LOGINตอนที่ 3
บุตรสาวเจ้าของจวนอย่างข้า ยังมีสิทธิไม่มากพออีกหรือ
วันรุ่งขึ้นนางมาส่งบิดาขึ้นรถม้าแต่เช้า เมื่อรถม้าลับมุมถนนไปแล้วจึงเรียกบ่าวทุกคนมารวมกันทันที
“ทุกคนฟังทางนี้หน่อย คุณหนูจะคุยอะไรกับพวกเจ้าเสียหน่อย!!” ชิงชิงตะโกนพลางตบมือเรียกทุกคน
“คุณหนูเรียกพวกบ่าวมามีเรื่องอะไรจะแจ้งงั้นหรือเจ้าคะ” สาวใช้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น
“ใจร้อนเสียจริง เอาเถอะข้าจะแจ้งตรงนี้เลยแล้วกัน ตอนนี้ท่านแม่ก็จากไปแล้ว นายของจวนก็เหลือเพียงสองคน บ่าวไพร่ที่มีในจวนมันมากเกินไป ข้าเลยคิดว่าจะปลดบางคนออกจากการเป็นบ่าวของจวนตระกูลซู”
สิ้นคำพูดของนางบ่าวตรงหน้าก็ส่งเสียงอื้ออึงทันที บางคนชักสีหน้าไม่พอใจใส่นางอย่างไม่เกรงกลัว
“แต่พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะเจ้าคะ อีกอย่างนายท่าน รู้เรื่องนี้แล้วหรือยังเจ้าคะ”
สาวใช้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงที่ใช่ไร้ความเคารพย้ำเกรงนางอย่างชัดเจน
“ใช่! คุณหนูจะทำอะไรตามใจตนเองเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ” บ่าวชายอีกคนเอ่ย
“พวกเจ้ากล้าไม่พอใจข้าที่เป็นบุตรสาวเจ้าของจวนนี้หรือ ท่านพ่อจะว่าอย่างไรได้ ในเมื่อท่านพ่อให้ข้าดูแลทุกอย่างในจวนแทนท่านแม่แล้ว”
“แต่คุณหนูทำเช่นนี้มันเกินไปหรือไม่ อยู่ ๆ จะมาไล่พวกเราออกจากจวนอย่างนี้ แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ใด!!”
“แล้วเหตุใดข้าจะไล่พวกเจ้าออกจากจวนไม่ได้ อีกอย่างพวกเจ้ารู้แล้วหรือว่าตนมีรายชื่อในกระดาษใบนี้” นางเอ่ยพลางชูกระดาษในมือให้พวกเขาดู
บ่าวที่โวยวายเมื่อครู่ถึงกับหน้าเจื่อนไปทันที แต่บางคนที่ไม่ได้โวยวายก็มีหน้าถอดสีบ้าง ราวกับรู้ว่าตนมีรายชื่อในนี้ด้วย
“คุณหนูจะให้บ่าวช่วยอ่านรายชื่อหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านที่ยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น
“ดีเจ้าค่ะ รายชื่อแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นรายชื่อคนที่ทำงานไม่ไหวแล้ว ส่วนนี้ข้าจะให้เงินไปตั้งตัวด้วย”
“ขอรับ” พ่อบ้านขานรับพลางรับกระดาษใบแรกไป
“ส่วนอีกกลุ่มเป็นรายชื่อของคนที่ลักขโมยของในจวนไปขายเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง รายชื่อกลุ่มนี้ฝากท่านพ่อบ้านขายพวกเขาให้โรงค้าทาสทีนะเจ้าคะ”
ประโยคนี้คนที่เคยทำผิดใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด บางคนออกอาการถึงกับมือไม้สั่น เหงื่อผุดตามกรอบหน้า
พ่อบ้านเริ่มอ่านรายชื่อทีละคน เริ่มจากกลุ่มที่จะได้เงินไปตั้งตัวก่อน พวกเขาบางคนยิ้มอย่างดีใจ บางคนแสดงสีหน้าเศร้าเสียใจ
ส่วนอีกกลุ่มนั้นโวยวายจนต้องให้คนมาคุมตัวไว้ บ่าวกลุ่มนี้รวมคนที่เคยรังแกนางในชาติก่อนเอาไว้ด้วย
“คุณหนูท่านทำเกินไปแล้ว พวกเราทำงานที่นี้กันมานานตั้งแต่คุณหนูยังไม่เกิดด้วยซ้ำ คุณหนูมีสิทธิอะไรมาไล่พวกเราออกจากจวนเช่นนี้!!!!” แม่นมถังตะโกนใส่นางอย่างไม่พอใจ
ซูฮุ่ยฉินจึงเดินเข้าไปหานางใกล้ ๆ ก่อนจะใช้สายตาเรียบนิ่งมองหญิงแก่ชรานางนี้ ทำให้นางชะงักไป
“เจ้าถามว่าข้าใช้สิทธิอันใดไล่พวกเจ้าออกจากจวนงั้นหรือ ก็สิทธิผู้สืบทอดตระกูลซูอย่างไรเล่า มากพอจะไล่เจ้าออกจากจวนข้าได้หรือยัง”
นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่แววตาที่ใช้มองหญิงชรานั้นเย็นชากว่า
“หึ! ฮ่าฮ่าฮ่า!!! ข้าอยากจะหัวเราะให้ฟันหลุด ผู้สืบทอดตระกูลซูงั้นหรือ นี่คุณหนูไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะเจ้าคะ”
“.....”
