〖 มีแค่แกคนเดียวงั้นเรอะ ไอ้หนู!!! 〗
〝พะ พูดได้ด้วยเหรอ!!!!〞
ตัวฉัน.... อุษณกร วัชรวิรุฬห์
ไอ้หนุ่มที่มีหน้าตาสุดแสนจะธรรมดา แถมเป็นโอตาคุขั้นโคม่า แล้วยังบ้าหนังสงครามหน่อยๆ....
ตอนนี้กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับสิ่งมีชีวิตที่เคยได้ยินมาว่า เป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีกหรือโรมันที่เรียกว่า สุนัขเฝ้านรก.... 『เคลเบรอส』อยู่ ด้วยอาการตกตะลึงกึ่งสงสัยกับสถานการณ์แปลกๆทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์อันตราย กรจึงต้องระวังตัวอย่างที่สุด แต่เพราะเห็นว่าสุนัขหมาป่า 3 หัวขนสีดำขลับ ซึ่งเป็นบอสมอนสเตอร์อันน่าเกรงขาม นั้นยืนอยู่ข้างหน้าของกรกลับพูดคุยด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าที่คิด กรเลยคิดที่จะลองหยั่งเชิงมันดู
〖นี่ๆ อย่าเมินคำถามของข้าสิ! 〗
〝อ่อ.....โทษทีๆ พอดีทางนี้กำลังตกใจอยู่หน่ะ!!!〞
〖ตกใจงั้นเหรอ? นั่นก็เป็นปฏิกิริยาปกติเวลามีคนเห็นรูปลักษณ์อันน่าหวาดหวั่นของข้าอยู่แล้วนี่นา!!!?〗
〝เปล่าๆ... ที่ทางนี้ตกใจหน่ะเป็นเพราะไม่รู้ว่าแกพูดได้ยังไงอยู่ต่างหากหล่ะ....〞
〖....................................〗
〖ตกใจเรื่องนั้นเองหรอกเรอะ!!!!!!!!〗
〝อึ๊ย!!!!〞
ยะ แย่หล่ะสิ ไปทำให้โกรธเข้าซะแล้วรึเปล่าหว่า....
แหม ก็มันน่าสงสัยจริงๆนี่ ....แล้วมีตั้งสามหัวแท้ๆ แต่ดันไม่มีตัวไหนขยับปากตอนพูดเลยด้วยซ้ำ... แล้วจะว่าไป เสียงมันออกมาจากทางไหนหว่า.....
ตอนแรกก็คิดลองหยั่งเชิงดูนิสัยของมันหรอก... แต่จริงๆแล้วก็สงสัยอยู่จริงๆด้วยนั่นแหละ...
ว่าแต่เจ้านี่ก็มีอารมณ์ขันอยู่เหมือนกันนี่นา...แถมยังอุตส่าห์ตบมุกให้เราด้วย น่าชื่นชมซะจริงเชียว...
〝ถ้าทำให้โมโหก็ขอโทษด้วยละกัน....พอดีไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนหน่ะ!!!〞
〖....................................〗
〝จะว่าไงดีหล่ะ พูดไปอาจจะน่าเหลือเชื่ออยู่ แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันลงดันเจี้ยนเลยนะ〞
〖โฮ้! งั้นเองหรอกเหรอ! เข้าใจหล่ะ อื้มๆ!!!〗
ไอ้หมานี่!!! อย่าเข้าใจอะไรไปเองคนเดียวซิฟ่ะ
เคลเบรอสที่ตอบสนองคำพูดของกรโดยการทำหน้าเหมือนกับจะบอกว่า〝อย่างงี้นี่เอง〞ออกมานั้น ทำให้กรหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยที่ไม่เข้าใจความหมายของการกระทำนั้น
〖น่าชื่นชมยิ่งนักหากนั่นมิใช่คำโป้ปด บุคคลที่เคยย่างกรายมายังที่แห่งนี้ได้ตามปกติมีนับคนได้เลยหล่ะ!!!!〗
〝ขะ ขนาดนั้นเลยเหรอ!!!〞
〖แม่นแล้ว.... ภูมิใจได้เลย! อย่าว่าแต่ห้องของตูข้าเลย ส่วนใหญ่แล้วพวกมนุษย์ก็มักจะหมอบกระแตแต้แว้ดกันหมดก่อนจะถึงชั้นที่ 15 แล้วด้วยซ้ำละเด้อ〗
〝เฮ้ยๆ คาแรคเตอร์มั่วไปหมดแล้วเฟ้ย! จะพูดแบบโบราณหรือสำเนียงท้องถิ่นก็เอาซักอย่างสิฟ่ะ!!!
