ฉันแทบจะเป็นลมคาแขนเรย์จิอยู่แล้ว!!! 😱
ไม่ใช่แค่เพราะไอ้มาเฟียบ้านี่มัน ‘คลั่งรัก’ แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม…
แต่เพราะตอนนี้…
ฉันกำลังจะถูกเปิดตัวเป็น ‘แฟน’ ของเขาต่อหน้าแก๊งมาเฟียทั้งหมด!!!!! 😱
งานเลี้ยงของแก๊งคุโรซาวะ
ในห้องจัดเลี้ยงสุดหรูที่เต็มไปด้วยเหล่ามาเฟียระดับสูงที่แต่งตัวเนี๊ยบชนิดที่ฉันไม่กล้าหายใจแรง…
โคมไฟแชนเดอเลียระยิบระยับ ตกกระทบกับคริสตัลบนโต๊ะอาหาร บรรยากาศทั้งหรูหราและเต็มไปด้วยแรงกดดัน ราวกับฉันกำลังยืนอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่าที่พร้อมจะขย้ำทุกเมื่อ
และที่สำคัญ…
ฉันกำลังยืนจับมืออยู่กับ ‘หัวหน้าแก๊ง’ ที่โคตรจะอันตราย!!!!
“ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จัก…”
เสียงทุ้มต่ำของเรย์จิดังขึ้น พร้อมกับดวงตาคมกริบที่กวาดมองไปทั่วทั้งห้อง ออร่าเจ้าพ่อมาเฟียระดับสูงแผ่กระจายไปทั่วจนทุกคนต้องเงียบกริบ
ฉันรู้สึกถึงแรงกดดันจากมือที่จับฉันไว้…
เรย์จิกระชับมือฉันแน่นขึ้น ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“นี่คือแฟนของฉัน—”
“แค่แฟนเหรอครับ นายท่าน?”
!!!??? 😳💥💀
เสียงกวนๆ ดังขึ้นจากมุมห้อง ฉันหันไปมองก็เห็นว่าเป็นไอ้คินที่ยืนกอดอกยิ้มกริ่มอยู่!!!
“หืม?” เรย์จิเบือนสายตาไปมองคินที่ยังคงทำหน้ากวนประสาท
“ผมนึกว่าท่านจะแนะนำเธอว่าเป็น ‘เมีย’ ซะอีก”
คินพูดเสียงเรียบ...แต่น้ำเสียงแม่งโคตรกวนตีน!!!
“เห็นหวงขนาดนั้น”
พรืดดดดด!!!!!!!
ฉันแทบพ่นเลือดออกมา!
ไอ้บ้าาาาา!!! พูดอะไรออกมาฟะ!!!!
“เหอะ!” ฉันหันไปแยกเขี้ยวใส่คินทันที
“อย่ามากวนตีนฉันนะเว้ย!!”
“หืม?”
คินยิ้มกวนๆ พลางดันกรอบแว่นขึ้นเบาๆ (โอ๊ย! ฉันอยากจะปาแก้วไวน์ใส่หมอนี่!!!)
“ผมแค่พูดตามความจริง”
“ไอ้—!”
หมับ!
มือของเรย์จิกระชับแน่นขึ้นราวกับจะห้ามฉันไว้
“ฉันก็อยากจะแนะนำแบบนั้นอยู่หรอกนะ”
“!!??”
ฉันหันขวับไปมองหน้าเขาทันที
เฮ้ยๆๆๆ! ไอ้บ้านี่มันคิดอะไรอยู่ฟะ!!
ฉันยังคงช็อกสุดขีด หลังจากที่เรย์จิพูดประโยคทำลายระบบประสาทฉันไปเมื่อกี้!!!
“แต่กลัวว่าเธอจะเขินจนหนีไปก่อน” เรย์จิพูดต่อด้วยสีหน้าโคตรจริงจัง
“......”
ไม่ใช่ ‘กลัว’ แล้วโว้ยยย!!! ฉันอยากหนีจริงๆ แล้วววว!!!!
และก่อนที่ฉันจะทำอะไรได้—
“โฮ่ง!!” 🐶
เสียงเห่าของไทกะดังขึ้นทันที พร้อมกับที่มันเดินมาหยุดอยู่ข้างฉัน
…เอ่อ ไม่สิ มันเดินตามติดฉันแทบจะเงาตามตัวเลยต่างหาก!!!
ฉันหันไปมอง ก่อนจะเห็นเจ้าหมาตัวแสบยืนตัวตรง ดวงตาจ้องเขม็งไปทั่วงานราวกับกำลังประกาศว่า ‘เจ้าของข้าอยู่ตรงนี้!!!’
“เห้ยๆๆ! แล้วไอ้หมานี่มันเข้ามาในงานได้ไงฟะ!?” ฉันสะดุ้งเฮือก
“มันตามเธอมาเอง”
เรย์จิตอบหน้าตาย ราวกับเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ (เฮ้ย! นี่มันงานเลี้ยงมาเฟียนะเว้ย! ไม่ใช่งานโชว์สุนัข!!!)
“แต่นี่งานเลี้ยงนะเว้ย!!”
“แล้วไง?”
“ก็… มันควรอยู่ข้างนอกไม่ใช่เหรอ!?”
ฉันหันไปมองไทกะ ที่ตอนนี้กำลังนั่งลงข้างๆ ฉันอย่างสงบเสงี่ยม …แต่ตาของมันกลับจ้องคนรอบๆ ตัวฉันแบบพร้อมจะขย้ำสุดๆ!!!
โอ๊ยยย!! หมานี่มันคิดว่าฉันเป็นเจ้าของจริงๆ ไปแล้วใช่ไหมฟะ!!!
ฉันกำลังจะหันไปอ้อนวอน (?) ให้เรย์จิเอาหมานรกนี่ออกไปข้างนอกสักที แต่แล้ว—
“ฉันให้มันอยู่ข้างใน… เพราะมันต้องคอยดูแลเธอ”
เสียงเรียบๆ ของเรย์จิดังขึ้น น้ำเสียงนิ่งสนิท แต่กลับแฝงความอันตรายแปลกๆ
ฉันรู้สึกเหมือนอุณหภูมิในห้องลดลงไป 5 องศาในทันที!!!
