Home / LGBTQ+ / ชายาอ๋องอำมหิต / ตอนที่10. สำนึก

Share

ตอนที่10. สำนึก

last update Last Updated: 2025-02-08 06:32:14

ฉินอ๋องหลี่อี้พยักหน้ารับรู้ จดจำข้อมูลเหล่านี้เอาไว้ พลางถามบัณฑิตหลิวฮั่วว่า

     "บัณฑิตหลิว ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?"

     "ข้าน้อยคิดว่า หากสามารถเข้าทำงานราชการได้ แม้เป็นชั้นผู้น้อยถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ถ้าขยันขันแข็งได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้า ข้าน้อยจะไม่เอาเปรียบลูกน้อง เป็นการทำให้วงจรการเอาเปรียบค่อยๆ หมดไปขอรับ"

     "ท่านอายุสิบเก้าแล้ว ทำไมจึงยังมิได้แยกครอบครัว?" ฉินอ๋องเปลี่ยนเรื่องถาม

     "คือ...ว่า..."

     หลิวฮั่วยังไม่ทันตอบ หลิวไฮ่ก็รีบชิงกล่าวว่า

     "เขาโตจนป่านนี้ยังเกาะข้ากินอยู่เลยขอรับ"

     "ทั้งบ้านทั้งกิจการล้วนตกทอดจากบิดาของพวกท่านมิใช่หรือ?"

     "ขอรับ" หลิวไฮ่เอ่ย "แต่ข้าน้อยจัดการทำกิจการของครอบครัวต่อจากบิดามานานถึงสิบปี ข้าน้อยจึงสมควรเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวขอรับ"

     "ท่านกล่าวยังไม่ถูกนัก ท่านใช้สมบัติที่บิดาสร้างไว้ให้ในการทำธุรกิจ ดังนั้นสมบัติทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาได้ ล้วนสมควรเป็นของพวกท่านสามคนพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ท่านแม่ยายแต่งงานออกเรือนและได้รับแบ่งสินเดิมออกมาแล้ว จึงไม่มีส่วนในมรดกของท่านตา แต่บัณฑิตหลิวยังมิได้แบ่ง เขาสมควรได้บ้างสักสองส่วนในสิบ ส่วนท่านที่ลงแรงทำมาค้าขายจึงสมควรได้ส่วนใหญ่ แปดส่วนในสิบ ท่านว่าข้าพูดถูกหรือไม่?"

     "ถูกขอรับ" หลิวไฮ่จำใจรับคำ...แม้ในใจจะอยากคัดค้านมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าเอ่ยออกจากปาก เพราะเกรงว่า...ถ้าท่านอ๋องเกิดไม่พอใจขึ้นมา จะสั่งให้เขาแบ่งสมบัติให้น้องชายมากกว่านี้!

     "พวกท่านทั้งสองกลับไป ก็แบ่งสมบัติกันให้เรียบร้อยและยุติธรรมภายในสามวันนะ" ฉินอ๋องกำชับ พลางคีบเสี่ยวหลงเปาให้พระชายาไป๋หยง

     "ข้าน้อยอิ่มแล้ว" ไป๋หยงกล่าวพลางจับมือของฉินอ๋องไว้

     "อิ่มได้อย่างไร...ตัวเจ้าลูบไปมีแต่กระดูกทั้งนั้น ยังไม่รีบกินลงไปซะดีๆ อีก" ฉินอ๋องเอ็ด

     ไป๋หยงได้แต่ทำแก้มป่อง

     ฉินอ๋องหันมากล่าวกับบัณฑิตหลิวฮั่ว "เรื่องงาน ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยดูงานเหมาะๆ ให้ท่าน"

     "ขอบพระคุณท่านอ๋องขอรับ" บัณฑิตหลิวฮั่วกล่าวอย่างยินดี

     วันต่อมา...

     อำมาตย์ไป๋หลงก็มาขอพบฉินอ๋อง

   ฉินอ๋องอนุญาตให้พบที่ห้องโถงรับรองเล็ก...โดยฉินอ๋องนั่งในตำแหน่งประธาน ไป๋หยงนั่งในตำแหน่งรองประธาน

     อำมาตย์ไป๋หลงประสานมือน้อมคำนับ "คารวะท่านอ๋อง คารวะพระชายา"

     "เชิญนั่ง" ฉินอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     "ขอบพระคุณท่านอ๋องขอรับ"

     แล้วอำมาตย์ไป๋หลงจึงนั่งลงในตำแหน่งอาคันตุกะ

     สาวใช้เข้ามาส่งน้ำชาแล้วพากันออกไปจากห้องอย่างเงียบกริบ

     "มีอะไรเชิญกล่าวมา" ฉินอ๋องเปิดฉากสนทนาอย่างตรงไปตรงมา

     อำมาตย์ไป๋หลงจึงได้แต่ถามตรงๆ เช่นกันว่า "ท่านอ๋องไปฟ้องร้องข้าน้อยที่ศาลอาญาหรือขอรับ?"

