Войти[เงียบสักทีน่า วันหลังค่อยเข้ามาเก็บใหม่ก็ได้ วันนี้มันจะมืดแล้ว]
[โธ่! กว่าเจ้านายจะเข้ามาถึงที่นี่ได้ไม่ง่ายเลยนะครับ จะไม่ให้ผมเสียดายได้ยังไง]
[ฉันจำทางได้หมดแล้ว รอดูก่อนว่าคราวนี้ขายได้เงินเท่าไหร่ ถ้าพอที่จะลงทุนค้าขายแล้วฉันจะยังไม่เข้ามาที่นี่ เก็บมันเอาไว้ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาเก็บหรอกน่า]
[ครับ ๆ ผมเข้าใจแล้ว เจ้านายเดินระวังด้วยนะครับ งูพิษที่นี่ชุมยิ่งกว่ายุงเสียอีก]
[อืม… คงเพราะไม่มีใครเคยเข้ามา มันถึงได้ขยายพันธุ์มากมายขนาดนี้]
ซูเมี่ยวจินเร่งฝีเท้าเพื่อออกจากป่าทึบให้ได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ไม่อย่างนั้นอาจเจอพวกงูพิษที่ออกหากินในเวลาพลบค่ำได้ เธอกับฉางเล่ยไม่ได้นำไฟฉายติดตัวมาด้วย ถ้าเกิดมีงูออกมาก็คงลำบากกันแล้ว
ฉางเล่ยเห็นภรรยาเดินเร็วจนแทบจะเป็นวิ่ง เขาเองก็ไม่กล้าชักช้าและเร่งก้าวเท้ายาว ๆ ตามไปติด ๆ จนกระทั่ง 20 นาทีต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็ออกมาจากป่าทึบได้เสียที ทั้งสองหายใ
กลุ่มคนของต้วนมู่ชิงต่างเฝ้ารออยู่นอกโรงแรม พวกเขาหาอะไรง่าย ๆ กินระหว่างรอให้ถึงกลางดึก หัวหน้ากลุ่มส่งลูกน้องไปตามหาที่จอดรถของซูเมี่ยวจินก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือทหารสองนายที่เฝ้ารถอยู่กินอาหารเสร็จก็คอยอยู่ที่รถอย่างระมัดระวัง พวกเขาเตรียมอาวุธประจำกายไว้ให้พร้อมตามที่ซ่งเซียวกำชับไว้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคนร้ายมีอาวุธจริงหรือไม่ก็ตาม การปกป้องรถคันนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเขากลางดึกคืนนั้น ซ่งเซียวกับทหารอีกนายที่พักผ่อนก่อนหน้านี้ลงมาเปลี่ยนเวรยามตามที่นัดหมายเอาไว้ ซูเมี่ยวจินเห็นว่าฉางเล่ยหลับลึกแล้ว เธอจึงยกแขนของเขาออกจากเอวเบา ๆ เมื่อมองแล้วว่าฉางเล่ยคงไม่ตื่นขึ้นมาในเร็ว ๆ นี้ เธอก็รีบเปลี่ยนชุดพร้อมนำหน้าไม้และลูกดอกจำนวนมากออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วกลุ่มคนของต้วนมู่ชิงเองก็พากันไปซุ่มอยู่ในที่จอดรถได้พักใหญ่แล้ว พวกเขารอคอยให้ถึงเวลาสับเปลี่ยนเวรอย่างใจจดใจจ่อ เพราะรู้ดีว่าระหว่างการสับเปลี่ยนเวรคนพวกนั้นคงไม่ทันระวังตัว อาวุธปืนในมือของพวกเขาเตรียมพ
