Share

บทที่ 75

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ตามหลักแล้ว ทุกคนดื่มยาป้องกันโรคทุกวัน และไม่ได้สัมผัสกับผู้ป่วย จึงไม่น่าจะติดเชื้อได้

เว้นแต่ว่าพวกเขาจะสัมผัสกับสิ่งของที่ผู้ป่วยเคยใช้

แต่ของของผู้ป่วยจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

กู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนอื่นให้ซูจิ่นเอ๋อร์ไปเตรียมสำลีมาหลายสิบอัน แล้วเขียนชื่อของแต่ละคนลงบนสำลี

จากนั้นแจกจ่ายให้คนของบ้านใหญ่และนักการในศาลาว่าการ สั่งให้แต่ละคนใช้สำลีป้ายเบา ๆ ที่ลำคอ แล้วใส่ลงในแก้วที่

สะอาดแยกกัน และนำมาส่งให้นาง

นางก็ค่อยนำสำลีเหล่านี้เข้าไปตรวจสอบที่ตึกการแพทย์ที่อยู่ในมิติของนาง

“โชคดีที่คนข้างนอกไม่ได้ติดเชื้อมาลาเรีย”

ซุนอู่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกขอบคุณสวรรค์ ส่วนนักการคนอื่น ๆ ก็โล่งใจเช่นกัน

ต่อไปก็ถึงตาของนักโทษเนรเทศที่อยู่ในห้องเก็บฟืนแล้ว

เมื่อหน้าต่างเปิดออกเล็กน้อย คนที่อยู่ข้างในก็รีบกรูเข้ามาทันที และทุบขอบหน้าต่างด้วยความตื่นเต้น

“แม่นางน้อยกู้ ช่วยพวกเราด้วยเถอะ!”

“ใช่แล้ว พวกเราหลายคนไม่ได้ป่วย เหตุใดต้องขังพวกเราไว้ด้วยกันข้างในนี้ เราไม่อยากตายนะ”

ทุกคนในห้องเก็บฟืนต่างตื่นตระหนก อาจพังหน้าต่างออกมาได้ทุกเมื่อ

กู้หว่านเยว่สวมผ้าคลุมหน้า “ท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Somponrat Malasut
เท่าที่อ่านมาทำเหมือนโรคโควิดระบาดเลยนะ ทั้งๆที่มาลาเรียไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น จะติดก็ต่อเมื่อมียุงเป็นพาหะนำเชื้อ โดยยุงจะกัดคนที่เป็น (มีเชื้อมาลาเรีย)แล้วไปกัดคนอื่นนั้นหละถึงจะติด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 76

    หลังจากผลออกมา กู้หว่านเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่มีเพียงสี่คนที่ติดโรคระบาดฮูหยินผู้เฒ่าซู นางจิน ฮูหยินสกุลหลี่ และลูกชายคนเล็กของสกุลเซิ่ง“คนที่ไม่ได้ป่วยให้ออกมาจากห้องเก็บฟืน ถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ออกมานำไปเผา แล้วใส่เสื้อผ้าที่สะอาด จากนั้นไปรับยาต้มป้องกันโรคจากจิ่นเอ๋อร์”กู้หว่านเยว่สั่งการอย่างเป็นระเบียบ“คนที่ป่วยทั้งสี่คน ให้อยู่ในห้องเก็บฟืนห้ามออกมา”คนอื่น ๆ ทั้งสามคนเชื่อฟังคำสั่งอย่างว่าง่าย มีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าซูที่ทำหน้าบึ้งตึง ใช้ไม้เท้าพยุงตัวพยายามจะออกไปข้างนอก“ท่านออกไปไม่ได้”กู้หว่านเยว่รีบขวางนางไว้ยายแก่คนนี้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไร ป่วยแล้วยังจะออกไปข้างนอกอีก อยากแพร่เชื้อให้คนอื่นใช่หรือไม่?ฮูหยินผู้เฒ่าซูจ้องมองนางอย่างดุร้าย “ทำไมข้าจะออกไปไม่ได้ ข้าไม่ได้ป่วย ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก กู้หว่านเยว่นางสารเลว เจ้าทำเพื่อแก้แค้นส่วนตัว ต้องการฆ่าข้า!”ดูทั้งสามคนที่เป็นโรคระบาดนั่นสิ คนไหนบ้างที่ร่างกายไม่อ่อนแอ?ข้อหนึ่งนางไม่ไอ ข้อสองไม่ตัวร้อน แล้วทำไมถึงเป็นโรคมาลาเรียได้?เมื่อเห็นฮูหยินผู้เฒ่าซูกำลังจะพุ่งออกมาด้วยความโกรธ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 77

