“พวกเจ้าอยากประมูลสิ่งใด?” เฉิงเซวียนกล่าวถามด้วยความอยากรู้ กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้ม “ก็แค่สมุนไพรบางอย่าง เก็บไว้กับตัวก็ไม่ได้ใช้ ดูสิว่าจะแลกเงินได้หรือไม่?”นางไม่ได้บอกว่าตัวเองจะขายสิ่งใด เฉิงเซวียนเองก็รู้จักวางตัวไม่ถามเซ้าซี้ให้มากความอีกหลังจากพาทั้งสองคนมาถึงด้านหลังงานประมูล กู้หว่านเยว่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่างานประมูลดูเหมือนจะวุ่นวายอยู่ไม่น้อยหลี่หรงหรงกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ “พ่อบ้านหลายคนในตลาดมืด วิ่งกันสุดชีวิต งานขายประมูลครั้งนี้ไม่มีเจ้าภาพ ดังนั้นจึงได้ดูวุ่นวายเช่นนี้”นางเดาว่าคนที่เป็นเจ้าภาพเปิดงานประมูลครั้งนี้น่าจะเป็นคนที่รับหน้าที่ชั่วคราว ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนกู้หว่านเยว่พยักหน้า เด็กรับใช้ในงานประมูลรู้ว่าพวกเขาฝากขายของ จึงมองพิจารณาพวกเขาแวบหนึ่งครั้นเห็นพวกเขาต่างก็ไม่เป็นเดือดเป็นร้อน น้ำเสียงของเขาจึงหมดความอดทน“พวกท่านตั้งใจจะฝากขายสิ่งใดขอรับ?”เขากล่าวเตือน “ขอพูดตรง ๆ นะขอรับ งานประมูลของเราล้วนแต่ประมูลสิ่งของที่มีมูลค่า สิ่งของที่ไม่สามารถนำขึ้นลานประมูลได้ งานประมูลเราขอไม่รับ เชิญท่านเลี้ยวซ้ายไปโรงรับจำนำเถอะ”กู้หว่านเยว
“ขอถามหน่อย กำไรจากการขายประมูลคือเท่าไหร่หรือ?”พ่อบ้านโจวทำท่านับนิ้ว “ห้าตำลึงเงิน”“พรวด”กู้หว่านเยว่คาดไม่ถึง ว่ากำไรของตลาดมืดแห่งนี้จะสูงถึงเพียงนี้ มิน่าล่ะตลาดมืดถึงได้มีเงินเข้ามาเป็นจำนวนมาก ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก “นี่คือกฎระเบียบตลาดมืดของเรา หากเจ้าไม่อยากขาย เราก็ไม่บังคับ”พ่อบ้านโจวเข้าใจความคิดของกู้หว่านเยว่อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงยกมือลูบเคราพลางคลี่ยิ้ม“ไม่จำเป็น ก็ตามนี้เถอะ”กู้หว่านเยว่ก็อยากเห็นรูปแบบการค้าขายของตลาดมืดเช่นกัน นางพูดไม่ออก ความจริงแล้วนางตื่นเต้นกับตลาดมืดแห่งนี้มาก“หวังว่าพ่อบ้านจะเก็บสถานะของข้าไว้เป็นความลับ อย่าให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาด แมงกะพรุนฝันสู่สวรรค์ชิ้นนี้ข้าเป็นคนนำมาเอง”กู้หว่านเยว่กล่าวเตือนสั้น ๆ นางไม่อยากดึงดูดปัญหาที่ไม่จำเป็น“วางใจเถอะ” พ่อบ้านโจวพยักหน้า กู้หว่านเยว่วางกล่องหยกลง แล้วพาพวกเขาเดินจากไป หลี่หรงหรงกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ “พ่อบ้านโจวไม่เลวเลยจริง ๆ ดูเป็นคนที่จริงใจมาก”“ข้าดูออก”กู้หว่านเยว่พยักหน้า หลังจากที่ฝากขายสมุนไพรแล้ว นางก็ให้ระบบเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเถ้าแก่ตลาดมืดรอบตัว“เข้าไปในห้องพ
