แชร์

อี้เหยา

ผู้เขียน: จันทร์ส่องแสง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-10 12:05:09

ไป๋ฮวาเงยหน้าขึ้นจากสมุดวาดภาพ พู่กันยังค้างกลางอากาศ ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะประดับใบหน้า

"โอ๊ะ...เจ้ากบน้อยของข้า เหตุใดถึงมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเยี่ยงนี้เล่า?"

เสียงใสนั้นดังขึ้นพร้อมกับดวงตาเป็นประกายยียวน ไป๋อวี้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ชะงัก ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นหนักยิ่งกว่าเดิม

“กบอะไรกัน ข้าเป็นบุรุษรูปงามนะพี่สาว”

“ฮึรูปงามก็มิใช่ว่าจะไม่กลายเป็นกบได้เสียเมื่อไร” ไป๋ฮวาหัวเราะเบาๆ

ไป๋ฮวายิ้มเศร้าๆ พอเห็นพี่สาวหัวเราะ เขาก็ถอนใจ ยกมือปิดหน้าตัวเอง

“ข้า...ข้าเพียงแค่... ข้าเสียใจที่พูดไม่ดีใส่นางเท่านั้นเองพี่เรียกข้าว่ากบน้อยจนเกือบลืมเรื่องในใจข้าไปเลย” เสียงเขาเบาลง

“ถึงวันที่เจ้ากบของข้ากลายร่างเป็นเจ้าชายไงเล่า แต่ก่อนอื่น เจ้าควรขอโทษหญิงสาวผู้นั้นอย่างจริงใจ...ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกผิด แต่ด้วยความเคารพในตัวนาง”

ไป๋อวี้พยักหน้าช้าๆ

“ดีมาก เจ้ากบของข้า” ไป๋ฮวาแกล้งลูบหัวน้องชายด้วยมือเย็นๆ ของตนไป๋อวี้สะดุ้งจนแทบกลิ้งตกระเบียง

“พี่สาวเลิกเรียกข้าแบบนี้เสียที”

“ไม่ล่ะ ข้าชอบคำนี้นี่นา”

ความกังวลในใจของทั้งสองดูจะจางไปเล็กน้อย…เพราะแม้โลกภายนอกจะซับซ้อนเพียงใด แต่ระหว่างฝาแฝดนี้ ยังม
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ผิดแผน

    ฟ้าครามยามสายทอดรัศมีอบอุ่นลงบนหลังคากระเบื้องสีดินเผาของเมืองใหญ่ เสียงขานเร่ขายสินค้าตามตลาดย่านกลางเมืองหลวงดังกระจาย ปะปนด้วยเสียงหัวเราะของผู้คนและกลิ่นหอมของอาหารตามซุ้มแผงขาย ทั้งสี่คนในคราบชาวบ้านธรรมดา ไป๋อวี้ จินเว่ย ซางหลาง และไป๋ฮวา ต่างแต่งกายเรียบง่าย ปกปิดฐานะและสถานะของตนอย่างมิดชิดเพื่อจะได้เดินเล่นชมตลาดอย่างเป็นอิสระไร้พิธีรีตองไป๋ฮวาเดินนำหน้าอย่างร่าเริง ใบหน้าเปื้อนยิ้มกับผลไม้หวานฉ่ำและของเล่นจากไม้ไผ่ตามแผงขายข้างทาง เสียงหัวเราะใสๆ ของไป๋ฮวาเปรียบเสมือนเสียงระฆังเงินที่ทำให้ผู้คนหันมามองด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าหยิบจับสิ่งใดสองไท่จือก็มักจะแย่งจ่ายเงิน"เจ้ากบน้อย! ดูนี่สิ ข้าเจอพัดเขียนบทกวีจากเมืองทางใต้!" ไป๋ฮวาโบกมือเรียกไป๋อวี้ที่เดินช้าตามหลังไป๋อวี้เลิกคิ้วทำท่าทีสนใจ พัดที่วาดลวดลายงดงามบนนั้น“แมวขี้กังวลแบบเจ้า ไยถึงยังสนใจของเล่นเด็กอยู่ได้”“แมวก็ยังเป็นแมว แม้จะอยู่ในคราบขุนนาง ข้าย่อมรักสิ่งน่ารักเสมอ” ไป๋ฮวาหัวเราะคิกคัก สะบัดพัดไม้ไผ่ไปมาพร้อมกับรอยอิ้มไม่ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งโฉบลงจากหลังคาอย่างรวดเร็วพอๆ กับเงาสะบัดของผ้าแพรดำลอยวูบ ใครบางคนคว้

