"ยังไม่เลิกซื้อหวยอีกหรือไง"
"อะไรกันคะ เรียกมาพบก็เพราะเรื่องหวยเนี่ยนะ" ฉันดึงเก้าอี้ตรงหน้าแล้วหย่อนตัวลงนั่ง พี่ชายต่างแม่ของฉันคนนี้ทำหน้าซีเรียสแล้วสักพักก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นหน้าเด็กหญิงไออุ่นที่วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงออดอ้อน
"พ่อพ่อขา"
"ไออุ่นของพ่อพ่อมาช่วยแม่ใช่มั้ย" เจ้าตัวอ้วนพยักหน้าแล้วโผเข้ากอดพ่อพ่อของเขา
หลังจากที่ฉันไปส่งไคล์ที่สนามบินวันนั้นเสร็จฉันก็รีบติดต่อหาพี่ตฤณทันที เขาคือพี่ชายต่างแม่และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ชีวิตฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากพี่ชายคนนี้ ก่อนหน้าฉันคิดว่าตัวเองสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร พอท้องก็เริ่มกังวลทีแรกฉันจะทำแท้งเพราะไม่พร้อมจริงๆ
แต่พี่ตฤณห้ามเอาไว้ ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ตฤณฟัง พี่ชายของฉันคนนี้เข้าใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ลังเล ปกปิดที่อยู่และจัดการเรื่องชื่อนามสกุลให้จนเสร็จสรรพ อิงดาวได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้มีแค่ฟ้ารดาเท่านั้น ฟ้ารดา อักษรศิลากุล เป็นนามสกุลที่ฉันปฏิเสธมาตลอดสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาพึ่งพานามสกุลนี้ ลดทิฐิในตัวลงเพื่อชีวิตน้อยๆ ที่ฉันเกือบจะตัดเขาออกจากตัวไป
"พ่อพ่อดุแม่อิงทำไมคะ" เราสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม พี่ตฤณมีพระคุณกับฉันแล้วก็ไออุ่นมาก ฉันก็เลยให้ไออุ่นเรียกพี่ตฤณว่าพ่อ สอนเขาแค่ครั้งเดียวไออุ่นก็เรียกพี่ตฤณว่าพ่อพ่อติดปากตลอดเลย
"แม่อิงดื้อ"
"ไม่ดื้อๆ อุ่นดื้อกว่าอีกนะ" ไออุ่นชี้ตัวเองจ้องหน้าพ่อพ่อของเขาจริงจัง ฉันหลงรักลูกตัวเองวันละหลายสิบรอบ พี่ตฤณก็เหมือนกันตามใจไออุ่นทุกอย่าง ไปไหนมาไหนก็หอบกันไปด้วยห้ามก็ไม่ยอมฟัง อายุปูนนี้แล้วสาว ๆ เห็นก็วิ่งหนีกันไปหมด
"ช่างพูดนะเรา พ่อพ่อไม่ได้ดุแม่อิงสักหน่อย พ่อพ่อมีงานให้แม่อิงทำครับ ไออุ่นไปอยู่กับป้าสุดใจก่อนนะ" ไออุ่นทำท่าจะไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมโดยดีเพราะพ่อพ่อของแกยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้
"พ่อพ่อสัญญาแล้วนะคะ"
"พ่อพ่อเคยโกหกหรือเปล่า"
"อุ่นรักพ่อพ่อกับแม่อิงที่สุดเลยค่ะ" ทำเอาเราสองคนยิ้มไม่หุบ โดยเฉพาะพี่ตฤณที่หลงหลานสาวคนนี้หัวปัก ส่วนฉันก็ทั้งรักและหวงลูกมาก ๆ และรู้สึกผิดที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้พ่อแท้ ๆ ของเขาได้รับรู้ด้วย
"พี่ตฤณมีงานอะไรจะให้อิงไปทำคะ"
