ตอนที่ 14
ขอยืมหรือแย่งชิง
เมื่อตกลงทุกอย่างได้แล้วทุกคนจึงแยกย้ายกลับเรือนตัวเอง เมื่อกลับถึงเรือนซินซินจึงเอ่ยถามนายสาวอย่างสงสัย
“คุณหนูยกการจัดการในจวนให้อนุฟางเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ นางคงใช้โอกาสนี้เล่นงานคุณหนูเป็นแน่”
“ข้าก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้วนี่ เจ้าไม่ต้องหวงไปหรอก บอกคนของเราจับตาดูสามแม่ลูกนั่นให้ดี เมื่อข้าบอกให้ปล่อยข่าวลือเมื่อไหร่ให้พวกเขาทำงานให้เต็มที่พอ”
นางทำเช่นนี้เพราะต้องการให้สามแม่ลูกนั้นคิดว่าตนมีอำนาจในมือ เมื่อพวกมันลงมือนางจะใช้ข่าวลือพร้อมหลักฐานทำให้พวกมันพ่ายแพ้ด้วยตัวมันเอง
ส่วนพี่ชายผู้นั้นนางจะให้เขามีความสุขไปก่อน ยิ่งเขาร่วมรักกับสตรีมากเท่าไหร่ จุดจบของเขาก็ใกล้เข้ามาเร็วเท่านั้น
“เจ้าค่ะคุณหนู แล้วชิงชิงเราจะทำอย่างไรกับนางเจ้าคะ เมื่อวันก่อนคนของเราบอกว่านางเข้าไปหาคุณหนูใหญ่ ก่อนจะออกมาพร้อมห่อกระดาษบางอย่างเจ้าค่ะ”
“แล้วรู้หรือไม่ว่าห่อกระดาษนั้นคืออะไร”
“เป็นเสื้อใหม่กับปิ่นปักผมเจ้าค่ะ และยังมียานอนหลับซ่อนอยู่ในช่องเก็บของบนหัวนอนของนางด้วย แต่คนของเราเปลี่ยนเป็นผงสีธรรมดาแล้วเจ้าค่ะ” ซินซินรายงาน
“ผงยานอนหลับนางได้มาจากใคร”
“ได้มาจากคุณชายเจ้าค่ะ คนของเราบอกอีกว่าคุณชายให้นางเอามาผสมให้คุณหนูกินกับน้ำชาเจ้าค่ะ เหมือนนางเข้าใจว่าสิ่งที่ได้มาเป็นเพียงยาบำรุงที่ทำให้คุณหนูหลับง่ายขึ้นเท่านั้น”
“เช่นนี้นี่เอง แล้วเรื่องที่ข้าให้ส่งคนไปดูที่วัดนอกเมืองเล่า ได้ข่าวมาบ้างหรือยัง”
“คนของเราบอกว่าพบหลวงจีนรูปลักษณ์ตามที่คุณหนูบอกอยู่รูปหนึ่งเจ้าค่ะ แต่เขาเพิ่งออกเดินทางไปแคว้นข้างเคียงก่อนคนของเราจะกลับมารายงานนี่เองเจ้าค่ะ”
“เดี๋ยวไม่นานท่านคงกลับมาสินะ” นางเอ่ยคล้ายพึมพำกับตัวเอง
“คุณหนูเจ้าคะ อนุฟางกับคุณหนูใหญ่มาเจ้าค่ะ” สาวใช้เฝ้าหน้าเรือนเข้ามารายงาน
ไม่คิดว่าได้อำนาจไปเพียงครู่เดียว จะรีบมาแสดงอำนาจโง่ ๆ ของตัวเองเร็วเพียงนี้
“ให้พวกนางเข้ามาเถอะ” นางเอ่ยอนุญาต ก่อนจะจัดเสื้อคลุมตัวนอกเล็กน้อย
“พี่สาวมารบกวนน้องรองหรือไม่ ขอโทษเจ้าด้วยที่มาโดยไม่แจ้งเจ้าก่อน” เสียงของซูเยว่ซินดังมาก่อนตัว
