่งทะลักออกมา ส่วนร่างของนางก็ล้มลงไปที่พื้น ร่างที่อ่อนแรงพูดด้วยความตกตะลึง "ผู้ใด...ผู้ใดช่างเหี้ยมโหด ถึงกับกล้า...วางยา..."ซืดดด....ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพากันมองไปยังกู้ชูหน่วนที่นอนหลับตาปี๋จมกองเลือดอยู่อย่างไม่เชื่อสายตา สายตาเต็มไปด้วยความลนลาน“หมอหลวง รีบตามหมอหลวง”ไม่รู้ผู้ใดในกลุ่มคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกเหล่าองครักษ์พากันวิ่งออกไปตามหมอหลวงอย่างรีบร้อน“พระชายา ท่านเป็นอะไรไป…”องครักษ์หญิงนางหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้าไปจับชีพจรของนาง สีหน้าที่เดิมก็ดูหวาดกลัวอยู่แล้วพลันซีดเผือด“ไม่…ไม่มีชีพจรแล้ว…พระชายาไม่มีชีพจรแล้ว”ฟู่วววร่างของทุกคนสั่นผวาไม่มีชีพจรก็หมายความว่าตายแล้วไม่ใช่หรือคุณพระช่วย หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเขาจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไรแต่พวกเขาคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะมีโอกาสวางยาพระชายาได้"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."ร่างที่อยู่ทั้งในที่ลับและที่สว่างต่างพากันออกไป บ้างก็ไปรายงานเย่จิ่งหาน บ้างก็ไปตามหมอ แค่เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ผู
ดวงตาที่นิ่งเรียบของเย่จิ่งหานไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆชายชุดครามซูมู่ยิ้มเยาะ"สำนักซิวหลัว เผ่าหมอ และเจ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำซึ่งกันและกัน หากความสัมพันธ์เช่นนี้ถูกทำลาย สองพยัคฆ์ช่วงชิงกัน เผ่าเทียนเฝินจะต้องถือโอกาสเข้ามาผสมโรงเป็นแน่""เผ่าเทียนเฝินเป็นเผ่าเก่าแก่กว่าพันปี แกร่งกล้ามั่นคง วิทยายุทธหัวหน้าเผ่าเกินกว่าจะประเมินได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ภายในเผ่ายังมีท่านผู้อาวุโสอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งปรมาจารย์อาวุโส ได้ยินมาว่า หัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไปเหนือกว่ารุ่นก่อน วิทยายุทธก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าเผ่า ต่อให้ผู้ใต้บัญชาของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด แต่จะเทียบพวกเขาได้อย่างไร""ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเผ่าเทียนเฝินนั้นสลับซับซ้อนนัก มีคนของพวกเขาอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า แคว้นเย่...เหอะ หากไม่มีเจ้า คงถูกแคว้นต่างๆ แบ่งกลืนดินแดนไปนานแล้ว ยามนี้ฮ่องเต้น้อยยังจะใจเย็นอยู่ได้อีก"เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงขรึม "ข้าว่าเจ้าคงว่างเกินไป"ซูมู่จัดระเบียบแขนเสื้อที่ใหญ่โคร่งของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ระหว่างที่กินผลไม้อย่างสง่างาม ปากก็พลอยคลี่ยิ้ม
ประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมองหม่นลงไปอย่างรู้สึกได้หากหัวหน้าเผ่าหมอไม่มา แม้นายท่านหลันจะมีวิทยายุทธที่สูงล้ำ แต่การจะล้มเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแต่หัวหน้าเผ่าหมอมาด้วยตัวเอง เรื่องก็เริ่มจะตึงมือขึ้นมาเล็กน้อยที่สำคัญที่สุดคือ การสู้กับเขตกองธงหลันในคราวนี้ เผ่าเทียนเฝินจะต้องเข้ามาประสมโรงเป็นแน่ ศัตรูรายใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฝิน"รีบสู้รีบจบ เอาหัวของนายท่านหลันมา แล้วค่อยล่อหัวหน้าเผ่าหมอออกมา"ซูมู่พลันเงยหน้า พูดด้วยความตกตะลึง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ผู้ที่มาครานี้มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไป ด้วยแรงของเจ้าคนเดียวจะสู้เขากับหัวหน้าเผ่าหมอได้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ หัวหน้าเผ่าหมอยกให้ข้า เจ้าตั้งใจรับมือกับเผ่าเทียนเฝินไปเถอะ""ไม่ทันแล้ว" ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งจากทางนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูงหากเขาทายไม่ผิด เผ่าเทียนเฝินและหัวหน้าเผ่าหมอกำลังทางนี้เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไปพลางเอ่ย "หากเจ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยข้าตามหาก
"ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ
เย่จิ่งหานเล่นขลุ่ยหยกขาวในมือด้วยท่าทางหน่ายคร้าน ริมฝีปากเรียวบางเปล่งออกมาหนึ่งประโยค"แค่เขาหมายวิญญาณเล็กๆ ข้าอยากจะตีก็ตี จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหรือ"บ้าบ้าคลั่งเกินไปแล้ว...เย่จิ่งหานวิทยายุทธสูงส่ง พลังอำนาจแข็งกล้าวิทยายุทธของหัวหน้าเผ่าหมอไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา พลังอำนาจก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเผ่าเทียนเฝินที่คอยจ้องตามันเย่จิ่งหานพูดเช่นนี้ เป็นการฉีกหน้าหัวหน้าเผ่าหมออย่างไม่ต้องสงสัยหรือควรจะพูดว่า ตอนที่เขาส่งทหารไปตีเขาหมายวิญญาณ ก็เท่ากับท้าทายอำนาจของหัวหน้าเผ่าหมอ แตกหักกับเขาโดยสิ้นเชิงหัวหน้าเผ่าหมอหัวเราะเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีฟ้าอ่อนเผยให้เห็นความเย้ายวนที่ชวนให้คนหวาดกลัวชายชุดขาวยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ลมเย็นพัดเสื้อของเขาไหวสะบัด ราวกับจะติดปีกเป็นเซียนได้ทุกเมื่อภายใต้หน้ากากผีเสื้อ ดวงตาใสเป็นประกายเผยให้เห็นความชอบใจ เหมือนกำลังรอดูฉากเด็ดอยู่ทว่าประโยคต่อไปของหัวหน้าเผ่าหมอกลับทำให้ชายชุดขาวเกิดความสับสนว้าวุ่นเล็กน้อย"พวกเจ้าทั้งสองสู้กันไป หากสู้ไม่ไหว ข้าจะสู้แทนเอง"ทุกคน "..."นี่คือคำพูดที่หัวหน้าเผ่าหมอควรจะพูดเช
อีกด้าน กู้ชูหน่วนกำลังพาฝูกวงมุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณเขาหมายวิญญาณทั้งลูกสนั่นหวั่นไหว นางซวนเซทรงตัวไม่อยู่ มองดูสิ่งมหึมาที่อยู่กลางฟ้าด้วยความตกตะลึงหากไม่ได้เห็นกับตา นางไม่มีทางเชื่อว่าจะมีคนสามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นมังกร เปลี่ยนใบไม้ให้กลายเป็นเฟิ่งหวงได้ อีกทั้งยังเป็นมังกรและเฟิ่งหวงที่ดูสมจริง ไอสังหารรุนแรงถึงขนาดนี้"ช่างเป็นพละกำลังที่กล้าแกร่งยิ่งนัก" กู้ชูหน่วนตะลึงอยู่ในใจจะต้องเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจเพียงใดถึงได้มีความสามารถเช่นนี้สีหน้าของฝูกวงดูไม่สู้ดี ใบหน้าตุ๊กตาที่ดูจิ้มลิ้มฉายให้เห็นแววความเกลียดชังปราดหนึ่ง"เผ่าเทียนเฝิน คนของเผ่าเทียนเฝินเริ่มต่อสู้กับเทพสงครามแล้ว นั่นคือหนึ่งในกระบวนท่าเด็ดของหัวหน้าเผ่ารุ่นต่อไปของเผ่าเทียนเฝินผลึกวารีหมื่นลี้""ผลึกวารีหมื่นลี้ ?""ขอรับ ในช่วงที่พลังของเขากำลังโชติช่วง เขาสามารถใช้น้ำแข็งผนึกเขาหมายวิญญาณทั้งลูก และช่วงชิงทั้งหมดที่นี่ไปในชั่วพริบตา" แต่หลังจากที่เขาใช้ผลึกวารีแล้ว เขาเองจะเจ็บหนัก เขาจึงไม่ใช้กระบวนท่านี้ง่ายๆตลอดทั้งชีวิตของเขา บางทีอาจจะใช้เพียงครั้งเดียว ครั้งนั้นคือการใช้มาจัดการกับ
