บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องกำลังช่วยกันดับไฟ ผมของกู้ชูหน่วนถูกระเบิดจนยุ่งเหยิง ราวกับรังไก่ ชิงเฟิงจัดให้นางไปอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกห้องหนึ่งภายในห้อง กู้ชูหน่วนมองกล่องยาชำระไขกระดูกขนาดใหญ่ตรงหน้า ทั้งกังวลและโล่งใจกังวลคือยาชำระไขกระดูกยังห่างไกลจากผลลัพธ์ที่นางต้องการโล่งใจคือในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว"ชิวเอ๋อร์ ไปเฝ้าหน้าประตู ห้ามให้ใครเข้ามา รวมถึงท่านอ๋องด้วย""คุณหนู ท่านจะทำอะไรอีกแล้วหรือเจ้าคะ?"ชิวเอ๋อร์กลัวจนตัวสั่น ชีวิตของคุณหนูเกือบจะจบสิ้นแล้ว นางคงไม่คิดที่จะปรุงยาอีกแล้วใช่หรือไม่"เจ้ารู้อะไร รีบออกไปเถิด""แต่ว่า......"ก่อนที่ชิวเอ๋อร์จะพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ผลักนางออกไป แล้วนั่งขัดสมาธิบนเตียง หยิบยาชำระไขกระดูกในกล่องตรงหน้ามากินหนึ่งเม็ดความร้อนไหลขึ้นมาจากตันเถียน แต่ชีพจรยุทธไม่เปิดออกเสียทีกู้ชูหน่วนกินอีกหลายเม็ด ความร้อนในตันเถียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เส้นลมปราณทั้งเจ็ดและแปดเส้นรู้สึกสบาย แต่ชีพจรยุทธยังคงไม่เปิดออกนางขมวดคิ้ว "ใช้สมุนไพรที่คล้ายกันมาทดแทน ผลลัพธ์ก็ยังแตกต่างกันมาก ยาชำระไขกระดูกนี้แย่เกินไป"กู้ชูหน่วนกัดฟัน กลืนยาชำระไขกระ
ครั้งนี้ นางใช้โชคเข้าปะทะชีพจรยุทธ ทุกครั้งที่ใกล้จะทะลวงชีพจรยุทธได้สำเร็จ นางจะคว้ายาชำระไขกระดูกจำนวนมากมากินเพื่อเพิ่มพลังงานเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ทุกครั้งที่นางเพิ่งจะเปิดรอยแยกได้ ก็จะปิดลงทันที กู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ นางทะลวงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็เปิดชีพจรยุทธได้สำเร็จ"เฮือก......"เลือดสดอีกคำไหลหยดออกมา คนอื่นทะลวงชีพจรยุทธแล้วจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว มีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่นางกลับเหมือนหนีความตายมาได้ และเกือบเอาชีวิตนางไปกู้ชูหน่วนคราบเลือดติดมุมปาก แต่นางก็แย้มรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมานางพยายามใช้โชคหมุนเวียนพลังงานภายในร่างกาย เปลวไฟกลุ่มหนึ่งในตันเถียนของนางกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และร่างกายของนางก็เบาขึ้นกว่าเดิมมากนางมีพลังภายในแล้ว...... แม้ว่าพลังภายในจะอ่อนแอมากก็ตาม......การเปิดชีพจรยุทธบ่งชี้ว่านางสามารถฝึกวิชายุทธได้แล้วกู้ชูหน่วนหายใจออกมายาวและเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาอีกครั้งยายกระดับเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพลังภายในอย่างรวดเร็วและทะลวงผ่านหนึ่งขั้นได้กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจขึ้นมา"ชิงเฟิง"ชิงเฟิงทำหน้าบูดบึ้ง "พระชาย
