💘 คฤหาสน์คุโรซาวะ — หนึ่งปีหลังวันหมั้น☀️ เช้าที่แสนสงบเรย์จิ & มินาเอะ...ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่คือ “ผู้สร้างสมดุลใหม่” ให้โลกใต้ดิน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มต้นจากเกมบังคับ กลายเป็นสงครามหัวใจ และจบด้วยคำสัญญา...ที่ไม่ต้องเปล่งเสียงอีกต่อไปทุกเช้า—เรย์จิจะชงกาแฟให้เธอก่อนที่เธอจะตื่น มินาเอะจะวางแท็บเล็ตไว้ข้างแก้วเขา พร้อมแผนที่ปรับให้เรียบร้อยพวกเขา...พูดน้อยลง แต่เข้าใจกันได้ด้วยการเหลือบตาเพียงครั้งเดียว มือที่เคยประสานเพื่อจับปืน วันนี้ประสานเพื่อ “จับหัวใจของกันและกัน”👑 มินาเอะ — ราชินีของโลกใต้ดิน“มาเฟียควีน” ไม่ใช่คำล้ออีกต่อไป เธอคือหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หลักขององค์กร นั่งประจำเก้าอี้หัวโต๊ะขององค์กรคุโรซาวะที่เคยสงวนไว้ให้คนเดียวเท่านั้น...เรย์จิเธอสวมสูทเรียบหรู ส้นสูงเฉียบ แววตาคมแต่ยังเปล่งประกายแบบ ‘เนิร์ดตัวจริง’ ที่ใครก็ประมาทไม่ได้แต่วันนี้...เธอมีอำนาจต่อรองเหนือกว่ากระสุน เพราะมินาเอะรู้ว่า ศัตรูไม่ได้แพ้ด้วยปืน ...แต่มักแพ้ให้กับคำพูดที่เขาคิดว่าเราจะไม่กล้าพูด“เราไม่จำเป็นต้องรบกับทุกคนค่ะ ถ้าทำให้เขาอยากอยู่กับเรามากกว่ากลัวเรา”เสียงในห้องประชุมเงียบไป
📍 คฤหาสน์คุโรซาวะ – 6 เดือนหลังสงครามพระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะลับขอบฟ้า แสงสีทองอุ่น ๆ รินลงผ่านกระจกห้องโถงใหญ่ ทอดเงายาวลงบนพื้นไม้ขัดมันอย่างเงียบงาม ด้านหลังคฤหาสน์...สวนถูกเนรมิตขึ้นใหม่เพื่องานสำคัญที่สุด“พิธีหมั้นกลางแจ้ง”ที่ทุกคนร่วมกันเตรียม...เพื่อเธอคนเดียว ลานหญ้าถูกปูด้วยพรมทางเดินสีครีมอ่อน รายล้อมด้วยดอกกุหลาบขาวที่ปลูกลงดินจริงเรียงแถวละเมียดเส้นสายไม้โค้งเป็นซุ้มประดับผ้าโปร่ง และไฟ fairy light ที่เตรียมไว้ส่องเมื่อตะวันตกดิน ทุกอย่างถูกจัดวางด้วยความรัก...ไม่ใช่เพราะพิธี แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ในพิธีนี้🎼 เครื่องดนตรีคลอเพลงคลาสสิกบรรเลงเบา ๆโน้ตแต่ละตัว...เรย์จิเคยเลือกมันเองจากร้านแผ่นเสียงเก่า ๆ กลางเมืองและที่ปลายเวที —ไทกะ เจ้าหมาชิบะอินุตัวแสบ ใส่โบว์สีงาช้าง-ทอง ยืนสง่าด้วยแท่นแหวนในปาก (หลังจากถูกมินาเอะ อัยย์ และทีมแม่บ้าน “ต่อรองด้วยขนม 7 แบบ” เกือบครึ่งวัน ถึงจะยอมถือ)...👰🏻♀️ มินาเอะ — ว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีงาช้างที่แสนเรียบหรู แต่งดงามราวกับภาพฝัน ผมมัดครึ่งคลายลงมาเป็นลอนนุ่ม ประดับด้วยปิ่นเงินรูปผีเสื้อ ใบหน้ามีรอยยิ้มสั่นไหว — ไม่ใ