“พี่หญิง รบกวนอะไรกันเจ้าค่ะ อนุฟางเชิญนั่งก่อนเจ้าค่ะ” นางเอ่ยพลางส่งยิ้มบางให้คนทั้งสอง
“พอดีพี่สาวจะออกไปพบคุณชายกู่ แต่ยังไม่มีเสื้อผ้าและเครื่องประดับเลย จะสั่งตัดก็ไม่ทันเสียแล้ว จึงอยากจะมาขอยืมของน้องรองก่อนได้หรือไม่”
หญิงสาวเอ่ยอย่างน่าสงสาร อีกนัยหนึ่งก็เหมือนเป็นการอวดกราย ๆ ว่าตนจะไปเที่ยวกับบุรุษ
“ได้สิเจ้าค่ะ แต่ไม่รู้ว่าของที่ข้ามีพี่หญิงจะชอบหรือไม่ ซินซินไปเอากล่องเครื่องประดับกับชุดใหม่ที่ข้ายังไม่ได้ใส่มาที” นางเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นเดิม
สาวใช้ของนางหายไปไม่นาน ก็กลับมาพร้อมกล่องสองใบเมื่อเปิดให้เห็นของด้านในสองแม่ลูกก็ตาลุกวาวทันที
เพราะในกล่องมีแต่เครื่องทอง และเครื่องประดับไข่มุกล้ำค่าทั้งนั้น ผ้าก็มีแต่ผ้าไหมชั้นดีที่หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด ต้องสั่งนำเข้ามาเฉพาะ
“เชิญพี่หญิงเลือกชิ้นที่ชอบไปได้เลยนะเจ้าคะ”
“งดงามจนพี่สาวเลือกไม่ถูกเลย เจ้าจะโกรธพี่สาวหรือไม่หากพี่จะขอยืมทั้งหมดนี่ก่อน” ซูเยว่ซินเอ่ยขออย่างหน้าด้าน ๆ
“เออ...ทั้งหมดเลยหรือเจ้าคะ” นางแสร้งถามอย่างหนักใจ
“ให้พี่สาวคุณหนูยืมก่อนเถิดเจ้าค่ะ เมื่อเสร็จแล้วข้าจะให้นางเอามาคืนคุณหนูให้ครบทุกชิ้นเลย ข้าสัญญาเจ้าค่ะ” อนุฟางเอ่ยช่วยบุตรสาวตนเอง
“ในกล่องนี้เป็นเครื่องประดับทั้งหมดที่ข้ามี ถ้าพี่หญิงยืมเพียงไม่กี่วัน และอนุฟางรับปากเช่นนี้ข้าให้พี่หญิงยืมก็ได้เจ้าค่ะ”
นางแสร้งเอ่ยอย่างจำยอม ทำให้สองแม่ลูกยิ้มให้กันทันที ราวกับว่าแผนที่วางไว้สำเร็จอีกครั้ง
“ข้ารับรองว่าเมื่อคุณหนูใหญ่ใช้เสร็จ จะกำชับให้นางเอามาคืนคุณหนูรองทุกชิ้นเลยเจ้าค่ะ ขอบคุณคุณหนูรองอีกครั้งที่ให้คุณหนูใหญ่ยืมเครื่องประดับนะเจ้าคะ” อนุฟางเอ่ย
พวกนางอยู่พูดคุยอีกสองสามประโยค ก่อนจะขอตัวกลับไป เมื่อลับร่างสองแม่ลูกไปแล้ว สายตาของซูฮุ่ยฉินก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
“กล่องเครื่องประดับของข้าเจ้าเอาไปเก็บไว้ดีแล้วหรือยัง”
“เรียบร้อยเจ้าค่ะ ระหว่างนี้คุณหนูจะมีเพียงเครื่องประดับที่ทำจากไม้จันทร์หอมของอดีตฮูหยินเท่านั้นเจ้าค่ะ” ซินซินเอ่ย
“ดี แต่แปลกที่นางไม่เอาชุดพวกนี้ไปด้วย แต่ช่างเถอะเดี๋ยวนางก็มาเอา ข้าหิวแล้วเจ้าไปจัดสำรับให้ข้าเถอะ” นางเอ่ย สาวใช้ตัวน้อยจึงออกจากห้องไป
