หลังจากที่ฉัน ‘ยอม’ ให้มีลูกน้องมาเฟียตามอารักขาแทนการถูกจับไปอยู่คฤหาสน์ของเรย์จิ ฉันก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง…
…แต่ฉันคิดผิด!!!! 😱💀
วันรุ่งขึ้น
ฉันก้าวเท้าเข้าไปใน มหาวิทยาลัยไทระ อินโนเวชั่น (TIU) ตามปกติด้วยหัวใจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์เมื่อคืน
แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือ—
ฉันมีผู้ชายตัวโตใส่สูทดำสองคนเดินตามมาด้วย!!!! 😱💥
“......”
“......”
ทั้งมหา’ ลัยเงียบกริบไปสามวินาที ก่อนที่เสียงซุบซิบจะเริ่มดังขึ้นราวกับไฟลามทุ่ง!!!
“เห้ยๆๆๆ ดูนั่นดิ!?”
“นั่นมันมินาเอะนี่!? ทำไมมีบอดี้การ์ดเดินตามวะ!?”
“อย่าบอกนะว่าที่บ้านเป็นมาเฟีย!!?”
ม่ายยย!!! พวกแกเข้าใจผิดแล้วววว!!! 😱😭
ฉันพยายามเดินก้มหน้าก้มตา ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พูดตรงๆ เลยว่า—มันเป็นไปไม่ได้! 😵💫
ขนาดฉันแค่ขยับตัว นักศึกษาคนอื่นยังเหลือบมองด้วยสายตาตื่นเต้นสุดขีด ราวกับฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ หรือไม่ก็นักโทษที่เพิ่งแหกคุกมา!
“เฮ้ยๆๆ บอดี้การ์ดสองคนนั่นโคตรโหดอะ ดูดิ!”
“แม่งหล่อแบบหล่อดุๆ ด้วย! แต่แบบนี้แสดงว่า…มินาเอะซังเป็นลูกสาวมาเฟียจริง ๆ เหรอวะ!?”
ลูกสาวมาเฟียพ่องงง!!! 😱💀🔥
ฉันแทบอยากจะวิ่งหนีออกจากมหา’ ลัยไปซ่อนตัวอยู่ใต้กองดิน แค่วันแรกก็มีข่าวลือบ้าๆ แบบนี้แล้วเรอะ!?
ฉันเร่งฝีเท้าเดินไปที่คณะให้เร็วที่สุด หวังว่าถ้าเข้าห้องเรียนแล้ว ทุกอย่างจะสงบลง…
แต่เปล่าเลย…
ในห้องบรรยาย
พอฉันก้าวเข้าไป—
ห้องทั้งห้องเงียบกริบ!!!
แล้ว…
สายตาของเพื่อนทั้งคลาสก็มองฉันเป็นตาเดียวกัน 😱🔥
“...”
“...”
“เห้ยยย!! ทำไมแกมีบอดี้การ์ดฟะ!!!??”
เสียงของ อัยย์ เพื่อนตัวแสบของฉันแผดลั่นห้องทันที!!
บรรยากาศที่เงียบกริบเมื่อกี้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ทุกคนหันมาสนใจฉันแบบ เต็มๆ!
“ชู่ววว! แกเบาๆ หน่อยสิฟะ!” ฉันรีบลากอัยย์ให้นั่งลง ก่อนจะกระซิบเสียงเครียดสุดๆ
“ฉันอธิบายไม่ถูกอ่ะ… คือเรื่องมันยาว…” 😩
“เรื่องมันยาวบ้านแกสิ!” อัยย์ตบโต๊ะดังปังแล้วหรี่ตาใส่ฉัน
“แกอย่าบอกนะว่า—”
เธอขยับเข้ามาใกล้ แล้วลดเสียงลงเหลือแค่พอให้ฉันได้ยิน
“มันเกี่ยวกับ… ผู้ชายจากแอปเดตคนนั้น เรอะ!?”
สะ…สะดุ้งเฮือก!! 😨
ฉันเผลอสะดุ้งเล็กน้อย ซึ่งอัยย์จับสังเกตได้ทันที
“เห้ย…!?”
เธอเบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะคว้าตัวฉันเขย่าไปมาเหมือนฉันเป็นขวดน้ำอัดลมที่ยังไม่ได้เปิดฝา!