    ซูหรานหร่านก้มหน้าลง “ท่านย่าไม่ยอมดูแลท่านแม่ก่อนตอนที่นางป่วย ท่านแม่คอยดูแลนางตลอด ตอนนี้ท่านแม่ป่วยแล้ว นางไม่สนใจเลยสักนิด โดนตีก็สมควรแล้วมิใช่หรือ?”“ซูหรานหร่าน เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร ปกติพ่อสอนให้เจ้าเคารพผู้ใหญ่และรักเด็กไปไหนหมด?”ซูหัวหยางแสดงสีหน้าเย็นชาซูหรานหร่านกลับเหมือนถูกกระตุ้น เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา“ข้าพูดผิดตรงไหน พวกเราบ้านใหญ่รับใช้ท่านย่ามาตลอดทางเหมือนวัวเหมือนม้า แต่ท่านย่าเคยเห็นความดีของพวกเราบ้างหรือไม่ในใจของท่านพ่อมีแต่ท่านย่า ไม่สนใจเลยหรือว่าท่านแม่ข้าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร?”ซูหัวหยางหน้าแดงก่ำแน่นอนว่าเขาเป็นห่วงนางจิน แต่ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เขาควรจะห่วงใยท่านแม่ของเขามากกว่า เพราะฮูหยินผู้เฒ่าซูคือแม่ของเขานี่นา?“หรานหร่าน เจ้าจะก้าวร้าวเกินไปแล้ว กล้าพูดกับพ่อแบบนี้ได้อย่างไร!”ซูหัวหยางกล่าวพลางยกมือจะตบหน้าซูหรานหร่าน แต่โชคดีที่ซูเช่อเข้ามาขวางไว้ทัน“ท่านพ่อ อย่าทำร้ายน้องสาวเลย น้องสาวก็แค่เป็นห่วงท่านแม่”ซูหรานหร่านฉวยโอกาสหนีไป มองซูหัวหยางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แล้ววิ่งหนีไปไกล ทางด้านนี้ เพื่อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 78

    ซูจิ่งสิงส่ายหัวให้นาง“ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน เจ้าไม่มีหลักฐาน ตอนนี้ไปหานาง นางก็ไม่ยอมรับหรอก”“แล้วจะทำอย่างไรดี?”จะปล่อยให้นางรอดตัวไปงั้นหรือ? กู้หว่านเยว่ยอมไม่ได้“ข้ามีวิธีให้นางยอมรับเอง” ซูจิ่งสิงกระซิบข้างหูนางสองสามประโยค กู้หว่านเยว่ฟังแล้วตาเป็นประกายสองวันต่อมา ผู้ป่วยในห้องเก็บฟืนก็หายดีเกือบหมดแล้ว แม้แต่นางจินที่หมดสติก็ฟื้นขึ้นมาซูหรานหร่านรู้สึกขอบคุณกู้หว่านเยว่เป็นอย่างยิ่ง มองนางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตกู้หว่านเยว่และซุนอู่เสนอว่าจะออกไปซื้อแม่ไก่แก่มาสักสองสามตัว จากนั้นตุ๋นเป็นน้ำแกงหนึ่งหม้อ เพื่อบำรุงร่างกายให้ทุกคนเมื่อทุกคนได้ยินว่ามีน้ำแกงแม่ไก่ให้ดื่ม บรรยากาศหดหู่จากโรคระบาดก็พลันสลายไป ทุกคนต่างถือชามมาต่อแถวรับน้ำแกงไก่ด้วยความกระตือรือร้นหลี่ซือซือก็ไม่ยกเว้นแต่เมื่อนางเห็นหม้อที่กู้หว่านเยว่ใช้ต้มน้ำแกง ชามในมือก็เกือบจะหลุดร่วงลงพื้นด้วยความตกใจ“หม้อมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...” นางตกใจจนหน้าถอดสี หันหลังจะเดินหนีไปกู้หว่านเยว่เรียกนางจากด้านหลัง “หลี่ซือซือ เจ้าจะไปไหน น้ำแกงไก่นี่ไม่ดื่มแล้วหรือ?”หลี่ซือซือส่ายหัว เหมือนถูกก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 79