ในชาติก่อนนางถูกซูเยว่ซินบุกมาแย่งเครื่องประดับไปตั้งแต่วันที่สามที่หญิงสาวเข้าจวนมาด้วยซ้ำ
และเครื่องประดับที่ซูเยว่ซินเลือกใส่ไปเจอคุณชายกู่หลังแลกของหมั้นหมาย คือเครื่องประดับไข่มุกครบชุดของมารดานาง ชาตินี้ก็คงเป็นเช่นนั้น
นางจึงสั่งให้ช่างทำมันขึ้นมาใหม่อีกชุด รวมถึงเครื่องประดับอื่น ๆ ด้วย เพราะคิดว่าอย่างไรซูเยว่ซินก็หาทางแย่งมันไปจากนางอีกครั้งแน่
ต่างกันที่ชาตินี้ซูเยว่ซินไม่ได้ใช้กำลังแยกมันไป เพราะนางตั้งใจมอบให้แทน
ข้าจะรอดูวันที่พี่สาวเจอคนรักแสนชั่วช้าผู้นั้นนะเจ้าคะ อยากรู้นักว่าคนที่เขาคิดว่าเป็นสตรีเรียบร้อย แต่พอเจอเข้าจริงเป็นสตรีมารยาแพศยา เขาจะทำเช่นไรต่อ
ด้านซูเหิงเยว่เมื่อเรียนบัญชีกับบิดาเสร็จ เขาก็ตรงไปที่ตรอกโคมแดงทันที
เขาหมายตาหญิงคณิกานางหนึ่งไว้ ใบหน้าของนางนอกจากงดงามแล้ว ยังละม้ายคล้ายคลึงกับน้องสาวต่างแม่ของเขานัก ยามมองนางทีไรทำให้หวนนึกถึงซูฮุ่ยฉินขึ้นมาทุกที
วันนี้เขาจะจ่ายให้นางมาปรนนิบัติเขาให้ได้ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากเรือน ก็เห็นสาวใช้นางหนึ่งยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
“คุณชายเจ้าคะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกเขาแผ่วเบา
“เจ้า...ชิงชิงสาวใช้ของน้องรองใช่หรือไม่” เขาหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามออกไป
“เจ้าค่ะ ข้าน้อยชิงชิงเอง คุณชายรีบร้อนไปที่ใดหรือไม่ ข้าน้อยมีข่าวของคุณหนูรองมาแจ้งให้คุณชายทราบเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยพลางช้อนตามองชายหนุ่มอย่างยั่วยวน
“ว่างสิ เจ้าเข้ามาก่อนเถอะ”
เขาเอ่ยพลางเดินนำเข้าไปยังห้องนอน หญิงสาวก็รีบตามเข้ามาพร้อมปิดประตูอย่างรวดเร็ว
“คุณชายหายไปไหนมาตั้งหลายวันเจ้าคะ ข้าน้อยมาหาคุณชายตั้งหลายครั้งแต่ไม่พบคุณชายเลย”
“ข้าออกไปทำธุระข้างนอกน่ะ เจ้านั่งก่อนสิแล้วค่อย ๆ เล่าให้ข้าฟังว่ามีข่าวอะไรเกี่ยวกับน้องรองบ้าง” ชายหนุ่มเอ่ยพลางผลักสาวใช้ให้นอนราบไปกับเตียง
“ตั้งแต่คุณหนูไม่ได้จัดการดูแลในจวน นางก็เอาแต่นั่งเหม่อลอยเจ้าค่ะ แถมคุณหนูใหญ่กับนายหญิงก็มายืมเครื่องประดับของคุณหนูไปจนหมด....”