“อย่าบอกนะว่า…แกเป็นแฟนมันจริงๆ เรอะ!?!?” 😱🔥
ฉันกลืนน้ำลายเอื๊อก—ขอโทษนะอัยย์ ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เหมือนกัน!!!
ฉันค่อยๆ พยักหน้าเบาๆ แบบสโลว์โมชั่นสุดๆ ราวกับเป็นซีนหนังดราม่าหนักๆ
“...”
อัยย์ชะงักไปสามวินาที
จากนั้น…
“เฮ้ยยยยยยย!!! แกไปทำอิท่าไหนวะเนี่ยยยยย!!!?!?”
ฉันปิดหน้า ถอนหายใจยาว ๆ
“อัยย์… ฉันไม่รอดอะ…” 😭💀🔥
“เวรเอ๊ย!! แล้วทำไมต้องมีบอดี้การ์ดเดินตามแบบนี้ด้วยฟะ!?”
เสียงของอัยย์เพื่อนตัวแสบของฉันดังขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามล้านแปด เธอเหลือบมองชายฉกรรจ์สองคนที่ยืนกอดอกอยู่ไม่ไกลอย่างหวาดระแวง พวกเขาสวมสูทดำเนี้ยบ หน้าตาดุดันเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ ‘เฝ้าระวัง’ ตลอดเวลา
และพวกเขา… กำลังจ้องมองฉันอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เฮ้ยย! นี่ฉันจะกลืนน้ำลายยังต้องระวังเลยไหมฟะ!? 😱
ฉันพ่นลมหายใจออกอย่างปลงตก ก่อนจะพึมพำเสียงแผ่ว
“มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนไง…”
“ข้อแลกเปลี่ยน!?” อัยย์ขมวดคิ้ว
“ข้อแลกเปลี่ยนบ้าอะไรฟะ!?”
ฉันเหลือบมองซ้ายขวาก่อนจะกระซิบตอบ
“เพราะฉันไม่ย้ายไปอยู่บ้านเขา…”
อัยย์ทำหน้าเหวอทันที ก่อนจะตีไหล่ฉันดัง ป้าบ!
“โอ๊ยยย! แกไปคบกับตัวท็อปของวงการมาเฟียได้ไงฟะเนี่ย!!?!?”
“ฉันไม่รู้วววว!!!” 😭💥
ให้ตายเถอะ! ถ้าเวลาย้อนกลับได้ ฉันจะไม่มีวันยอมให้ไอ้แอปเดตบ้านั่นแมตช์ฉันกับ ‘เรย์จิ คุโรซาวะ’ แน่นอน!!!
“เออ แล้วมันเป็นมาเฟียแก๊งไหนฟะ!?” อัยย์เริ่มโหมดนักสืบทันที เธอหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมค้นข้อมูล
“แกบอกว่าชื่อ เรย์จิ คุโรซาวะ ใช่มั้ย?”
“ใช่…” ฉันพยักหน้า “แต่ว่า—”
ติ๊ก ติ๊๊ก ติ๊๊ก! (เสียงอัยย์พิมพ์มือถือเร็วระดับเครื่องจักร)
เฮ้ยยย! เดี๋ยว! นี่แกจะกูเกิ้ลชื่อแฟน (?) ฉันต่อหน้าฉันเลยเรอะ!? 😵💫🔥
ผ่านไปไม่ถึงสิบวินาที…
อัยย์ก็เงยหน้าขึ้นมองฉัน สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที จากที่ตื่นเต้นกลายเป็น… ซีดลงเล็กน้อย 😨💀
“มินาเอะ…”
ฉันเริ่มใจคอไม่ดี “อะไรฟะ?”
อัยย์กลืนน้ำลาย ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือมาให้ฉันดู
[เรย์จิ คุโรซาวะ – ทายาทตระกูลคุโรซาวะ ว่าที่หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในญี่ปุ่น]
[ฉายา: ‘มังกรดำแห่งคุโรซาวะ’]
[ผู้ที่ไม่มีใครกล้าต่อกร]
[ขึ้นชื่อเรื่องความโหด—]
โอ๊ยยยย! ฉันไม่อยากอ่านต่อแล้วโว้ยยย!!! 😱🔥
“แฟนแก…” อัยย์สูดลมหายใจลึก
“มันเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียจริงๆ ว่ะ!!!”
