แชร์

บทที่ 4

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-19 19:30:51

หลายชั่วยามผ่านไป...ราตรีอันเงียบสงัดโรยตัวลงมาปกคลุมทั่วทั้งเรือนเมฆาคล้อย แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมาอาบไล้หลังคาเรือนไม้เก่า...ชวนให้ดูวังเวงมากกว่าเดิม ยังดีที่มีเสียงแมลงกลางคืนกรีดร้องระงมทำให้มันไม่ดูเงียบเหงามากนัก

ภายในห้องพักซอมซ่อ หรงจื่อเหยามิได้หลับใหลอย่างแท้จริง นางเพียงนั่งขัดสมาธิบนแคร่ไม้ หลับตาลงเพื่อสงวนพลังงานและโคจรลมปราณเท่าที่ความรู้จากโลกเก่าจะเอื้ออำนวย ในใจก็กำลังทบทวนแผนการไปพลาง ๆ ร่างกายนี้อ่อนแอมากเกินไป หากปราศจากสารอาหารที่เพียงพอ แผนการต่าง ๆ ที่นางคิดไว้ก็ไม่อาจสำเร็จ

เสี่ยวชุนเองก็นอนแทบไม่หลับ นางกระสับกระส่ายอยู่บนที่นอนฟางบาง ๆ ของตนที่มุมห้อง ด้วยความเป็นห่วงคุณหนูจับใจ

"คุณหนู...ยังไม่หลับหรือเจ้าคะ" เสี่ยวชุนกระซิบถาม

จื่อเหยาลืมตาขึ้นในความมืด ดวงตาของนางกลับดูสุกสว่างเป็นพิเศษ "ข้ากำลังคิดว่ามื้อเย็นของเรามีเพียงน้ำเปล่าผสมยาบำรุงมันคงไม่พอที่จะทำให้เรามีแรงไปทำอะไรในวันรุ่งขึ้น"

"แต่ป้าจางเฝ้าโรงครัวไม่ห่างเลยเจ้าค่ะ" เสี่ยวชุนตอบเสียงแผ่ว "บ่าวพยายามจะขอเศษอาหารแล้ว แต่นางกลับไล่ตะเพิดออกมา"

"ข้ารู้" จื่อเหยาตอบเสียงเรียบ "คนอย่างนางจาง การขอร้องตรง ๆ ไม่มีประโยชน์...เราต้องหยิบมาเอง"

"จะ...จะให้บ่าวไปขโมยหรือเจ้าคะ!" เสี่ยวชุนตกใจจนเผลอทำเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

"ชู่ว์..." จื่อเหยาปราม "ไม่ใช่การขโมย แต่เป็นการหยิบยืมสิ่งที่ควรจะเป็นของเราอยู่แล้วต่างหาก" นางมองตรงไปยังสาวใช้ "เสี่ยวชุน ข้ารู้ว่ามันเสี่ยง แต่เจ้ากล้าพอหรือไม่?"

เสี่ยวชุนมองลึกเข้าไปในดวงตาของคุณหนู นางเห็นความแน่วแน่และเชื่อมั่นที่ทำให้นางรู้สึกมีความหวังอย่างประหลาด ความกลัวถูกความภักดีกดทับจนมิด นางพยักหน้ารับอย่างช้า ๆ

"เพื่อคุณหนู...บ่าวกล้าเจ้าค่ะ"

"ดี" จื่อเหยาให้คำแนะนำสั้น ๆ "ตอนนี้เป็นยามกุน (ประมาณ 21:00-22:59 น.) พวกบ่าวรับใช้ส่วนใหญ่คงหลับกันหมดแล้ว เจ้าจงเคลื่อนไหวในเงามืด ฟังเสียงรอบตัวให้ดี อย่ารีบร้อน และเป้าหมายของเราคืออาหารแห้งที่เก็บไว้ได้นานกับน้ำสะอาดเพียงเท่านั้น"

เสี่ยวชุนพยักหน้ารับคำอย่างจริงจัง นางถอดรองเท้าฟางออกเพื่อไม่ให้เกิดเสียง พลางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ แง้มประตูไม้ออกไปอย่างเงียบเชียบเท่าที่จะทำได้

ความเย็นยามค่ำคืนปะทะผิวกายทำให้เสี่ยวชุนขนลุกซู่ นางหลบอยู่หลังเสาเรือน มองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น ก่อนจะย่องเบาออกไปตามแนวเงาของชายคา มุ่งหน้าไปยังโรงครัวที่อยู่ท้ายเรือน

หัวใจของนางเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก ทุกเสียงที่ได้ยินไม่ว่าจะเป็นเสียงลมพัดใบไม้ไหว หรือเสียงสัตว์ตัวเล็ก ๆ วิ่งผ่าน ก็ทำให้นางสะดุ้งจนตัวเกร็ง

เมื่อมาถึงหน้าโรงครัว นางพบว่าประตูไม้ถูกลงดาลจากด้านในอย่างแน่นหนา เสี่ยวชุนใจแป้วไปวูบหนึ่ง แต่นางนึกถึงคำของคุณหนูที่ให้สังเกต...บ่าวรับใช้ตัวน้อยจึงเดินอ้อมไปด้านหลัง และพบกับสิ่งที่คาดหวัง...หน้าต่างบานเล็กที่ใช้ระบายควันนั้นปิดไม่สนิทนัก!

