อัญญานอนขดตัวนิ่งในผ้าห่มหลังจากที่เขาออกไป เธอรู้สึกสมเพชตัวเองอย่างที่สุด ที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับไฟราคะที่เขามอบให้ ความรู้สึกสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ก็เหมือนว่ามันยังไม่ถูกเติมเต็ม เธอโหยหา เธออยากให้เขาสอดใส่ อยากให้เขาทำมากกว่านี้ ในใจอยากร้องขออยากให้เขาเข้ามาในตัวเธอ พอคิดถึงเรื่องนี้น้ำตาเธอก็ไหลริน
เขารังเกียจเธอ เป็นเหตุผลเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้
เขารังเกียจเธอ เขารังเกียจเธอ เขารังเกียจเธอ คำเดิมวนเวียนอยู่ในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า ตอกย้ำให้เธอต้องลืมเรื่องวันนี้ให้ได้
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เธอเดินไปส่องกระจกเงาบานใหญ่ ก็ต้องตกใจ เพราะปากเธอบวมเจ่อเหมือนคนแพ้อาหาร เขาทิ้งร่องรอยไว้ทั่วร่างกาย สองเต้ามีทั้งรอยจูบและรอยแดงเป็นปื้น จากการบีบเคล้น นั่นยิ่งตอกย้ำให้เธอได้นึกถึงเขา
ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้งเพียงแค่คิดว่าเขาเมื่อครู่เขาทำอย่างไรกับร่างกายเธอบ้าง
หญิงสาวรีบเดินไปยังห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวเต็มแรง ดับความร้อนรุ่มและชำระล้างร่างกาย และหวังว่ามันจะชำระความทรงจำไปด้วย
กว่าคาร์ลอสจะขับรถมาถึงโรงพยาบาลที่เพื่อนเขาทำงานอยู่ก็กินเวลานานโข ทั้งๆ ที่มันไม่ได้อยู่ไกลมาก แต่เขาขับช้ายิ่งกว่าเต่าคลานจนรถคันหลับบีบแตรไล่ไปหลายคัน
เพราะร่างกายช่วงล่างปวดหนึบ แม้จะปลดกระดุมออกจนหมดแล้วก็ตาม
เขาต้องอดทนอย่างมากที่จะไม่ให้มันออกมาต่อหน้าหญิงสาว คาร์ลอสไม่อยากหักหาญน้ำใจเธอไปมากกว่านี้ เขาอยากสอดใส่ในร่างกายเธอโดยไม่มีอะไรมากลั้น นั่นทำให้เขาต้องมาหาเพื่อนที่นี่
“วันนี้วันหยุดนะโว้ย ทำเป็นโทร.มานัดแล้วยังมาถึงช้าอีก” ภีมวัฒน์โวยวายเมื่อเห็นชายเขาเดินเข้ามาในห้องทำงาน
“ขอโทษ” เสียงนั้นเคร่งขรึมจนน่าแปลกใจ
“นายเป็นอะไร นอนไม่หลับเหรอ” หมดหนุ่มรู้ว่าเพื่อนของเขาเป็นคนหลับยากแค่ไหน เพราะในอดีตนั้นคนรักของเขาทิ้งไปหลังจากกิจกรรมบนเตียงที่เร่าร้อนจนทั้งคู่หมดแรงหลับไปด้วยกันด้วยความอ่อนเพลีย พอตื่นเช้าเธอก็หายตัวไป
ตอนนี้คาร์ลอสตามหาแฟนสาวไปทุกที่ เป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะรู้ความจริงว่าผู้หญิงคนนั้นหนีไปแต่งงานกับเจ้านายหนุ่มของเธอ
คาร์ลอสแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเพราะเขาเตรียมจะขอเธอแต่งงานในอีกไม่กี่วัน หลังจากวันนั้นเขาก็นอนไม่หลับจนภีมวัฒน์ต้องให้เขาเข้ามารับการบำบัดร่วมกับการทานยานอนหลับ กว่าอาการจะดีขึ้นก็กินเวลาเกือบปี คาร์ลอสใช้ชีวิตอย่างคนสิ้นหวัง เขาควงผู้หญิงไปทั่วจนแต่ไม่จริงใจกับใครสักคน เขามองผู้หญิงเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เท่านั้น
