ณ บริษัทโฆษณาชื่อดังกำลังวุ่นวายเพราะข้อมูลการนำเสนองานหายไป จึงทำให้ไม่มีงานนำเสนอลูกค้าจนเจ้านายใหญ่โมโหแล้วพาลใส่ทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ลูกน้องสาวแสนสวยอย่างน้ำผึ้ง ลลิสา วรวัตรสกุล ที่ได้รับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้
“หมดกัน พังหมดแล้ว ผมอุตส่าห์ไว้ใจคุณนะน้ำผึ้ง งานนี้มันสำคัญกับทางบริษัทเรามาก แต่มันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะคุณ” ทรงกริชพูดต่อว่าลูกน้องสาวไปพร้อมกับมองด้วยสายตาไม่พอใจ ที่เธอทำงานของเขาพังลงในพริบตา
“น้ำผึ้งขอโทษค่ะคุณกริช น้ำผึ่งมั่นใจว่าเอางานมาใส่คอมนี้แล้วจริงๆค่ะ แต่งานนี้น้ำผึ้งจะไม่ยอมให้มันพลาดเด็ดขาด คุณกริชให้โอกาสน้ำผึ้งไปคุยกับลูกค้าอีกครั้งนะคะ น้ำผึ้งมีไฟล์สำรองเก็บไว้ค่ะ แต่มันอยู่ที่บ้าน” ลลิสาพูดบอกไปแบบมีสิต ไม่ได้หวาดกลัวเจ้านายของเธอเลยสักนิด จนทุกคนที่อยู่ในโซนออกแบบโฆษณามองเธออย่างมีความหวัง
“คุณมีไฟล์เก็บไว้จริงเหรอ งั้นรีบไปเอามาเลย ผมจะโทรไปคุยกับลูกค้าอีกครั้งเพื่อถ่วงเวลารอคุยกลับมา ด่วนเลยนะน้ำผึ้ง อย่าทำให้ผมต้องผิดหวังในตัวคุณอีก” ทรงกริชพูดย้ำบอกไปแล้วจ้องหน้าลลิสาไปด้วย
“ค่ะคุณกริช ตอนนี้น้ำผึ้งให้น้องชายเอามาให้แล้ว ไม่เกินสิบห้านาทีถึงที่นี่แน่นอนค่ะ ขอตัวเลยนะคะ บะหมี่กับภู พวกแกไปช่วยคุณกริชเขาถ่วงเวลาลูกค้านะ ” ลลิสาพูดบอกไปเพื่อนทั้งสองไป ก่อนจะรีบวิ่งออกไปรอลูกพี่ลูกน้องชายของเธอที่เธอรักเหมือนกับน้องชายแท้ๆทันที
พอลลิสามายืนรอน้องชายของเธอที่ด้านล่างของบริษัทเกือบสิบนาที น้องของเธอก็นั่งวินมอเตอร์ไซต์เข้ามาแบบรวดเร็ว
“พี่น้ำผึ้ง ได้แล้วพี่ ผมไม่รู้อันไหนเลยเอามาทุกอันเลย อ่ะ” จิรายุพูดออกไปแบบเหนื่อยๆแล้วส่งทามไดร์ฟให้กับลูกพี่ลูกน้องสาวของตัวเองไป
“ขอบใจมากนะยุ ถ้าไม่ได้นานพี่แย่แน่ พี่ไปก่อนนะเดี๋ยวไม่ทัน” ลลิสาพูดบอกน้องชายจบก็รีบวิ่งเข้าไปในบริษัทแล้วกดลิฟต์ขึ้นไปแบบรวดเร็ว ส่วนจิรายุก็มองตามแล้วยิ้มแบบขำกับนาทีฉุกเฉินของพี่สาวคนนี้จริงๆ
“หวังว่าพี่จะทันนะ พี่น้ำผึ้ง” จิรายุพูดออกมา ก่อนจะหันกลับไปซ้อนรถวินมอเตอร์ไซต์แล้วให้พากลับไปบ้านเขาอีกครั้ง หลังจากที่ซิ่งมากันอย่างเมามันส์จนหัวเข่าของเขาชนกับรถเมล์ไม่รู้กี่คันต่อกี่คัน
พอลลิสามาถึงชั้นที่เธอทำงานอยู่ก็วิ่งไปที่ห้องประชุมทันที ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วก็ยืนหายใจลึกๆให้ตัวเองผ่อนคลาย แล้วเธอก็ยิ้มออกมาแล้วก็หันไปมองตัวเองในกระจกด้านข้างแบบเช็คความสวยของตัวเอง
