로그인แน่นอนละโดนไปตรงๆ ขนาดนั้นจะไม่ร้องได้ยังไง ริเป็นโจรต่อหน้าเอิงเอยได้หรอ หึ หญิงสาวรีบวิ่งไปพลางตะโกนลั่นไปพลาง “ช่วยด้วย!! โจรกระชากกระเป๋า ช่วยด้วย!!”
เมื่อเอิงเอยเดินเข้ามาถึงตัวโจร ก็มีตำรวจอีกสองนายวิ่งกรูเข้ามาจับแขนของโจรหนุ่มอายุน่าจะราวๆ สามสิบห้าปีได้มั้ง รวบไขว้กันไว้ข้างหลัง ก่อนเตะขาโจรคนนั้นให้นั่งลงในท่าคุกเข่า หนึ่งในตำรวจหันมาขอบคุณเธอเป็นการใหญ่
เมื่อเสร็จเรื่องเอิงเอยหันหลังกลับไปมองหญิงสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอกำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา “อ่ะนี่ กระเป๋าเธอ”
หญิงสาวยื่นมือเข้ามารับกระเป๋าด้วยมือเล็กอันสั่นเทาก่อนที่จะปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครกลางสี่แยก
เวรละ “นะ ... นี่เธอ ร้องไห้ทำไม”
“ฮึ่ก ... ฮื้ออออ~”
“หยุดร้องก่อนได้ไหม คนอื่นเขาคิดว่าฉันทำเธอร้องไห้แล้วนะ”
“ฮึ่ก ... ฮื้ออออ~” หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มพยักหน้าเป็นการรับปากว่าจะไม่ร้องไห้อีกแล้วแต่ก็ยังปล่อยสายธารน้ำตาออกมาจนล้น
“เอางี๊ไหม ถ้าเธอหยุดร้องไห้ ฉันจะพาเธอไปเลี้ยงไอติมเป็นการปลอบใจ ดีไหม” ถ้ายัยนี้ไม่หยุดร้องสักทีจากวีรสตรีต้องได้กลายเป็น นางมารร้ายแน่ๆ
“ขะ ... ขอบใจนะ ... ฮึ่ก ... ทะ ... เธอชื่ออะไร” หญิงสาวโชคร้ายเอ่ยถามเมื่อตั้งสติได้บ้างแล้ว เธอใช้สองมือเล็กปาดน้ำตาออกจากพวกแก้มใสลวกๆ ก่อนจ้องมองหญิงสาวที่ช่วยเธอไว้จากเหตุการอันตรายเมื่อสักครู่
“ฉันชื่อเอิงเอย เธอละ”
“ฉะ ... ฉันชื่อกระเพรา”
“โห้ยยย ได้ยินชื่อเธอแล้วฉันหิวเลยนะเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ปะเดี๋ยวฉันพาไปเลี้ยงติมนะกระเพรา”
“อือ ... ไปซิ เธอเรียกฉันว่าเพราเฉยๆ ก็ได้นะ ฉันขอเรียกเธอว่าเอยเฉยๆ ได้ไหม”
“ได้ซิเพรา ไปกันเถอะ เพรารอตรงนี้นะเดี๋ยวเอยไปเอารถมารับ” กระเพราพยักหน้ารับแอบยิ้มให้กับความน่ารักของเพื่อนใหม่ที่ช่วยเธอไว้
@ร้านไอติมใจกลางเมือง
“สั่งเลยเพรา เดี๋ยวเอยเลี้ยงเอง” เอิงเอยเอ่ยบอกเพื่อนใหม่ที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อสักครู่ด้วยเหตุบังเอิญบางอย่าง พอได้พูดคุยกันกระเพราเป็นเด็กน่ารักเลยละ และฉันกับกระเพราก็อายุเท่ากันด้วยนะ เรียกว่ารุ่นเดียวกันเลยก็ได้
“เออนี่ เอยมาทำอะไรที่ฝรั่งเศสเหรอ?” กระเพราน้อยกำลังอมช้อนไอศครีมไปด้วยแล้วถามฉันไปด้วยเนี่ยนะ น่ารักจริงๆ
“เอยมาเรียน University ที่นี่อ่ะ สอบชิงทุนมาได้”
“เก่งอะ แล้วชิงทุนได้ที่ไหนหรอ”
“มหาลัย xxx อ่ะ แล้วเพราล่ะ มาทำอะไรที่นี่”
“เพราอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ห้าขวบแล้ว อยู่กับพี่ชายสองคน แล้วเอยเรียนคณะอะไรเหรอ” น้ำเสียงของกระเพราแอบตื่นเต้นจนน่าสงสัย แต่ฉันก็ตอบไปนะ
