로그인
[ประเทศฝรั่งเศส ณ กรุงปารีส]
@สนามบินฝรั่งเศสชาร์ลส์เดอโกล
"ว้าวววววว ขนาดแค่สนามบินที่นี่ยังสวยขนาดนี้เลย ต้องขอบคุณความฉลาดของฉันที่สอบชิงทุนมาได้" เอิงเอยยังคงตื่นตาตื่นใจกับสถานที่พำนักใหม่ของเธอกลางกรุงปารีส เมืองที่โรแมนติกที่สุดสำหรับเธอ
"แล้วฉันต้องไปทางไหนต่อละเนี่ย มีแต่จดหมายส่งตัว กับแผนที่หนึ่งฉบับ หญิงสาวในโลกอันกว้างใหญ่อย่างฉันจะต้องทำยังไง โอ้ยยย แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วอ่ะ"
เอิงเอยเดินตรงไปยังประชาสัมพันธ์เพื่อถามหาทางออก ซึ่งสายตาของเธอก็บังเอิญไปเห็นป้ายโฆษณาน้ำหอมแบรนด์ดังที่มีดาราฮอลลีวูดอย่างกาวินมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
"คุณเอิงเอยคะ เดี๋ยวคุณเดินตรงไปทางซ้ายเลี้ยวขวา ตรงไปอีก แล้วเลี้ยวซ้าย ..." พนักงานประชาสัมพันธ์เอ่ยแจ้งรายละเอียดให้ทราบ
"เออ ต้องไปยังไงนะคะ เดินตรงไปทางซ้ายเลี้ยวขวา ตรงไปอีก แล้วเลี้ยวซ้าย เออ เขียนให้เอยแทนได้ไหมคะ เอยจำไม่ได้" ถึงจะฉลาดแค่ไหนฉันก็ต้องรอบคอบไว้ก่อนแหละ ถ้าหลงขึ้นมานี่แย่เลยนะ ฉลาดเป็นกรดจริงๆ ฉันเนี่ย
เอิงเอยเดินไปตามทางที่พนักงานประชาสัมพันธ์เขียนรายละเอียดไว้ให้ "ในสนามบินนี่ป้ายบอกทางมันไปไหนหมด เอารูปดารามาติดอยู่ได้ หน้ารำคาญจริง" เอิงเอยพึมพำอย่างหัวเสียเมื่อมองหาป้ายบอกทางไม่พบ
พลั่ก!!!!!
"โอ้ยยย!!!" หญิงสาวล้มลงก้นจั้มเบ้ากับพื้นสนามบินอย่างแรงเมื่อชนกับใครคนหนึ่ง ผู้ชายที่หน้าเหมือนกันกับในโปสเตอร์ข้างหน้าเธอ แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือเขาเมินเฉยต่อเธอ แม้แต่ปรายตามองหรือขอโทษสักคำก็ไม่มี
"หยิ่งชะมัด คิดว่าเป็นเป็นดาราแล้วจะทำนิสัยแบบนี้ได้หรอ" เอิงเอยเอ่ยพูดขึ้นเมื่อถูกซุปเปอร์สตาร์เดินชนเข้าอย่างจังโดยไม่ทันระวังตัว
"เดี๋ยวคุณ ขอโทษฉันก่อน" หญิงสาววิ่งฝ่าฝูงการ์ดสี่นายกระชากแขนชายหนุ่มเพื่อให้เขาเอ่ยคำขอโทษ
" ... " สายตาเย็นชาถ่ายทอดมายังหญิงสาวตรงหน้า กาวินสบัดมือเล็กที่จับแขนเขาอยู่ให้ปล่อยออก ก่อนเดินออกไปโดยไร้คำขอโทษ
"ไอ้บ้าเอ้ย อย่าได้พบเจอกันอีกเลย" เอิงเอยแสดงอาการหัวเสียออกมาอย่างยากจะควบคุม
"คุณกาวินครับ" หนึ่งในการ์ดเอ่ยขึ้น เมื่อหันไปเห็นท่าทางของหญิงสาวที่เพิ่งวิ่งมาจับแขนกาวินเมื่อครู่ เป็นการถามทางอ้อมว่าปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรือเธออาจจะทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหายก็เป็นได้เพราะเธอกำลังโหวกเหวกโวยวายชายหนุ่มอยู่
"ก็แค่คนบ้าดารา ฉันต้องสนใจด้วยหรอ" กาวินคิดว่าหญิงสาวคงเป็นเหมือนพวกแฟนคลับทั่วไปที่บ้า และคลั่งดาราเท่านั้น เขาไม่เคยสนใจเรื่องชื่อเสียงของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
"สันดารเสียขนาดนี้ มาเป็นดาราได้ไงวะ หงุดหงิดโว้ย" เอิงเอยยังคงโวยวายลั่นเมื่อไม่ได้รับคำขอโทษ ในขณะที่ซุปเปอร์สตาร์หนุ่มหยุดเดินแล้วหันกลับมา
"ชื่ออะไร"
"ฉันต้องการคำขอโทษ ขอโทษฉันซะ ทุกอย่างก็จะจบ"
"ถ้าไม่บอกชื่อ ก็ไม่มีคำขอโทษ" ไอ้บ้านี่คิดว่าเป็นดาราแล้วจะทำไงก็ได้หรอวะ
"อะ เอิงเอย"
"..."