แถมยังพูดด้วยท่าทางภูมิใจอีก!〞
〖ห่ะห่ะ....เรื่องนั้นก็ไม่ผิดหรอก ...ข้าต้องก็ภูมิใจในเรื่องนั้นอยู่แล้ว........อีกอย่างนึง ทีนี้ก็เจ๊ากันแล้วนะเจ้าหนู.....
.
.
.
...... เรื่อง ตบมุก หน่ะ!!!〗
〝…………………………..〞
ปึ๊ด!!!!
แล้วเสียงเส้นเลือดบนศีรษะของกรที่โปดปูนขึ้นมาเพราะการบันดาลโทสะ ก็ดังขึ้นมาเพราะการพูดเชิงยั่วโมโหของเคลเบรอสนั่นเอง ถึงที่จริงแล้วที่เคลเบรอสทำจะเพื่อลดความประหม่าของกรลงก็ตามที
〝เจ๊ากันบ้านป้าแกสิไอ้เจ้าหมาบ้า!!!!! นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นตลกคาเฟ่รึไงกันห๊ะ!!!!!!!!!〞
แฮ่กๆๆๆๆ!!!!!
แล้วกรที่ตะโกนตบมุขเคลเบรอสอีกครั้ง เสียงดังลั่นจนกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโถง ก็ต้องหายใจหอบออกมาเพราะตะโกนออกมาอย่างกะทันหันโดยที่ไม่ได้หายใจ
ไอ้หมาบ้านี่มันยังไงกันวะ ชักหมดความอดทนแล้วนะเนี่ย!!!!!!!
บรรยากาศไม่เหมือนกับจะเข้ามาต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายซักนิด นี่หรือว่าเราจะถูกไอ้หมานี่หยั่งเชิงเอาโดยไม่รู้ตัวกัน!
และในขณะที่กรกำลังบ่นให้กับสภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในใจอยู่นั้น ก็มีเสียงประกาศแบบเดียวกับที่บอกว่าห้องโถงนี้เป็นห็องบอสประจำชั้นในตอนแรก พูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่ดูเหนื่อยหน่ายกว่าตอนแรกนิดหน่อย
【นี่ๆ.....เลิกพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องซักทีได้แล้วม้างงงงงง
........แล้วอีกอย่างอย่ามาขัดจังหวะตอนกำลังประกาศจะได้ไหมเนี่ย….】
〖โอ๊ะโอ๋!!! แหมๆ โทษทีนะคุณนาย ก็มันไม่ได้มีคนลงมาถึงที่นี่ได้ตั้งนานแล้วนี่นา!!!〗
【เลิกเบี่ยงประเด็นได้แล้ว... ไปทำหน้าที่ของตัวเองซะทีเถอะ!】
〖เชอะ!!! เข้าใจแล้วน่า〗
ต่อหน้าคำพูดอันเด็ดขาดของเสียงที่ฟังดูเหนื่อยหน่ายนั่น แม้เคลเบรอสจะเดาะลิ้นออกมาเบาๆแต่ท่าทางก็ถึงกับหงอยลงไปเลยทีเดียว
【เฮ้อ!!!〜〜 โทษทีนะที่ทำให้เสียเวลา 】
〝เฮ้อ!!! เอาเถอะ....ฉันจะพยายามไม่คิดมากก็แล้วกัน 〞
【อืม ขอบใจมาก .......งั้นก็มาอธิบายกฎกันต่อเถอะ!】
พอผู้ประกาศกล่าวขอโทษกร กรก็ตอบกลับไปเป็นเชิงให้อภัย นั่นเพราะเขาเองก็ไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้แล้วเหมือนกันนั่นเอง
เอ๋!? คุณผู้ประกาศนี่ก็มีตัวตนอยู่ด้วยสินะ
ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่บันทึกเสียงหรืออะไรทำนองนั้นซะอีก ....แต่โทนเสียงเนี่ยออกจะแหลมนิดหน่อย หรือว่าจะเป็นผู้หญิงกันนะ แล้วที่เห็นไอ้หมานั่นเรียกว่าคุณนายอีก...
【เงื่อนไขในการลงไปสู่ชั้นถัดไปมีเพียง 2 ข้อเท่านั้น......】
และในขณะที่กรกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเหมือนทุกที เสียงของผู้ประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้เขากลับมาเตรียมตัวในสถานะเตรียมพร้อมรบอีกครั้งหนึ่ง
【 หนึ่ง คือ โค่นเคลเบรอสให้หมดสภาพ
สอง คือ มีชีวิตรอดจนกว่าครบตามเวลาที่กำหนด..... 】
กริ๊ง!!!