ภีมวัฒน์เป็นห่วงเขามากพอเขาจะย้ายกลับมาที่เมืองไทยก็พอดีกับเพื่อนอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนอยากได้อาจารย์มาสอนวิชาเศรษฐศาสตร์สำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษ หมอหนุ่มจึงชวนเขาให้มาทำงานที่นี่ด้วย
คาร์ลอสไม่เหลือใครแล้วที่อังกฤษชายหนุ่มตอบตกลงทันที เขาอยากมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทยอยู่ 3 เดือนเต็มเพราะหวังว่าจะมาตั้งรกรากที่นี่
“โอ๊ย จะบ้าตาย ทำขนาดนั้นกับเขาแล้วขับรถออกมาเนี่ยนะ เกิดมาไม่เคยเจอ”
“ฉันว่า เธอต้องเป็นแม่มดแน่ๆ ฉันอยู่ใกล้ทีไรอยากกระโจนใส่ทุกที”
“แต่ก็ไม่กล้า” หมอต่อประโยคให้เขา
“ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ฉันอยากแน่ใจว่าฉันสะอาด”
“ก็อาบน้ำสิ” เขาตอบหน้าตาย
“ไม่ตลกนะ” คาร์ลอสตาขวาง
“อ้าว ไอ้นี่ ก็บอกไม่สะอาดฉันก็บอกไปอาบน้ำ มันก็ถูกต้องแล้วนี่”
“ฉันหมายถึงไม่มีโรค”
“นายป่วยเหรอ”
“ไม่ได้ป่วย แต่อยากตรวจทุกอย่างให้แน่ใจ”
“ใส่ถุงยางก็ได้มั้งถ้ากลัวขนาดนั้น”
“มันไม่พอ นายช่วยตรวจเลือดให้หน่อย ตรวจมันทุกอย่าง”
“เอดส์ด้วยไหม”
“ก็บอกว่าทุกอย่าง”
“ทำไมไม่ไปแผนกวางแผนก่อนมีบุตรเลยล่ะ” เขาประชด ก่อนจะโทร.ตามพยาบาลให้มาพาเขาไปตรวจเลือด
“เจาะเลือดแล้วกลับบ้านไปเลยนะ ไม่ต้องมาที่นี่อีก ฉันก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
“นายจะรีบไปไหน ปกติวันหยุดก็เห็นว่าอยู่แต่บ้าน”
“คนเราก็ต้องมีธุระกันบ้างสิ ไปๆ รีบไปตรวจเลย เดี๋ยวจะโทรไปบอกผล”
วันจันทร์
คาร์ลอสมาทำงานแต่เช้าหลังจากเมื่อวานเพื่อนโทร.มาบอกผลการตรวจเลือดเขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับหญิงสาวอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะอาจารย์” เสียงบรรณารักษ์ทักทายเมื่อเชาเดินเข้าไปที่ห้องสมุด
“สวัสดีครับ บรรณารักษ์อีกคนไปไหน”
“นู่นค่ะ” เธอชี้ไปยังหญิงที่ดูร่างเล็กหากแต่ซ่อนความอวบอิ่มไว้ใต้เสื้อผ้าอย่างมิดชิด
คาร์ลอสเดินยิ้มเข้าไปหาเธอ ตอนนี้ยังเช้าอยู่จึงมีนักศึกษามาเลยสักคน
อัญญาเงยหน้ามองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้
“อาจารย์” เธออุทานแผ่วเบา
“ขอคุยหน่อยได้ไหม”
“แต่ฉันไม่อะไรจะคุยด้วย” เธอเดินหนี
“คือเรื่องเมื่อวาน”
“อย่าพูดถึงมันอีกเลยนะคะ” อัญญาจ้องเขาตาเขม็ง ไม่รู้ว่าเขาจะมาพูดเรื่องน่าอับอายทำไม เธอไม่คิดเลยว่าคนเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นดูสุภาพอ่อนโยนนั้นซ่อนอะไรไว้บ้าง
“มันไม่ใช่แบบที่คุณคิดนะ”
“คุณจะรู้ได้ยังไงว่าฉันคิดอะไร ทางที่ดีเราอย่าเจอกันอีกเลยนะคะ”
“แต่ผมอยากเจอคุณ ผม..” ชายหนุ่มหยุดพูดแค่นั้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้กำลังมีนักศึกษาเดินตรง