“……”
“และถ้าใครคิดจะเข้าใกล้เธอโดยไม่ได้รับอนุญาต…”
“……”
“ฉันจะปล่อยมันกัด”
“!!!!!!!!!!”
เฮ้ยยย!!! ไอ้บ้านี่มันเอาหมามาขู่คนทั้งงานเลยเรอะ!!!
ฉันหันไปมองไทกะด้วยความสิ้นหวัง และแน่นอน…
มันกระดิกหางเบาๆ แต่ตาของมันยังคงจ้องแขกในงานเหมือนจะบอกว่า…
‘ใครแตะเจ้าของข้า = ข้าจะงับ!!!’ 🐶
ฉันแทบจะกรีดร้องออกมา โอ๊ยยย!!! ฉันไม่ต้องการบอดี้การ์ดเป็นหมาาาาา!!!!
“โอ๊ยยย! ไอ้หมาบ้า! เลิกทำตัวเหมือนเป็นบอดี้การ์ดฉันได้แล้ววว!!”
ไทกะกระดิกหาง แต่ยังคงทำหน้าเหมือนบอดี้การ์ดสุดเท่ของฉันต่อไป
…และที่แย่ที่สุดคือ—
“หึ…”
เสียงหัวเราะเบาๆ ของเรย์จิดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากของเขาที่โคตรจะเจ้าเล่ห์!!!
ให้ตายเถอะ!!!
ทั้งเจ้านายทั้งหมามันคลั่งรักขนาดนี้
ฉันจะหนีไปไหนได้อีกกกกก!!! 😱
ขณะที่ฉันกำลัง วุ่นวายกับไอ้หมาไทกะ ที่ทำตัวเป็นบอดี้การ์ดเกินเบอร์…
ฉันก็เหลือบไปเห็นภาพที่ทำให้ฉันต้องหันขวับ!!!
“เฮ้ย! พวกแกสองคนยืนทำอะไรฟะ!?”
ฉันอ้าปากค้าง เมื่อเห็นคินกับอัยย์กำลังยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ!!!
“…”
“……”
ความเงียบแปลกๆ ปกคลุมระหว่างสองคนนี้
บรรยากาศรอบข้างราวกับตกอยู่ในมิติส่วนตัว เหมือนพวกเขากำลังคุยกันผ่านจิตวิญญาณ (?) โดยไม่ต้องใช้คำพูด!!!
“ฉันแค่แปลกใจ”
เสียงเรียบๆ ของคินดังขึ้นก่อน
“แปลกใจอะไรอีกล่ะ?”
อัยย์ขมวดคิ้ว ใบหน้ายังคงมีท่าทางหงุดหงิดตามสไตล์เธอ แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
“เธอสวยกว่าที่ฉันคิด”
“พรืดดดด!!!”
เฮ้ยๆๆๆ!!! ทำไมไอ้คินมันพูดเหมือนพวกพระเอกซีรีส์วะ!!!
“ปกติฉันไม่ค่อยเห็นเธอแต่งตัวจัดเต็มแบบนี้”
คินยิ้มบางๆ สายตาที่มองอัยย์เหมือนกำลังสำรวจรายละเอียดของเธออย่างตั้งใจ…
โอ๊ยยย!!! หมอนี่มันพูดจริงหรือกวนประสาทฟะเนี่ย!!!
อัยย์สะดุ้งไปเสี้ยววินาที…
ก่อนจะรีบสะบัดหน้าหนี แต่ว่า… แก้มของเธอแดงแปร๊ดเป็นมะเขือเทศไปแล้ว!!!!
“หุบปากไปเลย!”
“หืม… เขินเหรอ?”
เสียงของคินเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์!!!
“ฉันไม่เขินเว้ย!!!”
“หึ…”
และในจังหวะนั้นเอง—
คินโน้มตัวเข้าไปใกล้อัยย์… ใกล้มากจนแทบจะกระซิบข้างหูเธอ!!!
“เขินจริงๆ แหละ ดูก็รู้”
“!!!!!!”
อัยย์ชะงักตัวแข็งเป็นหิน ใบหน้าที่แดงอยู่แล้ว กลายเป็นระเบิดสีแดงเข้มระดับแม็กซ์!!!
เฮ้ยยย!!! ทำไมฉันรู้สึกว่าอัยย์กำลังจะต่อยคินฟะ!!?
อัยย์กะพริบตาถี่ๆ เหมือนกำลังประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตัวเอง…
ก่อนที่เธอจะสะบัดหน้าพรืดออกมา อย่างคนที่กำลังหนีความจริงสุดชีวิต!!!
“เหอะ!”
“ฉันแค่รำคาญนายเฉยๆ!”
“แล้วทำไมหน้าแดง?”
คินยังคงยิ้มกวนๆ หน้าตายสุดๆ
“เพราะอากาศร้อนเฟ้ย!!”
“แอร์ในนี้ 20 องศา”
“ไอ้—!!!” 😡
โอ๊ยยยย!!! ไอ้สองคนนี้มันกัดกันน่ารักเกินไปแล้วววว!!!
ฉันที่ยังมึนกับเหตุการณ์ระหว่าง ‘ไอ้หมานรกไทกะ’ กับ ‘คู่กัดสุดฟิน’ อย่างคินกับอัยย์
ก็รู้สึกได้ว่า…
เรย์จิกำลังจ้องฉันอยู่
ฉันกลืนน้ำลายเอื๊อก รู้สึกได้ถึงแรงกดดันล่องหนที่หนักขึ้นเรื่อยๆ
ฉันค่อยๆ หันไปมองเขาช้าๆ …
…และก็พบว่า เขายืนอยู่ใกล้กว่าที่คิด ดวงตาคมสีนิลกำลังจ้องฉัน แบบโคตรจริงจัง!!!
“…อะไรฟะ?”
ฉันถามอย่างระแวงสุดๆ (เฮ้ย! อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้มั้ยวะ!!!)
เรย์จิไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่จ้องฉันนิ่งๆ
สายตาอ่านไม่ออกแบบนั้น ทำให้ฉันเริ่มลนลานขึ้นมาแปลกๆ!!!
“…ฉันดีใจนะ”
“หา?”
“ที่เธอยอมมา”
“!!!!”