องครักษ์ลับพากันเดินออกจากห้องเก็บของอย่างกระอักกระอ่วนใจ ไป๋โม่อวี่หันกลับมามองของมีค่าที่วางอยู่เต็มคลังสินค้าเขาพึมพำกับตัวเอง “ซิงเยว่ มีบุรุษน่ารังเกียจสองคนปรากฏตัว พุ่งเข้ามาสู้กับข้า หากเจ้าสัมผัสได้ ก็จงอวยพรให้ข้าจับตัวพวกเขาได้โดยเร็วเถอะ”เขาดีดสิ่งของบางอย่างในมือ ดูเหมือนจะเป็นของที่ระลึกชิ้นหนึ่งทันใดนั้น สายตาอันเฉียบคมของเขาก็มองออกไปด้านนอก“ใคร!”เขาลอยตัวมาทางนี้แล้วโจมตีทันทีหนังตาของกู้หว่านเยว่กระตุกหนึ่งครั้ง บุรุษผู้นี้มีความระวังตัวเป็นอย่างดี แม้ว่าพวกเขาจะระมัดระวังตัวแล้ว แต่ก็ยังถูกอีกฝ่ายจับได้อยู่ดี“ระวัง” ซูจิ่งสิงอุ้มนางหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนจึงร่วงตกเข้ามาในห้องแม้ว่าพวกเขาสองคนจะปลอมตัวอยู่ แต่เสี้ยววินาทีที่เผชิญหน้า ไป๋โม่อวี่ก็จำทั้งสองคนได้“พวกท่านทั้งสองคนคือเจิ้นเป่ยอ๋องและพระชายาเจิ้นเป่ยสินะ”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้ม “เถ้าแก่ตลาดมืดตาดีมากเจ้าค่ะ”“เวินทิงอวิ๋น ตายด้วยฝีมือของพวกท่านใช่หรือไม่?”“ถูกต้อง” กู้หว่านเยว่เองก็ไม่ได้ปฏิเสธ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ตายด้วยน้ำมือของนาง แต่นางจับตัวเขาไปจริง ๆ“ฟังจากเสียงของเจ้า
“คนผู้นี้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไวมาก”ครั้นยิงยาสลบออกไปแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ถึงตัวยาจะออกฤทธิ์ คิดไม่ถึงว่าเขาจะตัดสินใจหนีภายในเสี้ยววินาที“อยากให้ไล่ตามไปหรือไม่?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วพลางกล่าว กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “ในห้องเก็บของขนาดใหญ่แห่งนี้จะต้องมีสิ่งของที่พวกเราต้องการ เราเข้าไปตรวจสอบห้องเก็บของแห่งนี้สักรอบเถอะ”เมื่อครู่ระบบเพิ่งบอกนางว่าด้านหลังห้องเก็บของยังมีห้องลับอีกหนึ่งห้อง“ได้” ซูจิ่งสิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่รีบคว้ามือของเขาและมุ่งตรงไปยังห้องลับทันที นางครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็รวบรวมสิ่งของในห้องเก็บของเข้าไปไว้ในห้วงมิติ จากนั้นก็พาซูจิ่งซิงเข้าไปในห้องลับปรากฏว่าทันทีที่เข้าไป ก็สัมผัสได้ถึงความหนาวสะท้านระลอกหนึ่ง สิ่งที่ทำให้นางตื่นตระหนกก็คือห้องลับแห่งนี้เต็มไปด้วยก้อนน้ำแข็ง และมีอุณหภูมิที่ต่ำมาก“ที่นี่ที่ไหน?”ทั้งสองคนประหลาดใจมากภายในห้องลับแห่งนี้หากมองเพียงแวบเดียวจะเห็นว่านอกจากก้อนน้ำแข็งแล้ว ก็ไม่มีสิ่งของใด ๆ อีก หรือว่าไป๋โม่อวี่บ้าไปแล้ว สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อกักเก็บน้ำแข็งไว้โดยเฉพาะ“น้องหญิง เจ้าดูทางนั้นสิเห