“สวยแล้วน้ำผึ้ง ลุย” ลลิสาพูดจบแบบฮึดสู้แล้วก็ยิ้ม ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แล้วเธอก็ช่วยทุกคนที่กำลังถ่วงเวลาได้ทัน ก่อนจะเริ่มจัดการเอางานที่เธอคิดกับพวกเพื่อนๆมานำเสนอให้กับลูกค้ารายใหญ่ จนลูกค้าพอใจและตกลงเซ็นต์สัญญากับทางบริษัท และมันก็กลายเป็นผลงานชิ้นใหญ่ของเธอตั้งแต่ที่เธอทำงานมา
“ผมขอโทษที่ต่อว่าคุณไปเยอะเลยนะคุณน้ำผึ้ง วันนี้คุณทำได้ดีมาก ขอบคุณที่ทำให้บริษัทเราได้งานใหญ่ๆแบบนี้” ทรงกริชพูดบอกไปก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ค่ะคุณกริช น้ำผึ้งก็ขอโทษด้วยค่ะที่ทำงานพลาดไปนิดหน่อย ต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีกแล้วค่ะ” ลลิสาบอกก็ยิ้มเกร็งๆใส่เจ้านายของเธอ
“งั้นวันนี้ผมจะเลี้ยงฉลองให้กับความสำเร็จของพวกเราทุกคนในวันนี้ ไปดื่มกันให้เต็มที่เลย พรุ่งนี้วันอาทิตย์ กินกันให้เต็มที่ได้เลย” ทรงกริชพูดบอกทุกคนไปก็ร้องออกมาอย่างฮึกเหิมที่จะได้ออกไปสังสรรค์ตามประสาเจ้านายลูกน้องกับทุกคน
“เย้ จัดไปเลยครับคุณกริช” ภูวนาท เพื่อนสนิทของลลิสาพูดเสริมไป
“งั้นไปคลับเลยค่ะ ครบวงจรดี อ่าๆ” มัทนาพูดเสริมออกไปอีก จนทุกคนพูดเห็นเป็นเสียงเดียวกันแบบต้องการไปคลับ
“ได้เลย เลิกงานแล้วเจอกันทุกคน” ทรงกริชพูดแล้วก็ยิ้มแล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ส่วนลลิสาก็โล่งอกที่วันนี้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีได้
ต่างจากสองสาวที่ยืนมองอยู่เงียบๆ นั่นก็คือวิเวียนและกิ่งแก้วที่แอบเอาข้อมูลงานของลลิสาไปทิ้ง เพื่อหวังจะให้ทรงกริชโกรธแล้วไล่ลลิสาออกจากงานไป เธอจะได้ขึ้นมาเป็นใหญ่โดยไม่มีลิลสาคอยเป็นหนามตำใจยื้อแย่งตำแหน่งหัวหน้ากับเธอ
“แกไม่โชคดีแบบนี้ตลอดไปหรอกยัยน้ำผึ้ง” วิเวียนพูดออกมาแบบเจ็บใจแล้วกำหมัดแน่น เพราะตั้งแต่ลลิสามาทำงานที่นี่ยัยนี่ก็ทำงานเด่นเกินหน้าเกินตา จนเธอเกียดขี้หน้าเข้าไส้อยู่แล้ว
“ไปเถอะแก ไว้เราค่อยหาวิธีจัดการนังนี่ใหม่” กิ่งแก้วบอกเพื่อนสาวไป ก่อนจะจับมืองจูงเพื่อนสาวกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะต่อ เพราะเธอไม่มาดีใจแบบคนพวกนั้นหรอก
ด้านอภิรดีที่ถูกเจ้าหนี้รายใหญ่ของเธอมาหาถึงที่บ้านก็ทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนที่สามีของเธอก็ตายไป เขาก็ทิ้งหนี้ไว้ให้เธอจำนวนมาก แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงล่ะ ทั้งเจ้าหนี้เก่าเจ้าหนี้ใหม่ วุ่นวายไปหมดแล้ว ตอนนี้เธอกลายเป้นคุณนายถังแตกไปแล้ว เธอจะเอาเงินที่ไหนมาใช้เขาล่ะ
“เงินที่ผมให้คุณไปน่ะ เมื่อไหร่คุณจะคืนผมล่ะคุณอร ผมใจดีกับคุณมานานแล้วนะ” อนุวัตรพูดออกไปแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะที่เขามาวันนี้ไม่ใช่แค่จะมาทวงหนี้อย่างเดียวหรอก เขามีจุดประสงค์อื่นๆด้วย