ฉันสะดุ้งเฮือก— หัวใจเต้นกระตุกวูบอย่างไม่มีเหตุผล!!!
เขายังคงจ้องฉันนิ่งๆ ไม่กะพริบตา ราวกับต้องการให้คำพูดของเขาฝังลึกเข้าไปในใจฉัน
“ฉันนึกว่าเธอจะหาทางหนีไปซะก่อน”
น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ฟังดูโคตรลึกซึ้ง...
ฉันรีบสะบัดหน้าหนี พยายามจะไม่ให้ตัวเองเผลอไหลไปกับคำพูดของหมอนี่อีกแล้ว!!!
“ฉันก็อยากหนีอยู่หรอก!” ฉันเบะปาก ก่อนจะทำหน้ามุ่ยสุดชีวิต
“แต่ติดที่ว่าฉันไม่มีทางรอดจากนายไง!”
ฉันพูดไปกอดอกไป โอ๊ย! คนบ้าอะไรคลั่งรักขนาดนี้ฟะ!!!
“ดีแล้ว”
เรย์จิพูดเสียงเรียบ
ก่อนที่ฉันจะตั้งตัวได้—
เขาโน้มตัวลงมาใกล้… ใกล้มาก… ใกล้จนฉันได้กลิ่นน้ำหอมโทนเย็นเฉียบจากตัวเขา!!!
เฮ้ยๆ ๆ!!! ใกล้ไปแล้วโว้ยยย!!!
…และก่อนที่ฉันจะกระโดดหนี—
ริมฝีปากของเขาก็กระซิบที่ข้างหูฉัน
“เพราะฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่”
“!!!!!!!!!!!”
โลกทั้งใบของฉันสั่นสะเทือนเป็นริกเตอร์ 9.5!!!
หัวใจฉันแทบหยุดเต้น ใบหน้าร้อนฉ่าราวกับถูกไฟเผา!!!
ฉันรีบดีดตัวออกห่างสุดแรง!!!
เฮ้ยยย!!! มาเฟียบ้านี่มันคลั่งรักเกินไปแล้วววว!!!
ขณะที่พวกเรายืนคุยกันอย่างปกติ แต่สายตาคนรอบข้างมันโคตรจะไม่ปกติ!!!ฉันรู้สึกได้ว่า…ตอนนี้พวกเราดูเหมือน ‘คู่รักมาเฟียที่รักกันสุดๆ’ ในสายตาของทุกคนในงาน!!!เฮ้ยๆ ๆ ๆ!! ไอ้บ้าเรย์จิ! แค่จับมือฉันไว้แบบนี้มันก็เป็นข่าวฉาวในวงการมาเฟียได้แล้วไหมฟะ!!!ในจังหวะนั้นเอง—“โอ้ น่าเสียดายจริงๆ นะครับ คุณเรย์จิ”!!!??? 😳เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยแรงกดดันดังขึ้นจากอีกฝั่งของห้องจัดเลี้ยงฉันรีบหันไปมอง…และก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากผู้ชายในชุดสูทเนี้ยบแต่โคตรน่ากลัว ยืนขนาบข้างด้วย ลูกน้องชุดดำหลายคน!!!เขามีสายตาแบบนักล่า… แผ่ออร่าอันตรายเต็มพิกัด!!!ข้างๆ เขามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่…เธอสวยมาก…ผมดำยาวสลวย ดวงตาคมเย็นชา ใส่ชุดเดรสรัดรูปดูหรูหราแต่ปัญหาคือ —แต่สายตาที่เธอมองฉัน โคตรจะน่าขนลุก!!!“โอ้…”เสียงกระซิบข้างหูดังขึ้น ฉันหันไปมอง ก็พบว่าอัยย์กำลังทำตาเป็นประกายวิบวับ“ฉันได้กลิ่นสงครามล้าววว”“ไม่ต้องพูดเลยนะเว้ยยย!!!” ฉันกระซิบกลับไปทันทีฉันอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้แล้วโว้ยยย!!! ทำไมฉันต้องมาเป็นตัวเอกในสงครามนางร้าย (?) มาเฟียด้วยฟะ!!!เรย์จิหรี่ตามองผู้ชายตรงหน้าเล็กน้อย ก
หลังจากงานเลี้ยงสุดอลหม่านจบลง…ฉันคิดว่าฉันจะได้กลับบ้านไปนอนกอดจอยเกมแบบสงบสุขเสียที…แต่เปล่าเลย!!🚗 บนรถหรูของเรย์จิฉันนั่งข้างเรย์จิ ส่วนอัยย์กับคินนั่งข้างหลังรถคันนี้มันหรูเกินไป!!เบาะหนังนุ่มสุดๆ แถมยังมีไฟในรถโทนสีอุ่นๆ ให้บรรยากาศเหมือนหนังมาเฟียสุดหรู...แต่ปัญหาคือ...ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมาเฟียไปด้วยแล้วโว้ยยย!!“เฮ้อออ!! ในที่สุดก็จบซะที!”เสียงบ่นแบบหมดพลังของอัยย์ดังขึ้นจากเบาะหลังเธอบิดขี้เกียจสุดชีวิต แล้วเอนตัวพิงเบาะเหมือนคนที่ผ่านสงครามโลกมา“ฉันว่าฉันหมดแรงไปหมดละ!”“อืม” คินพยักหน้า “วันนี้เธอก็ดูตื่นเต้นดีนะ”“เฮ้ยๆๆ!! อย่ามาพูดเหมือนฉันสนุกกับงานเลี้ยงมาเฟียสิวะ!”อัยย์หันไปแยกเขี้ยวใส่คินแบบไม่ไว้หน้า“หืม?” คินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย“ดูเธอจะชอบเวลาทะเลาะกับฉันนะ”“ไอ้—!!”!!!???โอ๊ยยย!! พวกมันกัดกันอีกแล้วววว!!ฉันหันไปมอง เรย์จิ ที่นั่งข้างๆ … หมอนี่หลับตาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่แต่แล้ว…เสียงเขาก็ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย“ดึกมากแล้ว” เรย์จิพูดขึ้น“คืนนี้พวกเธอค้างที่บ้านของฉันเถอะ”“......”“ห๊าาาาาาา!?!?!”ฉันเบรกตัวเองจนแทบจะพุ่งออกนอกหน้า
