공유

บทที่ 8

last update 최신 업데이트: 2025-07-12 03:45:06

หลังจากกินข้าวเสร็จเสี่ยวหนานก็เตรียมตัวจะออกไปที่ร้าน เป็นอีกครั้งที่แม่โจวแบ่งอาหารทะเลสด ๆ ที่ได้มา ให้เธอนำไปให้พ่อแม่ และยังมีอาหารที่ทำร้อน ๆ ส่วนหนึ่งที่เธอแบ่งเอาไว้ เพื่อจะเอาไปให้พวกท่าน

จักรยานคันเดิมถูกปั่นไปตามเนิน ไม่นานก็ถึงบ้านซูทันเวลาก่อนที่พ่อกับพี่ชายและน้องชายของเธอจะออกไปทำงาน

"จื่ออัน มาเอากับข้าวพวกนี้ไปกินเร็วเข้า ของสดพวกนี้เอาไว้ให้แม่ทำกับข้าวนะ"

จื่ออันเห็นพี่สาวปั่นจักรยานมาจอดที่หน้าบ้านก็รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว

"พี่เสี่ยวหนาน พี่ไม่เข้ามาในบ้านก่อนเหรอครับ"

"ไม่ล่ะ พี่มีธุระต้องรีบไปจัดการแต่เช้า ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเมื่อไหร่พี่จะบอกอีกที พี่ไปนะ พี่ใหญ่ พ่อ แม่ หนูไปก่อนนะคะ"

เธอกล่าวเสียงใสแล้วโบกมือลาทุกคนแล้วปั่นจักรยานออกไปเลย

"ระวังตัวด้วยนะลูก" เสียงแม่ซูตะโกนไล่หลังลูกสาว

จักรยานของเสี่ยวหนานแล่นผ่านถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยผู้คนสัญจรไปมาในช่วงเช้า กลิ่นเค็มของทะเลลอยปะปนมากับกลิ่นหมึกแห้งที่ตากอยู่ริมรั้ว

ไม่นานก็มาถึงท่าเรือเมืองเยี่ยนเทียน ที่ห่างจากหมู่บ้านเพียง 2 กิโลเท่านั้น เมื่อมาถึงหน้าร้าน เสี่ยวหนานหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าผ้า ใช้แรงหมุนดอกกุญแจจนมีเสียง "แกร๊ก"

ประตูเหล็กที่ขึ้นสนิมเล็กน้อยถูกดันออกช้า ๆ เธอเข็นจักรยานเข้าไปเก็บในมุมหนึ่งของร้านก่อนจะปิดประตูอย่างมิดชิด

ไฟในร้านถูกเปิดให้สว่าง เผยให้เห็นร้านที่ถูกทำความสะอาดไปบ้างแล้ว จากฝีมือของคนงานที่หวังหยุนฮวาส่งมาจัดการหลังจากทำสัญญาเช่าเสร็จ

เสี่ยวหนานเริ่มหยิบโต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ถ้วยชาม หม้อ กระทะ และเครื่องครัวทั้งหมดออกมาจัดเรียงตามผังที่เธอวางไว้ในใจ ทุกอย่างถูกจัดลงอย่างมีระเบียบเหมือนเธอไม่ได้แค่ตกแต่งร้าน

เธอไม่ได้เพียงจัดร้าน แต่กำลังคืนชีพร้านเก่าจากกาลเวลาที่เธอจากมา ในเมื่อเธอไม่อาจกลับไปที่นั่นได้ เธอก็จะยกร้านนั้นมาไว้ที่นี่

"ยังขาดอะไรอยู่น๊า..." เสี่ยวหนานพึมพำขณะมองรอบร้าน ดวงตาหลุบต่ำแล้วสว่างวาบเมื่อคิดออก

เธอรีบเอารูปอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในร้าน ในมิติ มาติดผนังร้าน พร้อมกับนาฬิกาแขวนสีทองและป้ายอักษรมงคลที่พ่อเขียนให้

福满堂 (ความสุขสมบูรณ์ล้นเรือน) มาติดไว้เหนือเคาน์เตอร์

กระถางดอกไม้เล็ก ๆ ถูกจัดวางตามมุมต่าง ๆ ของร้าน ความเขียวขจีของพวกมันทำให้ร้านดูสดชื่นขึ้นทันตา

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เสี่ยวหนานยืนนิ่งมองไปรอบร้าน ริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความสงสัย เธอนึกอยากเห็นว่าเอาสิ่งของจากร้านออกมามากมาย ป่านนี้ร้านที่อยู่ในมิติคงว่าเปล่าแล้ว

"พาฉันเข้าไปในมิติ..."