"ไร่ของเราได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานจัดแสดง ฟาร์มตัวอย่าง พี่อยากให้อิงเข้ามาช่วย ทางไร่ต้องไปจัดบูธโชว์ผลงานในกรุงเทพ อิงจะพาอุ่นไปด้วยก็ได้เพราะพี่เตรียมที่พักไว้ให้แล้ว" ที่จริงฉันไม่อยากพาลูกไปเท่าไหร่แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ งานครั้งนี้คงใช้เวลานานเป็นสัปดาห์ ฉันไม่อยากห่างลูก
"ได้ค่ะ งานเริ่มเมื่อไหร่คะอิงจะได้เตรียมตัว"
"อีกไม่กี่อาทิตย์ พี่เคลียร์งานเสร็จแล้วจะตามไปช่วย" ไออุ่นเพิ่งเข้าอนุบาลไม่มีปัญหาเรื่องการลาโรงเรียน พี่ตฤณให้ป้าสุดใจตามไปช่วยเลี้ยงไออุ่นด้วย ดีเลยฉันจะได้ทำงานได้เต็มที่ ป้าสุดใจคือทุกอย่างของฉันจริงๆ ถ้าไม่ได้ป้าสุดใจฉันก็คงแย่ ขอบคุณพี่ชายคนนี้ด้วยที่เตรียมพี่เลี้ยงเอาไว้เพื่อรอเด็กหญิงไออุ่น
"ได้เลยค่ะ อ่อ อาทิตย์หน้าที่โรงเรียนไออุ่นมีงานนะคะ"
"ไม่พลาดอยู่แล้ว มาโม้ให้พี่ฟังทุกวัน ได้ข่าวว่าแสดงเป็นต้นไม้"ฉันหัวเราะคิก ลูกสาวคนนี้ขี้คุยเหมือนใครเนี่ย เลือดการแสดงฉายแววตั้งแต่ยังเล็ก นึกไปมาก็คงไม่พ้นพ่อของเขาที่ตอนนี้กำลังดังเป็นซุปตาร์อยู่ที่จีน ได้เลือดพ่อมานี่เอง
"คงได้เลือดพ่อมาเยอะ" ฉันยิ้มเจื่อนพูดไม่ออก
"งานที่จะให้อิงทำมีแค่นี้ใช่มั้ยคะ"
"มีแค่นี้แหละ พี่ไม่อยากให้น้องตัวเองเก็บกดมากจนเกินไป ออกไปเจอโลกภายนอกบ้างก็ดี" ตั้งแต่ท้องเริ่มโตฉันก็เก็บตัวเงียบอยู่ในฟาร์มของพี่ตฤณจนคลอดไออุ่นก็เริ่มออกไปข้างนอกบ้าง ข้างนอกที่ว่าคือตัวอำเภอเท่านั้นซื้อของใช้ลูกและของใช้ส่วนตัวที่อยากได้ ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น กลัวว่าเรื่องจะถึงหูไคล์
"ค่ะ อิงขอตัวไปดูอุ่นก่อนนะคะ"
"อืม เย็นนี้พี่จะแวะไปกินข้าวด้วยบอกป้าสุดใจด้วยนะให้ทำกับข้าวเผื่อพี่ด้วย"
"ได้เลยค่ะ" เราสองพี่น้องอยู่แยกบ้านกันอยู่ พี่ตฤณไม่อยากให้ฉันอึดอัดก็เลยยกเรือนไม้หลังกลาง ๆ ให้ฉันอยู่กับลูกและป้าสุดใจ พี่ตฤณจะแวะมากินข้าวด้วยเป็นบางวันเพราะงานค่อนข้างเยอะ แต่ก็จะพยายามมาให้ได้ทุกวันเพราะไออุ่นรอ
"ไออุ่นดูอะไรอยู่ลูก"
"ดูพี่คนนี้ร้องเพลงค่ะ " ลูกสาวของฉันชี้ไปที่หน้าจอทีวี ช่องวาไรตี้จากจีนกำลังออนแอร์รายการหนึ่งที่มีไคล์พ่อแท้ๆ ของลูกสาวฉันร้องเพลงอยู่ ไม่รู้ว่าใครเปิดให้ไออุ่นดู คงเป็นป้าสุดใจ
"ดูบ่อยเหรอเรา"
"ไม่บ่อยค่ะ ไม่เคยดูแต่เคยได้ยินเสียงแบบนี้" ตอนไออุ่นอยู่ในท้องคงได้ยินเสียงนี้ที่ฉันชอบเปิดฟังบ่อย ๆ
"ชอบเหรอคะ"
"ในนี้มันกำลังยิ้มค่ะ" ฉันดึงลูกสาวเข้ามากอด นิ้วเล็กๆ นั่นจิ้มลงตรงหน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง ทำให้ความรู้สึกผิดวิ่งขึ้นมาที่กระบอกตา ขอโทษนะลูกที่แม่ทำให้หนูขาดพ่อ ขอโทษพ่อของเขาด้วยที่ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าลูกและไม่มีโอกาสได้รู้ด้วยว่าเขามีลูกสาวน่ารักมากขนาดนี้
