ตัวฉันมักจะฝันเห็นมันบ่อยๆ... ความทรงจำในอดีต...และจะยิ่งบ่อยขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องที่ตัวเองอยากจะเป็นมาตลอดอย่าง『ฮีโร่』นั่นหน่ะ...มันเป็นยังไงหน่ะเหรอ? ทันทีที่กรคิดแบบนั้น... ราวกับประชดประชันกัน ม้วนความทรงจำที่อยากจะลืมก็ถูกฉายขึ้นในสมองของเขา และสติของเขาก็ดำดิ่งลงไปกับมันเสมือนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์เหล่านั้นอีกครั้งภาพของฉันที่กำลังสวมเสื้อฮู้ดสีดำสนิท ด้านหลังของเสื้อเป็นรูปใบหน้ายักษ์สีเขียว... ท่ามกลางสายฝนยามเย็นที่มืดมิดและภายใต้ฮู้ด คือใบหน้าที่ไม่คิดอะไร ราวกับคนที่ตายไปแล้วของฉัน...ว้าวุ่น? กังวลใจ? ภูมิใจ? สุขใจ? ทุกข์ใจ? รู้สึกผิด? สับสน?บางที คงจะเป็นทุกอย่างนั่นรวมกันหล่ะมั้ง...ตัวฉันยกหมัดขวาของตัวเองขึ้นมาเพื่อมองดูมันให้ชัดๆมีรอยช้ำและรอยเลือดอยู่... แต่ไม่ใช่เลือดของฉัน... กรคิดแล้วก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ต้องเบิกตาโพลง... เพราะทันทีที่มองไปรอบๆตัวของตัวเอง เขาก็พบว่า... มีเหล่าชายฉกรรจ์มากกว่าร้อยคนนอนหมดสติอยู่รอบๆตัวของเขาเต็มไปหมด ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ทั้งที่จำหน้าได้และไม่ได้... ทุกคนต่างถูกกรโ
〝 แหมๆ อะไรกันพี่กร เรื่องเป็นแบบนั้นเองหรอกเหรอ ฮะฮะฮะ 〞ศรที่เข้าใจเรื่องทั้งหมด (ซึ่งกรแถไปว่าทุกคนกลัวพวกเอลฟ์)แล้ว ก็หัวเราะร่าออกมา หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญเมื่อครู่ กรก็ให้ศรเข้ามานั่งในรถลีมูซีนของเขาในขณะที่เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อปรับความเข้าใจเสียใหม่ ใช้เวลาอธิบายไปถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าใจส่วนเรื่องที่ทำไมศรถึงโผล่มาเจอกับฉันกลางทางได้นั้นเป็นเพราะหมอนี่อยากจะมาเซอร์ไพรซ์ฉัน และก็อยากเจอฉันเร็วๆนั่นแหล่ะซึ่งโดยผลลัพธ์แล้วก็เซอร์ไพรซ์จริงๆนั่นแหล่ะ ทั้งฉันทั้งหมอนั่นเลย...ถึงความหมายจะเป็นคนละอย่างกับที่อยากให้เป็นก็เถอะ อนึ่ง... ห้องรวมพลที่เป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ และมีเก้าอี้บุนวมยาวอย่างดีอยู่สี่ตัว ตอนนี้มีตัวนึงเป็นที่ไว้สำหรับศรและอัศวินเผ่าเอลฟ์สาวอีกคนนึงนั่งด้วยกัน ส่วนอีกสามตัวเป็นที่นั่งของกรและสาวๆ ทุกคนมีน้ำดื่มที่ตัวเองชอบกันคนละแก้วในขณะที่สนทนาเรื่องต่างๆ และถึงแม้สาวๆจะทำตัวไม่ถูกเพราะอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า แต่พอเห็นกรคุยกับศรด้วยท่าทีสนุกสนานแล้ว ก็อดดีใจไปด้วยไม่ได้เหมือนกัน และดูเหมือนเอลฟ์สา