“คือฉันก็อยากจะคืนให้คุณเร็วๆนะคะ แต่มันไม่มีจริงๆค่ะ สามีของฉันเขาติดหนี้คนไปทั่ว ฉันก็ใช้คืนไม่หมดสักที เห็นใจฉันหน่อยนะคะ เงินตั้งหลานล้านฉันจะไปหาที่ไหนได้ล่ะคะคุณอนุวัตร ลำพังลูกสาวกับลูกชายฉันทำงานก็จะไม่พอที่บ้านอยู่แล้ว” อภิรดีพูดบอกไปก็แกล้งบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ออกาชุดใหญ่
“เอาล่ะๆ ถ้าคุณไม่มีเงินคืนผม ผมก็มีข้อเสนอมาให้คุณนะคุณอร ผมได้ยินว่าคุณมีลูกสาวสวยด้วยนิ เป็นถึงแอร์ฮอสเตสเลยนิ ถ้าคุณไม่มีเงินคืนก็ยอมยกลูกสาวคุณให้ผมสิ” อนุวัตรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์ออกมา
“หมายความว่ายังไงคะคุณอนุวัตร” อภิรดีถามออกไปแบบงงๆ เขาจะให้เธอยกลูกสาวของเธอให้เขาทำไม อย่าบอกนะว่าเขาจะเอาลูกสาวของเธอไปเป็นเมียน้อยน่ะ
“ผมก็ไม่คิดจะทำอะไร คุณก็รู้นิว่าภรรยาของผมเขาเสียไปนานแล้ว มันก็คงจะดีไม่น้อยถ้าลูกสาวของคุณจะมาดูแลผมในฐานะภรรยา ผมยินดียกเลิกหนี้สินห้าล้านที่คุณติดผมอยู่ทันทีที่ลูกสาวคุณยอมแต่งงานกับผม พร้อมกับให้เงินค่าสินสอดอีกห้าล้านบาท คิดดีๆนะ ผมไม่ได้ใจดีกับใครแบบนี้นะและผมก็ไม่บังคับคุณด้วย ผมจะให้เวลาคุณกับลูกสาวคิดสักอาทิตย์หนึ่ง” อนุวัตรเอ่ยบอกไป เพราะเขาเคยเจอลูกสาวของอภิรดีสองครั้ง เขาก็ถูกใจเด็กสาวคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก เขาก็เลยอยากจะได้มาเป็นเมียช่วยดูแลเขาก็เท่านั้นเอง แต่ถ้าลูกสาวของเธอไม่เต็มใจเขาก็ไม่บังคับ
“แต่งงานออกหน้าออกตาใช่ไหมคะ ไม่ใช่เป็นเมียน้อยของคุณนะคะ” อภิรดีถามออกไป เพราะเธอเองก็แอบสนใจข้อเสนอของอนุวัตรไม่น้อย หนี้ที่ติดก็หมดไปแถมยังได้ค่าสินสอดไปจ่ายหนี้คืนคนอื่นอีก แล้วแบบนี้เธอจะไม่สนใจได้ยังไง แต่ลูกสาวเธอนี่สิหัวแข็งอย่างกับอะไร จะยอมแต่งกับคนแก่คราวพ่อแบบนี้ไหมล่ะ
“ผมจะจดทะเบียนสมรสกับลูกสาวของคุณด้วย พร้อมกับจัดงานแต่งงานให้แบบยิ่งใหญ่เลยล่ะคุณอร” อนุวัตรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม เพราะเห็นทีท่าของอภิรดีแล้ว
“ก็ได้ค่ะ ฉันขอคิดดูก่อนนะคะคุณอนุวัตร แล้วฉันจะให้คำตอบอีกที” อภิรดีพูดบอกไป เพราะเธอก็ต้องถามลุกสาวของเธอก่อน เธอก็ได้แต่หวังว่าลูกสาวของเธอจะยอม เพื่อให้ทุกคนสบายขึ้น
“ดี งั้นผมกลับก่อนก็แล้วกัน หวังว่าเจอกันครั้งหน้าคำตอบของคุณ จะทำให้ผมยิ้มได้นะคุณอร ไปล่ะ” อนุวัตรพูดบอกไปก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ของอภิรดีไป ก่อนจะยิ้มแล้วขึ้นรถไปอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะวันนี้เขาต้องไปเตรียมตัวต้อนรับลูกชายตัวดีของเขาซะหน่อย
