“เจ้าว่าอะไรนะ?”ฮูหยินผู้เฒ่าฟู่เบิกตากว้าง ราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน“เจ้าถึงขั้นจะทิ้งข้าไว้ที่นี่คนเดียวเลยหรือ เจ้ามันได้เมียแล้วลืมแม่ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าลำบากตรากตรำเลี้ยงเจ้ามาอย่างไร…เจ้ามันหมาป่าตาขาวที่เลี้ยงไม่เชื่อง หากรู้แต่แรกว่าจะเป็นเช่นนี้ ข้าก็คง…”“ท่านแม่ นี่ท่านพูดอะไร?” ฟู่หลานเหิงขมวดคิ้ว หมาป่าตาขาวอะไร เหตุใดท่านแม่พูดจาแปลกๆ?ดวงตาซูจิ่นเอ๋อร์สั่นระริก เก็บความระแวงไว้ในใจ“เรื่องนี้ข้าตกลงกับจิ่นเอ๋อร์แล้ว แล้วก็แม่นางท่านนี้ด้วย ในเมื่อท่านแม่ชอบนาง ก็ให้นางคอยดูแลท่านเถอะ”ตั้งแต่เริ่มจนจบ ฟู่หลานเหิงไม่มองญาติผู้น้องคนนั้นแม้แต่แวบเดียวและไม่อยากหาเรื่องอีกฝ่าย เพราะรู้ดีว่าท่านแม่เป็นคนสั่งให้นางมาฮูหยินผู้เฒ่าเบิกตากว้าง “เจ้าพูดจริงหรือ เจ้าจะทำเช่นนี้จริงๆ หรือ?”“ลูกตัดสินใจแล้ว ท่านแม่โปรดสงเคราะห์ด้วย” ฟู่หลานเหิงพูดมาถึงตรงนี้ เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่ายังคงโกรธมาก จากจับมือซูจิ่นเอ๋อร์เดินจากไป ก่อนไปยังได้สั่งให้พ่อบ้านไปเชิญหมอมากระทั่งเดินพ้นประตูใหญ่ไปแล้ว ซูจิ่นเอ๋อร์ก็ยังรู้สึกงงงันอยู่ไม่น้อย“ท่านพี่ ท่านตัดสินใจจะก
ฮูหยินผู้เฒ่าฟู่กับแม่นมหลี่ร่วมมือกันจัดฉาก อยากให้ซูจิ่นเอ๋อร์มาจับชู้ด้วยตัวเองด้วยนิสัยของซูจิ่นเอ๋อร์ หากเจอฟู่หลานเหิงอยู่บนเตียงกับผู้หญิงคนอื่น จะต้องหมุนกายเดินจากไปอย่างไม่ลังเลนางเป็นคนประเภทยอมเป็นหยกที่แหลกลาญ ก็ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์“จิ่นเอ๋อร์ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”ฟู่หลานเหิงอธิบายเบาๆ ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความโล่งใจ โชคดีที่หลังจากรู้ว่าท่านแม่อยากหาอนุภรรยาให้เขา จึงได้ระวังตัวไว้ ไม่เช่นนั้นคงโดนวางยาแล้วซูจิ่นเอ๋อร์เม้มปาก ลึกๆ ในใจนางก็ไม่อยากหย่ากับฟู่หลานเหิงดังนั้นเมื่อรู้ว่าฟู่หลานเหิงยังไม่โดนวางยา นางก็พลอยโล่งใจไปด้วยแม้โล่งใจก็จริง แต่สิ่งที่ควรจัดการก็ต้องจัดการ พี่สะใภ้ใหญ่พูดถูก หากไม่ทำให้เรื่องราวชัดเจน วันข้างหน้ายังจะมีปัญหาตามมาไม่รู้จบนางกล่าวถามโดยตรง “ท่านตั้งใจจะจัดการเรื่องในวันนี้อย่างไร?”ซูจิ่นเอ๋อร์กลัวว่าตัวเองพูดไม่ชัดเจนพอ จึงรวบรวมความกล้าแล้วเสริมอีกประโยค“ฮูหยินผู้เฒ่าไม่ชอบข้า พยายามทุกวิถีทางเพื่อหาอนุภรรยาให้ท่าน และวันนี้ก็มาเกิดเรื่องเช่นนี้อีก เกรงว่าต่อไปข้ากับฮูหยินผู้เฒ่ายากจะอยู่ร่วมใต้ช