📍ด้านของซันหลังจากเหตุการณ์ล้อมศูนย์บัญชาการและการเผชิญหน้ากับเรย์จิที่โกดังร้าง ซันถูกปล่อยตัวกลับไป—ไม่ใช่เพราะเรย์จิอ่อนแอ แต่เพราะเขาตัดสินใจ ‘ให้ชีวิตกับความพ่ายแพ้’ มากกว่าความตายไม่กี่วันหลังจากนั้น...มีบางข่าวลือเล่าว่าเขาขึ้นเครื่องไปอิตาลีภายใต้ชื่อปลอม และกลับเข้าสู่วงการมาเฟียระดับนานาชาติ ในเงามืดไม่ได้ใช้ชื่อเดิมไม่ได้ประกาศตัวแต่ทุกเครือข่ายของมาเฟียในยุโรปเริ่มขยับอย่างเงียบ ๆ เหมือนเงาของใครบางคน...กลับมายืนอยู่หลังม่านอีกครั้งจนวันหนึ่ง...เงาก็หายไปไม่มีข่าวไม่มีสัญญาณไม่มีใครรู้ว่า ซันมีชีวิตอยู่ หรือหมดสิ้นจากโลกใบนี้ไปแล้ว“เรย์จิไม่ได้พูดถึงเขาอีกเลย…”แต่บางคืนที่ลมแรง...เขาจะยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงคฤหาสน์ สายตาจ้องไปที่เมืองไกล ๆ เหมือนรอคนที่ไม่มีวันกลับมาอีก🐕🐕🐕🐕🐕🐕ด้านมินาเอะเมื่อสงครามจบลง และคฤหาสน์กลับสู่ความสงบ มินาเอะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะคนของตระกูลคุโรซาวะอย่างแท้จริงเธอเข้าคอร์สฝึกฝนกับ แม่ของเรย์จิ — หญิงผู้เป็นดั่งเงาหลังอาณาจักร ระเบียบเข้ม สายตาคม บทเรียนโหดแบบ ‘หากเจอศัตรู เธอจะรอดในหนึ่งวินาทีหรือไม่?’แต่แน่นอน...มินาเอะไม่
เงาไฟสีส้มกะพริบจากโคมไฟสนามลมแรงพัดเส้นสายไฟโยกไปมา เสียง ครืด...ครืด... เหมือนเสียงถอนหายใจของสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากสงครามกลิ่นสนิม โลหิต และควันดินปืน ตลบอบอวลในอากาศ ขมคอ...เหมือนความทรงจำที่ไม่สามารถกลืนลงหรือคายทิ้งได้เรย์จิ คุโรซาวะ ยืนอยู่ท่ามกลางเศษกำแพงที่พรุนจากกระสุน แสงกะพริบของไฟสะท้อนลงบนใบหน้าเปื้อนเลือดและเหงื่อมือขวาถือปืน กระบอกยังอุ่นจากการยิงก่อนหน้า เสื้อเชิ้ตสีดำมีรอยเลือดกระจายเป็นวง — ไม่รู้ว่าเป็นของใคร และอาจไม่สำคัญอีกแล้วแววตาเขา...เยือกเย็น ไม่ใช่เพราะไร้อารมณ์แต่เพราะ ต้องทำในสิ่งที่ไม่ควรต้องทำมากที่สุดในชีวิตไม่ไกล ซันยืนพิงเสาเหล็กที่หักโค้ง ใบหน้าซีด แต่ยังยิ้ม ผ้าพันแผลแน่นรอบแขนขวา รอยแตกที่ริมฝีปากยังมีเลือดไหลซึม แต่ดวงตา...ยังเต็มไปด้วยประกายกร้าวที่ไม่ยอมตาย“มาถึงตรงนี้ได้เร็วกว่าที่คิดนะ...เรย์จิ”“คิดจะมาส่งเพื่อนเก่าไปนรกด้วยตัวเองเลยหรือไง?”น้ำเสียงแหบพร่า แต่เจือด้วยรอยล้อเลียนที่แหลมคมจนแทงทะลุทุกเกราะเรย์จิไม่ตอบเขาก้าวเข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว ที่เหมือนพาอดีตทุกเสี้ยววินาทีเดินกลับเข้ามาภาพเพื่อนร่วมสนามฝึกภาพคนที่เคยหันหลัง