เฉิงเซวียโพล่งถามทันทีว่า “พาข้าไปด้วยได้หรือไม่?”เขาเพิ่งพบบางสิ่งบางอย่าง “ยามนั้นท่านตาของข้าออกจากตลาดมืดไปด้วยความเสียใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับไป๋โม่อวี่”“ไป๋โม่อวี่คือใคร?”สองสามีภรรยาพากันงุนงง“ไป๋โม่อวี่ ก็คือเถ้าแก่ตลาดมืด” เฉิงเซวียนมองไปทางทั้งสองคนอย่างคาดไม่ถึง“พวกท่านมาหาเขาแต่ไม่รู้จักเขาอย่างนั้นหรือ?”ทว่าเขาเองก็เพิ่งเปิดบันทึกของท่านตาจึงได้รู้“เขาต้องการหนี!”เครื่องตามตัวของห้วงมิติเกิดเป็นไฟวิบวับ กู้หว่านเยว่คว้าตัวซูจิ่งสิงลอยตัวตามไปโดยไม่พูดไม่จา“คุณชายเฉิง ทางที่ดีท่านแกล้งทำเป็นไม่รู้จักพวกเราดีกว่า”ไป๋โม่อวี่มีทักษะการต่อสู้ขั้นสูง ผู้คนรอบตัวล้วนแต่เป็นคนของตลาดมืดทั้งสิ้น หากสู้กันจริง ๆ พวกเขาสองคนคงเทียบเฉิงเซวียนไม่ได้“เจ้ากลับไปปกป้องเนี่ยชิงหลานเถอะ”กู้หว่านเยว่กล่าวเสริมเล็กน้อย เฉิงเซวียนเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า“ขอรับ ข้าจะกลับไปปกป้องน้องหญิงเดี๋ยวนี้”เรื่องราววันวานของท่านตาต่างก็ผ่านไปแล้วหลายทศวรรษแล้ว มิใช่เรื่องเร่งด่วนอะไร ความปลอดภัยของน้องหญิงสำคัญที่สุดเฉิงเซวียนหมุนตัวกลับไป หลังจากที่เขาจากไปแล้วไม่นาน
“นางอ้างว่าเป็นย่าของไป๋โม่อวี่”ดูจากความสอดคล้องของอายุ ทันทีที่ไป๋โม่อวี่ได้ยินแล้วกลับกัดฟันกรอด“เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหล ซิงเยว่คือภรรยาของข้า”“อะไรนะ?!”กู้หว่านเยว่งุนงงในทันที ตอนนี้อายุของหญิงชราผู้นี้ใกล้จะแปดสิบปีแล้ว เหตุใดถึงเป็นภรรยาของไป๋โมอวี่ได้“รสนิยมของเจ้าพิสดารยิ่งนัก”นางอดโพล่งออกมาไม่ได้ เทียนซิงเยว่ถึงกับยืนไม่อยู่“อาโม่ ข้าไม่ใช่....”นางอายเกินกว่าจะยอมรับ ไป๋โม่อวี่กลับพยายามกล่าวไม่ยั้ง“ข้าและเจ้ากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว เจ้าคือภรรยาของข้า และตลอดชีวิตนี้ข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เราสองคนจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วฟ้าดินสลาย”สองคนนี้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ หรือ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงพากันตะลึงงันไป๋โม่อวี่มองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงด้วยสายตาขุ่นเคือง “ข้าตกอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว ข้าไม่เก่งเหมือนผู้อื่น พวกเจ้าจะฆ่าใครเท่าไหร่ก็ได้ แต่ห้ามพวกเจ้าสร้างความอัปยศอดสูให้ซิงเยว่”ครั้นเอ่ยถึงเทียนซิงเยว่ สายตาเขาฉายแววอ่อนโยนทันทีเทียนซิงเยว่กลับส่ายหน้า “ได้โปรดพวกเจ้าปล่อยเขาไปเถอะ ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อข้า การแก้แค้นทั้งหมดนี้ พวกเจ้ามาลงกับข้าได้เ