หลังจากที่ฉันถูกบีบให้เลือกระหว่าง ‘นอนกับเรย์จิ’ หรือ ‘นอนกับไทกะ’...ฉันก็—“ฉันจะนอนกับไทกะ!!!!”ฉันประกาศลั่นแบบไม่ลังเล!!!ยังไงก็ไม่นอนกับไอ้มาเฟียบ้านี่เด็ดขาด!!!…แต่เหมือนฉันจะลืมไปว่า…ไทกะเป็นหมาของใครและไอ้เจ้าของหมานี่...มันโคตรเอาแต่ใจ!!!!!คฤหาสน์คุโรซาวะ – ห้องนอนสุดหรู“เฮ้ย! เดี๋ยวสิวะ!! ทำไมฉันต้องมานอนที่นี่!!!??”ฉันยืนตัวแข็งอยู่กลางห้องนอนสุดหรูระดับโรงแรมห้าดาวของคฤหาสน์คุโรซาวะ!!!???แชนเดอเลียร์ระยิบระยับ โซฟากำมะหยี่สุดแพง วิวจากระเบียงที่มองเห็นเมืองทั้งเมือง—นี่มันห้องนอนมาเฟียหรือเพนต์เฮาส์เวกัสฟะ!!!?แต่ที่ทำให้ฉันช็อกกว่าอะไรทั้งหมดคือ…เรย์จิถอดสูทออกแล้ว!!!…และกำลัง ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบน!!!!!!???“หืม?”เขาหันมามองฉันนิ่งๆ ก่อนจะพูดหน้าตาย“เธอเป็นแฟนฉัน นอนกับฉันก็ถูกแล้ว”“ไอ้มาเฟียบ้าาาาาาา!!!!”“เธอบอกจะนอนกับไทกะ แต่มันนอนที่ห้องฉัน”“!!!!”พรืดดดดดด!!! ฉันแทบล้มทั้งยืน!!!นี่มันแผนของหมากับเจ้าของใช่มั้ยฟะ!!!!?“ทำหน้าตกใจทำไม?” เรย์จิปรายตามองฉันก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียงซึ่งใหญ่มากกกกกก!!!นี่มันเตียงระดับ VIP ที่นอนได้ 4 คนสบายๆ!!!โอ
🖤 [Part พิเศษ – ความในใจของเรย์จิ]ในห้องนอนเงียบสงัดภายใต้แสงไฟสลัวนวลอุ่นที่ไล้ผนังห้องหรูไปอย่างเนิบช้าร่างบางของมินาเอะนอนหลับอย่างสงบเธอขดตัวเล็กๆ อยู่ในอ้อมกอดของชายที่เธอทั้งหวาดกลัวและ...อาจกำลังเริ่มวางใจแต่เรย์จิ—มาเฟียหนุ่มผู้เป็น ‘มังกรดำแห่งคุโรซาวะ’ คนนี้...กลับยังไม่หลับไม่ใช่เพราะเสียงรบกวน ไม่ใช่เพราะคิดเรื่องงาน ไม่ใช่เพราะระวังภัย…แต่เพราะคืนนี้ผู้หญิงที่เขารักอยู่ข้างกายเขาจริงๆ เป็นครั้งแรกเขาหลุบตามองใบหน้าเล็กๆ ที่ซุกอยู่ตรงอกแกร่งของเขาอย่างแผ่วเบาสายตาคมเย็นที่ใครๆ ต่างหวาดกลัว—ในเวลานี้กลับอ่อนโยนจนน่าตกใจมือใหญ่เลื่อนขึ้นไปอย่างช้าๆปลายนิ้วไล้เส้นผมนุ่มของเธอราวกับกลัวจะทำให้ตื่น“เธอ… ช่างอันตรายเหลือเกิน”เขาคิดในใจอย่างเงียบงัน…ไม่ใช่อันตรายเพราะเธอถือปืนแต่เพราะเธอถือ ‘หัวใจเขา’ ไว้โดยไม่รู้ตัวเรย์จิเคยผ่านผู้หญิงมากมายเคยนอนกับผู้หญิงทุกคน...โดยไม่รู้สึกอะไรแต่คืนนี้กลับต้อง…อดทนและมากกว่านั้น…ห้ามใจตัวเองแทบตาย“ฉันไม่อยากให้เธอเกลียดฉัน”เสียงในใจเขาเอ่ยเบา ๆถ้าเป็นเมื่อก่อน—เขาคงจะไม่ลังเลแม้แต่นิดจะกอดแรงๆ จะจูบ จะครอบครองอย
ในค่ำคืนที่ไม่สงบ (เลยสักนิด)“เฮ้ย!! ออกไปนะเว้ย!!”เสียงโวยวายของอัยย์ดังลั่นห้องขณะที่เธอยืนชี้นิ้วกราดใส่คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเหมือนเดินเข้าห้องตัวเอง“นี่มันห้องฉัน!!”และไอ้คนหน้าด้านคนนั้น—ก็คือคิน มือขวาแห่งแก๊งคุโรซาวะ ผู้มีหน้าตาหล่อเนี๊ยบ กวนตีนขั้นโปร…ที่ตอนนี้กำลังยืนกอดอกในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนสุดเท่ แล้วกวาดตามองห้องอย่างสบายใจสุดชีวิต“จริงเหรอ?” คินเอียงคอนิดๆ“ประตูมันเปิดถึงกันง่ายขนาดนี้… แสดงว่าเป็นห้องคู่ของคนสนิทนะ”“ไม่มีคำว่า ‘คนสนิท’ โว้ย!!!”อัยย์หน้าแดงแปร๊ด! ทั้งเพราะโกรธและเพราะ—เขาอยู่ใกล้เกินไป!!“แต่นายท่านเรย์จิจัดห้องให้แบบนี้เองนะ” คินผลักแว่นขึ้นอย่างเท่ๆ ก่อนพูดต่อเสียงเรียบ“จะให้ฉันไปนอนโซฟาแข็งๆ ก็ใจร้ายไปหน่อยนะ”“ใจร้ายตรงไหน! นายมันมาเฟียนะเว้ย!!!”“ฉันเป็นบอดี้การ์ดของเธอด้วยนะ”เสียงนิ่งๆ แฝงความเจ้าเล่ห์ ทำเอาอัยย์อยากเอาหมอนฟาดหัวเขาให้รู้แล้วรู้รอด!แล้วเขาก็…เดินดุ่มๆ ไปวางหมอนอีกใบลงบนเตียงของเธอราวกับว่าเป็น ‘ห้องของตัวเอง’ ตั้งแต่ชาติปางก่อน!!!🛏️ สมรภูมิเตียงที่ไม่มีใครยอมใคร!?“หยุดเลยนะ!!”อัยย์รีบคว้าหมอนมากั้นไว้ตรงกลาง
