แต่ทุกอย่างที่เธอเห็น… ทุกอย่างที่เธอได้กลิ่น… ไม่ใช่ของเธอ
"มันควรเป็นฉัน…ลูกสาวหัวหน้าสมาคมชาวประมงกับลูกชายไต้ก๋ง คนทั้งหมู่บ้านก็รู้ว่าเหมาะกันที่สุด! แล้วผู้หญิงหน้าโง่อย่างหล่อน มีอะไรดีไปกว่าฉันบ้าง? ควรเป็นฉันที่ได้นั่งอยู่ข้างเขา"
เธอกัดฟันแน่น น้ำเสียงในลำคอกลายเป็นเงาตะคอกที่ไม่สามารถเปล่งออกมาดัง ๆ ได้
"แกรอก่อนเถอะนังเสี่ยวหนาน…ฉันต้องแย่งพี่สือซานกลับมาให้ได้ ต่อให้ต้องใช้วิธีไหนฉันก็จะเอาพี่สือซานกลับมาเป็นของฉันให้ได้"
มืออีกข้างหนึ่งกำพัดไม้ไผ่แน่นจนปลายพัดแหลมจิกบาดฝ่ามือ แต่เธอกลับแค่นหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเยือกเย็นราวกับไม่รู้สึกเจ็บปวด
"วันหนึ่งเขาก็ต้องคุกเข่าลง ตราบใดที่ยังหากินจากท้องทะเล เขาก็ต้องอยู่ใต้อำนาจของพ่อฉัน… แล้วตอนนั้นแหละ ฉันจะเป็นคนยื่นเงื่อนไขให้เขาทิ้งแก..นังเสี่ยวหนาน"
ไป๋ลี่เหยาหันหลังเดินกลับออกไป เธอเลือกที่จะใช้อำนาจของผู้เป็นพ่อเพื่อกดขี่บังคับให้อีกฝ่ายยอมจำนน และทำตามความต้องการของเธอ
จากนางเอกของเรื่องค่อย ๆ ใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำเหล่านี้มันจะค่อย ๆ หล่อหลอมให้เธอกลายเป็นตัวร้ายในที่สุด
วันต่อมา
วันนี้เสี่ยวหนานตื่นแต่เช้าเอาปลาที่เหลือเมื่อวานมาทำเป็นปลานึ่งซีอิ๊วเห็ดหอมและกับข้าวอีกสองอย่าง หลังจากกินข้าวล้างจานเสร็จแล้วเธอกว่าจะออกไปที่ร้านอีกสักครั้ง จึงห่ออาหารไปให้บ้านเดิมด้วย เธอใช้เวลาคุยธุระกับครอบครัวไม่นานก็กลับออกมา
พอออกจากบ้านซูมาที่จักรยานเธอไม่ทันได้ระวัง เสียงฝีเท้าเร่งร้อนจากด้านหลังก็ทำให้เธอต้องชะงัก แล้วพลิกตัวกลับไปมอง เงาร่างหนึ่งในชุดเสื้อเชิ้ตขาวสะอาดกับกางเกงผ้าฝ้ายสีกรมเดินเข้ามาใกล้
"เสี่ยวหนาน...เป็นเธอจริง ๆ ด้วย"
เสียงคุ้นหูนั้นทำให้ดวงตาเธอเบิกกว้าง หัวใจเต้นสะท้านวูบหนึ่งก่อนจะเย็นชาในวินาทีต่อมา
"หานเจา?"
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง สายตาคุ้นเคยของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ถึงแม่กับน้องสาวจะบอกว่าเธอเปลี่ยนไป แต่เขายังมั่นใจในตัวเอง เพียงเขาพูดไม่กี่คำเธอก็ต้องมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแน่นอน
"ไม่เจอกันนาน เธอดูดีขึ้นนะ ฉันกลับมาจัดการเรื่องทะเบียนบ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเธอกลางทางแบบนี้ สวรรค์...ช่างเป็นใจจริง ๆ"
เสี่ยวหนานขยับตะกร้าขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงไร้แววหวั่นไหว
"เป็นใจกับผีสิ! ยิ่งเห็นยิ่งเหม็นขี้หน้า ไสหัวไปให้พ้นทาง ฉันจะไปธุระ ซวยจริง ๆ ต้องมาเจอตั่วเฮียแต่เช้า!"
ท่าทางและคำพูดของเสี่ยวหนานทำให้หานเจาแปลกใจไม่น้อย แต่เขาก็ไม่หลีกทางเพราะคิดว่าเธอแค่โกรธเขาอยู่
"เอาเถอะ!...ฉันจะไม่ถือสาคำพูดของเธอ ฉันรู้...ถ้าฉันพูดแค่ไม่กี่คำ เธอก็คงคุกเข่าร้องไห้ ขอให้ฉันกลับไปหาใช่ไหมล่ะ?"