ตอนนี้เพิ่งมาเซียงหยางได้แค่สองครั้ง ก็เห็นซูจิ่นเอ๋อร์ถูกรังแกสองครั้งติดกัน เขาที่เป็นพี่ใหญ่คนนี้ย่อมรู้สึกไม่สบายใจสีหน้าของทั้งสองดูไม่ดูนัก เมื่อมาถึงหน้าประตูสกุลฟู่ กลับเห็นประตูใหญ่ของสกุลฟู่ปิดสนิท แม้แต่คนเฝ้าประตูก็ไม่มี“ลองเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น” กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง ชิงเหลียนรีบไปตรวจดูทันทีหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็กลับมารายงาน “ฮูหยิน เหมือนว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรในจวนเจ้าค่ะ ทุกคนไปรวมตัวกันที่เรือนส่วนหน้า บ่าวมองผ่านร่องประตู แต่เห็นไม่ชัดว่าเกิดเรื่องอะไร”“จิ่นเอ๋อร์อยู่ข้างในหรือไม่?”“อยู่ มองเห็นองค์หญิงแล้วเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่พยักหน้าแล้วส่งจ้านจ้านให้ชิงเหลียน จากนั้นนางกับซูจิ่งสิงกระโดดขึ้นไปบนคานบ้าน มองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นข้างในโดยตรงทั้งสองคิดไม่ถึงว่าเพิ่งเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากในลาน และยังมีเสียงเฆี่ยนตีด้วย“พอแล้ว อย่าตีแม่นมหลี่อีกเลย นางอายุมากแล้ว รับไม่ไหวแล้ว!” เป็นเสียงร้องไห้แทบขาดใจของฮูหยินผู้เฒ่าฟู่ส่วนคนที่กำลังถูกเฆี่ยนตีก็คือแม่นมหลี่ นางถูกตีจนเหลือเพียงลมหายใจรวยริน“คุณชายใหญ่ บ่าวถูกปรักปรำ ถูกปรักปรำ!”“
ห่าวเจินเจินหันกลับไปมองด้วยสายตาแน่วแน่ “ไม่มีวันเสียใจ!”หัวใจจูจิ้งเหวินก็พลันสั่นสะท้าน จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีของบางอย่างกำลังค่อยๆ ออกห่างจากเขาทีละนิดห่าวเจินเจินไม่รอให้พวกเขาตั้งตัว รีบพาคนออกจากสกุลจูอย่างรวดเร็ว“ฮูหยินทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อสกุลจูตั้งหลายปี สุดท้ายเอาแค่สินเดิมตามสิทธิ์ไป พวกเขากลับไม่ได้รับการลงโทษอะไรเลย ถูกคนเลวพวกนี้เอาเปรียบจริงๆ”สุ่ยซิงกำหมัดแน่น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธห่าวเจินเจินกลับปล่อยวางแล้ว นางส่ายศีรษะอย่างอ่อนโยน “สามารถหลุดพ้นจากบ่อโคลนแห่งนี้ ก็ถือว่าข้าโชคดีมากแล้ว ส่วนเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ พวกเราควรมองไปข้างหน้า”มีหรือที่ห่าวเจินเจินจะไม่อยากให้ผู้ชายกากเดนคนนี้ได้รับผลกรรม แต่นางเป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ไร้อำนาจไร้อิทธิพล จะไปต่อกรกับจูจิ้งเหวินได้อย่างไร?ไม่สู้ปกป้องตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยวางแผนใหม่ในวันข้างหน้าสุ่ยซิงพยักหน้า “คุณหนูไม่ต้องห่วง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บ่าวจะอยู่เคียงข้างคุณหนูเสมอ ไม่ทิ้งคุณหนูระหว่างทางเด็ดขาด”ห่าวเจินเจินจับมือสุ่ยซิง “ต่อไปพวกเราสองคนต้องพึ่งพากันและกันแล้ว”นายบ่าวสองค
