หน้าหลัก / LGBTQ+ / ชายาอ๋องอำมหิต / ตอนที่9. ท่านอ๋องอย่ากินข้า

แชร์

ตอนที่9. ท่านอ๋องอย่ากินข้า

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-08 06:31:06

หึ่มมม...ฉินอ๋องหลี่อี้ส่งเสียงคำรามในลำคอ

     ไป๋หยงในสายตาของเขา แม้จะมิใช่อิสตรี แต่ก็ขาวๆ นุ่มๆ ดูน่ารักมิใช่น้อย

     ที่สำคัญ...เขายังไม่ได้ขย้ำ

     แต่เจ้าเด็กโง่จะวิ่งไปให้ใครขย้ำ!

     "ใคร?"

     ไป๋หยงส่ายหน้ารัวๆ ทั้งที่ยกสองมือปิดปากอยู่ "ไม่มี...ไม่มี..."

     ฉินอ๋องหน้าบูดบึ้ง "เจ้าเป็นพระชายา จะไปมีอะไรกับใครอื่นไม่ได้ นอกจากข้า"

     "ท่านหรือ? ท่านตัวออกโต ข้ากินไม่ไหวหรอก"

     "ใครให้เจ้ากินข้า เป็นข้าต่างหากที่จะเป็นฝ่ายกินเจ้า!"

     "อ๊าาาา...ท่านอ๋องอย่ากินข้าาาาา"

     ที่นอกห้องนอนของฉินอ๋อง...ขันทีฟางหยวน และสองสาวใช้ เสี่ยวจู เสี่ยวหง ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง

     สาวใช้นางหนึ่งก็เดินมาหา และคำนับ "เรียนกงกง (คำเรียกขันทีอย่างยกย่อง) ชายาและอนุชายามาขอคารวะน้ำชาพระชายาเจ้าค่ะ"

     "บอกพวกนางให้รอก่อน...พระชายากำลังถูกท่านอ๋องจับกินอยู่" ขันทีคนสนิทฟางหยวนตอบ

     "เจ้าค่ะ" สาวใช้รับคำแล้วรีบไปทำตามคำสั่ง

     ดังนั้น...กว่าเหล่าชายาและอนุชายาจำนวนสิบสองนาง จะได้มีโอกาสเข้าพบและคารวะน้ำชาพระชายาไป๋หยงก็เป็นเวลาสายมาก

     พระชายาไป๋หยงนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเจ็บปวด เพราะเขาถูกฉินอ๋องเอามือฟาดก้นเป็นการลงโทษ จนก้นเจ็บระบมไปหมด แต่ไม่สามารถฟ้องร้องหรือบอกผู้ใดได้!

     เพราะรู้สึกอับอายขายขี้หน้ายิ่งนัก

     แต่ขันทีฟางหยวนหูไวตาไวสังเกตเห็น...เขาจึงกระซิบถามพระชายา หลังจากเหล่าชายาและอนุชายากลับไปกันแล้วว่า "พระชายารู้สึกไม่สบายตรงไหนขอรับ?"

     แก้มขาวๆ ของไป๋หยงแดงระเรื่อขึ้น ปฏิเสธว่า

     "ไม่มีอะไร"

     "พระชายาได้โปรดวางใจบ่าว บ่าวจะปรนนิบัติพระชายาให้สะดวกสบายในทุกเรื่องราวขอรับ ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องปิดบังบ่าวขอรับ"

     จริงของเขา...ไป๋หยงคิด

     แม้แต่การอาบน้ำ...ฟางหยวนยังแย่งทำเลย

     และพอถึงเวลาอาบน้ำ ฟางหยวนก็ต้องเห็นอะไรเป็นอะไร

     จึงตัดสินใจตอบเบาๆ ว่า "ข้าเจ็บก้น ท่านอ๋องฟาดก้นข้าจนระบมไปหมด"

     "อ้อ...บ่าวเข้าใจแล้ว"

     ทั้งสองพยักหน้าให้แก่กัน...

     ไป๋หยง...ข้าถูกตีอย่างไม่เป็นธรรม

     ฟางหยวน...ท่านอ๋องคงมันเขี้ยวมาก

     ต่างคนต่างคิด...