ท่ามกลางความมืด มีเสียงซู่ซู่ดังมาจากกอหญ้าทันทีที่กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ หันไปก็อดตกตะลึงไม่ได้ งูพิษที่กำลังแลบลิ้นขู่ฟ่อๆ หลายตัวกำลังเลื้อยเข้ามาทางพวกเขาจากทุกทิศงูพวกนี้มีหลายสายพันธุ์ หลากสีสันปะปนอยู่ด้วยกัน พุ่งเข้ามาฉกราวกับมีเป้าหมายอยู่แล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็รู้ว่างูทุกตัวล้วนแต่มีพิษร้ายแรง หากทุกฉก ชีวิตพวกเขาก็คงหาไม่"เหตุใดถึงได้มีงูมากมายเพียงนี้" ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มตะโกนออกมาฝูกวงเอ่ยเสียงขรึม "นายหญิง คงเป็นผู้อาวุโสตงเผ่าเทียนเฝิน นางสันทัดเรื่องการควบคุมแมลง งูและมดมีพิษ""มีวิธีจัดการหรือไม่""นอกเสียจากฆ่าผู้อาวุโสตง หรือไม่ก็คุมตัวนางไว้ แต่โดยปกติแล้วนางจะควบคุมผ่านการใช้เวทคาถาจากที่ที่อยู่แสนไกล พวกเราไม่รู้ตำแหน่งของนาง"เขาเองก็ไม่กล้าทิ้งนายหญิงไป ด้วยเกรงว่านายหญิงจะมีอันตรายฝูงงูเลื้อยเข้ามาใกล้ องครักษ์ลับห้อมล้อมกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ไว้ตรงกลางโดยอัตโนมัติ ทุกคนชักดาบเอามาเล็งไปที่ฝูงงูทว่าฝูงงูมีมากเกินไป ฟันไปตัวหนึ่ง ก็มีอีกตัวเข้ามาอีก เลื้อยกันเข้ามายั้วเยี้ย ไม่มีทางฟันให้หมดไปได้เข็มเงินของกู้ชูหน่วนถูกยิงออกไป ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ
ด้านบนมีค้างคาวกินคน ด้านล่างมีฝูงงูพิษวิธีการเช่นนี้ช่างโหดร้ายเกินไปองครักษ์ลับพากันเลียนแบบฝูกวง ใช้กำลังภายในของตนโจมตีฝูงค้างคาว พยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดกำลังที่ตนมีกู้ชูหน่วนเอ่ย "เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฝูกวง เจ้าคิดหาวิธีตามหาผู้อาวุโสที่แซ่ตงผู้นั้น แล้วคุมตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แน่""แต่หากข้าน้อยไปแล้ว นายหญิงจะทำเช่นไร""ข้ามีวิธีของข้า ข้าจะคุ้มกันเจ้า เจ้ารีบไป ไม่เช่นนั้นรอจนเจ้าใช้กำลังภายในหมด อยากจะจัดการนางก็คงไม่ไหวแล้ว"ฝูกวงกวาดสายตามองดูสถานการณ์การต่อสู้รอบๆสภาพการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละรายต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเยี่ยเฟิงบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังต้องปกป้องแม่เฒ่าเยี่ย ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วที่ยังสู้ได้ก็มีเพียงแค่เขากับองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานจำนวนไม่กี่คนหากประวิงเวลาต่อไป เกรงว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะใช้กำลังภายในจนหมดจริงๆคิดได้เช่นนี้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันพูด "ข้าพอจะรู้ตำแหน่งที่นางอยู่ นายหญิง อดทนไว้ ข้าน้อยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดหานางให้เจอ แล้วจะจัดการนางเสีย""ด
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