เด็กหญิงจึงค่อย ๆ ใช้ปลายนิ้วดันหน้าต่างที่ฝืดนั้นออกอย่างช้า ๆ จนเกิดเป็นช่องพอให้ร่างผอมบางของตนลอดเข้าไปได้ และเมื่อเข้ามาด้านใน กลิ่นอาหารที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ปะทะจมูกจนท้องของนางร้องประท้วง

เสี่ยวชุนไม่รอช้า นางคลำทางในความมืดตรงไปยังตู้เก็บอาหารที่ตนเคยเห็นพวกแม่ครัวเก็บของเหลือไว้ เป้าหมายแรกคือหมั่นโถวที่เย็นชืด

นางหยิบมาได้สามลูกยัดใส่ในอกเสื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คว้าผักดองที่อยู่ในไหเล็กมาหนึ่งกำ ห่อด้วยใบบัวแห้งที่วางอยู่ใกล้กัน และสุดท้ายคือการเติมน้ำสะอาดใส่ในกระบอกไม้ไผ่เก่า ๆ ที่พกติดตัวมา

แต่ในขณะที่นางกำลังจะปีนกลับออกไปด้านนอก ฉับพลันร่างของนางก็ตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงดัง

แอ๊ด...เสียงครวญครางของใครบางคนดังขึ้นจากห้องพักของนางจางที่อยู่ติดกับโรงครัว ตามมาด้วยเสียงพลิกตัวบนเตียงไม้!

เสี่ยวชุนรีบหลบเข้าใต้โต๊ะทันที หัวใจของเด็กหญิงแทบจะหยุดเต้น มือทั้งสองข้างกอดห่อหมั่นโถวเอาไว้แน่น รอคอยอย่างทรมานอยู่ครู่หนึ่ง...เมื่อไม่ได้ยินเสียงใด ๆ อีก นางจึงค่อย ๆ คลานออกมาแล้วปีนกลับออกจากหน้าต่างบานเดิมอย่างรวดเร็วและระมัดระวัง

เมื่อกลับมาถึงห้องพักอย่างปลอดภัย นางก็ทรุดตัวลงกับพื้นหอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อกาฬแตกพลั่กเต็มแผ่นหลัง

"คุณหนู...บ่าว...บ่าวทำได้แล้วเจ้าค่ะ" นางยื่นห่อผ้าที่มีหมั่นโถวและผักดองให้คุณหนูอย่างภาคภูมิใจ

จื่อเหยารับมา...นางมองอาหารในมือด้วยแววตาสงบนิ่ง ก่อนจะหักหมั่นโถวออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน ยื่นครึ่งหนึ่งส่งคืนให้เสี่ยวชุน

"เจ้าก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน กินเสียสิ"

เสี่ยวชุนน้ำตาคลอเบ้า นางไม่คิดว่าคุณหนูจะแบ่งให้นาง "แต่ว่านี่..."

"ไม่มีแต่" จื่อเหยาพูดเสียงเรียบ "จากนี้ไป เราคือคนที่อยู่เรือลำเดียวกัน ต้องช่วยเหลือกัน"

นางมองเสี่ยวชุนที่รับหมั่นโถวไปกินทั้งน้ำตา ก่อนจะกัดอาหารในมือของตัวเองเข้าไปคำหนึ่ง มันทั้งแข็งและเย็นชืด แต่สำหรับเธอในตอนนี้...มันคือรสชาติของความหวัง

"กินให้อิ่มเสี่ยวชุน" จื่อเหยากล่าวหลังจากกลืนอาหารลงคอไปแล้ว "เพราะรุ่งเช้า...งานของเจ้าจะเริ่มขึ้นแล้ว"

เมื่อท้องได้สัมผัสกับอาหารเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน แม้จะเป็นเพียงหมั่นโถวแข็ง ๆ ก็ตาม ร่างกายที่อ่อนล้าถึงขีดสุดของเสี่ยวชุนก็ไม่อาจทนทานต่อไปได้

นางจึงผล็อยหลับไปข้างแคร่ไม้ของคุณหนูของตนอย่างรวดเร็ว เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของนางเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกว่าในห้องนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่

จื่อเหยาค่อย ๆ วางหมั่นโถวคำสุดท้ายลง นางไม่ได้กินจนหมดแต่เก็บส่วนหนึ่งไว้สำหรับมื้อต่อไป การบริหารทรัพยากรคือสิ่งสำคัญที่สุดในสถานการณ์เช่นนี้และอดที่จะทำให้นางรู้สึกอดสูไม่ได้ไปพร้อมกัน

ก่อนที่นางจะพิงร่างกับผนังที่เย็นชืด หลับตาลงรู้สึกถึงพลังงานอันน้อยนิดที่เริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกอุ่นสบายจากการได้กินอาหารทำให้จิตใจของนิติเวชสาวพอจะสงบลงได้บ้าง...ก่อนที่

[ติ๊ง!]