เมื่อไปถึงห้องของโจวอู่หมิง พวกเขาทักทายกันเล็กน้อยและนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของโจวอู่หมิง“พวกคุณมาหาผมคงมีธุระอะไรสักอย่างหรือเปล่าครับ มีอะไรก็บอกมาตรง ๆ ได้”“ใช่ค่ะ ฉันกับสามีต้องการจ้างทหารคุ้มกันสักสี่คน ไม่ทราบว่าคุณสามารถจัดหาให้ได้หรือเปล่าคะ ฉันจะให้พวกเขาดูแลเราจนกว่าจะเดินทางไปถึงเมืองไคหยวน”“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ พวกคุณเล่าให้ผมฟังก่อนได้ไหมครับ”“เราไปซื้อหินดิบที่ตลาดแล้วถูกคนตามมาตลอดทางเลยค่ะ เพราะฉันไม่ยอมขายหยกที่ผ่าได้ให้กับคนคนหนึ่ง พวกที่ตามมาน่าจะเป็นคนของเขาค่ะ”“อืม… เรื่องนี้ผมเคยได้ยินมาบ้าง ที่เถิงซงเกิดการฆาตกรรมเพราะเรื่องหินหยกบ่อยครั้ง ผมได้รับมอบหมายให้มาสืบสวนเรื่องนี้โดยตรง ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งซ่งเซียวกับลูกน้องอีกสามคนคอยดูแลคุณก็แล้วกันนะครับ”“นี่เป็นค่าเหนื่อยของพวกเขาค่
“ผมขอซื้อต่อในราคาห้าหมื่นหยวน” ต้วนมู่ชิงรีบเอ่ยปากหลังจากเห็นหยก“ผมขอซื้อต่อแปดหมื่นหยวน” ชุ่ยฟ่านที่ยืนดูอยู่ด้วยเพิ่มราคาขึ้นอีก เขาอยากได้หยกก้อนนี้มากจริง ๆ หากนำไปทำกำไลหรือแหวนก็ยังทำได้หลายอัน กำไรที่เขาจะได้จากการขายหยกหลังเจียระไนจะเพิ่มขึ้นนับสิบเท่า“ผมขอซื้อต่อหนึ่งแสนหยวน” จ้าวเหวินซิงยอมทุ่มสุดตัว เขามีร้านค้าของตัวเองอยู่ที่เมืองหลวง ถึงแม้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนของต้วนมู่ชิงและชุ่ยฟ่าน แต่ก็นับว่ายืนหยัดมาได้นับร้อยปีแล้วเสียงเพิ่มราคาดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งราคาไปหยุดอยู่ที่สามแสนหยวน โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุดยังคงเป็นต้วนมู่ชิง“สามแสนหนึ่งหมื่นหยวน” เสียงชุ่ยฟ่านดังขึ้นต่อ เขาไม่มีทางยอมแพ้แน่“ชุ่ยฟ่าน คุณไม่คิดจะให้คนอื่นเขาได้ทำเงินบ้างหรือยังไง อย่าคิดว่าเป็นตระกูลใหญ่แล้วผมจะกลัวคุณนะ” ต้วนมู่ชิงพูดอย่างไม่พอใจ&
ต้วนมู่ชิงที่เพิ่งมาถึงตลาดค้าหินรีบเดินเข้าไปหาคนของเขาเพื่อสอบถามถึงคนที่เขาต้องการตัว“เจอคนน่าสงสัยบ้างไหม”“ผมเห็นแค่คู่สามีภรรยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้นครับเจ้านาย แต่พวกเขาไม่ได้เปิดหินนะครับ พวกเขาซื้อแค่หินดิบ”“แล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน” ต้วนมู่ชิงอยากรู้ว่าจะใช่คนที่เขาตามหาหรือเปล่า“อ่า… พวกเขาเดินมาโน่นแล้วครับเจ้านาย” บอดี้การ์ดหันไปเห็นซูเมี่ยวจินกับฉางเล่ยกำลังเดินออกมาพร้อมรถเข็นหินดิบหลายก้อนก็ชี้บอกเจ้านายทันทีต้วนมู่ชิงมองตามไปก็เห็นหญิงสาวสวยจัดสายตาเย็นชากำลังเดินอยู่ข้างผู้ชายร่างใหญ่ที่กำลังเข็นรถเข็นซึ่งในนั้นเต็มไปด้วยหินดิบจนแทบล้นออกมา“สองคนนั้นน่าจะเพิ่งเคยมาครั้งแรกจริง ๆ ฉันไม่คุ้นหน้าเลย” ต้วนมู่ชิงขมวดคิ้วพูด“เจ้านายจะให้ผมทำยังไงกับพวกเขาครับ”