เพราะเมื่อวานซืนเพิ่งกลับมาจากเดินทางเลยไม่ได้อะไรมากทุกอย่างเลยเริ่มเมื่อวานนี้แทน... เกี่ยวกับแผนการในการพิชิตบอสมหาดันเจี้ยน『ตัวตนที่หายไป』แต่ก่อนอื่นก็คงต้องพูดถึงเรื่องลักษณะของดันเจี้ยนที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องของที่นี่ซะก่อนหล่ะนะดันเจี้ยนแห่งนี้มีลักษณะทางกายภาพคือเป็นพื้นที่ทรงเจ็ดเหลี่ยม แต่ไม่รู้ว่ามีทั้งหมดกี่ชั้นหรอกนะและเพราะเป็นเจ็ดเหลี่ยมนี่แหล่ะ... พอลากจากมุมของเหลี่ยมเข้าไปหาจุดศูนย์กลาง ถึงได้แบ่งเป็น 6 เขตได้พอดี นี่คงเป็นศาสตร์ศิลป์ของผู้สร้างที่ออกแบบมาได้ดีหล่ะนะยังไงก็ตาม พื้นที่ของชั้นที่เราอยู่ซึ่งเป็นเขตที่อาณาจักรมาตั้งรกรากนั้นจากด้านนอกวัดเข้ามาจนถึงชั้นต่อไปมีความยาวตั้งฉากกับขอบประมาณ 500 กิโลเมตรชั้นที่อยู่นี้เป็นรูปเจ็ดเหลี่ยม ส่วนชั้นถัดไปที่เรากำลังจะเข้าไปพิชิตนั้นมีลีกษณะเป็นรูปหกเหลี่ยม และถูกแบ่งเป็น 5 เขตเช่นเดียวกันและทั้ง 5 เขต... มีบอสมอนสเตอร์ระดับ SSS เฝ้าอยู่เขตละตัว รวมถึงลูกสมุนด้วยนั่นแหล่ะที่ดูน่ากลัว... แต่ยังไงก็ไม่จำเป็นต้องไปสู้พร้อมกันทั้ง 5 ตัวหรอกนะถ้าถามว่าทำไม... นั่นเพราะชั้นที่ว่านี้เองก็เหมือนชั้นที่เรากำลังอยู่
〝 โกหกใช่ไหมเนี่ย! 〞 กรเป็นตัวแทนของทุกคน พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แต่จะว่าเขาก็ไม่ได้... เพราะไม่ว่าใคร หากได้เห็นว่าบอสที่พวกตนโค่นลงได้อย่างยากลำบากเมื่อครู่ กลับกำลังฟื้นคืนชีพขึ้นมาหล่ะก็ คงไม่มีทางใจเย็นได้อยู่เป็นแน่ นั่นจึงทำให้กรเปลี่ยนสายตาเป็นคมกริบอีกครั้ง〝 ทุกคนเตรียมพร้อมเดี๋ยวนี้! เมอร์ลินละการร่าย! 〞〝【ละการร่าย】!!! 〞 เมอร์ลินซึ่งตอบสนองคำสั่งของกรได้ไวที่สุดใช้ละการร่ายอีกครั้ง สาวๆทุกคนกลับมาในชุดและสกิลพร้อมรบเต็มอัตราศึกอีกครั้ง〝 ชาลอตอีกนานเท่าไหร่! 〞ในขณะที่ร่างของบอสเต่ากำลังก่อตัวขึ้น กรก็สั่งชาลอตอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องบอกว่าอะไร〝 5 วินาทีจนกว่ามันจะคืนร่างสมบูรณ์ค่ะ! 〞 ชาลอตใช้『ดีเทลวิชชั่น』กับบอสเต่า จึงรู้เวลาที่แน่นอน และนั่นทำให้เหงื่อเย็นๆไหลไปทั่วใบหน้าของทุกคนบ้าชิบ! ไอ้ความกวนส้นของมหาดันเจี้ยนเนี่ย ที่ไหนก็เหมือนกันหมดเลยว้อย!หงุดหงิดจริง!เรื่องนั้นว่าไปอย่าง… ประเด็นสำคัญคือ ทำไม?เมื่อกี้บอกว่าเงื่อนไขไม่ครบงั้นสินะ... แล้วเงื่อนไขที่ว่ามันคืออะไรกันหล่ะ?บอส 5 ตัว มีตัวนึงที่เป็นกุ
หลังศึกยามค่ำคืนที่แสนหนักหน่วงเมื่อคืนได้ผ่านไป ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงของอีกวัน...อืม... หนักหน่วงจริงๆ...ทำลงไปแล้ว... กับผู้หญิงตั้ง 8 คนเรานี่มัน(หื่น)สุดยอดจริงๆเลยแฮะ ในหลายๆความหมาย...แถม 6 จากใน 8 สาว... ชาลอต ซาช่า เรเชล ลิลิธ ริต้า คาเรน...ยังเป็นครั้งแรกของพวกเธออีกต่างหากรู้สึกแย่เหมือนกันแฮะที่ต้องเห็นสีหน้าเจ็บปวดของทั้ง 6 คนหน่ะ แต่ความจริงแล้วทุกคนต้องเจ็บกว่าแน่ๆ... ถึงทุกคนจะบอกว่าถ้าเพื่อฉันหล่ะก็ทนได้อยู่แล้ว ก็เถอะนะ...