“ไม่สิ ข้าไม่ได้อยากฟังเรื่องเหล่านี้ อืม...เจ้าลองเล่าตอนที่เจ้าปรนนิบัตินางอาบน้ำให้ข้าฟังซิ นางมีรูปร่างเช่นไร ผิวนางขาวผ่องปานใด และกลิ่นกายของนางหอมดั่งดอกไม้ชนิดใด”
ซูเหิงเยว่เอ่ยพลางสูดดมซุกไซร้ไปตามร่างกายของสาวใช้ใต้ร่าง ยิ่งจิตนาการว่าสตรีตรงหน้าคือน้องสาวต่างมารดาอารมณ์กำหนัดก็ยิ่งมีมากขึ้น
“คุณหนูงดงามนัก ผิวของนางขาวผ่องราวไข่มุก อ่า...แถมกลิ่นกายของนางยังหอม อื้ม...ราวดอกกุหลาบที่ยั่วยวนบุรุษให้หลงไหลได้ทุกเมื่อ”
ยิ่งนางพูดบุรุษตรงหน้าก็ยิ่งซุกไซร้นางหนักขึ้น บทรักที่เขาแสดงกับนางก็หนักหน่วง รุนแรงจนนางแทบขาดใจตายคาอกเขา
ตอนนี้ทั้งสองไม่มีเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น อารมณ์ของคนทั้งสองเร่าร้อนจนแทบแผดเผากันและกันให้หลอมละลายคาเตียง
ชิงชิงจับทางชายหนุ่มได้เพราะคืนแรกที่นางยั่วยวนเขา เขาเอาแต่ถามหาคุณหนูของนาง ตั้งแต่นั้นมาตนก็ใช้เรื่องของคุณหนูเข้าหาเขามาตลอดและมันก็ได้ผลทุกครั้ง
ยิ่งบรรยายเรือนร่างของคุณหนูให้เขาเห็นภาพมากเท่าใด ความเร่าร้อนของคุณชายที่มอบให้นางก็มากขึ้นเท่านั้น
นางไม่สนว่าจะเป็นการหักหลังคุณหนู เพราะนางก็ต้องหาทางดิ้นรนให้ตนสูงขึ้น
ใครจะอยากเป็นสาวใช้ไปจนตายกันเล่า อย่างน้อยเป็นอนุของว่าที่เจ้าบ้าน ยังดีกว่าเป็นสาวใช้ของคุณหนูที่ต้องแต่งออก
ตอนที่ 16พบกันในที่ไม่คาดคิดซูฮุ่ยฉินนั่งมองความวุ่นวายตรงข้ามโรงเตี๊ยมด้วยใบหน้าเรียบเฉย จนเห็นว่าคนถูกพาตัวขึ้นรถม้าไปแล้ว จึงได้หันมาสนใจถ้วยชาตรงหน้าแทน“พี่ชายข้ายามนี้อยู่ที่ใด” นางเอ่ยถามขึ้นเบา ๆ“ก่อนออกมาชิงชิงได้เข้าไปหาคุณชายที่เรือนเจ้าค่ะ”“ยาที่ข้าให้เมื่อวันก่อนได้ผสมให้ชิงชิงกินหรือไม่” นางเอ่ยถามอีกครั้ง“ยาช่วยให้ตั้งครรภ์หรือเจ้าคะ ยานั่นข้าแอบผสมให้นางกินทุกวันเจ้าค่ะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดอีกไม่เกินสองเดือนนางน่าจะตั้งครรภ์เจ้าค่ะ” ซินซินรายงาน“ดี เรากลับจวนกันเถอะ ข้ายังต้องไปทำหน้าที่บุตรสาวที่ดีของท่านพ่อต่อ เห้อ!! เป็นบุตรสาวที่เพียบพร้อมก็ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ” นางเอ่ยคล้ายตัดพ้อต่อโชคชะตาแต่น้ำเสียงกลับเย้ยหยันโชคชะตานี้ต่างหาก โชคชะตาอันใดกันเป็นข้าที่เลือกเดินเองทั้งนั้น ช่างน่าขันสิ้นดีนางคิดพลางเดินออกจากห้องส่วนตัวของโรงเตี๊ยม แต่กลับชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเข้าเสียก่อน