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   แผน

    ในห้องพักที่ประดับด้วยม่านบางเบาและกลิ่นดอกเหมยหอมอ่อนๆ... สองพี่น้องตระกูลจางนั่งเคียงกันบนเบาะผ้านุ่ม ตรงหน้าเป็นกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพพวกนางราวภาพวาดอี้หลินเอนตัวลงพิงหมอนข้าง อี้เหยาปักผ้าด้วยลายปักงดงามในมือมองพี่สาวด้วยสายตาสดใสซุกซน"พี่หลิน ท่านว่า...หากเราแลกชุดกัน สลับบทกันสักวันหนึ่ง อ๋องน้อยไป๋อวี้จะจำได้ไหมว่าใครเป็นใคร?"อี้หลินชะงักเล็กน้อย ดวงตาคมหันมามองน้องสาว ก่อนจะแย้มยิ้มบางอย่างรู้ทัน"หรือเจ้ากำลังหมายตาเขาถึงอยากจะพิสูจน์ใจเขากัน""ข้าเปล่าสักหน่อย" อี้เหยาตอบเสียงเบาหน้าเง้า "เพียงแต่...เขามองข้าด้วยสายตาก็พอจะอ่านสายตาเขาออก เขามองเพียงรูปลักษณ์ มากกว่าอย่างอื่น"อี้หลินหัวเราะเบาๆ "เป็นธรรมดาน่าชายหนุ่มทั้งแคว้นเป็นเหมือนกันหมด ยิ่งอ๋องน้อยรูปงามอย่างเขา ย่อมเคยมีหญิงงามล้อมหน้า แค่เจ้าก้าวเข้ามา ก็เหมือนแมลงเม่าพุ่งเข้ากองเพลิง เขามองเจ้าไม่ต่างจากหญิงงามทั่วไปที่เห็นเพียงใบหน้างดงามก็อยากจะเสวนาด้วย"อี้เหยาขมวดคิ้วเบาๆ "หากเขารู้ว่าอีกคนคือพี่...เขาควรเศร้าหรือหัวเราะดีในเมื่อ"อี้เหยาปักเข็มในมือลงบนผ้าวางไว้ข้างตัว หันมามองอี้หลิน"เช่นนั้นเราก็ล

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   อี้เหยา

    ไป๋ฮวาเงยหน้าขึ้นจากสมุดวาดภาพ พู่กันยังค้างกลางอากาศ ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะประดับใบหน้า"โอ๊ะ...เจ้ากบน้อยของข้า เหตุใดถึงมานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเยี่ยงนี้เล่า?"เสียงใสนั้นดังขึ้นพร้อมกับดวงตาเป็นประกายยียวน ไป๋อวี้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ชะงัก ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นหนักยิ่งกว่าเดิม“กบอะไรกัน ข้าเป็นบุรุษรูปงามนะพี่สาว”“ฮึรูปงามก็มิใช่ว่าจะไม่กลายเป็นกบได้เสียเมื่อไร” ไป๋ฮวาหัวเราะเบาๆ ไป๋ฮวายิ้มเศร้าๆ พอเห็นพี่สาวหัวเราะ เขาก็ถอนใจ ยกมือปิดหน้าตัวเอง“ข้า...ข้าเพียงแค่... ข้าเสียใจที่พูดไม่ดีใส่นางเท่านั้นเองพี่เรียกข้าว่ากบน้อยจนเกือบลืมเรื่องในใจข้าไปเลย” เสียงเขาเบาลง“ถึงวันที่เจ้ากบของข้ากลายร่างเป็นเจ้าชายไงเล่า แต่ก่อนอื่น เจ้าควรขอโทษหญิงสาวผู้นั้นอย่างจริงใจ...ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกผิด แต่ด้วยความเคารพในตัวนาง”ไป๋อวี้พยักหน้าช้าๆ“ดีมาก เจ้ากบของข้า” ไป๋ฮวาแกล้งลูบหัวน้องชายด้วยมือเย็นๆ ของตนไป๋อวี้สะดุ้งจนแทบกลิ้งตกระเบียง“พี่สาวเลิกเรียกข้าแบบนี้เสียที”“ไม่ล่ะ ข้าชอบคำนี้นี่นา”ความกังวลในใจของทั้งสองดูจะจางไปเล็กน้อย…เพราะแม้โลกภายนอกจะซับซ้อนเพียงใด แต่ระหว่างฝาแฝดนี้ ยังม

