Home / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 13 : ความต่างชั้นของพลัง ความรู้สึกของจิตใจ และสวิทซ์

Share

ตอนที่ 13 : ความต่างชั้นของพลัง ความรู้สึกของจิตใจ และสวิทซ์

last update Last Updated: 2025-04-09 11:55:17

〖หึหึ... ดูเหมือนจะรู้ถึงพลังของข้าแล้วสินะเจ้าหนู〗

〝กรอด !!!!!!!!!〞

          และในขณะที่กรกำลังตกใจอย่างสุดขีดกับสเตตัสที่แสดงอยู่ตรงหน้า เคลเบรอสก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ยังสบายๆเช่นเคย แถมน้ำเสียงยังมีอาการดูถูกเล็กน้อยอีกต่างหาก นั่นทำให้กรเริ่มที่จะทนฟังไม่ได้ ทั้งยังโมโหขึ้นมาจนต้องกัดฟันแน่นเลยทีเดียว

เวรเอ๊ย!!!  แบบนี้ก็หมายความว่าถ้าสร้างความเสียหายในการโจมตีแต่ละครั้งได้ไม่ถึง 12 ล้าน ก็จะโจมตีมันไม่เข้าเลยงั้นเหรอ

ไม่สิ... คิดว่าเดิมทีสเตตัสพลังป้องกันไม่น่าจะคำนวณแบบนั้นนี่นา เพราะไอ้ที่สู้ด้วยในตอนที่อยู่จุดหนีนั่น พลังของฉันมีไม่พอที่จะมะลวงพลังป้องกันแน่ๆ แต่ก็ยังโค่นพวกนั้นได้......

กริ๊ง!!!

          แล้วเสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในสติของกร แล้วหน้าต่างนูเมรัลดิสเพลย์ซึ่งเป็นหน้าต่างช่วยคำนวณก็มาปรากฏตรงหน้าของกร พร้อมกับแสดงผลลัพธ์ที่ยิ่งทำให้กรหดหู่ยิ่งกว่าเดิม

【คำเตือน! บอสมอนสเตอร์ข้างหน้ามีระดับสูงเกินไป ไม่สามารถหลบหนีได้!

      ความเป็นไปได้ที่จะหลบหนี คือ 0.000014%  

      ความเป็นไปได้ที่จะชนะในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตรงหน้านั้น คือ 0.00000047%

      สามารถถ่วงเวลาได้นานที่สุด 10 นาที 12 วินาที

      ดาเมจขั้นต่ำที่ใช้สร้างความเสียหายได้ คือ  7,132,458 จุด............. 】

โอ้ว!!!!  รู้ใจกันจริงๆนะเนี่ย...

แต่เดี๋ยวดิ... โอกาสชนะต่ำโคตรเลย  แทบจะหมดหวังเลยไม่ใช่รึไงเนี่ย? แต่ถึงไม่มีนูเมรัลดิสเพลย์ฉันก็ยังพอคิดเองได้อยู่หรอกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้....

แล้วยังยื้อการต่อสู้ได้แค่ 10 นาทีเอง แบบนี้ทางเลือกที่ว่าเอาตัวรอดจนกว่าจะครบ ชั่วโมงครึ่งก็หายไปแล้วอ่ะดิ!?

แล้วดาเมจขั้นต่ำที่ใช้เพื่อสร้างความเสียหายก็มีคำนวณออกมาให้ด้วย ...เป็นอย่างที่คิดจริงๆว่าสเตตัสป้องกันที่แสดงอยู่นั่นไม่ใช่ดาเมจขั้นต่ำที่ต้องใช้จริงๆ....แต่ว่าไอ้ที่เขียนอยู่เนี่ย มันต้องใช้ตั้ง 7 ล้านเชียวนะเฟ้ย แล้วจะเอาอะไรไปสู้กันว่ะเนี่ย!!!

〖แค่เห็นสเตตัสของข้าก็ยืนแข็งทื่อซะแล้วเหรอ....ทั้งที่ยังไม่ได้แสดงเวทย์มนต์กับสกิลให้ได้ชมเลยแท้ๆเชียว...〗

〝วะ...ว่าไงนะ!!!!〞

เวทย์มนต์งั้นเหรอ!?   สกิลงั้นเหรอ!?  จะบ้ารึไงแค่สเตตัสก็กินขาดขนาดนี้แล้วแท้ๆ!!!

แต่ก็นะ......ถ้าเอาจริงๆ ถ้าเกิดมันยังใช้กรงเล็บฟันมาเรื่อยๆฉันก็พอหลบได้อยู่แล้ว เพราะสเตตัสของฉันตอนนี้มันก็เกิน 1 ล้านไปแล้วเหมือนกันนี่นา ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่มีปัญหา

〖ดูเหมือนจะพอรู้แล้วสินะ.....ใช่แล้ว ถึงแม้สเตตัสของเราจะห่างกันมาก แต่เจ้าเองก็มีความสามารถปริศนาที่ข้าไม่เข้าใจอยู่ ทั้งยังทักษะและไหวพริบนั่นอีก  ถึงข้าจะไม่แพ้เจ้า แต่ก็คงชนะเจ้าไม่ได้เช่นกัน...〗

〝อย่ามาอ่านใจกันสิฟะ เจ้าหมานี่!!! แล้วก็อย่าพูดเหมือนกับว่าทำอะไรฉันไม่ได้สิฟ่ะ มันขนลุก!〞

〖เพราะเจ้าแข็งแกร่งยังไงหล่ะเจ้าหนู... เพราะงั้นข้าคงออมมือไม่ได้แล้วหล่ะ...〗

คิดจะประชดกันรึไงฟะเจ้าหมาบ้านี่....

แต่เดี๋ยวดิ... งั้นที่พูดแบบนี้ก็หมายความว่ามันจะเอาจริงแล้วหน่ะสิ!!!

เฮ้ยๆ....ไอ้ตอนแรกเนี่ยก็คิดอยู่หรอกว่าซวยจริงๆแล้ว.....แต่ตอนนี้นี่มันซวยโคตระของความซวยเลยไม่ใช่รึไงวะเนี่ย...

          แม้กรในตอนนี้จะมีแต่ความคิดหดหู่อยู่ในหัว แต่ก็ยังคงอยู่ในท่าเตรียมพร้อมเสมอและยังคงใช้สุดยอดการประมวลผลอย่างต่อเนื่องพร้อมกับลับประสาทสัมผัสให้คมกริบอยู่ตลอด แม้จะคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงคิดหาทางแก้ปัญหาโดยยังคงมีความหวังกับ 0.00000047% นั่นอยู่

〖รับมือซะ ไอ้หนู!!!〗

        ในขณะเดียวกับเคลเบรอสที่พูดแบบนั้นออกมา หนึ่งในหัวของเคลเบรอส นั่นก็คือหัวซ้ายของมันก็ได้อ้าปากออกมาจนเห็นเขี้ยวอันน่าเกรงขามทั้งยังมีขนาดใหญ่นั่นชัดเจน ราวกับต้องการจะกลืนกินกรที่กำลังยืนสับสนอยู่ยังไงอย่างงั้น แล้วจากนั้นเคลเบรอสก็ตะโกนชื่อสกิลนั่นออกมา…..

ตัดสายลม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!】

โฮรกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!  

          หลังจากหัวซ้ายที่กำลังอ้าปากอยู่นั่นส่งเสียงคำรามออกมาด้วยเสียงที่ดังจนถึงขนาดทำให้ทั่วทั้งห้องโถงสั่นไหวอีกครั้งหยุดลง  และแม้จะเป็นการโจมตีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่กรก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรพุ่งเข้ามาทางที่ตนยืนอยู่ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อจากสัญชาตญาน ทั้งยังมีจำนวนเยอะมากอีกต่างหาก เขาจึงไม่รอช้าที่จะหลบการโจมตีเหล่านั้น

〝เวรแล้วไหมหล่ะ!!!【เคลื่อนไหวความเร็วแสง!!!!!!!!】〞

          แล้วกรก็พุ่งหลบการโจมตีที่มองไม่เห็นนั่นไปทางขวาได้อย่างฉิวเฉียดเช่นเคย แต่ทว่า....

ฉั๊ว!!!  ฉั๊ว!!!  ฉั๊ว!!!

〝อึก!!!〞

ตุ๊บ!!!