วูม!!!
หลังจากผู้ประกาศได้บอกออกมาแบบนั้น ในทัศนวิสัยของกรก็มีหน้าต่างๆเล็กๆ ขึ้นมา และที่แสดงอยู่บนหน้าต่างนั่นก็มีตัวเลขเขียนอยู่ว่า【 เวลาที่เหลือ คือ 1:30:00:00 】ใช่แล้ว นั่นคือหน้าต่างกำหนดเวลานั่นเอง
【 หากสามารถบรรลุเงื่อนไขดังกล่าวได้ แม้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง การทดสอบจะถือเป็นอันสิ้นสุด และทางลงไปยังชั้นที่ 26 ซึ่งเป็นชั้นถัดไปจะถูกเปิดออกในทันที...... 】
หืม... มีเงื่อนไขด้วยแฮะ แต่เรื่องนั้นไม่ค่อยสนอยู่แล้ว เพราะยังไง ฉันก็จะโค่นมันให้ได้อยู่ดี!
แต่กำหนดเวลาหน่ะมันเยอะไปแล้ว! นี่กะจะให้สู้ตั้งแต่แรกเลยนี่หว่า... แล้วแบบนี้จะกำหนดเวลาไปทำไมเนี่ย!!!
กรบ่นแบบนั้นอยู่ในใจเนื่องจากคับข้องกับเงื่อนไขที่ไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่นัก เนื่องจากที่กรดูความแข็งแกร่งของบอสจากภายนอกแม้จะยังไม่ได้ตรวจสอบสเตตัสดู แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าแข็งแกร่งมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเจอมาแน่นอน นั่นเลยทำให้เขาคิดว่า เวลาแค่ 1 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที ไม่มีทางที่จะเอาตัวรอดจากสัตว์ประหลาดแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
【 ......เอาหล่ะ! จบเรื่องของฉันซักที งั้นก็พยายามเข้านะ.....อย่ารีบตายนักหล่ะ—————】
พรึ่บ!!!—————————
พอผู้ประกาศพูดจบ ก็รีบตัดบทแล้วจากไปพร้อมกับเสียงที่คล้ายกับปิดโทรทัศน์ทันที
〝เฮ้ยๆ... พูดจบแล้วก็หายแว๊บไปเลยงั้นเหรอเนี่ย! 〞
〖ห๊ะห่ะ… โทษทีหล่ะเจ้าหนู! นายหญิงของเราขี้เบื่อง่ายหน่ะ〗
〝นายหญิงเหรอ? แสดงว่าเป็นคนใหญ่คนโตของที่นี่พอสมควรเลยสิ ว่าแต่คนที่ใหญ่สุดเนี่ย.....
.....ไม่ใช่ 『ฟรังซ์ ออลเดล』 ที่เป็น『ดันเจี้ยนมาสเตอร์』งั้นหรอกเหรอ?〞
〖..........................〗
กรที่กลับมาเล่นสงครามจิตวิทยากับเคลเบรอสอีกครั้ง เพื่อหยั่งเชิงก่อนที่จะต่อสู้กันก็ได้พูดแบบนั้นออกไปพลางหรี่ตาลงครึ่งนึง แล้วมองเคลเบรอสด้วยสายตาเฉียบคม เคลเบรอสเองก็สัมผัสถึงบรรยากาศรอบตัวของกรที่เปลี่ยนไปได้จึงมองเขากลับมาแบบเดียวกัน แต่จิตสังหารของเคลเบรอสที่มีมากกว่ากันโขนั้น เลยดูเหมือนจะเป็นกรเองที่เป็นฝ่ายถูกหยั่งเชิงทั้งยังถูกกดดันอย่างหนักแทน
〖เจ้าหนู... ข้าขอเตือนอะไรไว้อย่างนึง...
อย่าได้เอ่ยชื่อของท่านผู้นั้นออกมาพล่อยๆเชียว 〗
ซู่มมม!!!!!!!!!
〝เอื๊อก!!!! 〞
แกร๊ก!!!
ฟิ้ว!!!!!!!!!!
หลังจากที่เคลเบรอสพูดแบบนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักอึ้งและน่าหวาดหวั่นอย่างที่สุด กรก็เห็นภาพของตัวเองที่ศีรษะขาดกระเด็นขึ้นมาในหัวทันที แล้วกรที่ดึงสติขึ้นมาได้ในเวลาอันสั้นก็เอื้อมมือไปคว้าดาบที่อยู่ข้างหลังแล้วดีดตัวไปข้างหลังเกือบ 20 เมตรจากตำแหน่งเดิมเลยทีเดียว แม้ภาพลวงตาที่เกิดจากแรงกดดันทางจิตใจอันมหาศาลนั้น จะทำให้กรมองเห็นได้แค่ชั่วพริบตา แต่นั่นก็ถึงกับทำให้กรกลืนน้ำลายเสียงดังได้เลยทีเดียว
แย่หล่ะสิ... ดูเหมือนจะไปเปิดสวิทซ์เข้าให้แล้วไหมหล่ะ!