ทันใดนั้นเธอก็เข้ามาอยู่ในร้านเดิม ที่อยู่ภายในมิติ แต่ที่น่าตกใจก็คือข้าวของทุกอย่างยังคงครบครันเหมือนเดิม แต่ก็มีเรื่องให้เธอตกใจยิ่งกว่า...

ชาร้อนแก้วนั้นยังวางอยู่บนโต๊ะ เสี่ยวหนานเบิกตากว้างเพราะเธอจำได้ชัดเจนนั่นคือชาที่เธอชงไว้ก่อนหัวใจวายเสียชีวิต

เธอก้าวไปช้า ๆ แล้วยื่นมือแตะขอบแก้ว...

"ร้อน...?"

เธออึ้งไปเมื่อไอร้อนจากแก้วลอยแตะปลายนิ้ว และขนมที่วางข้าง ๆ ก็ยังส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ

"เหมือนเพิ่งชง...เหมือนเพิ่งทำใหม่...หรือว่า..."

ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวเธอ...

"มิตินี้...คงสภาพของสิ่งของได้อย่างนั้นเหรอ?"

เธอมองไปรอบ ๆ ร้านอีกครั้ง ทุกอย่างยังอยู่ครบ แม้แต่ถ้วยจาน โต๊ะเก้าอี้ที่เธอขนออกมาตั้งร้านก็ยังอยู่ในมิติ

"แล้วของที่เรายกออกไปล่ะ... ทำไมยังมีที่นี่?"

ปริศนานี้เริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจเธอ เสี่ยวหนานเม้มปากแน่น ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า

"ต้องพิสูจน์..."

เธอออกจากมิติทันที แล้วรีบเปิดร้านเอาจักรยานออกไป แล้วรีบปิดประตูล็อกร้าน

"ป้ากู้คะ ฉันเอาโคล่าเย็น ๆ 3 ขวดค่ะ"

หญิงสูงวัยที่กำลังนั่งถือพัดอยู่ในร้านรีบวางมือแล้วไปหยิบของให้เสี่ยวหนานอย่างรวดเร็ว

"ได้ ๆ วันนี้มาคนเดียวเหรอเสี่ยวหนาน?"

"ใช่ค่ะป้า พี่สือซานเพิ่งกลับจากหาปลาก็เลยพักอยู่ น่าจะเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ ถึงจะขนของเข้ามา"

เสี่ยวหนานตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ เธอไม่อยากให้สงสัยว่าของในร้านเธอมากจากไหน จึงหลีกเลี่ยงด้วยการบอกว่าจะขนของเข้ามาช่วงค่ำแทน เพราะตอนนั้นจะไม่ค่อยมีคนอยู่

"ดี ๆ รีบมาขายด้วยกันนะ คนงานที่มาส่งของขึ้นเรือหาข้าวกินแถวนี้ไม่ได้เลย ถ้าเสี่ยวหนานมาขาย ป้าว่าต้องขายดีแน่ ๆ"

"นี่เงินค่าของค่ะ ฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะป้า จัดเตรียมของเสร็จฉันจะรีบมาเปิดร้านขายของเป็นเพื่อนค่ะ"

"จ้า ป้าจะรอนะ"

เสี่ยวหนานปั่นจักรยานกลับบ้านอย่างรวดเร็ว พอถึงกลางทางเธอก็หาที่แวะหลบสายตาคนแล้วเอาโคล่าเข้าไปไว้ในมิติ 1 ขวด เธอจะพิสูจน์... ว่าเมื่อเธอเข้าไปอีกครั้ง โคล่าขวดนี้จะยังคงเย็นเหมือนเดิมหรือไม่