----------------
“คุณอิงปั๊มนมอยู่ค่ะ”“พาน้องคินไปอาบน้ำได้เลยนะครับ เพราะวันนี้มีนัดฉีดวัคซีน”หลังจากสั่งพี่เลี้ยงเสร็จผมก็เดินเข้ามาในห้องปั๊มนมของภรรยา เธอกำลังโยกเก้าอี้ไม้ปั๊มนมอย่างสบายใจ เห็นอิงมีความสุขก็ทำให้ผมยิ้มไม่หุบเลยสักครั้งอิงคลอดลูกชายให้ผม สมบูรณ์แข็งแรงดี อิงเป็นแม่ที่แข็งแรงและเก่งมากๆ ผมตั้งชื่อลูกชายว่า อคิน ส่วนชื่อเล่นอิงเรียกน้องคิน ไออุ่นเห่อน้องชายมากๆ พยายามช่วยแม่เลี้ยงน้องเท่าที่ทำได้เพราะไม่อยากให้แม่เหนื่อยแต่ดูท่าว่าแม่จะเหนื่อยหนักกว่าเดิม“อิง ไออุ่นไปโรงเรียนแล้วนะ”“วิ่งมาหอมแก้มอิงตั้งนานกว่าจะไปได้ น้องคินล่ะคะ”“ให้พี่เลี้ยงพาไปอาบน้ำแล้ว วันนี้ลูกมีนัดฉีดวัคซีนนี่”“ไคล์ไปทำงานเลยก็ได้นะ อิงไปกับพี่เลี้ยงได้”“ไม่เป็นไรเลย ไคล์ว่าง”“โกหกเถอะ” อิงยังสวยสำหรับผมเหมือนเดิม แม้จะมีพี่เลี้ยงมาคอยช่วยแต่อิงก็ยังยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกเอง เวลาได้ยินเสียงลูกร้องแล้วใจจะขาดขอจัดการเองดีกว่า แค่เอาเข้าเต้าลูกก็เงียบแล้วเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่ายที่ผมได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ด้วยความอิจฉาเพราะลูกไม่ติดเต้าผมมีแต่ผมที่ติดเต้าเมียตอนนี้ถูกลูกแย่งซุกไปแล้ว“กลัวลูกมีไข้จะได้ช่วยก
มีแต่ความสุขเลยเต็มไปหมดเลย ชีวิตของฉันตอนนี้ค่อนข้างลงตัวสุดๆ ไปเลย ไออุ่นมีผู้ติดตามในไอจีหลักแสนแล้วตอนนี้ คลิปล่าสุดที่ไออุ่นร้องเพลงก็เป็นไวรัลยอดแชร์เกือบหมื่นเพราะเป็นการร้องเพลงคู่กับพ่อของเขาครั้งแรก ไม่ได้ตกแค่แฟนคลับในไทยเท่านั้น ที่จีนก็มีแฟนคลับกดแชร์คลิปไออุ่นไป ทำให้ฉันใจฟูมากๆ“ลูกเราจะมีแม่จีนมาซัปพอร์ตแล้วนะ” ไคล์นั่งลงข้างๆ แล้วโอบไหล่ฉันให้ขยับไปใกล้“พี่ตฤณคงดูคลิปลูกทั้งวันเลยมั้ง เผลอๆ สั่งให้คนงานดูด้วย” ลูกสาวคนนี้เกิดมาให้โชคโดยเฉพาะเลยจริงๆ กิจการของไคล์เติบโตแบบก้าวกระโดดนำหน้าคู่แข่งแบบไม่ต้องกลัวมีใครแซงเลย เริ่มขยายสาขาออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วด้วยตอนนี้“พ่อไคล์ แม่อิงดูอะไรกันอยู่เหรอคะ”“ดูคลิปไออุ่นไงลูก มาดูด้วยกันมั้ย” ฉันกวักมือเรียกเจ้าตัวเล็กที่ยืนหัวฟูเพราะเพิ่งตื่นมาดูด้วยกันไออุ่นรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหาแล้วแทรกตัวนั่งตรงกลางทันที“อุ่นชอบอยู่ตรงกลางเพราะรู้สึกอบอุ่นค่ะ” โดนพ่อฟัดแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่“ลูกสาวพ่อเนี่ยน่ารักที่สุดเลย” ฉันส่งมือถือให้ลูกดูความน่ารักของตัวเอง แววตาของเจ้าตัวเล็กดูภูมิใจกับความสามารถและการแสดงออกของตัวเองแบบสุดๆ ไปเลย“พ
