공유

โบยนาง

last update 최신 업데이트: 2024-10-11 10:51:06

“อย่างไรเสียนางก็แต่งเข้าไปในจวนอ๋องของเจ้าแล้ว เฉิงอู๋สามีภรรยาถูกใจหรือไม่ก็แค่ทำหน้าที่กันไป ชายาเอกของเจ้าแต่งมาร่วมปียังไร้ทายาทสืบสกุล บางทีมีชายารองอีกคนอาจมีลูกสมใจ”

พูดยิ้มๆ ไม่ได้มองว่าหวงเฉิงอู๋ มีสีหน้าเช่นไร

“ข้าไม่กดดัน แต่ด้วยกิริยาของอ้ายฉิงแม้ใบหน้านางจะไม่เป็นที่ต้องตา แต่ทว่าท่าทีชดช้อยนั้นบางทีเจ้าลองมองนางเสียใหม่อาจ เปลี่ยนความคิดของเจ้าได้”

หวงเฉิงอู๋ยังจำ น้ำเสียงหวานปานน้ำผึ้งป่าของอ้ายฉิงได้ดีหรือว่าสวรรค์เมตตาชดเชยให้นางกันแน่

“ไม่รักนางข้าไม่ว่า แต่สามีภรรยาอย่างไรสักวันก็ต้องร่วมเตียง ฮองเฮาเป็นห่วงเรื่องนี้ยิ่ง เฉิงอู๋เจ้านับถือฮองเฮาดุจมารดาหากเรื่องนี้นางได้ยินเข้าก็คงไม่สบายใจเพราะนางยังคิดว่าเจ้ามิใช่คนที่มองใครแค่เพียงภายนอกเท่านั้น อีกอย่างฮองเฮาเอ็นดูหลานคนนี้ยิ่งด้วยขาดแม่และยังมีใบหน้าอัปลักษณ์ไร้คนคบหา พากันตัดสินนางแค่เพียงภายนอก ฮองเฮามักจะพูดเรื่องนี้กับข้าบ่อยๆ นางหวังว่าเจ้าจะแตกต่างจากคนอื่น”.

ร่ายมาเสียยาว หวงเฉิงอู๋ถอนหายใจ

“หากข้า ไม่ยอมร่วมแท่นนอนกับนางก็เท่ากับข้าผิดกับฮองเฮาใช่หรือไม่”

น้ำเสียงยโสอย่างที่เคยทำ

“เรื่องนี้ยากจะแยกแยะผิ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

최신 챕터

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ลืมไปแล้วหรือว่าข้าคืออ๋องไร้พ่าย

    ทุ่งหญ้ากว้างนอกชายแดนเป่ยเหลียง ยามสายลมพัดสะบัดผืนธงราชวงศ์เหนือหลังม้า ขบวนเสด็จของฮ่องเต้โตวโฮฉิน เคลื่อนพลไปด้วยความสงบ องค์ฮ่องเต้ประทับอยู่กลางขบวน ริมข้างคือ ฮองเฮาจิวฮัว กับ เว่ยจิน ที่ขี่ม้าเคียงข้างมารดาเหล่าองครักษ์คุ้มกันแน่นหนา ทหารของ อ๋องไร้พ่าย เฉิงอู๋อ๋อง ยังคงตามมาไม่ทัน“เสด็จพ่อ ท่านลุงเฉิงอู่อ๋องร่วมเดินทางกับเราด้วยหรือ” เว่ยจินชักมามาเคียงข้างถามบิดาเบาๆ“แน่นอน ครั้งที่ที่ต้องเดินทางมาร่วมดื่มชามิใช่แค่ร่วมดื่มชาเราใช้งานดื่มชาเพื่อบังหน้า สินเดิมทั้งของเจ้าและของฮองเฮาข้าได้ส่งให้นำมาพร้อมเครื่องบรรณาการเพื่อฝากไว้ที่จวนอ๋องไร้พ่าย ที่ทำให้ผู้คนโจษจันกันว่าเราขนเครื่องบรรณาการมากมากมายด้วยเหตุนี้”“เสด็จพ่อรอบคอบจนลูกคิดไม่ถึง” โตวโฮฉินยิ้มเศร้าๆ ภัยคุกคามครั้งนี้ยากจะป้องกันในเมื่อทุกอย่างก่อตัวสั่งสมมานาน หากไม่อาจยื้บัลลังก์หรือชีวิตของข้าไว้ ขอเพียงเจ้าไท่จือกับแม่ของเจ้าฮองเฮา กลับไปที่แค้วนเป่ยเหลียงอย่างปลอดภภัยเฉิงอู่อ๋องจะไม่มีทางใฝห้เจ้าสองคนพบกันอันตรายแน่” เว่ยจินก้มหน้าเศร้าสร้อยก่อนหน้านั้นบิดาส่งเขามาท่แค้วนเป่ยเหลียงเขาที่เอาแต่เล่นสนุกๆ ไป