ถึงเราจะตั้งใจยั่วโมโหไปจริงๆก็เถอะนะ.... สงสัยเราจะได้ใจเกินไปหน่อย... แต่หมอนี่มัน... ทั้งที่โกรธอยู่แท้ๆแต่ยังดูใจเย็นอยู่เลยนะเนี่ย นี่สินะความเยือกเย็นของแท้...ฉันนี่เทียบไม่ติดเลยแฮะ———
แล้วกรก็เข้าใจได้ทันทีว่าทางเลือกของตนอาจจะผิดก็ได้ที่ไปท้าทายสิ่งที่มีพลังเหนือกว่าอย่างเคลเบรอส ก็คิดแบบนั้นพลางโทษตัวเองเล็กน้อย แต่คำพูดต่อไปของเคลเบรอสก็ต้องดึงสติของเขากลับมาสู่สภาวะต่อสู้อีกครั้ง
〖ถ้างั้นก็... เรามาหยุดการพูดคุยที่เปล่าประโยชน์นี่กันดีกว่า แล้วก็............〗
〖มาเข่นฆ่ากันให้สนุกดีกว่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〗
ฟิ้ว!!!!
หลังจากที่เคลเบรอสร่ำร้องออกมาแบบนั้นราวกับสัตว์ป่าที่กำลังกระหายเลือด มันก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวกรที่อยู่หากกันเกือบ 30 เมตรในชั่วพริบตาเดียว พร้อมกับง้างกรงเล็บขนาดใหญ่ที่ยาวกว่า 3 เมตรนั่นเพื่อเตรียมไว้โจมตีกรจากทางขวา แต่แน่นอนว่ากรรู้การโจมตีนั่นล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้ว และไม่รอช้าเขาก็รีบใช้สกิลเพื่อหลบหลีกการโจมตีนั่นอย่างรวดเร็ว
〝ฮึ่ย!!! 【เคลื่อนไหวความเร็วแสง】!!!!!!!!!〞
ฟิ้ว!!!!
ฉั๊ว!!!!
แล้วการโจมตีของเคลเบรอสก็ต้องหวดลมไปโดยปริยาย เนื่องจากกรก็ใช้สกิลเสริมพลังเพื่อเพิ่มสเตตตัสความว่องไวให้กับตน แล้วจากนั้นก็ถีบพื้นแล้วพุ่งหลบสไลด์ไปได้ทางซ้ายอย่างรวดเร็ว จึงสามารถหลบการโจมตีของเคลเบรอสที่แฉลบบริเวณสีข้างด้านขวาของกรเล็กน้อยไปได้อย่างฉิวเฉียด? ดูเหมือนว่าส่วนประกอบของห้องโถงนี้จะมีความแข็งมากกว่าดันเจี้ยนข้างนอกมากเลยทีเดียว เนื่องจากบริเวณพื้นที่กรถีบตัวออกมานั้นมีเพียงฝุ่นละอองที่ลอยคละคลุ้งอยู่เท่านั้น แต่ไม่ได้มีรอยแตกร้าวซักนิดเดียว แถมการโจมตีของเคลเบรอสที่ไม่โดนตัวกรแต่ไปโดนพื้นแทนก็ยังสร้างรอยขีดข่วนให้พื้นของห้องโถงไม่ได้เช่นกัน
〖โห้!!! ยอดเยี่ยมยิ่งนักเจ้าหนู ไม่เคยมีผู้ใดหลบการโจมตีแรกของข้าได้มาก่อนเลย ....อายุก็ยังน้อยแต่ทักษะเนี่ยไม่เลวเลย ดูเหมือนว่าที่มาถึงนี่ได้จะไม่ใช่โชคช่วยสินะ....〗
〝ฮึ่ม!!! หลบได้งั้นเหรอ? อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลยน่า!!! ที่เฉียดไปเมื่อกี้หน่ะโดนสีข้างจังๆเลยนะเฟ้ย ถ้าไม่มีผลพิเศษจากฉายาโกงๆหล่ะก็ คงเลือดท่วมไปแล้วโว้ย!!!〞
แม้กรจะกำลังพูดแบบนั้น แต่ท่าทางก็รู้สึกล้าจากแรงกดดันอยู่พอสมควร ถึงอย่างงั้นก็ยังคงไม่ลดการป้องกันลงแม้แต่น้อยและยังใช้สุดยอดการประมวลในการสังเกตการเคลื่อนไหวของเคลเบรอสให้มากขึ้นอีกต่างหาก
〖แต่ดูเหมือนเจ้าจะรับรู้การโจมตีของข้าก่อนได้ทั้งที่ไม่ใช้สกิลซักนิดเลยนี่.....〗