“สถาปัตย์หน่ะ เอยชอบออกแบบ”
“กรี๊ดดดดดดดดด!!! จริงดิ เอยรู้ปะ เพราก็เรียนที่นี้ แล้วก็คณะเดียวกันเลย ดีใจจังเลย” กระเพราดีใจกระโดดจนตัวโยน
“เพราคิดว่า เพราจะไม่มีเพื่อนแล้วซะอีกอะ ดีใจมากเลยที่เป็นเอย เอยจะว่าอะไรไหมถ้าเพราจะขอไอดีไลน์ของเอยหน่อยเอาไว้ติดต่อกัน” ท่าทางเกรงใจของกระเพราช่างดูน่ารักนุ่มนิ่มดีจัง คบเอาไว้ก็ไม่เสียหายหรอกมั้ง
“เอาโทรศัพท์มาซิ เดี๋ยวเอยสแกนคิวอาร์โค้ดให้” เมื่อทั้งสองคนแลกไอดีไลน์กันเสร็จสรรพ ต่างก็ขอติดตามอินสตาแกรมของกันและกัน
“เอยถ่ายรูปกัน เพราจะอัพลงไอจี”
“เอาซิ”
เอิงเอยขยับเข้าไปใกล้ ใบหน้าหวานแนบชิดกับใบหน้าจิ้มลิ้มสองสาวส่งยิ้มหวานให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องหรูอย่างร่าเริง กระเพราโพสรูปลงอินสตาแกรมส่วนตัว และแท็กเอิงเอยพร้อมคำบรรยายใต้ภาพว่า
‘เอิงเอย เพื่อนกระเพรา’
“พรุ่งนี้มีรายงานตัวแต่เช้านิน่า เจอกันพรุ่งนี้เช้าที่มหาลัยนะเพรา แล้วนี่กลับยังไงให้เอยไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ชายมารับ ถึงบ้านแล้วทักบอกเพราด้วยนะ”
“โอเค งั้นถ้าเพราถึงก่อนก็บอกเอยด้วยนะ” กระเพรายกนิ้วทำท่าโอเค ส่งยิ้มหวานให้ฉันมาหนึ่งทีเบาๆ นี่ถ้าฉันชอบผู้หญิงกระเพราจะเป็นคนแรกที่ฉันจีบเลยคอยดู แต่ฉันดันชอบผู้ชายนี่ซิ
@คอนโดหรูใจกลางเมืือง
รถยนต์คันเล็กน่ารักกำลังถอยจอดเข้าซองอย่างทุลักทุเล คอนโดที่เอิงเอยอยู่เรียกได้ว่าหรูหราหมาเห่า โฮ่ง โฮ่ง เลยก็ว่าได้ ความปลอดภัยขั้นสูงแถมยังมีชั้นจอดรถประจำห้องให้อีกด้วยเรียกว่าแทบไม่ต้องไปแย่งใครเลยละ
เอิงเอยเดินตรงมายังหน้าลิฟ ใช้คีย์การ์ดสแกนหน้าลิฟเพียงเท่านี้ลิฟก็จะเลื่อนไปจอดหน้าชั้นที่ตัวเองอยู่โดยไม่ต้องกดลิฟเลยล่ะ คอนโดที่เธออาศัยอยู่หนึ่งชั้นจะมีเพียงแค่สองห้องเท่านั้น แบ่งเป็นสองฝั่ง ฝั่งละหนึ่งห้อง
ห้องของเธอจะเป็นห้องชุดมีห้องนอนแยกต่างหาก เมื่อมาถึงหน้าห้องเธอใช้คีย์การ์ดแตะที่ประตู หรือจะกดรหัสเอาก็ได้ ถึงได้บอกไงว่าที่นี่ความปลอดภัยสูงลิบลิ่วเลยเชียวละ
เอิงเอย : ถึงห้องแล้ว เพราถึงหรือยัง
กระเพรา : ยังเลยพี่ชายเพิ่งมารับ เดี๋ยวเพราถึงห้องแล้วทักบอกนะ
เอิงเอย : โอเค
[ฝั่งกระเพรา]
“คนที่โพสรูปด้วยนั่นใคร”
“หืมม เอิงเอยเพื่อนเพราเอง ทำไมถึงถามปกติไม่เห็นสนใจใครเลย”
“เธอเป็นน้องพี่ พี่ถามไม่ได้รึไง”
“ได้ ได้ ไม่เห็นต้องโมโหเลย”
วันนี้พี่ชายดูแปลกๆ ปกติไม่เห็นจะสนใจผู้หญิงคนไหนเลยแหะ สงสัยจะทำงานหนักไปละมั้งเลยเบลอ อ่านคอมเมนต์ในอินสตาแกรมดีกว่า
- น้องเอิงเอยน่ารักเหมือนน้องกระเพราเลย
- ขอเป็น FC ได้ไหม อ่าจิ้นคู่นี้
- หน้าหวาน กับหน้าจิ้มลิ้ม เข้ากันอ่า
