หน้าหลัก / LGBTQ+ / ชายาอ๋องอำมหิต / ตอนที่4. วีรบุรุษยากผ่านด่านสาวงาม

แชร์

ตอนที่4. วีรบุรุษยากผ่านด่านสาวงาม

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-01 08:57:36

"อย่างนี้แหละที่เรียกว่า วีรบุรุษยากผ่านด่านสาวงาม" หยางเซียงฮองเฮาตรัสแล้วสรวลเบาๆ "เพียงแต่เราเข้าใจผิดมานาน คิดว่าฉินอ๋องยังไม่พบพานสตรีที่ถูกใจ แต่ที่แท้แล้วฉินอ๋องยังไม่พบพานบุรุษที่ถูกใจต่างหาก...ฮ่าๆๆๆๆ"

     "ถ้าเป็นอย่างที่เหนียงเหนียงตรัสมา" เกาซ่งขันทีคนสนิทเอ่ยอย่างครุ่นคิด "กระหม่อมเกรงว่า ชายาเกาเหม่ยกุ้ยหลานสาวของกระหม่อมจะลำบาก"

     "ทำไมจึงคิดว่า...เหม่ยกุ้ยจะลำบาก?" ฮองเฮาย้อนถาม

     "เพราะว่า...สู้รบกับสตรีด้วยกัน ยังพอจะหาสาวใช้หน้าตารูปร่างงดงามมาเป็นพวกได้พ่ะย่ะค่ะ แต่พระชายาเป็นบุรุษ..."

     ฮองเฮาตรัสแทรกขึ้นกลางคัน "ก็หาบุรุษวัยเยาว์ที่มีรูปงามมาเป็นบ่าวรับใช้คอยสนับสนุนสิ"

     ขันทีเกาซ่งไตร่ตรองอยู่อึดใจเดียว ก็ทูลตอบว่า "เหนียงเหนียง (พระนาง) ความคิดของพระองค์เฉียบคมยิ่งนัก แต่ทว่ายังมีช่องโหว่ ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะเป็นโอกาสให้ฝ่ายศัตรูใช้เล่นงานพวกเราได้พ่ะย่ะค่ะ"

     "อืมม์..." ฮองเฮาทำเสียงรับรู้ "ช่องโหว่ที่ว่าคืออะไร?"

     "ชายาเกาเป็นสตรี...ถ้าหากนำสตรีรูปงามเข้าไปเป็นสาวใช้ ย่อมไม่ถูกครหา แต่หากเปลี่ยนเป็นบุรุษรูปงามมารับใช้ใกล้ชิดก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นเรื่องชู้สาวได้พ่ะย่ะค่ะ"

     "จริงของเจ้า" ฮองเฮาหยางเซียงตรัสเบาๆ "เช่นนั้นวิธีการนี้ก็ต้องชะลอไว้ก่อน จนกว่าเราจะหาได้วิธีที่เหมาะสม ค่อยว่ากันใหม่"

     "แต่ว่าเรื่องฉินอ๋องแต่งพระชายานี้ก็น่ายินดีในระดับหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ"

     "มีอันใดน่ายินดีหรือ?" ฮองเฮาตรัสถาม

     "ที่พวกเราสงสัยกันว่า ฉินอ๋องฝึกวิชาพลังสุริยันเก้าชั้นฟ้า ก็เป็นอันสบายใจได้ เพราะถ้าหากเขาฝึกจริง เขาจะมิอาจข้องเกี่ยวทางเพศ ไม่ว่าจะกับสตรีหรือบุรุษ จนกว่าจะสำเร็จวิชา แต่ด้วยการปะทะกันระหว่างฉินอ๋องกับราชองครักษ์ลับที่กระหม่อมส่งไปทดสอบ ฉินอ๋องแม้มีฝีมือร้ายกาจยิ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นสำเร็จวิชาพลังสุริยันเก้าชั้นฟ้าพ่ะย่ะค่ะ"

     "หมายความว่า...?"