          แล้วกรก็โดนการโจมตีปริศนานั่นเข้าไปถึงสามครั้งเต็มๆที่สีข้างด้านซ้ายที่นึง ลำตัวด้านหน้าและหลังอย่างละที่เข้าไป การโจมตีนั่นสร้างบาดแผลลึกกว่า 3 เซนติเมตรให้กับจุดที่โดนเลยทีเดียว เห็นชัดเลยว่าถ้ากรไม่มีสเตตัสมากมายแบบนี้ ตัวเขาคงแหลกเป็นชิ้นๆจากการโจมตีปริศนานี่ไปแล้ว แล้วการโจมตีนั่นก็ทำให้กรที่กำลังอยู่ในท่าพุ่งตัวเสียจังหวะจนล้มลงจนกลิ้งไปกับพื้นเลยทีเดียว

〝บะ บ้าหน่ะ!!! ก็ฉันหลบมันไปแล้วนี่นา!!!〞

〖น่าเสียดายนะไอ้หนู เพราะว่าสกิล『ตัดสายลม』ของข้านั้นสามารถติดตามเป้าหมายได้ ทั้งยังสามารถกลบร่องรอยได้อย่างสมบูรณ์อีก〗

〝!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〞

บ้าหน่ะ!!!!! …..ติดตามเป้าหมายได้ด้วยงั้นเหรอ!!!

แถมยังตรวจจับร่องรอยไม่ได้อีก งั้นที่สัมผัสการเสียดสีกับอากาศไม่ได้เป็นเพราะงี้เองสินะ

เวรเอ้ย... มีสกิลโคตรโกงแบบนี้อยู่ด้วยงั้นเหรอ?  แต่เวลาในตอนนี้มันไม่มีไว้ให้หาสกิลอื่นมาสู้แล้วนะสิ!!!  รู้งี้หาสกิลโกงๆมาใส่ไว้บ้างดีกว่า อยากเขกกะโหลกตัวเองที่ติดประมาทชะมัด!

แถมสกิลที่ได้มาตอนเปลี่ยนอาชีพเป็น『นักลอบสังหาร』เองก็ใช้ไม่ได้กับสิ่งที่มีระดับใกล้เคียง เท่ากับหรือว่าสูงกว่าตัวเองได้เลย.....

〝เวรเอ๊ย!!!  แล้วทำไมฉันถึงโดนการโจมตีแค่ 3 ครั้งเองหล่ะฟะ!!!!〞

〖สงสัยต่อไปเหอะไอ้เด็กบ้า...ข้าไม่บอกแกหรอก!!! ห๊ะห๊ะห้า〗

〝กรอด!!!! อย่ามากวนประสาทน่า!!!!〞

          เพราะถูกตอกกลับด้วยคำพูดแบบเดียวกับที่เคยพูดไป เลยทำให้กรหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่เพราะบาดแผลที่ได้รับจากสกิลนั่นค่อนข้างสาหัสเอาการ เลยทำให้กรไม่มีแม้แต่แรงจะตะโกนเลยด้วยซ้ำแต่กรเองก็รู้ว่าหากปล่อยให้อาการแย่ลงก็มีแต่จะเพิ่มความเสี่ยงในการต่อสู้มากเท่านั้น จึงไม่รอช้าที่จะใช้เวทย์รักษากับตัวเอง

ทไวไลท์ฮีลลิ่ง!!!!!!!】

          หลังจากที่กรพูดแบบนั้นก็มีแสงสีส้มคล้ายกับพระอาทิตย์ยามเย็นก่อนตกดินเข้าโอบล้อมตัวกรแล้วบาดแผลทั้งหมดก็เริ่มสมานตัวและปิดสนิทอย่างรวดเร็วในเวลาแค่ 3 วินาทีเท่านั้นเอง แม้ปกติเวทย์รักษาจะต้องใช้เวลานานมาก แต่เพราะสเตตัสพลังเวทย์ของกรนั้นมีมากเกิน 1 ล้านไปแล้ว นั่นจึงช่วยให้เวลาใช้สกิลในระดับที่ต่ำกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าที่ควรเป็นนั่นเอง

〖โอ้ว!!!  น่าตกใจยิ่งนักเจ้าหนู!  แกเป็นนักดาบไม่ใช่รึ?  แต่กลับสามารถใช้เวทย์รักษาได้ถึงระดับกลางเชียวรึนี่....〗

〝เรื่องของฉันน่า!!!!!〞

〖งั้นเหรอ!!!  แกนี่แข็งแกร่งอย่างที่ข้าคิดไว้เลย มันต้องให้ได้แบบนี้สิ......〗

นี่คิดจะหยามกันรึไงฟะ... ตอนที่รักษานั่นก็อีกทั้งที่จะโจมตีเข้ามาก็ได้แท้ๆแต่กลับไม่ทำ

แถมยังพูดจากวนประสาทฉันอีกต่างหาก…..

〖ถ้างั้น  ต่อไปก็......〗

          ในขณะที่เคลเบรอสพูดแบบนั้นปากของหัวที่อยู่ตรงกลางก็อ้าขึ้นมากว้างแบบเดียวกับตอนที่หัวซ้ายเตรียมใช้สกิล นั่นเลยทำให้กรกลับมาระวังตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งเตรียมที่จะถีบพื้นดีดตัวหลบได้ในทันทีอีกต่างหาก  แล้วจากนั้น....

กรดเดือดหลอมละลาย!!!!!!】

พรวด!!!!!

〝!!!!!!!!!?〞

          หลังจากที่พูดชื่อสกิลจบ ที่ปากของหัวตรงกลางก็มีของเหลวสีเขียวอ่อนเป็นเนื้อเดียวทั้งหมด พุ่งออกมาครอบคลุมพื้นที่เหนือหัวของกรเป็นวงกว้างเหมือนกับโดมของสนามกีฬาในร่มเลยทีเดียว

ฟิ้ว!!!!!

          แต่กรที่ตั้งท่าเตรียมหลบหลีกอยู่ก่อนก็พุ่งตัวไปข้างหน้าโดยเว้นระยะไม่ให้ใกล้กับเคลเบรอสก็หลบได้อย่างสวยงาม ขณะที่คิดว่าเจ้าสกิลนี้มันมีไว้ทำไมอยู่นั้น ก็เหลือบตาหันกลับไปมองยังที่ๆตัวเองเคยอยู่  แล้วก็พบกับภาพที่น่าเหลือเชื่อเข้า...

ฉ่าาาา!!!!!

〝เฮ้ยๆ....เอาจริงเหรอเนี่ย!?〞        

          ภาพที่อยู่ตรงหน้าของกรก็คือ ของเหลวสีเขียวอ่อนนั่นกำลังย่อยสลายพื้นที่ที่กรเคยเหยียบอยู่นั่น ทั้งยังทำให้พื้นทั้งหมดกลายเป็นควันลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ และเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า พื้นของห้องโถงที่มีความทนทานขนาดการโจมตีของเคลเบรอสยังทำอะไรไม่ได้ เมื่อโดนของเหลวนั่นเข้าไปก็ถึงกับหลอมละลายไปอย่างรวดเร็วแล้วนั้นก็ทำให้กรต้องตัวสั่นเทิ้มอีกครั้ง

〖ยังหรอกน่าไอ้หนู  ทีเด็ดหน่ะต่อจากนี้ไปต่างหาก......〗

          และไม่ทันให้กรได้พักหายใจ หัวสุดท้ายซึ่งก็คือหัวทางขวาก็เตรียมใช้สกิลสุดท้าย กรที่เห็นแบบนั้นก็ถอยร่นไปทางด้านหลังเยื้องไปทางซ้ายเพื่อเว้นระยะห่างจากเคลเบรอสให้มากขึ้น

เพลิงทมิฬ!!!!!!!!!!!!!!!!】

ซู่ม!!!!!

          หลังจากที่เอ่ยชื่อสกิลเสร็จก็มีเปลวเพลิงสีดำสนิทจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากทั่วทั้งร่างของเคลเบรอส และแค่นั้นยังไม่พอมันยังเข้าไปโอบล้อมบริเวณที่กรยืนอยู่อย่างรวดเร็วอีกต่างหาก แล้วจากนั้นก็มีเปลวเพลิงขนาดใหญ่เป็นทางยาวพวยพุ่งเข้ามาทางกรจากปากที่กำลังอ้าอยู่ของหัวขวาสุดของเคลเบรอส

ฟุ่บ!!!!!

〖!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〗

          แต่กรก็ไม่รอช้า ในขณะที่เปลวเพลิงกำลังพุ่งเข้ามาเป็นทางยาวจากปากของเคลเบรอส กรก็ยื่นมือซ้ายที่มีความสามารถในการ『ดูดซับทุกสิ่ง』อยู่ออกมา  เพราะเป็นการกระทำอันแปลกประหลาดที่ยากจะเข้าใจ หนนี้จึงเป็นเคลเบรอสที่ต้องตกใจกับท่าทางของกรเสียเอง ส่วนกรเองนั้นก็คิดว่าหากเอาแต่หลบไปแบบนี้ยังไงก็เอาตัวรอดไม่ได้อยู่แล้ว อย่างน้อยจึงควรโต้กลับไปบ้างในสิ่งที่พอทำได้ เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรจะให้เสียอีกแล้ว กรจึงได้เลือกทางที่คิดว่าจะพอโต้กลับได้บ้าง นั่นก็คือการกลืนกินพลังเวทย์ของบอสมอนสเตอร์มานั่นเอง แต่ความจริงมันกลับไม่ได้ง่ายดายแบบนั้น.........