เก้าโมงเช้าหลังกินอาหารเสร็จ พวกเขาก็มาถึงตลาดค้าหิน อาจเพราะมากันเช้าเกินไป ที่ลานจอดรถจึงมีเพียงรถยนต์สองสามคันเท่านั้น ฉางเล่ยขับไปจอดในแถวหน้าของลานจอดรถ วันนี้พวกเขาคงไม่ต้องเดินไกลกันเหมือนเมื่อวานนี้“ภรรยา วันนี้คุณจะผ่าหินหรือเปล่าครับ” ฉางเล่ยถามอย่างตื่นเต้น การลุ้นหินตอนผ่าเปิดทำให้เขารู้สึกสนุกมากจริง ๆ ยิ่งเวลาที่เห็นหยกด้านใน หัวใจของเขาก็รู้สึกปลาบปลื้มที่ภรรยาคนสวยดวงดีจนได้หินหยกเนื้อดีมากมาย“ไม่ผ่าค่ะ เราเลือกแค่หินดิบแล้วหาซื้อเครื่องมือผ่าหินไปทำเองดีกว่านะคะ ฉันไม่อยากถูกคนอื่นจับตามอง” ซูเมี่ยวจินที่ยังไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาถูกคนหลายกลุ่มเฝ้ามองอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว เหล่าบอดี้การ์ดของเศรษฐีในเมืองหลวงต่างคอยเฝ้ามองตลาดค้าหินกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อตามหาคนดวงดีที่เปิดหินหยกเนื้อดีได้เมื่อวานนี้“ตกลงครับ ถ้าอย่างนั้นเราซื้อหินดิบกลับไปเปิดกันที่บ้านดีไหม ผมกลัวว่าถ้าเปิดที่นี่แล้วจะถูกปล้นเอากลางทางน่ะครับ” ฉางเล่ยยังคงกังวลเรื่องโจรระหว่างทาง“ได้ค่ะ คุณอย่าลืมย้ายแกลลอนน้ำมันมาไว้ใกล้ท้ายกระบะนะคะ ส่วนหินดิบก็วางไว้ด้านใน เวลาเติมน้ำมันระหว่างทางเราจะได้ไม่
“หยกของคุณทั้งหมดผมรับซื้อในราคาห้าแสนหยวน ไม่ทราบพวกคุณคิดยังไงครับ”ผู้จัดการเถาปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เขาไม่รู้ว่าลูกค้าทั้งสองจะทราบไหมว่าหยกแก้วทั้งสองก้อนใหญ่นั้นหากนำไปประมูลแล้วมูลค่าของมันจะสูงเสียดฟ้าเลยทีเดียวเชียวนะซูเมี่ยวจินคิดอยู่ครู่หนึ่ง เนื่องจากเธอไม่ทราบราคาในการประมูลหยกล้ำค่าแต่แรก เมื่อหันไปมองสามีที่ตอนนี้อ้าปากค้างไปเสียแล้ว ซูเมี่ยวจินจึงได้แต่ต้องพยักหน้ารับคำผู้จัดการเถาว่าเธอรับราคานี้ได้“รบกวนพวกคุณรอที่นี่สักครู่นะครับ ผมจะไปจัดการนำเงินเข้าไว้ในบัตรให้คุณ”“ตกลงค่ะ” ซูเมี่ยวจินกล่าวด้วยใบหน้านิ่งเรียบเหมือนปกติ เธอไม่ได้สนใจว่าร้านจะจ่ายเงินให้พวกเธอยังไงแต่แรก เมื่อได้ยินว่าผู้จัดการสามารถนำเงินเข้าบัตรกดเงินได้ก็ทำให้เธอโล่งใจไม่น้อย นับว่าเมืองเถิงซงนี้ก้าวหน้ามากกว่าเมืองเจิ้งไห่ที่สามารถนำเงินโอนเข้าในบัตรกดเงินได้ฉางเล่ยหลังจากตกตะลึงอยู่พักใหญ่ เมื