เดิมทีนางคิดว่าเถ้าแก่ตลาดมืดผู้นี้จะเป็นคนที่ละโมบโลภมาก คาดไม่ถึงว่าทุกอย่างที่เขาทำล้วนแต่ทำเพื่อภรรยาของเขา“มัดตัวนางไว้”แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาก็ตาม แต่ก็รู้สึกเห็นใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของเทียนซิงเยว่แต่มันก็คนละเรื่องกัน ความลำบากของสองคนนั้นในตอนนั้นไม่ใช่ฝีมือพวกเขา ดังนั้นความแค้นของพวกเขาจะหักล้างกันไม่ได้“พวกเจ้าอย่าทำร้ายซิงเยว่นะ” ไป๋โม่อวี่เกลียดชังยิ่งนัก “มีอะไรก็มาลงที่ข้า จะทำร้ายสตรีทำไม?”กู้หว่านเยว่กล่าวเสียงเรียบ “อย่าร้อนใจไป ความแค้นที่ควรเอาคืนจากเจ้าข้าไม่มีวันลดน้อยลงหรอก”“เจ้า!” ไป๋โม่อวี่ถึงกับสำลักครั้นเห็นซูจิ่งสิงไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายเทียนซิงเยว่ แต่กลับจับพวกเขามัดไว้ด้วยกัน จึงปิดปากลง“อาโม่ เจ้าทำเพื่อข้า ทุกอย่างนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือ?”เทียนซิงเยว่ยังคงร้องไห้ นางคิดว่าหากไม่ใช่เพราะนาง วันนี้ไป๋โม่อวี่คงไม่ตกมาอยู่ในกำมือของสองสามีภรรยาคู่นี้“ข้าไร้ความสามารถ ไม่เกี่ยวกับเจ้า”สองสามีภรรยาคู่นี้มีความสามารถแกร่งกล้า องครักษ์ลับเหล่านั้นของเขาก็เหมือนกับของประดับไปโดยปริยาย มิน่าล่ะเวินทิงอวิ๋นจึงได้ตายด้
นางตั้งใจว่าจะหาโอกาสที่เหมาะสมแล้วค่อยสอบสวนทั้งสองคน ถึงอย่างไรนางก็มีคำถามที่เกี่ยวข้องกับเหยลวี่เจิงอยากจะถามอยู่แล้ว“ไปกันเถอะ เราออกไปกันก่อน”กู้หว่านเยว่พาซูจิ่งสิงออกจากห้องไป ในตอนนี้เองพ่อบ้านโจวพาองครักษ์ลับกลุ่มหนึ่งล้อมเข้ามาทันที“นายท่าน ได้ยินว่ามีนักฆ่าบุกมา นายท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า แล้วเลียนเสียงของไป๋โม่อวี่“งานประมูลเป็นอย่างไรบ้าง?”“นายท่านโปรดวางใจ งานประมูลราบรื่นดี งานประมูลครั้งนี้มีสามีภรรยาคู่หนึ่งนำสมุนไพรมีค่าจำนวนมากมาประมูลด้วย ข้าจัดประมูลอยู่ในลำดับก่อนสุดท้าย ของชิ้นนี้จะต้องขายได้ราคาดีอย่างแน่นอน งานประมูลของเราคงได้กำไรไม่น้อยแน่นอนขอรับ”“อื้อ” กู้หว่านเยว่แกล้งทำเป็นพยักหน้า ใครจะไปรู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นจะเป็นของนาง“เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการ หากไม่มีอะไรแล้วก็อย่ามารบกวนข้า”จู่ ๆ กู้หว่านเยว่ก็คิดอะไรบางอย่างได้“จริงสิ คืนนี้ทุกคนต่างก็รอคอยข้ากันทั้งนั้น ข้ามีเรื่องอยากจะพูด”“นายท่านวางใจ”ทุกคนต่างรู้จักนิสัยของเขาดี จึงมักไม่อนุญาตให้ใครขึ้นมาชั้นสอง และไม่อนุญาตให้ใครมาป้วนเปี้ยนด
“ชู่ว์ หลบไปข้าง ๆ”คนที่มาค่อนข้างเยอะ ประมาณห้าหกคนได้ โชคดีที่พวกเขาหลบได้เร็วคนทั้งห้าหกคนนี้ สวมสิ่งที่คล้ายหน้ากากป้องกันแก๊สพิษไว้บนใบหน้า และในมือก็ถือเครื่องมืออยู่ด้วยตอนนี้กู้หว่านเยว่ยังคงอยู่ในสภาวะสับสนกับห้องปรุงพิษ อีกทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไร จึงตัดสินใจแอบตามพวกเขาไปเงียบ ๆ เผื่อว่าจะได้ยินข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไรบ้าง“ต้องมาเอาของข้างในตัวงูนี่อีกแล้ว