     "เป็นไปได้สองทางพ่ะย่ะค่ะ...คือหนึ่ง ฉินอ๋องมิได้ฝึกวิชาพลังสุริยันเก้าชั้นฟ้า หรือสอง ฉินอ๋องฝึกแต่หักห้ามตัณหาราคะไม่ได้ จึงได้ร่วมรักกับพระชายาพ่ะย่ะค่ะ"

     "อืมม์...ที่เจ้ากล่าวมาน่าคิด"

     "กระหม่อมจึงคิดว่าที่เหนียงเหนียงจะส่งบุรุษรูปงามไปอยู่ข้างกายฉินอ๋องนั้น เป็นวิธีที่แยบยลที่สุดพ่ะย่ะค่ะ" ขันทีคนสนิทเกาซ่งทูล

     บ่ายวันนั้น...

     ฮองเฮาหยางเซียงเสด็จไปยังตำหนักมังกรที่ประทับของฮ่องเต้หลี่เหมา

     พอไปถึง...เพิ่งจะถวายบังคมเสร็จ

     ฉินอ๋องหลี่อี้ก็พาพระชายาไป๋หยงมาเข้าเฝ้า คู่บ่าวสาวทั้งสองถวายบังคมฮ่องเต้และฮองเฮา แล้วทำพิธียกน้ำชาถวายตามพระราชประเพณี

     ฮ่องเต้รับถ้วยน้ำชาขึ้นดื่มนิดหนึ่ง แล้วอวยพรให้ทั้งสองรักกันมั่งคงยืนยาว และพระราชทานหยกห้อยเอวเนื้อดีเยี่ยมสีม่วงสดใสสลักเป็นรูปมังกรดั้นเมฆให้แก่ไป๋หยง

     "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"

     แต่พอทั้งสองยกน้ำชาถวายฮองเฮา

     พระนางยกถ้วยน้ำชาไปจิบเล็กน้อยพอเป็นพิธี แล้วถอนพระทัยยาว

     "เฮ้ออออ..."

     ฉินอ๋องเหลือบตาขึ้นมองพระนางแวบหนึ่ง นึกอยากถามว่า...เสด็จแม่ น้ำชาติดพระศอหรือพ่ะย่ะค่ะ?

#####

    

ชายา ตอน 8

     "แม่หวังดีต่อเจ้ามากนะ ฉินอ๋อง" ฮองเฮาหยางเซียงตรัสด้วยสุรเสียงเหมือนอัดอั้นตันใจแทนลูกเลี้ยงเสียเต็มประดา "จึงประทานสมรสพระราชทานให้เจ้าตบแต่งกับบุตรสาวของอำมาตย์ไป๋หลง...แต่นี่อำมาตย์ไป๋กลับส่งผู้ใดมาให้เจ้า? สตรีก็ไม่ใช่ ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรธิดาแก่เจ้าได้แม้แต่คนเดียว..."

     "มิเป็นไรพ่ะย่ะค่ะ ไป๋หยงปรนนิบัติได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก" ฉินอ๋องหลี่อี้เอ่ยขึ้น

     "หา!" ไป๋หยงหลุดอุทานอย่างเผลอตัว แล้วรีบหุบปากแน่น

     "หาอะไร?" ฉินอ๋องถาม

     "มิมีอะไรขอรับ" ไป๋หยงตอบเสียงเบา

     ฮองเฮาค้อนฉินอ๋องอย่างหมั่นไส้ไปวงหนึ่ง แล้วตรัสว่า "ที่จริงแล้วเราไม่อยากจะรับเขาเป็นสะใภ้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่เห็นแก่ว่าเขาปรนนิบัติเป็นที่ถูกใจเจ้า เราจะไม่เอาเรื่องเขาก็ได้"