〝สงสัยต่อไปเหอะไอ้หมาบ้า... ฉันไม่บอกแกหรอก!!!〞
และดูเหมือนเคลเบรอสเองก็สังเกตเรื่องนั้นได้เหมือนกัน เลยพูดเชิงถามออกไปแบบนั้น แต่กรก็ไม่ได้บอกไพ่ตายของตัวเองออกไปแต่อย่างใด และท่าทางที่พูดคุยกับกรอย่างสบายๆนั่นยิ่งทำให้กรไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ กรจึงได้ตอบกลับไปเหมือนกับจะตะคอกแบบนั้นกลับไป
〖น่าเสียดายยิ่งนัก... เพราะแม้จะเป็นแค่ไอ้หนูไร้มารยาทก็ตาม แต่ข้าก็อยากจะจำเรื่องของนักรบผู้หาญกล้าที่มาเผชิญกับข้าในตอนที่ตายไปแล้วอยู่ซักหน่อยนะ...〗
〝ฉันยังไม่ตายซักหน่อย!!! อย่ามาแช่งกันซิฟ่ะ!!!〞
ชึบ!!!
ฟิ้ว!!!
และขณะที่กำลังพูดแบบนั้นกรก็ชักดาบมือเดียวออกมาจากฝักที่แขวนไว้อยู่ข้างหลัง แล้วจากนั้นก็ถีบพื้นอย่างแรงอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ได้เพื่อหลบการโจมตี แต่เพื่อเข้าไปโจมตีเคลเบรอสที่กำลังพูดคุยอย่างไม่ทุกข์ร้อนอยู่ต่างหาก และเมื่อกรเข้าไปประชิดตัวเคลเบรอสได้ก็เตรียมที่จะใช้สกิลกับมันโดยกระโดดสูงขึ้นไปบริเวณลำตัวของมัน แต่ก็สังเกตเห็นท่าทางสบายๆที่ไม่คิดจะป้องกันเลยซักนิดนั่น เลยทำให้กรยิ่งเดือดเข้าไปใหญ่
ไอ้หมาเวรนี่ไม่คิดจะป้องกันหรือว่าหลบเลยซักนิดนี่หว่า จะแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวเองหล่ะสินะ....
งั้นก็ได้.....ถ้าแกจะเอาแบบนี้หล่ะก็ ฉันก็จะทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!!!
〝อย่ามาหยามกันน่าเจ้าหมา!!! เอานี่ไปกินก่อนค่อยคิดดูอีกทีเป็นไง...〞
【มัลติไพล์แอตซอลต์】!!!!!
ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว! ฉั๊ว!——————————————
แล้วพอกรตะโกนออกไปแบบนั้น ก็ใช้ดาบที่อยู่ในมือขวากระหน่ำฟันเข้าไปอย่างต่อเนื่องที่บริเวณด้านข้างของลำตัวเคลเบรอสอย่างต่อเนื่องจนแม้แต่ตัวเองก็ไม่ได้พักหายใจเลยแม้แต่น้อย การโจมตีนั่นช่างบ้าคลั่งและรุนแรง ราวกับพายุไต้ฝุ่นโหมกระหน่ำยังไงอย่างงั้น แต่ทว่า....
〖...........อะไรกันเนี่ยเจ้าหนู ไม่เห็นรู้สึกเจ็บหรือคันซักนิดเลยนี่〗
〝!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของกรทั้งหมดนั้น สร้างบาดแผลให้กับเคลเบรอสที่ยืนนิ่งอยู่เหมือนกับปล่อยให้กรโจมตีฝ่ายเดียวนั่นไม่ได้เลยแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กๆด้วยซ้ำ
บะ...บ้าน่า โจมตีไม่เข้าซักนิดเลยเหรอ บ้าชัดๆ เมื่อกี้ฉันโจมตีไปตั้งหลายครั้ง ดาเมจรวมมันต้องเกิน สองล้านหรือสามล้านไปแล้วด้วยซ้ำ
แล้วนี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย รอยขีดข่วนเล็กๆยังไม่มีเลย....เป็นเพราะสกิลงั้นเหรอ หรือว่า.........