เสียงสังเคราะห์ที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นในหัว พร้อมกับหน้าต่างระบบสีฟ้าที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า...

[ตรวจพบโฮสต์ได้รับสารอาหารพื้นฐาน กำลังประเมินสภาพร่างกาย...ประเมินเสร็จสิ้น สภาพร่างกายปัจจุบัน: อ่อนแอมีเสถียรภาพ ค่าพลังชีวิตฟื้นฟู 5%]

(มีเปอร์เซ็นต์บอกด้วยแฮะ...แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน) จื่อเหยาคิดอย่างพึงพอใจเล็กน้อย แต่ข้อความต่อมากลับทำให้นางต้องขมวดคิ้ว

[คำเตือน! ตรวจพบภัยคุกคามระดับสูงต่อโฮสต์! พิษเรื้อรัง เงามรณาไร้ลักษณ์กำลังกัดกินระบบประสาทของโฮสต์ในอัตรา 0.1% ต่อวัน หากไม่ทำการรักษาภายใน 30 วัน พิษจะสร้างความเสียหายถาวรต่อสมอง]

"เงามรณาไร้ลักษณ์..." จื่อเหยาพึมพำชื่อที่ดูน่าเกรงขามออกมาเบา ๆ (แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา...เป็นพิษที่ออกฤทธิ์อย่างช้า ๆ ไม่ทิ้งร่องรอย และทำลายจากภายใน เป็นฝีมือของคนใจคออำมหิตโดยแท้)

ยังไม่ทันที่นางจะได้วิเคราะห์ต่อ หน้าต่างภารกิจก็เด้งขึ้นมา

[ระบบได้ทำการสร้างภารกิจหลักบทที่ 1 ภารกิจ: ก้าวแรกสู่การถอนพิษ รายละเอียด:ในการจะต่อต้านพิษ เงามรณาไร้ลักษณ์โฮสต์จำเป็นต้องรวบรวมสมุนไพร 3 ชนิด เพื่อสร้างยาหักล้างพิษขั้นต้น...ซึ่งจะช่วยชะลอการทำงานของพิษและฟื้นฟูระบบประสาทที่เสียหายเล็กน้อย

รายการที่ต้องรวบรวม: ใบหญ้าลิ้นงู 1 ตำลึง (ประมาณ 37.5 กรัม) ดอกสายน้ำผึ้ง 1 ตำลึง และรากชะเอมเทศ 5 เฟิน (ประมาณ 18.75 กรัม)

รางวัลเมื่อสำเร็จภารกิจ: 15 แต้มไขความจริง สูตรยาถอนพิษขั้นต้น บันทึกในระบบถาวร ชุดทดสอบสารพิษเบื้องต้นแบใช้แล้วหมดไป 3 ชุด เวลาที่กำหนด: 7 วัน

บทลงโทษหากล้มเหลว : พิษจะเริ่มดื้อยา ทำให้การรักษาในอนาคตยากขึ้น 20%]

จื่อเหยาไล่อ่านรายละเอียดทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน ในฐานะแพทย์ เธอพอจะรู้จักชื่อสมุนไพรเหล่านี้อยู่บ้างจากตำราแพทย์แผนจีนโบราณ

ทั้งหมดล้วนมีสรรพคุณในการขจัดสารพิษและลดการอักเสบ ระบบนี้ไม่ได้ให้ภารกิจมาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แต่มันมีหลักการทางยาที่ชัดเจน

(ปัญหาคือ...เธอจะไปหาสมุนไพรพวกนี้มาจากไหน?)