〝อะ อะไรกันเนี่ย〞

          นั่นก็เพราะเปลวเพลิงนั่นกรไม่สามารถดูดกลืนเข้ามาได้ทั้งหมดนั่นเอง แม้ส่วนเกินจะไม่เข้าปะทะกับกรโดยตรงเพราะกระจายออกไปด้านข้างก็ตามที แต่ก็ยังคงมีแรงกระแทกอยู่มากเช่นกัน และยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากที่กรดูดกลืนมาไม่หมด  กรจึงตัดสินใจหาจังหวะเพื่อหลบเปลวเพลิงนั่นเสียดีกว่า แต่พอกรออกมาจากการปะทะได้นั้น เปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามานั่นกลับเข้าโอบล้อมตัวกรอย่างรวดเร็วจนกรหลบไม่พ้น เนื่องด้วยพื้นที่ๆที่มีจำกัดกับเรี่ยวแรงเองก็เริ่มหมดลงไปแล้วด้วย นั่นเลยทำให้กรโดนเปลวเพลิงนั่นเข้าไปเต็มๆ

〝อ้ากกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ร้อนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          แล้วกรก็ล้มลงในท่าคุกเข่าพลางร้องโหยหวนออกมาเพราะอาการปวดแสบปวดร้อนจากการถูกเปลวเพลิงที่มีความร้อนสูงเข้าโจมตี แต่เปลวเพลิงนั่นก็ห้อมล้อมตัวกรได้เพียง 20 วินาทีเท่านั้น นั่นก็เพราะแม้จะไม่ตั้งใจ แต่สกิล『ดูดซับทุกสิ่ง』นั้น ยังคงทำงานอยู่นั่นเอง

แฮ่ก!!!  แฮ่ก!!!  แฮ่ก!!!  แฮ่ก!!!  แฮ่ก!!!  แฮ่ก!!! 

        แล้วกรก็นั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นพลางหายใจหอบออกมาอย่างแรง และในขณะที่ทั้งตัวเต็มไปด้วยแผลไหม้จากความร้อน กรจึงได้รีบใช้เวทย์รักษาในทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา แต่ทว่า....

〝ทะ ทำไม!? เวทย์รักษาถึงใช้ไม่ได้ผลกัน!?〞

          เพราะเวทย์ที่กรใช้นั้นไม่สามารถรักษาแผลไหม้ได้ ไม่สิ...มันบรรเทาความเจ็บปวดจากอาการปวดแสบปวดร้อนนี้ไม่ได้เลยซักนิด จึงทำให้กรสงสัยขึ้นมาอย่างหนัก

ตึง! 

ตึง! 

ตึง! 

〖โอ๊ะโอ๋...ข้าลืมบอกไปเสียสนิท… ว่า『เพลิงทมิฬ』ของข้านั้น สามารถทำให้ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายติดสถานะผิดปกติได้หนึ่งอย่างตามที่ต้องการ...จะบอกให้เอาบุญก็ได้ ว่าข้าทำให้เจ้าติดสถานะ『ฟื้นฟูไม่ได้』หน่ะ〗

〝วะ ว่ายังไงนะ!!!!〞

          เสียงของฝีเท้าที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆเนื่องจากเคลเบรอสเดินเข้ามาประชิดตัวของกรที่กำลังหายใจหอบอยู่ก็ยังคงท่าทีไม่ทุกข์ร้อนเช่นเคย ทั้งน้ำเสียงที่พูดทำลายความหวังอันริบหรี่ของกรออกมาแบบนั้นก็มีความหน่ายปนอยู่เช่นกัน แม้กรจะไม่สบอารมณ์แต่ตัวเขาก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย นั่นเลยทำให้เขาเจ็บใจเข้าไปใหญ่

〖น่าเสียดายยิ่งนักเจ้าหนู ....เจ้าหน่ะแข็งแกร่ง  แต่ว่าความแข็งแกร่งนั่นก็ไม่เพียงพอที่จะล้มข้าได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะ.....〗

〝อึก!!!!!!!〞

〖ถึงข้าจะรู้สึกเห็นใจก็เถอะนะ... แต่ข้าคงเอาความรู้สึกตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วละทิ้งหน้าที่ไม่ได้หรอก....เพราะงั้นข้าคงต้องปิดฉากการต่อสู้นี้เสียแล้วหล่ะ...〗

〝!!!!!!!!!!!!?〞

แย่แล้วคราวนี้แย่ของแท้เลยหล่ะ...

เวรแล้วไง! ทำไงดีหล่ะทีนี้  ทางหนีถูกปิดตายทั้งหมดเลย....ไม่มีทางหนีรอดเลยซักนิด  ถ้าเป็นข้างนอกก็ว่าไปอย่าง แต่ที่เราอยู่มันเป็นห้องโถงปิดตายไร้ทางออก———

〖..ขอบใจมากจริงๆเจ้าหนู  ...แกทำให้ข้าประหลาดใจได้หลายครั้งทีเดียว....... 〗

          เพราะกำลังอยู่ในสถานการณ์คับขันถึงขีดสุดเลยทำให้ความคิดของกรเริ่มจะไม่ปะติดปะต่อกันเสียแล้ว แต่เพราะเคลเบรอสพูดออกมาแบบนั้น เลยทำให้กรดึงสติของตัวเองกลับมาเผชิญกับความเป็นจริงตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง

〖งั้นก็......ลาก่อน〗

ตัดสายลม!!!!】

ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!   ฟิ้ว!!!

〝คะ 【เคลื่อนไหวความเร็วแสง!!!!!!!!】〞

          และเหมือนครั้งที่แล้ว หัวซ้ายของเคลเบรอสก็อ้าปากออกมาในขณะที่ประกาศใช้สกิล และสายลมจำนวนมากก็พุ่งตรงมายังที่ๆกรนั่งอยู่นั่น แต่กรก็ยังใช้แรงที่เหลือในการลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและถีบพื้นออกไปทางด้านขวาของตน

ฉั๊ว!!!  ฉั๊ว!!!  

〝อ้ากกกกกก!!!!!!!〞

          แต่แม้จะหลบพ้นทั้งหมด กรก็ยังคงโดนการโจมตีปริศนาเข้าไปจังๆถึง 2 ทีอยู่ดี ทั้งที่บริเวณขาซ้ายและบริเวณกระดูกสะบักด้านซ้าย การโจมตีนั่นทำให้กรได้รับบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว และในขณะที่กรกำลังพุ่งตัวไปกำลังโดนการโจมตีนั่นจนลอยอยู่กลางอากาศอยู่นั้น

ตึง!  ตึง!  ตึง!  ตึง!  ตึง! 

ตู้ม!!!!!!!!

〝อั๊กกกก!!!!!!!〞

          เคลเบรอสก็ไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดลอย มันวิ่งตรงเข้ามาในขณะที่กรลอยคว้างอยู่ในอากาศอย่างรวดเร็ว และก็ใช้หัวทั้ง 3 กระแทกเข้าไปที่ตัวกร แม้จะเป็นการโจมตีที่ไม่ใช้สกิลเลยก็ตาม แต่นั่นเพราะสเตตัสที่มีมากกว่า 10 ล้านนั่น เลยทำให้การโจมตีจังๆโดยตรงเพียงครั้งเดียวนั่น เป็นการโจมตีที่รุนแรงถึงขนาดทำให้ตายในทันทีได้เลย แถมการกระแทกนั่นยังทำให้อาวุธเพียงหนึ่งเดียวของกรแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกต่างหาก แต่ที่แย่กว่านั้นก็คือการพุ่งของมันยังไม่จบ เพราะมันยังคงพุ่งต่อไปจนกระทั่งพากรที่กำลังถูกชนอยู่อัดเข้าไปที่ผนังของห้องโถงอีกต่างหาก นั่นเลยทำให้กรถึงกับกระอักเลือดออกมาเลยทีเดียว แล้วพอเคลเบรอสผละออกมา กรที่โดนอัดจนตัวติดผนังก็ค่อยๆร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงลงมาที่พื้น

ยะ แย่แล้ว

มองไม่เห็นทางรอดเลยซักนิด….อีแบบนี้ไม่รอดแหงๆ  นี่ตูจะตายอีกแล้วงั้นเหรอเนี่ย

ทั้งที่ตัดสินใจแล้วว่าจะมีชีวิตรอดด้วยตัวเองแล้วแท้ๆ...แต่นี่มันยังไม่เริ่มเลยไมใช่รึไงกัน!

บ้าชะมัด....อยากฆ่าตัวเองทิ้งซะจริง เรานี่มันไม่ได้เรื่องเลย!!!! 

ถ้าคิดดีๆก็น่าจะรู้ไม่ใช่รึไงว่ามันเป็นห้องบอสหน่ะ! แล้วก็ต้องคิดที่จะเตรียมแผนรับมือไว้ก่อนด้วย!!!

เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยประมาทง่ายๆได้ซักทีวะ

เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยคิดเข้าข้างตัวเองซักทีวะ!!!

เวรเอ้ย!!! ...อ่อนหัด แกมันอ่อนหัดจริงๆ อุษณกร!!!

แค่ได้พลังโกงๆมานิดหน่อยใช่ว่าจะแข็งแกร่งจนสู้ได้กับทุกอย่างซะหน่อย  ...ฉันนี่มันหย่อนยานจริง!!!!  ไม่ได้มีการวางแผนรับมือล่วงหน้าหรือหาทางหนีทีไล่ไว้เลย เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่แพ้นั่นแหล่ะ ปัดโถ่ว้อยยยย!!!!!!!

ตึง!  ตึง!  ตึง!  ตึง! 

          ในขณะเดียวกับที่กรมีความคิดมากมายพรั่งพรูออกมาเพราะรู้สึกได้ถึงความตายอันน่าหวาดหวั่นนั่นอีกครั้งอยู่นั้น เคลเบรอสก็เดินออกไปในทิศตรงข้ามของกร ราวกับจะบอกว่าการต่อสู้ได้จบสิ้นลงแล้วพร้อมกับพูดประโยคนึงขึ้นมา

〖ลาก่อน.... อย่าโกรธเคืองข้าเลยหล่ะ......〗

〖...เพราะว่าเจ้ามัน อ่อนแอเกินกว่าจะสู้ด้วยตัวคนเดียว นั่นแหละ! 〗

〝..................〞

ตึง!  ตึง!  ตึง!  ตึง! 

          กรที่ได้ยินคำพูดเชิงดูถูกนั่นเข้าไปแต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย นั่นเลยทำให้เคลเบรอสคิดว่ากรได้หมดใจสู้และได้ทิ้งความหวังที่จะมีชีวิตรอดไปแล้ว จึงเดินต่อไปยังทิศทางตรงข้ามของกรอย่างไม่ลังเลอีก แต่ทว่า.....

แกร็ก!!!

〖!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!?〗

          แต่เพราะมีเสียงดังขึ้นมาเล็กน้อยในทิศทางที่กรนอนอยู่ เคลเบรอสที่คิดว่ากรได้แน่นิ่งไปแล้วจึงเกิดอากาศตกใจเล็กน้อย นั่นเพราะคิดว่าการโจมตีอย่างต่อเนื่องของตนไม่มีทางที่กรจะรอดได้ก็ด้วย และถึงจะยังมีสติแต่ต้องไม่มีแรงที่จะขยับได้แล้วแน่นอน เคลเบรอสจึงหันหน้ากลับไปดูอย่างรวดเร็วราวกับจะสะบัดหน้าไปมองยังไงอย่างงั้น แต่ทว่า.....

ตู้ม!!!!!!!!

〖อ๊อกกกกกก!!!!    อะ อะไรกันนน!!!!!?〗         

          แล้วเคลเบรอสที่ยังหันหน้ากลับไปมองได้ยังไม่ถึงครึ่งก็ถูกการโจมตีปริศนาเข้าอย่างกระทันหันเข้าไปที่ใบหน้าของตัวที่อยู่ด้านซ้ายอย่างจัง การโจมตีนั่นหนักหน่วงมากถึงมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยพบเคยเจอมาเลยทีเดียว นั่นทำให้เคลเบรอสตกใจและได้รับความเสียหายอย่างมาก จนถึงกับกระอักออกมาเลยทีเดียว

ฟิ้ว!!!!

ตู้ม!!!!!!!!

          และเพราะการโจมตีปริศนาที่สุดแสนจะรุนแรงนั่น ทำให้เคลเบอรอสที่ถูกการโจมตีนั่นเข้าอย่างจังถึงกับลอยกระเด็นไปอย่างรวดเร็วจนไปกระแทกเข้ากับประตูทางเข้าของห้องบอสเลยทีเดียว และแม้ประตูนั่นจะไม่เกิดรอยร้าวขึ้นมาก็ตาม แต่ก็ทำให้เคลเบรอสบาดเจ็บหนักได้พอสมควรเลยทีเดียว เพราะเพิ่งจะเคยโดนการโจมตีกระทันหันที่ไม่ทันได้ตั้งตัว แถมการโจมตีนั่นยังสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ เคลเบรอสจึงรีบหาต้นเหตุของการโจมตีนั้นทันที

ซู่มมมม!!!!!!!!!!

〖จะ....เจ้า!!!!!!!!!!?〗

          และที่กำลังยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเคลเบรอสก่อนที่จะถูกโจมตีนั่นก็คือ กรที่อยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยฟันและไฟไหม้เต็มตัว กำลังอยู่ในท่ายื่นหมัดขวาที่มีควันพวยพุ่งออกมาจากการที่เข้าโจมตีเคลเบรอสด้วยความเร็วที่สุดยอดนั่น กำลังเล็งมามาทางเคลเบรอสนั่นเอง ดูจากท่าทางนั่นก็รู้ได้เลยว่าการโจมตีอันรุนแรงนั่นของกรมาจากการใช้หมัดล้วนๆ ดูจากสภาพบาดแผลภายนอกแล้วเขาไม่น่าจะยืนขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ แต่ที่น่าตกใจมันไม่ใช่แค่นั้น นั่นก็เพราะ รอบตัวของกร มีออร่าสีทองส่องประกายงดงามกำลังโอบล้อมร่างกายของกรนั่นอยู่ต่างหากที่น่าตกใจยิ่งกว่า

〝ถูกอย่างที่แกพูด....เคลเบรอส......ตัวฉันนั้นอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียว....

     แต่นั่น......คือขีดจำกัดทางความคิดของแกไม่ใช่ฉัน!! ที่ฉันยังอ่อนแอหน่ะ

     เป็นเพราะมัวแต่ยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเพราะใช้ความรู้สึกและอารมณ์เป็นที่ตั้งต่างหาก.....〞

ใช่แล้ว......ความรู้สึกหน่ะเป็นสิ่งที่ทิ้งไปไม่ได้ซักหน่อย... ต่อให้มันเป็นสิ่งที่สร้างความทรนงจนเหลิงและความประมาทให้กับตัวเองจนนำไปสู่ความตายเหมือนตอนนี้ก็ตาม

นั่นเพราะถ้าทำแบบนั้นไป ก็จะสูญเสียความเป็นตัวเอง..... สูญเสียความเป็นมนุษย์ไปหน่ะสิ เรื่องแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก...

คำถาม...... งั้นจะจัดการกับความรู้สึกที่มาขัดแข้งขัดขานี่ยังไงดี?

คำตอบมันก็ง่ายๆ....

แปร๊ก!!!!!!

          แล้วเสียงที่เหมือนกับสวิทซ์ไฟที่ได้ถูกปิดลงอย่างแรง ก็ดังขึ้นในสติของกร

〝….เพราะงั้น.....ก็แค่ปิดมันลงซะก็พอ  สวิทซ์ที่ใช้บงการความรู้สึกทั้งหมดนั่นหน่ะ!〞

          กรที่พูดแบบนั้นทำสายตาที่เฉียบคมพร้อมกับจิตสังหารอันรุนแรงที่ตนก็ยังไม่รู้เลยว่าเอามาจากไหน ส่งไปยังเคลเบรอสที่ยังคงนอนอยู่เพราะการโจมตีด้วยหมัดลุ่นๆของกร ความกดดันที่รุนแรงนั่นทำให้เคลเบรอสกระตุกไปชั่วขณะนึงเลยทีเดียว เคลเบรอสจึงจ้องกลับไปด้วยแรงกดดันอันมหาศาลเสียยิ่งกว่าตอนแรก แต่กรที่จ้องสายตาของเคลเบรอสนั่นกลับตรงๆก็ไม่ได้มีอาการหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เคลเบรอสที่มองไปในดวงตาของกร ที่ตอนนี้มืดสนิทไร้ซึ่งแสง ไม่มีสิ่งใดสะท้อนออกมาราวกับหลุมดำที่จะดูดกลืนผู้ที่จ้องมองให้ตกสู่ห้วงแห่งความหวาดกลัวได้เลยทีเดียว

〖เจ้าหนู!!!!  เจ้าเป็นใครกันแน่!!!!?〗

          เสียงของเคลเบรอสนั้นสั่นเล็กน้อย เพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า กับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของกรโดยสิ้นเชิง รวมถึงออร่าสีทองที่โอบล้อมกรอยู่ด้วยเช่นกัน ก็เลยถามออกไปแบบนั้นโดยไม่กังวลเรื่องศักดิ์ศรีเลยแม้แต่น้อย  

ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!  ตึก!