“ท่านคิดว่านายท่านออกจากจวนวันนี้ไปจัดการปัญหาที่สาขาเมืองชิงจริงหรือ ข้าจะบอกให้เอาบุญก็ได้เจ้าค่ะ นายท่านไปรับตัวคุณชายกับคุณหนูใหญ่ที่เมืองชิง อีกไม่กี่วันพวกเขาก็จะกลับมาแล้ว”
“.....”
“ผู้สืบทอดตระกูลซูก็ต้องเป็นคุณชายใหญ่ของบ่าว ที่ได้สืบทอดกิจการต่อ คุณหนูก็คงเป็นได้แค่บุตรสาวที่ต้องแต่งออกเหมือนจวนทั่วไป.....”
เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!! ตุบ!!!
ซูฮุ่ยฉินตบหน้าแม่นมแก่ชราตรงหน้าไปสามทีรวด พร้อมถีบยอดอกส่งท้ายไปหนึ่งที จนนางหงายหลังพ่นน้ำเลือดพร้อมฟันออกจากปากอีกสองซี่
สร้างความตกใจให้บ่าวที่อยู่บริเวณนั้น กับความรุนแรงที่คุณหนูของจวนใช้ เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นคุณหนูเป็นเช่นนี้มาก่อน
“พวกเจ้าจับนางง้างปากไว้ เอาเหล็กคีบมาให้ข้า ข้าจะเลาะฟันออกจากปากเสีย ๆ ของนางเอง โทษฐานที่พูดจาไร้ซึ้งความเคารพนายเช่นข้า”
“คุณหนูยกโทษให้แม่นมถังสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ นางพูดไปเพียงเพราะขาดสติเท่านั้นเจ้าค่ะ” ชิงชิงรีบเข้ามาอ้อนวอนนางทันที
“คุณหนูอย่าทำเช่นนี้เลยนะขอรับ ให้บ่าวทำเองเถอะ”
พ่อบ้านพูดขึ้นอีกคนตอนแรกพวกนางก็โล่งใจ แต่พอได้ยินพ่อบ้านเอ่ยประโยคสุดท้ายถึงกับสิ้นหวังทันที
“ก็ได้ แต่ข้าจะนั่งดูอยู่ตรงนี้แหละ อ่อ! ตัดลิ้นของนางด้วยล่ะ ไม่มีฟันแต่มีลิ้นนางก็ยังพูดได้อยู่ดี แม้มันจะทำให้ขายออกได้ราคาไม่ดีมากก็เถอะ” นางเอ่ยพลางหมุนตัวไปนั่งจิบชาที่เก้าอี้ใกล้ ๆ
“คะ คุณหนูมันโหดร้ายไปหรือไม่เจ้าคะ” ชิงชิงเอ่ยถามนางด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“เจ้าจะกลัวไปใย คนที่โดนไม่ใช่เจ้าเสียหน่อย หรือเจ้าอยากโดนเช่นแม่นมถัง เห็นเจ้าออกหน้าปกป้องนางนี่” สิ้นคำของนางชิงชิงก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที
เสียงร้องโหยหวนของแม่นมถังดังลั่นเรือน ก่อนมันจะหายไปเมื่อถูกพ่อบ้านตัดลิ้นของนางออก
หญิงชราเป็นลมล้มพับไปทันที เพราะเสียเลือดมากและรับสภาพตัวเองไม่ได้
“ที่เหลือฝากพ่อบ้านจัดการต่อด้วย แล้วก็ช่วยไปรับทาสที่ตลาดค้าทาสให้ข้าด้วย บอกว่ามารับทาสที่คุณหนูซูซื้อไว้” นางเอ่ยพลางเดินกลับเรือนตัวเอง
บ่าวในเรือนถูกสับเปลี่ยนใหม่ยกจวน นางเหลือไว้เพียงพ่อบ้านและบ่าวคนสนิทอย่างชิงชิง แต่ก็ใช่ว่านางจะไม่จัดการคนทั้งสอง
เพราะฟังจากแม่นมของนางพูดแล้ว ดูเหมือนบ่าวในจวนรับรู้เรื่องสามแม่ลูกนั่นอยู่แล้ว
“ชิงชิงเจ้ารับใช้ข้ามีกี่ปีแล้ว” นางเอ่ยถามบ่าวของตน เมื่อเดินเข้ามาในเรือนตัวเอง