แสงแดดนวลอ่อนยามเช้า ส่องลอดผ้าม่านสีขาวบางเบาเข้ามาแตะผิวแก้มของฉันอย่างแผ่วเบา ราวกับจะปลุกให้ลืมตาตื่นขึ้นมาสู่เช้าวันใหม่ที่สงบ…...ถ้าหากมัน สงบจริง ๆ น่ะนะแต่ปัญหาคือ—ฉันไม่ได้ตื่นมาพร้อมนอนอยู่คนเดียวบนเตียง!!!!ฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียสุดหล่อ!!!ฉันรู้สึกตัวตื่นแบบงัวเงีย…สิ่งแรกที่ฉันเห็นทันทีที่ลืมตาคือ…ใบหน้าของเรย์จิอยู่ใกล้ฉันแบบระยะประชิด!!โคตรใกล้! ใกล้ชนิดที่ลมหายใจของเขาระบายมาโดนหน้า!กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเขาทำฉันมึนไปสามวิจมูกโด่งเรียว… ขนตายาวระริก… และริมฝีปากที่แนบสนิทแต่ที่ช็อกกว่าคือ…แขนของเขา กำลังโอบเอวฉันแน่นแบบไม่ยอมปล่อย!!!!“ว๊ากกกกกกกก!!!!”ฉันร้องลั่นแบบไม่รู้ตัว พร้อมดิ้นพรวดถอยหนีจากอ้อมกอดตุ้บ!“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!!! เจ็บบบบ!!!”ฉันลงไปกองอยู่บนพรมหนานุ่มข้างเตียง กุมก้นตัวเองด้วยสีหน้าสิ้นหวังพอเงยหน้ามองขึ้นไปบนเตียง—เรย์จิก็ลืมตาพอดีเขายกตัวลุกขึ้นช้า ๆ สายตายังดูง่วงนิดๆ แต่…ก็โคตรหล่อใบหน้าเงียบขรึมของเขาหันมามองฉันที่กำลังนั่งงออยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง“หืม… ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำถามเบาๆ“นาย!!! นายกอดฉ
สถานที่: คฤหาสน์คุโรซาวะ – เวลา 14:48 น.บ่ายวันหนึ่ง ที่ควรสงบเหมือนทุกวันในรั้วคฤหาสน์มาเฟีย…แต่ทันใดนั้น—เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ดังขึ้นจากรั้วหน้าวรู๊มมมมมมมมมมมมมมมม—!!เสียงท่อแต่งของมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมกระแทกโสตประสาทอย่างจังรถยนต์กันกระสุนของแก๊งคุโรซาวะที่จอดอยู่เรียงรายถึงกับสั่นสะเทือนเล็กน้อยตามจังหวะเบรกหัวทิ่มของขบวนชายหนุ่มที่ขี่นำ ถอดหมวกกันน็อกอย่างช้าๆผมสีเงินซีดถูกลมตีปลิวพลิ้วเบาๆ เหมือนฉากเปิดตัวของวายร้ายที่สาวๆ พร้อมจะตกหลุมรักในทันทีนัยน์ตาสีอำพันทอแสงแหลมคม—เหมือนเหยี่ยวที่มองเป้าหมายแม้จะอยู่ไกลหลายไมล์ซัน… เดินอย่างไม่เร่งรีบ ท่ามกลางสายตาระแวดระวังของบอดี้การ์ดเกือบสิบชีวิตเขายกมือขึ้นเหมือนจะบอกว่า ‘ใจเย็น’แต่รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้น… กลับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบอกว่า ‘ถ้ายิงมา… ฉันจะสวนหมด’เสียงกระซิบของคนเฝ้าระวังดังในวิทยุ:“บุคคลตรงหน้า…คือ ‘วายุ ซัน’ หัวหน้าแก๊งวายุ ย้ำ—หัวหน้าแก๊งวายุ กำลังเข้าพื้นที่!!”💥 [Flashback สั้น]📍 หลายปีก่อน - ในวงล้อมการฝึกงานของโลกใต้ดินเรย์จิ และ ซัน เคยยืนเคียงข้างกัน—ไม่ใช่เพราะศรัทธา แต่เพราะผลประโยช
ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่วโต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว“นี่มันอะไรกันฟะ…”ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัวแต่ปัญหาคือ—ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆและที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้าพร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”“โฮ่ง~”มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”เงียบบบบ!!