"ฉัน-ชื่อ-เอิงเอย"
"อืม อย่าให้ฉันเจอเธออีกเป็นครั้งที่สองละกันนะ บาย เอิงเอย"
"ฉันก็ไม่ได้อยากเจอนายนักหรอกไอ้ดาราเฮงซวย!!!" เอิงเอยตะโกนด่าดังลั่นสนามบินเมื่อกาวินค่อยๆ เดินหายไปจนลับตา
"วันนี้มันวันอะไรของนังเอยเนี่ย โวย!!!!" เธอสบถออกมาอย่างหัวเสียต่างกลับกลุ่มแฟนคลับของกาวินที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่ข้างหน้า ชูป้ายไฟ ชื่อกาวินจนทั่วสนามบิน
"นิสัยอย่างนั้นมาเป็นดาราได้ไงวะ แต่ช่างเหอะ ขอให้ชาตินี้อย่าได้พบเจอกันอีกเลย เพี้ยงง!!!" เอิงเอยยกมือขึ้นประนมขอพรจากฟ้า อย่าให้เธอได้พบเจอผู้ชวยเฮงซวยอีกเลย
@คอนโดหรูใจกลางเมือง
"โอ้โห ไม่คิดว่าแดดดี้กับคุณมี๊จะซื้อคอนโดหรูขนาดนี้ให้เลยนะเนี่ย อิอิ ส่งข้อความไปขอบคุณสักหน่อยดีกว่า"
หญิงสาวยื่นสมาร์ทโฟนเครื่องหรูยกขึ้นถ่ายรูปตัวเองให้เห็นแบล็คกราวเป็นคอนโดที่อยู่ข้างหลัง ส่งให้กับแดดดี้ และคุณมี๊ ดูทางแอพพลิเคชั่นแชทออนไลน์ ก่อนจะใช้รูปเดียวกันโพสลงอินสตาแกรมส่วนตัวโดยมีคำบรรยายใต้ภาพ
'แดดดี้สายเปย์'
เพียงเวลาแค่ไม่นานแดดดี้ของเธอก็เข้ามาคอมเมนต์ตอบกลับโพส
'รออีกสิบนาทีเดี๋ยวมีเซอร์ไพรให้ด้วย'
หญิงสาวเลื่อนอ่านคอมเมนต์ของผู้ให้กำเนิดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นว่าแดดดี้ของเธอจะมีเซอร์ไพรให้ด้วย และมันต้องเป็นอย่างนั้นแน่ เพราะแดดดี้ไม่เคยผิดคำพูดเลยสักครั้ง
[สิบนาทีต่อมา]
บรื้น! บรื้น! บรื้น! บรื้น!
รถยนต์คันหรูขนาดน่ารักกระทัดรัดสีสวยที่มีมูลค่ากว่าสามล้านบาทถูกขับมาจอดตรงหน้าหญิงสาว
หน้าคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองมันเป็นรถที่เธออยากได้ และอ้อนแดดดี้ของเธอมานาน เมื่อรถ The new MINI Cooper S Convertible Sidewalk จอดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเสียงสมาร์ทโฟนเครื่องหรูดังขึ้น
ครืด! ครืด! ครืด! ครืด!
“ค่ะ แดดดี้”
(หนูชอบของขวัญที่แด๊ดให้หรือเปล่า)
“ของขวัญอันไหนคะ ถ้าเป็นคอนโดน้องเอยโอเคมากๆ ค่ะแดดดี้”
(แล้วอีกชิ้นหนึ่งไม่ชอบเหรอ ?)
“ใช่ คุณเอิงเอยหรือเปล่าครับ ผมเอารถมาส่ง”
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อเอิงเอย เออ...รถ?”