จูจิ้งเหวินย่อมมีแผนของตัวเอง “ท่านแม่ รอหนังสือจากทางการมาถึง อย่างไรข้าก็เป็นถึงผู้ว่าการอำเภอ ยังต้องกลัวว่าไม่มีเงินอีกหรือ?”แม้เป็นผู้ว่าการอำเภอที่ใสสะอาดสิบปี ก็ยังมีผลประโยชน์มากมายเข้าตัว ถึงเวลานั้น เขาสามารถหาได้มากกว่านี้เป็นร้อยพันเท่า เงินแค่นั้นของห่าวเจินเจินเขาไม่ต้องการหรอกฮูหยินผู้เฒ่าจูขมวดคิ้ว ยังคงรู้สึกปวดใจ ทั้งที่สามารถเก็บเงินเหล่านี้ไว้ กลับจะยกให้ห่าวเจินเจินทั้งหมดแต่เมื่อได้ยินคำอธิบายของจูจิ้งเหวิน ก็รู้สึกว่าลูกชายพูดถูก มีที่ไหนคนเป็นขุนนางขัดสนเรื่องเงินทอง สินเดิมแค่นั้นของห่าวเจินเจินนับอะไรไม่ได้เลย!“ก็ได้ เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูด”หลังจากจูจิ้งเหวินปรึกษาฮูหยินผู้เฒ่าเสร็จ ก็หันไปมองห่าวเจินเจิน“ห่าวเจินเจิน เดิมทีเห็นแก่ที่เจ้ากับข้าเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี ข้าอยากจะเหลือทางออกให้เจ้า แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้ากลับเลือกหย่ากับข้า นี่จะโทษข้าไม่ได้แล้วนะและข้าก็ไม่ต้องการสินเดิมของเจ้าด้วย เด็กๆ ไปยกสินเดิมตามรายการที่อยู่ในมือนางออกมาให้หมด” ห่าวเจินเจินคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นเช่นนี้ ดูเหมือนจูจิ้งเหวินจะหารักแท้เจอแล้วจริงๆ และแทบรอไม่ไหวท
“ฮูหยินผู้เฒ่า แย่แล้วๆ ข้างหน้า เส้าฮูหยินกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!” หญิงรับใช้คนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าจูวิ่งกลับมารายงานดวงตาจูตั่วลุกวาวโดยพลัน “พี่สะใภ้ใหญ่กลับมาแล้ว เยี่ยมไปเลย!”ฮูหยินผู้เฒ่าจูสะบัดเสียงเย็นอย่างถือตัว “ยังรู้จักกลับมาอีกหรือ ในฐานะสะใภ้ของสกุลจู กล้าหนีออกจากบ้าน แถมยังลงมือทำร้ายสามี ต้องลงโทษตามกฎประจำตระกูล! นางอยู่ไหน ให้นางมาหาข้า!” หญิงรับใช้คิดในใจ ‘ตอนนี้พวกท่านยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ด้านหน้า’ “เส้าฮูหยิน นาง นางกลับมาเพื่อขอหย่าเจ้าค่ะ!” “นางถึงขั้นกล้าหย่า? ข้าไม่อนุญาต!” จูตั่วชิงกล่าวก่อนที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะเอ่ยปาก “ท่านแม่ ให้พี่สะใภ้ใหญ่หย่าไม่ได้นะ หากพวกเขาหย่ากัน ใครจะดูแลร้านค้าของเรา แล้วก็ท่านด้วย…พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลท่านดีกว่าข้าตั้งเยอะ”หญิงรับใช้กล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “คุณหนูรอง เส้าฮูหยินไม่เพียงจะขอหย่า ยังจะเอาสินเดิมไปด้วยเจ้าค่ะ”คราวนี้แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าจูก็นั่งไม่ติดแล้ว นางเงยหน้าฉับพลัน “นางคิดจะเอาสินเดิมไปด้วย?” “ทำเช่นนี้ได้อย่างไร นางแต่งเข้าตระกูลของเรา สินเดิมก็เป็นของตระกูลเราแล้ว!” จูตั่วร้อนรนแล้วท้ายที่สุดสองแม่ลูกตั