          แล้วพอเคลเบรอสถามออกมาแบบนั้น กรก็เดินเข้ามาทางเคลเบรอสด้วยท่าทางสบายๆ โดยที่ไม่สนเลยว่าสภาพร่างกายของตัวเองบอบช้ำขนาดไหน ราวกับจะเยาะเย้ยเคลเบรอสในตอนแรกยังไงอย่างงั้น แล้วก็ตอบกลับเคลเบรอสออกไปด้วยเสียงโทนเดียวที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ

〝คนที่จะอัดแกให้หมอบ.....ยังไงหล่ะ!〞

        

          แล้วกรก็ตอบกลับเคลเบรอสออกไปด้วยคำพูดที่แสนเย็นชาและแววตาอันว่างเปล่าอย่างที่สุดนั้น ทำให้คราวนี้เคลเบรอสเริ่มที่จะเป็นฝ่ายหวาดกลัวกรขึ้นมาจริงๆเสียแล้ว สาเหตหนึ่งนั่นเป็นเพราะใบหน้าของกรที่พูดแบบนั้นออกมามีรอยยิ้มอันแสนชั่วร้ายแสยะออกมาอย่างน่ากลัว แต่เรื่องนี้เจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 14 : การต่อสู้อันแสนดุเดือดและผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย

    เวรเอ๊ย!!!......บัดซบ!!!ขยับซักทีสิฟ่ะ! แกเป็นร่างกายของฉันไม่ใช่รึไงกัน!!! เพราะโดนการโจมตีอันแสนหนักหน่วงของเคลเบรอสไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กรในตอนนี้ไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่เคลเบรอสเดินออกไปทางตรงข้ามเหมือนกับว่าหมดความสนใจในตัวกร กรจึงทำได้แค่หงุดหงิดอยู่ในใจเพียงเท่านั้นขยับ.....ขยับสิโว้ยยย!!!!!!บ้าเอ๊ย!!! แบบนี้มันก็เหมือนกับตอนนั้นเลยไม่ใช่รึไงกัน!!!ทำได้แค่จมอยู่กับความอัปยศของตัวเองอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....ทำได้แค่ทนดูไอ้บ้านั่นมันหยามหน้าอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....ทำได้แค่นอนรอความตายอยู่ตรงนี้งั้นเหรอ.....คิดว่าจะยอมรึไงกัน!.....อุตส่าห์ฟื้นขึ้นมาจากความตายนั่นได้แล้วแท้ๆเชียว!หลังจากผ่านเรื่องแบบนั้นมาแล้ว ใครมันจะไปอยากตายกันว่ะ!!!เวรเอ๊ย!!ขยับซิฟ่ะ!...ขยับซักทีสิโว้ยยย!!!!!! แน่นอนว่ากรยังไม่ยอมแพ้ซักนิดเดียว แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายกลับมาทำตามคำสั่งแต่อย่างใด กรจึงทำได้แค่ตะโกนด่าทอตัวเองอยู่ในใจเท่านั้นเอง แต่ในขณะที่กรกำลังตะโกนแบบนั้นในใจอยู่เรื่อยๆนั้น ก็มีเสียงประกาศที่ไม่ทราบเพศดังขึ้นในสติของกร【เงื่อนไขเสร็จ

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 15 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2 ตอนแรก

    อืม.........ฉันสลบไปอีกแล้วงั้นเหรอ? หลังจากที่การต่อสู้อันดุเดือดของกรและเคลเบรอสที่ใช้ศักดิ์ศรีและชีวิตเข้าห่ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งได้จบสิ้นลง กรก็ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย แต่พอใช้สุดยอดการประมวลผลตรวจสอบดูกลับพบว่าตัวเองที่เพิ่งได้สติ อาจจะกำลังสลบอยู่จนถึงเมื่อครู่ จึงได้สงสัยขึ้นมาแบบนั้นอืม.....ลองนึกย้อนไปก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าเราจะใช้『จิตวิญญานเหล็กกล้า』ไปสินะ.....งั้นก็หมายความว่าตัวเรา.....ตายไปอีกแล้วสินะ....ไม่สิ ไม่สิ ตอนนี้ยังรู้สึกถึงร่างกายได้อยู่เสียงเต้นของหัวใจเองก็ยังได้ยินอยู่เลยแล้วมันหมายความว่าไงกันละเนี่ย!ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกสกิลนั่นจะเขียนไว้ว่า หลังจากใช้ไปแล้วจะเสียชีวิตแทบจะทันที ไม่ใช่รึไง? นี่มันเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะเนี่ย....แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆละก็... ตัวฉันเนี่ยก็สุดยอดสุดๆเลยนะสิ... ฟื้นจากความตายมาได้ถึง 2 ครั้ง แถมยังแทบจะในเวลาไล่เลี่ยกันอีก ไม่สิ....ที่ตายบ่อยเนี่ยก็เพราะอ่อนเองด้วยนั่นแหล่ะนะ น่ากลัวชะมัดเลยแฮะ....ใช่ หมายถึงตัวฉันเองนั่นแหล่ะ...แต่ใช่ว่าผลลัพธ์ออกมาแบบนี้แล้วจะไม่ดีใจหรอกนะ ก็แค่สงสัยนิดหน่อยเท่านั้นเอง....แต่ทั

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 16 : ความโกงต่อเนื่องที่มาพร้อมกับการเกิดใหม่ครั้งที่ 2  ตอนจบ

    แปล๊บๆๆๆ!!!!!!!〝จ๊ากกกกกก!!!!!!!!!!〞 หลังจากที่กรได้หลั่งน้ำตาออกมาเพราะความรู้สึกหลายๆอย่างที่สั่งสมมานาน จากทั้งแรงกดดันและความเครียดทั้งหลายที่สะสมมามากเสียจนทะลุปรอทได้จบลง จู่ๆกรก็สัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านไปทั่วร่างตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกระทันหันจนถึงกับล้มลงไปนอนกับพื้นในท่าหงายท้องมองดูดาวเลยทีเดียว ทั้งยังเกิดควันสีดำคลุ้งออกมาจากร่างจนทั่วเลยทีเดียว รวมทั้งผมยาวๆของตัวกรเองก็ยังตั้งฟูเป็นผมทรงแอ็ฟโฟร่ฟูฟ่องอย่างหนาเพราะกระแสไฟฟ้าที่ว่าไปพร้อมๆกันจนดูน่าขบขันไม่ใช่น้อย นั่นเลยทำให้ตัวของกรชาไปหมดแล้วก็ล้มลงไปกองกับพื้นตามระเบียบอึ๊ก! อะไรกันเนี่ย.... หลังจากที่ต้องรับภาระทางจิตใจที่มากเสียยิ่งกว่ามากจนล้นออกมาแล้ว ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกงั้นเหรอ!? นี่มันจะเกินไปแล้วนะเฮ้ย!!!ยะ...อย่าบอกนะว่านี่เป็นผลข้างเคียงของสกิล หรือไม่ก็เป็นบทลงโทษของคนที่ใช้โปรแกรมโกง———เดี๋ยวๆๆๆ....ฉันไม่ได้ใช้โปรแกรมโกงหรือชีตทูล(Cheat Tool) หรืออะไรเทือกๆนั้นซักกะนิดเดียว...ถ้าจะโทษก็ไปโทษไอ้คนที่จัดสกิลมาให้ฉันซะสิ....แต่เดี๋ยวดิ แล้วคนที่จัดมันเป็นใครหว่า!?แล้วนี่

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 17 :  ความปรารถนาของเคลเบรอสและการต่อสู้ในชั้นที่ 26

    〝สะ....สุดยอด! นี่มันสวยกว่าที่คิดไว้ซะอีกนะเนี่ย!〞 หลังจากที่กรใช้เวลาพอสมควรในการลงบันไดมายังชั้นที่ 26 ตามคำแนะนำของเคลเบรอส ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของกรที่ยืนอยู่ตรงปากทางออกก็คือ บริเวณทางเดินที่ถูกเชื่อมต่อไปยังบริเวณที่คล้ายกับถ้ำใต้ดินซึ่งมีส่วนประกอบทั้งหมดเป็นหินสีน้ำตาลเข้ม ผิวขรุขระตลอดแนวไปจนสุดสายตาดังที่เห็นได้บ่อยๆในสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในภูเขา แต่ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ บริเวณพื้นผิวของถ้ำทั้งหมดนั้นมีจุดสีฟ้าเล็กๆเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ทั่วบริเวณถ้ำเสียไปทั่วบริเวณที่กรมองไปถึง และแม้จะไม่มีแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในพื้นที่ปิดตายนี้แต่อย่างใด แต่จุดเล็กๆทั้งหลายนั้นกลับยังสะท้อนแสงและกระพริบไปมาเป็นจังหวะอย่างสวยงาม และด้วยความที่เพดานของถ้ำนั้นสูงกว่าพื้นดิน 5 เมตร นั่นเลยทำให้จุดสีฟ้าจำนวนมหาศาลที่กำลังส่องประกายระยิบระยับบนเพดานถ้ำเหล่านี้คล้ายกับท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ปราศจากการบดบังของก้อนเมฆจนเห็นดวงดาวส่องประกายเต็มท้องฟ้าอย่างงดงามหาใดเปรียบยังไงอย่างงั้นเลย กรเองที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่เช่นกันเพราะถูกความงดงามนั่นตราตรึงและดึงดูดสายตาเสียจนเบนหน้าหนี