“ครับ The new MINI Cooper S Convertible Sidewalk เป็นของคุณอย่างเป็นทางการแล้วครับ คุณบาสเตียนคุณพ่อของคุณท่านให้ผมขับมาส่งรถให้คุณวันนี้”
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” พนักงานส่งรถยื่นกุญแจรถคันที่เธอไฝ่ฝันมาให้ มือเรียวเล็กสั่นเทายื่นออกไปเพื่อรับกุญแจ ด้วยความดีใจอย่างมาก
“แดดดี้ให้น้องเอยใช่ไหมคะ ขอบคุณนะคะ”
“แด๊ดรักหนูนะลูก หนูต้องโทรกลับมาหาแด๊ดทุกวัน ถ้าไม่ว่างก็ขออาทิตย์ละห้าวันก็ได้ คุณมี๊จะได้ไม่ต้องห่วงนะลูก”
“รับแซ่บค้าบบบ ฝากบอกคุณมี๊เค้กด้วยนะคะ น้องเอยคิดถึง” ใช่ค่ะ ทุกคนไม่ต้องสงสัยเอยเป็นลูกของแดดดี้บาสเตียนกับคุณมี๊เค้กเอง แดดดี้ของเอยทำธุรกิจหลายอย่างเอาง่ายๆ เลยก็คือเอยแทบไม่ต้องทำงานอะไรเลยก็มีกินมีใช้ไปหลายชาติเลยละ
แต่แดดดี้กับคุณมี๊สอนเอยเสมอนะว่า เงินที่มีก็หมดลงได้ถ้าไม่รู้จักเก็บรู้จักใช้ เอยเลยขอแดดดี้มาเรียนต่อต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์แต่ใช่ว่าแดดดี้กับคุณมี๊จะยอมนะ ท่านให้เอยสอบชิงทุนมา และด้วยความหัวกะทิของเอิงเอยก็สอบชิงทุนมาได้ไม่ยากเลยละ
ขณะที่เอิงเอยกำลังชื่นชมรถหรูของตัวเองอยู่นั้นเธอกลับเห็นบางคนถูกกระชากกระเป๋ากลางสี่แยกไฟแดงหน้าคอนโดหรูของเธอ
เอาไงดีวะ แต่เราเป็นคนไทยนะ ก็ต้องช่วยแหละ “หยุดนะ!!” เอิงเอยตะโกนออกไปก่อนที่เธอจะถอดรองเท้าผ้าใบสีขาวเด่นขว้างไปยังเป้าหมายอย่างตรงเป้า
“โอ้ยยย!!”
หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อรู้สึกถึงของเหลวอุ่นพุ่งเข้ามาในโพรงสาว กาวินยังคงขยับเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรีดน้ำรักที่ยังคงคั่งค้างออกให้หมด"พะ ... พี่วิน ปล่อยใน""ใช่" นะ หน้ามึนเกินไปแล้ว"พี่วินปล่อยในทำไม""ทำไม ?" ทำไมเขาจะปล่อยในไม่ได้ในเมื่อเอิงเอยเป็นเมียเขาแล้ว และหากเกิดมีเจ้าตัวเล็กขึ้นมาเขาก็พร้อมจะดูแลทั้งแม่ทั้งลูก"ทะ ทำไมพี่วินไม่ป้องกัน ... ฮึ่ก ..." ถะ ถ้าเกิดพลาดแล้วแดดดี้บาสเตียนรู้ขึ้นมาจะทำยังไง"แล้วทำไมพี่วินต้องป้องกัน หรือต่อให้มีถุงยางพี่วินก็จะสด" เห็นแก่ตัวที่สุด"อะ ... ออกไป""กลัวท้องรึไง""... ฮึ่ก ... ใช่ เอยกลัวท้อง เอยยังไม่พร้อม ได้ยินไหม เอยยังไม่พร้อม ... ฮื้อ ..."หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเมียหมาดๆ ตะโกนก้องแสกหน้า เหมือนถูกตบหน้ากลางสี่แยกเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง แต่นั้นไม่ได้ทำให้กาวินสำนึกผิดขึ้นเลยในเมื่อเขาพร้อมที่จะดูแลเอิงเอยอยู่แล้วกาวินค่อยๆ ถอดแก่นกายใหญ่ออกจากช่องทางรักคับแคบ ทำให้มีน้ำรักปนเลือดบริสุทธิ์ไหลย้อนออกมาจากโพรงสาว เนื้อตัวของเอิงเอยตอนนี้