"..."
"เอาอย่างนี้ดีไหม? ถ้าเธอเอาของที่ขนมากลับไปให้แม่กับน้องฉันเหมือนเดิม กลับไปอยู่รับใช้แม่ฉันที่บ้านหาน รับรองว่าฉันจะให้เธอเป็นเมียลับ ๆ ที่นี่ ส่วนเยว่ชิงเหมยเธอเป็นคุณหนูสูงศักดิ์ คงไม่กลับมาที่นี่หรอก"
"..."
"รับรองว่าถ้าเธออยู่ที่นี่เงียบ ๆ ฉันจะกลับมาหาเธอปีละครั้ง เป็นยังไง...เอาอย่างที่ฉันพูดดีไหม? นี่ฉันก็เมตตาเธอมากแล้วนะ"
เสี่ยวหนานหัวเราะออกมาอย่างขบขัน ก่อนจะสบตาเขาตรง ๆ รอยยิ้มบนใบหน้าผุดขึ้นอย่างเย้ยหยัน
"ถุย! ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นใครหลงตัวเองขนาดนี้มาก่อน พูดเหมือนฉันเป็นคนไม่มีสมอง ไอ้หน้าปลวก! สามีฉันหล่อกว่ารวยกว่านายตั้งกี่เท่า เรื่องอะไรฉันจะลดคุณค่าของตัวเองไปเป็นคนรับใช้ให้แม่กับน้องของนาย สมองนะ มีก็ใช้บ้างนะ อย่างถนัดแต่ใช้วิธีขึ้นเตียงเป็นทางลัด!"
คำพูดนั้นทำเอาหานเจาถึงกับนิ่งไป ดวงตาที่เคยมั่นใจเปลี่ยนเป็นเครียดขุ่น เค้าหน้าเขาแดงจัดทั้งโกรธทั้งอับอายเพราะไม่คิดว่าเสี่ยวหนานจะเปลี่ยนไปเป็นคนที่ปากร้ายได้ขนาดนี้
"เธอกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ? เธอ!..เธอ!..เธอมั..."
"กล้าไม่กล้าก็พูดไปแล้ว! ติดอ่างรึไงจะพูดอะไรก็ไม่พูดออกมาซะที ถ้าไม่อยากขายขี้หน้ากว่านี้ก็ไสหัวไปซะ น่ารำคาญ!"
หานเจาโกรธจนหน้าแดง เขาจ้องเธอเขม็งร่างกายสั่นเทิ้มเพราะความโมโห
"เธอจะเสียใจที่พูดแบบนี้เสี่ยวหนาน ฉันจะทำให้เธอกลับมาคุกเข่าขอโทษฉัน!"
เสี่ยวหนานไม่แม้แต่จะชายตามองเขาอีก เธอผลักเขาออกแล้วปั่นจักรผ่านเขาไปอย่างสง่างาม ขณะที่หานเจาได้แค่กำหมัดแน่น สายตาเขาแดงก่ำ หัวใจพลุ่งพล่านด้วยโทสะและความอัปยศที่เขาไม่เคยคาดฝันว่าจะได้รับจากผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่าอยู่ใต้อุ้งมือ
หลังจากเธอลับสายตาไป หานเจาก็สบถเสียงเบา ๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังขึ้นจากกำแพงข้างบ้าน
"ผู้หญิงแบบนั้นจะมีใครชอบ ถึงฉันไม่เคยทำอะไรเธอแต่ใครจะเชื่อ พูดแล้วก็เสียดาย...รู้อย่างนี้ฉันคงทำให้เธอเสียความบริสุทธิ์ไปนานแล้ว"
ไป๋ลี่เหยาในชุดกระโปรงผ้าไหมสีแดงเพลิงเดินอ้อมกำแพงออกมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยแผนร้าย
"ถ้าอย่างนั้นเรามาก็มาทำให้เธอตกเป็นของพี่ซะสิ พี่หานเจา!" ไป๋ลี่เหยาเลิกคิ้ว ยิ้มเย็นอย่างมีเลศนัย
"ไป๋ลี่เหยา! เธอหมายความว่า...?" หานเจาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หญิงสาวบอกแผนการให้หานเจาฟัง โดยหารู้ไม่ว่าด้านหลังกำแพงมีจื่ออันในชุดเสื้อกั๊กสีหม่นกำลังยืนนิ่งตาเบิกโพลง เขาฟังทุกอย่างชัดถ้อยชัดคำ จากนั้นเขาก็แอบตามทั้งคู่ไปที่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่กบดานของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง
"ยานี่แหละ รับรองว่าสลบไสล ไม่รู้ตัว ไม่รู้จักความอายด้วยซ้ำ"
เสียงของวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ดังขึ้น ตอนนี้หานเจากับไป๋ลี่เหยากำลังซื้อของบางอย่างจากพวกเขา
จื่ออันเม้มริมฝีปากแน่น เขาตัดสินใจรวบรวมเงินเก็บที่มีอยู่ทั้งหมด 4 หยวนแลกยาเจ้าปัญหานั่นมา หลังจากที่หานเจากับไป๋ลี่เหยากลับไปแล้ว
จากนั้นเขารีบวิ่งปรู๊ดตรงไปยังร้านข้าวแกงของพี่สาว
"พี่เสี่ยวหนาน..พะ..พี่ต้องฟังผมก่อน"
"อะไรจื่ออัน แล้วทำไมต้องวิ่งจนเหนื่อยหอบขนาดนั้น"
เสี่ยวหนานกำลังจัดวางข้าวของอยู่ เงยหน้าขึ้นมาพร้อมเสียงหอบของน้องชาย
"คือแบบนี้พี่ หานเจากับไป๋ลี่เหยา..."