     "ใช่...ข้าฟ้องร้องท่านว่าท่านหมิ่นข้าด้วยการสับเปลี่ยนตัวเจ้าสาว ข้าฟ้องร้องฟูเหรินของท่านว่าหมิ่นของพระราชทานของฮองเฮา ข้าฟ้องร้องบุตรสาวของท่านที่หมิ่นพระราชโองการ นางเคยเป็นว่าที่คู่สมรสของข้า นางจึงไม่สมควรจะตบแต่งให้ชายอื่นใด และคนที่ดูถูกการเป็นคู่สมรสของข้า ข้าก็ไม่ต้องการอีกต่อไป!"

     ไป๋หยงฟังจนสยองขวัญ...ฉินอ๋องเล่นงานท่านลุงหนักมากกกกก!

     อำมาตย์ไป๋หลงรีบลุกจากเก้าอี้แล้วคุกเข่าลงน้อมคำนับจนหน้าผากจรดพื้น

     "ท่านอ๋องได้โปรดให้อภัยด้วย ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยสำนึกแล้ว โปรดเห็นแก่พระชายาไป๋หยง ถอนคำฟ้องด้วยขอรับ"

     ไป๋หยงลอบมองคนเป็นลุง แล้วร่ำร้องในใจว่า...ท่านทำผิดแล้วจะให้ข้าช่วยพูด ข้าไม่กล้าหรอก ฉินอ๋องดุยิ่งกว่าเสือสิบตัว ขืนข้าอ้าปากพูดอะไรไม่เข้าหู เขาต้องจัดการข้าแน่ๆ มือเขาหนักมากฟาดจนก้นข้ายังระบมไม่หาย โชคดีที่บรรดาบ่าวไพร่สาวใช้มีน้ำใจ จัดเบาะจัดหมอนให้ข้า ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องนั่งอย่างไม่มีความสุขแน่ๆ

     "ก็เพราะว่าข้าเห็นแก่เสี่ยวหยง" ฉินอ๋องหลี่อี้เอ่ย "ข้าถึงได้ฟ้องร้องท่านที่ศาลอาญา ไม่ได้ถวายฎีกาที่กลางท้องพระโรง"

     อำมาตย์ไป๋หลงสะดุ้งโหยง...หากฉินอ๋องถวายฎีกากลางท้องพระโรง เขาคงต้องถูกริบทรัพย์แล้วเนรเทศทั้งครอบครัวเป็นแน่!

     "แล้วที่ข้าไม่ถอนคำฟ้อง ก็เพราะว่า หากข้าไม่ฟ้องพวกท่าน ทั้งยังไม่ถวายฎีกา" ฉินอ๋องกล่าว "ข้าก็มีความผิดฐานปิดบังเบื้องสูง"

     "ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ" อำมาตย์ไป๋หลงกล่าวเสียงระเหี่ย "เพียงแต่ข้าน้อยขอความเมตตาจากท่านอ๋อง ขอให้ท่านอ๋องโปรดรับมู่ตานบุตรสาวของข้าน้อยเป็นชายาอีกคนขอรับ"

     "เรื่องนี้หรือ? ข้าได้ประกาศแล้วว่าไม่ต้องการนางแล้ว"

     "ท่านอ๋องโปรดเมตตา ขอเพียงท่านอ๋องรับมู่ตานไว้ในฐานะชายา...เอ้อ...ชายารอง...หรือ... อนุชายา...มู่ตานก็จะไม่ต้องถูกจับโกนหัวบวชชี แล้วมารดาของนางก็จะไม่ถูกปลดจากตำแหน่งฟูเหรินเอกไปเป็นอนุขอรับ"

     "เรื่องนี้...ข้ามอบให้เสี่ยวหยงตัดสินใจ"