ด้านของซัน| สถานที่ลับแถบชายแดนกลิ่นยาฆ่าเชื้อแรงฉุนแตะจมูกจนแสบจมูกเสียงเครื่องวัดชีพจรดัง ‘ติ๊ก…ตัก… ติ๊ก…ตัก…’ อย่างสม่ำเสมอ ห้องพยาบาลขนาดเล็กในโกดังร้างที่ชายแดนถูกปรับให้กลายเป็นห้องพักฟื้นชั่วคราว แสงไฟฟลูออเรสเซนส์กะพริบแผ่วเบา ทำให้ทั้งห้องดูซีดเซียวเหมือนผู้ป่วยที่นอนอยู่ในนั้นร่างของซันนอนพิงหัวเตียง แขนข้างที่เคยถูกกระสุนเจาะพันผ้าแน่นหนา สีหน้าซีดเผือดจากพิษไข้และบาดแผล เสื้อนอนเปิดแง้มเผยให้เห็นรอยฟกช้ำตลอดลำตัว ราวกับเพิ่งผ่านนรกมาแต่…“ตึก…ตัก… ตึก…ตัก…”หัวใจของเขายังเต้นแรง และแววตาของเขา…ยังสว่างวาบ ไม่ใช่เพราะไฟบนเพดาน แต่เพราะเพลิงแค้นที่ยังเผาอยู่ในอกประตูเหล็กเปิดออก พร้อมเสียงบานพับลั่นเบา ๆชายแว่นในชุดสูทดำก้าวเข้ามาอย่างเงียบกริบ ท่าทางเหมือนคนเคยผ่านการอยู่ใกล้คนอารมณ์อันตรายมาเป็นร้อยรอบ“ร่างกายคุณฟื้นตัวได้เร็วเหมือนเดิมนะครับ” เขารายงานเสียงเรียบ สายตาไม่กล้าประสานตรง“ “แต่…ตอนนี้แก๊งพันธมิตรหลายกลุ่ม เริ่มหันหลังให้เราแล้วครับ”“ข่าวคุณแพ้เรย์จิ...มันแพร่ไปไกลกว่าที่คาด”ซันหัวเราะในลำคอ เสียงแหบแห้ง แต่เย็นเฉียบจนเหงื่อเย็นผุดหลังคอผู้รายงาน“ก็
หนึ่งเดือนผ่านไปบนเกาะคุโรซาวะ เวลาที่เคยเหมือนลอยผ่านอย่างช้า ๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นจังหวะของลมหายใจเพราะทุกเช้า...มีเสียงปืนฝึกทุกเย็น...มีเหงื่อไหลบนแผ่นหลังและทุกค่ำคืน...มีเสียงหัวใจที่เต้นแรงกว่าเก่ามินาเอะ—เด็กสาวจอมเนิร์ดที่คอยเอาแต่จับจอยเกมแทบไม่ยอมออกกำลังกายให้เปลืองพลังงานวันนี้กลับยืนหอบเบา ๆ ในชุดเทรนนิ่งรัดรูป เสื้อพับแขนเอวลอยแนบเข้ากับร่างเพรียวกระชับ ผมถักเปียครึ่งหัวแบบลวก ๆ หยาดเหงื่อไหลซึมตามไรผม...แต่ในแววตาของเธอมีแต่ความมั่นใจปัง! ปัง! ปัง!เสียงกระสุนปลอมจากปืนฝึกดังก้องกลางลานหิน เป้าจำลองตรงต้นไม้เบื้องหน้า...ถูกยิงเข้ากลางจุดทุกนัดอย่างแม่นยำ“เข้ากลางเป้า 6 นัดรวด”เสียงทุ้มของเรย์จิดังขึ้นจากด้านหลัง เขายืนพิงต้นไม้ แขนกอดอก มองเธออย่างเงียบ ๆในดวงตาคมคู่นั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป…บางอย่างที่เรียกว่า ‘ความภูมิใจ’“ถ้าเป็นเกม...เธอคงได้เพอร์เฟกต์คอมโบแล้วล่ะ”มินาเอะหันขวับ ยิ้มกว้างไม่เกรงใจบอสมาเฟียแม้แต่น้อย“ถ้าฉันยิงพลาด…ฉันก็ไม่คู่ควรเป็น ‘เมียบอส’ หรอกเนอะ~”เรย์จิเลิกคิ้วน้อย ๆ รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นที่มุมปากอย่างห้ามไม่ได้“พูดแบบนี้…ระวังโดนลากไป
ลมทะเลยามเย็นพัดเอื่อยท้องฟ้าสีทองละมุนระบายเส้นขอบฟ้า เงาของคลื่นสะท้อนประกายกับเสี้ยวแสงสุดท้ายเรย์จิมองใบหน้าของมินาเอะเงียบ ๆ ขณะที่เธอยังหลับตาอยู่ หลังจากจูบที่เต็มไปด้วยความแผ่วเบาแต่นุ่มลึก เขาไม่พูดอะไร แค่มองเธออย่างเงียบงัน…ราวกับกำลังจดจำเธอในช่วงเวลานี้เมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอเจอสายตาของเขา นิ่ง ลึก และอบอุ่นเกินกว่าจะต้าน เขาเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่น สอดนิ้วเข้ากับมือเธอช้าๆ“เข้าห้องกันเถอะ...”คำพูดธรรมดา แต่เสียงของเขาทำให้เธอหัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิด เธอพยักหน้าเบาๆ…โดยที่รู้ดีว่าการเข้าห้องครั้งนี้ จะไม่มีคำว่า ‘นอน’✩₊˚🧸.⋆☾⋆⁺₊💤✧ห้องพักสว่างด้วยแสงสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง ผ้าม่านไหวเบา ๆ รับลมจากทะเล และเสียงคลื่นไกล ๆ …คือเพียงพื้นหลังของค่ำคืนที่กำลังจะเริ่มต้นเรย์จิยืนอยู่ตรงหน้าเธอ มือเขาเอื้อมมาปลดกระดุมเสื้อของเธออย่างช้า ๆ ไม่มีความเร่งรีบ ไม่มีความหยาบ มีเพียงสายตาที่มองเธอเหมือน…เธอคือสิ่งที่เขาอยากทะนุถนอมที่สุดเมื่อเสื้อเชิ้ตตัวบางของเธอหลุดจากไหล่ เขาก็ก้มลงจูบซอกคอเบา ๆ สัมผัสของเขานุ่ม…แต่แฝงด้วยความวาบหวามที่ทำให้ขาเธอสั่น“ฉันจะไม่รีบ” เขากระซิบ“