จื่ออันเริ่มเล่าแผนการของหานเจากับไป๋ลี่เหยาให้พี่สาวฟังอย่างละเอียดตามที่เขาได้ยินมา พร้อมกับส่งซองกระดาษสีน้ำตาลที่มีผงยาอยู่ให้กับพี่สาว
"ให้มาไม่ให้กลับเสียมารยาท เงินนี่พี่คืนให้ค่ายา ส่วนที่เหลือเอาไปจ้างคนสักสองสามคนมาทะเลาะกันหน้าร้านตอนที่ฉันส่งสัญญาณ อย่าให้พลาดนะ"
เสี่ยวหนานเอาเงินใส่มือให้น้องชาย 20 หยวน แล้วให้น้องชายไปจัดการตามที่เธอสั่ง จากนั้นเธอก็เดินไปซื้อน้ำแดงจากร้านป้ากู้แล้วเอามาผสมยาเอาไว้ เธอไม่ลืมที่จะซื้อน้ำแข็งมาแช่ให้น้ำนั้นเย็นชื่นใจอยู่ตลอดเวลา
ไม่ทันเที่ยงดี หานเจากับไป๋ลี่เหยาก็มาถึงร้าน ทั้งคู่แสร้งทำตัวเป็นแขกผู้มาดี หานเจาถือขวดโคล่าเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มจอมปลอม
"มาทำไม!" เสี่ยวหนานเริ่มเปิดประเด็นทันที
"เมื่อเช้าฉันอาจจะล่วงเกินไปบ้าง เสี่ยวหนาน เรามาเริ่มต้นใหม่กันเถอะนะ กลับมาเป็นพี่น้องที่ดีเหมือนเดิมเถอะ" หานเจากล่าว
"ฉันแค่จะมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอและพี่สือซานเท่านั้นเอง เจอพี่หานเจากลางทางก็เลยมาพร้อมกัน" ไป๋ลี่เหยาเสริมขึ้น
เสี่ยวหนานยิ้มบาง รับขวดโคล่ามาอย่างเชื่องช้า
"ก็ได้ ถือว่าลืม ๆ ไปละกัน"
เธอยกขวดขึ้นกระดก แล้วส่งสัญญาณให้จื่ออันผ่านสายตา
ทันใดนั้น เสียงตะโกนโวยวายดังลั่นจากหน้าร้าน กลุ่มคนงานแกล้งทะเลาะกันถึงขั้นเกือบฟาดปาก
หานเจาและไป๋ลี่เหยาหันไปดูอย่างตกใจ เสี่ยวหนานเลยใช้จังหวะนั้นรีบเทโคล่าครึ่งขวดลงถังขยะ ก่อนจะยกขึ้นดื่มต่อราวกับไม่เกิดอะไรขึ้น
"อ๊าา ชื่นใจจริง ๆ อ่ะนี่..น้ำแดงพวกนี้ฉันตอบแทนพวกเธอทั้งสองคน"
ทั้งหานเจาและไป๋ลี่เหยารับมาดื่มด้วยใบหน้ายินดี พวกเขาไม่ได้ยินดีที่เสี่ยวหนานยอมเริ่มต้นใหม่ แต่พวกเขายินดีที่เสี่ยวหนานดื่มโคล่าขวดนั้นเข้าไปจนเกือบหมดต่างหาก
"ฉันเพิ่งเห็นทำเลดีที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ อยากให้เธอไปดูด้วยกันไหม?" หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ลี่เหยาก็พูดขึ้น
"ใช่ ๆ ไปแป๊บเดียวเองนะ เดี๋ยวคนอื่นแย่งก่อนจะเสียดาย" หานเจาช่วยเสริม
"ได้สิ ๆ เดี๋ยวฉันปิดร้านก่อน"
เสี่ยวหนานแกล้งทำหน้าแปลกใจแต่ก็ยอมเออออไปกับพวกเขา ระหว่างทางที่เดินไป เสี่ยวหนานเริ่มแสดงอาการเบลอสะลึมสะลือ
"ทะ..ทำไมฉัน ทำไมฉันถึงเวียนหัวแบบนี้นะ พวกเราใกล้ถึงรึยัง ฉันร้อน ทำไมวันนี้ถึงร้อนจัง"