ในขณะที่กำลังคิดทบทวนถึงสิ่งที่ตนมองข้ามไป กรก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนได้ลืมทำสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนสู้ไป นั่นก็คือ การตรวจสอบความแข็งแกร่งของศัตรูนั่นเอง เพราะมีเรื่องให้ตกใจบวกกับถูกโจมตีอย่างกระทันเลยทำให้ลืมตรรกะง่ายๆไปเสียสนิท กรที่นึกขึ้นมาได้แบบนั้นก็แทบจะเอากำปั้นเขกหัวตัวเองหลายๆทีในความอ่อนหัดของเขาเองเลยทีเดียว เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงได้ผละออกมาจากเคลเบรอสเป็นระยะห่างมากพอสมควรเพื่อให้มีเวลาตรวจสอบสเตตัส และเมื่อใช้สกิลตรวจสอบดูก็พบกับผลลัพธ์ที่น่าหวาดหวั่นเป็นที่สุดเข้า....
『อัลติเมทเคลเบรอส』 เลเวล 3,500
《พลังโจมตี》 10,323,551 《พลังป้องกัน》 11,951,154
《พลังเวทย์》 12,458,184 《ความต้านทานเวทย์》 12,895,458
《ความว่องไว》 10,895,123 《พละกำลัง》 10,954,125
〝ห๋า!!!!!!!!!?〞
สะ สิบล้านงั้นเรอะ ถึงจะเยอะก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยสิฟ่ะ นี่หน่ะมันมากเกินไปแล้วโว้ยย!!!!!
ให้ตายสิฟะ....งั้นที่โจมตีไม่เข้าเลยเนี่ยเป็นเพราะเจาะพลังป้องกันนั่นไม่ได้เลยงั้นสินะ
บ้าชิบ!!! …..พลังของมันมากกว่าที่คิดไว้ซะอีก แต่จะบ้ารึไง!....ใครมันจะไปคิดหล่ะว่าจะเยอะขนาดนี้ ถึงจะเป็นบอสก็เถอะแต่นี่มันเกินไปแล้วว้อยยย!!!!!!!!
แล้วกรที่บ่นแบบนั้นอยู่ในใจ ก็ไม่ได้รับรู้เลยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของบอสมอนสเตอร์นั้น มีมากกว่าที่กรคาดการณ์ไว้มากโข ก็ต้องมาเสียใจในภายหลังอีกครั้งหนึ่ง
ช่วงหลังมานี้... หลังจากที่เหล่าภรรยาของฉันได้รู้ทุกอย่างและยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นหรือเจอมา จำนวนครั้งที่ฝันร้ายก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใช่ มันไม่ได้หายไปหรอก... ฉันรู้ตัวดี และสัมผัสได้ก็เพราะความกังวลยังมีอยู่นั่นแหละนะแต่ก็ต้องขอบคุณความอ่อนโยนของทุกคน มันถึงไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีพวกเธออยู่เคียงข้าง ฉันเลยไม่ได้กลัวจนสติแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่... ต่อให้ฝันร้ายถึง ‘เรื่องในอดีต’ ฉันก็ไม่ได้กลัวหรือว่าเศร้าอีกแล้วเพราะงั้น... ความรู้สึกปั่นป่วนในอกนี่ จึงใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า กรรู้สึกชื่นชมความใจเย็นของตัวเอง มั่นใจว่าอย่างน้อยมันก็ดีขึ้นกว่าก่อนแน่ ไม่อย่างนั้น... ภาพของชายหาดที่เต็มไปด้วยซากศพรอบกายของเขา คงทำเอารู้สึกผิดจนทรมานตัวสั่นไปแล้วเป็นฝันร้ายที่ไร้รสนิยมซะจริง กรรู้สึกขนลุกจนหน้าเหยเกแม้จะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความคิด ด้วย ‘สุดยอดการประมวลผล’ มันไม่ยากอยู่แล้วที่จะรู้ตัวขณะหลับ ...มันสุดยอดจนถึงกับรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุของการฝัน ชายหาดนี้ไม่ใช่ที่ที่กรรู้จัก แต่จำนวนศพที่มากขนาดนี้ เดาได้เลยว