📍เวลา 06:02 น. — บริเวณโกดังหมายเลข 14, เขตท่าเรือร้างลมทะเลพัดกรูเข้ามาทางหน้าต่างเก่าเสียงคลื่นกระทบท่าเรือดังต่ำ ๆ คล้ายเสียงลมหายใจสุดท้ายของเมืองร้าง บนชั้นสองของโกดัง — ไม่มีใครอยู่ ยกเว้นเขาซันยืนพิงราวเหล็ก ฝ่ามือแตะหน้าต่างที่แตกเป็นรอย มองลงไปเบื้องล่าง — ลูกน้องกว่า 40 คนของเขา กำลังแทรกตัวเข้าตำแหน่งรอบเมืองอย่างเงียบเชียบ ราวกับ "ล้อมศูนย์บัญชาการไว้ในความเงียบ"เป้าหมายของเขา:ไม่ใช่ฆ่า ไม่ใช่เผา แต่คือ “ถล่มศูนย์กลาง” ให้ระบบคุโรซาวะล่มทั้งองค์กร — เหมือนการผลักโดมิโนตัวแรกให้พังตามเป็นเส้น“เริ่มเคลื่อนกำลังได้”เสียงของซันดังขึ้นผ่านวิทยุสื่อสาร น้ำเสียงสั้น หนัก และเด็ดขาด ทันใดนั้น...เงาเคลื่อนไหวของทีมซัน ก็ขยับพรึ่บพร้อมกันทั่วแผนแต่ในขณะเดียวกัน...📍ภายในห้องบัญชาการ – คฤหาสน์คุโรซาวะมินาเอะ ยืนอยู่หน้าหน้าจอหลัก ภาพแผนผังแสดงรูปแบบล้อมรอบของซันแบบชัดเจน —เส้นสีแดงกะพริบรายล้อมศูนย์กลางหลายคนอาจมองว่าเธอกำลังตกอยู่ในวงล้อม แต่แววตาของเธอ...กลับเยือกเย็น และคมเหมือนใบมีด“กับดักล้อมนอก...”“แต่ลืมว่าข้างใน...กำลังรออยู่”เธอแตะปลายนิ้วลงบนแท็บเล็ตเบา ๆ เส
📍ภายในห้องบัญชาการ – เวลา 05:16 น.แสงไฟบนเพดานสลัวลงอัตโนมัติเพื่อไม่รบกวนการทำงานของหน้าจอหลักจอมอนิเตอร์เรียงรายเต็มฝาผนังแสดงข้อมูลแบบ real-time ทั้งจากเส้นทางการขนส่ง โกดัง สัญญาณไวรัส และโค้ดที่เพิ่งถูกเจาะเสียงไซเรนเบา ๆ ยังดังเป็นคลื่นพื้นหลัง กดอารมณ์ในห้องให้ตึงเครียดทันใดนั้น—เสียงมือถือของเรย์จิดังขึ้น หน้าจอแสดง ‘สายตรงจากคิน’พร้อมรหัสภายในพิเศษ เขารับทันทีโดยไม่ต้องพูดคำทัก และเสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นทันทีตามสไตล์เจ้าตัว“ได้ตัวแล้ว”“และหมอนั่นพูดทุกอย่างที่เราต้องรู้”เสียงห้าวต่ำของคินฟังนิ่ง แต่จริงจัง“ซันรู้ว่าเราวางกับดัก...แต่มันกำลังจะใช้กับดักนั่น ‘ล้อมพวกเราทั้งหมด’ แทน”ปลายนิ้วของเรย์จิเกร็งแน่นกับขอบโต๊ะไม้ เสียงเขาลดต่ำลงโดยอัตโนมัติ ราวกับแรงดึงดูดของคำที่ได้ยินกำลังหนักขึ้นเรื่อย ๆ“หมอนั่นมันคิดจะล่อเราหลงทิศ…”“แล้วปิดเกมในครั้งเดียว?”...แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยความคิดใด ๆ ต่อไปเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง — ชัดเจน มั่นใจ แต่ทุ้มนุ่มแบบคนที่คิดเสร็จนานแล้ว แค่รอให้คนอื่นทันมินาเอะยืนพิงโต๊ะ มือหนึ่งถือแท็บเล็ต อีกมือไขว้หลัง ใบหน้าเรียบเฉย