แต่ที่ตกใจสุดๆเลยก็คือลิลิธเองก็ยังบริสุทธิ์อยู่เหมือนกันนี่แหล่ะนี่เธอ... อายุก็ปูนนี้แล้วนะ? ตัวเธอในสมัยก่อนนี่ไม่คิดจะหาความสุขให้ตัวเองเลยเหรอเนี่ย? คิดแบบนั้นแล้วก็เป็นห่วงลิลิธขึ้นมาแต่ก็เอาเถอะ ไม่ใช่ว่าแย่หรือดียังไงหรอก... ต่อให้เธอเป็นยังไงก็ไม่ได้ทำให้ความรักที่มีต่อพวกเธอลดลงซักหน่อย นั่นต่างหากที่อยากจะพูดแถมตอนนี้เธอก็มีที่อยู่ของตัวเองแล้วด้วย... เพราะงั้นเลยทำให้ดีใจอยู่ที่เป็นครั้งแรกของลิลิธที่มีฉันเป็นความสุขของเธออ่ะนะแน่นอนว่าสำหรับทุกคนที่เลือกฉันเองก็เหมือนกัน... ถึงจะอายแต่พยายามกันเต็มที่น่าดูเลย...แล้วก็นะ... เ
〝 หืม... ฮีโร่? เธอหน่ะเหรอ? 〞กรถามออกมาด้วยน้ำเสียงสนใจ แต่เป็นในแง่ลบ ซึ่งนั่นกลับทำให้หญิงสาวเผ่าเอลฟ์รู้สึกพอใจออกมาเสียอีก เธอเท้าสะเอวอย่างมั่นใจอีกครั้ง ด้วยรอยยิ้มแสนภูมิใจอีกครา〝 ใช่แล้วค่า! ฉันคนนี้นี่แหล่ะ ฮีโร่ตัวจริงเสียงจริง! ผู้ผดุงความยุติธรรมที่ออกปราบเหล่าร้ายทั่วราชอาณาจักรอัลฟ์เฮมและโลกใบนี้ให้หมดสิ้นไป! นามนั้นคือ... 〞 หญิงสาวเผ่าเอลฟ์ชูนิ้วชี้ขึ้นฟ้าอย่างองอาจ ก่อนที่จะมองลงมาที่กร〝 ซิลเวียคนนี้ยังไงหล่ะคะ!!! 〞บึ้ม! พอหญิงสาวเผ่าเอลฟ์คนนี้... 『ซิลเวีย』พูดจบ ระเบิดควันสีแดงก็ระเบิดขึ้นจากทางด้านหลังราวกับฮีโร่จากขบวนการห้าสีที่กรรู้จัก... ซึ่งควันที่ว่านี้ดูเหมือนจะเป็นการประยุกต์ใช้เวทย์มนต์อำพรางของตัวซิลเวียเองนั่นแหล่ะ ถ้าไม่นับเรื่องที่เป็นการกระทำไร้สาระ แต่การใช้เวทย์แบบไม่ต้องร่ายของเธอนี่ก็น่าชื่นชมอยู่เหมือนกัน เสียงไอแค่กๆ ดังมาจากทางด้านหลังของซิลเวีย แต่จากที่กรสังเกตทุกคนรับมือกับควันหลอกเด็กของซิลเวียเธอคนนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอคนนี้ทำแบบนี้เป็นประจำแหงๆ〝 บ้ารึเปล่าเนี่ย... 〞〝 วะ ว่าไงนะ! กำลังว่าฉันอยู่เ
〝 ไม่ได้เรื่องเลยซักนิด 〞 ผ่านมาราว 2 ชั่วโมงหลังจากที่กลับมาคฤหาสน์อันเป็นเวลาพลบค่ำ ซึ่งมีศรกับชีน่ารออยู่ก่อนแล้ว กรก็บ่นอุบแบบนั้นออกมาในขณะที่นั่งเล่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นกับสาวๆทุกคนเหมือนเดิมนั่นแล แน่นอนว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดปนนิดหน่อย〝 ก็ช่วยไม่ได้หรอกนะฮะพี่กร... ก็พี่กรเล่นเทพซะขนาดนั้น ใครมันจะเก่งพอไปเป็นพวกพี่หล่ะ... ผมเองยังยอมเลยหล่ะ 〞ศรว่าแบบนั้นก่อนที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกผิดปนเสียดายถึงเอาจริงๆ เป้าหมายของฉันจะไม่ใช่การหาพวกแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะนะแต่ถ้าเข้าใจแบบนั้นไปนี่จะดีมากเลย เจ้าศรเองจะได้ยอมแพ้ไปด้วยก็นะ... ยังไงฉันก็ไม่คิดจะให้น้องชายของคนที่รั... ของเพื่อนไปตายอยู่แล้วถ้าไม่แข็งแกร่งพอจนปกป้องตัวเองได้ก่อนหล่ะก็นะ...