LOGINด้านชาลิตก็แต่งตัวแบบหนุ่มเซอร์ๆพร้อมกับกระเป๋าเป้หนึ่งใบเดินทางจากกระบี่มากรุงเทพ หลังจากที่เขาไปอยู่เกาะมานานถึงหกเดือนแบบไม่กลับบ้าน จนไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของเขานั้นป่วยหนักขนาดไหน
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” เมธาวีแอร์สาวสุดสวยในวันนี้เอ่ยถามลูกค้าในชั้นเฟิร์สคลาสออกไปด้วยรอยยิ้ม แล้วคิดในใจว่าหน้าตาแบบนี้ไม่หน้าจะมานั่งชั้นแบบนี้ได้ แต่ก็อย่างว่าแหละคนเรามันมองแค่ภายนอกไม่ได้
ชาลิตที่กำลังจะนอนเงยหน้าขึ้นมามองแอร์สาวที่คุยกับเขา แล้วก็เจอหน้าสวยๆยืนยิ้มให้เขาแบบน่ารัก เขาก็มองเธอแบบเฉยๆเพราะเมื่อก่อนสวยกว่านี้เขาก็เอาขึ้นเตียงมาแล้ว
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” ชาลิตพูดจบก็หันตัวไปทางกระจกหน้าต่างแล้วเอนตัวนอนแบบสบายๆอย่างไม่สนใจแอร์สาวเลยสักนิด จนเมธาวีอึ้งที่เธอสวยขนาดนี้แล้วยังถูกลูกค้าหน้าตาบ้านๆแบบนี้เมิน ทั้งๆที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะพูดจีบเธอทั้งนั้น
“ค่ะ” เมธาวีกัดฟันพูดบอกเจ็บใจแล้วก็ฉีกยิ้มออกไป แล้วก็เดินกลับไปหาเพื่อนอีกคนที่ถูกชายหนุ่มคนนี้ปฏิเสธไปก่อนหน้านี้
“ไงล่ะแก ฉันบอกแกแล้วว่าเขาหยิ่ง ฉันไปถามแล้วเขาก็เมินแบบนี้เลย จ่ายมาตังแพงไม่กินอะไรเลยสักอย่าง เอาแต่นอนหลับอย่างเดียวเลยอ่ะแก ” เพื่อนสาวของเมธาวีพูดบอกแบบอดไม่ได้ หลังจากแอบมองอยู่นาน เพราะค้าลูกคนอื่นๆเขาก็รับอาหารดื่มแชมเปญกันตามปกติ ก็มีแค่ผู้ชายหน้าโหดคนนั้นแหละที่ไม่ยอมดื่มหรือกินอาหารรับรองอะไรเลย
“ฉันก็ไม่เคยโดนเมินแบบนี้มาก่อนเหมือนกันนั่นแหละ คิดว่าหล่อมากหรือไง” เมธาวีพูดไปแบบเสียฟอร์มที่เธอถูกเมิน
“แต่เขาก็เข้มๆคมๆนะแก ถ้าโกนหนวดโกนเคราดีๆนะ ฉันว่าแซ่บอยู่นะ รูปร่างก็ออกจะดูดี เขาเมินก็อย่าไปโมโหเขาสิยะ แกอาจจะไม่สวยในสายตาเข้าก็ได้ ฮ่าๆ” เพื่อนของเมธาวีพูดออกไปแล้วยิ้มไปอย่างสะใจ สมน้ำหน้า มั่นใจว่าสวยดีนักเจอคนแบบนี้เข้าให้
“เออๆ แกดูแลไอ้บ้านั่นเลยนะ ฉันไม่อยากไปถามอะไรเขาแล้ว” เมธาวีพูดออกไปแล้วไปนั่งพักทันที ก่อนจะแลมองไปที่ผู้ชายคนนั้นแบบโมโห เพราเขานั่งด้านหน้าพวกเธอนี่เอง
ด้านชาลิตก็ได้ยินทุกอย่างที่สาวแอร์ฮอสเตสพูดกัน เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะขี้เกียจจะมีปัญหา จากนั้นเขาก็นั่งเครื่องจนกระทั่งถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แอร์สาวก็ยืนยิ้มขอบคุณเขาก่อนออกมา
“ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้ามาใช้บริการสายการบินของเราอีกนะคะ” เมธาวีและเพื่อนพูดบอกไปแล้วก็ยกมือไหว พร้อมกับฉีกยิ้มออกไปให้กับลูกค้าที่เมินพวกเธอตอนอยูบนเครื่อง
“ทีหลังถ้าลูกค้าไม่รับอะไรก็อย่าเอาไปพูดเม้าท์เลยนะครับ มันเสียมารยาท” ชาลิตพูดจบก็เดินสะพายเป้อกมา แล้วปล่อยให้แอร์สาวทั้งสองคนยืนอึ้งอยู่ตรงประตูทางออก
ส่วนเขาก็ยิ้มมุมปากแบบขำๆแล้วเดินออกมาแบบชิวๆ พอออกมาก็เห็นชาติคนขับรถของที่บ้านมายืนรอรับเขาแล้ว
“สวัสดีคุณใหญ่ครับ มารอบนี้ผมเกือบจำไม่ได้เลยครับ เชิญครับๆรถอยู่ด้านหน้าแล้วครับ” ชาติเอ่ยทักทายนายน้อยไปแบบเกร็งๆ เพราะรอบนี้ชาลิตมาแบบหนวดเคราเข้มๆแบบโหดๆ
“เออ ฉันก็ลืมโกนหนวดมาน่ะ ยัยเล็กโทรไปตามมาด่วนก็เลยรีบออกมาเลยไม่ทันได้ทำอะไร เดี๋ยวค่อยไปทำที่บ้านละกัน แล้วพ่อฉันเป็นยังไงบ้าง” ชาลิตพูดบอกไปแล้วก็เดินตามคนขับรถของบ้านที่เขาเองก็รู้จักมานาน
“อ่อ คือ คุณท่าน อ่อ ผมว่าคุณใหญ่ไปดูเองจะดีกว่าครับ” ชาติพูดไปแบบตะกุตะกัก เพราะไม่รู้ว่าจะบอกยังไง เพราะนายท่านไม่ได้ป่วยสักหน่อย เมื่อเช้ายังให้เขาขับรถไปบ้านคุณนายอภิรดีอยู่เลย
“เออๆ งั้นก็รีบไป ฉันจะไปดูพ่อฉัน” ชาลิตพูจบก็โยนกระเป่าให้ชาติรับไป แล้วเขาก็ขึ้นไปนั่งบนรถตู้คันหรูทันที จากนั้นก็นอนพักสายตาแบบเหนื่อยๆ เมื่อคิดไปว่าเขาจะต้องอึดอัดขนาดไหน ตอนที่เจอโยธกากับลูกพี่ลูกน้องของเขา
ส่วนชาติก็รีบเอากระเป๋าไปแล้วรีบขึ้นมาบนรถ พร้อมกับเอากระเป๋าวางไว้ข้างคนขับแล้วรีบขับรถพานายน้อยกลับไปที่บ้าน เพราะกว่าจะฝ่าฟันรถติดกลับไปก็คงจะเย็นพอดี
ด้านพิชามลพอรู้ว่าหลานชายกำลังจะกลับมาจากใต้ เธอก็สั่งแม่บ้านให้เตรียมอาหารเย็นต้อนรับหลานชายอย่างตื่นเต้น เพราะเธอเองก็รักชาลิตไม่ต่างจากลูกชายของเธอเลย
“วันนี้ลงมือทำเองเลยเหรอคะคุณแม่ สงสัยมื้อนี้โยคงต้องล้างท้องรอแล้วมั้งคะเนี่ย” โยธกาเดินเข้ามาเอ่ยถามแม่สามีออกไปแบบเป็นกันเอง เมื่อเห็นแม่สามีทำอาหารเองในวันนี้
“อ่าวกลับมากันแล้วเหรอ แม่ว่าจะโทรไปตามอยู่เชียว รู้ไหมว่าวันนี้ตาใหญ่กำลังจะกลับมาแล้ว เย็นนี้เราจะไปทานข้าวเย็นกันที่บ้านคุณลุงนะ เต็มตัวกันด้วยล่ะ” พิชามลบอกลูกลูกสะใภ้และลูกชายที่เดินมาหาเธอด้วยรอยยิ้ม