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ลาแล้วคนงาม

    ลานหน้าจวนอ๋องไร้พ่ายอบอวลด้วยกลิ่นดอกหลินเซียงที่โรยกลีบปลิวในสายลมยามค่ำนั้นงานเลี้ยงเลิกราไปเมื่อกว่าหนึ่งชั่วยามเจียวหยูยังช่วย สั่งการคนของจวนอ๋องให้เก็บกวาด อี้หลินกับอี้เหยาก็ลงแรงช่วยกันเก็บ กวาดขบวนราชรถแห่งแคว้นเป่ยเอียนจอดเรียงราย พร้อมนำเสด็จ โตวโฮฉินฮ่องเต้ และ ฮองเฮาจิวฮัว เสด็จกลับแคว้นท่ามกลางเสียงล่ำลาและความครึกครื้นหลังงานเลี้ยงเว่ยจินยืนแน่วแน่ ทว่าสีหน้ากลับเศร้าสร้อยราวสายหมอกในฤดูเหมันต์เว่ยจิน ก้มศีรษะลาทุกคนอย่างสง่างามก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าไป๋ฮวา“ไป๋ฮวา…” เสียงเขาเรียกแผ่วเบา แต่หนักแน่น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความอาลัย...ไม่ใช่ความสิ้นหวัง แต่เป็น ความยอมรับ ในสิ่งที่ไม่อาจบีบบังคับ“ข้าจะกลับแคว้นเป่ยเอียนพร้อมเสด็จพ่อและเสด็จแม่…” เขากล่าวช้าๆ“แต่ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ใด…ข้าก็จะคิดถึงเจ้าไม่สิพวกเจ้าเสมอ” อี้เหยาเง่ยหูฟังบทสนทนาจากที่ไม่ไกลนักไป๋ฮวายิ้มบาง ๆ แม้หัวใจจะชัดเจนในบางเรื่องแล้วแต่มิตรภาพยังคงอยู่ นางพยักหน้ารับคำเบา ๆ ไม่กล่าวสิ่งใดเพราะบางถ้อยคำ...แค่ยิ้มให้กันก็เพียงพอแล้วเว่ยจินโบกมือลา ลมหอบชายอาภรณ์สีมรกตให้พลิ้วไปตามทางเดินราวเงาไ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   รอยยิ้มงดงาม