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 18 : การฝึกฝนเป็นการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด

    ———1 สัปดาห์ต่อมา.....แคร็กๆๆๆๆ!ตึก!——— ตึก!——— ตึก!——— ท่ามกลางจุดสีน้ำเงินส่องประกายสวยงามซึ่งประดับอยู่บนเพดานถ้ำนับล้านจุดจนคล้ายกับหมู่ดาวมากมายบนกาแล็คซี่ทางช้างเผือกยามค่ำคืน กลับได้ยินเสียงรบกวนโสตประสาทที่ไม่เข้ากับพื้นที่และบรรยากาศอันแสนงดงามนี้ดังขึ้นเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันเองก็มีเสียงฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้เสียงที่ว่านั้นอย่างช้าๆและเป็นจังหวะด้วยเสียงที่เบาบางราวกับตีนแมวยังไงอย่างงั้นชึบ!———แกร็ก!แคร็กๆๆๆๆๆ!!!!!!! ในจังหวะเดียวกันก็เกิดเสียงคล้ายกับโลหะสองชิ้นเสียดสีกันและเสียงที่คล้ายกับอะไรซักอย่างลงล็อกกันได้พอดีนั่น เลยดูเหมือนจะสร้างความสนใจให้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่ไม่น่าอภิรมณ์ในตอนแรกนั่นไม่น้อย เสียงที่น่ารำคาญนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ และเข้ามาใกล้เสียงของฝีเท้าในตอนแรกที่กำลังเดินเข้าไปหาแทนอย่างรวดเร็วราวกับกำลังหิวกระหายต่ออะไรซักอย่าง แต่ทว่า....เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ก๊าซซซซซ!!!!!!!!!! ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่เสียงโลหะลงล็อกกันในตอนแรกได้จบลง ก็เกิดเสียงดังที่คล้ายกับมีคนจุดป

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 19 : ความสิ้นหวังของเพื่อนสนิทและความหวังของผู้ประกาศ

    ———ย้อนกลับไปเล็กน้อย ณ แคมป์พักผ่อนของเหล่านักเรียนผู้กล้าทั้งหลาย…〝นี่ๆ ทางนั้นล่าอะไรไปบ้างล่ะ!〞〝ฮะฮ่ะ!!!...ไม่อยากจะโม้ พวกเราล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』ได้ตั้ง 10 ตัวเลยนะ!!!〞〝อะไรกัน...ทางฉันจัดการได้ตั้ง 15 ตัวยังไม่โม้เลยนะเฟ้ย!〞〝โกหกน่า! สุดยอดไปเลยนี่หว่า〞 ณ บริเวณพื้นที่โล่งกว้างห่างจากตัวป่าประมาณ 100 เมตร พื้นที่ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยต้นหญ้าเล็กๆ คล้ายกับสนามฟุตบอลไปทั่วทั้งบริเวณที่มองเห็นได้แม้จะอยู่ห่างจากตัวป่ามาขนาดนี้ก็ตาม ได้มีกลุ่มคนจำนวนมาก สวมชุดเกราะเบาและถืออาวุธนานาประเภท ทั้งไม้เท้า ดาบหรือแม้แต่หอกเองก็ด้วย ดูจากใบหน้าและน้ำเสียงแล้ว พวกเขาเหล่านั้นยังเป็นเพียงเด็กหนุ่มและเด็กสาวอายุ 15-17 เท่านั้นเอง กำลังพูดคุยเป็นเชิงโอ้อวดกันด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ ถึงสิ่งที่ตัวเองได้ไปล่ามากับเหล่าพวกพ้องในปาร์ตี้ก่อนหน้า แล้วหากสังเกตบริเวณโดยรอบดีๆ จะมีเต็นท์ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ห้องแถวถูกคลุมด้วยผ้าสีน้ำตาลอยู่ 3 หลังในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้วย แล้วยังมีซุ้มทรงสูงที่ประกอบขึ้นจากไม้และมุงหลังคาง่ายๆด้วยฟาง อยู่อีก 2 หลังติดกัน แล้วตรงเคาท์เตอร์ด้านหน้ายังมีหม

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 20 : สาวน้อยที่พบกันโดยบังเอิญในดันเจี้ยนไม่มีทางน่ารักแบบนี้หรอก

    ท่ามกลางความเงียบสงบของดันเจี้ยนอันแสนมืดมิด ที่มีสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นถ้ำปิดตายไร้ซึ่งความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ แต่ก็ยังคงมองเห็นพื้นที่ใกล้เคียงได้อยู่ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะเพดานของถ้ำที่ว่า มีจุดสีฟ้าเข้มและอ่อนตัดกันไปมา จุดสีเหล่านั้นเรียงรายกันไปทั่วอยู่บนนั้นอย่างไร้รูปแบบ แต่ก็ยังคงความงดงามจนยากจะละสายตาได้ กำลังส่องประกายไปทั่วจนคล้ายกับท้องฟ้าจำลองยังไงอย่างงั้นตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! แล้วท่ามกลางความสงัดที่ว่า กลับมีเสียงฝีเท้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นเป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ได้วิ่งแต่อย่างใด แต่ระยะห่างระหว่างก้าวหนึ่งครั้งที่ได้ยินนั้นกลับกระชั้นชิดเสียเหลือเกิน ราวกับเขาคนนี้กำลังเดินหนีไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่ยังไงอย่างงั้น บนใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นไม่ได้มีความหวาดกลัวเลยซักนิดเดียว จะมีก็แต่สีหน้าลำบากใจกับเหงื่อไหลลงมาจากใบหน้าเพียงสองสามหยดเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ตามเขามาไม่ใช่สิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของเขาตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก! ตึก!

    Last Updated : 2025-04-09
  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 21 : เด็กสาวและการต่อสู้ร่วมกันครั้งแรก

    〝——สรุปแล้วก็คือ ...ไม่มีทางออกดันเจี้ยนได้ นอกจากจะใช้เวทย์มิติ ประเภทเซฟพิกัดเท่านั้นสินะ〞〝อื้ม… ใช่แล้วหล่ะ!〞〝แล้วเวทย์มิติที่ว่าเนี่ย หายากรึเปล่า?〞〝อืม..... อย่าว่าแต่เวทย์มิติเลย ปกติแล้ว มนุษย์ที่มีคุณสมบัติในการเป็นจอมเวทย์หน่ะ หายากสุดๆไปเลยด้วยซ้ำ ถึงจะไม่น้อยขนาดนั้นก็เถอะ แต่ใน 1,000 คน ก็มีแค่ประมาณ 150 คนเท่านั้นแหล่ะ เพราะงั้นเวทย์มิติก็เลยหายากกว่านั้นซะอีก.... แต่เพราะงั้นก็เลยมีคนทดลองลงตราเวทย์จุดเซฟที่ว่า ลงไปในหินเวทย์มนต์ ผลก็คือ ทำให้เกิดไอเทมเวทย์มนต์ชนิดใหม่ที่สามารถใช้แทนเวทย์มิติได้ ชื่อของมันก็คือ 『ศิลาเวทย์เคลื่อนย้าย』 แล้วนอกจากจะใช้วาร์ปเข้า-ออกดันเจี้ยนในชั้นต่างๆ ได้ตามใจแล้ว ถ้าเป็นคณะเดินทางที่มีใบอนุญาตก็จะสามารถใช้เดินทางข้ามเมืองได้ด้วยนะ....〞.. หลังจากที่กรยอมรับ『มีอา』เด็กสาวที่เขาช่วยเหลือไว้ได้ด้วยความบังเอิญในครั้งก่อน ให้เดินทางไปด้วยกันได้ โดยแลกกับข้อมูลของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนแห่งนี้ ก็ผ่านมาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา กรได้ถามข้อมูลจากมีอามาโดยตลอด แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่ได้แสดงท่า

    Last Updated : 2025-04-10

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 215 : สาวน้อยธรรมดา?เองก็อยากสร้างคุณค่าของตัวเองเหมือนกัน (Rachel and Rita have a Date)