"ทูลพระชายา นายท่านไปพำนักที่เรือนชิวเฟิงชั่วคราว อีกสองสามวันก็จะกลับมาแล้ว"เรือนชิวเฟิง ?ไปที่นั่นทำไม"เขาได้รับบาดเจ็บหรือ" กู้ชูหน่วนถามอย่างระแวดระวัง"หามิได้ นายท่านไม่ได้ไปที่เรือนชิวเฟิงมาระยะหนึ่งแล้ว จึงอาจอยากอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน ข้าน้อยก็ไม่ทราบแน่ชัด หน้าที่ของข้าน้อยคือปกป้องคุ้มครองพระชายา"กู้ชูหน่วนกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย รู้สึกอยู่ตลอดว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นงานประชุมสวินหลงที่สำนักบัณฑิตหลวงจะจัดผลัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งผลัดมาจนถึงวันนี้นางเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าเจ็ดวันก่อน นางรับปากเสี่ยวลู่ ลานประมูลเฟิงเซียงไว้แล้วว่าวันนี้จะไปตามเวลาที่นัด แต่หากไปลานประมูลเฟิงเซียง เช่นนั้นก็ไปร่วมงานประชุมสวินหลงไม่ได้ระหว่างที่นางกำลังลังเลว่าจะไปร่วมงานประมูลเฟิงเซียงหรืองานประชุมสวินหลงดี บ่าวรับใช้ก็เข้ามารายงานกะทันหัน"พระชายา ลานประมูลเฟิงเซียงส่งข่าวมาว่า ยกเลิกงานประมูลวันนี้ เลื่อนไปจัดในอีกสิบวันให้หลัง ลานประมูลขอเชิญท่านไปเข้าร่วมในอีกสิบวันข้างหน้า"บังเอิญเพียงนี้เลยรึหรือลานประมูลเฟิงเซียงจะรู้ว่าวันนี้นางอยากไปร่วมงานประชุมสวินหลง
"เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า"เซียวอวี่เชียนถอนหายใจยาวเหยียดตอนนั้นเทพสงครามฉุนเฉียวเช่นนั้น เขาคิดว่ายัยขี้เหร่จะต้องไม่ได้มีจุดจบที่ดีแน่หลายวันที่ผ่านมานี้ เขาพยามคิดหาหนทางหนีออกไปจากจวนแม่ทัพเพื่อไปเยี่ยมยัยขี้เหร่ที่จวนหานอ๋อง แต่ช่วยไม่ได้ที่ถูกปิดตายอยู่ในห้อง ไม่ว่าเขาจะคิดหาทนทางเพียงไรก็หนีออกไปไม่ได้"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"เขาพูดพลางเหลือบไปมองหน้าท้องของนางปราดหนึ่งนี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เหตุใดท้องของนางยังแบนราบเช่นนี้ หรือสารอาหารจะไม่เพียงพอแต่สีหน้าของนางดูเหมือนจะดีกว่าแต่ก่อนเยอะ แม้แต่ราศีที่เปล่งออกมาก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนที่ใช้ชีวิตอย่างตรอมตรมเลยสักนิด"เหลือเวลาอีกเท่าไหร่กว่าจะถึงพิธีแต่งงานของเจ้า""งานประชุมสวินหลงเสร็จสิ้นก็ต้องจัดแล้ว แต่เจ้าวางใจ ข้าไม่มีทางแต่งกับนางเด็ดขาด"กู้ชูหน่วนแค่นหัวเราะ "แน่นอนว่าแต่งกับนางไม่ได้"ผู้ที่มารยาร้อยเล่มเกวียน ประพฤติไม่ชอบอย่างกู้ชูอวิ๋น จะแต่งมาทำอะไร"ยัยขี้เหร่ เจ้าไม่อยากให้ข้าแต่งกับนางจริงๆ ใช่หรือไม่"เอิ่ม......เซียวอวี่เชียนจะตื่นเต้นขนาดนี้ไปทำไมในฐานะเพื่อน นางย่อมไม่อยากให้เซียวอวี่เชียนแต