“ฉันรู้แล้วโว้ยยยย!!!” 😭
ฉันแทบจะฟุบลงกับโต๊ะด้วยความสิ้นหวัง
นี่มันอะไรกัน!? ฉันแค่อยากมีแฟนปกติ ไม่ได้อยากมาเป็นนางเอกมังงะแอ็กชันมาเฟียแบบนี้นะเว้ยยยย!!!
พรืด!!!
จังหวะนั้นเอง…
มือถือของฉันก็ดังขึ้น
📱 [สายเรียกเข้า: "เรย์จิ"]
“...”
ฉันกับอัยย์หันไปมองชื่อบนหน้าจอมือถือ พร้อมกัน และสีหน้าของพวกเราก็แข็งค้างไปทันที เหมือนโดนสตั๊นในเกม! 😨
“เห้ยๆๆ นี่มันโทรมาเช็กระยะไกลเลยเหรอวะ!?” อัยย์กระซิบเบาๆ
เฮือกกกกก!!! 😱💥
นี่มันสถานการณ์บ้าอะไรกัน!? ฉันเพิ่งนินทาหมอนี่ไปแค่ไม่กี่วินาทีเองนะ!!!
ฉันหันไปกระซิบกับอัยย์เสียงสั่น
“แกว่าฉันควรรับไหมฟะ…”
“รับเซ่!” อัยย์กระซิบกลับ
“ไม่งั้นแกอาจได้มีคนเพิ่มมาเดินตามอีกก็ได้!!”
เห้ยยย!!! 😱💀🔥
แค่สองคนฉันก็แทบแทรกแผ่นดินหนีแล้วนะโว้ยยย!!!
ฉันกลืนน้ำลาย รีบกดรับสายด้วยมือสั่น ๆ แล้วกรอกเสียงลงไปเบา ๆ
“ฮะ…ฮัลโหล?”
📱 “เธอถึงมหาวิทยาลัยแล้วสินะ”
เสียงทุ้มต่ำจากปลายสายทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก! เฮ้ย! นี่นายเช็กตำแหน่งฉันได้ด้วยเรอะ!?
“อะ…อืม ถึงแล้ว” ฉันตอบเสียงตะกุกตะกัก
“ดี”
“...อ่า แล้ว…” ฉันกลืนน้ำลาย
“นายโทรมามีอะไรเหรอ?”
ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่เรย์จิจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ไม่ได้มีอะไร”
“หา?”
“แค่โทรมาเช็กเฉยๆ”
“...เอ่อ…”
“ก็เธอเป็นแฟนฉันแล้วนี่”
“......”
ฉันค้างไปสามวิ ก่อนจะค่อยๆ หันไปกระซิบกับอัยย์เสียงแตกพร่า
“เฮ้ยย! นี่มันโทรมาเช็กฉันแบบแฟนหวงแฟนรึเปล่าวะ!!?”
อัยย์พยักหน้ารัวๆ อย่างตื่นเต้นสุดขีด
“เออออ!! แกเจอคนคลั่งรักเข้าแล้ววว!!”