ผมวางหนังสือนิทานในมือลงแล้วหันไปมองหน้าลูกที่นอนหลับปุ๋ยข้างๆ ไออุ่นเวลาหลับน่ารักจนอยากฟัดให้ตื่นอีกสักรอบ ผมหลงลูกจนหาทางออกไม่เจอ รักและหวงจนไม่อยากให้คนอื่นเข้าใกล้ หนักถึงขั้นเตรียมบอดี้การ์ดเอาไว้อีกหนึ่งชุดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ไออุ่นโดยเฉพาะ“เจ้าหญิงน้อยของพ่อ” ถึงไม่ได้ดูแลตั้งแต่แกอยู่ในท้องและไม่ได้เลี้ยงดูตั้งแต่แรกคลอด พอรู้ว่านี่คือลูกสาวของตัวเอง ก็รู้สึกรักได้โดยไม่คิดลังเลผมเอี้ยวตัวเอาหนังสือนิทานไปเก็บเข้าชั้นแล้วขยับตัวก้าวลงจากเตียงให้เบาที่สุดเพราะกลัวลูกจะตื่น ปลายทางคือโซฟาเบดไม่ไกลจากเตียงเจ้าหญิงของลูกสาว“อิง มานอนบนเตียงเร็ว”“อื้อ นอนยังไง ไคล์นอนไปเลยอิงนอนนี่แหละ” พูดจบก็หันหลังดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองจนมิดหัว“อิง”“อิง”พึ่บ!“อะไรเนี่ย ไคล์ ที่ยังแคบไม่พอเหรอ” ผมดื้อและมึนมาก แทรกตัวลงไปข้างๆ พร้อมยื่นแขนโอบรอบเอวเล็กเอาไว้แน่น“เราคบกันแล้วไม่ใช่เหรอ”“คบกันแล้วก็ใช่ว่าจะทำแบบนี้ได้นะไคล์” เธอดุผมเรื่องถึงเนื้อถึงตัว แค่กอดเอง ทำไมต้องใจร้ายต่อว่าผมขนาดนี้ด้วย“ก็คิดถึง อยากกอด คิดว่าเป็นกอดให้กำลังใจนะ อิงคงเหนื่อยมากใช่มั้ย” อิงถอนหายใจแล้วเลิก
ผมสารภาพความในใจให้อิงรู้ พูดทุกอย่างที่อยากบอกมาตลอดหลายปี มันคือเรื่องดีและอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นกว่าเดิม“แอบชอบแล้วทำไมไม่บอก”“ไม่กล้าไง” หลังจากเลิกงานเราก็ไปรับลูกด้วยกัน ระหว่างทางอิงก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา“ถามจริง คืนนั้นพลาดใช่มั้ย”“พลาดจริงๆ ใครจะกล้าทำร้ายคนที่ชอบแบบนั้นได้ลง” ผมไม่เคยคิดล่วงเกินอิงเลยจริงๆ คิดว่ากลับมาแล้วค่อยสารภาพว่าชอบแต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปหมดเพราะความผิดพลาดในคืนนั้น“แล้วถ้ากลับมา อิงมีแฟนแล้วล่ะ จะทำยังไง”“แย่งมั้ง”“เลว”“ไม่มีหรอก อิงไม่มีแฟนแน่นอน” ผมพบพิรุธตั้งแต่ตามหาอิงไม่เจอแล้ว นักสืบบริษัทใหญ่ๆ ยังทำงานพลาดแสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่าง“แสดงว่ารู้มาตลอดใช่มั้ย”“ถ้าไม่มีอะไร อิงจะหนีไคล์ทำไม ไคล์มีอิงเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวนะ ยิ่งหายไปแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ไคล์เป็นห่วง”“นั่นสิ แต่อิงไม่อยากให้ไคล์รู้นี่ว่ามีไออุ่น” เรื่องนี้คือเรื่องที่ทำให้อิงรู้สึกผิดมากๆ แต่ผมกลับไม่โกรธเธอเลยสักนิด ชื่นชมและรักเธอมากกว่าเดิมด้วยซ้ำที่อดทนและคลอดลูกสาวที่น่ารักออกมาให้ผมได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นพ่อคน“อิงเป็นแม่ที่เก่งมากๆ เลยรู้มั้ย”“ตอนแรกก็ไม่รู้ห