เสียงเรือห่างออกไปทีละน้อย ละอองน้ำที่ฟุ้งจากแรงใบพัดยังลอยค้างอยู่กลางอากาศ เหมือนฝันร้ายที่ยังไม่จางแต่สำหรับเรย์จิ…นั่นไม่ใช่ฝันเลยมันคือ “เรื่องจริง” ที่เขาจะไม่ลืม“ซัน…!!”เสียงตะโกนสุดแรงถูกคลื่นแม่น้ำกลืนหายไปอย่างเย็นชาเรย์จิกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นขมับ ดวงตาแดงก่ำ สั่นด้วยโทสะที่ไม่อาจระบาย และความเจ็บที่กัดกินอยู่ข้างในเขาไม่ได้แค่โกรธ—เขาเจ็บ…และเขาแค้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นถี่ๆ ก่อนที่คินจะโผล่พรวดเข้ามาทางระเบียง พร้อมลูกน้องอีกสองคนเขาชะงัก เมื่อเห็นเรย์จิยืนอยู่คนเดียว เงียบ…และทรงพลังเหมือนภูเขาที่พร้อมจะถล่ม“บอส…”“เขาหนีไปได้”เสียงเรย์จิพูดเบา แต่เย็นจัด ราวกับถูกกลั่นมาจากก้นบึ้งของความอดกลั้น น้ำเสียงนั้น…เหมือนจะนิ่ง แต่กลับแฝงแรงระเบิดที่ยังไม่ถูกจุด“เขาหนีไปทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ตรงนั้น”“ทั้ง ๆ ที่เธออยู่ตรงนั้น…”คินไม่ตอบ เขาเข้าใจ เพราะถ้าเป็นเขา…เขาก็คงคลั่งเหมือนกัน“ล่าเลยไหมครับ?”คำถามเบา ๆ ถูกเปล่งออกด้วยน้ำเสียงของลูกน้องที่พร้อมลุยทันทีแต่เรย์จิกลับส่ายหน้า ก่อนจะพูดช้า ๆ ลึกและหนักแน่นกว่าคำสั่งใด ๆ“ไม่…ฉันต้องดูแลเธอก่อน”เขาหันกลับเข้าไปใน
ภายในห้องนอนที่มืดสลัว แสงไฟจากโคมข้างเตียงสาดแสงสีอำพันทาบไล้ลงบนร่างหญิงสาวที่กำลังดิ้นรนสุดแรง มินาเอะหอบหายใจถี่ ใบหน้าแดงจัดทั้งจากแรงอารมณ์และความตื่นตระหนกที่เกาะกุมอยู่ในอก เธอผลักอกของซัน ผลักแขน ดันไหล่ แต่ร่างสูงกลับไม่ไหวติงแม้แต่น้อยเสื้อเชิ้ตของเธอหลุดรุ่ยจากไหล่ ผ้าบางๆ แทบไม่เหลือประโยชน์อะไรอีก แขนเสื้อข้างหนึ่งห้อยลงข้างลำตัว เผยให้เห็นผิวเนื้อขาวละเอียดที่มีรอยแดงจางๆ จากจูบของเขาแทรกอยู่บนพื้นไม้ข้างเตียง บราเซียร์ลูกไม้สีครีมถูกปลดและทิ้งลงอย่างไม่ใยดี แพนตี้ผ้าลูกไม้สีพาสเทลนุ่มนิ่มขยุ้มอยู่ไม่ไกล—ราวกับเป็นหลักฐานของความสิ้นท่าทางกายที่เธอไม่อาจปกป้องไว้ได้อีกต่อไปร่างของซันโน้มลงมาจากด้านบน แขนแข็งแรงยันกับที่นอนข้างศีรษะเธอ แผ่นอกเปลือยเปล่าของเขาแนบชิด เธอได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำ ร้อนแรงและดิบดุดันลมหายใจของเขาเป่ารินอยู่ข้างแก้ม ขณะที่ข้อมือเล็กบางของเธอถูกกดตรึงเหนือศีรษะ—แน่นจนไร้ทางหนี แผ่นหลังของมินาเอะแนบชิดผ้าปูเตียงที่เย็นเยียบ ผิวเปลือยสั่นไหวใต้แรงอารมณ์ที่กำลังก่อตัวเหนือร่างเธอ“ปล่อย…ฉันบอกให้ปล่อย!”เสียงของเธอสั่น เธอดิ้นสุดแรง พยายาม
ถนนเลียบทะเล / เวลา 04:23 น.รถ SUV สีดำพุ่งทะยานนำขบวน เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ ล้อรถกระแทกพื้นคอนกรีตเก่าอย่างดุดัน ถนนแคบเลียบหน้าผาเต็มไปด้วยหมอกทะเลและกลิ่นไอเค็มจาง ๆ แต่ไม่มีอะไรจะหนาวเหน็บไปกว่าสายตาของชายที่นั่งบนเบาะหน้าเรย์จินั่งนิ่ง แต่ดวงตาคมเฉือนอากาศเหมือนกระสุน เบาะหลัง—ไทกะ ยืนสองขาพาดหน้าต่าง กระจกเป็นฝ้าเพราะลมหายใจร้อนของมัน ร่างเล็กสั่นกระตุกจากแรงเห่า มันพร้อมจะพุ่งตัวออกไป...หากประตูเปิด📲 “บอสครับ! มีรถลาดตระเวนสองคันของแก๊งวายุ สกัดถนนช่วงหน้าผา!”“ไม่หลบใช่ไหม?” เสียงเขานิ่งจนขนลุก“ไม่ครับ...พวกมันหันปืนใส่แล้ว”เรย์จิหรี่ตา แสงไฟหน้ารถสาดไปยังชายสองคนที่ยืนอยู่ท้ายกระบะพร้อมปืนกลที่ติดตั้งขึ้นเขายกวิทยุขึ้นแนบปาก“ยิงยาง”ปัง! ปัง!เสียงปืนจากรถคันหลังดังสนั่น กระสุนเฉือนผ่านยางรถศัตรูอย่างแม่นยำ เสียงยางระเบิดดังลั่นตามด้วยเสียงรถหมุนคว้างชนเข้ากับต้นสนข้างทางสองคนที่ถือปืนกระโจนหลบลงพงหญ้าแทบไม่ทัน แต่รถของเรย์จิ... ไม่ชะลอแม้แต่เสี้ยววินาที มันพุ่งทะยานผ่านกลุ่มควัน เหมือนหัวใจของเจ้าของรถที่ตอนนี้ไม่รู้จักคำว่าลังเลคินเหลือบกระจก ส่ายหน้าเบา ๆ“หึ…