“เออ....สิบสามปีแล้วเจ้าค่ะ” ชิงชิงตอบเสียงเสียงสั่น ๆ
“เรื่องที่แม่นมถังพูดเจ้ารู้เรื่องนั้นมานานแค่ไหนแล้ว”
“บะ บ่าว บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนู บ่าวไม่อยากให้คุณหนูต้องเสียใจ อีกอย่างทุกคนก็บอกเช่นนั้น จึงไม่มีใครกล้าบอกคุณหนูเรื่องนี้เจ้าค่ะ”
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” นางถามย้ำประโยคเดิมด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับถามเรื่องทั่วไป
“เออ...ห้าปีที่แล้วเจ้าค่ะ” ชิงชิงตอบเสียงอ้อมแอ้ม
“จากใคร” นางยังถามต่อ หากเป็นเมื่อห้าปีที่แล้วคือตอนที่ท่านแม่เริ่มล้มป่วย
“แม่นมถังเจ้าค่ะ นางบอกว่าก่อนจะมาอยู่กับนายหญิง นางได้ไปเป็นแม่นมให้สตรีอีกนางของนายท่านมาก่อน สตรีนางนั้นมีลูกแฝดชายหญิง แต่ไม่ได้บอกว่าอยู่ที่ใดเจ้าค่ะ” ชิงชิงสารภาพ
“แล้วเจ้าเล่าคิดเอาใจออกห่างข้าเมื่อใด” นางถามออกไปตามตรง
“บะ บ่าวไม่เคยกล้าคิดเรื่องเช่นนั้นมาก่อน เอาบ่าวไปสาบานที่ใดก็ได้ ให้บ่าวตายก็ยอมเจ้าค่ะ” เอ่ยจบชิงชิงก็โขกศีรษะกับพื้นไปหลายที จนเลือดไหลย้อยไปตามกรอบหน้า
“หึ!! ข้าจะเชื่อเจ้าสักครั้ง ที่ข้าไม่ปลดเจ้าออกเช่นทุกคนเพราะเห็นว่าเจ้ารับใช้ข้ามาตั้งแต่ยังเล็ก จากนี้หากคิดทรยศข้าให้เจ้ารู้ไว้ว่าทางสุดท้ายที่เจ้าจะได้เจอคือความตาย พร้อมคนในครอบครัวของเจ้า”
ที่นางพูดไม่ใช่เพียงคำขู่ แม้ตอนนี้นางจะยังไม่ได้มีกำลังคนมากพอ แต่นางจะสร้างมันขึ้นมาในอีกไปนานนี้แหละ
เรื่องที่ให้พ่อบ้านไปรับทาสที่โรงค้าทาส เพราะเมื่อวานนางให้ท่านป้าออกหน้าหาให้ นางบอกเหตุผลว่าในจวนอาจมีคนของสตรีนางนั้นแฝงตัวอยู่ นางไม่ไว้ใจ
แต่ถ้าท่านพ่อบ้านเอาตัวคนไปขายแล้ว ให้ท่านป้าไปซื้อตัวคนเหล่านั้นทั้งหมด ให้ไปทำงานที่ไร่ของท่านป้าก่อน
เพราะนางสงสัยว่าเรื่องที่มารดาป่วยไม่ใช่เพียงโรคทั่วไป อาจมีคนวางยาท่านแม่ก็เป็นได้ ท่านป้าเองก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกัน
ตอนพิเศษ 2.1โซ่ทองเส้นนี้ชวนหงุดหงิดเสียจริง“ยินดีด้วยขอรับท่านประมุข ตอนนี้นายหญิงตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว ข้าจะไปจัดยาบำรุงครรภ์ให้นายหญิงนะขอรับ”หมอเอ่ยจบแล้ว แต่ตัวคนฟังยังไม่ได้สติ เพราะดีใจจนทำอะไรไม่ถูกจนซีหลิงหยุนมาสะกิด“นายท่านไม่เข้าไปหานายหญิงหรือขอรับ หรือนายท่านไม่ดีใจที่นายหญิงท้อง”เพี๊ยะ!!!!