นางมองไปรอบ ๆ ห้องที่ว่างเปล่า ก่อนจะเหลือบมองไปยังร่างของเสี่ยวชุนที่กำลังหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว แผนการเดิมของนางคือให้เสี่ยวชุนเป็นหูเป็นตาเพื่อสร้างคดีคงต้องถูกพับเอาไว้ก่อน...เพราะตอนนี้นางมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเร่งด่วนมากกว่านั้นเพิ่มเข้ามา

"หญ้าลิ้นงูมักจะขึ้นตามที่ชื้นแฉะริมรั้วหรือชายป่า...ดอกสายน้ำผึ้งก็เป็นไม้เลื้อยที่พบได้ทั่วไป...ส่วนชะเอมเทศอาจจะหายากหน่อย แต่อาจจะมีขายตามร้านยาเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน หรืออาจจะมีชาวบ้านปลูกไว้"

จื่อเหยาพึมพำพลางถอนหายใจออกมาเพื่อหวังระบายความอึดอัด "ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้...งานของเสี่ยวชุนจะหนักมากกว่าที่คิดไว้เสียแล้ว"

นางปิดหน้าต่างระบบลง เอนกายพิงผนังแล้วหลับตาลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เพื่อพักผ่อนแต่เพื่อวางแผนการสำหรับวันพรุ่งนี้อย่างละเอียดที่สุด การเอาชีวิตรอด การสืบสวน และการรักษา...ทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกันแล้วบนกระดานหมากที่เรียกว่าเรือนเมฆาคล้อย...แห่งนี้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 122

    “ในเมื่อพวกเจ้าคิดจะกล้าลอบสังหารพี่ใหญ่ของข้า…ข้าก็จะตัดรากถอนโคนเจ้าก่อนที่จะทันได้ลงมือ”ไวเท่าความคิดของนาง หลังจากไตร่ตรองดีแล้ว หรงจื่อเหยาก็เดินออกจากเรือนจันทราของตนเพื่อไปยังเรือนของพี่ชายที่บัดนี้เจ้าตัวกำลังแต่งกายเพื่อเตรียมตัวออกไปด้านนอก“คุณชายขอรับ คุณหนูรองมาขอพบ” ชายหนุ่มที่กำลังสว

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 121

    เซี่ยเว่ยหลงพยักหน้ารับช้า ๆ แววตาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม“ใช่…ในหมู่องค์กรลับ พวกมันมักใช้คาถาหรือพิษที่เรียกว่า คำสาปห้ามกล่าว หากคนของพวกมันเอ่ยความลับเพียงครึ่งคำ พิษจะกัดกินหัวใจในทันที นางจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบแม้จะทรมานเพียงใดก็ตาม”หรงจื่อเหยาขมวดคิ้ว ดวงตาสะท้อนประกายคมกล้า “เช่นนั้นก็หมายค

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 120

    เสียงโลหะจากคมดาบยังคงปะทะกันอย่างต่อเนื่องและดังระงมเป็นระยะ ๆ แต่เมื่อหน่วยจิ่นอีเว่ยของเซี่ยเว่ยหลงบุกเข้าควบคุมสถานการณ์ ความได้เปรียบก็ค่อย ๆ เทไปทางราชสำนัก ทหารองครักษ์เข้าล้อมเป็นกำแพงเหล็กป้องกันองค์จักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ออกไปจากลานกว้างอย่างเร่งด่วน เสียงโกลาหลยังดังเซ็งแซ่ แต่ความระส่ำร

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 119

    แววตาของสนมบางนางที่นั่งอยู่เบื้องสูงสะท้อนความสนใจ โดยเฉพาะจ้าวกุ้ยเฟยผู้ครองตำหนักกุ้ยเหมยที่กะพริบตาเพียงเล็กน้อย ราวกับกำลังพิจารณาเด็กสาวตรงหน้าหรงจื่อเหยาเพียงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะของตน มือเรียวเริ่มต้นจากการหยิบบัวตูมขึ้นมาปักเรียงรอบขอบแจกันกระเบื้องเคลือบสีครามที่สูงเพร

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 118

    ติ๊ง![กำลังสแกน...วิเคราะห์ข้อมูล... คำเตือน: เป้าหมายที่ท่านต้องการสแกนมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรลับ ลัทธิมังกรสมุทรการเข้าถึงข้อมูลที่สมบูรณ์จำเป็นต้องใช้แต้มไขความจริง 100 แต้มแต้มคงเหลือปัจจุบัน: 50 แต้ม](หนึ่งร้อยแต้มงั้นรึ!) จื่อเหยาขมวดคิ้วมุ่น (แต้มไม่พอ!) ความผิดหวังฉายวาบในดวงตาของนางเพีย

  • ช่วยด้วย! ข้าถูกตัวร้ายปักธงเข้าให้แล้ว   บทที่ 117

    “และยาพิษ” หรงจื่อเหยาเสริม“ใช่...และยาพิษ” เขาพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง “แต่ที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือ...พวกมันแฝงตัวอยู่ทั่วทุกชนชั้นในราชสำนัก...จนถึงตอนนี้ เรายังไม่รู้ว่าหัวหน้าของพวกมันคือใคร...หรือแม้กระทั่งว่าพวกมันมีจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร”จื่อเหยาเงียบไปครู่หนึ่ง...ทุกอย่างปะติดปะต่อกันห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status