โยธกาที่ยิ้มอยู่ก็หุบยิ้มไปแบบอึ้งๆ ก่อนจะทำตัวเป็นปกติ เพราะถ้าไม่ใช่เพราเธอชาลิตก็คงไม่ปลีกตัวออกไปแบบนี้ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเรื่องความรักมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ถ้าเขาไม่เจ้าชู้และไม่ทำร้ายจิตใจเธอ เธอก็คงจะยังรักเขา ไม่มาเทใจให้กับลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างนี้
“จริงเหรอครับ นี่ผมไม่เห็นหน้าพี่ใหญ่มาหลายเดือนแล้วนะครับเนี่ย วันนี้คงต้องคุยกันยาวแน่ๆ” ภาสวรหรือกลางเอ่ยพูดออกไปแบบดีใจเช่นกันที่ลูกพี่ลูกน้องกำลังจะกลับมา เพราะตั้งแต่เขาแต่งงานกับโยธกามาพี่ชายคนนี้ก็ไปอยู่เกาะแทนที่จะมาดูแลบริหารธุรกิจที่กรุงเทพ เขาก็พอรู้เหตุผลว่าทำไมแต่เขาก็เคลียร์เรื่องโยธกากับพี่ชายของเขาไปแล้ว และตอนนี้ก็เข้าใจกันดี
“งั้นโยช่วยนะคะคุณแม่” โยธกาบอกไปก็ยิ้ม แล้วเดินไปล้างมือ มาช่วยแม่สามีและแม่บ้านทำอาหารให้กับชาลิต
“งั้นผมไปดูหนูแยมนะ คุณช่วยคุณแม่ไปละกัน” ภาสวรบอกไปก็ยิ้ม แล้วเดินออกไปหาลูกสาววัยห้าขวบกว่า ที่กำลังไปเปลี่ยนชุดหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน
ด้านลลิสาที่นัดจะไปฉลองความสำเร็จในวันนี้กับทางบริษัท ก็ลืมโทรไปบอกแฟนหนุ่มของเธอที่คบหากันมาเกือบจะสองปี จนธนวาขับรถมารับเธอตามปกติแล้วก็โทรหาลลิสา จนเธอต้องรีบลงมาหาเขาแบบเร่งด่วน
“น้ำผึ้งขอโทษนะธัน เราลืมโทรไปบอกเลยอ่ะว่าวันนี้เราจะไปฉลองกับบริษัท ธันเลยมาเสียเวลาเพราะเราเลยเนี่ย” ลลิสาพูดบอกไปแบบรู้สึก ก่อนจะทำหน้าเศร้าไปจนธนวายิ้มออกมา
“อ่าวเหรอ งั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับก่อนก็ได้ น้ำผึ้งไปร้านไหนก็บอกเรานะ อ่ะ นี่ธันซื้อมาให้พอดีเห็นมันเหมาะกับน้ำผึ้งน่ะ” ธันวาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม แล้วส่งถุงกระดาษให้แฟนสาวของเขา
“ขอบคุณนะ ไว้เดี๋ยวคืนนี้เราโทรหานะ บ้ายบาย” ลลิสาพูดบอกไปแล้วโบกมือให้กับธันวาไป แล้วเขาก็เดินกลับออกไป ส่วนเธอก็เดินกลับเข้ามาในบริษัทอีกครั้ง แล้วก็เจอเพื่อนสาวลงมาพอดี
“อ่าวน้ำผึ้ง ธันกลับแล้วเหรอ แล้วนั่นเขาซื้ออะไรให้อีกล่ะ” มัทนาเอ่ยถามออกไปแล้วมองไปเห็นหลังธันวาแวบๆ
“อ่อ เครื่องสำอางน่ะ ธันเขาบอกว่าเหมาะกับเราเขาก็เลยซื้อมาให้” นรินดาพูดบอกไปขณะก้มมอของในกล่องแล้วก็เห้นว่ามันคือเครื่องสำอาง เธอก็บอกไปตามตรง แต่ครั้งก่อนที่เขาซื้อมาให้เธอก็ยังใช้ไม่หมดเลย