————สามวันต่อมา, ทวีปอีเดน - ใจกลางเมืองหลวงแอสการ์ด ใจกลางทวีปอีเดนนั้น ปกติแล้วคือสวนอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเทพผู้ปกครอง ซึ่งมีไว้ใช้เพื่อกำหนดทิศทางของสรวงสวรรค์หรือหมายรวมถึงโลกมนุษย์เบื้องล่าง ถนนสายหลักของตระกูลทั้งเจ็ดล้วนแล้วแต่เข้ามาบรรจบ ณ ที่สวนพฤกษานี้ เมื่อไรก็ตามที่มีหัวหน้าตระกูลมาเยือน ทางเข้าของสวนจากถนนเส้นนั้นจะมีมือขวาข้ารับใช้เฝ้าถนนเส้นนั้นไว้เป็นปกติ ...ทว่าในวันนี้กลับแตกต่างเป็นพิเศษ เพราะจำนวนข้ารับใช้ของทั้งหกตระกูลที่มานั้นมีจำนวนกว่าร้อยคน แถมทางเข้าสวนจากถนนแต่ละเส้นยังติดธงประดับตราประจำตระกูลอีก ซ้ำร้าย... ธงที่ว่ายังเป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสงคราม มันเคยถูกใช้ทั้งกับจอมมารในอดีตกาลหรือกับราชาปีศาจในปัจจุบัน นั่นแลคือสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะใจกลางสวนพฤกษา ที่ตั้งของโต๊ะกลมทำจากหินอ่อนซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของเหล่าหัวหน้าตระกูลยกเว้นกาบริเอล สีหน้าทุกคนนั้นอยู่ไม่สุข ทั้งกังวลและโกรธเกรี้ยวบ้าง สับสนบ้าง ...และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็คือกระดาษแผ่นน
หลังจากที่อัพเดทข้อมูลกับเหล่าสหายภาคีโต๊ะจัตุรัส กรก็ต้องกลับไปแต่งชุดเพื่อเข้าพิธีรับมอบรางวัลต่อ เพราะตัวเอกของงานคือพวกกรทั้ง 4 ฝ่าย และมีเหล่าราชาจากอาณาจักรในสังกัดสภาโลกเป็นผู้มอบรางวัล นั่นหมายความว่าเหล่าภรรยาของกรที่เป็นกำลังหลักในการปราบอาร์เคมีดีสก็ต้องร่วมงานรับรางวัลด้วย ไม่สิ... ‘ดาร์คไนท์ซิริอุส’ ที่เป็นกำลังหลักนี่แหละคือตัวเอกหลักของงาน ไม่ร่วมเห็นทีคงจะไม่ได้เพราะงั้นพวกเราก็เลยได้ห้อง VIP ไว้แต่งตัว ต้องขอบคุณแอนดรูว์เลยแหละแล้วระหว่างที่รอสาว ๆ เขาแต่งองค์ทรงเครื่องกัน ฉันก็ไปอัพเดทข้อมูลรอถึงจริง ๆ จะอยู่ในห้องตอนสาว ๆ แต่งตัวได้แบบไม่เป็นไรก็เถอะ (ก็เห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วนี่นา)แต่ในแง่ของความรู้สึก... ขืนจ้องของสวย ๆ งาม ๆ ขนาดนั้นนานเข้า พูดตามตรงว่ามันจะของขึ้นจนไม่เป็นอันทำงานเอาน่ะสิฉันก็รู้นิสัยตัวเองดีอ่ะนะ เลยขอป้องกันไว้ก่อนดีกว่า กรอมยิ้มแห้งกับขีดจำกัดของตัวเองเหมือนทำใจ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เขากับสาว ๆ เช่าพัก“อ๊ะ! กรกลับมาแล้ว!”“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมกร?” มีอากับรินเดินเข้ามารับกรก่อนใคร
หลังจากที่เมอร์ลินบอกว่าเครื่องเคลื่อนย้ายออกแบบเสร็จแล้ว พวกเราก็ทำตัวเอื่อยเฉื่อยกันอีกแปปนึงก่อนจะกลับบ้านพวกเราแจ้งข่าวเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะรินกับอลิซพวกเธอดีใจเข้ามากอดแล้วก็ร้องไห้โฮใหญ่เลยแต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ก็จากบ้านมากตั้ง 5 เดือนแล้วนี่นาไหนจะทั้งคุณลุง คุณน้าที่รออยู่ที่บ้าน... ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอด 17 ปีมันทดแทน 5 เดือนไม่ได้หรอก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้คบกันล่ะนะ)เพราะงั้นจะอยากกลับไปก็คงไม่แปลกเราเองก็เถอะ... ถึงกลับบ้านไปจะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เป็นสถานที่ให้กำเนิดความฝันของเรา ...