ฉันแทบล้มทั้งยืน เห้ยยย!! นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม!? มาเฟียสุดโหดคนนี้มันเป็นพวกขี้หวงขนาดนี้เลยเรอะ!!! 😭💀🔥
แถม—
หมอนี่ใช้คำว่า ‘แฟนฉัน’ แบบโคตรลื่นไหลเลยอ้ะ!! 😵
โว้ยยย!!! ฉันขอลาออกจากตำแหน่งแฟน (?) ของมาเฟียได้ไหมเนี่ย!?!? 😭🔥
💘 คฤหาสน์คุโรซาวะ — หนึ่งปีหลังวันหมั้น☀️ เช้าที่แสนสงบเรย์จิ & มินาเอะ...ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่คือ “ผู้สร้างสมดุลใหม่” ให้โลกใต้ดิน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เริ่มต้นจากเกมบังคับ กลายเป็นสงครามหัวใจ และจบด้วยคำสัญญา...ที่ไม่ต้องเปล่งเสียงอีกต่อไปทุกเช้า—เรย์จิจะชงกาแฟให้เธอก่อนที่เธอจะตื่น มินาเอะจะวางแท็บเล็ตไว้ข้างแก้วเขา พร้อมแผนที่ปรับให้เรียบร้อยพวกเขา...พูดน้อยลง แต่เข้าใจกันได้ด้วยการเหลือบตาเพียงครั้งเดียว มือที่เคยประสานเพื่อจับปืน วันนี้ประสานเพื่อ “จับหัวใจของกันและกัน”👑 มินาเอะ — ราชินีของโลกใต้ดิน“มาเฟียควีน” ไม่ใช่คำล้ออีกต่อไป เธอคือหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หลักขององค์กร นั่งประจำเก้าอี้หัวโต๊ะขององค์กรคุโรซาวะที่เคยสงวนไว้ให้คนเดียวเท่านั้น...เรย์จิเธอสวมสูทเรียบหรู ส้นสูงเฉียบ แววตาคมแต่ยังเปล่งประกายแบบ ‘เนิร์ดตัวจริง’ ที่ใครก็ประมาทไม่ได้แต่วันนี้...เธอมีอำนาจต่อรองเหนือกว่ากระสุน เพราะมินาเอะรู้ว่า ศัตรูไม่ได้แพ้ด้วยปืน ...แต่มักแพ้ให้กับคำพูดที่เขาคิดว่าเราจะไม่กล้าพูด“เราไม่จำเป็นต้องรบกับทุกคนค่ะ ถ้าทำให้เขาอยากอยู่กับเรามากกว่ากลัวเรา”เสียงในห้องประชุมเงียบไป
📍 คฤหาสน์คุโรซาวะ – 6 เดือนหลังสงครามพระอาทิตย์ยามเย็นกำลังจะลับขอบฟ้า แสงสีทองอุ่น ๆ รินลงผ่านกระจกห้องโถงใหญ่ ทอดเงายาวลงบนพื้นไม้ขัดมันอย่างเงียบงาม ด้านหลังคฤหาสน์...สวนถูกเนรมิตขึ้นใหม่เพื่องานสำคัญที่สุด“พิธีหมั้นกลางแจ้ง”ที่ทุกคนร่วมกันเตรียม...เพื่อเธอคนเดียว ลานหญ้าถูกปูด้วยพรมทางเดินสีครีมอ่อน รายล้อมด้วยดอกกุหลาบขาวที่ปลูกลงดินจริงเรียงแถวละเมียดเส้นสายไม้โค้งเป็นซุ้มประดับผ้าโปร่ง และไฟ fairy light ที่เตรียมไว้ส่องเมื่อตะวันตกดิน ทุกอย่างถูกจัดวางด้วยความรัก...ไม่ใช่เพราะพิธี แต่เพราะคนที่ยืนอยู่ในพิธีนี้🎼 เครื่องดนตรีคลอเพลงคลาสสิกบรรเลงเบา ๆโน้ตแต่ละตัว...เรย์จิเคยเลือกมันเองจากร้านแผ่นเสียงเก่า ๆ กลางเมืองและที่ปลายเวที —ไทกะ เจ้าหมาชิบะอินุตัวแสบ ใส่โบว์สีงาช้าง-ทอง ยืนสง่าด้วยแท่นแหวนในปาก (หลังจากถูกมินาเอะ อัยย์ และทีมแม่บ้าน “ต่อรองด้วยขนม 7 แบบ” เกือบครึ่งวัน ถึงจะยอมถือ)...👰🏻♀️ มินาเอะ — ว่าที่เจ้าสาวอยู่ในชุดเดรสลูกไม้สีงาช้างที่แสนเรียบหรู แต่งดงามราวกับภาพฝัน ผมมัดครึ่งคลายลงมาเป็นลอนนุ่ม ประดับด้วยปิ่นเงินรูปผีเสื้อ ใบหน้ามีรอยยิ้มสั่นไหว — ไม่ใ