น่าขยะแขยงจริง ๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะจบสิ้นสักที”เป็นไปตามคาด ตามไปได้ครู่เดียว พวกเขาก็ได้ยินคนบ่นขึ้นมา“ทน ๆ ไปเถอะน่า ก็อีกไม่เท่าไรแล้ว”“จะทนอย่างไรเล่า สามปีแล้ว สามปีแล้วที่ข้าไม่ได้ออกไปไหนเลย”คนอื่น ๆ ที่เหลือได้ยินดังนั้น ต่างพากันถอนหายใจพวกเขาไม่อยากออกไปหรืออย่างไรเล่าแต่เมื่อเข้ามาที่นี่แล้ว การจะออกไปนั้น เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งแล้ว“พวกเจ้าว่า หากไม่มีงูตัวนี้แล้ว ราชินีจะปล่อยพวกเราออกไปหรือไม่?”“หรือว่า จะฆ่าปิดปาก?”หนึ่งในนั้นทำท่าทางบางอย่าง คนอื่น ๆ ก็หน้าซีดเผือดไปตาม ๆ กัน“เป็นไปไม่ได้หรอก”ถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจพวกเขาก็ไม่ม
เมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังจะฟื้นคืนสติ กู้หว่านเยว่จึงใช้สันมือฟาดลงไป ทำให้เขาสลบไปอีกครั้ง“เหตุใดถึงทำให้เขาสลบไปล่ะ ยังถามคำถามไม่เสร็จเลย”ชวีเฟิงเอ่ยถามด้วยความสงสัยทำให้กู้หว่านเยว่มองเขาราวกับมองคนปัญญาอ่อน ก่อนจะกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่เห็นหรือไรว่ายาพูดความจริงกำลังจะหมดฤทธิ์แล้ว?”“อ้อ” เขายังไม่ทันสังเกตเห็นแต่เขาก็รู้จักของสิ่งนี้ เพราะก่อนหน้านี้กู้หว่านเยว่เคยให้เขากับยายแม่มดเฒ่ากินมันมาแล้ว“ของที่น่ากลัวนั่น มันคืออะไรกันแน่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า นางรู้สึกสังหรณ์ใจอยู่ราง ๆ ว่าห้องปรุงพิษนี้กำลังเตรียมการเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินอยู่“ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว พวกเราเข้าไปดูก็จะรู้เอง”กู้หว่านเยว่หรี่ตาลงพลางครุ่นคิด“ชุดที่พวกเราใส่อยู่ตอนนี้ ออกไปตรวจสอบไม่ได้แน่ ถอดเสื้อผ้าของคนงานเหมืองนี่ออกมา พวกเราเปลี่ยนใส่แทนเสีย”ชวีเฟิงในตอนนี้ได้ถือว่ากู้หว่านเยว่เป็นแกนนำหลักแล้ว เมื่อได้ยินดังนั้น จึงรีบถอดเสื้อผ้าของคนงานเหมืองสองคนในกลุ่มนั้นออกทันทีทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้า“แล้วคนพวกนี้จะทำอย่างไร?” แถมยังมีวูเหมิงที่อยู่บนหลังเขาอีก แบกไว้ก็เคลื
“มียาแค่หนึ่งเม็ด กลิ่นหอมจะจางหายไปในอีกไม่นาน พวกเรารีบฉวยโอกาสตอนนี้ เดินอ้อมแมงมุมพิษพวกนี้กันเถอะ”“ได้”ทั้งสองเร่งฝีเท้า หลังจากเดินอ้อมเส้นทางที่ยาวเหยียดสายหนึ่ง ในที่สุดก็ไม่เห็นแมงมุมพิษอีกแล้ว แต่ว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าพวกเขากลับเป็นแม่น้ำใต้ดินสายหนึ่งลมเย็นที่มีกลิ่นคาวปนพัดพลิ้วมาจากแม่น้ำใต้ดินเป็นระลอก ทำเอาทั้งสองต้องย่นจมูก“พระมเหสี ท่านมั่นใจหรือว่าที่นี่ก็คือห้องปรุงพิษ?”