〝 ก็นะ... แต่นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้วยังจะเจอตัวป่วนอีก... น่ารำคาญชะมัดยาดเลย 〞กรขมวดคิ้วเข้าด้วยกันแน่น ทำให้สาวๆยิ้มแห้งๆออกมาพร้อมกัน แต่ทางศรกลับทำสีหน้าสงสัยออกมาแทน〝 ตัวป่วน? นี่อย่าบอกนะฮะว่าไปเจอซิลเวียมาหน่ะ? 〞〝 หืม? นายก็รู้จักยัยบ้านั่นสินะ 〞เรียกผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันว่า “ยัยบ้า” เฉยเลยแฮะ...
〝 นี่กร... 〞เมอร์ลินเอ่ยถามขึ้นมาในขณะที่ทุกคนยังเตรียมพร้อมกันอยู่ เพื่อรับมือกับกลุ่มสาวน้อยฝาแฝด?ทั้ง 5 คนข้างนอกรถม้านั่น〝 อะไรเหรอ? 〞〝 ทำไมในอนิเมะหรือหนังพอพูดถึงตัวร้าย แล้วตัวร้ายต้องโผล่ออกมาแทบทุกทีด้วยนะ 〞〝 ตั้งข้อสังเกตได้น่าสนใจนะครับที่รักจ๋า แต่กระผมว่าประเด็นในตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องนั้นนะ 〞 กรยิ้มแหยๆให้กับเมอร์ลินที่ยังทำตัวสบายๆอยู่ รวมถึงลิลิธเองก็ด้วย เธอแค่นั่งหาวหวอดใหญ่อย่างเดียว แต่แน่นอนว่านั่นก็แค่ท่าทางภายนอกเท่านั้นแต่ก็นะ... ความจริงก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น แต่ก็ประมาทไม่ได้เหมือนกันหล่ะนะข้อแรกเลยก็คือ ยัยนี่ตอนนี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับพวกเราเลยแต่ที่ประมาทไม่ได้หน่ะคือ ความสามารถจริงๆของหล่อนที่ตอนนี้ยังใช้ไม่เป็นต่างหากที่น่ากลัว... กรคิดแบบนั้นในขณะที่ใช้หน้าต่างตั้งค่าต่างๆตรวจสอบสาวน้อยผู้กุมความได้เปรียบข้างนอกนั่น เลยทำให้ได้ผลสรุปออกมาแบบนั้น ส่วนทางซิลเวียที่ยืนอยู่ด้านนอกก็กำลังถูกปั่นหัวโดยสาวน้อยทั้ง 5 คนอยู่〝 อาวอ๊าวอาว! เลือกไม่ถูกเลยสิทีนี้!? 〞〝 หุหุหุ! งั้นพวกเค้าจะเริ่มยังไงดีน้อ! กับคู่ปรับตัวฉ
ช่วงเที่ยงเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่มีนัดสำคัญในช่วงบ่าย นี่เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมในการเตรียมตัวสำหรับสองสาว... สำหรับเรเชลกับริต้า พวกเธอกำลังลองชุดสำหรับเดทในช่วงบ่ายกับแฟนหนุ่มสุดที่รักของพวกเธอ สำหรับเรเชล เรื่องชุดไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะเลือกไว้นานมาก และมีชุดตัวเก่งในแบบที่เรียบร้อยเหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ปัญหาคือชุดของน้องสาวอย่างริต้านี่แหละที่ทำให้พี่สาวคนนี้เป็นกังวลจนต้องกุมขมับ ถึงจะเป็นเสื้อยืดที่ใส่แล้วรัดรูปโชว์สะดือ และกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนกับทุกทีก็เถอะ“...พี่ว่าชุดแบบนี้มันเปิดไปหน่อยนะ”“สงสัย... คุณกรน่าจะชอบ... แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ริต้ามองกลับมาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างบริสุทธิ์ใจ ในหัวเธอคงคิดอยู่แค่สามเรื่องเท่านั้นอันได้แก่ กร ครอบครัว แล้วก็กร ซึ่งอันที่จริงแนวคิดตรงนั้นก็ไม่ต่างจากเรเชลเท่าไรนัก ริต้ามองกวาดจากหัวจรดเท้า มองชุดเดรสแบบเปิดไหล่ของเรเชลแต่เป็นกระโปรงแบบคลุมเข่า เรียบร้อยเหมือนกับที่เรเชลใส่เป็นปกติ ความใคร่รู้ของริต้าจึงเกิดขึ้นในจังหวะนั