และหากใช่ มิตินี้อาจไม่ใช่แค่คลังเก็บของ...แต่อาจกลายเป็นขุมทรัพย์ ที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของเธอ...และสือซานไปตลอดกาล

ระหว่างทางกลับบ้าน เสี่ยวหนานยังแอบเอาเนื้อหมูกับผักแบ่งออกมาเป็นสองชุดแล้วแวะไปบ้านซูเพื่อเอาของเหล่านั้นไปให้ พอไปถึงก็พบว่าประตูปิดอยู่ เธอเคาะเบา ๆ สองครั้งแล้วเปิดเข้าไป

"มาทำไม แม่ไม่อยู่..."

อี้หลันพูดขึ้นทันทีที่เห็นเสี่ยวหนานเดินเข้ามาในบ้าน ถึงใบหน้าของเธอจะเรียบเฉยแต่ในดวงตามีแววระแวดระวังอยู่ตลอด เสียงนั้นไม่แข็งกระด้างเหมือนเคย คล้ายพูดเพื่อให้รู้ ไม่ใช่เพื่อขับไล่

"ฉันไปเดินดูของที่ตลาด ก็เลยเอาผักกับเนื้อหมูมาฝากค่ะพี่สะใภ้"

เสี่ยวหนานแปลกใจนิดหน่อย เธอจึงตอบกลับพร้อมกับยื่นถุงข้าวของให้กับคนตรงหน้า อี้หลันนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ยื่นมือมารับของอย่างเก้ ๆ กัง ๆ

"ขะ…ขอบใจ" เสียงตอบเบาและติดสะอึกอย่างไม่คุ้นชินกับการได้รับน้ำใจ

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ"

แล้วเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปโดยไม่กล่าวอะไรอีก ทิ้งให้พี่สะใภ้ยืนมองถุงในมือเหมือนคนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่เงียบ ๆ

เวลาล่วงเลยไปจนเกือบบ่ายโมง เสี่ยวหนานกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าสือซานกำลังชะเง้อคอมองออกมาจากหน้าประตู เขายิ้มออกเมื่อเห็นเธอเดินมา พร้อมกับเด็กหญิงตัวน้อยที่วิ่งโผเข้าใส่

"แม่! แม่กลับมาแล้ว~"

"หน่วนหน่วน หนูกับพ่อออกมารอแม่เหรอ?"

"ใช่ค่ะ หน่วนหน่วนเห็นพ่อยืนอยู่หน้าประตูนานแล้วก็เลยมาอยู่เป็นเพื่อน ว่าแต่..วันนี้แม่ทำอะไรให้หน่วนหน่วนกินน้า~"

เสี่ยวหนานหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วลูบหัวลูกน้อย ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองสามีอย่างล้อเลียน

"วันนี้เราจะทำหมูตุ๋นผักดองกันจ้ะ แล้วก็มีซุปหอยนางรมกับปลาหมึกผัดน้ำดำด้วยนะจ๊ะ แม่ทำเสร็จแล้วหน่วนหน่วนต้องกินเยอะ ๆ นะ"

"ว้าวววว~ ได้เลยค่า ของที่แม่ทำต้องอร่อยมากแน่ ๆ"

หน่วนหน่วนกระโดดตัวลอยแล้วปรบมือรัว สือซานที่ยืนฟังอยู่นานรีบเดินเข้ามารับตะกร้าจากภรรยา

"ให้พี่ช่วยอะไรบ้างหนานหนาน?"

เธอยิ้มแล้วพยักหน้า

"ช่วยล้างผักก็พอค่ะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง"

เสียงตะหลิวกระทบกระทะยังคงดังกังวานในห้องครัวเล็ก ๆ ที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมของหมูตุ๋นผักดอง ซุปหอยนางรม และปลาหมึกผัดน้ำดำ น้ำซุปเดือดปุด ๆ

ระหว่างที่หม้อเคี่ยวได้ที่ เสี่ยวหนานก็เล่าเรื่องในวันนี้ให้สือซานฟัง ตั้งแต่การจัดร้านจนถึงแวะไปบ้านพี่สะใภ้ แม้จะเล่าอย่างเรียบง่าย แต่ในน้ำเสียงของเธอมีประกายแห่งความภูมิใจที่ไม่อาจซ่อนได้

กลิ่นหอมคล้ายจะปลุกวิญญาณหิวโหยของทั้งครอบครัวให้ตื่นขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะหนูน้อยหน่วนหน่วนที่ยืนชะโงกหน้ามองหม้อใบโตตาแป๋ว ปากเล็ก ๆ พึมพำเบา ๆ ว่า..