    “ไม่หย่าเจ้าแล้วจะเก็บไว้ฉลองตรุษจีนหรือไร?”ซูอวี่เข้ามาในห้องด้วยท่าทางโมโห หยิบกระดาษมาเขียนหนังสือหย่าอย่างลวก ๆ แล้วปาใส่หน้าหลี่ซือซือ“ท่านพี่ แม้เป็นสามีภรรยากันเพียงคืนเดียวก็ยังผูกพันกันนะ!”หลี่ซือซือน้ำตาไหลพราก กอดขาซูอวี่ไว้แน่น“ไปให้พ้น!” ฮูหยินผู้เฒ่าซูถีบนางออกไปด้วยเท้าข้างหนึ่ง จากนั้นยังเอาพื้นรองเท้าถูกับพื้นหญ้าอย่างแรง ราวกับเหยียบขี้หมาเหม็น ๆ ทุกคนมองดูอย่างเย็นชา ไม่มีใครสงสารหลี่ซือซือเลย“พวกเราซดน้ำแกงจากหม้อใบเล็กไปแล้ว คงไม่ติดโรคมาลาเรียหรอกนะ?”“ไม่หรอก”กู้หว่านเยว่รีบอธิบาย เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก“หม้อใบเล็กนี้ข้าหาใบที่เหมือนกันมาโดยเฉพาะ ใบเก่าถูกเผาทิ้งไปนานแล้ว”ทุกคนจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก“กู้หว่านเยว่ เจ้ากล้าหลอกข้า!”หลี่ซือซือรู้สึกว่าตนเองถูกหลอก จึงคว้าชามที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาปาใส่กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่หลบไปด้านข้าง จากนั้นยกเท้าถีบนางจนกระเด็น“ถ้าเจ้าไม่คิดร้ายกับใคร ก็ไม่มีใครหลอกเจ้าได้หรอก ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าทำเรื่องชั่วอีกเลย”หลี่ซือซือทรุดตัวลงไปตามกำแพง มองกู้หว่านเยว่ด้วยความโกรธแค้น และกำหมัดแน่น นา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 80

    อย่างไรก็ตาม สมุนไพรเหล่านั้นนางเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่บริจาคให้พื้นที่ระบาดเท่านั้น ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดส่วนทางด้านอวิ๋นมู่ นางเชื่อว่าเขาไม่กล้าหาผลประโยชน์ใส่ตัวจากเรื่องนี้“หมอเทวดาน้อยไม่ควรขอบคุณข้า ข้าต่างหากที่ควรขอบคุณท่าน ก่อนอื่นข้าขอขอบคุณสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ และขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความเมตตาที่ท่านมอบสมุนไพรให้ชาวเมืองตงโจว”อวิ๋นมู่ยกถ้วยขึ้นมาก่อน แล้วกล่าวคำขอบคุณอันไพเราะต่อกู้หว่านเยว่ จากนั้นจึงพูดอย่างขี้เล่นว่า“แผลยังไม่หายดี ข้าขอใช้ชาดื่มแทนเหล้า เพื่อเป็นการคารวะท่านหมอเทวดาน้อย”“คุณชายอวิ๋นเกรงใจเกินไปแล้ว”กู้หว่านเยว่รีบยกถ้วยขึ้นชนกับเขา นางค่อนข้างชอบนิสัยของอวิ๋นมู่ การพูดคุยกับเขาทำให้นางรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูกทั้งสองสบตากัน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“น้องหญิง กินผักสิ” ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งก็มาขวางระหว่างทั้งสองคนซูจิ่งสิงมีสีหน้าหงอยเหงา อวิ๋นมู่ก็รีบเอ่ยขึ้น “ลองเป็ดย่างหนังกรอบนี่สิ เป็นอาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ เป็ดที่ใช้เป็นเป็ดแม่พันธุ์อายุหลายปี เนื้อนุ่มไม่เลี่ยน และไม่มีกลิ่นคาว”เขาคีบขึ้นมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 81

    ตั้งแต่ไปมาหาสู่กันจนถึงตอนนี้ ฟู่หลานเหิงก็รู้สึกสบายใจขึ้นเรื่อย ๆ เขามองออกว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสองสามีภรรยาคู่นี้มีความผูกพันกันมากเขาไม่ใช่คนที่ชอบแย่งคนรักของผู้อื่น สิ่งที่เขาอยากทำที่สุดในตอนนี้คือการอวยพรส่วนเรื่องที่พวกเขาเป็นสหายเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เยาว์วัยนั้น ขอให้ความทรงจำเหล่านั้นยังคงอยู่ในอดีตตลอดไป อย่างไรเสียทุกคนก็ต้องมองไปข้างหน้าแน่นอนว่าความผูกพันของพวกเขายังคงอยู่ตลอดไปเช่นกัน“หว่านเยว่ วันข้างหน้าเจ้าอาจจะต้องเจออุปสรรคมากมาย หากข้าช่วยเจ้าได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างไม่ลังเลแน่นอน” ฟู่หลานเหิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“ได้สิ”กู้หว่านเยว่เผยรอยยิ้มที่จริงใจออกมา จนกระทั่งนางมองดูเวลาที่บอกว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว นางจึงรีบกล่าว“เมืองตงโจวยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกมากมาย ใต้เท้าฟู่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ ไม่ต้องส่งข้าหรอก”“ได้”ฟู่หลานเหิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่กล่าวไม่ผิด ภายในเมืองตงโจวยังมีเรื่องที่ให้เขากลับไปจัดการอีกมากมาย เขาไม่จำเป็นต้องเกรงใจ หลังจากกล่าวลาแล้วเขาก็หมุนตัวเดินจากไปทันทีกู้หว่านเยว่กลับเข้ามาในขบวนอีกครั้ง แต่กลับพบว่าซูจิ่นเอ๋อร์ยังคง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 82