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ปกปิดหรือปกป้อง

    ลานหลังเรือนจวนอ๋องไร้พ่ายไป๋อวี้ยังคงเหม่อมองแนวพุ่มไม้ที่หญิงอัปลักษณ์หายลับไป เส้นเลือดบนแขนยังเต้นตุ๊บเบา ๆ เลือดยังไหลซึมใต้ผ้าพันแผลหยาบที่เขาพันไว้ลวก ๆเสียงหนึ่งดังแผ่วแทรกความเงียบ“อวี้เอ๋อร์...เอาแต่เหม่อมีเรื่องอะไรในใจเหตุใดจึงมีความลับกับแม่”เสียงของอ้ายฉิงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและห่วงใย ยามที่นางเดินเข้ามาใกล้ไป๋อวี้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนฝืนยิ้ม“ท่านแม่ ยังอยู่หรือ...ข้า...แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย”“มีใช่มีความรักหรอกหรือ” เฉิงอู่อ๋องที่เอามือไพล่หลังพูดยิ้มๆ“เสด็จพ่ออย่าล้อลูกเล่น”อ้ายฉิงยิ้มปรายตาไปทางเฉิงอู๋อ๋องที่ยังยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านหลัง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วแสร้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ท่านอ๋องเพคะ ท่านควรเสด็จกลับวังหลวงได้แล้ว หม่อมฉันจำได้ว่าเช้านี้มีราชโองการเร่งด่วนให้ถวายคำแนะนำเรื่องพิธีการใหญ่ใช่หรือไม่?”เฉิงอู๋อ๋องชะงัก “แต่ว่า…ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย”“ที่วังหลวงคงมีเครื่องเวยมากมายวันนี้ท่านอ๋องก็ไปเสวยร่วมกับฝ่าบาทสักเวลาส่วนทางนี้อ้ายฉิงจะดูแลเองเพคะ”“ขอรับนายหญิงเฉิงอู๋อ๋องจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ” จำต้องถอนใจแล้วเดินจากไปอย่างเชื่อฟังโดยดีทันท

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   หญิงอัปลักษณ์

    ลานฝึกกระบี่ของจวนอ๋องไร้พ่ายเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นท่ามกลางลมหนาวยามพลบค่ำไป๋อวี้ในชุดฝึกสีดำสะบัดปลายแขนเสื้ออย่างสงบนิ่งมือขวากุมกระบี่เหล็กจันทราแน่น เส้นผมปลิวตามแรงลมราวเทพสงครามฟาดฟันกระบี่ในมือเพื่อให้บางอย่างที่ฟุ้งซ่านวิ่งวนในหัวถูกขจัดออกไปไป๋อวี้ชะงักมือ เมื่อร่างหนึ่งในผ้าคลุมสีหม่นแทรกกายผ่านเงาไม้เข้ามาในเขตจวนใหญ่ได้อย่างน่าพิศวงไป๋อวี้ที่ยืนอยู่ริมระเบียงพลันชะงัก ดวงตาเหลือบไปเห็นร่างคุ้นเคยในหน้ากากแปลกตาเดินเข้ามาอย่างเงียบงันจากเงาไม้ หญิงสวมหน้ากากอัปลักษณ์ก้าวออกมาร่างสูงโปร่ง เคลื่อนไหวรวดเร็ว ดวงตาใต้หน้ากากวาววับเหมือนคมดาบซ่อนพิษ“เจ้า….เข้ามาทำไมในจวนอ๋องไร้พ่าย” ไป๋อวี้เอ่ยเสียงเรียบ“มาขอคำตอบหาคำตอบ...เกี่ยวกับหยกชิ้นนั้น” หญิงอัปลักษณ์เอ่ยดังๆ เสียงของนางเย็นเยียบแต่สั่นไหวประหลาด“พอเถอะ ข้าจะไม่อดทนกับเจ้าอีกแล้ว เจ้าที่ดูถูกและทนตนคิดว่าเก่งกว่าข้า” ไป๋อวี้ขยับเท้าก่อนแทงกระบี่พุ่งเข้าใส่ทันควัน!โลหะเสียดสีกันดังเฉียบ หญิงอัปลักษณ์ชักกระบี่ออกมาป้องกันการโจมตี แต่ไป๋อวี้ราวกับพายุพัดไม่หยุด ฝีเท้ารวดเร็วแวววับ กระบวนท่าหนักแน่นแต่แฝงลีลาเ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ตอนที่64ศึกดอกเหมย