“ใช่”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ระบบได้ส่งแผนที่ที่สมบูรณ์ให้นางแล้ว ไม่มีทางผิดแน่นอน“ตอนนี้พวกเราต้องเข้าไปโดยผ่านแม่น้ำใต้ดินสายนี้”มีแพไม้ไผ่อยู่ที่ข้างๆ น่าจะเป็นพาหนะของห้องปรุงพิษที่ใช้เข้าออกกู้หว่านเยว่กระโดดขึ้นแพไม้ไผ่อย่างไม่เกรงใจชวีเฟิงรีบพาวู่เมิ่งตามนางไปหลังจากวางวูเมิ่งลง หยิบไม้ไผ่ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาพายแพไม้ไผ่เข้าไปข้างในเนื่องจากเรือทวนกระแสน้ำ ชวีเฟิงเหนื่อยจนมีเหงื่อเกาะบนหน้าผากไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดทัศนียภาพเบื้องหน้าก็ค่อยๆ เปิดออก พวกเขาข้ามแม่น้ำใต้ดินมาถึงพื้นที่โล่งแห่งหนึ่ง ทั้งสองกระโดดลงจากแพไม้ไผ่ หลังจากนั้นชวีเฟิงแบกวูเมิ่งขึ้นหลังอี
“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ลดความเร็วในการค้นหาเส้นทางช้าลงระหว่างทางพวกเขาได้พบกับแมงมุมยักษ์สีแดงสองตัวอย่างที่คิดไว้ข้างหลังของแมงมุมพิษแต่ละตัวจะมีฝูงแมงมุมตัวเล็กๆ เดินตาม มันเยอะจนดูน่ากลัว เห็นแล้วถึงกับหนังศีรษะช้า“นายหญิง ระวังแมงมุมพิษชนิดนี้”ระบบเตือนในมิติ“เมื่อไปรบกวนมัน มันจะระเบิดตัวเอง และพ่นแมงมุมตัวเล็กนับไม่ถ้วนออกมา เมื่อนั้นพวกท่านจะเจอปัญหาแน่นอน”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว ฟังดูเป็นปัญหาจริงๆ“รวบรวมของพวกนี้เข้าคลังในมิติ สามารถเพิ่มคะแนนสะสมหรือไม่?”“ได้” ระบบพยักหน้า“คะแนนสะสมที่เพิ่มขึ้นเยอะพอสมควร”เมื่อกู้หว่านเยว่ได้ยินก็ตาเป็นประกาย เช่นนี้ก็ง่ายอีกแล้วนางฉวยโอกาสโบกมือน้อยตอนที่ชวีเฟิงไม่สังเกต เก็บแมงมุมพิษสองตัวนี้เข้าไปในมิติ“แมงมุมพิษหายไปแล้ว”เนื่องจากฟ้ามืดเกินไป ชวีเฟิงก็มองเห็นไม่ชัดว่าแมงมุมสองตัวนี้ไปไหนแล้ว คิดแค่ว่าพวกมันเข้าไปในพุ่มหญ้าแล้ว จึงรีบมองหาดูรอบๆ“ไม่ต้องหาแล้ว พวกเราอ้อมไปอย่างระมัดระวังดีกว่า”กู้หว่านเยว่กล่าวเร่งเร้าประโยค ก็ไปเดินนำทางที่ข้างหน้าแล้วชวีเฟิงรับเดินตามทั้งสองเดินไปได้ครึ่งชั่วยาม ในที่ส
“อ๊ะๆๆๆ!”วูเมิ่งร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด ถ้าหากไม่ได้โดนมัดไว้ เขาคงเจ็บจนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นแล้ว“เขียนบนพื้น”กู้หว่านเยว่ยื่นน้ำชาให้เขาหนึ่งถ้วยน้ำตาของวูเมิ่งแทบจะแห้งแล้ว แม้ห้องปรุงพิษของพวกเขาก็มักจะสอบสวนผู้อื่นเช่นนี้แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนสอบสวน“ข้าเขียน ข้าเขียน”เขารีบทำปากพูด พลางยื่นมือสองข้างที่โดนมัดเข้าด้วยกันออกไป ใช้นิ้วชี้จุ่มลงไปในน้ำชาเดิมทีอยากฉวยโอกาสดีดยาพิษในซอกเล็บออกมา กลับพบว่าโดนกู้หว่านเยว่ค้นตัวจนไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ยาพิษในซอกเล็บก็โดนขูดออกมาแล้วเขากัดฟันแน่น ใช้ดวงตาที่เป็นประกายจ้องกู้หว่านเยว่เขาชอบผู้หญิงสวย