"แม่จ๋า ท้องของหน่วนหน่วนร้องจ๊อก ๆ เลย"

เสี่ยวหนานหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมมือมาลูบผมลูกสาวตัวน้อย

"เสร็จแล้วจ้ะเสร็จแล้ว ช่วยแม่จัดโต๊ะก่อนนะ แล้วไปเรียกคุณปู่คุณย่ามากินข้าว"

"ได้เลยค่า"

หนูน้อยตอบอย่างขันแข็ง ก่อนจะวิ่งถือตะเกียบกับถ้วยชามอย่างทะมัดทะแมง ไปวางเรียงลงบนโต๊ะไม้ที่อยู่กลางบ้าน สือซานที่ยืนเช็ดมืออยู่ข้าง ๆ เห็นแล้วก็อดอมยิ้มตามไม่ได้ เขาเอื้อมมาช่วยภรรยาเปิดฝาหม้อกลิ่นหอมจนคิ้วกระตุก

"โห... กลิ่นนี่มัน... เหมือนกินในภัตตาคารเลยนะเสี่ยวหนาน"

"อาหารที่ฉันทำซะอย่าง มันต้องอร่อยอยู่แล้ว"

ไม่นานนัก อาหารก็พร้อมเสิร์ฟ หมูตุ๋นผักดองที่ตุ๋นจนนุ่มละลาย ซุปหอยนางรมกลมกล่อม และปลาหมึกผัดน้ำดำรสเข้มข้นกับข้าวสวยร้อน ๆ ถูกจัดขึ้นโต๊ะเรียบร้อย

ทั้งครอบครัวนั่งล้อมวงอย่างพร้อมเพรียง แล้วเริ่มดื่มด่ำกับรสชาติอาหารตรงหน้า

"อื้อหืออ หมูนุ่มมากเลยแม่จ๋า หน่วนหน่วนเคี้ยวนิดเดียวก็หายไปเลย!"

เสียงเคี้ยวดังกรุ๊บกรั๊บดังให้ได้ยิน ก่อนที่ดวงตาของหน่วนหน่วนจะเปล่งประกายออกมา

"ใช่เลย…รสชาติแบบนี้ ถ้าไปอยู่ในร้านนะ พี่ว่า... ต้องขายดีแน่ ๆ"

สือซานเอ่ยเสริมทันที เขารีบวางตะเกียบแล้วยกนิ้วโป้งให้ภรรยา

"จริงเหรอคะ?"

"จริงสิ! แม่จ๋าทำอร่อยที่สุดเลย หน่วนหน่วนอยากกินทุกวัน!" หน่วนหน่วนรีบเสริม

"ถ้างั้นหน่วนหน่วนต้องเป็นผู้ช่วยคอยชิมให้แม่ดีไหม?"

"ดีค่า ต่อไปหน่วนหน่วนคงอ้วนเป็นลูกหมูแน่ ๆ เลย ฮะ ฮะ ฮะ"

สือซานมองภรรยาด้วยแววตาอบอุ่น ขยับมือมาวางทับมือของเธอเบา ๆ ภาพของลูกหลานที่มีรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า ตั้งแต่มีเสี่ยวหนานเข้ามา ภายในบ้านก็ดุอบอุ่นเต็มไปด้วยความสุข พลอยทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองสุขใจตามไปด้วย

ไป๋ลี่เหยายืนอยู่ในเงากำแพงของแดดยามบ่าย มือเรียวกำชายกระโปรงไว้แน่นจนเล็บฝังลงเนื้อ แต่เธอไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย เสียงช้อนกระทบชามจากหลังรั้วอิฐดังลอดออกมาราวกับจงใจเย้ยหยัน

เสียงเล็ก ๆ ของเด็กหญิงที่เธอไม่อยากได้ยินนัก ร้องเรียกหาแม่ด้วยความสุขปนเสียงขำขัน พร้อมเสียงหัวเราะของสือซานที่ทำให้เธอปวดใจที่สุด

"เขาควรเป็นของฉัน..ไม่ใช่แก นังเสี่ยวหนาน!"