กู้ชูอวิ๋นเยื้องย่างอ่อนโยน โน้มตัวเล็กน้อย ก่อนจะแสดงความเคารพด้วยท่าที่ตรงตามมาตรฐานหนึ่งที น้ำเสียงไพเราะกังวาน "ชูอวิ๋นคาราวะหานอ๋องเฟย และคุณชายเซียว"เซียวอวี่เชียนหันหน้าไปทางอื่น ส่งเสียงค่อนแคะในลำคอ ขี้เกียจแม้แต่จะชายตามองกู้ชูอวิ๋นสักครั้งท่าทางทั้งหมดนี้ของเซียวอวี่เชียนแสดงให้เห็นว่าเซียวอวี่เชียนรังเกียจกู้ชูอวิ๋น ไม่อยากจะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นตงฟางเจ๋อที่มีนิสัยค่อนข้างใจร้อน พลันเดือดดาลทันที "คุณหนูรองกู้ใจกว้างโอบอ้อม ทำความเคารพพวกเจ้าด้วยความสุภาพ ทว่าพวกเจ้ากลับจองหอง จงใจทำตัวอยู่เหนือกว่า พวกเจ้าคิดว่าฐานะของตนสูงส่งถึงได้ดูถูกทุกคนเช่นนั้นหรือ"ตงฟางเจ๋อไม่ได้พูดว่าเจ้า แต่เป็นพวกเจ้า เหมารวมกู้ชูหน่วนเข้ามาด้วยเซียวอวี่เชียนกำลังจะระเบิดอารมณ์ ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาไว้ นางก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สองมือกอดอก ในปากคาบดอกหญ้าหนึ่งต้น ท่าทางอวดเบ่งและบ้าบิ่น“สหาย หากเจ้ามีฐานะเช่นพวกข้า เจ้าก็ทำตัวสูงส่ง ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นได้เหมือนกัน”ซี้ดดด...ทุกคนต่างก็สูดหายใจเข้าลึกด้วยความตะลึงตงฟางเจ๋อเป็นถึงยอดฝีมือขั้นหนึ่ง แม้ชาติตระกูลจะสู้
บนเวทีแสดงวิทยายุทธสำนักบัณฑิตหลวง เหล่าบัณฑิตที่มาเข้าร่วมงานประชุมสวินหลงยืนเรียงกันเป็นห้าแถว อาจารย์บุ๋นบู๊สิบกว่าคนยืนอยู่บนเวที ปากอ้าๆ หุบๆ แนะนำกฎของงานประชุมสวินหลง"บัณฑิตที่มายืนอยู่ ณ ที่นี้ได้ ล้วนแต่เป็นผู้ที่สำนักบัณฑิตหลวงคัดสรรมาอย่างดี ปีที่ผ่านมามีเพียงบัณฑิตปีนั้นๆ เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมงานประชุมสวินหลงได้ แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อที่จะเฟ้นหาผู้มีความสามารถ จึงได้อนุญาตให้บัณฑิตยอดเยี่ยมของปีก่อนๆ ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน""เขาสวินหลงเป็นหุบเขาแห่งมหาสมบัติของแคว้นเย่ ทุกคนต่างรู้ดี ในอดีตโบราณกาล ที่นั่นเคยเกิดสงครามใหญ่หลายครั้ง ถือเป็นร่องรอยของสนามรบที่หลงเหลือจากโบราณมา ข้างในไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์ป่าดุร้าย ดอกไม้ประหลาดหรือหญ้าพิษ ยังมีสมบัติต่างๆ ที่หลงเหลืออยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าขั้นสองขึ้นไป หากโชคดี อาจหาสมบัติล้ำค่าขั้นสี่เจอก็เป็นได้""ไม่ว่าพวกเจ้าจะพบสมบัติล้ำค่าใดในเขาสวินหลง ล้วนแต่จะกลายเป็นของพวกเจ้าเอง หากพวกเจ้าโชคไม่ดี ไม่พบสิ่งใดเลย เช่นนั้นก็จะไม่ได้อะไรเลย พวกเจ้ามีเวลาในเขาสวินหลงสามวัน หลังจากสามวัน งานประชุมสวินหลงครั้