เมื่อซีหลิงหยุนเอ่ยจบก็ถูกผู้เป็นนายตีเข้าที่หน้าทันที จนเกิดเสียงดังลั่น คนเฝ้าหน้าเรือนหันมามองตาปริบ ๆ“เจ้าพูดจาเช่นนี้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมั้ง ตบปากตนเองจนกว่าเลือดจะออกเสีย” เอ่ยลงโทษเสร็จก็เดินลิ่วเข้าไปในเรือนทันที“โธ่!!! นายท่าน ข้าเพียงพูดหยอกล้อท่านเท่านั้น ข้าเป็นคนสนิทท่านนะ เหตุใดท่านทำกับข้าเช่นนี้”เอ่ยจบก็ตบปากตนเองหนึ่งทีจนเลือดไหล แล้วรีบวิ่งตามผู้เป็นนายเข้าเรือนไป“ฮูหยินเจ้าท้องแล้ว สามีดีใจที่สุดเลย”อันเฉียนฟานเอ่ยพพร้อมกับกางแขนจะเ
ตอนพิเศษ 2โซ่ทอง ซูฮุ่ยฉินได้เดินทางไปเยือนพรรคของเขาอย่างที่เคยตกลงกันเอาไว้ เมื่อไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พวกเขาเตรียมงานเลี้ยงไว้รอต้อนรับนางเย็นนี้ แต่กว่าจะถึงช่วงเย็นนางจึงมานอนเอาแรงเสียก่อน ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้นางรู้สึกว่าง่วงนอนบ่อยนัก “ซินซินข้าขอนอนก่อนนะ ข้าง่วงมากเลย” นางเอ่ยพร้อมหลับตาลง เหมือนพักสายตา แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนร้องโหวกเหวกโวยวายดังมาจากนอกเรือน “ข้าต้องการพบนายหญิง! ข้าต้องการเรียกร้องความ เป็นธรรมให้กับลูกของข้า ปล่อยข้านะ พวกเจ้าปล่อยข้าสิ!!” เสียงร้องของสตรีผู้นั้นทำให้นางตื่น ความหงุดหงิดที่ไม่ได้นอนทำให้นาง
ตอนพิเศษ 1แค้นที่ต้องชำระแทน ครั้งหนึ่งยามอดีตอันเฉียนฟานกลับไปที่อารามแต่กลับไม่พบสตรีที่ตนตั้งใจมาหา เมื่อถามชีกับหลวงจีนในอารามก็พบว่าคืนที่นางคลอดลูก นางตกเลือดและเสียชีวิตในห้องพัก“เป็นไปได้อย่างไร กำหนดคลอดของนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าไม่ใช่หรือ” เขาถามชีสามคนตรงหน้า“พวกข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เช้ามาไม่เห็นนางออกจากห้องจึงได้ไปเคาะเรียก แต่นางก็ไม่ตอบรับจึงได้พังประตูเข้าไป ก็เห็นนางนอนจมกองเลือดสิ้นชีพจรไปแล้ว” แม่ชีผู้หนึ่งเอ่ยอันเฉียนฟานได้ฟังใบหน้าของเขามืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัด เหล่าผู้ติดตามเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน“พวกท่านไม่ได้ยินเสียงนางกรีดร้องบ้างหรือ คนเจ็บท้องคลอดลูกก็ต้องร้องขอความช่วยเหลือบ้างสิ” เขาถามสิ่งที่สงสัย“ไม่เลยเจ้าค่ะ หากพวกข้าได้ยินคงเข้าไปช่วยเหลือนางแล้ว ไม่ปล่อยให้นางต้องตายจากไปอย่างเวทนาเช่นนี้แน่” แม่ชีคนเดิมเอ่ยตอบ