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 95

    ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน หน่วนหน่วน หยวนเปา หยวนเป่ย ต่างก็วิ่งตรงไปยังห้องนอนของตัวเองอย่างกระตือรือร้น ไม่นานนัก พวกเขาก็ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง ทั้งตุ๊กตาตัวโปรด ของเล่นชิ้นโปรด สมุดวาดรูป สมุดเขียน และดินสอสีสารพัดสีสัน แต่ละคนขนออกมาจากห้องของตัวเอง แล้วนำมากองรวมกันที่ห้อ

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 94

    หน่วนหน่วน เห็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้อง ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วเตือนสองพ่อลูกด้วยความเป็นห่วง "คุณลุงคะ น้องอิงลั่ว ถ้าจะใช้กระทะไฟฟ้าหรือกาน้ำร้อน ห้ามใช้ช้อนที่ทำจากสเตนเลสหรือเหล็กลงไปสัมผัสโดยตรงเด็ดขาดนะคะ ให้ใช้กระบวยที่มีด้ามจับแบบนี้แทน ไม่อย่างนั้นไฟจะดูดเอาได้ ไฟดูดน

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 93

    เธอเริ่มแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและเป็นกันเองเซ่าเวินเงยหน้าขึ้นมองเสี่ยวหนานด้วยความเกรงใจ เขาวางตะเกียบลงแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือ "ผม...ผมชื่อเซ่าเวินครับ นี่ลูกสาวของผม เซ่าอิงลั่ว พวกเราเป็นคนกว่างโจวครับ" เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้เสี่ยวหนานฟังด้วยความเจ็บ

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 92

    ในระหว่างนั้น เสี่ยวเปากับอันเจ๋อ ก็ช่วยกันยกถาดอาหารที่แม่ตักให้มาวางไว้ที่โต๊ะ อาหารร้อน ๆ กลิ่นหอมฟุ้งเต็มโต๊ะไปหมด ส่วน เสี่ยวเป่ย ก็รีบไปหยิบน้ำอัดลมที่เพิ่งซื้อมาพร้อมกับนมอีก 4 กล่อง รวมถึงขนมปังที่แม่เตรียมไว้ให้เป็นขนมของพวกเขา เสี่ยวเป่ยก็แบ่งส่วนหนึ่งมาวางไว้ให้ด้วยพอหน่วนหน่วนพาสองพ่อลู

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 91

    ห้าปีต่อมาห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันคือปี ค.ศ. 1988 ซูจื่ออัน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชิงหัวมาได้สักพักใหญ่แล้ว ด้วยความรู้และความสามารถที่ร่ำเรียนมา เขาได้เข้ามาช่วยงานในโรงงานของพี่สาวอย่างเต็มตัว โรงงานแห่งใหม่ ของ ซูเสี่ยวหนาน กำลังเริ่มก่อสร้างบนที่ดินที่เธอซื้อสะสมไว้ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่

  • ซูเสี่ยวหนานสะใภ้ไต้ก๋ง ยุค80   บทที่ 90

    สายตาของพนักงานสาวมองผ่านเพียงแค่วูบเดียว ก็ทำให้กิริยาของพนักงานเปลี่ยนไปในทันใด เธอกะพริบตาถี่ รีบยกมือขึ้นประสานพร้อมโค้งตัวเล็กน้อย"เชิญคุณลูกค้าทางนี้เลยนะคะ ห้องพิเศษของเราพร้อมแล้วค่ะ!"พนักงานผายมืออย่างนอบน้อม แล้วเดินนำแขกกลุ่มใหญ่ผ่านโถงกลางร้านเข้าไปยังห้องส่วนตัวที่จัดไว้โดยเฉพาะสำหรับ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status