“แก ธันเขาไม่ใช่เกย์แน่นะ ทำไมเขาชอบซื้อของพวกนี้ให้แกจัง ตั้งแต่เปลี่ยนการแต่งตัวของแกแล้วนะ แถมยังสอนแกแต่งหน้าอีก แล้วนี่ก้ยังมาซื้อเครื่องสำอางให้อีก ฉันว่ามันดูแปลกๆนะ” มัทนาพูดออกไปแบบสงสัยว่าแฟนของเพื่อนสาวจะเป็นเกย์ ขนาดเธอเป็นเพื่อนสนิทกับน้ำผึ้ง เธอยังเจอกับธันวานับครั้งได้เลย
“ก็ไม่นะ ปกติธันเขาก็เป็นแบบนี้แหละ แกอ่ะคิดมากไปมัดหมี่ เขาไม่ใช่เกย์หรอก” ลลิสาพูดบอกไป แล้วคิดตามในใจแบบกังวลเช่นกัน เพราะคบกันมาตั้งสองปีแล้วเธอกับธันวาก็ไม่เคยมีอะไรกันเลย เขาก็มาหาก็แค่พากันไปกินข้าว คอยปรับทุกข์แล้วก็ช่วยเหลือเธอ แต่ก็มีไปเที่ยวด้วยกันบ้างก็แค่นั้น เขาก็เหมือนแฟนปกติทั่วๆไป เขาก็คงไม่ใช่เกย์หรอกเขาคงจะแค่ให้เกียรติเธอรอจนถึงวันแต่งงานแน่ๆ
“แก ไม่คิดไม่ได้นะ ยิ่งแฟนแกสำอางขนาดนั้นแกก็ต้องคิดบ้าง แกจะมาฉลาดแค่เรื่องงานอย่างเดียวไม่ได้นะน้ำผึ้ง เรื่องผู้ชายก็ก็ต้องฉลาดด้วย เข้าใจไหม” มัทนาพูดบอกไปแบบเป็นห่วงเพื่อนสาว กลัวจะโดนธันวาหลอก
“เออๆ แต่ฉันมั่นใจจริงๆว่าเขาไม่ใช่เกย์ ไม่งั้นเขาไม่ขอฉันแต่งงานหรอก แกดูสิ” ลิลสาพูดบอกแบบมั่นใจ เพราะแหวนเพชรยังคานิ้วเธออยู่เลย ก่อนจะโชว์ให้เพื่อนสาว
“จ้า แล้วก็อย่ามาร้องไห้ล่ะ ฉันเตือนแกแล้วนะ” มัทนาพูดบอกไปอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะกอดแขนกันเข้าลิฟต์ไป เพื่อขึ้นด้านบน
“โอเคๆ ไม่ร้องแน่ เพราะฉันมั่นใจ” ลลิสาพูดบอกไปก็ยิ้มให้เพื่อนสาวแบบขำๆ เพราะมัทนาก้ชอบว่าแบบนี้ทุกครั้งที่ธันวาทำอะไรแบบนี้ให้เธอ
ด้านชาลิตและลลิสาก็เดินจูงมือกันเดินเล่นยามเย็นจนกลับมาถึงหาดส่วนตัวของเขาที่เก็บเอาไว้เพื่อให้ครอบครัวได้มาพักผ่อนกันแบบชิวๆ เพราะมันเป็นชายหาดก่อนจะขึ้นไปบ้านของเขาที่อยู่บนเนินเขาพอดี เขาจึงเลือกหาดนี้เอาไว้ พร้อมกันไม่ให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาโซนนี้ได้“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะพี่ใหญ่ว่าเราสองคนจะมาลงเอยกันแบบนี้ได้ คิดไปแล้วก็อดขำไม่ได้ เราสองคนเมาจนพากันเข้าโรงแรม แถมน้ำผึ้งยังเป็นคนที่มาแต่งงานกับพ่อพี่ใหญ่อีก ถ้าวันนั้นน้ำผึ้งไม่ใช่คนที่แต่งงานกับคุณพ่อ พี่ใหญ่ว่าเราสองคนจะมีโอกาศเจอกันอีกไหมคะ” ลลิสาพูดบอกไปก็ยิ้มแล้วแลสายตาไปมองสามีอย่างรักใคร่ เมื่อนึกไปถึงเรื่องราวของเธอและเขา“ก็อาจจะไม่เจอ เพราะตอนนั้นพี่อยากหนีกลับเกาะอยู่ท่าเดียว แต่พอพี่รู้ว่าแม่เลี้ยงคนใหม่ของพี่เป็นเรา พี่ยอมรับเลยว่ามันบ้ามากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนั้น แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าพี่จะหลงเสน่ห์เราจนต้องวางแผนหลอกล่อทุกคนน่ะ แต่สุดท้ายพี่ก็ดันถูกจับได้ซะก่อน พี่นี่มันอ่อนจริงๆ” ชาลิตคิดย้อนกลับไปก็ยิ้มขำๆออกมาเช่นกัน ก็เขาวางแผนแยกลลิสากับพ่อของเขา จนเขาจับตัวเธอมาที่เกาะ แต่ก็ดันไปพลาดท่าให้ทุกคนจับได้ซะก่อน“อ่อนที
“อื้อ ใจเย็นสิจ้ะเล็ก พี่ก็แค่บ่นไปงั้นๆแหละ ที่เล็กพูดมาน่ะพี่ทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ พี่พลาดมาแล้วครั้งหนึ่งพี่จะไม่พลาดเป็นครั้งที่สองหรอก เอากระดาษใบนี้เก็บไปดีกว่าเนอะ ไม่เอาๆ หย่าเหย่ออะไรกัน พี่ไม่หย่าเพราะเรื่องแค่นี้หรอก” สิงหาเข้าไปกอดปณิตาแล้วพูดอ้อนออกไป แล้วใช้มือดันใบหย่าที่เธอส่งมาขู่เขาแบบเตรียมพร้อมออกไปไกลๆ ก่อนจะแอบคิดดในใจว่า ถ้าไม่รักเธอมากล่ะก็ เขาจะหยิบมาแล้วเซ็นต์ให้จบๆไปเลย แต่ใครจะกล้าทิ้งเธอได้ล่ะ ในเมื่อเขารักเธอมากจนไม่สามารถเสียเธอไปได้ รอมาตั้งหลายปีกว่าจะได้เป็นเมียเขาไม่โง่หย่าหรอก“งั้นก็ทำตัวดีๆละกันค่ะ เป็นสามีที่ดีของเล็ก แล้วก็เป็นพ่อที่ดีของลูกๆนะคะ เพราะเล็กไม่ได้ใจดีให้โอกาสพี่สิงห์ได้บ่อยๆ จำไว้นะคะว่าถ้ามีครั้งที่สอง หย่าอย่างเดียว ไม่มีโอกาสแก้ตัวอย่างนี้อีกแล้ว แคว่ก แคว่ก” ปณิตาพูดบอกไปก็ฉีกใบหย่านั้นทิ้งไป ก่อนจะเอามือไปจับมือของสิงหาแบบรักใคร่ พร้อมกับมองไปที่ลูกๆของเธอที่กำลังเล่นอยู่ริมชายหาดอย่างปลงๆ“ขอบคุณนะครับคนดี พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้เล็กต้องเสียใจอีก พี่จะเป็นสามีและเป็นพ่อที่ดีๆของลูกๆ พี่รักเล็กนะ รักที่สุด จุ๊บ ” สิงหาพูดบอ
สามชั่วโมงผ่านไป ทุกคนก็เดินทางมาถึงดกาะรายเป็นที่เรียบร้อย ไข่นุ้ยก็พาทุกคนขึ้นมาส่งที่บ้านใหญ่ของชาลิตที่ต่อเติมจนมีห้องพักเพียงพอสำหรับครอบครับและแขก ทำให้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายรวมกับนักท่องเที่ยวในเกาะ“เซอร์ไพร์ส” ทุกคนเปิดประตูบ้านเข้ามาแล้วเอ่ยพูดบอกไปแบบเสียงดัง จนชาลิตและลลิสาที่กำลังนัวเนียกันอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกถึงกับรีบเงยหน้ามามองแล้วเจอทุกคนมากันครบทีม