    เมื่อมู่หรงอวี้เดินมาถึงหน้าประตูเมือง ทันใดนั้นเขาก็หันกลับไปมองกลุ่มคนที่โดนเนรเทศอีกครั้งแม้ว่าสายตาของเขาจะหยุดมองอยู่บนเกวียน แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยไอสังหารอย่างรุนแรงเขาหันไปกล่าวกับเว่ยเฉิงว่า “เห็นแล้วใช่หรือไม่ ในกลุ่มผู้ถูกเนรเทศมีเจิ้นเป่ยอ๋องผู้มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย แต่ทว่าตอนนี้เขาเป็นเพียงคนน่าสมเพชเท่านั้น”เว่ยเฉิงหัวเราะเยาะพลางส่ายหน้า“ข้าน้อยเป็นเพียงชาวบ้านไร้การศึกษา ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเจิ้นเป่ยอ๋องมาก่อน คงทำให้ท่านอ๋องขบขันไม่น้อย”“ฮ่า ๆ เจ้าก็ดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว การช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์ภัยครั้งนี้ต้องขอบคุณในอุบายและแผนการของเจ้า มิเช่นนั้นข้าคงไม่มีทางแก้ไขน้ำท่วมและจัดหาที่ทางให้กับผู้ถูกเนรเทศได้เลย”ครั้งนี้เว่ยเฉิงช่วยให้เขาได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านไม่น้อยเว่ยเฉิงไม่กล่าวอะไร แค่กระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา ในขณะที่มู่หรงอวี้มองมานั้น เขาได้เปลี่ยนกลับมาดูเย็นชาและนอบน้อมถ่อมตัวอีกครั้ง“อยากจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเมืองตงโจวโดยสมบูรณ์ แค่การขุดลอกแม่น้ำยังไม่พอ แต่เพื่อให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนน้อยลง สู้เราไป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 83

    “ต้องอ้อมอย่างน้อยสองเดือนเลยหรือ?”พวกเขาออกจากเมืองหลวงนานเพียงนี้ เพิ่งเดินทางไปได้สองสามเดือนเท่านั้นอ้อมภูเขาลูกนี้ ต้องใช้เวลาถึงสองเดือน เห็น ๆ อยู่ว่าเทือกเขาลูกนี้มีขนาดใหญ่แค่ไหนภูเขาหู่หลางชื่อภูเขาบวกกับคำอธิบายของจางเอ้อร์ก็ฟังดูคล้ายกับหินก้อนใหญ่ ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นกังวลอยู่ในใจแต่กู้หว่านเยว่กลับมีแววตาเปล่งประกายเมื่อได้ยินชื่อภูเขา นางรู้สึกคุ้นหูอยู่ไม่น้อยจริงสิ ภรรยาของซูจื่อชิงรู้จักภูเขาหู่หลางไม่ใช่หรือ!เมื่อเอ่ยถึงสามีภรรยาคู่นี้ ในใจก็อดรู้สึกซาบซึ้งไม่ได้ พี่น้องของนางเป็นหญิงสาวที่ไม่ธรรมดาและไม่เป็นสองรองใครนางนั้น...เป็นหญิงที่แข็งแรงมากกู้หว่านเยว่มองไปทางซูจื่อชิงที่อ่อนแอ แล้วก็ต้องหัวเราะเยาะอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น“พี่สะใภ้ใหญ่ เจ้าหัวเราะอะไร?”ซูจื่อชิงมีสีหน้างุนงงกู้หว่านเยว่ยิ้มและกล่าวว่า “ต่อไปก็ให้ท่านอาเหยียนของเจ้าแบกพี่ใหญ่ของเจ้าไปละกัน เจ้าไม่ต้องแบก เมื่อโตขึ้นเจ้าก็อย่าเผลอไปแบกความกดดันที่มันมากเกินไปล่ะ ระวังตัวไว้ต่อไปภรรยาของเจ้าอาจจะไม่พอใจเจ้า”ภรรยา?เขายังไม่เคยคิดเรื่องนี้ซูจื่อชิงถูกหยอกล