📍ด้านของซันหลังจากเหตุการณ์ล้อมศูนย์บัญชาการและการเผชิญหน้ากับเรย์จิที่โกดังร้าง ซันถูกปล่อยตัวกลับไป—ไม่ใช่เพราะเรย์จิอ่อนแอ แต่เพราะเขาตัดสินใจ ‘ให้ชีวิตกับความพ่ายแพ้’ มากกว่าความตายไม่กี่วันหลังจากนั้น...มีบางข่าวลือเล่าว่าเขาขึ้นเครื่องไปอิตาลีภายใต้ชื่อปลอม และกลับเข้าสู่วงการมาเฟียระดับนานาชาติ ในเงามืดไม่ได้ใช้ชื่อเดิมไม่ได้ประกาศตัวแต่ทุกเครือข่ายของมาเฟียในยุโรปเริ่มขยับอย่างเงียบ ๆ เหมือนเงาของใครบางคน...กลับมายืนอยู่หลังม่านอีกครั้งจนวันหนึ่ง...เงาก็หายไปไม่มีข่าวไม่มีสัญญาณไม่มีใครรู้ว่า ซันมีชีวิตอยู่ หรือหมดสิ้นจากโลกใบนี้ไปแล้ว“เรย์จิไม่ได้พูดถึงเขาอีกเลย…”แต่บางคืนที่ลมแรง...เขาจะยืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงคฤหาสน์ สายตาจ้องไปที่เมืองไกล ๆ เหมือนรอคนที่ไม่มีวันกลับมาอีก🐕🐕🐕🐕🐕🐕ด้านมินาเอะเมื่อสงครามจบลง และคฤหาสน์กลับสู่ความสงบ มินาเอะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะคนของตระกูลคุโรซาวะอย่างแท้จริงเธอเข้าคอร์สฝึกฝนกับ แม่ของเรย์จิ — หญิงผู้เป็นดั่งเงาหลังอาณาจักร ระเบียบเข้ม สายตาคม บทเรียนโหดแบบ ‘หากเจอศัตรู เธอจะรอดในหนึ่งวินาทีหรือไม่?’แต่แน่นอน...มินาเอะไม่
เงาไฟสีส้มกะพริบจากโคมไฟสนามลมแรงพัดเส้นสายไฟโยกไปมา เสียง ครืด...ครืด... เหมือนเสียงถอนหายใจของสถานที่ที่เต็มไปด้วยซากสงครามกลิ่นสนิม โลหิต และควันดินปืน ตลบอบอวลในอากาศ ขมคอ...เหมือนความทรงจำที่ไม่สามารถกลืนลงหรือคายทิ้งได้เรย์จิ คุโรซาวะ ยืนอยู่ท่ามกลางเศษกำแพงที่พรุนจากกระสุน แสงกะพริบของไฟสะท้อนลงบนใบหน้าเปื้อนเลือดและเหงื่อมือขวาถือปืน กระบอกยังอุ่นจากการยิงก่อนหน้า เสื้อเชิ้ตสีดำมีรอยเลือดกระจายเป็นวง — ไม่รู้ว่าเป็นของใคร และอาจไม่สำคัญอีกแล้วแววตาเขา...เยือกเย็น ไม่ใช่เพราะไร้อารมณ์แต่เพราะ ต้องทำในสิ่งที่ไม่ควรต้องทำมากที่สุดในชีวิตไม่ไกล ซันยืนพิงเสาเหล็กที่หักโค้ง ใบหน้าซีด แต่ยังยิ้ม ผ้าพันแผลแน่นรอบแขนขวา รอยแตกที่ริมฝีปากยังมีเลือดไหลซึม แต่ดวงตา...ยังเต็มไปด้วยประกายกร้าวที่ไม่ยอมตาย“มาถึงตรงนี้ได้เร็วกว่าที่คิดนะ...เรย์จิ”“คิดจะมาส่งเพื่อนเก่าไปนรกด้วยตัวเองเลยหรือไง?”น้ำเสียงแหบพร่า แต่เจือด้วยรอยล้อเลียนที่แหลมคมจนแทงทะลุทุกเกราะเรย์จิไม่ตอบเขาก้าวเข้ามาทีละก้าว ทีละก้าว ที่เหมือนพาอดีตทุกเสี้ยววินาทีเดินกลับเข้ามาภาพเพื่อนร่วมสนามฝึกภาพคนที่เคยหันหลัง
