แชร์

บทที่ 30

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
ดวงตาเยือกเย็นของกู้ชูหน่วนหรี่ลง มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้องห้าม

เป็นไปตามคาด คนของเรือนชิวเฟิงหยุดลงตรงหน้าพื้นที่ต้องห้าม ราวกับหวาดกลัวที่แห่งนี้

"คนที่อยู่ข้างในรีบออกมาเดี๋ยวนี้ เข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยพลการโทษตายสถานเดียว หากเจ้าออกมา ไม่แน่ว่าจะเหลือศพเจ้าไว้"

กู้ชูหน่วนยิ้มผยอง "ในเมื่อต้องตายอยู่ดี เหตุใดข้าต้องออกไปด้วย ชมทิศทัศน์งดงามที่นี่ไม่ดีว่าหรือ?"

"หาเจ้ากล้าเดินเข้าไป เชื่อหรือไม่พวกข้าจะเผาเจ้าเจ็ดชั่วโคตร"

"อยากเผาก็เผาไป" ในเมื่อเธอไม่ได้ผูกพันอะไรกับคนในจวนอัครเสนาบดีอยู่แล้ว

กู้ชูหน่วนมองไปรอบพื้นที่ต้องห้าม

พื้นที่ต้องห้ามคือป่าหิน เมื่อทอดสายตามองออกไปก็มีแต่หินขนาดยักษ์รูปร่างแปลกตาเล็กใหญ่สลับกันไป

เธอเดินหน้าอย่างระแวดระวัง ไม่รู้ว่าเดินไปนานแค่ไหนกว่าจะเห็นหน้าผาที่สุดทางป่าหิน

กู้ชูหน่วนพลันดีใจ

หรือว่านี่คือผาหินหลังเรือนชิวเฟิง?

เมื่อครู่เธอสำรวจรอบเรือนชิวเฟิงแต่กลับไม่เห็นหน้าผาเลย คงต้องเป็นที่อย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะเป็นยามกลางคืน เธอจึงมองไม่เห็นว่าผานั้นลึกลงไปมากแค่นไหน ทำได้เพียงโยนก้อนลงจากหน้าผา รออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา กู้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 574

    ไทเฮาแสร้งยิ้ม "ตังตังก็บอกแล้ว ว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของอัปมงคล หากท่านได้ไปแล้วเกิดอะไรขึ้น เทพสงครามจะไม่มาโวยวายกับข้าหรือ จากที่ข้ามอง ข้าว่าเปลี่ยนเป็นสร้อยเส้นที่ดีหน่อยเถอะ" "ขอบพระทัยไทเฮาสำหรับความหวังดี แต่คนเราต้องพอใจในสิ่งที่มี ข้ามีแค่เส้นนี้ก็พอแล้ว" ไทเฮาโกรธจนอกแทบแตกตาย กู้ชูหน่วนดื้อรั้นดึงดัน เห็นได้ชัดว่านางถูกใจสร้อยเส้นนี้ตั้งแต่แรก ยังจะทำเป็นใจกว้างหน้าใหญ่ ช่างน่าหงุดหงิดเสียจริง นางเตือนไปหลายครั้ง แต่กู้ชูหน่วนก็ดึงดันจะเอาเพียงแค่สร้อยเส้นนั้นอย่างเดียว ทั้งยังบอกอีกว่านางดวงแข็ง นางจึงทำได้เพียงแค่ร้อนใจ เดิมทีสถานการณ์ก็แย่อยู่แล้ว ที่แย่กว่านั้นคือ องค์หญิงตังตังยังจะแทรกขึ้นมาอีกประโยค "โธ่ เสด็จแม่ ในเมื่อนางอยากได้สร้อยเน่าๆ เส้นนั้น ก็ให้นางไปเถอะ อย่างไรพวกเราก็เตือนนางแล้ว แต่นางยังยืนกรานอยากได้ ต่อไปหากเกิดเรื่องอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว" ไทเฮาถลึงตาใส่องค์หญิงตังตัง นางคลอดลูกสาวไร้สมองจอมล้างผลาญออกมาจริงๆ หยกจันทร์เสี้ยวก็ถูกกู้ชูหน่วนหลอกไปแล้ว แม้แต่ดวงตารูปหัวใจก็ยังจะถูกกู้ชูหน่วนหลอกเอาไปอีกหรือ นี่เป็นถึง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 573