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1664

    “พี่หญิง บางทีท่านอาจจะรู้สึกว่าข้ารักตัวกลัวตาย แต่ในใจกลับรู้สึกว่าหนานเจียงไม่มีที่ยืนสำหรับพวกเราแล้วบางทีสิ่งที่ข้าทำอาจช่วยทำให้สกุลชวีมีทางรอด”“ทางรอด?”เมื่อชวีอวี้ได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่ใบหน้า“สกุลชวีของเราไม่มีทางรอดแล้ว”นางมองไปทางชวีเฟิง“คิดว่าตอนที่เจ้าเพิ่งเข้ามาก็เห็นแล้ว ข้างนอกล้วนเป็นคนของสกุลวู ฮองเฮาอยากให้พวกเราตาย สกุลวูก็อยากให้พวกเราตาย พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าเคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วชวีเฟิงนึกถึงอะไรบางอย่างกะทันหัน“พี่ชวีหลิงล่ะ?”เขาเป็นคู่หมั้นของพี่หญิง เหตุใดจึงไม่เห็นเขาปรากฏตัว และพี่หญิงก็ไม่ได้พูดถึงเขาเลยจู่ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี“พี่หญิง พี่ชวีหลิงล่ะ?”จนกระทั่งเวลานี้เอง ในที่สุดร่างกายของชวีอวี้ก็สั่นอย่างไม่สามารถควบคุม นางปิดหน้า หยดน้ำตาไหลออกมาจากระหว่างนิ้ว “ตายแล้ว เขาตายแล้ว”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ถึงว่าชวีอวี้จะแต่งงานกับวูเมิ่ง ชวีหลิงไม่เคยปรากฏตัวเลย“วูเมิ่งฆ่าเขาหรือ?”ชวีเฟิง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1663

    กู้หว่านเยว่ยกกระเบื้องแผ่นหนึ่งขึ้น แล้วมองเข้าไปในห้อง“เป็นอย่างไรบ้าง?” ชวีเฟิงกล่าวถาม“ในห้องมีแค่คุณหนูใหญ่สกุลชวีคนเดียว ไม่เห็นพ่อแม่เจ้า”หลังจากกู้หว่านเยว่สำรวจดูอย่างละเอียด สายตาไปตกที่ใบหน้าชวีอวี้ หน้าตางดงาม มีเสน่ห์แบบคนต่างแดน นางเป็นหญิงงามจริงๆ ด้วย ไม่แปลกใจเลยที่วูเมิ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อแต่งงานกับนางเดี๋ยวก่อน กู้หว่านเยว่เห็นชวีอวี้ล้วงมีดสั้นออกจากแขนเสื้อกะทันหัน“เหมือนว่าพี่หญิงเจ้าจะฆ่าตัวตาย”“อะไรนะ!”ชวีเฟิงไม่สามารถสงบสติอารมณ์แล้ว กระโดดลงจากคานโดยตรง แล้วปีนเข้าไปในห้องผ่านหน้าต่างที่อยู่ด้านหลังการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ยามในเรือนรู้ตัวทันที“ใคร?”มียามสองคนมาตรวจดู และเจอเข้ากับกู้หว่านเยว่ที่ตามหลังมาพอดี“โทษที”พลันกู้หว่านเยว่ยกมือขว้างผงพิษออกไป ทำให้ยามสองคนนี้หมดสติโดยตรง“พี่หญิง ท่านกำลังทำอะไร?” ชวีเฟิงมาถึงตรงหน้าชวีอวี้แล้ว เขาแย่งมีดสั้นมาด้วยมือเปล่าโดยไม่สนใจความคม“เจ้า?”ชวีอวี้ตกใจ เนื่องจากชวีเฟิงในเวลานี้กำลังปลอมตัว ดังนั้นชั่วขณะนางจึงจำไม่ได้กระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ในที่สุดก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าก็คือชวีเฟิงน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1662