📍เวลา 06:02 น. — บริเวณโกดังหมายเลข 14, เขตท่าเรือร้างลมทะเลพัดกรูเข้ามาทางหน้าต่างเก่าเสียงคลื่นกระทบท่าเรือดังต่ำ ๆ คล้ายเสียงลมหายใจสุดท้ายของเมืองร้าง บนชั้นสองของโกดัง — ไม่มีใครอยู่ ยกเว้นเขาซันยืนพิงราวเหล็ก ฝ่ามือแตะหน้าต่างที่แตกเป็นรอย มองลงไปเบื้องล่าง — ลูกน้องกว่า 40 คนของเขา กำลังแทรกตัวเข้าตำแหน่งรอบเมืองอย่างเงียบเชียบ ราวกับ "ล้อมศูนย์บัญชาการไว้ในความเงียบ"เป้าหมายของเขา:ไม่ใช่ฆ่า ไม่ใช่เผา แต่คือ “ถล่มศูนย์กลาง” ให้ระบบคุโรซาวะล่มทั้งองค์กร — เหมือนการผลักโดมิโนตัวแรกให้พังตามเป็นเส้น“เริ่มเคลื่อนกำลังได้”เสียงของซันดังขึ้นผ่านวิทยุสื่อสาร น้ำเสียงสั้น หนัก และเด็ดขาด ทันใดนั้น...เงาเคลื่อนไหวของทีมซัน ก็ขยับพรึ่บพร้อมกันทั่วแผนแต่ในขณะเดียวกัน...📍ภายในห้องบัญชาการ – คฤหาสน์คุโรซาวะมินาเอะ ยืนอยู่หน้าหน้าจอหลัก ภาพแผนผังแสดงรูปแบบล้อมรอบของซันแบบชัดเจน —เส้นสีแดงกะพริบรายล้อมศูนย์กลางหลายคนอาจมองว่าเธอกำลังตกอยู่ในวงล้อม แต่แววตาของเธอ...กลับเยือกเย็น และคมเหมือนใบมีด“กับดักล้อมนอก...”“แต่ลืมว่าข้างใน...กำลังรออยู่”เธอแตะปลายนิ้วลงบนแท็บเล็ตเบา ๆ เส
📍ภายในห้องบัญชาการ – เวลา 05:16 น.แสงไฟบนเพดานสลัวลงอัตโนมัติเพื่อไม่รบกวนการทำงานของหน้าจอหลักจอมอนิเตอร์เรียงรายเต็มฝาผนังแสดงข้อมูลแบบ real-time ทั้งจากเส้นทางการขนส่ง โกดัง สัญญาณไวรัส และโค้ดที่เพิ่งถูกเจาะเสียงไซเรนเบา ๆ ยังดังเป็นคลื่นพื้นหลัง กดอารมณ์ในห้องให้ตึงเครียดทันใดนั้น—เสียงมือถือของเรย์จิดังขึ้น หน้าจอแสดง ‘สายตรงจากคิน’พร้อมรหัสภายในพิเศษ เขารับทันทีโดยไม่ต้องพูดคำทัก และเสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นทันทีตามสไตล์เจ้าตัว“ได้ตัวแล้ว”“และหมอนั่นพูดทุกอย่างที่เราต้องรู้”เสียงห้าวต่ำของคินฟังนิ่ง แต่จริงจัง“ซันรู้ว่าเราวางกับดัก...แต่มันกำลังจะใช้กับดักนั่น ‘ล้อมพวกเราทั้งหมด’ แทน”ปลายนิ้วของเรย์จิเกร็งแน่นกับขอบโต๊ะไม้ เสียงเขาลดต่ำลงโดยอัตโนมัติ ราวกับแรงดึงดูดของคำที่ได้ยินกำลังหนักขึ้นเรื่อย ๆ“หมอนั่นมันคิดจะล่อเราหลงทิศ…”“แล้วปิดเกมในครั้งเดียว?”...แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยความคิดใด ๆ ต่อไปเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง — ชัดเจน มั่นใจ แต่ทุ้มนุ่มแบบคนที่คิดเสร็จนานแล้ว แค่รอให้คนอื่นทันมินาเอะยืนพิงโต๊ะ มือหนึ่งถือแท็บเล็ต อีกมือไขว้หลัง ใบหน้าเรียบเฉย