- ลงรูปบ่อยๆ กระเพราชอบๆ
- แอบไปเปิดวาร์ปน้องเอิงเอยมาดีกรีไม่ธรรมดานะจ๊ะ เป็นนักออกแบบที่โด่งดัง และอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เลยละ
- แอบไปขุดมา แบล็คกราวก็ไม่ธรรมดาเด้อ พ่อกับแม่เป็นนักธุรกิจระดับโลกที่ความรวยติดอันดับหนึ่งในห้าเลยนะเออ เรียกง่ายๆ ว่ามหาเศรษฐีเด้อ
“อู้หู” เมื่อกระเพราได้รู้แบล็คกราวของเอิงเอยคร่าวๆ ถึงกับอึ้งเบาๆ เมื่อเพื่อนที่เธอคิดว่าเป็นแค่คนธรรมดา กลับไม่ธรรมดาซะแล้ว
“อะไร”
“เพื่อนเพราอะ โปรไฟล์ ไม่ธรรมดาเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปมหาลัยไปแอบถามดีกว่า คิกคิก ดีใจจัง”
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อรู้สึกถึงของเหลวอุ่นพุ่งเข้ามาในโพรงสาว กาวินยังคงขยับเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรีดน้ำรักที่ยังคงคั่งค้างออกให้หมด"พะ ... พี่วิน ปล่อยใน""ใช่" นะ หน้ามึนเกินไปแล้ว"พี่วินปล่อยในทำไม""ทำไม ?" ทำไมเขาจะปล่อยในไม่ได้ในเมื่อเอิงเอยเป็นเมียเขาแล้ว และหากเกิดมีเจ้าตัวเล็กขึ้นมาเขาก็พร้อมจะดูแลทั้งแม่ทั้งลูก"ทะ ทำไมพี่วินไม่ป้องกัน ... ฮึ่ก ..." ถะ ถ้าเกิดพลาดแล้วแดดดี้บาสเตียนรู้ขึ้นมาจะทำยังไง"แล้วทำไมพี่วินต้องป้องกัน หรือต่อให้มีถุงยางพี่วินก็จะสด" เห็นแก่ตัวที่สุด"อะ ... ออกไป""กลัวท้องรึไง""... ฮึ่ก ... ใช่ เอยกลัวท้อง เอยยังไม่พร้อม ได้ยินไหม เอยยังไม่พร้อม ... ฮื้อ ..."หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเมียหมาดๆ ตะโกนก้องแสกหน้า เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง แต่นั้นไม่ได้ทำให้กาวินสำนึกผิดขึ้นเลยในเมื่อเขาพร้อมที่จะดูแลเอิงเอยอยู่แล้วกาวินค่อยๆ ถอดแก่นกายใหญ่ออกจากช่องทางรักคับแคบ ทำให้มีน้ำรักปนเลือดบริสุทธิ์ไหลย้อนออกมาจากโพรงสาว เนื้อตัวของเอิงเอยตอนนี้
"ฮึ่ก ... อะ ... เอามันออกไป ละ ... แล้วออกไปจากห้องเอยด้วย ... ฮึ่ก ..." เอิงเอยดีดดิ้นอยู่ใต้ร่างของกาวินขณะที่แก่นกายใหญ่ยังคงอยู่ในกายเธอ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า"พี่วินจะนอนที่นี่" บะ บ้าไปแล้วจะมานอนทีี่นี่ได้ยังไง"พะ ... พี่วิน ไม่มีสิทธิ์ ... ฮึ่ก ... นะ" เอิงเอยสะอื้นไห้ไม่คาดคิดว่าจะเสียพรหมจรรย์ที่รักษามาตลอดยี่สิบปี ให้กับกาวิน"พี่วินจะรับผิดชอบน้องเอยเอง" มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานนวลเนียนอย่างหลงไหล"มะ ... ไม่ต้อง ... เอยไม่ต้องการ" เธอปัดมืิอเขาออกอย่างไม่ใยดี หัวใจแกร่งกระตุกวูบที่ถูกคนใต้ร่างปฎิเสธความรับผิดชอบ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเรียกร้องให้เขารีบรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"อะไรวะ ได้กันแล้วจะทิ้งงั้นหรอ" กาวินพูดออกมาด้วยอารมย์เกรี้ยวกราด ผู้หญิงอะไรไม่หวงแหนพรหมจรรย์เลยหรือยังไง"อะ ... เอามันออกไป" มือเล็กดันแผงอกแกร่งของคนตรงหน้า แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่เสียไปมันไม่ได้ทำให้กาวินรู้สึกเลยสักนิด"งั้นก็รับผิดชอบฉันมา" เดี๋ยวนะ ทำไมฉันต้องรับผิดชอบตานี่ด้วย"ไม่!! ออกไป""ไม่ไป""ออกไปจากห้อ
กาวินไล่ประทับสัมผัสทิ้งรอยกุหลาบไว้ทั่วร่างกายของสาวน้อยตรงหน้า เลื่อนริมฝีปากร้อนผ่าวลงไปยังใจกลางความเป็นสาว ประทับฝีปากกับกลีบกุหลาบอวบนูนแผ่วเบา ส่งปลายลิ้นเลื่อนขึ้นลงตามรอยแยกของกลีบดอกไม้งาม“อืมมม ...”“อะ ... อ๊าาาา ... พะ ... พี่ิวิน~” เอิงเอยเผลอไผลไปกับสัมผัสเร่าร้อนแต่นุ่มละมุนของกาวินเธอไม่เคยได้ลิ้มรสของความเสียวซ่านมาก่อน เธอส่งมือเล็กขยุ้มศรีษะที่กำลังขยับขึ้นลงตรงกลางหว่างขาด้วยความเสียวซ่านจนยากจะยับยั้งชั่งใจ“พะ ... พอ แล้ว พี่วิน~”"อืมมม ..." มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้เขาพอได้อย่างไร ในเมื่อเขาตั้งใจจะกำราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดจะได้ไม่ต้องไปโปรยเสน่ห์ให้ใครได้อีกกาวินค่อยๆ ดันนิ้วเรียวยาวเข้าออกช้าๆ ควบคู่ไปกับการใช้ปลายลิ้นสัมผัสติ่งเกสรของดอกไม้งามจนเกิดเสียงลามกดังกึงก้องไปทั่วทั้งห้องนอนหรู"อ๊าาา ... พี่วิน~""ครับ"กาวินผละใบหน้าออกจากใจกลางความเป็นสาวแต่เรียวนิ้วยังคงขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ กระตุ้นให้ร่างกายของเอิงเอยปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาชโลมเรียวนิ้วจนเปียกแฉะ
กาวินไม่รอช้าก้มตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าแกร่งเดินเข้าลิฟ กดชั้นบนสุดในทันที“ปล่อยนะกาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ฉันโตกว่าเธอ อย่าปีนเกลียว”เพี้ยะ!!“โอ้ยยย มาตีก้นฉันทำไมเนี่ย” กาวินฟาดมือหนาลงที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างไม่แรงมากนักแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้สาวน้อยได้ไม่ยาก“ไม่ใส่อะไรเลยออกจากบ้านได้ยังไง โดนตีก้นแค่นี้อย่ามาร้องโอดครวญ”“ปล่อยนะ กาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกให้เรียกว่ายังไง”“กะ ก็นายยังพูดว่าฉันอยู่เลย แล้วจะให้ฉันเรียกนายแบบอื่นได้ยังไง”“อย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ!!”“พี่วินแบกน้องเอยได้ทั้งคืนนะ” แม้จะอึ้งกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของกาวิน ราวกับเขาอยากจะพูดมันอยู่แล้วอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดจากซุปตาร์ เผด็จการนี้ก่อน“พะ พี่วินปล่อยเอยก่อน เอยเวียนหัวหมดแล้ว” คงต้องลองตามน้ำไปก่อน มันอาจจะช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมือของเขาก็