“อุ๊ย! อาจารย์ หนูกำลังจะไปหาอาจารย์ที่ห้องพอดีเลยค่ะ”
“ครับ” เขาตีหน้าขรึมวางมาด จนอัญญาเห็นแล้วเบือนหน้าหนี
คนตีสองหน้า เธอคิดในใจ ก่อนจะรีบเดินออกไป
นักศึกษาสาวพูดคุยกับอาจารย์หนุ่มอยู่นานจนถึงเวลาที่เขาต้องไปสอน
อัญญาเห็นเขากำลังจะเดินผ่าน แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ เธอจัดเรียงหนังสือเข้าชั้นวางเหมือนว่าคนที่กำลังเดินมานั้นไม่มีตัวตน
“เราต้องคุยกัน” เขามากระซิบข้างหูก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดไป อัญญาขนลุกซู่ไปทั้งตัวกับเสียงแหบพร่า
ตลอดทั้งสัปดาห์อัญญาหลบเลี่ยงจนคาร์ลอสไม่มีโอกาสเจอหน้า เธอส่งโทรศัพท์คืนให้เขาทางไปรษณีย์ทั้งๆ ที่ทำงานอยู่ตึกเดียวกัน
เย็นวันศุกร์เขาเลิกงานเร็วกว่าปกติพอมาถึงหน้าห้องสมุดก็ได้ยินเธอกำลังกับรุ่นน้องว่าเสาร์นี้เธอจะไปเยี่ยมเบญญาภาที่บ้าน เขายิ้มมุมปาก เพราะถ้าเป็นที่นั่นยังไงเธอก็หนีเขาไม่พ้นแน่ๆ
“อ้าวไหนว่ารีบกลับ” อาจารย์อรรถสิทธิ์ถามเมื่อเห็นคาร์ลอสเดินกลับมาที่ห้อง
“พอผมมีเรื่องจะถามพี่นิดหน่อย”
“ว่ามาเลย”
“คือผมว่าจะไปเยี่ยมพี่เบญ เลยจะถามพี่ว่าควรซื้ออะไรดี”
“ไม่ยากเลย กระเช้าตามซุปเปอร์มีเยอะแยะ อ้อแล้วก็พวกของใช้ของเล่นเด็ก”
“ยากจัง” เขาถอนใจ
“ให้ศิไปช่วยเลือกไหมคะ ศิเองก็ว่าจะไปเยี่ยมเธอเหมือนกัน”
“ผมว่าก็ดีนะ งั้นเอางี้ผมช่วยออกเงินอีกคน แล้วให้อาจารย์ทั้งสองไปเยี่ยมเธอดีไหม อย่างน้อยก็แสดงน้ำใจ”
“เราจะไปกันวันไหนคะ เย็นนี้เลยไหม”
“เย็นพรุ่งนี้น่าจะดีกว่านะครับ เพราะจะได้เจอสามีของเธอด้วย ไม่รู้ว่าอาจารย์จะว่างไหม” เขาหันไปถามหญิงสาวคนเดียวที่อยู่ในห้อง
“ว่างค่ะ เราต้องไปซื้อของเยี่ยมก่อนอย่าลืมเผื่อเวลานะคะ”
“เดี๋ยวผมจะโทร.นัดเวลาอีกทีนะครับ” ชายหนุ่มมีแผนอยู่ในใจ เขาอยากรู้ว่าถ้าเธอเห็นว่าเขาไปกับผู้หญิงคนอื่น เธอจะมีปฏิกิริยายังไง
******
บ้านอีริค เบญญาภา
กว่าอัญญาจะมาถึงบ้านรุ่นพี่ก็บ่ายแก่ๆ เพราะมัวแต่เลือกซื้อของใช้ให้หลานชายตัวน้อย เบญญาภาและสามีชวนเธอทานอาหารเย็นด้วยเธอตอบรับอย่างเต็มใจเพราะถึงกลับไปที่ห้องก็ต้องทานคนเดียว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดไปถนัดเพราะหลังตอบตกลงมาน่านก็มีแขกอีกคู่มาที่บ้าน
คาร์ลอสควงคู่มากับอาจารย์สาวที่สอนคณะเดียวกัน อัญญาจำได้เพราะเธอเคยมาที่ห้องสมุดอยู่หลายครั้ง
ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันจนน่าหมั่นไส้ เขาปฏิบัติกับเธอราวกับคู่รักจนอัญญาแอบเบือนหน้าหนีอยู่หลายครั้ง โดยไม่รู้ว่าคาร์ลอสลอบมองอย่างพอใจ
เมื่ออีริคเอาไวน์มาเสิร์ฟเธอก็กระดกไปหลายแก้วจนหน้าแดงไปหมด
คาร์ลอสเลยอาสาขับรถไปส่งโดยมีศศิกานต์นั่งคู่ไปกับเขา ระหว่างขับรถชายหนุ่มแอบมองกระจกหลังเป็นระยะๆ ด้วยความเป็นห่วง เขาอยากให้คนที่ขึ้นมานั่งข้างเขาเป็นเธอมากกว่า