     พอฮองเฮาตรัสจบคำ ขันทีคนสนิทเกาซ่งก็วางปิ่นทองคำระย้าลงบนถาดน้ำชาที่ไป๋หยงชูด้วยสองมือ

     "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" ฉินอ๋องและไป๋หยงทูลพร้อมเพรียง

     "ลุกขึ้นได้" ฮ่องเต้ตรัส

     "ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ"

     ทั้งสองทูลพร้อมกัน แล้วฉินอ๋องก็ช่วยประคองไป๋หยงพากันลุกขึ้นยืนอย่างสงบ

     "เจ้าสี่..." ฮ่องเต้ตรัสกับฉินอ๋อง "เจ้าข่มขู่อะไรไป๋หยงหรือ?"

     "หามิได้พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ" ฉินอ๋องทูล "เป็นการลงโทษเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"

     "ลงโทษอะไร? ไป๋หยงเจ้าตอบมาซิ" ฮ่องเต้ตรัสถาม

     "ขะ คือ..." ไป๋หยงลอบมองฉินอ๋อง เห็นเขานิ่งเฉยไม่มีปฏิกิริยาใด ก็ได้แต่รวบรวมความกล้าทูลตอบเสียงเบาว่า "หากกระหม่อมกล่าวอะไรไม่ถูกใจท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะกัดปากกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ"

     ได้ยินเช่นนั้น...ฮ่องเต้ก็สรวลเสียงดังอย่างขบขัน

     ฮองเฮาค้อนไป๋หยงไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ ตามด้วยก่นด่าในใจ...ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!

     หลังจากพิธีถวายคารวะน้ำชาฮ่องเต้และฮองเฮาเสร็จเรียบร้อย...

ฉินอ๋องหลี่อี้ก็พาพระชายาไป๋หยงไปคารวะป้ายสถิตวิญญาณของบรรพชนยังหอบรรพกษัตริย์ ที่อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน

     หอบรรพกษัตริย์นี้เป็นหอสูงเก้าชั้น ป้ายสถิตวิญญาณเก็บบูชาอยู่บนชั้นเก้า

     ไป๋หยงติดตามฉินอ๋องเข้าไปในหอซึ่งมีขันทีและทหารองครักษ์เฝ้ารักษา

ข้างในหอจุดประทีปโคมไฟจนสว่างไสวแม้ไม่ใช่เวลากลางคืน...แต่ละชั้นล้วนประดับตกแต่งด้วยข้าวของมีค่า

     บนชั้นสูงสุด...โต๊ะบูชาเป็นโต๊ะไม้เนื้อดีทำเป็นชั้นๆ วางป้ายวิญญาณไว้จำนวนมาก แต่ละป้ายล้วนแกะสลักจากหยกเนื้อดีล้ำค่า เครื่องบูชาคือผลไม้ต่างๆ ที่บรรจุอยู่บนจานทองคำ มีกระถางธูปใบใหญ่ประดับมังกรเก้าตัว ตัวกระถางและมังกรทำจากทองคำ

     ขันทีผู้ดูแลหอบรรพกษัตริย์ จุดธูปส่งให้ฉินอ๋องสามดอก และไป๋หยงสามดอก

     ทั้งสองทำพิธีเคารพด้วยธูป แล้วปักธูปลงในกระถางเก้ามังกร แล้วหยิบจอกสุราบวงสรวงขึ้นเทสุราบนพื้น...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่66. ตอนพิเศษ3.