ก็มองแบบอึ้งๆ ไม่คิดว่าทุกคนจะมาเซอร์ไพร์สแบบนี้ “เซอร์ไพร์สบ้าอะไรล่ะ อย่าให้เด็กๆเข้ามานะ” ชาลิตรีบตะโกนบอกไปแล้วรีบดึงชุดคลุมของตัวเองกลับคืนดังเดิม ลลิสาเองก็เช่นกันเธอก็รีบผูกเชือกกลับไปแบบกลัวว่าเด็กๆจะถลาวิ่งเข้ามา และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อลูกๆทั้งสามวิ่งเข้ามาหา“คุณพ่อ คุณแม่ คิดถึงจังเลยครับ/ค่ะ ” ลูกๆทั้งสามของลลิสาและชาลิตวิ่งเข้ามา แล้วมากอดพ่อแม่ที่กำลังใส่ชุดคลุมแบบไม่เรียบร้อยอยู่ จนอนุวัตรและทุกคนมองแล้วส่ายหน้าอย่างระอากับสองคนนี้ ก่อนจะรีบพากันเอาเด็กๆที่เหลือไปยังห้องพัก แล้วปล่อยให้ชาลิตและลลิสาจัดการลูกๆของตัวเองเองกันเอง“เฮ้อ กี่ปีๆก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยพวกแกสองคนเนี่ย มล เราพาเด็กๆไปเถอะ ขืนอ
ชาลิตก็ทำได้แต่ชักสีหน้าก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านแบบเร่งรีบ เพราะเป็นห่วงลลิสากลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป เขาปล่อยให้อยู่กับชบาไม่ได้เลยจริงๆ หาอะไรพิเรนๆมาทำกันได้ตลอดจริงๆ“ชบา เอ็งหาเรื่องอีกแล้วนะ ถ้านายหญิงเป็นอะไรไป นายหัวเอาเอ็งกับพี่ตายแน่ๆ” ไข่นุ้ยเข้ามาต่อว่าเมียตัวเองที่เอายาต้มมาให้นายหญิงทาน“ถ้านายหัวช่วยยังไงนายหญิงก็ไม่เป็นอะไรหรอก แค่จะอยากทั้งคืนเอง นายหัวนั่นแหละจะแย่ ชบาไม่ได้ตั้งใจนิพี่ไข่นุ้ย ก็นายหญิงแอบไปดื่มต่อจนหมดเองอ่ะ นายหัวจะเอาเรื่องชบาไหมอ่ะพี่” ชบาพูดบอกไปแบบกลัวๆแล้วมองหน้าสามีไปแบบกังวล“เฮ้อ พี่ก็ไม่รู้ เราก็รออยู่ตรงนี้กันสักพักละกัน ถ้านายหัวไม่พานายหญิงออกไปหาหมอ ก็แสดงว่านายหัวคงช่วยนายหญิงได้นั่นแหละ นายหัวก็คงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง ปกติก็มีอะไรกับนายหญิงอยู่แล้วนิ เอ็งไม่ต้องคิดมากหรอกชบา เดี๋ยวลูกในท้องก็เครียดตามหรอก ใจเย็นๆ หายใจช้าๆ” ไข่นุ้ยพูดบอกชบาไปแบบใจเย็น แล้วพยายามทำให้ชบาผ่อนคลาย เพราะเธอท้องอยู่เขาไม่อยากให้เธอมาเครียดกับเรื่องนี้ มันจะพลอยส่งผลไปถึงเด็กในท้องด้วย จากนั้นชบาและไข่นุ้ยก็รอนายหญิงและนายหญิงอยู่ด้านหน้าบ้าน ด้านชาลิตพอเข้ามา
