คาร์ลอสไปหอสมุดตั้งแต่เช้าเพราะอยากเจอเธอก่อนที่วันนี้จะต้องสอนยาวตลอดทั้งวัน
เมื่อไปถึงหอสมุดก็เห็นว่าเช้านี้มีนักศึกษามาเพียงไม่กี่คน เขาตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่ให้บริการ ยืม-คืน หนังสือ แต่คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ไม่ใช่เธอ
“ให้ช่วยอะไรไหม” บรรณารักษ์วัยเกือบ 50 ทักทาย
“เอ่อ คือ...” ชายหนุ่มตะกุกตะกัก
“คุณคงเป็นอาจารย์ อยากได้หนังสืออะไรเป็นพิเศษไหมคะ ตอนนี้คนยังไม่เยอะฉันอาจช่วยคุณได้”
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ คือผมมาหาเพื่อนครับ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่เข้ามา” เขาตอบ
“ก็คงจะอย่างนั้น เช้านี้ฉันยังไม่เห็นอาจารย์คนไหนเข้ามาที่นี่เลย ถ้ายังไงคุณนั่งรอก่อนก็ได้นะคะ มุมตรงนั้นค่อนข้างเป็นส่วนตัว” เธอชี้ไปยังมุมหนึ่งที่อยู่หลังชั้นวางหนังสือ
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนที่เขามารอจะเข้ามาทำงาน
ครั้นจะเดินไปถามว่าวันนี้เธอจะเข้ามาทำงานไหม ก็ดูท่าว่าจะไม่เหมาะสมเท่าที่ควร
เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกคนกำลังทำงานกันวุ่นจนเขาเองไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ
ชายหนุ่มจึงเดินออกไปอย่างเงียบๆ แล้วคิดว่าตอนเย็นจะเข้ามาดักรอเธอที่นี่อีกครั้ง
ห้องสมุดประจำคณะเศรษฐศาสตร์
“พี่เบญค่ะ อัญขอตัวไปที่หอสมุดสัก 15 นาทีนะคะ พอดีมีของที่จำเป็นต้องใช้น่ะคะ”
“ไปนานกว่านั้นก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรีบหรอก มีเวลาพักกลางวันตั้งชั่วโมง” ที่นี่แบ่งกันทานอาหารกลางวันคนละชั่วโมงซึ่งเบญญาภานั้นไปทานมาแล้วเมื่อชั่วโมงก่อน
“ขอบคุณนะคะ แล้วอัญจะรีบกลับ” หญิงสาวเดินตัวปลิวออกไปจากห้องทันที
ขณะที่คาร์ลอสกำลังเดินกลับหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วเมื่อเขาก็เดินผ่านชั้นล่างสุดของตึก
ชายหนุ่มเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินลับตาไปดูคลับคล้ายคลับคลากับคนที่เขากำลังตามหา
เขารีบเดินตามไปดูแต่เธอก็หายไปจากมุมตึกเสียแล้ว
เขาคงตาฝาด คาร์ลอสคิดในใจ แล้วเดินกลับเข้ามาในตึก
เมื่อจะผ่านห้องสมุดเขาก็คิดขึ้นได้ว่ามีหนังสือที่เขาฝากให้บรรณารักษ์สั่งเผื่อเขาไว้จึงแวะมาเอา
“อ้าว อาจารย์คาร์ลอส หนังสือมาถึงตั้งแต่เมื่อวาน พี่ว่าจะโทร.บอกแต่ก็ยุ่งๆ จนลืมไปเลย ขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกครับพี่เบญ ผมเองก็ไม่ได้รีบอะไร พอดีวันนี้นึกได้เลยว่าจะแวะมาถามสักหน่อย อีกอย่างก็อยากแวะมาทักทายด้วย”
“นี่ค่ะ หนังสือ”
“ขอบคุณครับ” เขารับหนังสือไปเปิดดูพอให้รู้ว่าใช่เล่มที่กำลังตามหาก็ส่งยิ้มให้เธอ
“ถูกต้องไหมคะ”
“ถูกครับ ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมฝากพี่สั่งแล้วจะผิดพลาด นี่นึกไม่ออกเลยว่าถ้าพี่ลาคลอดผมจะฝากใครซื้อได้บ้าง” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเสียดาย เพราะหนังสือบางเล่มก็สั่งยากมากเพราะผู้ผลิตมักจะพิมพ์มาจำนวนจำกัดและจำหน่ายให้แค่ห้องสมุดเท่านั้น
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่บอกน้องๆ คนอื่นให้นะคะ”
“ขอบคุณครับ ขนาดจะลาคลอดแล้วผมยังตามมากวนใจอีก”
“อย่าเรียกว่ากวนใจเลยค่ะ อาจารย์คาร์ลอสเองก็ช่วยพี่ตั้งหลายอย่าง”
ตอนที่เบญญาภามีปัญหาเพราะติดต่อสามีที่ไปทำงานที่ประเทศอังกฤษไม่ได้นานนับสัปดาห์ก็ได้ชายหนุ่มที่ช่วยให้เพื่อนที่นั่นตามมาให้ สุดท้ายก็เจอว่าอิริคสามีของเธอโดนปล้นและโดนทำร้ายร่างกายนอนไม่ได้สติอยู่ที่ รพ. ครั้งนั้นเลยทำให้เขากับเธอได้พูดคุยกันมากขึ้นเบญญาภาเลยกลายเป็นอีกคนที่เขามักแวะมาคุยด้วยเสมอ
หอสมุด
“สวัสดีค่ะพี่กิ๊ก” อัญญายกมือไหว้กาญจนาหัวหน้าบรรณารักษ์ที่กำลังง่วนอยู่กับการตารางการทำงานของทุกคนในหอสมุด
“อ้าว มาได้ไงเนี่ย” สาวใหญ่เงยหน้ามอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอก็ยิ้มกว้าง
“คิดถึงพี่กิ๊กไงคะ เลยแวะมาหา” อัญญาตอบเสียงหวาน
“ปากหวานอีกแล้วน้องสาวเรา”
“แหมพี่กิ๊กก็พูดอยากกะเคยชิมอย่างนั้นแหละ” เสียงไอรดาที่เดินเข้ามาแล้วได้ยินก็อดแซวไม่ได้
“รดาพูดก็น่าคิดนะ ว่าแต่พี่อยากรู้จังว่าใครกันนะที่จะได้ลิ้มลองว่าหวานจริงไหม”
“โอ๊ย สองคนนี้พูดอะไรก็ไม่รู้ คนเขาอุตส่าแวะมาทักทายยังจะพูดอะไรแบบนี้อีก” หญิงสาวหน้าแดง รีบหลบสายตา
“อายุก็เยอะขึ้นทุกปี แล้วเมื่อไหร่น้องสาวของพี่จะมีแฟนสักทีนะ ดูอย่างรดาสิเรียนจบปุ๊บก็แต่งงานปั๊บเลย”
“เอาไว้ก่อนดีกว่าค่ะ อัญว่าอยู่แบบนี้ก็สบายดีแล้ว”
“สบายแต่ไม่สนุกนะพี่” ไอรดาล้อ
“ไม่พูดด้วยละ อัญขอตัวไปทักทายคนอื่นๆ ก่อนนะคะเดี๋ยวจะรีบกลับไป ไม่อยากให้พี่เบญต้องเหนื่อย”
“ตามสบายจ้ะ แล้วเบญคลอดเมื่อไหร่อย่าลืมส่งข่าวพี่ด้วยนะ”
“ได้ค่ะพี่กิ๊ก แล้วอัญจะไลน์มาบอกนะคะ”
อัญญาเลี่ยงออกไปทักทายเพื่อนร่วมงานคนอื่นแต่นี่ไม่ใช่จุดประสงค์ของเธอ
ที่เธอมีนี่เพราะอยากจะเจอผู้ชายคนนั้นอีกสักครั้ง เธอเองก็อยากรู้ว่าถ้าเจอเขาอีกครั้ง หัวใจของเธอยังจะเต้นแปลกๆ อีกไหม
หรือบางทีเจอเขาแล้วไอ้อาการอยากเจออยากเห็นหน้าอาจจะหายไปก็ได้
เธอเดินทักทายเพื่อนร่วมงานจนทั่วระหว่างนั้นก็คอยมองหาชายหนุ่มร่างสูงใหญ่
แต่ดูจนทั่วก็ไม่เจอ จนเธอเองถอดใจ
ดีละ ที่ไม่เจอ เพราะถ้าเจอก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาจะมองหน้าเขาติดไหม
อัญญาคิดทบทวนแล้วก็รีบกลับไปทำงานต่อ
ห้องสมุดประจำคณะเศรษฐศาสตร์
“เย็นนี้มีธุระที่ไหนรีบกลับไปทำหรือเปล่าจ๊ะอัญ”
“ไม่มีค่ะ พี่เบญมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“พี่มีคนอยากแนะนำให้อัญรู้จักหน่อยน่ะ”
“ใครเหรอคะ” อดถามไม่ได้เพราะเท่าที่รู้ตอนนี้เธอก็รู้จักทุกคนที่ทำงานร่วมกันแล้ว
“อาจารย์ท่านหนึ่งน่ะจ้ะ พอดีว่าอาจารย์เขามีบุญคุณกับครอบครัวพี่ พี่อาจต้องรบกวนอัญช่วยเขาบ้างเรื่องที่ต้องสั่งหนังสือบางเล่มจากสำนักพิมพ์จ้ะ”
“ได้เลยค่ะพี่ สำหรับอัญผู้มีประคุณของพี่ก็เหมือนผู้มีประคุณของอัญเหมือนกันค่ะ” อัญญาไม่ได้พูดเกินจริงเพราะครั้งหนึ่งตอนที่เธอเริ่มงานใหม่ๆ ก็ได้เบญญาภาคนนี้คอยช่วยเหลือ
“นั่นไง พูดถึงก็มาพอดีเลย”