ตอนที่ 15บุรุษกับสตรีไร้ยางอายวันที่ซูเยว่ซินต้องออกไปพบคู่หมั้นมาถึงอย่างรวดเร็ว หญิงสาวตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าอย่างตื่นเต้นซูฮุ่ยฉินเองก็เช่นกัน นางอยากไปชมงิ้วด้วยตนเองจึงได้ให้คนเตรียมรถม้าไว้รอก่อนหน้านี้สองแม่ลูกนั่นวางแผนกลั่นแกล้งนางเช่นกัน แต่ไม่ได้มากมายอะไร เป็นเพียงการลดปริมาณอาหาร หรือไม่ก็งดของว่างของนางนางถือว่าเป็นการเล่นสนุกของเด็ก ๆ จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพียงให้พ่อบ้านรายงานท่านพ่อเท่านั้นสองวันแรกท่านพ่อปล่อยผ่าน แต่เมื่อมีวันที่สามนางจึงได้ยินว่าท่านพ่อเรียกอนุฟางไปต่อว่า ตั้งแต่วันนั้นอาหารหรือของว่างนางจึงไม่ถูกงดอีก“รถม้าพร้อมแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่เองก็เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี่เจ้าค่ะ” ซินซินเข้ามารายงาน“จองโรงเตี๊ยมตรงข้ามโรงน้ำชาที่เยว่ซินนัดเจอคุณชายกู่หรือยัง” นางเอ่ยถามขณะจัดปิ่นไม้บนหัวให้เข้าที่“เรียบร้อยเจ้าค่ะ เครื่องประดับที่คุณหนูใหญ่ใส่วันนี้เป็นเครื่องประดับไข่มุกเจ้าค่ะ”“ข้ารู้อยู่แล้ว” นางตอบรับเบา ๆ แต่สาวใช้นั้นแปลกใจว่านายสาวรู้ได้อย่างไรทั้งที่ตนเพิ่งเอาเรื่องนี้มาบอกแต่ก็เก็บความสงสัยนั้นไว้ ก่อนจะเดินตามนายสาวไปขึ้นรถม้า และตรงไปยังโรงเ
ตอนที่ 14ขอยืมหรือแย่งชิงเมื่อตกลงทุกอย่างได้แล้วทุกคนจึงแยกย้ายกลับเรือนตัวเอง เมื่อกลับถึงเรือนซินซินจึงเอ่ยถามนายสาวอย่างสงสัย“คุณหนูยกการจัดการในจวนให้อนุฟางเช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ นางคงใช้โอกาสนี้เล่นงานคุณหนูเป็นแน่”“ข้าก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้วนี่ เจ้าไม่ต้องหวงไปหรอก บอกคนของเราจับตาดูสามแม่ลูกนั่นให้ดี เมื่อข้าบอกให้ปล่อยข่าวลือเมื่อไหร่ให้พวกเขาทำงานให้เต็มที่พอ”นางทำเช่นนี้เพราะต้องการให้สามแม่ลูกนั้นคิดว่าตนมีอำนาจในมือ เมื่อพวกมันลงมือนางจะใช้ข่าวลือพร้อมหลักฐานทำให้พวกมันพ่ายแพ้ด้วยตัวมันเองส่วนพี่ชายผู้นั้นนางจะให้เขามีความสุขไปก่อน