หลังจากเดทกับไมน์และรีเบคก้าจบลงพวกเราก็กลับบ้านเป็นเดทที่ดีอีกครั้งสำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเรานักเพราะถ้าว่ากันตามตรง เหล่าภรรยาของฉันหลายคนเพิ่งจะได้คบกันในช่วงที่กำลังลุยดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ ของอาร์เคมีดีสหมายถึงเจนนี่ ไมน์ รีเบคก้า ซิลเวีย ยูมิน่า ฟลอร่า แล้วก็เฮเลน่ากับคอร์ดิเรีย ทั้งแปดคนนั่นแหละพวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเดทกันเท่าไหร่ก็เลยยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ข้อดีก็คือไม่ว่าจะพาไปเดทที่ไหนพวกเธอก็ยังไม่คุ้นชินเลยมีโอกาสเรียนรู้กันและกันอีกมากหืม? แล้วความทรงจำเรื่องเดทจากเมื่อชาติก่อน ๆ ของพวกเธอที่เคยมีกับเรานี่ไม่นับเหรอ?ก็ไม่เชิงหรอกนะ... ความทรงจำเมื่อชาติก่อนมันก็เหมือนกับความทรงจำในวัยเด็กนั่นแหละ เรื่องเกิดตั้งนานแล้วใครจะไปจำรายละเอียดได้ล่ะจริงไหม?ก็จริงแหละที่ถ้าทำอะไรสักอย่างให้นึกถึง ความทรงจำพวกนั้นก็จะถูกกระตุ้นทำให้นึกออกแต่ฉันคุยกับทุกคนหลายรอบแล้วว่าอดีตก็คืออดีต จะไม่ให้มันกลายมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้กันและกันของพวกเราหรอกก็ด้วยเหตุนั้นแหละ ทั้งแปดคนเลยยังไม่ค่อยชินกับการไปเดทแบบทั่วไป ก็เลยพาไปเดทที่ต่าง ๆ
เวลาผ่านไปจนเกินเที่ยง ฉันเลยติดต่อบอกให้ทุกคนกินข้าวรอกันไปก่อนส่วนฉัน ฟลอร่าแล้วก็ยูมิน่าไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารใกล้ ๆนับว่าเป็นการยืดเวลาเดทได้ดี สองสาวดีใจใหญ่ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น น่ารักจริง ๆ เลยน้าทั้งสองคนจากนั้นช่วงบ่ายไปถึงเย็นก็จะเป็นคิวของไมน์กับรีเบคก้า ฉันก็เลยต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวใหม่เพราะทั้งสองคนก็รออยู่ที่บ้านเหมือนกันแหล่ะนะแถมแฟนของฉันแต่ละคนก็ชอบบรรยากาศการเดทแตกต่างกันด้วยทั้งสไตล์การแต่งตัว น้ำหอม สถานที่ เวลา หรือความใกล้ชิดในที่สาธารณะเพราะทุกคนโตมาต่างกันเลยมีความต้องการคนละแบบ ก็ปกตินั่นแหล่ะแต่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดเพราะฉันรู้สิ่งที่ทุกคนชอบดีอยู่แล้ว จำได้ขึ้นใจด้วยว่าไปแล้วพอพูดถึงความใกล้ชิด ไมน์กับรีเบคก้านี่ก็ออกจะเหนียมอายกว่าทุกคนหน่อยถ้าเป็นสาว ๆ ส่วนใหญ่จะเดินกอดแขนฉันกลางธารกำนัลได้สบายแต่ไมน์กับรีเบคก้าจะยังไม่ค่อยกล้าทำอย่างนั้นเท่าไหร่ ก็เป็นในทำนองเดียวกับรินนั่นแหล่ะอลิซนั้นยังพอว่าเพราะโตมาแบบรับวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้เต็ม ๆก็ขนาดพุ่งเข้ามากอดฉันที่เป็นเพื่อนสนิทยังกับเพื่อนเพศเดียวกันได้สบาย ๆ นั่นแหล่ะ (ถึงเธอจะไม่ได้ทำแบบ
