เยว่อวิ๋นพาเสี่ยวอวี้เดินทางเข้าตำบล โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าที่หมู่บ้าน สามีกับบุตรชายของนางกำลังสุมหัวกัน คิดทำเรื่องพลิกฟ้าพลิกดินอยู่หญิงสาวนั่งกอดซาลาเปาน้อยของตนบนเกวียนเทียมวัวด้วยท่าทีผ่อนคลาย สายตาเหม่อมองสองฟากข้างไร้จุดหมาย เปิดปากตอบคำถามของเจ้าตัวเล็กทีละประโยคอย่างอ่อนโยน“ท่านแม่ ตอนขากลั
“เถ้าแก่กู้”กู้เหยียนเซียวพยักหน้า เอ่ยเสียงขรึม “ข้าพาเจ้าไปดูอาการฮูหยินผู้เฒ่าจี้เอง”เฉียนซานมองตามหลังเจ้านายด้วยสายตาสงสัย ไหนนายท่านบอกว่ามีงานด่วนต้องรีบสะสาง ถ้าหมอเยว่มาไม่จำเป็นต้องเข้าไปรายงานอย่างไรเล่า เหตุใดยามนี้กลับเป็นฝ่ายเสนอตัวเองแทนแล้วล่ะต่อให้เฉียนซานฉลาดเฉลียวกว่านี้ ก็ไม่ม
เรื่องไม่เหตุสมผลเลยแม้แต่น้อย ทว่าเยว่อวิ๋นที่นานทีจะเกิดเมตตาจิตไม่ได้เปิดโปงอีกฝ่ายออกไป ที่นางมาถามข่าวกับเฉียนซานก็แค่อยากจะประเมินความร้ายแรงของเรื่องนี้เท่านั้น และก็จริงดังที่คาดไว้เสียด้วยหากหลีจวินเป็นเพียงทายาทตระกูลชั้นสูงที่มาเที่ยวเล่น ตำบลซานซีทั่วไป มีหรือที่คนในพื้นที่จะไม่รู้เรื่อ
หญิงที่อยู่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นกรีดร้องร่ำไห้สภาพน่าเวทนายิ่งนัก ทว่าหญิงสูงวัยผู้ลงมือกลับมิได้ผ่อนแรงลงแม้แต่น้อย ซึ่งเยว่อวิ๋นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ถ้าสตรีสองนางนี้ไม่ใช่คนที่นางกับเซี่ยฉงอวิ๋นพูดถึงเมื่อวานนี้ฟางฮัวกับแม่สามีของนางนั่นเอง…“นางแพศยา เจ้าแต่งมาเป็นสะใภ้บ้านจ้าวเรา กินดื่มล้
อีกทั้งสาเหตุที่นางขอให้เถี่ยโกว่กับต้าหว่างปิดบังเรื่องนี้ สาเหตุแท้จริงก็ไม่ใช่เพราะเรื่องสิ่งของเสียหน่อยสกุลฟางมีบุตรสาวถึงสามคน ส่วนบุตรชายกลับมีแค่คนเดียวเท่านั้น บิดามารดาของฟางฮัวจึงรักถนอมเขามาก ทว่าความรักที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี ฟางเฉาที่ถูกตามใจมาแต่เล็กก็เช่นกัน เขาโตมาจนอายุขนาดนี้กลั
“แล้วกันไป ง่ายดายแบบนี้เลย แล้วชื่อเสียงลูกชายข้าล่ะ จ้าวฮวา คนเริ่มก่อนเป็นบ้านเจ้า ถึงตอนนี้ป้ายอุจจาระใส่ศีรษะต้าหว่างของข้าจนเหม็นแล้วคิดจะสะบัดก้นกันไปง่ายๆ งั้นหรือ ฝันไปเถอะยายแก่เจ้าเล่ห์!”“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร” ป้าจ้าวชักสีหน้าหงุดหงิด ต้าหว่างเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง โดนด่านิดด่าหน่อยจะเป็นอะไ
ผู้ใหญ่บ้านเพิ่งพูดจบก็หันมาพบกับเยว่อวิ๋นยืนอุ้มเสี่ยวอวี้อยู่ ใบหน้าชายชราพลันเผยแววกระอักกระอ่วนให้เห็นวูบหนึ่ง คำพูดใดๆ ล้วนติดอยู่แค่ในลำคอแต่ยังโชคดีที่เยว่อวิ๋นนั้นสำเร็จวิชาขั้นสูงแล้ว คำพูดค่อนขอดลอยๆ ของผู้ใหญ่บ้านจึงไม่สามารถโจมตีทะลุผิวหน้าหนาๆ ของนางไปได้หญิงสาวเพียงยกมือลูบจมูกเบาๆ น
“สงสารนางหรือ” ต้าเป่าที่ก้มหน้าได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นทันที“ไม่ขอรับ นางสมควรได้รับแล้ว” เขาจะสงสารนางได้อย่างไร สะใภ้ใหญ่จ้าวผู้นั้นมีเจตนาร้ายต่อมารดาเรื่องข่าวลือเสียหายคราวก่อนก็เป็นนางที่รับเงินสวีเหยามาใส่ร้ายท่านแม่ ตอนที่พวกเถี่ยโกว่มาเล่าเรื่องนี้ให้ฟังเขาก็จดชื่อนางไว้ในบัญชีแค้นแล้วต