    “ท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะ พวกเขาถูกปล่อยออกมาแล้วหรือ?”“ยังเจ้าค่ะ ทางสกุลวูบอกว่ารอท่านแต่งเข้าไปแล้ว พวกเขาจึงจะปล่อยนายท่านกับฮูหยินออกมา”คนรับใช้พูดพลางกำหมัดแน่นเพื่อบีบให้คุณหนูใหญ่แต่งงานกับคุณชายใหญ่สกุลวู พวกเขาถึงกับจับนายท่านกับฮูหยินไป“วันนี้เป็นวันมงคลของข้า แต่พวกเขายังขังพ่อแม่ของข้าไว้ในคุก และยังไม่ให้พวกเขามาร่วมงานแต่งของข้า นี่มันงานแต่งแบบไหนกัน”รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏที่มุมปากชวีอวี้“คุณหนูใหญ่…”“พอแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ออกไปก่อนเถอะ ข้าอยากอยู่ที่นี่เงียบๆ สักพัก”ชวีอวี้หลับตา ท่าทางดูอ่อนล้ามาก ราวกับไม่อยากเอ่ยปากพูดอีกแม้แต่คำเดียวคนรับใช้มองนางอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง รู้เช่นกันว่าตอนนี้นางไม่สบายใจ ไม่อยากพูดอะไรมากอีก กลัวว่าสภาพจิตใจของชวีอวี้จะยิ่งหดหู่ด้วยเหตุนี้จึงหมุนกายเดินออกไป และปิดประตูห้องอย่างเชื่อฟัง“ที่นี่หรือ?”นอกประตูของสกุลชวีในเวลานี้ กู้หว่านเยว่มองดูคฤหาสน์ที่แขวนผ้าสีแดงและโคมไฟสีแดงเต็มไปหมด มีความสงสัยปรากฏขึ้นในแววตา“ใช่ ที่นี่แหละ”ชวีเฟิงกำหมัดแน่น สีหน้ายิ่งดูน่าเกลียดหลังจากเข้าเมือง ระหว่างทางก็ได้ยินผู้คน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1661

    ชวีเฟิงหัวเราะเยาะ “สกุลวูเชี่ยวชาญแมงป่องพิษ เพราะช่วยฮองเฮาเพาะเลี้ยงราชาแมงป่องพิษ ดังนั้นเฮาฮองจึงให้ความสำคัญมากเดิมทีตระกูลของพวกเขารั้งท้ายสุดในห้าตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้สกุลชวีของเราเข้ามาแทนที่ ได้กระโดดขึ้นไปเป็นผู้นำห้าตระกูลใหญ่และสาเหตุที่ฮองเฮาจะเล่นงานสกุลชวีของเรา ก็เป็นเพราะสกุลวู”ที่แท้คุณหนูใหญ่สกุลชวีที่วูเมิ่งคุณชายใหญ่สกุลวูชอบก็คือชวีอวี้พี่สาวแท้ๆ ของชวีเฟิงแต่ชวีอวี้มีคนในใจนานแล้ว ซึ่งเป็นคนในตระกูลสกุลชวีก็ให้ทั้งสองหมั้นหมายกันนานแล้ว ย่อมไม่มีทางตอบตกลงวูเมิ่ง“วูเมิ่งคนนี้มักจะวนเวียนอยู่ในบ่อนพนันหรือซ่องโสเภณี เขาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของห้องปรุงพิษ จิตใจอำมหิตไร้ความปรานี เชี่ยวชาญการใช้ยาพิษ เพื่อบรรลุเป้าหมายไม่เลือกวิธีการ ครั้งหนึ่งเคยมีคนจากหมู่บ้านหนึ่งล่วงเกินเขา เขาถึงกับวางยาพิษฆ่าคนทั้งหมู่บ้าน หลังจากเกิดเรื่องก็สั่งให้คนปิดเรื่องนี้เพียงแต่ตอนนั้นสกุลชวีของเราพอจะมีอิทธิพลอยู่บ้าง ดังนั้นจึงรู้เรื่องนี้อย่างลับๆคนต่ำช้าที่จิตใจอำมหิตและเห็นชีวิตของคนเป็นผักปลาอย่างเขา อย่าว่าแต่พี่หญิงไม่ชอบเขาเลย สกุลชวีของเราก็ไม่มีทางให้พี่หญิงแต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1660

    กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดิมทีนางเองก็ไม่ได้คิดจะอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้อยู่แล้ว แค่อยากเข้าไปพักผ่อน แวะกินอาหารเช้าแล้วค่อยเดินทางต่อก็เท่านั้น ภารกิจก็ต้องทำ ข้าวก็ต้องกิน“ไป เราเข้าไปดูก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ขี่ม้ามาถึงหน้าประตูเมือง จากนั้นก็มองพิจารณาชื่อของเมืองแห่งนี้“เมืองโยวหุน”นางกระตุกมุมปาก ชื่อของเมืองนี้ฟังดูแปลกยิ่งนัก หากไม่รู้คงคิดว่าเป็นเมืองผีในระหว่างนั้นขนตามตัวก็พากันลุกซู กู้หว่านเยว่กลงจากหลังม้า และเดินเข้าไปในเมืองโยวหุนผู้คนที่สัญจรในเมืองแห่งนี้มีจำนวนมากนางในตอนนี้แต่งตัวเป็นคนหนานเจียงแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ดึงดูดสายตาของใครทั้งสองคนเดินมานั่งอยู่หน้าแผงลอยแห่งหนึ่งรอบตัวของพวกนางมีคนหนานเจียงที่กำลังกินอาหารกันอยู่ไม่น้อย กินไปพลางพูดคุยไปพลาง กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟังอยู่ครู่หนึ่งพบว่าไม่มีใครสนใจสงครามระหว่างต้าฉีกับหนานเจียงเลยสักคนชวีเฟิงกล่าวอธิบายเสียงต่ำ “หนานเจียงไม่มีสงครามมาหลายร้อยปีแล้ว และไม่เคยมีศัตรูจากข้างนอกเข้ามายุ่งย่าม ดังนั้นชาวบ้านจึงไร้ความรู้สึกกันนานแล้ว คิดว่าสงครามไม่มีทางมาถึงหนานเจียงได้อย่างแน่นอน ที่นี่จะต้องเป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1659