และเราก็ไม่ได้รังเกียจมันอีกแล้วด้วยเพราะงั้นเราจะกลับไปให้ได้! เครื่องมือมีพร้อมหมดแล้วที่เหลือก็มีแต่การจัดแจงสถานการณ์ ให้กลับไปได้โดยที่โลกเดิมไม่มีปัญหา...แต่เรื่องนั้นแหละที่ยากที่สุด❖❖❖❖❖————สองวันต่อมา, โรงแรมเดอะกลอรี่ ณ สหพันธ์แห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากวันหยุดของกรและครอบครัวสิ้นสุด แผนการขั้นถัดไปของภาคีโต๊ะจัตุรัสก็เสร็จสมบูรณ์ด้วย ...และก็เป็นการเริ่มแผนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น ก
“โดนแกล้งอีกแล้วอ่า!”“น่า ๆ ไม่เป็นไรนะกร”“แล้วจะโทษใครได้ล่ะหืม?” ได้ยินแฟนหนุ่มเดินบ่นกลางป่า มีอากับเมอร์ลินจึงได้ลูบหัวปลอบใจไปคนละกรุบ ...ถึงต้นเหตุจะเป็นเพราะพวกเธออยู่แล้วก็เถอะว่าแต่ นี่เดจาวูป่ะเนี่ย?ไหงรู้สึกเหมือนเรื่องคล้าย ๆ กันเพิ่งเกิดขึ้นเลย“!!!?” ระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระอยู่ มีอากับเมอร์ลินก็เข้ามาควงแขนกรเหมือนกับตอนที่มาถึง กรเลยคิดว่า ‘โอเค ช่างมันละกัน’ แล้วหันไปสนใจกับการเที่ยวลมชมวิวกับภรรยาทั้งสองดีกว่า จากก่อนหน้านี้... หลังจากพักผ่อนในตึกกลางสำหรับติดต่อ พวกกรก็ออกเดินเท้าไปตามทางที่ทำไว้ เห็นว่าหากเดินตามทางนี้จะสามารถชมวิวได้ครบทุกแห่งและวนไปยังกระท่อมที่จองไว้ได้พอดี“กรดูสิ! มีแม่น้ำด้วย!”“ตื้นพอให้ลงไปเล่นได้ด้วยแฮะ” มีอากับเมอร์ลินดูจะสนใจแม่น้ำทางขวาที่ทั้งสามกำลังเดินเลียบผ่าน ความใสของมันทำให้เห็นดินและกรวดก้นแม่น้ำได้ แถมความสูงของมันยังแค่ครึ่งแข้งเอง เรียกว่าเหมาะกับการเล่นสุด ๆ มีอากับเมอร์ลินจึงไม่รอช้า พวกเธอถอดรองเท้าแล้วจูงมือกรลงไปในแม่น้ำ“ไปกันเถอะกร! น่า
หลังจากถ่ายรูปกันอย่างหวานแหวว เวลาก็ยังเหลืออีกนิดหน่อย พวกเราเลยจะไปเดินเล่นกันต่อ...และแน่นอน คุณรินกับอลิซก็ยังคงตามแกล้งฉันเหมือนเดิมช่างใจร้ายเหลือร้าย ตั้งแต่ในโรงหนังแล้วนะ!มาปลุกเร้ากันขนาดนี้ในสถานการณ์ที่ทำได้แค่อดทน นี่มันการทรมานประเภทไหนกันเนี่ย!?เหมือนเอาเนื้อสเต็ก A5 มาจ่อลิ้นแต่ไม่ยอมให้กินเลยนะเฮ้ย!จะทั้งชาลอตกับซาช่าที่ขยันเซอร์วิสให้ตอนช่วงเช้า หรือรินกับอลิซที่มาแกล้งกันทั้งช่วงบ่ายฉันเลยต้องกัดฟันทนน้ำตาไหลเป็นโลหิตไปจนถึงตอนกลางคืนโน่นเลย!พอถึงเวลาหม่ำ ๆ ฉันก็เลยล้างแค้นด้วยการกินพวกเธอเกือบทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอนทำกันยังกับเป็นกระต่ายเลยเชียวล่ะ!...ก็ พอมานึกดู ฉันอาจจะหนักมือไปหน่อยแต่พวกเธอมาแกล้งฉันก่อนนี่หว่า! จะโดนเอาคืนมันก็ไม่แปลกนี่นา!!!เหมือนที่เคยมีใครบางคนพูดไว้นั่นแหละ‘ผู้ที่จะเขมือบได้ก็มีแต่คนที่เตรียมใจจะโดนเขมือบเท่านั้น’ อื้ม ๆ! กรตื่นเช้ามาก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองใหญ่ทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ก็ต้องขอบคุณศึกอันหนักหน่วงเมื่อวานด้วย ความงุ่นง่านในตัวกรเลยลดลงไปมากจนระบบความคิดปกติเริ่มกลับมาทำงาน เขา