เรื่องอะไรนางต้องลำบากลำบนเป็นหนี้เพื่อซื้อผู้หญิงให้สามีตัวเองด้วย!“เยว่ซื่อเจ้าอย่าได้ทำเกินไปนักนะ คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องครอบครัวข้า แค่สามีข้ารู้จักสวีเหยาเจ้าก็คิดจะยัดเยียดคนเข้ามาแล้วรึ เจ้านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี”“เจ้าเองก็รู้นี่ ว่าเรื่องแบบนี้มันไร้เหตุผล แล้วทีเจ้าลา
เซี่ยเหล่าซานมีหรือจะไม่รู้นิสัยลูกสะใภ้ตัวเอง นางสงสารสวีเหยาจริงเสียที่ไหนกัน ก็แค่อยากสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นเท่านั้นแหละ“สะใภ้รองเจ้าว่างมากนักหรือไง ถ้าไม่มีอะไรทำก็กลับเข้าบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ตรงนี้ให้คนเขาระอาเลย” อยู่ต่อหน้าเยว่อวิ๋นเซี่ยเหล่าซานไม่สะดวกจะสั่งสอนลูกสะใภ้ จึงได้แต่ถลึงตา
พอรู้ว่าคนไปแล้วนางเจียงจึงขมวดคิ้ว บ่นสามีที่ไม่รู้ความเบาๆ “ดูเจ้าสิ อายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้ เยว่ซื่อมอบของตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลือ เจ้าก็ไม่คิดอะไรแบมือรับอย่างเดียวหรือ”ผู้ใหญ่บ้านฟังแล้วหน้าแดง รู้สึกว่าตนบกพร่องมารยาทไปจริงๆ เจียงซื่อเห็นเขาคิดได้ก็ไม่พูดต่อ นางเพียงส่งผักที่กอดไว้ให้อีกฝ่าย
อีกด้าน เยว่อวิ๋นจัดการแบ่งใบชาที่ซื้อมาใส่ห่อพร้อมขนมกุ้ยฮวาที่ซื้อมาอีกหนึ่งกล่อง เตรียมของเสร็จนางก็กำชับต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ให้คอยดูคนป่วยสองคนด้านใน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านบ้านของผู้ใหญ่อยู่ห่างจากบ้านของเยว่อวิ๋นพอประมานใช้เวลาเดินเกือบๆ หนึ่งเค่อ เยว่อวิ๋นเดินไปตามทางอย่างไม่ร
พอเยว่อวิ๋นจากไปในห้องก็พลันเงียบงันชั่วขณะ เซี่ยฉงอวิ๋นที่เมื่อครู่ต่อล้อต่อเถียงก็เอาแต่จ้องมองใบหน้าหลีจวินไม่กล่าววาจา เห็นอย่างนั้นหลีจวินก็ใจแป้วขึ้นมาทันที“เจ้ามองข้าแบบนั้นทำไม ขะ... ข้าเป็นลูกค้าบ้านเจ้านะ” หลายวันมานี้เขาถูกคนตรงหน้ากลั่นแกล้งจนหัวหมุนขยาดไปหมดแล้ว“แล้วอย่างไร เจ้ายังไม่
เรื่องราวของสวีเหยาถูกโจษจันไปทั่วหมู่บ้าน หญิงสาวยังไม่แต่งงานคนหนึ่ง กลับวิ่งไปหาบุรุษที่มีภรรยาอยู่แล้วเพื่อขอเป็นอนุ นี่ช่างเป็นเรื่องตลกร้ายที่น่าอับอายอย่างแท้จริงพริบตาที่เรื่องนี้แพร่ออกไป ไม่เพียงครอบครัวสวีที่กลายเป็นตัวตลก แต่บ้านจ้าวเองก็หนีไม่พ้นเช่นกันป้าจ้าวที่เคยเดินเชิดหน้านินทาคน
ทว่าสวีเหยากลับไม่ได้ทำอะไรเยว่อวิ๋นอย่างที่ทุกคนคาดเดา นางเพียงพุ่งไปคุกเข่าเบื้องหน้าเยว่อวิ๋น ก่อนจะก้มลงโขกศีรษะให้ฝ่ายหลังสุดแรง“เยว่อวิ๋น ขอร้องเจ้าแล้ว ยอมให้ข้าเป็นอนุของพี่ชายอวิ๋นเถอะ ขอแค่เจ้ายอมรับปาก ข้าสาบานจะปรนนิบัติรับใช้เจ้ากับพี่ชายอวิ๋นจนชีวิตหาไม่”สวีเหยาพร่ำขอร้องไปพลางโขกศีร
อีกด้าน เยว่อวิ๋นกำลังฝังเข็มให้เซี่ยฉงอวิ๋นอยู่เช่นกัน ทว่าฝั่งนี้กลับดูสบายกว่าทางหลีจวินอย่างเห็นได้ชัด“หลีจวินนี่เด็กจริงๆ เขาแกล้งเอะอะใส่หมอจางทุกครั้งแบบนี้สนุกนักหรือไง” เยว่อวิ๋นฟังเสียงร้องโหยหวน พลางขมวดคิ้วบ่นเบาๆถึงอย่างไรหมอจางก็เป็นลูกศิษย์นาง เจ้าหนุ่มนั่นไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสเอา
ได้ยินอีกฝ่ายสาธยายความผิดของฟางฮัวทีละข้อชัดถ้อยชัดคำ เยว่อวิ๋นได้แต่นิ่งเงียบพูดไม่ออก นี่เขาพิการออกไปไหนไม่ได้จริงหรือส่วนฟางฮัวผู้นี้คงรังเกียจว่าชีวิตตนสงบสุขเกินไปสินะ ถึงได้พยายามรนหาที่ซะเหลือเกินเซี่ยฉงอวิ๋นเห็นภรรยาไม่คิดจะพูดแทนฟางฮัวอีกก็พอใจอย่างมาก เขาเอื้อมมือดึงคนเข้ามากอดขณะเอ่ยเ