“ใจเย็นจ้ะคุณนายมันยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่าพึ่งอารมณ์เสียเลยจ้ะ ใจเย็นๆจ้ะ” ชบาพูดบอกไปก็ยิ้มแห้งๆบอกไป แล้วก็คิดในใจว่าคุณนายนี่ก็ขี้หึงนายหัวเหมือนกันนะเนี่ย แบบนี้ค่อยเป็นมวยถูกคู่หน่อย ถ้าได้เจอยัยลูกค้ารังนกนั่น ยัยนั่นคงจะเงิบหน้าดูถ้าได้รู้ว่าตอนนี้นายหัวของเธอแต่งงานมีเมียไปแล้ว ชบาคิดในใจ“ฉันไม่ยอมเสียเขาให้ใครหรอกชบา เธอคอยดูเถอะ” ลลิสาพูดเสียงเข้มออกไปแบบมาดมั่น“ดีจ้ะคุณนาย ร้อยแปดกระบวนท่ามีเท่าไหร่เอาออกมาใช้ให้หมดเลยจ้า เอาให้นายหัวรักนายหัวหลงเลยนะจ้ะ” ชบาพูดแล้วก็ยิ้มแบบชอบใจ เพราะเธออยากให้คุณนายคนนี้อยู่กับนายหัวของเธอไปนานๆ เพราะลลิสานั้นดีมากจริงๆจนเธอ“งั้นเธอกลับบ้านไปก่อนชบา ฉันขอทำหน้าที่เมียหน่อยละกัน พูดมาขนาดนี้ละ ฮ่าๆ บอกไข่นุ้ยนะว่าวันนี้นายหัวจะไปทำงานตอนบ่าย ตอนเช้านายหัวติดธุระยาว” ลิสาพูดบอกไปแบบไม่อาย เพราะมันไม่มีอะไรให้อายมาตั้งแต่ที่ชาลิตเอากับเธอทุกเช้าตอนสองแม่ลูกคู่นี้มาทำงานบ้านแล้ว“ได้จ้ะคุณนาย เต็มที่นะจ้ะฮ่าๆ” ชบาพูดแล้วก็เดินออไปแบบขำๆ ก่อนจะปิดประตูบ้านให้ทั้งสองด้านลลิสาพอชบาออกไปแล้วเธอก็เดินออกไปเปิดประตูระเบียงบ้าน แล้วก็มองชาลิตกำลังโ
“ผมไม่เคยมีอะไรกับหลานสาวของคุณนะคุณอร จะฟันแล้วทิ้งได้ยังไงล่ะ แต่คนที่ฟันหลานสาวคุณน่ะคือลูกชายของผมเอง พวกเขาแอบได้เสียกันโดยที่คิดว่าคนอื่นไม่รู้ ผมก็เลยลองส่งให้หนูน้ำผึ้งไปอยู่กับลูกชายของผมที่เกาะดู ว่าพวกเขาจะไปกันได้ไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าหลานสาวของคุณจะทำได้ดีทีเดียว” อนุวัตรพูดบอกไป จนอภิรดีอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน หลานสาวของเธอเนี่ยนะจะกล้ามีอะไรกับลูกชายของเขา“มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันได้ไหมคุณอนุวัตร ฉันงงไปหมดแล้ว” อภิรดีถามออกไปอย่างงๆ ไหนบอกให้หลานสาวเธอไปอยู่เกาะเพื่อแก้เคล็ดไง แล้วทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้“หึ ได้ ฟังแล้วอย่าตกใจก็แล้วกันคุณอร” อนุวัตรพูดเล่าเรื่องของชาลิตและลลิสาตั้งแต่ตั้นให้อภิรดีรับรู้ว่าทั้งสองทำอะไรไว้บ้าง แบบระเอียดยิบเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแคลงใจกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายในอนาคต เนื่องจากเขาก็เคยจดทะเบียนกับลลิสามาแล้ว เขาจึงต้องเคลียยร์และเล่าทุกอย่างให้อภิรดีฟัง“คุณเล่นเกมอะไรของคุณคุณอนุวัตร หลานฉันไม่ใช่ผักใช่ปลานะที่จะแต่งกับคนนั้นทีคนนี้ทีน่ะ” อภิรดีพูดบอกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก“ใจเย็นๆก่อนสิคุณอร ผมก็ไม่ได้จะให้ลูกชายผมเขาทิ้งหลานสาวคุณ อ่ะ น