ภาพเหตุการณ์เก่าย้อนเข้าห้วงความคิดเมื่อเห็นเข็มไมล์รถที่กาวินเป็นคนเหยีบคันเร่งด้วยความเร็ว ทำให้เนื้อตัวสาวน้อยบนหน้าตักสั่นเทิ้มน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาหวานสั่นระริกราวกับมันคืออดีตที่เลวร้ายของเธอ“ฮึ่ก .... พะ ... พี่วิน ... ชะ ... ช้าลงหน่อย เอยกลัว” สองมือเล็กโอบรอบลำคอหนาไว้แน่นราวกับมันเป็นที่พึงสุดท้าย แต่ด้วยอารมย์หึงหวงที่พุ่งพล่านของกาวิน เขาเองก็ไม่อาจหยุดหรือขับรถให้ช้าลงตามคำสั่งของเธอได้ทั้งสองคนอยู่ในห้วงความรู้สึกที่ต่างกัน เอิงเอยอยู่ในห่วงความรู้สึกอดีตที่เลวร้ายบนท้องถนน ส่วนกาวินอารมย์หึงหวงมันพุ่งพล่านเพราะเขาเองก็ข่มอารมย์มาตั้งแต่ต้นงานแล้วเช่นกัน จนลืมคำนึงถึงความรู้สึกของคนตัวเล็กบนหน้าตัก“ฮึ่ก ... พะ ... พี่วินเอยกลัว ...” เป็นอีกครั้งที่เอิงเอยเอ่ยคำขอจากเขาทำให้กาวินเริ่มได้สติกลับมาเมื่อเนื้อตัวของเอิงเอยสั่นเทามากจนเกินไปในขณะที่กาวินกำลังผ่อนคันเร่งลง“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!” เสียงกรี๊ดของสาวน้อยบนหน้าตักทำให้เขาต้องหยุดรถไว้ข้างทางแม้ว่าอีกหนึ่งกิโลจะถึงคอนโดอยู่แล้วก็ตาม&ldqu
“ฉันปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ปล่อยเธอนะ” มือหนายังคงบังคับจับมือเล็กของเอิงเอย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นสำเมื่อภาพหน้าจอเป็นหน้าของกาวิน อีกทั้งผู้ชายที่นั่งข้างกายเธอก็ยังเป็นกาวินผู้โด่งดังเอิงเอยพยายามขยับตัวให้กะเพรารู้ตัว และหันมาสนใจเธอ แต่!!! เพื่อนสาวของเธอตอนนี้กำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงนิทรา มันน่าจับมาตีเสียให้เข็ดเมื่อกาวินจับสังเกตุได้จึงกระตุกมือเอิงเอยอย่างแรงก่อนเอี้ยวใบหน้าคมคายมากระซิบข้างหู “ฉันไม่อายนะถ้าจะต้องแสดงหนังสดตรงนี้ แต่นางเองหนังอย่างเธอจะทนได้ไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง” น่ารังเกียจนิสัยแบบนี้มาเป็นดาราได้ยังไงวะ“ปล่อยมือฉันสักทีได้ไหม”“ถ้าฉันได้จับแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยมันหรอกยัยหนู” คำตอบของกาวินทำให้สาวน้อยตรงหน้าชะงักไป พวงแก้มนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงลูกตำลึง หัวใจดวงน้อยกลับเต้นแรงให้กับคำพูดไม่กี่คำนี้หรอเอิงเอยเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังจ้องมองภาพยนต์ที่ตัวเองแสดง แต่มือของเขากลับจับมือเธอเอาไว้แน่นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปไหนอย่างไรอย่างนั้น“จะเป็น