"ฮึ่ก ... อะ ... เอามันออกไป ละ ... แล้วออกไปจากห้องเอยด้วย ... ฮึ่ก ..." เอิงเอยดีดดิ้นอยู่ใต้ร่างของกาวินขณะที่แก่นกายใหญ่ยังคงอยู่ในกายเธอ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า"พี่วินจะนอนที่นี่" บะ บ้าไปแล้วจะมานอนทีี่นี่ได้ยังไง"พะ ... พี่วิน ไม่มีสิทธิ์ ... ฮึ่ก ... นะ" เอิงเอยสะอื้นไห้ไม่คาดคิดว่าจะเสียพรหมจรรย์ที่รักษามาตลอดยี่สิบปี ให้กับกาวิน"พี่วินจะรับผิดชอบน้องเอยเอง" มือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานนวลเนียนอย่างหลงไหล"มะ ... ไม่ต้อง ... เอยไม่ต้องการ" เธอปัดมืิอเขาออกอย่างไม่ใยดี หัวใจแกร่งกระตุกวูบที่ถูกคนใต้ร่างปฎิเสธความรับผิดชอบ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะเรียกร้องให้เขารีบรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"อะไรวะ ได้กันแล้วจะทิ้งงั้นหรอ" กาวินพูดออกมาด้วยอารมย์เกรี้ยวกราด ผู้หญิงอะไรไม่หวงแหนพรหมจรรย์เลยหรือยังไง"อะ ... เอามันออกไป" มือเล็กดันแผงอกแกร่งของคนตรงหน้า แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่เสียไปมันไม่ได้ทำให้กาวินรู้สึกเลยสักนิด"งั้นก็รับผิดชอบฉันมา" เดี๋ยวนะ ทำไมฉันต้องรับผิดชอบตานี่ด้วย"ไม่!! ออกไป""ไม่ไป""ออกไปจากห้อ
กาวินไล่ประทับสัมผัสทิ้งรอยกุหลาบไว้ทั่วร่างกายของสาวน้อยตรงหน้า เลื่อนริมฝีปากร้อนผ่าวลงไปยังใจกลางความเป็นสาว ประทับฝีปากกับกลีบกุหลาบอวบนูนแผ่วเบา ส่งปลายลิ้นเลื่อนขึ้นลงตามรอยแยกของกลีบดอกไม้งาม“อืมมม ...”“อะ ... อ๊าาาา ... พะ ... พี่ิวิน~” เอิงเอยเผลอไผลไปกับสัมผัสเร่าร้อนแต่นุ่มละมุนของกาวินเธอไม่เคยได้ลิ้มรสของความเสียวซ่านมาก่อน เธอส่งมือเล็กขยุ้มศรีษะที่กำลังขยับขึ้นลงตรงกลางหว่างขาด้วยความเสียวซ่านจนยากจะยับยั้งชั่งใจ“พะ ... พอ แล้ว พี่วิน~”"อืมมม ..." มาถึงขนาดนี้แล้วจะให้เขาพอได้อย่างไร ในเมื่อเขาตั้งใจจะกำราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดจะได้ไม่ต้องไปโปรยเสน่ห์ให้ใครได้อีกกาวินค่อยๆ ดันนิ้วเรียวยาวเข้าออกช้าๆ ควบคู่ไปกับการใช้ปลายลิ้นสัมผัสติ่งเกสรของดอกไม้งามจนเกิดเสียงลามกดังกึงก้องไปทั่วทั้งห้องนอนหรู"อ๊าาา ... พี่วิน~""ครับ"กาวินผละใบหน้าออกจากใจกลางความเป็นสาวแต่เรียวนิ้วยังคงขยับเข้าออกอย่างเนิบนาบ กระตุ้นให้ร่างกายของเอิงเอยปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาชโลมเรียวนิ้วจนเปียกแฉะ
กาวินไม่รอช้าก้มตัวลงอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าแกร่งเดินเข้าลิฟ กดชั้นบนสุดในทันที“ปล่อยนะกาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกแล้วใช่ไหม ฉันโตกว่าเธอ อย่าปีนเกลียว”เพี้ยะ!!“โอ้ยยย มาตีก้นฉันทำไมเนี่ย” กาวินฟาดมือหนาลงที่บั้นท้ายกลมกลึงอย่างไม่แรงมากนักแต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้สาวน้อยได้ไม่ยาก“ไม่ใส่อะไรเลยออกจากบ้านได้ยังไง โดนตีก้นแค่นี้อย่ามาร้องโอดครวญ”“ปล่อยนะ กาวิน ปล่อย!!”“ฉันบอกให้เรียกว่ายังไง”“กะ ก็นายยังพูดว่าฉันอยู่เลย แล้วจะให้ฉันเรียกนายแบบอื่นได้ยังไง”“อย่างนั้นเหรอ”“ปล่อยฉันนะ!!”“พี่วินแบกน้องเอยได้ทั้งคืนนะ” แม้จะอึ้งกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของกาวิน ราวกับเขาอยากจะพูดมันอยู่แล้วอย่างไรอย่างนั้นแต่ตอนนี้ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดจากซุปตาร์ เผด็จการนี้ก่อน“พะ พี่วินปล่อยเอยก่อน เอยเวียนหัวหมดแล้ว” คงต้องลองตามน้ำไปก่อน มันอาจจะช่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมือของเขาก็