ผู้หญิงที่เก่งกาจ เขายิ่งชอบ‘ชวีอวี้’ เก่งกาจเช่นนี้ เขาชอบสุดๆรอเขามีโอกาส เขาจะสยบนางแน่นอน“เขียน” กู้หว่านเยว่สั่งอย่างใจเย็นเหลือเวลาไม่มากแล้ว ชวีเฟิงกล้าร้องหนึ่งชั่วยาม แต่ใช้ว่าวูเมิ่งจะทำได้นานเช่นนี้“คุกใต้ดินห้องปรุงพิษ” วูเมิ่งเขียนลงบนพื้นกู้หว่านเยว่ประหลาดใจ “เจ้าบอกว่าอยู่ในมือของเจ้าไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงอยู่ที่ห้องปรุงพิษ?”แววร้อนตัวแลบผ่านดวงตาวูเมิ่งเขาเขียน “ไม่พูดเช่นนี้ เจ้าจะยอมแต่งง
“ให้ตายเถอะ!”ชวีเฟิงยังไม่ทันได้ใช้ศิลปะการต่อสู้เลย ก็เห็นเขาโดนกู้หว่านเยว่ผลักจนล้มลง จึงอุทานออกมาด้วยความตกใจ“ท่านทำอะไรกับเขา?”“เปล่านี่ แค่ทำให้เขาสลบ จะได้สอบสวนง่ายขึ้น”กู้หว่านเยว่พูดอย่างสบายๆนางเป็นไปที่ตรงหน้าวูเมิ่ง ค้นตามร่างกายเขาครู่หนึ่ง พบอาวุธลับและยาพิษมากมาย“แหม โชคดีที่ทำให้เขาสลบก่อน ของพวกนี้สามารถทำให้พวกเราเสียเวลาพักใหญ่เลย”“ของพวกนี้มันอะไร?” ชวีเฟิงมองขวดเหล่านั้นอย่างงงงวย“นี่คือยาพิษที่ฆ่าคนได้ในพริบตา”“น้ำยาทำลายศพ ความหมายตามชื่อเลย มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงมาก”“ไห่ถังเจ็ดดาว ไร้สีไร้รส ผู้ที่ถูกพิษจะหมดสติทันที ตายอยู่ในความฝัน อีกทั้งยังเป็นฝันดีด้วย ตอนตายยังยิ้มอยู่เลย”“อันนี้…”“เดี๋ยวก่อน เลิกพูดได้แล้ว!”กู้หว่านเยว่ยังจะพูดต่อ ชวีเฟิงรีบห้ามนาง “ของพวกนี้ก็น่ากลัวมากแล้ว ขืนฟังต่อไป ข้ากลัวว่าข้าจะฝันร้ายทำไมเขาถึงพกยาพิษมากมายเช่นนี้ ไม่กลัวตัวเองโดนพิษของตัวเองเลยหรือ”“เขาเป็นคนของห้องปรุงพิษ เจอยาพิษป้องกันตัวบนตัวเขาก็เป็นเรื่องปกติ”กู้หว่านเยว่เก็บยาพิษเหล่านั้นเข้าไปในมิติอย่างใจเย็นหลังจากนั้น นางเดินไปที่ประตู ม
“อวี้เอ๋อร์ ข้ามารับเจ้าแล้ว ทำไมเจ้าถึงล็อคประตูล่ะ? เป็นเจ้าสาวก็เลยเขินอย่างนั้นหรือ?”เสียงของผู้ชายดังมาจากข้างนอกความเกลียดชังปรากฏขึ้นบนใบหน้าชวีอวี้“วูเมิ่งมาแล้ว”“เจ้ารีบไปซ่อนตัวเร็วเข้า”กู้หว่านเยว่รีบกล่าวออกคำสั่ง ชวีอวี้พยักหน้า ออกจากห้องเวลานี้เป็นไปไม่ได้แล้ว นางกวาดมองโดยรอบ แล้วรีบไปหลบที่ใต้เตียงชวีเฟิงจะเข้าไปเปิดประตูกู้หว่านเยว่กล่าวเตือน “จำไว้ ไม่ว่าเวลาใดก็อย่าเปิดเผยตัวตน หากทนไม่ไหวจริงๆ ก็นึกถึงแค้นบัญชีเลือดของครอบครัวเจ้า”“เข้าใจแล้ว”ชวีเฟิงข่มอารมณ์แล้วพยักหน้าหลังจากเขามองกู้หว่านเยว่อย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง จึงจะเดินไปเปิดประตูเขากับวูเมิ่งเคยเจอกัน กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับได้ ดังนั้นหลังจากเปิดประตูก็รีบก้มหน้า โชคดีที่ความสนใจของวูเมิ่งไม่ได้อยู่ที่เขา“อวี้เอ๋อร์”สายตาของวูเมิ่งราวกับติดอยู่กับตัว ‘ชวีอวี้’ เขาเดินไปที่ตรงหน้านาง แล้วจ้องนางอย่างหลงใหล“วันนี้เจ้าสวยจริงๆ สวยจนข้าไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง”สีหน้าวูเมิ่งเต็มไปด้วยความลุ่มหลงเขายื่นมือออกไป หวังจะจับแก้มของ ‘ชวีอวี้’“ไสหัวไป!”‘ชวีอวี้’ หันหน้าหนีอย่างความรังเกียจ