    คลังสมบัติไม่ใหญ่มาก อีกทั้งของด้านในยังน้อยจนน่าสงสาร นางหาจนทั่วไปแล้วรอบหนึ่ง ก็ยังไม่เจอดวงตารูปหัวใจ จึงอดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้ เห็นนางมุ่นคิ้ว องค์หญิงตังตังรู้สึกเพียงแค่เสียหน้า ในใจไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก ไทเฮากลับทำเป็นมองไม่เห็น ยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้มดังเดิม "หานอ๋องเฟย ไม่รู้ว่ามีเครื่องประดับที่ถูกใจท่านบ้างหรือไม่ หากมีก็เอาไปได้เลย" ฮ่องเต้เย่เองก็รู้สึกเสียหน้าไม่น้อย เขาจึงเอ่ยออกมา "หากเจ้าไม่ถูกใจ เช่นนั้นไปดูที่คลังสมบัติของข้า แล้วเลือกเอาไปสักสองสามชิ้นก็ได้" "ข้าขอดูให้ดีอีกหน่อยแล้วกัน" กู้ชูหน่วนดูอย่างละเอียด ทุกกล่องที่ใส่เครื่องประดับอยู่ล้วนแต่หาอย่างละเอียด แม้จะเป็นกล่อง หรือชั้นวางที่ไม่มีเครื่องประดับอยู่ นางก็ตั้งใจหาจนหมด ทุกคนไม่เข้าใจว่านางต้องการอะไรกันแน่ กล่องและชั้นเหล่านั้นไม่มีของสิ่งใดอยู่ด้านใน มีเพียงไทเฮาที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เป็นอย่างที่คิด เจตนาของนางไม่ได้อยู่ที่สิ่งนี้แต่แรก กู้ชูหน่วนหาจนทั่วทุกซอกทุกมุมอยู่ทั้งหมดสามรอบ แต่ก็ไม่เจอเครื่องประดับที่เกี่ยวกับดวงตารูปหัวใจเลยสักชิ้น จึงอดผิดหวังไม่ได้ ของเกือบทั้งคลัง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 572

    เย่จิ่งหานนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะเสริมขึ้นมาอีกประโยค "ส่งคนออกไปหาเครื่องประดับที่ดีที่สุดในใต้หล้า แล้วส่งไปให้พระชายาพร้อมกันให้เร็วที่สุด" นิ้วเรียวยาวที่กำลังลูบผมดำเงาราวกับไหมของหัวหน้าเผ่าหมอชะงักงัน บนใบหน้าหล่อเหลาราวกับมารร้ายฉายความไม่พอใจ "เสียแรงที่เย่จิ่งหานร่ำรวยมั่งคั่ง กิจการ กองกำลังมีอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า ทว่ากลับไม่มีปัญญาซื้อเครื่องประดับสักชิ้น เซวี่ยซา ไปซื้อเครื่องประดับที่ดีที่สุดในเมืองหลวงมาแล้วนำไปให้พี่สาว" "ทั้งเมืองหลวง ?" "ใช่ แล้วส่งคนไปค้นหาเครื่องประดับที่ดีทีสุดในใต้หล้ามา นำไปให้พี่สาว" "ขอรับ......" เซวี่ยซาแอบเงยหน้าขึ้นมา ทว่ากลับเห็นดวงตาที่สีต่างกันคู่นั้นของนายตัวเองฉาบไปด้วยรอยยิ้ม สะท้อนเพียงแต่ร่างสีแดงเพลิงของกู้ชูหน่วน เขาจินตนาการได้เลยว่า พวกเขาและเย่จิ่งหานได้มีสงครามใหญ่กันแน่ ซ่างกวานฉู่หยิบปิ่นระย้าออกมาจากอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว ปิ่นระย้าทำจากหยกสีขาวดุจหิมะ ใสสว่างพร่างพราว มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นหยกน้ำดี ปลายปิ่นระย้าสลักรูปผีเสื้อคู่กางปีกขนาบกัน ด้านล่างผีเสื้อมีลูกปัดหยกชั้นดีห้อยอยู่ ปิ่นระย้าด้ามนี้ เมื่อมอง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 571

    "องค์หญิงตังตัง ไม่ทราบว่าตอนนี้จะข้าเลือกเครื่องประดับจากตำหนักเจ้าสักชิ้นได้หรือไม่" องค์หญิงตังตังอัดอั้นจนหน้าแดงก่ำ แต่ก็เค้นคำพูดไม่ออกสักคำ ทำได้เพียงแค่กัดฟันเห็นด้วย "ก็แค่เครื่องประดับชิ้นเดียว หรือคิดว่าข้าแพ้ไม่เป็นหรืออย่างไร เครื่องประดับในตำหนักองค์หญิงเจ้าเลือกตามใจชอบเลย ขอแค่เจ้าถูกใจ ก็หยิบไปได้เลย ข้าไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด" ไทเฮาสงสัยว่ากู้ชูหน่วนจะคิดไม่ดี จวนหานอ๋องอยากได้เครื่องประดับเช่นใดก็หามาได้หมด แต่กลับต้องการเครื่องประดับของตังตัง เกรงว่าจะมีแผนการแฝงอยู่ นางกำลังจะปฏิเสธ คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงตังตังตกปากรับคำไปแล้ว อีกทั้งยังตอบตกลงอย่างง่ายดายขนาดนั้น เจ้าลูกสาวโง่ ตกหลุมพรางแล้วยังไม่รู้ตัวอีก นางพูดออกมาหนักแน่นชัดเจนขนาดนั้น ขืนนางห้าม ก็จะทำให้นางดูเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ไทเฮาทำได้เพียงแค่ส่งสายตา ให้บ่าวรับใช้เก็บเครื่องประดับที่มีราคาเอาไว้ก่อน นางเดาไม่ออกว่ากู้ชูหน่วนต้องการเครื่องประดับชิ้นไหนกันแน่ จึงทำได้เพียงเท่านี้ กู้ชูหน่วนเหลือบไปเห็นขันทีข้างกายไทเฮาเดินออกไปด้วยความรีบร้อน รอยยิ้มจึงเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย "ข้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 570