ยิ่งเขาร่วมรักกับสตรีมากเท่าไหร่ จุดจบของเขาก็ใกล้เข้ามาเร็วเท่านั้น“เจ้าค่ะคุณหนู แล้วชิงชิงเราจะทำอย่างไรกับนางเจ้าคะ เมื่อวันก่อนคนของเราบอกว่านางเข้าไปหาคุณหนูใหญ่ ก่อนจะออกมาพร้อมห่อกระดาษบางอย่างเจ้าค่ะ”“แล้วรู้หรือไม่ว่าห่อกระดาษนั้นคืออะไร”“เป็นเสื้อใหม่กับปิ่นปักผมเจ้าค่ะ และยังมียานอนหลับซ่อนอยู่ในช่องเก็บของบนหัวนอนของนางด้วย แต่คนของเราเปลี่ยนเป็นผงสีธรรมดาแล้วเจ้าค่ะ” ซินซินรายงาน“ผงยานอนหลับนางได้มาจากใคร”“ได้มา
ตอนที่ 13สินสมรสของพี่สาวซูเหิงเยว่หลงใหลไปกับสุรานารีที่หอสุราแดงจนลืมวันลืมคืน ด้วยไม่เคยพบเจออะไรเช่นนี้มาก่อน ตำลึงที่พกมาไม่พอก็ให้คนกลับไปเอาที่อนุฟางกว่าจะกลับจวนมาได้ก็ผ่านไปสามวันแล้ว เพราะบิดาเรียกหาตัว ตนจึงจำใจกลับมา“เหิงเยว่เจ้าไปอยู่ที่ใดมา เหตุใดจึงไม่กลับจวนตั้งหลายวัน รู้หรือไม่บิดาเจ้าเรียกหาเจ้าสองรอบแล้ว” เมื่อเห็นหน้าบุตรชายอนุฟางก็ต่อว่าทันที“ข้าก็ไปหาประสบการณ์พบปะเพื่อนฝูงบ้างสิขอรับ อนาคตข้าจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลซูแทนบิดานะ จะไม่ให้มีสหายได้อย่างไร” เขาตอบอย่างปัดรำคาญ“ช่างเถอะ ๆ เจ้ารีบไปอาบน้ำแล้วตามแม่ไปที่ห้องโถงเรือนใหญ่เสีย วันนี้แม่จะขอร้องให้บิดายกการจัดการในเรือนให้แม่ เจ้าต้องพูดช่วยแม่ด้วย เข้าใจหรือไม่” ผู้เป็นมารดาเอ่ยเขาพยักหน้ารับอย่างขอไปที ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำตามที่มารดาสั่ง ในหัวเขามีแต่ภาพสาวงามที่ได้กกกอดมาตลอดสามวันวันนี้เจ้าบ้านอย่างจางลู่เหวินเรียกทุกคนในจวนมาพบ เพราะมีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ ตอนนี้ทุกคนก็ได้มากันครบแล้ว ยกเว้นคุณชายของบ้านทำให้เขาหงุดหงิดเล็กน้อย ที่บุตรชายเป็นคนไม่ตรงต่อเวลาเช่นนี้ อนาคตจะปกครองคนได้อย่างไร“
ตอนที่ 12บุตรอนุที่เหนือกว่าข่าวลือรวมทั้งแม่สื่อที่มาปรากฏตัวหน้าจวน ทำให้ผู้เป็นบิดาภาคภูมิใจในตัวบุตรสาวจนยิ้มแก้มปริ“ซินเอ๋อร์เจ้าช่างมากความสามารถนัก เข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งเดียวก็มีคนส่งแม่สื่อมาสู่ขอถึงหน้าจวนตั้งหลายคน”ฟางเจียวเหมยเอ่ยชมบุตรสาวตนเองกลางโต๊ะกินข้าว พร้อมใบหน้ามีความสุข