    ในลานกว้างหน้าเรือนกลาง สายลมแห่งยามบ่ายยังพัดเอื่อยราวกระซิบขับกล่อมความรู้สึกขณะผู้ใหญ่สนทนากันอย่างสงบ ท่ามกลางสายตาทอดมองมายังเด็กๆเสียงหัวเราะใสๆ ดังขึ้นจากทางเดินด้านข้าง เป็นเสียงของ อี้เหยา ที่กำลังเดินเคียงมากับ เว่ยจิน ที่ยังคงวางท่าเงียบขรึมแต่ใบหน้าเริ่มผ่อนคลายมากขึ้นทุกทีเบื้องหลังอีกด้าน ไป๋ฮวา เดินพลางถือพัดแกะสลัก เดินเยื้องย่างเหมือนดอกไม้บานสะพรั่งในสวนฤดูใบไม้ผลิ ข้างกายคือ ไท่จือซางหลาง ที่ยามนี้สีหน้าราวกับดอกเหมยแรกแย้มเช่นกัน"ซางหลาง ท่านไม่ต้องทำหน้าเหมือนเพิ่งถูกตัดสิทธิ์จากงานสอบขุนนางก็ได้นะ" เว่ยจินเอ่ยเย้า แววตาแพรวพราว"ข้าเพียงสงสัยว่า เหตุใดสตรีบางคนจึงชอบยั่วโมโชข้าแล้วทำเฉยราวกับไร้เดียงสา" ซางหลางเอ่ยเนิบช้า แต่ดวงตากลับจ้องไป๋ฮวาไม่ละ"ข้าเนี่ยนะ? เด็กน้อยใสซื่อเช่นข้าจะยั่วโมโหไท่จือผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไรกัน" ไป๋ฮวาเชิดหน้าระคนยิ้มซางหลางพ่นลมหายใจ คล้ายจนปัญญา ก่อนจะหลุดยิ้ม "เจ้านี่…สมแล้วที่ทำให้ข้าต้องวนเวียนมาที่จนอ๋องไร้พ่าย"“ทำไมต้องมา”“ก็เพราะข้าอาจต่อคำเจ้าจนชนะอย่างไรเล่า จึงต้องแวะมาต่อคำเจ้าจากคนพูดน้อยกลายเป็นคนพูดมาก” คนทั้งหม

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   เลือดใหม่

    ณ มุมสวนด้านตะวันตกของจวนอ๋องไร้พ่าย ภายหลังการแสดงและพิธีรินชา ผู้คนต่างทยอยแยกย้ายไปตามมุมพักผ่อน แต่เสียงหัวเราะใสๆ กลับดังขึ้นจากใต้ต้นเหมยซึ่งกำลังออกดอกบานสะพรั่ง“เจ้ารู้หรือไม่” ไป๋ฮวาเดินเข้ามาด้วยดวงหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะในมือถือถาดขนมเปี๊ยะหอมใหม่แกะจากห้องเครื่อง “การที่อี้หลินยกชาส่งให้เจ้า นั่นหมายถึงนางให้โอกาสเจ้าได้แก้ตัวแล้ว”ไป๋อวี้ยกจอกชาขึ้นจิบเบาๆ แววตาแฝงความหมายจนยากจะปิดบัง “แต่ข้าก็ยังไม่กล้าพอจะเอื้อมขออะไรจากนาง…”“ก็ดีแล้ว” ไป๋ฮวาหัวเราะพลางเอื้อมมือหยิบขนมเปี๊ยะส่งให้ “ถือว่าฟ้าให้โอกาส อย่ารีบเร่งนักต้องใจเย็นๆ นางยังไม่ไปไหน”ก่อนที่ไป๋อวี้จะทันตอบเสียงทุ้มหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“เมื่อใดข้าจึงจะได้โอกาสดีๆ เช่นนั้นบ้างเล่า”เสียงนั้นอ่อนโยนแต่แฝงรอยตัดพ้อบางเบาไท่จือซางหลางยืนพิงเสาไม้ ทอดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา…ไป๋ฮวายกคิ้ว ทำทีเป็นไม่เข้าใจในความหมาย “ท่านหมายถึง…อี้หลินหรือ เช่นนั้นเจ้าต้องข้ามศพเจ้ากบไปก่อนล่ะ ข้าจะช่วยถือดาบให้ ลำบากท่านแล้ว ไท่จือซางหลางเอาอย่างนี้ไป๋ฮวาเป็นแม่สื่อให้ท่านเองดีไหม”“หึ…” ซางหลางถอนหายใจ ก่อนจะสาวเท