    ช่วงเที่ยงเป็นเวลาพักผ่อนของใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่มีนัดสำคัญในช่วงบ่าย นี่เป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมในการเตรียมตัวสำหรับสองสาว... สำหรับเรเชลกับริต้า พวกเธอกำลังลองชุดสำหรับเดทในช่วงบ่ายกับแฟนหนุ่มสุดที่รักของพวกเธอ สำหรับเรเชล เรื่องชุดไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะเลือกไว้นานมาก และมีชุดตัวเก่งในแบบที่เรียบร้อยเหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว ปัญหาคือชุดของน้องสาวอย่างริต้านี่แหละที่ทำให้พี่สาวคนนี้เป็นกังวลจนต้องกุมขมับ ถึงจะเป็นเสื้อยืดที่ใส่แล้วรัดรูปโชว์สะดือ และกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนกับทุกทีก็เถอะ“...พี่ว่าชุดแบบนี้มันเปิดไปหน่อยนะ”“สงสัย... คุณกรน่าจะชอบ... แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?” ริต้ามองกลับมาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างบริสุทธิ์ใจ ในหัวเธอคงคิดอยู่แค่สามเรื่องเท่านั้นอันได้แก่ กร ครอบครัว แล้วก็กร ซึ่งอันที่จริงแนวคิดตรงนั้นก็ไม่ต่างจากเรเชลเท่าไรนัก ริต้ามองกวาดจากหัวจรดเท้า มองชุดเดรสแบบเปิดไหล่ของเรเชลแต่เป็นกระโปรงแบบคลุมเข่า เรียบร้อยเหมือนกับที่เรเชลใส่เป็นปกติ ความใคร่รู้ของริต้าจึงเกิดขึ้นในจังหวะนั

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 214 : สาวน้อยธรรมดา?เองก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกัน (Lilith and Karen have a Date)

    หลังจากเดทกับไมน์และรีเบคก้าจบลงพวกเราก็กลับบ้านเป็นเดทที่ดีอีกครั้งสำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่ค่อยได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวกับเรานักเพราะถ้าว่ากันตามตรง เหล่าภรรยาของฉันหลายคนเพิ่งจะได้คบกันในช่วงที่กำลังลุยดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ ของอาร์เคมีดีสหมายถึงเจนนี่ ไมน์ รีเบคก้า ซิลเวีย ยูมิน่า ฟลอร่า แล้วก็เฮเลน่ากับคอร์ดิเรีย ทั้งแปดคนนั่นแหละพวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเดทกันเท่าไหร่ก็เลยยังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่บ้างแต่ข้อดีก็คือไม่ว่าจะพาไปเดทที่ไหนพวกเธอก็ยังไม่คุ้นชินเลยมีโอกาสเรียนรู้กันและกันอีกมากหืม? แล้วความทรงจำเรื่องเดทจากเมื่อชาติก่อน ๆ ของพวกเธอที่เคยมีกับเรานี่ไม่นับเหรอ?ก็ไม่เชิงหรอกนะ... ความทรงจำเมื่อชาติก่อนมันก็เหมือนกับความทรงจำในวัยเด็กนั่นแหละ เรื่องเกิดตั้งนานแล้วใครจะไปจำรายละเอียดได้ล่ะจริงไหม?ก็จริงแหละที่ถ้าทำอะไรสักอย่างให้นึกถึง ความทรงจำพวกนั้นก็จะถูกกระตุ้นทำให้นึกออกแต่ฉันคุยกับทุกคนหลายรอบแล้วว่าอดีตก็คืออดีต จะไม่ให้มันกลายมาเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้กันและกันของพวกเราหรอกก็ด้วยเหตุนั้นแหละ ทั้งแปดคนเลยยังไม่ค่อยชินกับการไปเดทแบบทั่วไป ก็เลยพาไปเดทที่ต่าง ๆ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 213 : สาวน้อยอ่อนประสบการณ์เองก็มีเรื่องที่อยากลองเหมือนกัน (Mine and Rebecca have a Date)

    เวลาผ่านไปจนเกินเที่ยง ฉันเลยติดต่อบอกให้ทุกคนกินข้าวรอกันไปก่อนส่วนฉัน ฟลอร่าแล้วก็ยูมิน่าไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารใกล้ ๆนับว่าเป็นการยืดเวลาเดทได้ดี สองสาวดีใจใหญ่ที่ได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น น่ารักจริง ๆ เลยน้าทั้งสองคนจากนั้นช่วงบ่ายไปถึงเย็นก็จะเป็นคิวของไมน์กับรีเบคก้า ฉันก็เลยต้องกลับบ้านไปเตรียมตัวใหม่เพราะทั้งสองคนก็รออยู่ที่บ้านเหมือนกันแหล่ะนะแถมแฟนของฉันแต่ละคนก็ชอบบรรยากาศการเดทแตกต่างกันด้วยทั้งสไตล์การแต่งตัว น้ำหอม สถานที่ เวลา หรือความใกล้ชิดในที่สาธารณะเพราะทุกคนโตมาต่างกันเลยมีความต้องการคนละแบบ ก็ปกตินั่นแหล่ะแต่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิดเพราะฉันรู้สิ่งที่ทุกคนชอบดีอยู่แล้ว จำได้ขึ้นใจด้วยว่าไปแล้วพอพูดถึงความใกล้ชิด ไมน์กับรีเบคก้านี่ก็ออกจะเหนียมอายกว่าทุกคนหน่อยถ้าเป็นสาว ๆ ส่วนใหญ่จะเดินกอดแขนฉันกลางธารกำนัลได้สบายแต่ไมน์กับรีเบคก้าจะยังไม่ค่อยกล้าทำอย่างนั้นเท่าไหร่ ก็เป็นในทำนองเดียวกับรินนั่นแหล่ะอลิซนั้นยังพอว่าเพราะโตมาแบบรับวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้เต็ม ๆก็ขนาดพุ่งเข้ามากอดฉันที่เป็นเพื่อนสนิทยังกับเพื่อนเพศเดียวกันได้สบาย ๆ นั่นแหล่ะ (ถึงเธอจะไม่ได้ทำแบบ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 212 : สาวน้อยผู้ร่าเริงเองก็มีเรื่องที่คิดมากเหมือนกัน (Flora and Umina have a Date)

    หลังจากการเที่ยวสวนสนุกของฉัน เจนนี่และเฮเลน่าจบลงด้วยความหวานชื่น พวกเราก็กลับบ้านด้วยความรู้สึกเต็มอิ่มขากลับก็มีการซื้อของที่ระลึกอย่างสร้อยคอให้พวกเธอและแน่นอน นอกเหนือจากนั้นพวกเราก็ซื้อเค้กกลับไปฝากทุกคนด้วยถึงจะมีเดทกับแฟนสาว แต่ก็ต้องไม่ลืมครอบครัวที่รออยู่บ้านด้วยโดยเฉพาะลูกสาวสุดที่รักอย่างแมรี่ นี่แหล่ะหน้าที่เสาหลักของบ้านล่ะ อื้ม ๆ!เท่านี้วันแห่งการพักผ่อนก็จบไปอีกวันด้วยความสงบสุข...ถึงก่อนนอนจะมีเรื่องจริงจังให้คิดนิดหน่อยก็เถอะนั่นเพราะระหว่างวันได้มีข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการคร่าว ๆ ของการประกาศความสำเร็จที่พวกเราทุกคนปราบอาร์เคมีดีสส่งเข้ามาน่ะสิก็มาจากพวกเสือ คัทยูชา แอดรูวส์แล้วก็พี่มารีนั่นแหล่ะดูเหมือนอีก 6 วันนับจากนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกถึงความสำเร็จของพวกเราพร้อมกับพิธีมอบรางวัลจากกษัตริย์ของอาณาจักรที่เป็นพันธมิตรก็... ฟังดูเป็นพิธีที่น่ารำคาญ แต่มันก็ขาดเสียมิได้หรอกแถมการทำแบบนั้นยังเป็นการตรวจสอบความร่วมมือจากอาณาจักรต่าง ๆ ให้ร่วมมือกันในการรับมือกับจอมมารในอนาคตด้วยแต่... ปัญหาก็คือพวกเราในตอนนี้ยังไม่มีเส้นสายในการติดต่อกับเผ่าปีศาจนี่แหล่ะ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 211 : สาวมากประสบการณ์เองก็มีเรื่องที่ต้องเรียนรู้อีกมากเหมือนกัน (Jenny and Helena have a Date)

    ในห้องน้ำส่วนที่เป็นห้องแต่งตัวบ้านครอบครัวของกรก่อนหรือหลังเข้าไปใช้ห้องอาบน้ำรวมของบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่มีใครใช้งานเป็นเวลานาน มันจึงเป็นเรื่องแปลกทีเดียวที่จะมีคนเพิ่งอาบน้ำในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ โดยเฉพาะบ้านของกรที่ต้องตื่นมากินข้าวเช้า รวมถึงอาบและแช่น้ำรวมกันทั้งบ้านเป็นกิจวัตร“แบบนี้ดีไหมนะ? หรือแบบนี้ดี?” นั่นถึงเป็นเรื่องแปลกเมื่อมีหญิงสาวกำลังจัดทรงผมด้วยสีหน้าสายตาจริงจังในเวลาเที่ยงเศษแบบนี้ คน ๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสาวผู้มีสไตล์มากที่สุดและมีเสน่ห์ของสาวผู้ใหญ่เหลือล้นอย่างเจนนี่หนึ่งเดียวคนนี้เอง โดยปกติแล้วเธอเองก็ค่อนข้างดูแลตัวเองตลอดเวลา เรียกว่าแม้จะอยู่บ้านก็ยังแต่งหน้าแต่งตาบาง ๆ ให้ดูเป๊ะอยู่เสมอ อย่างน้อย ๆ นั่นก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แฟนหนุ่มอย่างกรรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ แต่ครั้งนี้ต่างออกไปเพราะเธอค่อนข้างจัดเต็มมากทีเดียว ถึงแบบนั้นก็ไม่มากเกินไปกว่าระดับที่ทำให้ดูผิดธรรมชาติ“เป็นยังไงบ้างคะเจนนี่” ในจังหวะนั้นก็มีคนเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี เธอเป็นสาวหูแมวผู้เงียบขรึมดูไร้อารมณ์ที่สุ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 210 : สาวมั่นเองก็มีเวลาที่อยากจะอ้อนเหมือนกัน (Silvia and Fiona have a Date)