    องครักษ์ซ้ายเจาหู่มาขอพบพระชายาไป๋หยงเป็นการส่วนตัว “มีธุระอะไรกับข้าหรือ?” พระชายาไป๋หยงถาม พลางใช้ช้อนสามง่ามทองคำจิ้มผลไม้ที่ปอกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำอย่างสวยงามพูนจาน เข้าปากอย่างชื่นใจ “น้อมเรียนพระชายา คือข้า…ข้าน้อยอยากจะขอกู้เงินพระชายาขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่พูดตะกุกตะกัก “ต้องการเท่าไหร่?” “ห้าร้อยตำลึงเงินขอรับ” “เอาไปทำอะไร?” พระชายาหนุ่มน้อยวางช้อนสามง่ามทองคำในมือลง “คือว่า…ข้าน้อยชอบเซียวมี่ขอรับ” องครักษ์ซ้ายเจาหู่เอ่ยแล้วยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก “ชอบเซียวมี่?” “ขอรับ” “แล้วเกี่ยวอะไรกับเงินห้าร้อยตำลึง?” “คือว่า…เดิมทีเซียวมี่เป็นคนในจวนราชครูมู่สง ต่อมาราชครูมู่สงยกเซียวมี่ให้เป็นบ่าวของพระชายา แต่บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ยังคงเป็นบ่าวอยู่ในจวนราชครู พอตระกูลมู่ของราชครูต้องโทษประหารทั้งครอบครัว บ่าวไพร่ถูกขายทอดตลาด บิดามารดาและน้องชายหญิงของเซียวมี่ก็ถูกขายทอดตลาดด้วย ทางการให้พ่อค้าทาสเหมาทั้งหมดไปขายอีกต่อหนึ่ง ข้าน้อยไปเจรจากับพ่อค้าทาสแล้ว เขาจะยอมขายยกครอบครัวให้ข้าน้อยในราคาห้าร้อยตำลึงขอรับ

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่65. ตอนพิเศษ2.

    องครักษ์บู๊สงพาองค์ชายหกหลี่เฟิง เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ ค่ำไหนนอนนั่น คืนนี้…ทั้งสองพักในศาลเจ้าร้าง บู๊สงได้หากิ่งไม้แห้งจากรอบ ๆ ศาลเจ้า มาก่อกองไฟเล็ก ๆ เพื่อให้ไออุ่น องค์ชายหกมองเทวรูปดินปั้นที่ตั้งอยู่ด้านในสุด แล้วคุกเข่าลงพนมมืออธิษฐาน…ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็อธิษฐานเสร็จ “องค์ชาย…ท่านอธิษฐานอะไร?” บู๊สงถาม เพราะตลอดหลายวันมานี้องค์ชายเอาแต่ร้องไห้ ทว่าวันนี้กลับไม่มีน้ำตา องค์ชายวัยสิบสองเม้มปากตอบว่า “ข้าอธิษฐานว่า…ขอให้ข้าตายง่าย ๆ ตายไว ๆ” บู๊สงอึ้ง “ทำไมถึงได้อธิษฐานเช่นนี้?” “ข้าสับสนมาก…แต่ก่อนเสด็จแม่บอกกับข้าว่า คนอื่นล้วนเป็นคนไม่ดี ทว่าพอข้าถูกกักบริเวณ ทั้งขันที ทั้งนางกำนัล ล้วนกล่าวว่าเสด็จแม่เป็นคนไม่ดี แม้แต่…เสด็จย่า…ก็ว่าเสด็จแม่ไม่ดี“ องค์ชายน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ข้าอยากรู้ความจริง ว่าตกลงเสด็จแม่เป็นคนไม่ดีจริง ๆ หรือ?” “องค์ชาย…สตรีที่เข้ามาอยู่ในวังหลัง ก็เปรียบเสมือนบุรุษออกสู่สมรภูมิ ต่างต้องช่วงชิงการมีชีวิตรอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง…ข้าไม่อาจบอกต่อองค์ชาย ว่าฮองเฮาหยางเซียงร้ายหรือดี เพราะว่าข้าเพียงได้ฟังเขาเล่าต

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่64. ตอนพิเศษ1.