🕶️ คฤหาสน์คุโรซาวะ, 03:42 น.ลมยามดึกพัดแรงกว่าทุกคืน เสียงใบไม้สั่นไหวไม่ต่างจากความตึงเครียดในอากาศกลางลานหน้าคฤหาสน์ ไฟจากรถหลายคันสาดส่องลงบนพื้นกรวดอย่างแข็งกร้าว ลูกน้องในชุดยุทธวิธีเคลื่อนพลประจำจุด ปืนในมือขึ้นลำเรียบร้อย เสียงสนทนาทางวิทยุแทรกเป็นระยะ ท่ามกลางแผนที่ดาวเทียมที่กำลังวางอยู่บนฝากระโปรงรถ SUV คันหนึ่ง“ทีม A เข้าทางตะวันออก ทีม B ล็อคแนวป่า ทีม C รอคำสั่งตีวงด้านหลัง...”เสียงของคินดังแน่นอนขณะออกคำสั่งแบบไม่เปิดช่องผิดพลาดทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมสำหรับการปะทะ ทุกอย่าง…ยกเว้นเสียง “โฮ่ง!”จากตัวแสบหนึ่งตัว“โฮ่ง โฮ่ง! โฮ่งงงง!!”เสียงเห่าดังลั่นของไทกะ เจ้าชิบะอินุตัวเขื่อง พุ่งวนรอบรถของเรย์จิอย่างคึกคักมันวิ่งวนเหมือนบอกโลกว่า ‘ฉันจะไปด้วย!!!’“ไทกะ กลับเข้าไป”เสียงเรียบเย็นของเรย์จิดังขึ้น ขณะเขาเปิดประตูจะขึ้นรถแต่ไทกะไม่ฟังสักนิด มันกระโดดขึ้นเบาะหลังอย่างว่องไว หันไปคาบตุ๊กตามินิของมินาเอะจากเบาะรถมากัดแน่น!จากนั้นนั่งนิ่ง...ในท่าบอดี้การ์ดสุดขีดคินที่มองอยู่จากฝั่งตรงข้ามถึงกับหลุดหัวเราะในลำคอ“บอสครับ…มันขึ้นไปนั่งแล้วอะ”“มันเล่นใหญ่กว่าพวกเราอี
🏚️ บ้านพักริมทะเล — เวลาประมาณ 20.45 น.ฝนหยุดตกไปแล้ว แต่เสียงคลื่นยังคงซัดกระทบหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง ลมทะเลเย็นเฉียบ พัดผ้าม่านให้พลิ้วเบาในห้องไม้ที่ไร้ความอบอุ่นมินาเอะนั่งอยู่บนโซฟา ผ้าห่มผืนบางคลุมไหล่ แสงจากโคมไฟหัวเตียงสาดลงมาเพียงพอให้เห็นว่า...เธอไม่ได้กลัวอีกต่อไปไม่เหมือนเมื่อคืนตอนนี้ ดวงตาของเธอไม่ได้ไหวไหวด้วยความตกใจ หรือหวาดระแวง แต่มัน ‘นิ่ง’ และ ‘คิด’คิด—อย่างหนัก คิดทุกทางที่จะออกจากที่นี่ให้ได้‘นายล็อกฉันไว้ แต่ไม่ได้ล็อกสมองฉันซะหน่อย’เธอพึมพำในใจ ก่อนจะเหลือบตามองโต๊ะกลางห้องที่วางของบางอย่างไว้โดยไม่ได้ตั้งใจมือถือของซันเขาเพิ่งเดินออกไปเมื่อราวครึ่งชั่วโมงก่อน บอกเพียงว่า “จะไปทำอาหารเย็น” น้ำเสียงยังนุ่มนวล รอยยิ้มยังเหมือนเดิม…แต่ประตูก็ยังล็อกจากด้านนอกตามระเบียบหน้าต่าง? เปิดไม่ได้มือถือของเธอ? แน่นอนว่า...ไม่มีแต่มือถือของเขา…วางอยู่ตรงนั้นซึ่งปกติเขาจะไม่เคยลืมมันเลย แต่เพราะมีสายโทรเข้า และเขากำลังทอดเนื้ออยู่ — เขาจึงรีบวางมันทิ้งไว้แบบไม่ทันคิดสมองของเธอทำงานเร็วกว่าคลื่นทะเลที่ซัดเข้าฝั่งเสียอีกนายคงไม่รู้สินะ…ว่าฉันมันเด็กสายเทคฉันค
วันนั้น…ฝนตกไม่ใช่ฝนที่เทกระหน่ำจนเปียกโชกทั้งตัว แต่เป็นฝนโปรยเบา ๆ ที่คล้ายม่านหมอกพรางทุกสิ่งให้ดูเลือนรางแม้แต่ความคิดของฉัน...“อัยย์ เดี๋ยวฉันไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแป๊บนะ”“เออ รีบไปรีบมานะเฟ้ย” เสียงเพื่อนสาวตะโกนไล่หลังฉันกางร่ม เดินลงจากคณะโดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า นั่นคือ ‘วินาทีที่ฉันคิดผิดที่สุดในชีวิต’ในมือฉันถือโทรศัพท์ ก้มดูรายการของที่อัยย์ฝากซื้อ ขณะเดินลัดสนามเปียกชื้นผ่านซอกตึกไปยังถนนใหญ่ทันใดนั้น...เงาร่มอีกคันหนึ่งก็ยื่นเข้ามาทาบทับจากด้านข้าง บังสายฝนที่โปรยลงบนหัวฉันอย่างแนบเนียน พร้อมกับเสียงทุ้มเรียบเย็นดังขึ้นข้างหู“มาคนเดียวแบบนี้...ไม่กลัวเหรอครับ?”ฉันสะดุ้ง หันขวับไปทันที แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร—หมับ!มือแข็งแรงคว้าข้อมือฉันแน่น กลิ่นฉุนของยาบางอย่างพุ่งเข้าจมูก รุนแรงจนสมองมึนงงแทบจะทันที โลกทั้งใบเหมือนถูกดับแสงลงในพริบตา……“ตื่นแล้วเหรอครับ?”เสียงนุ่มนวลนั้นยังคงฟังดูอ่อนโยน แต่บรรยากาศโดยรอบกลับไม่อบอุ่นเหมือนเสียงนั้นเลยแม้แต่น้อยฉันพยายามลืมตา โลกหมุนเบา ๆ กลิ่นทะเลจาง ๆ ลอยมาแตะปลายจมูก อากาศเย็นชื้นบอกให้รู้ว่าไม่ใช่ห้องในคอนโดที่ฉันอ