    นางอยากรู้ว่าราชินีหนานเจียงผู้นี้กำลังจะทำอะไรลับหลังนางกันแน่ ตั้งใจจะใช้ห้องปรุงพิษแห่งนั้นทำสิ่งที่น่าประหลาดใจอะไรอยู่กันแน่พิษ หากใช้มันจริง ๆ ความรุนแรงก็ไม่ต่างกับดินปืนเลยเวลานี้เกาเจี้ยนเพิ่งได้เข้าใจ “ท่านจะปลอมตัวเป็นหนึ่งในคนชุดดำเหล่านั้นอย่างนั้นหรือ?”“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่พยักหน้า นางทำหน้ากากหนังคนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว“ในเมื่อเจ้าและอวิ๋นมู่ร่วมมือกันแล้ว ต่อไปข้าคงฝากฝังเจ้าได้อย่างวางใจ ข้าขอเก็บของสักครู่แล้วจะออกเดินทางทันที”กู้หว่านเยว่ดูรีบร้อนมากเรื่องนี้จะช้าไม่ได้“ขอรับ”เกาเจี้ยนคงพูดอะไรไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ผิดหวังความไว้วางใจของพระมเหสีไปแล้ว แต่นางก็ยังยกกองกำลังแนวหน้าให้เขาดูแลทั้งหมด!กู้หว่านเยว่คว้าป้ายอาญาสิทธิ์ของหกคนนั้น ก่อนจะควบม้ามุ่งหน้าไปกับทิศทางของหนานเจียงพร้อมกับชวีเฟิง“หวังว่าหว่านเยว่จะกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นมู่มองไปยังทิศทางที่กู้หว่านเยว่จากไป แววตาเป็นห่วงยังคงจ้องมองอย่างนั้นอยู่เนิ่นนานเกาเจี้ยนจึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถ้าเป็นห่วง เมื่อครู่ใยไม่โน้มน้าวกับข้าเล่า เป็นห่วงตอนนี้จะได้อะไรขึ้นมา”อวิ๋นมู่คลี่ยิ้ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1658

    “แบบนี้ไม่ได้นะขอรับ พระมเหสี การเดินทางครั้งนี้อันตรายมาก ก่อนจะออกเดินทาง ข้าสัญญาต่อฝ่าบาทว่าจะต้องปกป้องท่านอย่างดีที่สุดหากเขารู้ว่าข้าให้ท่านเดินทางไปหนานเจียงเพียงลำพัง เขาจะไม่ตัดหัวของข้าเลยหรือ?”เกาเจี้ยนร้อนใจมาก เหตุใดกู้หว่านเยว่ถึงได้มีความคิดที่เหลวไหลและกล้าหาญถึงเพียงนี้ เขายังไม่อยากตายกู้หว่านเยว่ยกมือเท้าคางพลางคลี่ยิ้ม“ไม่ได้จะไปเพียงลำพังเสียหน่อย นี่ ข้าให้ชวีเฟิงไปกับข้าด้วย”“เขา?” เขาเนี่ยนะ?เกาเจี้ยนส่ายหน้าทันที“พระมเหสี ได้โปรดท่านคิดทบทวนดี ๆ เถิด”ทว่าแม้แต่ซูจิ่งสิงก็ยังโน้มน้าวกู้หว่านเยว่ไม่ได้ นับประสาอะไรกับเกาเจี้ยน“เรื่องนี้ว่าไปตามนี้ก่อนแล้วกัน กว่าฟ้าจะสว่างยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วยาม ข้าง่วงแล้ว ขอพักสักหน่อย เจ้าออกไปจุดพลุส่งสัญญาณเถอะ รอให้คนของอวิ๋นมู่มาถึงแล้วค่อยมาปลุกข้า”เมื่อกู้หว่านเยว่กล่าวจบ ก็เข้าไปในกระโจมที่อยู่ถัดไปอื้อ ไม่ใช่ว่านางอยากเปลี่ยนกระโจมหรอก ความจริงคือกลิ่นเท้าในกระโจมของเกาเจี้ยนแรงเกินไปต่างหาก!พรุ่งนี้ต้องหาผงดับกลิ่นเท้ามาให้เขาสักห่อ รักษากลิ่นเท้าของเขาให้หาย“พระมเหสี!”เกาเจี้ยนไล่ตามม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1657