     อยู่ดีๆ ท่านอ๋องก็โยนเผือกร้อน (เรื่องยุ่งยาก) มาให้ข้า...ไป๋หยงนึกในใจ

     อำมาตย์ไป๋หลงจึงเบนเป้าหมายมาที่ไป๋หยงทันที เพราะว่าเขาคือความหวังสุดท้าย

     "อาหยง...เอ้อ...พระชายา โปรดช่วยเหลือพี่สาวกับท่านป้าสักครั้งเถอะนะหลานรัก"

     ไป๋หยงเม้มปากและลอบมองฉินอ๋อง

สายตาคมกริบภายใต้หน้ากากทองคำของฉินอ๋องหันมามองเขาเหมือนกำลังเตือนว่า...พูดดีๆ นะ ถ้าพูดไม่ถูกใจ จะถูกกัดปาก

     ไป๋หยงไม่รู้ว่าฉินอ๋องต้องการอะไร

     ถ้าอยากได้สาวงาม ก็ตอบรับไปสิ

     ถ้าไม่อยากได้ ก็ปฏิเสธไป

     ทำไมจะต้องมาบังคับให้เขาเป็นคนตัดสิน!

     "พระชายาโปรดเห็นแก่ว่ามู่ตานเป็นพี่สาว เป็นครอบครัวเดียวกันกับพระชายาด้วยเถิดขอรับ" อำมาตย์ไป๋หลงกล่าว

     ไป๋หยงคิดในใจ...ครอบครัวเดียวกันหรือ?

     พวกท่านใช้งานข้าที่เป็นหลาน ยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย จับข้ามาแต่งงานแทนมู่ตานเพื่อให้ข้าถูกสับเป็นชิ้นๆ ในคืนวันสมรส

     ข้ายังจำได้...มู่ตานเข้ามาดูข้าที่ถูกจับแต่งตัวเป็นเจ้าสาว แล้วเยาะเย้ยว่า

     "อาหยง เจ้าสวยมากทีเดียว น่าเสียดายเป็นพระชายาเอกได้แค่ครู่เดียว ก็จะถูกฉินอ๋องฆ่าตาย แต่เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ฉินอ๋องก็ต้องถูกข้อหาขัดขืนพระราชโองการ...ฮ่าๆๆๆ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่66. ตอนพิเศษ3.

    องครักษ์ซ้ายเจาหู่มาขอพบพระชายาไป๋หยงเป็นการส่วนตัว “มีธุระอะไรกับข้าหรือ?” พระชายาไป๋หยงถาม พลางใช้ช้อนสามง่ามทองคำจิ้มผลไม้ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างสวยงามพูนจาน เข้าปากอย่างชื่นใจ “น้อมเรียนพระชายา คือข้า…ข้าน้อยอยากจะขอกู้เงินพระชายาขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่พูดตะกุกตะกัก “ต้องการเท่าไหร่?” “ห้าร้อยตำลึงเงินขอรับ” “เอาไปทำอะไร?” พระชายาหนุ่มน้อยวางช้อนสามง่ามทองคำในมือลง “คือว่า…ข้าน้อยชอบเซียวมี่ขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่เอ่ยแล้วยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ชอบเซียวมี่?” “ขอรับ” “แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินห้าร้อยตำลึง?” “คือว่า…เดิมทีเซียวมี่เป็นคนในจวนราชครูมู่สง ต่อมาราชครูมู่สงยกเซียวมี่ให้เป็นบ่าวของพระชายา แต่บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ยังคงเป็นบ่าวอยู่ในจวนราชครู พอตระกูลมู่ของราชครูต้องโทษประหารทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ถูกขายทอดตลาด บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ก็ถูกขายทอดตลาดด้วย ทางการให้พ่อค้าทาสเหมาทั้งหมดไปขายอีกต่อหนึ่ง ข้าน้อยไปเจรจากับพ่อค้าทาสแล้ว เขาจะยอมขายยกครอบครัวให้ข้าน้อยในราคาห้าร้อยตำลึงขอรับ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่65. ตอนพิเศษ2.