หลังจากงานแถลงข่าวจบลงกระแสตอบรับที่ได้มามีทั้งด้านดีและไม่ดี แน่นอนว่าพวกเราทำใจยอมรับเอาไว้แล้วแต่ที่น่าตกใจมากกว่าเสียงวิจารณ์ในแง่ลบก็คือ รูปของไออุ่นติดอยู่ในโซเชียลมากกว่าไคล์ คอมเมนท์ที่ฉันไล่อ่านทำให้คนเป็นแม่ใจฟูอีกแล้ว“อิง วันนี้ลูกจะไปเรียนศิลปะกับพี่เลี้ยงนะ”“อืม”“อ่านอะไรอยู่ ติดกระดุมเสื้อให้หน่อยสิ”“อือๆ” ฉันวางโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นมาสนใจท่านรองประธาน“ยิ้มอะไร วันนี้ไคล์หล่อเหรอ”“ไม่ใช่” เรื่องติดกระดุมนี่ก็มีปัญหาได้เกือบทุกวัน พอช่วยติดให้ก็ติดเองไม่เป็นอีกเลย“เรื่องอะไรบอกหน่อยสิ อยากยิ้มด้วย”“ไม่เห็นข่าวลูกเหรอ มีแต่คนชมลูกเต็มไปหมดเลย” ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่ๆ ดาราแล้ว เวลามีคนชมลูกมันรู้สึกยังไงแต่ฉันก็เผื่อใจเอาไว้สำหรับพวกที่พิมพ์ความคิดเห็นแง่ลบ ขนาดเผื่อใจยังรับไม่ค่อยได้เลย“เห็นสิ”“แต่ว่า”“อิง อ่านแต่คอมเมนท์ดีๆ ก็พอ ร้อยพ่อพันแม่ไม่มีใครเหมือนกันทุกคนหรอก”“อิงกลัวลูกรู้สึกไม่ดี”“ลูกเราเพิ่งสามขวบ เรายังมีเวลาสอนเขา อย่าคิดมาก วันนี้ไปทำงานกับไคล์มั้ยเลิกงานจะได้ไปรับอุ่นกัน”“ทำงาน”“ใช่ ทำงาน” ฉันเลือกอะไรได้ล่ะ อยู่บ้านก็คงเฉาตาย ลูกก็ไม่อยู่
ผมตั้งใจจัดงานแถลงข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ กำลังใจที่สำคัญของผมนั่งอยู่ด้านหน้าเวที สองสาวยิ้มให้ผมสลับกับโบกมือไปมาให้สัญญาณว่าอยู่ตรงนี้จะไม่ไปไหนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้ง มีพวกเขาอยู่เคียงข้างไม่ว่าปัญหาอุปสรรคจะหนักหนาสักแค่ไหนก็พร้อมสู้“แน่ใจนะไคล์ว่าจะทำแบบนี้” พี่แคทมาทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย เราผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายทั้งสุขและทุก พี่แคทเป็นทุกอย่างให้ผม ดูแลผมดีมากๆ“ใจหายว่ะพี่ แต่ก็ต้องทำ ผมไม่อยากอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว ถึงจะอำลาแต่แฟนคลับบางคนก็ไม่ให้เกียรติครอบครัวผมเลย”“แกมีลูกไง แกเป็นพ่อคนแล้ว ฉันเข้าใจ” ผมพยายามทุกๆ วัน มันไม่ง่ายเลยการเป็นพ่อคนเนี่ยแต่ผมก็ไม่เคยลดละความพยายามเลย ยิ่งได้เห็นหน้าลูกก็ยิ่งอยากพัฒนาตัวเองให้เป็นพ่อที่ดีเหมาะสมกับลูกสาวสุดน่ารักที่มีเลือดของผมไหลเวียนอยู่ในตัว“ผมรักลูกมากเลยพี่ อยากทำตัวดีให้เหมาะสมกับเป็นพ่อของเขา ขอบคุณพี่แคทมากๆ นะที่มาช่วยดูแลงานวันนี้”“เล็กน้อย มีงานอีกเมื่อไหร่ โทรตามฉันได้ตลอด คิดไม่แพงหรอก”“หน้าเงิน”“เอ้า อีนี่ ทำงานก็ต้องได้เงินสิ ไปเตรียมตัวได้แล้ว ใกล้ถึงเวลาแถลงข่าวแล้ว”ผมกำชั