กู้หว่านเยว่เผยอปาก นี่คือสิ่งที่นางอยากได้ยิน“อยากให้ข้าช่วยให้สกุลชวีผ่านมรสุมครั้งนี้ มันไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าต่อจากนี้เจ้าต้องฟังข้า”กู้หว่านเยว่มีเจตนาที่ชัดเจน เห็นได้ชัดว่านางคิดแผนรับมือไว้ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว“ท่านพูดมาได้เลย”ชวีเฟิงรีบลุกขึ้น“ให้พี่หญิงของเจ้าถอนชุดแต่งงานกับมงกุฎหงส์ลงมาก่อน”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง“เจ้าหาข้ออ้างเรียกสาวใช้ที่อยู่หน้าประตูเข้ามา หลังจากตีนางสลบ ถอดเสื้อชั้นนอกของนางออก แล้วสวมบนตัวเจ้า”กู้หว่านเยว่สั่งอย่างเป็นระเบียบ ชวีเฟิงมองไปทางชวีอวี้ พยักหน้าเบาๆ“พี่หญิง ทำตามที่นางบอก”“...ได้”ชวีอวี้คิดแล้วคิดอีก ท้ายที่สุดก็ยังเลือกเชื่อกู้หว่านเยว่ อย่างไรก็ตามสีหน้ากู้หว่านเยว่ดูเรียบเฉยมาก ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมนางเรียบถอดชุดแต่งงานและมงกุฎหงส์ลงมาวางบนโต๊ะ“หลังจากนั้นล่ะ?”“หลังจากนั้นข้าจะปลอมตัวเป็นเจ้าสาว แต่งเขาบ้านวูเมิ่งแทนเจ้า”กู้หว่านเยว่ฉีกหน้ากากหนังมนุษย์บนใบหน้าออก ชวีอวี้จึงจะพบว่าที่แท้นางเป็นผู้หญิงด้วยความประหลาดใจกู้หว่านเยว่สวมชุดแต่งงานและมงกุฎหงส์ โชคดีที่การสวมใส่มงกุฎหงส์ของเมี่ยวเ
“พี่หญิง บางทีท่านอาจจะรู้สึกว่าข้ารักตัวกลัวตาย แต่ในใจกลับรู้สึกว่าหนานเจียงไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเราแล้วบางทีสิ่งที่ข้าทำอาจช่วยทำให้สกุลชวีมีทางรอด”“ทางรอด?”เมื่อชวีอวี้ได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า“สกุลชวีของเราไม่มีทางรอดแล้ว”นางมองไปทางชวีเฟิง“คิดว่าตอนที่เจ้าเพิ่งเข้ามาก็เห็นแล้ว ข้างนอกล้วนเป็นคนของสกุลวู ฮองเฮาอยากให้พวกเราตาย สกุลวูก็อยากให้พวกเราตาย พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าเคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วชวีเฟิงนึกถึงอะไรบางอย่างกะทันหัน“พี่ชวีหลิงล่ะ?”เขาเป็นคู่หมั้นของพี่หญิง เหตุใดจึงไม่เห็นเขาปรากฏตัว และพี่หญิงก็ไม่ได้พูดถึงเขาเลยจู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี“พี่หญิง พี่ชวีหลิงล่ะ?”จนกระทั่งเวลานี้เอง ในที่สุดร่างกายของชวีอวี้ก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุม นางปิดหน้า หยดน้ำตาไหลออกมาจากระหว่างนิ้ว “ตายแล้ว เขาตายแล้ว”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ถึงว่าชวีอวี้จะแต่งงานกับวูเมิ่ง ชวีหลิงไม่เคยปรากฏตัวเลย“วูเมิ่งฆ่าเขาหรือ?”ชวีเฟิง