    ยามเช้าอันสดใสมาพร้อมเสียงสัตว์อรุณสวัสดิ์เป็นกิจวัตรอันสร้างความสดชื่นรับวันใหม่ได้ทุกครา ไม่มีเสียงปลุกอะไรไพเราะไปกว่านี้ กับบรรยากาศสดชื่นและน่าเย้ายวนชวนให้ตื่นเช้าเช่นนี้ คงไม่มีใครหาญกล้านอนต่อได้นอกเสียจากคนที่ทำงานจนเหนื่อยล้าหรือกำลังอยู่ในช่วงขี้เกียจสันหลังยาว เว้นเสียแต่ว่าเธอคนนั้นไม่ได้หลับเสียตั้งแต่แรก ข้อยกเว้นดังกล่าวคือฟีโอน่าที่กำลังนั่งเขียนเอกสารในห้องส่วนตัวของเธอ ในบ้านส่วนตัวที่อยู่อาศัยร่วมกันกับครอบครัวของเธอตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนเช้าตรู่นี้ อันที่จริงต่อให้เธอทำงานค้างไว้ก็คงไม่มีใครว่าเธอได้ เพราะในอาณาจักรที่เธอปกครองตอนนี้ไม่มีใครใหญ่ยิ่งไปกว่าเธออีกแล้ว ต่อให้ประกาศกับเหล่าขุนนางไปแล้วว่าจะวางมือ แต่สถานะของอดีตราชินีและหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้ผู้กอบกู้โลกคงไม่มีใครกล้าหือแน่นอนต่อให้ลงจากตำแหน่งไปแล้ว สิ่งที่ผลักดันฟีโอน่าให้ทำงานจึงเป็นแรงขับเคลื่อนส่วนตัวอย่างความรับผิดชอบล้วน ๆ จะว่าต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเหล่าขุนนางก็คงได้ แต่อันที่จริง... สาเหตุหลักมันเป็นเพราะเธ

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 209 : สาว ๆ ก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน (Cordiria has a Date)

    “ทนไม่ไหวแล้ว!!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายเป็นสิ่งแรกของยามเช้าอันสดใสของพวกกร ความเหนื่อยล้าจากศึกกลางคืนทำให้ทุกคนยังงัวเงีย แต่ก็ตื่นเต็มตากันหมดเพราะเสียงตะโกนของตัวป่วนประจำบ้านอย่างอลิซ ด้วยความที่ทุกคนนอนบนฟูกปูพื้นทำให้ทุกคนนอนเกลื่อนกลาด และเพราะผ่านศึกอันหนักหน่วงกันมา ทั้งสาว ๆ และกรเลยมีแค่ผ้าห่มคนละผืนทับตัวเปล่า ๆ เหมือนเด็กแรกเกิด แต่สภาพแบบนั้นไม่ได้ทำให้อลิซร่าเริงน้อยลงเลย“ได้ยินป่าว! ฉันบอกว่า ‘ทน-ไม่-ไหว-แล้ว’ อ่ะ!” เธอทำแก้มป่องทุบพื้นหลายต่อหลายที ถึงไม่รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไรก็เถอะ“มีเรื่องอะไรแต่เช้าเนี่ย?” กรที่หนุนหมอนอยู่ถึงชันตัวขึ้น เขาต้องค่อย ๆ ใช้แขนสองข้างประคองให้มีอากับรินลงหนุนหมอนแทนจากที่นอนซบไหล่เขามาตลอดคืน อาจเพราะแบบนั้นด้วยมีอากับรินเลยทำหน้ามุ่ย แต่พอได้กรลูบหัวไปคนละสองทีพวกเธอก็ยิ้มพริ้มกันเพลินจนต้องหลับต่อ“หรือว่าอยากกอดเหรอ? งั้นมามะ” กรอ้าแขนเชื้อเชิญด้วยใบหน้าระรื่น เพราะเขาเองก็อยากจะกอดอลิซเหมือนกัน“ไม่ใช่ย่ะ! ไม่สิ... ถึงจริง ๆ จะอยากกอดก็เถอะ แต่ที่จะพูดมันไม่ใช่เรื่

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 208 : หลังออกกำลังย่อมต้องการการพักผ่อน

    ————วันรุ่งขึ้นหลังจบศึก, ณ มหาดันเจี้ยนโบราณเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ภายในมหาดันเจี้ยนโบราณของฟรังซ์ ออลเดลผู้เป็นเจ้าของนั้น มีดันเจี้ยนชั้นหนึ่งที่เป็นส่วนอยู่อาศัย หากนับตามลำดับคงเป็นชั้นที่ 101 ว่าไปแล้ว มันก็คือดันเจี้ยนชั้นเดียวกับที่กรและมีอาได้เข้ามาพักหลังจากที่เคลียร์ดันเจี้ยนแห่งนี้สำเร็จแล้วนั่นเอง คฤหาสน์ของฟรังซ์นั้นมีห้องอยู่จำนวนมากทั้งที่กำลังใช้งานอยู่และที่เป็นห้องว่างพร้อมให้ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามต้องการ ในบรรดาห้องว่างทั้งหลายเหล่านั้นคือห้องชั้นใต้ดินของอาคารหลักอันมืดมิด ได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องกรงแบบง่าย ๆ คำว่าง่าย ๆ ที่ว่านั้น คือการใส่ลูกกรงเหล็กหน้าห้องแทนประตู พื้นที่เป็นดินไม่ได้รับการตกแต่งหรือทำความสะอาดเพื่อไว้ใช้ลงโทษ นอกเหนือจากนั้นคือกุญแจมือและเท้าที่ล่ามติดโซ่ผู้กระทำผิดเอาไว้ในฐานะนักโทษอยู่กลางห้องไม่ให้ขยับไปไหนได้ และคนที่ถูกล่าม ไม่สิ... ล่ามตัวเองอยู่นั้น ก็ไม่ได้เป็นใครอื่นนอกจากอาร์เคมีดีส ตัวอาร์เคมีดีสนั้นแม้จะถูกล่ามโซ่ในสภาพอนาถาแต่กิริยาของเขากลับยังนิ่งสงบ ทั้

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 207 : ประกายแสงสีรุ้ง

    ————ก่อนหน้านี้เล็กน้อย“แล้ว... จะเอายังไงต่อดีล่ะเนี่ย” หลังออกมาจากมหาดันเจี้ยน ‘หมื่นเทวาใต้รัตนากร’ จนมาอยู่บนชายหาดของเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมอร์ลินก็เอ่ยถามขึ้นมาเป็นคนแรก เพราะอาเธนที่เป็นคนใช้ไอเทมทำให้ทุกคนออกมาได้รวมถึงมหาปราชญ์คนอื่น ๆ นั้นไม่ได้มาด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องทำลายแกนพลังงานของดันเจี้ยนเพื่อลดอัตราการดูดซับเท่าที่จะทำได้แม้แกนกลางของดันเจี้ยนจะกลายเป็นลาสบอสพร้อมกับอาร์เคมีดีสไปแล้วก็ตาม และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่มันก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทาง คำถามของเมอร์ลิน จึงไม่ใช่อะไรนอกจากการยืนยันสิ่งที่กรจะทำหลังจากนี้ ทั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวล แต่ว่าก่อนหน้านั้น...“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่จะไม่สนใจไอ้เจ้ายักษ์นั่นหน่อยเหรอเนี้ยว!?”“นะ นั่นสิคะ! นั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ควรกังวลมากกว่านะคะ!” ในขณะที่ฟลอร่ากับซาช่าต่างก็ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าจนเหมือนคนสติแตก ซึ่งถ้าบนนั้นมีแค่เมฆสีครามเหมือนปกติก็จะดี แต่เพราะไม่ใช่ พวกเธอถึงกลัวจนขนลุกกันขนาดนั้น เพราะที่อยู่บนนั้น คือมอนสเตอร์ขนาดยักษ์ที่มีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ท่อนล่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status