เขาแวะส่งเธอก่อนที่จะขับรถออกไปกับอาจารย์สาว
อัญญามองตามรถจนแสงจากไฟจากท้ายรถห่างออกไปเรื่อยๆ
เมื่อคิดว่าคนทั้งคู่จะไปทำอะไรที่ไหนต่อก็รู้สึกหงุดหงิดจนแทบอยากจะตะโกนออกมาดัง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้
“ไปส่งศิบนห้องได้ไหมคะ ศิมึนหัวจังเลยค่ะ” เสียงออดอ้อนของอาจารย์สาวกระซิบข้างหูเมื่อเขามาส่ง
เขาอยากจะปฏิเสธแต่ก็ดูใจดำเกินไป อย่างน้อยเขากับเธอก็ทำงานที่เดียวกัน
ร่างสูงใหญ่ประคองอาจารย์สาวที่ดูเหมือนจะไม่มีแรงเดินผ่านห้องโถงใหญ่ก่อนจะกดลิฟต์พาเธอไปยังชั้น 6 ตามที่เธอบอก
เขาประคองเธอไปส่งถึงหน้าประตู แล้วก็หันหลังจะกลับศศิกานต์สวมกอดเขาจากด้านหลัง
“อยู่เป็นเพื่อนศิก่อนนะคะ”
ตสร์ลอสค่อยๆ แกะเรียวแขนออก แล้วหันหน้ามา ปะทะเข้ากับสาวตาที่เชื้อเชิญอย่างเต็มที่
“ผมว่าอย่าดีกว่าคุณเมามากแล้ว”
“ศิไม่เมาสักหน่อย” เธอรีบปฏิเสธเสียงแข็ง สอบมือรูปไร้ไปทั่วร่างแกร่ง
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เธอแกล้งเมา
“เอ่อ ผมมีธุระต้องไปทำต่อ” เขาปฏิเสธอีกครั้งอย่างนุ่มนวล
ศศิกานต์ทั้งสวยทั้งเซ็กซี่ใครอยู่ใกล้ก็ย่อมหลงใหลในรูปโฉม แต่สำหรับคาร์ลอสนั้นเจอผู้หญิงแบบนี้มาเยอะจนมองเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว เขาไม่ใช่คนเดิมที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น
ตอนนี้เขาคิดอยากจะจริงจังกับใครสักคน และเมื่อได้เห็นครอบครัวที่อบอุ่นของอีริคกับเบญญาภาแล้วเขาก็นึกไปถึงวันที่เขากับบรรณารักษ์สาวร่างเล็กจะได้สร้างครอบครัวด้วยกัน
******
“คุณเข้ามาได้ยังไง” อัญญาตกใจที่พอเดินออกมาจากห้องนอนก็เห็นคาร์ลอสนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง
“ก็คุณไม่ได้ล็อกประตู”
“ไม่จริงนะ” เธอไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายแก้ว
“จริงหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ผมก็เปิดมันเข้ามาได้”
“มีธุระอะไรกับฉันเหรอคะ”
“ผมแค่อยากมาดูว่าคุณหายเมาหรือยัง”
“หายแล้ว” เธอตอบแต่ใบหน้ายังแดงระเรื่อ
“แต่ผมว่ายังนะ”
“ฉันบอกว่าหายก็คือหาย คุณกลับไปได้แล้ว”
“ทำไมทำตัวห่างเหินจัง ผมอยากให้คุณแทนตัวเองว่าอัญมากกว่า”
“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น”
“ก็เราสนิทกันขนาดนี้” อยู่ๆ เขาลุกพรวดดึงตัวหญิงสาวเข้ามาใกล้ สูดดมกลิ่นกายสาว
“คิดถึงผมไหม” เขากระซิบข้างหู
“ไม่เลยสักนิด” เธอปฏิเสธ
“แต่ผมคิดถึงคุณนะ คิดถึงมากด้วย คุณเอาแต่หลบหน้าผม” เขาพยายามไปเจอเธอที่ทำงาน แต่ดูเหมือนเธอจงใจหลับหน้าเขา
อัญญาไม่ตอบ เธอเองก็คิดถึงเขา แม้พยายามห้ามใจตัวเอง พยายามบอกกับตัวเองซ้ำๆ ว่าเขารังเกียจเธอ แต่พอเผลอทีไรก็คิดถึงเขาทุกทีไป