อีกนัยหนึ่งก็เหมือนอวดว่าบุตรสาวนางงดงามกว่าซูฮุ่ยฉิน“พวกเขาอาจมาหาน้องรองก็ได้เจ้าค่ะ” ซูเยว่ซินเอ่ยตอบอย่างเอียงอาย“พี่สาวถ่อมตัวเกินไปแล้ว พวกเขาระบุชัดเจนว่าคนผู้นั้นคือคุณหนูซูผู้เล่นพิณได้เก่งกาจ จะเป็นข้าไปได้อย่างไร” ซูฮุ่ยฉินเอ่ยพลางส่งยิ้มให้หญิงสาว“น้องรองพูดถูกแล้วอีกอย่างพี่สาวยังไม่ออกเรือน น้องสาวจะออกเรือนได้อย่างไร” ซูเหิงเยว่เอ่ยพลางส่งสายตามองน้องสาวต่างแม่อย่างมีเลศนัย“แต่จากแม่สื่อที่มา มีเพียงจวนตระกูลกู่เท่านั้นที่ดูเข้าท่า เพราะบุตรชายคนโตของบ้านเพิ่งสอบจอหงวนได้เมื่อปีล่าสุด” ผู้เป็นบิดาเอ่ยขึ้นบ้าง“คุณชายกู่คนที่เข้าไปคุยกับพี่หญิงเมื่อวานหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะเข้าไปหาพี่หญิงเลยเห็นพอดี แต่ฮูหยินเซี่ยเรียกเอาไว้ก่อน หันมาอีกทีก็ไม่พบพี่หญิงแล้ว” นางแสร้งเอ่ยถามอย่าง
ตอนที่ 10พี่หญิงผิดต่อเจ้าข่าวลือด้านนอกเกี่ยวกับอนุของนายท่านซู ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่อง ราวกับมีคนคอยใส่ไฟตลอดเวลา แม้จะผ่านมาถึงห้าวันแล้วก็ตาม“คุณหนูเจ้าคะ มีเทียบเชิญจากจวนท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายมาเจ้าค่ะ” ชิงชิงเดินเข้ามาพร้อมยื่นเทียบเชิญให้นางทำให้นางนึกบางอยากออก ในชาติที่แล้วคนที่ได้เทียบเชิญเป็นอนุฟางไม่ใช่นางยามนั้นท่านพ่อแต่งตั้งฟางเจียวเหมยเป็นฮูหยินเอก พวกนางแม่ลูกจึงได้รับเทียบเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชานี้ ความจริงในเทียบเชิญมีชื่อนางด้วยแต่สองแม่ลูกนั่นหาเรื่องให้นางถูกท่านพ่อสั่งกักบริเวณ นางจึงไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงในครั้งนั้นและเพราะงานเลี้ยงนี่แหละ ที่ซูเยว่ซินได้พบกับคุณชายกู่ จอหงวนคนใหม่ของแคว้นจ้าวนางรับเทียบเชิญมาเปิดอ่าน ในนั้นมีชื่อนางเพียงคนเดียว แต่ในเทียบเชิญยังเขียนไว้ว่า สามารถมีคนติดตามเข้างานเลี้ยงได้สองคน“ขอบใจเจ้ามาก เจ้าหายป่วยแล้วแน่หรือหน้าเจ้ายังซีดอยู่เลยนะ เจ้าไปพักอีกสักสองสามวันเถอะ ข้าไม่ว่าเจ้าหรอก” นางเอ่ยกับชิงชิงอย่างเป็นห่วง“บ่าวดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะ แค่ยังอ่อนเพลียเล็กน้อยเท่านั้น แต่ให้บ่าวได้รับใช้คุณหนูเถอะเจ้าค่ะ บ่าวไม