     แล้วฟางหยวนก็สั่งสาวใช้ ให้นำเบาะรองนั่งและหมอนพิงหลังมาให้พระชายา พร้อมกับกำชับว่า

     "พวกเจ้าต้องจัดเบาะนั่งและหมอนพิงหลังให้พระชายาในทุกที่ทาง"

     "เจ้าค่ะ ๆ ๆ" สาวใช้ขานรับ

     ช่วงบ่าย...

ฉินอ๋องหลี่อี้มองสภาพการนั่งของไป๋หยงแล้วนึกขันในใจ...เจ้าเด็กโง่คงบอกบ่าวว่าถูกฟาดก้น และบ่าวก็คงพากันเข้าใจผิดๆ ไปกันไกลแล้ว

     "น้อมเรียนท่านอ๋อง น้อมเรียนพระชายา... เศรษฐีหลิวไฮ่และน้องชายบัณฑิตหลิวฮั่วมาขอเข้าพบขอรับ" บ่าวรายงาน

     ฉินอ๋องหลี่อี้ต้อนรับเศรษฐีหลิวไฮ่และบัณฑิตหลิวฮั่ว ที่ห้องโถงรับรองเล็ก โดยเชิญทุกคนร่วมรับอาหารว่างและน้ำชา

     ไป๋หยงนั่งเคียงข้างฉินอ๋อง

     "เชิญท่านเศรษฐีและท่านบัณฑิตกินของว่าง" ฉินอ๋องเชื้อเชิญทั้งสองแล้วคีบจ้อปูใส่จานตรงหน้าไป๋หยง

     หลิวไฮ่ยิ้มประจบ พลางกล่าว "ท่านอ๋องช่างเมตตาอาหยงนัก"

     "อะแฮ่ม..." ฉินอ๋องกระแอม แล้วแก้คำพูดของหลิวไฮ่ว่า "พระชายา"

     "ใช่ๆๆ..." หลิวไฮ่รีบคล้อยตาม "ช่างเป็นบุญของพระชายายิ่งนักที่ได้ท่านอ๋องเป็นสามี"

     ไป๋หยงเม้มปากคัดค้านในใจ...เป็นบุญหรือ? ข้าไม่เห็นรู้สึกว่าเป็นบุญตรงไหนเลย มีแต่อับอายขายขี้หน้า เป็นบุรุษแท้ๆ ต้องมามีสามี แถมยังเป็นสามีที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ชอบอะไรเพี้ยนๆ เอะอะก็จั๊กจี้ข้า หรือไม่อยู่ดีๆ ก็ฟาดก้นข้าจนระบมไปหมด ช่างไร้เหตุผลจริงๆ

     ฉินอ๋องมิได้สนใจถ้อยคำสรรเสริญเยินยอที่หลิวไฮ่พร่ำพูด แต่ถามหลิวฮั่วว่า

     "บัณฑิตหลิว ปีนี้ท่านอายุเท่าไหร่?"

     "สิบเก้าขอรับ" หลิวฮั่วตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพกิริยาเรียบร้อย

     "ท่านสอบบัณฑิตได้เมื่อไหร่?"

     "ต้นปีนี้ขอรับ"

     "ใช่แล้ว" หลิวไฮ่เอ่ยแทรก "อายุตั้งสิบเก้าเพิ่งจะสอบบัณฑิตได้ บ้านอื่นเขาสอบบัณฑิตได้ตั้งแต่อายุสิบสี่สิบห้า ช่างขายหน้าจริงๆ"

     "อ้อ" ฉินอ๋องทำเสียงรับรู้ แล้วหันไปถามคนพี่ว่า "เศรษฐีหลิว ท่านอายุเท่าไหร่?"

     "สามสิบหกขอรับ"

     "ท่านสอบได้บัณฑิตเมื่อไหร่?"

     "เอ้อ...อ้า..." หลิวไฮ่อึกๆ อักๆ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เหงื่อตก

     ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเรียบๆ "ท่านคงไม่เคยเข้าสอบ"

     "ชะ ใช่ขอรับ...ข้าน้อยไม่เคยเข้าสอบ ถ้าข้าน้อยได้เข้าสอบ ข้าน้อยจะต้องได้เป็นบัณฑิตตั้งแต่อายุน้อยๆ เป็นแน่ขอรับ...ฮ่าๆๆๆ"

     ฉินอ๋องไม่กล่าวอะไร เพียงมองอีกฝ่ายนิ่งๆ

     หลิวไฮ่หัวเราะคนเดียวสุดท้ายก็รู้สึกเก้อจึงเงียบ

     "บัณฑิตหลิว" ฉินอ๋องชวนคุยไป มือก็คอยคีบอาหารว่างให้ไป๋หยงไป "ท่านมีครอบครัวหรือยัง?"