    หลังจากเรื่องราวในบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฮ่องเต้น้อยหลี่เจินขึ้นครองราชบัลลังก์ โดยมีฉินอ๋องเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และมหาเสนาบดียกทัพปราบหม่าฟู่เจ้าเมืองชิงซานแล้วเสร็จ สีไคก็จะเดินทางกลับแคว้นเว่ย ซึ่งเป็นแคว้นตอนใต้ของอาณาจักรต้าเป่ยและอยู่ทางทิศเหนือของอาณาจักรจงกั๋วฉินอ๋องจึงจัดงานเลี้ยงส่ง…โดยมีแขกผู้รับเชิญเป็นครอบครัวของท่านแม่ยายนางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู และอาโหยว ส่วนท่านย่านั้น นางขอตัวเพราะไม่สะดวก (อยากนอนพักกลางวัน) และท่านน้าบัณฑิตหลิวฮั่ว ซึ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นอำมาตย์ตรี หัวหน้ากองเอกสารของกรมการค้า ฉินอ๋องจึงถือโอกาสจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้อำมาตย์หลิวฮั่วด้วย อำมาตย์หลิวฮั่วได้พาฟูเหรินเย่หว่านมางานด้วย ฟูเหรินเย่หว่าน (หว่านหว่าน) นั้นกำลังตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ดวงหน้างดงามอิ่มเอิบ อาหยูน้อยที่ได้นั่งข้างๆ เย่หว่าน มองท้องที่นูนขึ้นของนาง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “พี่หว่านหว่าน…” อาหยูน้อยยังไม่ได้ถามต่อ ก็ถูกนางหลิวซื่อว่ากล่าว “อาหยู…ต้องเรียกว่าท่านน้าสะใภ้ ไม่ใช่พี่หว่านหว่าน” “ไม่เป็นไรค่ะ” เย่หว่านตอบนางหลิว

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่63. กลับจวน

    นางหลิวซื่อ นางยู่อิง อาหยู อาโหยว และเฉียวซาน (อาจารย์และองครักษ์ของอาหยูอาโหยว) ถูกรับมาอยู่จวนของฉินอ๋องตั้งแต่ตอนบ่าย พอวันรุ่งขึ้น…กองทัพขององค์ชายห้าหลี่เหิงตีเข้าเมืองหลวงมา ก็แยกเป็นสองขบวน ขบวนหนึ่งโจมตีวังหลวง อีกขบวนหนึ่งโจมตีจวนฉินอ๋อง ครั้นประตูจวนต้านไม่อยู่ ทหารของราชครูมู่สงบุกเข้ามา…ไป๋หยงก็ตรวจนับคนที่ตนจะพาออกไปทางลับด้วยกัน ก็เห็นว่าขาดอาเหยียนกับป้าไช่ จึงถามนางฮัวซื่อว่า “ท่านน้า…พี่เหยียนอยู่ไหน?” (ตั้งแต่รู้ว่า อาเหยียนเป็นบุตรของทั่นฮวาเฉินอวี้ ไป๋หยงก็เรียกนางฮัวซื่อว่าท่านน้า แทนที่ท่านป้าสะใภ้รอง) “อาเหยียนไปตามหาป้าไช่ที่โรงครัว” “ทำไมมาแยกตัวออกไปตอนหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ด้วย” ไป๋หยงบ่นอย่างไม่พอใจ แต่ก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ข้าจะไปตามพี่เหยียนกับป้าไช่ ทุกคนรออยู่ในห้องนอนใหญ่อย่าได้แยกย้ายไปไหนเป็นอันขาด” แล้วคว้ากระบี่ติดมือ มุ่งหน้าตรงไปยังโรงครัวทันที แต่ระหว่างทางพบเข้ากับราชครูมู่สง จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น “ข้าจะจับพระชายาไปแขวนที่กำแพงเมืองให้ฉินอ๋องดู” ไป๋หยงไม่ตอบว่าอะไร แต่ตั้งอกตั้งใจใช้เพลงก