มองออกไป เหล่าบัณฑิตของสำนักบัณฑิตหลวงกระจัดกระจายกันไปตามยอดเขาต่างๆไม่ไกลออกไปจากพวกเขา จู่ๆ ก็มีเสียงร้องตกใจดังขึ้น "คุณพระช่วย หลี่เหิงพบใบอู๋หย่าเซียนแล้ว โชคดีอะไรเช่นนี้ เพิ่งจะเข้ามาถึงเขาสวินหลงก็พบของล้ำค่าที่ดีเช่นนี้แล้ว น่าอิจฉายิ่งนัก""นั่นน่ะสิ ใบอู๋หย่าเซียนเป็นสุดยอดยาสมุนไพรที่นำไปกลั่นเป็นยาเม็ดได้ ตามที่ได้ยินมาขอเพียงแค่มีใบอู๋หย่าเซียน ก็จะสามารถกลั่นยาชั้นสูงได้อย่างง่ายดาย ผู้คนตั้งมากมายวอนขอเท่าใดก็ไม่อาจได้มา เขาโชคดีเสียจริง""ไปๆๆ พวกเราก็รีบไปตามหากันเถอะ ดูสิว่ายังมีสมบัติล้ำค่าดีๆ อะไรอีกบ้างหรือไม่"อวี๋ฮุยพูดด้วยความอิจฉา "หลี่เหิงทำบุญมาด้วยอะไร มาถึงก็เจอของดีขนาดนี้"หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยอยากไปลองหาในที่ที่หลี่เหิงเพิ่งเจอของล้ำค่าเมื่อครู่นี้อย่างละเอียดอีกที ดูว่าจะเก็บสิ่งใดที่เล็ดลอดไปได้บ้างหรือไม่ ทว่ากู้ชูหน่วนกลับกระชากพวกเขาเอาไว้ด้วยมือเดียว แล้วดึงพวกเขาไปซ่อนที่ด้านล่างเนินเขาเพิ่งจะซ่อนเสร็จ พลันมีแรงฝ่ามือพุ่งมาจากไกลๆ กระแทกเข้ากลางหลังหลี่เหิงอย่างจัง"เฮือก......"เขากระอักเลือดออกมา พลางมองไปทางคนร้ายตงฟางเจ๋ออย่างไม่เชื่อสา
กู้ชูหน่วนดวงตาฉายประกายวับหนึ่ง ก่อนจะจ้องไปที่กระดิ่งภินวิญญาณไม่รู้เพราะเหตุใด นางมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่ากระดิ่งภินวิญญาณสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ชี้ให้นางเดินไปด้านหน้าด้านหน้ามีบัณฑิตของสำนักบัณฑิตหลวงรวมตัวอยู่จำนวนไม่น้อย พร้อมทั้งมีเสียงร้องตกใจที่หาของล้ำค่าเจอออกมาจากในนั้นอวี๋ฮุยพูดด้วยความร้อนรน "ลูกพี่ พวกเราก็ไปดูกันเถอะ ดูว่าจะเจออะไรบ้างหรือไม่""จะรีบร้อนไปใย ที่แห่งนี้มีมุมอับซ่อนเร้นอยู่ ฝั่งซ้ายมือไม่ไกลออกไปยังมีถ้ำอีกแห่ง พวกเราไปที่ถ้ำกันก่อน""ห้ะ...ไปที่ถ้ำทำไม"เซียวอวี่เชียนเขกกะโหลกพวกเขาคนละที "ยัยขี้เหร่สั่งให้พวกเจ้าไป พวกเจ้าก็ไป เหตุใดถึงมากความเช่นนี้"ทั้งสี่คน ชายสามหญิงหนึ่งเดินย่องเข้าไปถึงถ้ำ ถ้ำไม่ใหญ่มาก จุได้เพียงแค่พวกเขาสี่คน รอบๆ ที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นผนังดิน หลิ่วเยว่อวี๋ฮุยพลิกแผ่นดินหาอยู่ครึ่งค่อนวันก็ไม่เจอของล้ำค่าใด ในใจเริ่มร้อนรนขึ้นมาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนหยิบขวดยาออกมาสิบกว่าขวด โยนลงตรงหน้าพวกเขา "แบ่งกันเองแล้วกันนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่เสมอ มีแค่แข็งแกร่งพอ ถึงจะไม่โดนผู้อื่นรังแก"เซียวอวี่เช
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