“ทำไมฉันต้องหลบหน้าคุณด้วยล่ะ”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน”
“ปล่อยก่อนได้ไหม” เธอไม่อยากให้เขาใกล้ชิดมากไปกว่านี้ เพราะชุดที่ใส่นั้นล่อแหลมเต็มที
เธอพึ่งอาบน้ำสระผมเสร็จ ขณะที่กำลังเช็ดผมอยู่ในห้องนอนก็รู้สึกหิวน้ำ พอออกมาก็เห็นเขานั่งรออยู่แล้ว
สายตาคาร์ลอสมองรูปร่างภรรยาสาวอย่างชื่นชม อัญญานั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กเอวของเธอคอดกิ่ว แต่สะโพกกับหน้าอกกลับตรงกันข้าม ทั้งอวบอิ่มและงอนงาม ผิวขาวเนียนไปทั่วทุกสัดส่วน เขาหลงใหลทุกตารางนิ้วบนกายของหญิงสาว“ที่รักครับ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยไปทุกส่วนจริงๆ” คนชมเสียยงแหบพร่าร่างกายร้อนดังเปลวเพลิง โดยเฉพาะเมื่อเห็นเต้างามกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจแล้วก็ยากที่จะอดกลั้น“อืมมม อ่าสส์ คาร์ลอส อืมมม” เสียงของอัญญาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อสามีหนุ่มครอบครองทั้งสองเต้าด้วยมือและปากสลับกับลิ้นร้อนที่ปัดป่าย ความเสียวซัดสาดไปทั้งสรรพางค์กาย“อัญจ๋า เต็มไม้เต็มมือดีจัง อืมมม” เสียงแหบพร่า“แล้วชอบไหมคะ ชอบของอัญหรือเปล่า” เสียงหวานถามยั่วยวน“ที่รักผมชอบทุกส่วนของคุณ และตอนนี้ผมก็อยากจะกินคุณไปทุกส่วน”“อ๊ะ” อัญญาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายลิ้นร้อนสัมผัสเกสรของกุหลาบดอกงาม คาร์ลอสบดริมฝีปากเคล้าคลึง ขบเม้มตามอารมณ์รักและแรงปรารถนา ทุกการกระทำเรียกเสียงครางกระเส่าออกจากปากหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าหญิงสาวส่ายสะโพกร่อนขึ้นลงตามอารมณ์ที่ปะทุร้อนขึ้นจนถึงจุดไคลแม็กซ์ ร่างของเธอเกร็งกระตุกถี่ยิบน้ำ
เช้าวันแรกของการแต่งงานหรือจะเรียกบ่ายวันแรกก็คงจะไม่ผิดนักเพราะกว่าคู่บ่าวสาวจะตื่นก็เลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้วอัญญาปวดระบมไปทั่วร่างเมื่อพยายามจะลุกจากเตียง เมื่อคืนเธอไม่รู้ว่าคาร์ลอสไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เพราะบทรักที่เขามอบให้นั้นมันทั้งเร่าร้อนและยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และเธอเองก็มีความสุขมากกว่าทุกครั้ง หญิงสาวมองร่างของตัวเองใต้ผ้าห่มแล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าว เนื้อตัวของเธอตอนนี้มีแต่รอยที่เขาฝากไว้เต็มไปหมด“ผมทำเสียงดังจนคุณตื่นหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกกันบ้าง ดูสิแต่งงานวันแรกอัญก็ตื่นซะบ่ายเลย”“ไม่เห็นเป็นไรเลยที่รัก”เขาเข้าสวมกอดเธอที่ร่างกายเปลือยเปล่าส่วนเข้านั้นอยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนสีอ่อน จมูกโด่งกดลงบนแก้มของเธออย่างรักใคร่“อย่าค่ะ อัญยังไม่ได้อาบน้ำเลย”“ก็ผมชอบกลิ่นคุณ” เขาสูดมันเข้าเต็มปอดอีกครั้งอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ“อัญขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”“คุณหิวไหม ผมว่าจะสั่งรูมเซอร์วิสสักหน่อย กว่าจะถึงเวลานัดกับแม่อีกตั้งหลายชั่วโมง”“ค่ะ คุณสั่งให้อัญเลยนะคะ” หญิงสาวก้าวลงจากเตียงอย่างช้าๆ ตอนนี้เธอเจ็บแปลบไปทั่วทั้งหว่างขา บทรั