     "ยังขอรับ...ข้าน้อยยังไม่มีหน้าที่การงานเป็นหลักแหล่ง จึงยังไม่คิดเรื่องการแต่งงาน เพราะอาจจะทำให้ผู้หญิงลำบากขอรับ" หลิวฮั่วตอบ

     "เท่าที่ข้าฟังมา เหมือนว่าท่านเคยไปสมัครงานที่อำเภอและสอบได้ แต่ต้องใช้เงินค้ำประกันใช่หรือไม่?"

     "ขอรับ" หลิวฮั่วรับคำเบาๆ แล้วก้มหน้าซ่อนแววตาน้อยอกน้อยใจ

     หลิวไฮ่รีบชิงพูดว่า "เงินค้ำประกันตั้งร้อยตำลึง แต่ตภแหน่งเสมียนเงินเดือนแค่สี่ตำลึง เหมือนต้องทำงานเปล่าๆ ถึงสองปีเศษขอรับ มันไม่คุ้มกันเลยนะขอรับ"

     "เท่าที่ข้ารู้ หากทำงานครบปีและไม่ได้บกพร่องในหน้าที่ ทางการก็คืนเงินค้ำประกันให้มิใช่หรือ?" ฉินอ๋องกล่าว

     "ท่านอ๋อง...ที่ท่านกล่าวมานั้นถูกต้องตามหลักการขอรับ แต่ทว่าในความเป็นจริง...เงินค้ำประกันพอทางการส่งคืนล้วนถูกระดับหัวหน้าเอาไปหมดทั้งสิ้น พวกชั้นผู้น้อยได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนขอรับ"

     "จริงหรือ?" ฉินอ๋องรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว

     "จริงขอรับ" หลิวไฮ่รับคำหนักแน่น "ข้าน้อยค้าขายกับอำเภอมานานหลายปี เรื่องพวกนี้มีแต่คนระดับล่างเท่านั้นที่รู้"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่66. ตอนพิเศษ3.

    องครักษ์ซ้ายเจาหู่มาขอพบพระชายาไป๋หยงเป็นการส่วนตัว “มีธุระอะไรกับข้าหรือ?” พระชายาไป๋หยงถาม พลางใช้ช้อนสามง่ามทองคำจิ้มผลไม้ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างสวยงามพูนจาน เข้าปากอย่างชื่นใจ “น้อมเรียนพระชายา คือข้า…ข้าน้อยอยากจะขอกู้เงินพระชายาขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่พูดตะกุกตะกัก “ต้องการเท่าไหร่?” “ห้าร้อยตำลึงเงินขอรับ” “เอาไปทำอะไร?” พระชายาหนุ่มน้อยวางช้อนสามง่ามทองคำในมือลง “คือว่า…ข้าน้อยชอบเซียวมี่ขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่เอ่ยแล้วยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ชอบเซียวมี่?” “ขอรับ” “แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินห้าร้อยตำลึง?” “คือว่า…เดิมทีเซียวมี่เป็นคนในจวนราชครูมู่สง ต่อมาราชครูมู่สงยกเซียวมี่ให้เป็นบ่าวของพระชายา แต่บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ยังคงเป็นบ่าวอยู่ในจวนราชครู พอตระกูลมู่ของราชครูต้องโทษประหารทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ถูกขายทอดตลาด บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ก็ถูกขายทอดตลาดด้วย ทางการให้พ่อค้าทาสเหมาทั้งหมดไปขายอีกต่อหนึ่ง ข้าน้อยไปเจรจากับพ่อค้าทาสแล้ว เขาจะยอมขายยกครอบครัวให้ข้าน้อยในราคาห้าร้อยตำลึงขอรับ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่65. ตอนพิเศษ2.