    ห้องบรรทมเฉิงอู๋อ๋องกับอ้ายฉิง เฉิงอู๋อ๋องนั่งลงบนแท่นนอน มองหยกชิ้นงามในมือและจดหมายของตงเกาด้วยแววตาครุ่นคิด ขณะที่เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังใกล้เข้ามาอ้ายฉิงก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ แววตานุ่มนวลดุจผ้าฝ้าย“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องไม่ได้พูดเรื่องนี้กับอวี้เอ๋อร์จริงหรือ เรื่องคำมั่นก่อนหน้านั้น” เสียงของนางนุ่มนวล แต่มีน้ำหนักพอให้บุรุษผู้เคยบัญชาทัพยังต้องชะงักเฉิงอู๋อ๋องถอนหายใจเบา ๆ “ข้าคิดว่า ถึงเวลาที่เขาควรจะรู้…เด็กคนนั้นเฉลียวฉลาด และหยกสองชิ้นก็…เหมือนจะเปิดเผยบางอย่างด้วยตัวมันเอง”อ้ายฉิงส่ายหน้าช้า ๆ “ตงเกาและเจียวหยู เพิ่งฝากจดหมายมาเมื่อคืน พวกเขาอ้อนวอนให้เราช่วยปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน พวกเขาบอกว่า ลูกสาวของพวกเขา…ยังอยากพิสูจน์รักแท้ด้วยตัวเอง ไม่อยากให้โชคชะตาหรือคำมั่นเมื่อครั้งยังเยาว์มาผูกมัดใจอวี้เอ่อร์ทำให้เขาผูกใจว่าจะต้องรักนางหากแต่อยากให้เขารักนางด้วยหัวใจที่แท้จริง”เฉิงอู๋อ๋องหลุบตาลง สีหน้าปะปนระหว่างลังเลและรู้สึกผิด “หวางเฟยข้าเกือบทำผิดไปแล้วเกือบใจอ่อนกับเจ้าลูกกบนั่น แต่ข้ากลัวว่า หากรอช้าไป…อวี้เอ๋อร์อาจต้องเจ็บปวดจากความไม่รู้อาจเดินผิดทางและไม่เลือกอย่างท

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ตอนที่63คำสัญญา

    "ความสนุกนี้...ยังคงเป็นแค่การเริ่มต้นข้าอิจฉาพวกท่านจังที่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กด้วยกัน" หญิงอัปลักษณ์ในเงามืดคิดในใจ ขณะหลับตาลงเบา ๆ เพื่อเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้ในใจแต่สำหรับไป๋ฮวา...เธอกำลังมองไปที่พวกเขาทั้งสองด้วยรอยยิ้มละมุน รู้ดีว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังในโลกนี้จวนอ๋องไร้พ่ายอ้ายฉิงนั่งอยู่ในห้องหนังสือที่เงียบสงบแสงไฟจากตะเกียงไม้หอมส่องสะท้อนบนผืนกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะไม้เก่า ร่างคำสัญญาที่บรรจุข้อความสำคัญกำลังรอให้อ้ายฉิงรับรู้และยอมรับคำมั่นนั้นอีกครั้งเหลือบมองกระดาษที่ขยับตามแรงลมจากหน้าต่างที่เปิดเล็กน้อย สายลมเย็นพัดเข้ามามันทำให้หัวใจของอ้ายฉิงเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย คำสัญญานั้นยังคงอยู่ในใจของเสมอ"ตงเกา...เจียวหยู..." เสียงของอ้ายฉิงพร่าเลือน หญิงสาวเหลือบตามองร่างคำสัญญาที่อยู่ในมือ ทุกคำที่เขียนด้วยหมึกดำบนกระดาษเก่าแก่เสมือนจะมีชีวิตขึ้นมา ขับเคลื่อนอารมณ์ในใจของเธอได้ทุกครั้งที่เธอคิดถึงมันคำสัญญานั้นเป็นการผูกพันระหว่างสองสหายที่รักใคร่กันดั่งพี่น้อง "เจียวหยู บอกข้าเสมอว่าจะกลับมาในที่สุดเจ้าสองคนก็จากไปไม่กลับมา...ตงเกาท่านเองก็เช่นกันสินะคงใช้ชีว