หลังจากการเที่ยวสวนสนุกของฉัน เจนนี่และเฮเลน่าจบลงด้วยความหวานชื่น พวกเราก็กลับบ้านด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มขากลับก็มีการซื้อของที่ระลึกอย่างสร้อยคอให้พวกเธอและแน่นอน นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็ซื้อเค้กกลับไปฝากทุกคนด้วยถึงจะมีเดทกับแฟนสาว แต่ก็ต้องไม่ลืมครอบครัวที่รออยู่บ้านด้วยโดยเฉพาะลูกสาวสุดที่รักอย่างแมรี่ นี่แหล่ะหน้าที่เสาหลักของบ้านล่ะ อื้ม ๆ!เท่านี้วันแห่งการพักผ่อนก็จบไปอีกวันด้วยความสงบสุข...ถึงก่อนนอนจะมีเรื่องจริงจังให้คิดนิดหน่อยก็เถอะนั่นเพราะระหว่างวันได้มีข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการคร่าว ๆ ของการประกาศความสำเร็จที่พวกเราทุกคนปราบอาร์เคมีดีสส่งเข้ามาน่ะสิก็มาจากพวกเสือ คัทยูชา แอดรูวส์แล้วก็พี่มารีนั่นแหล่ะดูเหมือนอีก 6 วันนับจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกถึงความสำเร็จของพวกเราพร้อมกับพิธีมอบรางวัลจากกษัตริย์ของอาณาจักรที่เป็นพันธมิตรก็... ฟังดูเป็นพิธีที่น่ารำคาญ แต่มันก็ขาดเสียมิได้หรอกแถมการทำแบบนั้นยังเป็นการตรวจสอบความร่วมมือจากอาณาจักรต่าง ๆ ให้ร่วมมือกันในการรับมือกับจอมมารในอนาคตด้วยแต่... ปัญหาก็คือพวกเราในตอนนี้ยังไม่มีเส้นสายในการติดต่อกับเผ่าปีศาจนี่แหล่ะ
ในห้องน้ำส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวบ้านครอบครัวของกรก่อนหรือหลังเข้าไปใช้ห้องอาบน้ำรวมของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีใครใช้งานเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องแปลกทีเดียวที่จะมีคนเพิ่งอาบน้ำในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ โดยเฉพาะบ้านของกรที่ต้องตื่นมากินข้าวเช้า รวมถึงอาบและแช่น้ำรวมกันทั้งบ้านเป็นกิจวัตร“แบบนี้ดีไหมนะ? หรือแบบนี้ดี?” นั่นถึงเป็นเรื่องแปลกเมื่อมีหญิงสาวกำลังจัดทรงผมด้วยสีหน้าสายตาจริงจังในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ คน ๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวผู้มีสไตล์มากที่สุดและมีเสน่ห์ของสาวผู้ใหญ่เหลือล้นอย่างเจนนี่หนึ่งเดียวคนนี้เอง โดยปกติแล้วเธอเองก็ค่อนข้างดูแลตัวเองตลอดเวลา เรียกว่าแม้จะอยู่บ้านก็ยังแต่งหน้าแต่งตาบาง ๆ ให้ดูเป๊ะอยู่เสมอ อย่างน้อย ๆ นั่นก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แฟนหนุ่มอย่างกรรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเธอค่อนข้างจัดเต็มมากทีเดียว ถึงแบบนั้นก็ไม่มากเกินไปกว่าระดับที่ทำให้ดูผิดธรรมชาติ“เป็นยังไงบ้างคะเจนนี่” ในจังหวะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี เธอเป็นสาวหูแมวผู้เงียบขรึมดูไร้อารมณ์ที่สุ