    องครักษ์บู๊สงพาองค์ชายหกหลี่เฟิง เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ค่ำไหนนอนนั่น คืนนี้…ทั้งสองพักในศาลเจ้าร้าง บู๊สงได้หากิ่งไม้แห้งจากรอบ ๆ ศาลเจ้า มาก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อให้ไออุ่น องค์ชายหกมองเทวรูปดินปั้นที่ตั้งอยู่ด้านในสุด แล้วคุกเข่าลงพนมมืออธิษฐาน…ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็อธิษฐานเสร็จ “องค์ชาย…ท่านอธิษฐานอะไร?” บู๊สงถาม เพราะตลอดหลายวันมานี้องค์ชายเอาแต่ร้องไห้ ทว่าวันนี้กลับไม่มีน้ำตา องค์ชายวัยสิบสองเม้มปากตอบว่า “ข้าอธิษฐานว่า…ขอให้ข้าตายง่าย ๆ ตายไว ๆ” บู๊สงอึ้ง “ทำไมถึงได้อธิษฐานเช่นนี้?” “ข้าสับสนมาก…แต่ก่อนเสด็จแม่บอกกับข้าว่า คนอื่นล้วนเป็นคนไม่ดี ทว่าพอข้าถูกกักบริเวณ ทั้งขันที ทั้งนางกำนัล ล้วนกล่าวว่าเสด็จแม่เป็นคนไม่ดี แม้แต่…เสด็จย่า…ก็ว่าเสด็จแม่ไม่ดี“ องค์ชายน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากรู้ความจริง ว่าตกลงเสด็จแม่เป็นคนไม่ดีจริง ๆ หรือ?” “องค์ชาย…สตรีที่เข้ามาอยู่ในวังหลัง ก็เปรียบเสมือนบุรุษออกสู่สมรภูมิ ต่างต้องช่วงชิงการมีชีวิตรอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง…ข้าไม่อาจบอกต่อองค์ชาย ว่าฮองเฮาหยางเซียงร้ายหรือดี เพราะว่าข้าเพียงได้ฟังเขาเล่าต

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่64. ตอนพิเศษ1.

    หลังจากเรื่องราวในบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฮ่องเต้น้อยหลี่เจินขึ้นครองราชบัลลังก์ โดยมีฉินอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และมหาเสนาบดียกทัพปราบหม่าฟู่เจ้าเมืองชิงซานแล้วเสร็จ สีไคก็จะเดินทางกลับแคว้นเว่ย ซึ่งเป็นแคว้นตอนใต้ของอาณาจักรต้าเป่ยและอยู่ทางทิศเหนือของอาณาจักรจงกั๋วฉินอ๋องจึงจัดงานเลี้ยงส่ง…โดยมีแขกผู้รับเชิญเป็นครอบครัวของท่านแม่ยายนางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู และอาโหยว ส่วนท่านย่านั้น นางขอตัวเพราะไม่สะดวก (อยากนอนพักกลางวัน) และท่านน้าบัณฑิตหลิวฮั่ว ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอำมาตย์ตรี หัวหน้ากองเอกสารของกรมการค้า ฉินอ๋องจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้อำมาตย์หลิวฮั่วด้วย อำมาตย์หลิวฮั่วได้พาฟูเหรินเย่หว่านมางานด้วย ฟูเหรินเย่หว่าน (หว่านหว่าน) นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ดวงหน้างดงามอิ่มเอิบ อาหยูน้อยที่ได้นั่งข้างๆ เย่หว่าน มองท้องที่นูนขึ้นของนาง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “พี่หว่านหว่าน…” อาหยูน้อยยังไม่ได้ถามต่อ ก็ถูกนางหลิวซื่อว่ากล่าว “อาหยู…ต้องเรียกว่าท่านน้าสะใภ้ ไม่ใช่พี่หว่านหว่าน” “ไม่เป็นไรค่ะ” เย่หว่านตอบนางหลิว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่63. กลับจวน

    นางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู อาโหยว และเฉียวซาน (อาจารย์และองครักษ์ของอาหยูอาโหยว) ถูกรับมาอยู่จวนของฉินอ๋องตั้งแต่ตอนบ่าย พอวันรุ่งขึ้น…กองทัพขององค์ชายห้าหลี่เหิงตีเข้าเมืองหลวงมา ก็แยกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งโจมตีวังหลวง อีกขบวนหนึ่งโจมตีจวนฉินอ๋อง ครั้นประตูจวนต้านไม่อยู่ ทหารของราชครูมู่สงบุกเข้ามา…ไป๋หยงก็ตรวจนับคนที่ตนจะพาออกไปทางลับด้วยกัน ก็เห็นว่าขาดอาเหยียนกับป้าไช่ จึงถามนางฮัวซื่อว่า “ท่านน้า…พี่เหยียนอยู่ไหน?” (ตั้งแต่รู้ว่า อาเหยียนเป็นบุตรของทั่นฮวาเฉินอวี้ ไป๋หยงก็เรียกนางฮัวซื่อว่าท่านน้า แทนที่ท่านป้าสะใภ้รอง) “อาเหยียนไปตามหาป้าไช่ที่โรงครัว” “ทำไมมาแยกตัวออกไปตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ด้วย” ไป๋หยงบ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปตามพี่เหยียนกับป้าไช่ ทุกคนรออยู่ในห้องนอนใหญ่อย่าได้แยกย้ายไปไหนเป็นอันขาด” แล้วคว้ากระบี่ติดมือ มุ่งหน้าตรงไปยังโรงครัวทันที แต่ระหว่างทางพบเข้ากับราชครูมู่สง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น “ข้าจะจับพระชายาไปแขวนที่กำแพงเมืองให้ฉินอ๋องดู” ไป๋หยงไม่ตอบว่าอะไร แต่ตั้งอกตั้งใจใช้เพลงก