ภาพเหตุการณ์เก่าย้อนเข้าห้วงความคิดเมื่อเห็นเข็มไมล์รถที่กาวินเป็นคนเหยีบคันเร่งด้วยความเร็ว ทำให้เนื้อตัวสาวน้อยบนหน้าตักสั่นเทิ้มน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาหวานสั่นระริกราวกับมันคืออดีตที่เลวร้ายของเธอ“ฮึ่ก .... พะ ... พี่วิน ... ชะ ... ช้าลงหน่อย เอยกลัว” สองมือเล็กโอบรอบลำคอหนาไว้แน่นราวกับมันเป็นที่พึงสุดท้าย แต่ด้วยอารมย์หึงหวงที่พุ่งพล่านของกาวิน เขาเองก็ไม่อาจหยุดหรือขับรถให้ช้าลงตามคำสั่งของเธอได้ทั้งสองคนอยู่ในห้วงความรู้สึกที่ต่างกัน เอิงเอยอยู่ในห่วงความรู้สึกอดีตที่เลวร้ายบนท้องถนน ส่วนกาวินอารมย์หึงหวงมันพุ่งพล่านเพราะเขาเองก็ข่มอารมย์มาตั้งแต่ต้นงานแล้วเช่นกัน จนลืมคำนึงถึงความรู้สึกของคนตัวเล็กบนหน้าตัก“ฮึ่ก ... พะ ... พี่วินเอยกลัว ...” เป็นอีกครั้งที่เอิงเอยเอ่ยคำขอจากเขาทำให้กาวินเริ่มได้สติกลับมาเมื่อเนื้อตัวของเอิงเอยสั่นเทามากจนเกินไปในขณะที่กาวินกำลังผ่อนคันเร่งลง“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!” เสียงกรี๊ดของสาวน้อยบนหน้าตักทำให้เขาต้องหยุดรถไว้ข้างทางแม้ว่าอีกหนึ่งกิโลจะถึงคอนโดอยู่แล้วก็ตาม&ldqu
“ฉันปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ปล่อยเธอนะ” มือหนายังคงบังคับจับมือเล็กของเอิงเอย หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นสำเมื่อภาพหน้าจอเป็นหน้าของกาวิน อีกทั้งผู้ชายที่นั่งข้างกายเธอก็ยังเป็นกาวินผู้โด่งดังเอิงเอยพยายามขยับตัวให้กะเพรารู้ตัว และหันมาสนใจเธอ แต่!!! เพื่อนสาวของเธอตอนนี้กำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงนิทรา มันน่าจับมาตีเสียให้เข็ดเมื่อกาวินจับสังเกตุได้จึงกระตุกมือเอิงเอยอย่างแรงก่อนเอี้ยวใบหน้าคมคายมากระซิบข้างหู “ฉันไม่อายนะถ้าจะต้องแสดงหนังสดตรงนี้ แต่นางเองหนังอย่างเธอจะทนได้ไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง” น่ารังเกียจนิสัยแบบนี้มาเป็นดาราได้ยังไงวะ“ปล่อยมือฉันสักทีได้ไหม”“ถ้าฉันได้จับแล้ว ฉันไม่มีวันปล่อยมันหรอกยัยหนู” คำตอบของกาวินทำให้สาวน้อยตรงหน้าชะงักไป พวงแก้มนวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงลูกตำลึง หัวใจดวงน้อยกลับเต้นแรงให้กับคำพูดไม่กี่คำนี้หรอเอิงเอยเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ตอนนี้กำลังจ้องมองภาพยนต์ที่ตัวเองแสดง แต่มือของเขากลับจับมือเธอเอาไว้แน่นราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปไหนอย่างไรอย่างนั้น“จะเป็น