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ยังให้โอกาส

    ไป๋อวี้...ยืนอยู่ใต้เงาร่มไผ่ ใบหน้าเงียบขรึมแต่ดวงตากลับเปี่ยมด้วยความรู้สึกหลากหลายเขาจ้องมองอี้หลินด้วยสายตาที่สะท้อนทั้งความรู้สึกผิดเขาปรามาสนางเกินไปดวงตาคู่นั้นเหมือนจะได้ยินทุกถ้อยคำจากปากนางทุกถ้อยคำที่เปรียบเสมือนเข็มทิ่มกลางอกเขาขยับเท้า...ราวจะก้าวไปข้างหน้าแต่แล้ว...กลับหยุดชะงักใจเต้นแรงดั่งระฆังทองถูกเคาะในอกสุดท้าย เขาทำได้เพียงมองนางเงียบๆแม้ยืนอยู่แค่ปลายสายตา... ก็ยังไม่กล้าเดินเข้าใกล้ความรู้สึกผิดเต็มหัวใจเว่ยจิน ไท่จือแห่งเป่ยเอียน เดินตรงเข้ามาตรงหน้าเจียวหยูและตงเกานั่งเคียงข้างกันเว่ยจินหยุดยืนตรง ก้มศีรษะคารวะอย่างนอบน้อม“ข้าน้อยเว่ยจิน คารวะฮูหยินเจียวหยูและท่านฟางตงเกา เป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้พบท่านทั้งสองในวันนี้”เจียวหยูยิ้มบาง แต่แววตายังคงสุขุมเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิงของสตรีที่ผ่านโลกมามาก นางพยักหน้ารับ“เจ้าช่างเติบโตมาได้องอาจสมกับที่เป็นโอรสของฮ่องเต้โตวโฮฉินและองค์หญิงเก้าจิวอันนัก ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้าไม่น้อย...”ตงเกาเอ่ยขึ้นบ้าง เสียงนุ่มลึก“ตระกูลเป่ยเอียนและตระกูลฟางแม้ไม่เคยเกี่ยวข้องกันโดยตรงแต่ก็เคยมีสายสัมพันธ์อันดีกันในอดีต บ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ตามหารักแท้พบเจอหรือยัง

    เสียงปรบมือสองที… แปะ… แปะ…ผู้คนหันขวับใต้ร่มพัดไผ่ลายทอง ไท่จือเว่ยจินยืนนิ่งในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายพญาอินทรีเหินเวหา ดวงตาคมยามนั้นมีแววเฉียบขาดแต่เรียบสงบ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง เปิดเผยจริงใจเขาหันข้างเล็กน้อย แล้วกล่าวกับขันทีคนสนิทเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น“นำของกำนัลไปมอบให้คุณหนูทั้งสอง… กล่าวกับนางว่า ข้าชื่นชมจากใจ”ขันทีนามหลิวกวง โค้งรับคำ แล้วเบี่ยงตัวออกไปในมือมีหีบไม้จันทน์ขนาดเล็กสองกล่อง ห่อด้วยผ้าไหมทอด้วยดิ้นทองขันทีน้อยยืนเบื้องหน้าสองพี่น้อง แล้วกล่าวด้วยเสียงชัดเจน“ไท่จือเว่ยจิน รับชมการแสดงของคุณหนูฟางทั้งสองด้วยความประทับใจอย่างยิ่งจึงขอมอบของกำนัลนี้แด่ท่านทั้งสอง เพื่อเป็นเกียรติและคำขอบคุณในศิลปะอันเลอค่า ขอให้รับไว้เถิดขอรับ”อี้เหยาถอนหายใจไม่ชอบใจท่าทีอวดสรรพคุณของเว่ยจินนัก ก่อนที่อี้หลินจะรับเอาหีบไม้ประคองไว้ด้วยมือนุ่มนวลอี้เหยายืนนิ่ง แต่ก็ย่อกายเล็กน้อย กล่าวเสียงนุ่ม“ไท่จือเมตตาเกินไปเพคะ พวกหม่อมฉันหาได้กล้ารับสิ่งใดโดยไม่กล่าวคำขอบคุณ...”เว่ยจินเพียงแค่ยกมือขึ้นเบา ๆ“อย่าได้เกรงใจ... สตรีที่ยิงธนูแม่นยำราวกับอ่านใจได้ และผู้บรรเลงพิณเสนาะจ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status