“พี่ดีใจด้วยนะคะน้องอัญ อาจารย์คาร์ลอสแล้วกำหนดวันแต่งหรือยังคะ”“ยังไม่ได้กำหนดเลยค่ะ แต่น่าจะอีกสองเดือนคาร์ลอสอยากให้แม่ของกับน้องสาวมาร่วมงานด้วยเลยต้องหาเวลาที่เหมาะอีกที”“เวลาแค่สองเดือนอย่าคิดว่ามันนานนะน้องอัญ พี่ว่ารีบเตรียมงานแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า อย่างพี่มีเวลาเตรียมตัวเกือบครึ่งปี ยังทำอะไรแทบไม่ทันเลยนะคะ” เบญญาภาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้รุ่นน้องฟังเพราะอยากให้งานแต่งงานของรุ่นน้องเป็นงานแต่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด“ขอบคุณนะครับพี่เบญ คิดว่างานนี้อาจต้องปรึกษาพี่เบญกับคาร์ลอสบ่อยๆ แน่ครับ”“คาร์ลอส คุณก็รู้นะว่าโทรหาผมได้ทุกเมื่อ” อีริคตบไหล่เขาเบาๆเมื่อแยกจากเบญญาภาและอีริคแล้วคาร์ลอสก็พาอัญญากลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพราะตอนออกมาเขาแค่เอกสารที่จะใช้จดทะเบียนสมรสมาเท่านั้นส่วนเอกสารอื่นและโน้ตบุ๊กชายหนุ่มทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องทำงาน“คุณจะลงไปกับผมหรือรอที่นี่”“อัญรอในรถดีกว่าค่ะ คุณคงไปไม่นานใช่ไหมคะ”“ครับ” แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในตึกอัญญามองไปรอบๆ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายนักศึกษาจึงขึ้นเรียนกันไปหมดแล้ว บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบเธอไม่คิดเลยว่าครั้งหนึ่งเธอกับเขาเคยมีอะไรกันที่
เช้าวันอาทิตย์อัญญาก็ต้องแปลกเมื่อเห็นว่าคาร์ลอสกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ในส่วนของห้องครัวที่น้อยครั้งมากที่มันจะถูกใช้งาน“มอร์นิ่งครับที่รัก” เขากล่าวทักทายก่อนจะหันไปสนใจกับกระทะอย่างตั้งใจอัญญาเดินเข้ามาดูว่าเขากำลังทำอะไรกันแน่ และเมื่อเห็นไข่สีเหลืองนวลที่อยู่ในจานก็ต้องตาโตด้วยความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก“คุณทำเองเหรอคะ”“ครับ ผมฝึกทำอยู่นานเลยกว่าจะได้แบบนี้” เขาภูมิใจกับออมเล็ตฝีมือตัวเอง“น่ากินมากๆ ค่ะ นี่ไปฝึกทำมาตอนไหนคะ”“อันที่จริงผมเคยทำกินเองตอนที่ยังเรียนอยู่แต่พอมาอยู่ที่นี่แทบไม่ได้เข้าครัวเลย มีอีกหลายอย่างที่ผมทำได้ เอาไว้คุณคอยเป็นคนชิมนะครับ” เขายกจานออมเล็ตกับขนมปังปิ้งหอมกรุ่นมาวางบนโต๊ะอาหารและจากนั้นก็ตามมาด้วยกาแฟอีกสองแก้ว“อัญจะรอชิมนะคะ แต่อย่าทำอร่อยมากนะคะเดี๋ยวอัญจะอ้วน”“พอคุณพูดเรื่องนี้ทำให้ผมนึกได้ ผมว่าตอนนี้คุณผอมลงไปกว่าแต่ก่อนเยอะเลย”“ค่ะ อัญน้ำหนักลดไปนิดหน่อย" อันที่จริงก็ลดไปเกือบ 3 กิโลกรัม“ถ้าอย่างนั้นคงต้องกินเยอะๆ เดี๋ยวกลางวันนี้เราไปซื้อของกันดีไหม ผมจะได้ทำอาหารให้คุณกินทุกวัน”“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้นะคะ แค่งานสอนกับงานที่ปรึ