"มา ฉันจะช่วยประคองเอง"
หานเจาวางแขนเธอพาดบ่า พอพ้นระยะสายตาผู้คน เขาจึงแบกเธอขึ้นหลัง ส่วนไป๋ลี่เหยาคอยช่วยเปิดทาง
บ้านร้างหลังเก่าที่อยู่นอกหมู่บ้านไม่ไกลนักเริ่มโผล่ให้เห็นตรงหน้า แต่ก่อนถึงไม่กี่ก้าว หานเจาและไป๋ลี่เหยาไม่รู้ก็คือ… สิ่งที่กำลังแล่นวนอยู่ในเส้นเลือดของพวกเขา ไม่ได้ทำให้เสี่ยวหนานหมดสติตามแผน
กลับเป็นพวกเขาเองที่เริ่มหน้าแดง หายใจแรง ร่างกายรุ่มร้อน สติพร่าเบลอ มือไม้เริ่มลูบไล้กันเองเหมือนสัตว์ป่าไร้สติ
"อะไรกัน... ทำไมมันร้อน... ร้อนวูบวาบไปหมด"
"ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน..."
เสี่ยวหนานค่อย ๆ ลืมตา ยิ้มเย็นอย่างพอใจเมื่อได้เป็นผู้ควบคุมเกม พอเธอถูกวางลงในบ้านร้าง สองคนนั้นก็ร้อนรนจนอยู่ไม่ติด เธอจึงผลักทั้งสองคนลงบนเตียงเก่าในบ้านร้าง แล้วรีบวิ่งออกมาล็อกประตูจากด้านนอกด้วยกลอนเหล็ก
พลั๊ก!
"สะ..เสี่ยวหนานเธอ อ๊าา ร้อน ไม่ไหวแล้ว"
"ช่วยฉันด้วย พี่หานเจา ฉันร้อน"
จากนั้นเธอเดินอ้อมบ้านไปยังหน้าต่างไม้ผุที่มีลูกกรงซ้อนอีกชั้น แอบมองผ่านช่องแสงเห็นสองร่างดิ้นพล่าน ส่งเสียงครางเพ้อพกไร้สติ
"เราแอบดูแบบนี้จะดีเหรอพี่เสี่ยวหนาน?" จื่ออันที่เห็นพี่สาวออกมาจากบ้านก็รีบตามพี่สาวมาแอบดูติด ๆ
"ดีสิ! ได้เวลาที่ต้องเอาคืนแล้ว คนพวกนี้อยากสาดโคลนใส่พี่ พี่ก็จะเอาโคลนป้ายหน้ามัน!"
เสี่ยวหนานหัวเราะเบา ๆ แววตาเย็นชาดั่งน้ำแข็งจนจื่ออันรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"นั่นอะไรพี่เสี่ยวหนาน หน้าตามันเหมือน...."
"นี่เรียกว่ากล้องโพลารอยด์ ถ่ายปุ๊บก็จะมีรูปออกมาปั๊บแบบนี้"
แชะ! แชะ! แชะ!
เสี่ยวหนานยิ้มหวานแล้วง้างกล้องโพลารอยด์ถ่ายรูปออกมาอย่างทะนุถนอม จื่ออันเพิ่งเคยได้เห็นก็ตาลุกวาวด้วยความตื่นเต้น
"ว้าว..มันสุดยอดมากพี่เสี่ยวหนาน..แต่รูปพวกนี้..ผมว่ามันน่าอนาจไปหน่อย"
จื่ออันมองรูปของหานเจากับเสี่ยวหนานที่กำลังเริงรักกันอยู่ในบ้านร้างก็ได้แต่ส่ายหัว
"ใจเย็นไว้น้องชาย รูปพวกนี้แหละที่จะช่วยให้เราได้เงินคืน"
เมื่อนึกถึงเงิน 600 หยวนที่เธอเสียไปเพราะหานเจา เธอก็อยากจะได้มันกลับมาคืนให้กับพ่อแม่ เพราะทั้งหมดนั้นคือน้ำพักน้ำแรงของพวกท่านที่หามาอย่างยากลำบาก
"พี่ว่ายังไง ผมก็ว่ายังงั้น!"
"งั้นเรากลับบ้านกันเถอะ"
เธอหัวเราะคิกกับน้องชาย พอภาพแห้งก็เก็บใส่กระเป๋าแล้วพากันกลับบ้านทันที