ตอนที่ 36สู่ขอประโยคที่ซินซินบอกนางเมื่อครู่ ทำให้นางหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามสาวใช้ตัวเองอีกครั้ง“เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไรนะ!”“คุณหนูออกไปดูด้วยตาตนเองเถอะเจ้าค่ะ” ซินซินเลี่ยงที่จะพูดซ้ำซูฮุ่ยฉินจึงรีบร้อนออกไปหาผู้เป็นป้าที่สวน จนซินซินต้องวิ่งตามไปเพราะนายสาวเดินเร็วนักเมื่อไปถึงนางก็เห็นว่ามีขบวนข้าวของมากมายพร้อมผู้คนเต็มหน้าประตูจวนไปหมดหว่านเหมยฮวาเห็นหลานสาวออกมาจึงรีบเข้าไปหา ก่อนจะจูงมือนางไปหาแม่สื่อที่ยืนอยู่“เจ้ามาทางนี้ ตอนนี้เจ้าไม่มีญาติผู้ใหญ่ ข้าจึงอาสามาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เจ้าเอง นี่คือแม่สื่อถังนางนำขบวนสินสอดมาส่ง”เพราะเป็นการแต่งเข้า ฝ่ายชายจึงต้องเอาสินสอดมาส่งที่จวนแทนผู้เป็นป้าเอ่ยอย่างอารมณดี แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นหลานสาวทำสีหน้าเช่นนั้น“คุณหนูซูเหตุใดทำหน้าเช่นนั้นกันเล่า” แม่สื่อเองก็เริ่มจับสังเกตบางอย่างได้แล้ว“ขออภัย
ตอนที่ 37รักมานาน และจะรักตลอดไป (จบ) วันเวลาผ่านไปจนถึงวันที่นางแต่งงานกับเขา ทุกอย่างราบรื่นจนนางยังแปลกใจ เพราะหลังจากประกาศออกไปว่านางจะแต่งกับเขา ก็มีคนมาวิ่งเล่นที่จวนนางแทบทุกคืน บางครั้งก็ที่ร้านตามสาขาต่าง ๆ แรก ๆ นางก็ปวดหัวไม่น้อย เพราะข้าวของที่ให้กักตุนไว้เสียหายเกือบครึ่ง อันเฉียนฟานจึงให้คนของตนลงเขามาคุ้มกันให้ ทำให้จัดการคนพวกนั้นไปได้บ้าง แต่ก็ยังมีโพล่มาทุกวัน ทั้งคนของคู่แข่งทางการค้า และคนของสตรีนางนั้นที่เคยมาแสดงตัวว่าเป็นภรรยาเขา “น้องหญิงเจ้าคิดสิ่งใดอยู่กัน เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนั้น” เขาเอ่ยขึ้นด้านหลังพร้อมกับหอมแก้มนางไปฟอดใหญ่&nb
ตอนที่ 34ผลกรรม 1 เดือนต่อมาซูฮุ่ยฉินเริ่มให้ร้านในสาขากักตุนเสบียงเอาไว้แล้ว เพราะอีกไม่กี่เดือนจะมีข่าวเรื่องสงครามออกมาแน่อันเฉียนฟานช่วงนี้ก็เข้าออกจวนนางเป็นว่าเล่น ทั้งมาอย่างเป็นทางการ และมาแบบโจรเด็ดบุพผาอย่างตอนนี้“นายหญิงไม่สนใจไปเที่ยวพรรคเราบ้างหรือขอรับ รับรองว่านายหญิงต้องชอบแน่ นายท่านของข้ารับประกันด้วยหัวใจเลยขอรับ”ซีหลิงหยุนที่จัดการธุระเสร็จแล้ว วันนี้จึงตามผู้เป็นนายมาช่วยเกี้ยวนายหญิงด้วย“ขอบคุณนายท่านซีที่ชวนเจ้าค่ะ แต่ข้าคงทิ้งกิจการทุกอย่างไปไม่ได้” นางตอบปัดไปจึงได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้าม“ข้าจะให้คนของข้าเข้ามาช่วยดูแลเอง ขอเพียงเจ้ารับปากมาเท่านั้น” อันเฉียนฟานเอ่ยขึ้นบ้าง“จริงขอรับ นายหญิงเพียงเอ่ยปากมาเท่านั้น ซินซินเจ้าเองก็อยากไปเที่ยวพรรคของพวกเราใช่หรือ