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สายเปย์

    “นี่ๆๆๆ เจ้าซางหลางถือดีอย่างไรมาจับมือว่าที่ไท่จือเฟยของข้า” เว่ยจินตะโกนตามหลังไป๋อวี้ยกมือขึ้นตบที่ไหล่ของเว่ยจินเบาๆ อย่างปลอบใจ“ไม่ต้องเลยข้าไม่ยอมแพ้แน่ๆ” เว่ยจินประกาศก้องไท่จือเว่ยจินและไท่จือซางหลางก็ไม่ยอมแพ้ที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาใจไป๋ฮวาอย่างเต็มที่ ทั้งสองคนกลายเป็นสายเปย์ที่แข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใครที่ร้านหยก เว่ยจินพร้อมรอยยิ้มกว้างเดินเข้าไปข้างไป๋ฮวาด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะหยิบหยกสีม่วงใส่มือของเธอ"ไป๋ฮวาสิ่งนี้สำหรับคนสำคัญ ข้าขอให้เจ้ารับหยกนี้เป็นของขวัญจากข้า รับไว้เถอะนะ" เขาพูดอย่างใส่ใจ ขณะที่ตาเขากลับมีแววตาที่ท้าทายซางหลาง "หยกนี้มันพิเศษมาก นอกจากจะหายากแล้ว ยังมีพลังเสริมโชคอีกด้วย"ซางหลางหยิบหยกสีแดงใส่ในมือของไป๋ฮวาบ้างไป๋ฮวามองหยกในมือของเว่ยจิน และซางหลางก่อนจะยิ้มบางๆ “พวกท่านควรนำมันติดตัวไว้” ไป๋ฮวาส่งหยกคืนทั้งสองคน"ทำไมล่ะ เจ้านี่ใจแข็งชะมัดเลย" เว่ยจินพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น ดวงตาของเขาเหมือนจะชวนให้ไป๋ฮวารับเอาหยกชิ้นของเขาไว้ก่อนที่เธอจะตอบอะไร ซางหลางที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รอช้า เขาคว้ามือไป๋ฮวาอย่างอ่อนโยนแล้วยื่นของขวัญอีกชิ้นให้"ไป

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   แข่ง

    ในขณะที่ตลาดที่เต็มไปด้วยเสียงดังรื่นเริงจากการค้าขายของชาวบ้าน ไป๋ฮวาก็เดินไปเรื่อย ๆ ตรงไปยังร้านขนมหวานที่เธอชอบ ส่วนไป๋อวี้เดินเคียงข้าง แต่ความสนุกกลับเกิดขึ้นจากการที่ทั้งสองบุรุษหนุ่มที่มีท่าทีแปลกแยกต่างกันอย่างชัดเจนกลับเดินตามมาไม่ห่าง“ข้าล่ะชอบพวกเขาจริงๆ เลยพี่สาว” เดินเอามือไพล่หลังกระทุ้งศอกกระซิบกับไป๋ฮวาเบาๆ ไป๋ฮวาส่ายหน้ายิ้มๆ"ไป๋ฮวา!" ไท่จือเว่ยจินตะโกนพร้อมก้าวเข้ามาขวางหน้าหญิงสาวด้วยรอยยิ้มกว้าง เหมือนจะบอกว่าไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหน ข้าจะไปด้วยเสมอ ไม่ต้องห่วง! ข้าจะคอยดูแลเจ้าสายตาบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ"ท่านนี่จะว่าไปพูดอะไรดี ๆ แบบนี้กับหญิงงามเสมอ เสมอสินะ" ซางหลางพูดขึ้นเบาๆ เหมือนกับบ่นกับตัวเองเว่ยจินหัวเราะเสียงดังเหมือนจะไม่มีอะไรทำให้เขาลำบากใจได้ "ข้าแค่ห่วงนางน่ะ ทำไมต้องฝืนใจเล่าห่วงก็บอกว่าห่วงมิใช่ซางหลางที่เอาแต่วางมาดนิ่งขรึมให้หญิงงามเช่นไป๋ฮวาคิดไปเอง”ไท่จือซางหลางถอนหายใจยาว"ท่านอ๋องบิดาเจ้าชวนข้าเสวยเย็นด้วยข้าตามนางไม่ผิดแต่ไท่จือซางหลางไม่เอาเวลาไปเรียนรู้งานในราชสำนักเอาแต่ตามไป๋ฮวานี่สิแปลกไม่น้อยนี่" เว่ยจินพูดพร้อมยิ้มหล่อเหลา แต่แววตาข

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status