ชาลิตจึงถอนปากออกมาแล้วใช้นิ้วบี้คลึงร่องสาวของเธอไปด้วยแบบเมามันส์ จนลลิสาหย่อนหน้าลงมาแบบทรมานจนหน้าของเขาเลอะไปด้วยน้ำหวานของเธอ“อ้ะ เลียอีกค่ะ เลียแรงๆ สอดลิ้นเข้ามาลึกๆ อ่าส์ ซี๊ด น้ำผึ้งขอสองนิ้วได้ไหมคะ นิ้วเดียวมันไม่มันส์ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ ขอสองนิ้วนะคะ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งเสียว ซี๊ด” ลลิสาร้องไปแล้วก็ร้องของให้ชาลิตสอดนิ้วเข้ามาสองนิ้ว เพราแค่นิ้วเดียวสำหรับเธอตอนนี้มันไม่สนุกแล้ว“จิ๋มขยายแล้วสิ โดนเล็กเข้าหน่อยทำเป็นขอสองเลยนะ เดี๋ยวจะให้เก้านิ้วเลยเมียจ๋า ไม่ต้องขอแค่สองนิ้วหรอก” ชาลิตพูดแล้วก็ยิ้มขำๆออกไป จึงสอดนิ้วเพิ่มให้เธอเป็นสองนิ้วรัวๆ จนลลิสาร้องออกมาแบบพอใจ“ดีค่ะ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งไม่ไหวแล้ว อย่าหยุดนะคะ อย่า อ้ะ อ้ะ” ลลิสาร้องไปจนกระทั่งเธอเกร็งกระตุกออกมา แล้วก็พ่นน้ำรักใส่หน้าของชาลิตแบบสุขสม จนหน้าของชาลิตเปียกไปหมดเพราะน้ำรักของเธอ“น้ำแตกขนาดนี้เลยเหรอคุณ อ่าส์ เยอะชะมัดเลย” ชาลิตบอกไปแล้วก็เอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำรักของลลิสาไป ก่อนจะมาจับลลิสานอนลงไปบนโต๊ะทำงานของเขา“อ่าส์ คุณใหญ่ ฉันอยากโดนเก้านิ้วแล้วอ่ะ รีบๆใส่เข้ามาสิคะ” ลลิสาบอกไปแล้วก็อ้าขาร
“ใช่ ผมกับโยเราเคยคบกันมาก่อน ผมคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ผมเลือกจะมาเป็นคู่ชีวิต ผมตัดสินใจจะขอเขาแต่งงานในวันครบรอบสามปีที่คบกัน แต่เพราะความเจ้าชู้ของผมเองแหละที่ไม่รู้จักพอ นอนกับผู้หญฺงไปทั่ว โยเขาก็เลยทนไม่ไหว ขอเลิกกับผม” ชาลิตพูดออกไปแล้วก็มองหน้าลลิสาแบบจริงจัง“แล้วไปแต่งงานกับคุณกลาง ลูกพี่ลูกน้องของคุณเนี่ยนะ” ลลิสาถามแบบอึ้งๆ เพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะจุกอ่ะ ที่อยู่ๆ แฟนตัวเองกลายเป็นเมียของน้องชายแบบนั้น แถมยังต้องเจอหน้ากันทุกวัน ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรับไม่ได้แล้วหนีมาอยู่เกาะอย่างนี้“อืม กลางมันคอยดูแลรับฟังโยเขามาตลอด พอสองคนนั้นตกลงที่จะแต่งงานกัน ผมที่ยังลืมโยเขาไม่ได้ก็เลยมาอยู่เกาะอย่างนี้แหละ นานๆจะกลับไปกรุงเทพ แต่มันก็ผ่านมาหกปีแล้วนะ ตอนนี้ผมเฉยๆแล้วล่ะ ผมมีเมียแล้วจะคิดถึงผู้หญิงคนอื่นได้ยังไงล่ะ คุณนั่นแหละโอเคไหมกับเรื่องนี้ ” ชาลิตพูดบอกไปตามตรง เพราะตอนนี้เขาคิดว่าในใจของเขาเกี่ยวกับโยธกามันเริ่มจืดจางลงไปทุกที แต่มันกับ “ฉันโอเคสิคุณ แต่คุณน่ะเฉยๆแน่เหรอ ฉันยังเห็นคุณเก็บรูปเขาไว้อยู่เลย แต่ถ้าคุณลืมเขาไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ยังไงมันก็เป็นแค่อดีตของคุณ” ล