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่62. ที่จวนโหราจารย์

    ที่จวนของโหราจารย์ คืนนั้น…โหราจารย์รู้สึกจิตใจไม่สงบ เขาได้รู้ข่าวการตายอนาถของขันทีปลอมเกาซ่ง ฮองเฮาถูกปลดจากตำแหน่งและขังอยู่ที่ตำหนักเย็น เขาก็เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว แล้วพอเข้าห้องนอน ก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเห็นเงาร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งยืนรออยู่ในห้องนอนด้วย “ใคร?” โหราจารย์ถาม “คนที่เจ้าทำนายว่า…เกิดใต้ดาวพิฆาตอย่างไรล่ะ” “ฉิน…อ๋อง…” เสียงของโหราจารย์สั่นสะท้าน “ความจำของเจ้ายังดีอยู่” ฉินอ๋องตอบ “ท่านอ๋อง…ค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้ ท่านมาหาข้าน้อย ต้องการจะให้ทำนายเรื่องใดหรือขอรับ?” “ไม่มีอะไร…ข้าเพียงแค่มาส่งเจ้าเดินทางไกล (ตาย) เท่านั้น” ฉินอ๋องเอ่ยเสียงเย็นยะเยียบ โหราจารย์จึงตัดสินใจวิ่งหนี แต่ช้าเกินไป เพราะเพิ่งจะขยับตัว ก็ถูกสะกัดจุดเอาไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว และไม่สามารถพูดออกเสียงได้ ได้แต่ขยับปาก โดยไร้สุ้มเสียง… พอรุ่งเช้า…บ่าวรับใช้ในเรือนของโหราจารย์ที่มีหน้าที่เข้ามาจะปรนนิบัติ ก็พบว่าโหราจารย์ได้แขวนคอตายอยู่ในห้องนอน! สามวันต่อมา… อดีตฮองเฮาหยางเซียงก็ได้รับพระราชทานยาพิษจากไทเฮา พร้อมกันนั้น คนตระกูล

  • ชายาอ๋องอำมหิต   ตอนที่61.พังพินาศ

    เวลาบ่าย…สนมหม่าซู่ซู่ได้เชิญเสด็จฮ่องเต้ออกมาพักผ่อนที่อุทยานหลวง เกาซ่งขันทีคนสนิทของฮองเฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บราวเจ็ดส่วน (เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์) ได้รับข่าวจากสายของตน ก็รีบนำมารายงานฮองเฮา “เหนียงเหนียง (พระนาง) ยามนี้ฮ่องเต้เสด็จลงอุทยาน นับเป็นโอกาสอันดีพ่ะย่ะค่ะ” “โอกาสอะไร?” ฮองเฮาตรัสถาม “ปกติสนมคนโปรดจะกีดกันผู้ที่จะไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ที่พระตำหนักหลวง แต่ในอุทยาน เหนียงเหนียงหาโอกาสเข้าเฝ้า แล้วทูลขอตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะได้ว่าราชการหลังม่าน ซึ่งฮ่องเต้จะได้มีเวลาพักผ่อนตามสบายพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “เวลานี้ไทเฮาก็ทรงทำหน้าที่นี้อยู่มิใช่หรือ?” “เหนียงเหนียง อย่าลืมสิ ว่าพอไทเฮาออกว่าราชการ ฉินอ๋องกับพรรคพวกก็กำจัดองค์หญิงเหลียนฮัว แล้วเป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องไม่พ้นเหนียงเหนียงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” เกาซ่งทูล “ชิงลงมือก่อนได้เปรียบนะพ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง…คนแรกที่เราจะต้องกำจัดก็คือฉินอ๋อง” ฮองเฮาขบฟันตรัสแต่แผนการณ์ของฮองเฮาพังพินาศ…เพราะหม่าซู่ซู่เสแสร้งว่าถูกฮองเฮาผลักล้มและเกือบแท้งบุตร หม่าซู่ซู่และหม่าเต้า (หม่าเต้าเป็น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status