    องครักษ์บู๊สงพาองค์ชายหกหลี่เฟิง เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ค่ำไหนนอนนั่น คืนนี้…ทั้งสองพักในศาลเจ้าร้าง บู๊สงได้หากิ่งไม้แห้งจากรอบ ๆ ศาลเจ้า มาก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อให้ไออุ่น องค์ชายหกมองเทวรูปดินปั้นที่ตั้งอยู่ด้านในสุด แล้วคุกเข่าลงพนมมืออธิษฐาน…ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็อธิษฐานเสร็จ “องค์ชาย…ท่านอธิษฐานอะไร?” บู๊สงถาม เพราะตลอดหลายวันมานี้องค์ชายเอาแต่ร้องไห้ ทว่าวันนี้กลับไม่มีน้ำตา องค์ชายวัยสิบสองเม้มปากตอบว่า “ข้าอธิษฐานว่า…ขอให้ข้าตายง่าย ๆ ตายไว ๆ” บู๊สงอึ้ง “ทำไมถึงได้อธิษฐานเช่นนี้?” “ข้าสับสนมาก…แต่ก่อนเสด็จแม่บอกกับข้าว่า คนอื่นล้วนเป็นคนไม่ดี ทว่าพอข้าถูกกักบริเวณ ทั้งขันที ทั้งนางกำนัล ล้วนกล่าวว่าเสด็จแม่เป็นคนไม่ดี แม้แต่…เสด็จย่า…ก็ว่าเสด็จแม่ไม่ดี“ องค์ชายน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากรู้ความจริง ว่าตกลงเสด็จแม่เป็นคนไม่ดีจริง ๆ หรือ?” “องค์ชาย…สตรีที่เข้ามาอยู่ในวังหลัง ก็เปรียบเสมือนบุรุษออกสู่สมรภูมิ ต่างต้องช่วงชิงการมีชีวิตรอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง…ข้าไม่อาจบอกต่อองค์ชาย ว่าฮองเฮาหยางเซียงร้ายหรือดี เพราะว่าข้าเพียงได้ฟังเขาเล่าต

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่64. ตอนพิเศษ1.

    หลังจากเรื่องราวในบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฮ่องเต้น้อยหลี่เจินขึ้นครองราชบัลลังก์ โดยมีฉินอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และมหาเสนาบดียกทัพปราบหม่าฟู่เจ้าเมืองชิงซานแล้วเสร็จ สีไคก็จะเดินทางกลับแคว้นเว่ย ซึ่งเป็นแคว้นตอนใต้ของอาณาจักรต้าเป่ยและอยู่ทางทิศเหนือของอาณาจักรจงกั๋วฉินอ๋องจึงจัดงานเลี้ยงส่ง…โดยมีแขกผู้รับเชิญเป็นครอบครัวของท่านแม่ยายนางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู และอาโหยว ส่วนท่านย่านั้น นางขอตัวเพราะไม่สะดวก (อยากนอนพักกลางวัน) และท่านน้าบัณฑิตหลิวฮั่ว ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอำมาตย์ตรี หัวหน้ากองเอกสารของกรมการค้า ฉินอ๋องจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้อำมาตย์หลิวฮั่วด้วย อำมาตย์หลิวฮั่วได้พาฟูเหรินเย่หว่านมางานด้วย ฟูเหรินเย่หว่าน (หว่านหว่าน) นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ดวงหน้างดงามอิ่มเอิบ อาหยูน้อยที่ได้นั่งข้างๆ เย่หว่าน มองท้องที่นูนขึ้นของนาง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “พี่หว่านหว่าน…” อาหยูน้อยยังไม่ได้ถามต่อ ก็ถูกนางหลิวซื่อว่ากล่าว “อาหยู…ต้องเรียกว่าท่านน้าสะใภ้ ไม่ใช่พี่หว่านหว่าน” “ไม่เป็นไรค่ะ” เย่หว่านตอบนางหลิว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่63. กลับจวน

    นางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู อาโหยว และเฉียวซาน (อาจารย์และองครักษ์ของอาหยูอาโหยว) ถูกรับมาอยู่จวนของฉินอ๋องตั้งแต่ตอนบ่าย พอวันรุ่งขึ้น…กองทัพขององค์ชายห้าหลี่เหิงตีเข้าเมืองหลวงมา ก็แยกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งโจมตีวังหลวง อีกขบวนหนึ่งโจมตีจวนฉินอ๋อง ครั้นประตูจวนต้านไม่อยู่ ทหารของราชครูมู่สงบุกเข้ามา…ไป๋หยงก็ตรวจนับคนที่ตนจะพาออกไปทางลับด้วยกัน ก็เห็นว่าขาดอาเหยียนกับป้าไช่ จึงถามนางฮัวซื่อว่า “ท่านน้า…พี่เหยียนอยู่ไหน?” (ตั้งแต่รู้ว่า อาเหยียนเป็นบุตรของทั่นฮวาเฉินอวี้ ไป๋หยงก็เรียกนางฮัวซื่อว่าท่านน้า แทนที่ท่านป้าสะใภ้รอง) “อาเหยียนไปตามหาป้าไช่ที่โรงครัว” “ทำไมมาแยกตัวออกไปตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ด้วย” ไป๋หยงบ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปตามพี่เหยียนกับป้าไช่ ทุกคนรออยู่ในห้องนอนใหญ่อย่าได้แยกย้ายไปไหนเป็นอันขาด” แล้วคว้ากระบี่ติดมือ มุ่งหน้าตรงไปยังโรงครัวทันที แต่ระหว่างทางพบเข้ากับราชครูมู่สง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น “ข้าจะจับพระชายาไปแขวนที่กำแพงเมืองให้ฉินอ๋องดู” ไป๋หยงไม่ตอบว่าอะไร แต่ตั้งอกตั้งใจใช้เพลงก

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่62. ที่จวนโหราจารย์

    ที่จวนของโหราจารย์ คืนนั้น…โหราจารย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ เขาได้รู้ข่าวการตายอนาถของขันทีปลอมเกาซ่ง ฮองเฮาถูกปลดจากตำแหน่งและขังอยู่ที่ตำหนักเย็น เขาก็เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว แล้วพอเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งยืนรออยู่ในห้องนอนด้วย “ใคร?” โหราจารย์ถาม “คนที่เจ้าทำนายว่า…เกิดใต้ดาวพิฆาตอย่างไรล่ะ” “ฉิน…อ๋อง…” เสียงของโหราจารย์สั่นสะท้าน “ความจำของเจ้ายังดีอยู่” ฉินอ๋องตอบ “ท่านอ๋อง…ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ท่านมาหาข้าน้อย ต้องการจะให้ทำนายเรื่องใดหรือขอรับ?” “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าเดินทางไกล (ตาย) เท่านั้น” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบ โหราจารย์จึงตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไป เพราะเพิ่งจะขยับตัว ก็ถูกสะกัดจุดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว และไม่สามารถพูดออกเสียงได้ ได้แต่ขยับปาก โดยไร้สุ้มเสียง… พอรุ่งเช้า…บ่าวรับใช้ในเรือนของโหราจารย์ที่มีหน้าที่เข้ามาจะปรนนิบัติ ก็พบว่าโหราจารย์ได้แขวนคอตายอยู่ในห้องนอน! สามวันต่อมา… อดีตฮองเฮาหยางเซียงก็ได้รับพระราชทานยาพิษจากไทเฮา พร้อมกันนั้น คนตระกูล

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่61.พังพินาศ

    เวลาบ่าย…สนมหม่าซู่ซู่ได้เชิญเสด็จฮ่องเต้ออกมาพักผ่อนที่อุทยานหลวง เกาซ่งขันทีคนสนิทของฮองเฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บราวเจ็ดส่วน (เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์) ได้รับข่าวจากสายของตน ก็รีบนำมารายงานฮองเฮา “เหนียงเหนียง (พระนาง) ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จลงอุทยาน นับเป็นโอกาสอันดีพ่ะย่ะค่ะ” “โอกาสอะไร?” ฮองเฮาตรัสถาม “ปกติสนมคนโปรดจะกีดกันผู้ที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระตำหนักหลวง แต่ในอุทยาน เหนียงเหนียงหาโอกาสเข้าเฝ้า แล้วทูลขอตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะได้ว่าราชการหลังม่าน ซึ่งฮ่องเต้จะได้มีเวลาพักผ่อนตามสบายพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “เวลานี้ไทเฮาก็ทรงทำหน้าที่นี้อยู่มิใช่หรือ?” “เหนียงเหนียง อย่าลืมสิ ว่าพอไทเฮาออกว่าราชการ ฉินอ๋องกับพรรคพวกก็กำจัดองค์หญิงเหลียนฮัว แล้วเป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องไม่พ้นเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง…คนแรกที่เราจะต้องกำจัดก็คือฉินอ๋อง” ฮองเฮาขบฟันตรัสแต่แผนการณ์ของฮองเฮาพังพินาศ…เพราะหม่าซู่ซู่เสแสร้งว่าถูกฮองเฮาผลักล้มและเกือบแท้งบุตร หม่าซู่ซู่และหม่าเต้า (หม่าเต้าเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status