    ไม่ไกลออกไป เย่จิ่งหานอยู่ในชุดคลุมสีม่วง เขาเห็นทุกเหตุการณ์ของกู้ชูหน่วน หัวใจที่เดิมก็เต็มไปด้วยความชื่นชม ไมรู้ว่าเจริญงอกงามจนเปี่ยมล้นตั้งแต่เมื่อใด นอกจากกู้ชูหน่วน ก็มีแต่กู้ชูหน่วน เดิมที เขาได้ยินว่าไทเฮารังแกนาง ตั้งใจจะมาหนุนหลังให้นาง แต่นางไม่จำเป็นการหนุนหลังแต่อย่างใด นางตัวคนเดียวก็สร้างหน้าตาได้มากพอแล้ว ภรรยาของเขาก็เป็นเช่นนี้ ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระไร้กังวล กล้าหาญชาญชัย เย่จิ่งหานรู้สึกว่าตนมีหน้ามีตาขึ้นเป็นเท่าตัว ได้ภรรยาเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเป็นเกียรติไปด้วย ตั้งแต่ที่ฮ่องเต้น้อยขึ้นครองราชย์ก็คอยหาเรื่องเขาทุกทาง ครั้งนี้นับว่าได้ทำเรื่องดีบ้างแล้ว เห็นแก่ที่เขายกกู้ชูหน่วนให้ตน เหตุการณ์วิกฤตจากแคว้นหวา ตนจะช่วยเขาสักแรง นอกจากเย่จิ่งหาน อีกมุมหนึ่ง ยังมีบุรุษสวมชุดขาวดุจหิมะ ท่าทางสุภาพเรียบร้อยและอ่อนโยนมองดูนางอยู่ตลอด สายตาของซ่างกวานฉู่ซับซ้อน ความรู้สึกในใจยากจะอธิบาย ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้น สะท้อนทุกสีหน้าทุกรอยยิ้มของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าคิดถึงสิ่งใด ใบหน้าของเขาพลันแดงระเรื่อ สีหน้าที่มองไปยังกู้ชูหน่วนมีความกระอักก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 569

    กู้ชูหน่วนปลดอานม้าทั้งหมดออก แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า ท่าทางคล่องแคล่วปราดเปรียว ไม่ว่ามองอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ไม่เคยขี่ม้ามาก่อน ทว่ากู้ชูหน่วนกลับพูดพึมพำคนเดียว "เห็นคนอื่นขึ้นม้าแล้วดูสบายนัก เหตุใดข้าเกือบจะขึ้นไม่รอด ยังดีที่เจ้าเตี้ย ไม่เช่นนั้นข้าได้หน้าทิ่มไปแน่" ประโยคนี้ทำให้ผู้คนมึนงง แท้จริงแล้วนางขี่ม้าเป็นหรือไม่ กู้ชูหน่วนหยิบคันธนู ก่อนจะหยิบลูกธนูสิบดอกขึ้นมาลอง ลองอยู่หลายครั้งก็หาความรู้สึกไม่เจอ ลูกธนูสิบดอกเยอะเกินไป มือเล็กๆ ของนางรวบไม่หมดด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยิงออกไปเลย ทุกคนมองดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เช่นนี้จะยิงอย่างไรเล่า ที่สำคัญที่สุดคือ นางถอดอานม้าออกมาเพื่อสิ่งใด มีเพียงแค่องค์หญิงตังตังและไทเฮาที่กำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ผู้อื่น "ดูเหมือนจะยิงไม่ง่ายเท่าไหร่ เจ้าม้า พวกเราสู้ไปด้วยกันเถอะ" ทันใดนั้นเอง กู้ชูหน่วนดึงเชือกม้า แล้วควบลูกม้าสีดำพุ่งไปทางห่วงไฟอย่างกะทันหัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ ราวกับลูกธนูหลุดออกจากสาย พุ่งผ่านห่วงไฟไปทีละห่วงเพียงชั่วพริบตา ในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็หยิบลูกธนูขึ้นมาสิบลูก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status