    มิน่าล่ะในระหว่างการสอบสวนเมื่อครู่ นางมองเล่ห์เหลี่ยมที่พวกเขาพยายามจะใช้พิษไม่ต่ำกว่าห้าครั้งนั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ภายใต้ความจนปัญญานางทำได้แค่กดจุดทั่วร่างกายของคนเหล่านี้ไว้ เหลือเพียงปากของพวกเขาที่ยังสามารถพูดได้“ชวีเฟิง เจ้าสมควรตาย”เมื่อคนชุดดำเห็นชวีเฟิงขายความลับของหนานเจียงจนหมดเกลี้ยง ดวงตาก็พลันเบิกกว้างอย่างโกรธเคือง และสบถเป็นภาษาถิ่น“หุบปาก”ครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงโวยวาย ก็ขว้างเข็มเล่มหนึ่งออกไปปักลิ้นของคนผู้นั้นอย่างหมดความอดทน“อ๊าก!”เขาส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาออกมาคนชุดดำคนอื่นเห็นเหตุการณ์นี้ก็ทยอยกันตัวสั่นงันงก รีบปิดปากทันที“เอาละ ตอนนี้เจ้าพูดต่อได้แล้ว” กู้หว่านเยว่หันไปมองชวีเฟิงชวีเฟิงตัวสั่นงันงกนางมารยังไงก็คือนางมารอยู่วันยังค่ำ น่ากลัวเหมือนกับในความทรงจำจริง ๆเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่“ว่ากันว่า ในห้องปรุงพิษมีคนอยู่มากกว่าสามสิบคน ทุกคนอาศัยลวดลายบนแขนมาระบุสถานะ”กู้หว่านเยว่โบกมือไปมาเกาเจี้ยนตั้งสติแล้วรีบเดินขึ้นหน้า ถกแขนเสื้อของคนชุดดำทั้งหกคนขึ้น เผยให้เห็นแขนข้างภายใต้ร่มผ้าเป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ บนแขนของคนชุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1656

    “ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาอยากฆ่าพวกเจ้า ก็แค่บังเอิญโดนข้าจับได้เสียก่อน”“พระมเหสี ข้าเอง”เกาเจี้ยนจะกล้าให้กู้หว่านเยว่ลงมือเองได้อย่างไร เขารีบรุดหน้าเข้าไปคว้าเชือกป่านจากมือของนาง แล้วจับคนชุดดำทั้งห้าคนลากไปมัดเอาไว้ด้วยกัน“จริงสิ ใต้ต้นไม้ใหญ่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ยังมีคนชุดดำที่โดนข้าฟาดสลบอีกหนึ่งคน เจ้าส่งคนไปลากเขามามัดไว้ด้วยกันเถอะ”จะปล่อยให้คนชุดดำมีโอกาสรอดกลับไปรายงานเจ้านายของมันแม้แต่คนเดียวไม่ได้“พระมเหสีโปรดวางใจ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”เกาเจี้ยนรีบพุ่งตัวออกจากค่าย ทันทีที่ออกไป จู่ ๆ หนังตาก็กระตุกมิน่าล่ะกู้หว่านเยว่จึงสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลทหารลาดตระเวนนอกค่ายแห่งนี้พากันล้มลงไปบนพื้นและหลับไปเสียงกรนของทุกคนดังสนั่น และมีน้ำลายไหลยืดจากมุมปาก ทหารลาดตระเวนปกติที่ไหนจะเป็นเช่นนี้? “รีบลุกขึ้นได้แล้ว นอนอะไรกันนักหนา หลับสบายกันขนาดนี้จนไม่รู้ว่าค่ายของตัวเองถูกทำลายไปแล้ว”เกาเจี้ยนเดินขึ้นหน้า ยกเท้าเตะทหารสองนายตรงหน้า“ท่านแม่ทัพ เกิดอะไรขึ้น?”“ข้าหลับได้อย่างไร?”ทหารสองคนมีสีหน้างัวเงีย รีบคุกเข่าขอความเมตตาจากเกาเจี้ยน“ท่านแม่ทัพได้โปรดไว้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status