“คิดมากไปละน้ำผึ้ง นั่นมันอดีตของเขาไหมล่ะ น้ำผึ้งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้องชายเขาไม่ใช่เหรอ จะเอามาใส่ใจทำไม แล้วใครบอกว่าน้ำผึ้งไม่สวย น้ำผึ้งเองก็สวยมากไม่รู้ตัวเลยหรือไงล่ะ ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องชอบทั้งทั้งนั้นแหละ อย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้นเลย แล้วอย่างไอ้คุณใหญ่อะไรนี่ มันจับน้ำผึ้งไปทำเมียขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีชอบบ้างแหละ ไม่งั้นมันไม่กล้างัดข้อกับพ่อเอาน้ำผึ้งไปเป็นเมียหรอก” ภูวนาทพูดบอกไปแบบอดไม่ได้ เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชาย เขาคิดว่าอย่างชาลิตอะไรนี่ต้องชอบเพื่อนของเขาแน่ๆ ไม่งั้นคนดีๆที่ไหนจะมาเอาแม่เลี้ยงตัวเองไปทำเมียกันล่ะ“เออจริง แกฉลาดมาทุกเรื่องนะน้ำผึ้ง แกจะมาโง่เรื่องนี้ไมได้ คิดจ้ะเพื่อนคิดดีๆ แกจะยอมถอยให้ผู้หญิงที่เขามีผัวไปแล้วทำไมห้ะ ตอนนี้แกเป็นเมียคุณใหญ่แล้วนะ แกควรจะไปต่อกับเขา ไม่ใช่มาคิดท้อใจอย่างนี้ แล้วแกก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นหรอก อดีตก็คืออดีตเขาคงไม่กลับไปเอาเมียของน้องชายหรอกแก” มัทนาพูดบอกไปแบบให้เพื่อนสาวได้สติ“ก็จริงอ่ะแก ฉันคงจะคิดมากไป หรือว่าฉันจะเริ่มชอบเขาแล้วอ่ะ” ลลิสาพูดบอกไปแบบเริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มจะชอบชาลิตแล้ว เพราะเธอมีอาการหึ
ผ่านไปสองอาทิตย์ชาลิตและลลิสาก็ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันอยู่ภายในเกาะรายา ทั้งสองก็พยายามปรับตัวเข้าหากันได้แบบสนิทสนมมากกว่าเดิม แถมลลิสายังเข้ามาช่วยงานชาลิตแบบเต็มตัวเพราะเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงไปช่วยชาวบ้านออกแบบร้านขายของตามชายหาดภายในเกาะ รวมไปถึงที่พักแบบโอมเตย์ของชาวบ้านอีกด้วย จนชาวบ้านที่นี่ชื่นชมและชอบลลิสามาก รวมไปถึงชาลิตด้วยที่ได้เห็นลลิสาในอีกด้านหนึ่งของเธอ“คุณใหญ่ฉันทำแพลนร้านค้าของชาวบ้านเสร็จแล้ว คุณจะดูเลยไหมคะ” ลลิสาถามออกไป เพราะเห็นว่าเขากำลังทำหน้าเครียดอยู่กับผู้รับเหมา ไข่นุ้ยและลุงมิ่งพ่อของชบาอยู่“เอาไปไว้ในห้องทำงานของผมก็ได้ เสร็จธุระตรงนี้แล้วผมจะไปดู อ่อ เดี๋ยวผมวานคุณหยิบเอกสารส่งของซองสีเหลืองในลิ้นชักฝั่งขวามือให้ผมด้วยนะ” ชาลิตเอ่ยบอกไปก็หันมาคุยงานต่อ เพราะตอนนี้มันก็ใกล้เวลาที่รีสอร์ทจะเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่ตกแต่งเท่านั้น“ค่ะ เดี๋ยวน้ำผึ้งเอามาให้นะคะ” ลลิสาพูดบอกไปก็เดินไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมันจะมีวิวทะเลให้ดูแบบสบายตาพอถึงห้องทำงานของชาลิตแล้วเธอก็เอางานของเธอไปวางบนโต๊ะของเขา ก่อนจะหาซองสีเหลืองที่เขาบอกทั