“อัญไม่อยากไปเลยค่ะ” หญิงสาวพูดเนือยๆ เมื่อคาร์ลอสชวนเธอไปงานแต่งงานของอาจารย์ศศิกานต์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา“แต่ผมอยากให้คุณไปด้วยนะครับ”“ปกติคุณไม่ชอบไปงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ”“ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่งงานนี้มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คุณไปกับผมหน่อยนะ” เสียงออดอ้อนของเขาเริ่มทำให้หญิงสาวใจอ่อน“แต่อัญยังไม่มีชุดเลยนะคะ คิดว่าอีกสองวันคงเตรียมไม่ทันแน่ๆ” เธอพยายามหาข้ออ้างเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากไปเลยสักนิด“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว”“ดูท่างานนี้อัญจะปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ”เสียงหัวเราะของเขาดังมาตามสายสนทนา จากนั้นเธอกับเขาก็คุยกันต่ออีกไม่น่านก็ต้องรีบวางสายเพราะเลยว่าลาพักเที่ยงของหญิงสาวแล้วแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่อัญญาก็ตื่นนอนแต่เช้าเพราะเธอคิดว่าตัวเองคงต้องไปเข้าสปาเพื่อขัดผิวสักนิดก่อนที่ไปร่วมงานแต่งงานเย็นนี้ แม้จะค่อนข้างมั่นใจในผิวพรรณของตัวเองแต่ชุดที่จะใส่วันนี้ก็ดูเปิดเผยจนเธอต้องเพิ่มความมั่นใจออกจากสปาเธอก็ตรงไปยังร้านทำผมที่เอาแบบชุดที่จะสวมให้เจ้าของร้านดูทางร้านก็จัดการทุกอย่าง หญิงสาวมองตัวเองในกระจกแล้วก็ดูแปลกตาเพราะปกติแล้วเธอจะปล่อ
คาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามคาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามตอนนี้เรื่องราวของเขากับอาจารย์อธิชาดูจะกลายเป็นประเด็นร้อนในที่ทำงานเพราะอธิชาบอกใครต่อใครว่าเธอกับเขาไปด้วยกันไม่ได้และเธอเป็นฝ่ายที่ทิ้งเขาไป ทุกสายตาต่างมองคาร์ลอสด้วยความสงสาร แต่เขาไม่สนใจเลยสักนิดเพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาคงไม่คิดที่จะอธิบายถึงเรื่องราวต่างๆ เพราะมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ผ่านเข้ามา คาร์ลอสเชื่อว่าไม่นานคนก็จะลืมเรื่องทุกอย่างไปเองคาร์ลอสสอนนักศึกษาคาบเรียนสุดท้ายเสร็จก็รีบขับรถตรงไปยังที่ทำงานของอัญญา เขารอจนเห็นเธอเดินลงมา และขับรถตามหญิงสาวไปจนถึงคอนโดมิเนียมของเธอก่อนที่ตัวเองจะกลับคอนโดมิเนียมของตัวเองตลอดหลายวันมานี้เขาคอยตามดูอัญญาอยู่ห่างๆ และโทรศัพท์ไปคุยกับเธอทุกวันจนกลายเป็นเรื่