หลังจากนั้นไม่นาน ลลิสาและชาลิตที่อาบน้ำเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกมาทานข้าวเช้ากันด้านนอก โดยมีชบาและแม่บ้านมาคอยดูแล เนื่องจากชบากำลังท้องจึงไม่อยากให้ทำงานหนัก จึงให้แม่บ้านที่รีสอร์ทมาช่วยอีกคน พอเสร็จชาลิตก็เดินออกมาก่อนเพราะต้องไปทำงานตรวจดูเกาะนิดหน่อย“ชบา ทำไมต้องทำความสะอาดห้องพวกนี้ด้วย ฉันไม่ได้สั่งนิ” ชาลิตเอ่ยถามออกไป ขณะเดินมาแล้วเห็นชบากำลังคุมแม่บ้านทำความอาดห้องนอนต่างๆภายในบ้านของเขาอยู่“อ่อ พอดีชบาไม่ได้ทำความสะอาดนานแล้วน่ะจ้ะ ก็เลยให้พี่แม่บ้านเขามาทำความสะอาดเอาไว้ จะได้ไม่สกปรกไงจ้ะ” ชบาโกหกไปแบบเนียนๆ แต่ความจริงแล้ววันมะรืนนี้จะมีคนมาพักที่นี่ต่างหาก แต่เธอไม่สามารถบอกให้ชาลิตทราบได้“อ่อ งั้นวันนี้ฉันฝากดูน้ำผึ้งด้วยนะ ฉันจะไปตรวจงานที่รีสอร์ทแล้วก็ท้ายเกาะนิดหน่อย ถ้าน้ำผึ้งเขามีอะไรก็โทรเรียกฉันได้เลย” ชาลิตพูดบอกไปก็เดินออกไปทันที จนชบามองตามไปแบบโล่งใจ เพราะตลอดอาทิตย์มานี้เธอรอให้ทั้งสองออกจากบ้านไปเพื่อจะแอบให้คนมาทำความสะอาด แต่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะออกไปไหนเลย จนแขกจะมาวันมะรืนนี้อยู่แล้ว เธอเลยต้องเสี่ยงรีบมาทำความสะอาดตั้งแต่เช้า ก่อนจะเดินไปหานายหญิงของเธอ
ด้านสิงหาก็โทรหาเพื่อนหนุ่มเพื่อเช็คว่าตอนนี้ชาลิตพาลลิสาไปไหน เพราะตอนนี้พวกเขากลับมาที่บ้านแล้วแต่ก็ไม่เจอทั้งสองอยู่ จึงโทรถามด้วยความเป็นห่วงเพราะมันก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว “ฮัลโหลไอ้ใหญ่ แกพาคุณน้ำผึ้งไปไหนวะ พวกฉันมาที่บ้านก็ไม่เจอ อย่าบอกนะว่าแกยังง้อคุณน้ำผึ้งไม่สำเร็จน่ะ” สิงหาถามไป พร้อมกับรอคำตอบจากเพื่อนหนุ่ม พร้อมกับเปิดสปีคเกอร์โฟนเพื่อให้ปณิตาและอติรุจรวมถึงเมธาวีที่นั่งอยู่ด้วยได้ เพราะทุกคนเขาก็ดีกันหมดแล้ว เหลือก็แต่คู่ของชาลิตกับลลิสานี่แหละที่เงียบไป ทั้งที่ออกมาก่อนเพื่อนเลย“สำเร็จหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้มไปแล้วหนึ่งที แล้วจะต่ออีกยกด้วย แกไม่ต้องห่วงหรอกไอ้สิงห์ ครั้งนี้แกได้หลานเพิ่มอีกคนแน่ๆ” ชาลิตพูดบอกไปแบบกวนๆ แล้วมองหน้าลลิสาที่มองค้อนใส่เขาไปแบบแกล้งๆ “หน้าด้านพูดออกไปแบบนั้นได้ยังไงไอ้ผัวบ้า ไม่อายเขาเลยหรือไงนะ” ลลิสาแอบต่อว่าเขาในใจอย่างอดไม่ได้ ที่เขาไปพูดบอกคนอื่นปาวๆว่าได้เอาเธอแล้วน่ะ“ร้ายนี่หว่าไอ้ใหญ่ พวกฉันยังไม่ได้เห็นขาอ่อนเลย แกนี่มันร้ายจริงๆ แล้วนี่จะกลับบ้านเมื่อไหร่วะ ลูกแกถามหาแล้วเนี่ย ยังจะผลิตเพิ่มอีกเหรอวะ” อติรุจพูดเสริมออกไป