ยามเช้าอันสดใสมาพร้อมเสียงสัตว์อรุณสวัสดิ์เป็นกิจวัตรอันสร้างความสดชื่นรับวันใหม่ได้ทุกครา ไม่มีเสียงปลุกอะไรไพเราะไปกว่านี้ กับบรรยากาศสดชื่นและน่าเย้ายวนชวนให้ตื่นเช้าเช่นนี้ คงไม่มีใครหาญกล้านอนต่อได้นอกเสียจากคนที่ทำงานจนเหนื่อยล้าหรือกำลังอยู่ในช่วงขี้เกียจสันหลังยาว เว้นเสียแต่ว่าเธอคนนั้นไม่ได้หลับเสียตั้งแต่แรก ข้อยกเว้นดังกล่าวคือฟีโอน่าที่กำลังนั่งเขียนเอกสารในห้องส่วนตัวของเธอ ในบ้านส่วนตัวที่อยู่อาศัยร่วมกันกับครอบครัวของเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าตรู่นี้ อันที่จริงต่อให้เธอทำงานค้างไว้ก็คงไม่มีใครว่าเธอได้ เพราะในอาณาจักรที่เธอปกครองตอนนี้ไม่มีใครใหญ่ยิ่งไปกว่าเธออีกแล้ว ต่อให้ประกาศกับเหล่าขุนนางไปแล้วว่าจะวางมือ แต่สถานะของอดีตราชินีและหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กอบกู้โลกคงไม่มีใครกล้าหือแน่นอนต่อให้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว สิ่งที่ผลักดันฟีโอน่าให้ทำงานจึงเป็นแรงขับเคลื่อนส่วนตัวอย่างความรับผิดชอบล้วน ๆ จะว่าต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเหล่าขุนนางก็คงได้ แต่อันที่จริง... สาเหตุหลักมันเป็นเพราะเธ
“ทนไม่ไหวแล้ว!!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นสิ่งแรกของยามเช้าอันสดใสของพวกกร ความเหนื่อยล้าจากศึกกลางคืนทำให้ทุกคนยังงัวเงีย แต่ก็ตื่นเต็มตากันหมดเพราะเสียงตะโกนของตัวป่วนประจำบ้านอย่างอลิซ ด้วยความที่ทุกคนนอนบนฟูกปูพื้นทำให้ทุกคนนอนเกลื่อนกลาด และเพราะผ่านศึกอันหนักหน่วงกันมา ทั้งสาว ๆ และกรเลยมีแค่ผ้าห่มคนละผืนทับตัวเปล่า ๆ เหมือนเด็กแรกเกิด แต่สภาพแบบนั้นไม่ได้ทำให้อลิซร่าเริงน้อยลงเลย“ได้ยินป่าว! ฉันบอกว่า ‘ทน-ไม่-ไหว-แล้ว’ อ่ะ!” เธอทำแก้มป่องทุบพื้นหลายต่อหลายที ถึงไม่รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรก็เถอะ“มีเรื่องอะไรแต่เช้าเนี่ย?” กรที่หนุนหมอนอยู่ถึงชันตัวขึ้น เขาต้องค่อย ๆ ใช้แขนสองข้างประคองให้มีอากับรินลงหนุนหมอนแทนจากที่นอนซบไหล่เขามาตลอดคืน อาจเพราะแบบนั้นด้วยมีอากับรินเลยทำหน้ามุ่ย แต่พอได้กรลูบหัวไปคนละสองทีพวกเธอก็ยิ้มพริ้มกันเพลินจนต้องหลับต่อ“หรือว่าอยากกอดเหรอ? งั้นมามะ” กรอ้าแขนเชื้อเชิญด้วยใบหน้าระรื่น เพราะเขาเองก็อยากจะกอดอลิซเหมือนกัน“ไม่ใช่ย่ะ! ไม่สิ... ถึงจริง ๆ จะอยากกอดก็เถอะ แต่ที่จะพูดมันไม่ใช่เรื่