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่62. ที่จวนโหราจารย์

    ที่จวนของโหราจารย์ คืนนั้น…โหราจารย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ เขาได้รู้ข่าวการตายอนาถของขันทีปลอมเกาซ่ง ฮองเฮาถูกปลดจากตำแหน่งและขังอยู่ที่ตำหนักเย็น เขาก็เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว แล้วพอเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งยืนรออยู่ในห้องนอนด้วย “ใคร?” โหราจารย์ถาม “คนที่เจ้าทำนายว่า…เกิดใต้ดาวพิฆาตอย่างไรล่ะ” “ฉิน…อ๋อง…” เสียงของโหราจารย์สั่นสะท้าน “ความจำของเจ้ายังดีอยู่” ฉินอ๋องตอบ “ท่านอ๋อง…ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ท่านมาหาข้าน้อย ต้องการจะให้ทำนายเรื่องใดหรือขอรับ?” “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าเดินทางไกล (ตาย) เท่านั้น” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบ โหราจารย์จึงตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไป เพราะเพิ่งจะขยับตัว ก็ถูกสะกัดจุดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว และไม่สามารถพูดออกเสียงได้ ได้แต่ขยับปาก โดยไร้สุ้มเสียง… พอรุ่งเช้า…บ่าวรับใช้ในเรือนของโหราจารย์ที่มีหน้าที่เข้ามาจะปรนนิบัติ ก็พบว่าโหราจารย์ได้แขวนคอตายอยู่ในห้องนอน! สามวันต่อมา… อดีตฮองเฮาหยางเซียงก็ได้รับพระราชทานยาพิษจากไทเฮา พร้อมกันนั้น คนตระกูล

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่61.พังพินาศ

    เวลาบ่าย…สนมหม่าซู่ซู่ได้เชิญเสด็จฮ่องเต้ออกมาพักผ่อนที่อุทยานหลวง เกาซ่งขันทีคนสนิทของฮองเฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บราวเจ็ดส่วน (เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์) ได้รับข่าวจากสายของตน ก็รีบนำมารายงานฮองเฮา “เหนียงเหนียง (พระนาง) ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จลงอุทยาน นับเป็นโอกาสอันดีพ่ะย่ะค่ะ” “โอกาสอะไร?” ฮองเฮาตรัสถาม “ปกติสนมคนโปรดจะกีดกันผู้ที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระตำหนักหลวง แต่ในอุทยาน เหนียงเหนียงหาโอกาสเข้าเฝ้า แล้วทูลขอตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะได้ว่าราชการหลังม่าน ซึ่งฮ่องเต้จะได้มีเวลาพักผ่อนตามสบายพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “เวลานี้ไทเฮาก็ทรงทำหน้าที่นี้อยู่มิใช่หรือ?” “เหนียงเหนียง อย่าลืมสิ ว่าพอไทเฮาออกว่าราชการ ฉินอ๋องกับพรรคพวกก็กำจัดองค์หญิงเหลียนฮัว แล้วเป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องไม่พ้นเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง…คนแรกที่เราจะต้องกำจัดก็คือฉินอ๋อง” ฮองเฮาขบฟันตรัสแต่แผนการณ์ของฮองเฮาพังพินาศ…เพราะหม่าซู่ซู่เสแสร้งว่าถูกฮองเฮาผลักล้มและเกือบแท้งบุตร หม่าซู่ซู่และหม่าเต้า (หม่าเต้าเป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status