————วันรุ่งขึ้นหลังจบศึก, ณ มหาดันเจี้ยนโบราณเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ภายในมหาดันเจี้ยนโบราณของฟรังซ์ ออลเดลผู้เป็นเจ้าของนั้น มีดันเจี้ยนชั้นหนึ่งที่เป็นส่วนอยู่อาศัย หากนับตามลำดับคงเป็นชั้นที่ 101 ว่าไปแล้ว มันก็คือดันเจี้ยนชั้นเดียวกับที่กรและมีอาได้เข้ามาพักหลังจากที่เคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้สำเร็จแล้วนั่นเอง คฤหาสน์ของฟรังซ์นั้นมีห้องอยู่จำนวนมากทั้งที่กำลังใช้งานอยู่และที่เป็นห้องว่างพร้อมให้ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามต้องการ ในบรรดาห้องว่างทั้งหลายเหล่านั้นคือห้องชั้นใต้ดินของอาคารหลักอันมืดมิด ได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องกรงแบบง่าย ๆ คำว่าง่าย ๆ ที่ว่านั้น คือการใส่ลูกกรงเหล็กหน้าห้องแทนประตู พื้นที่เป็นดินไม่ได้รับการตกแต่งหรือทำความสะอาดเพื่อไว้ใช้ลงโทษ นอกเหนือจากนั้นคือกุญแจมือและเท้าที่ล่ามติดโซ่ผู้กระทำผิดเอาไว้ในฐานะนักโทษอยู่กลางห้องไม่ให้ขยับไปไหนได้ และคนที่ถูกล่าม ไม่สิ... ล่ามตัวเองอยู่นั้น ก็ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากอาร์เคมีดีส ตัวอาร์เคมีดีสนั้นแม้จะถูกล่ามโซ่ในสภาพอนาถาแต่กิริยาของเขากลับยังนิ่งสงบ ทั้
————ก่อนหน้านี้เล็กน้อย“แล้ว... จะเอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย” หลังออกมาจากมหาดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ จนมาอยู่บนชายหาดของเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมอร์ลินก็เอ่ยถามขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะอาเธนที่เป็นคนใช้ไอเทมทำให้ทุกคนออกมาได้รวมถึงมหาปราชญ์คนอื่น ๆ นั้นไม่ได้มาด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องทำลายแกนพลังงานของดันเจี้ยนเพื่อลดอัตราการดูดซับเท่าที่จะทำได้แม้แกนกลางของดันเจี้ยนจะกลายเป็นลาสบอสพร้อมกับอาร์เคมีดีสไปแล้วก็ตาม และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง คำถามของเมอร์ลิน จึงไม่ใช่อะไรนอกจากการยืนยันสิ่งที่กรจะทำหลังจากนี้ ทั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวล แต่ว่าก่อนหน้านั้น...“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่จะไม่สนใจไอ้เจ้ายักษ์นั่นหน่อยเหรอเนี้ยว!?”“นะ นั่นสิคะ! นั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ควรกังวลมากกว่านะคะ!” ในขณะที่ฟลอร่ากับซาช่าต่างก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าจนเหมือนคนสติแตก ซึ่งถ้าบนนั้นมีแค่เมฆสีครามเหมือนปกติก็จะดี แต่เพราะไม่ใช่ พวกเธอถึงกลัวจนขนลุกกันขนาดนั้น เพราะที่อยู่บนนั้น คือมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนล่า