อัญญาหันไปทางประตูก็ต้องตกใจเพราะคนที่เดินเข้านั้นเป็นชายคนเดียวกับที่เธอพยายามไปตามหาที่หอสมุดเมื่อตอนกลางวัน
คาร์ลอสเองก็ตะลึงไม่แพ้กันเพราะเขาเอาแต่ไปรอเธอที่หอสมุดโดยไม่รู้เลยว่าเธออยู่ใกล้เขาแค่เอื้อม
“อาจารย์คาร์ลอส นี่น้องอัญ คนที่จะมาทำหน้าที่แทนช่วงที่พี่ไม่อยู่” เธอหันไปบอกชายหนุ่มผู้มาเยือน
“อัญจ๊ะ นี่ไงอาจารย์ที่พี่พูดถึง”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณอัญผมชื่อคาร์ลอส” เขากล่าวทักทายพร้อมยืนมือเพื่อจับทักทายตามธรรมเนียมประเทศของเขา
“ค่ะ ยินดีได้รู้จักค่ะ” เพื่อมารยาททางสังคมแล้วอัญญาต้องยื่นมือเล็กๆ ของเธอออกไปแม้ว่ามันจะสั่นเล็กน้อยก็ใครจะคิดล่ะว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับคนที่ขโมยจูบเธอไปเมื่อวันก่อน
คาร์ลอสกระชับมือน้อยๆ เบาๆ เขาสัมผัสได้ว่ามือของเธอเย็นเฉียบและสั่นเล็กน้อย เขาอ้อยอิ่งที่จะปล่อยมือของเธอ จนอัญญาเองต้องรีบดึงมือกลับ
“พี่คงต้องขอตัวก่อน สองคนพูดคุยทำความรู้จักกันไปนะ อย่างน้อยก็คงเจอกันบ่อยๆ อีกสัก 3 เดือนล่ะ”
“ค่ะ”
“ครับ”
พอเบญญาภาเดินออกจากห้องสมุดไปแล้วทั้งสองคนก็ได้แต่ยืนนิ่ง
อัญญาเริ่มใจเต้นแรงที่เจอเขาอีกครั้ง
ทางด้านคาร์ลอสเองก็ไม่ต่างกันนัก เขารู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
ในชีวิตของเขาพบเจอผู้หญิงมาก็มาก แต่ไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกใจเต้นแรงอย่างนี้ แม้แต่เอมิลี่แฟนสาวคนที่เคยรักอย่างสุดหัวใจก็ตาม
“ขอตัวก่อนนะคะ” อัญญาไม่อยากอยู่ในบรรยากาศที่แสนอึดอัดนี้
“เดี๋ยวก่อน” คาร์ลอสรีบคว้าต้นแขนของหญิงสาวทันทีเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะออกจากห้องนี้ไป
อัญญาสะบัดแขนออกโดยอัตโนมัติ เธอกลัวที่จะอยู่ใกล้เขา กลัวเขาจะทำแบบวันนั้นอีกและที่สำคัญที่สุดคือเธอกลัวใจตัวเอง
ชายหนุ่มรีบเอาตัวเองเข้ามาขวาง
“...” อัญญามองหน้าเขาที่ห่างไปเพียงคืบ เขาสูงเสียจนเธอเองต้องเงยหน้ามอง
“เรื่องวันนั้น..คือผมขอโทษ ปกติผมไม่ใช่คนแบบนั้น” ชายหนุ่มพยายามอธิบาย
“แบบนั้น แบบไหนเหรอคะ” หญิงสาวตีรวน
“ก็แบบที่เจอกันครั้งแรกก็..” เขายิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้องพูดล่ะคะ ฉันลืมมันไปหมดแล้ว” เธอรีบบอกเมื่อเห็นแววตาของเขา
“ผมยังไม่ได้พูดเลยว่าเรื่องไหน”
“ไม่ว่าเรื่องไหนฉันก็ลืมไปหมดแล้ว หลีกทางด้วยค่ะ”
“ถ้าคุณลืมแล้ว ผมนี่แหละจะเตือนความทรงจำให้เอง” ท่าทางคุกคามของเขาทำให้เธอขนลุก
“คนบ้า โรคจิต” อัญญาพูดจบก็วิ่งออกจากห้องไปทันที
สายตาคาร์ลอสมองรูปร่างภรรยาสาวอย่างชื่นชม อัญญานั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กเอวของเธอคอดกิ่ว แต่สะโพกกับหน้าอกกลับตรงกันข้าม ทั้งอวบอิ่มและงอนงาม ผิวขาวเนียนไปทั่วทุกสัดส่วน เขาหลงใหลทุกตารางนิ้วบนกายของหญิงสาว“ที่รักครับ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยไปทุกส่วนจริงๆ” คนชมเสียยงแหบพร่าร่างกายร้อนดังเปลวเพลิง โดยเฉพาะเมื่อเห็นเต้างามกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจแล้วก็ยากที่จะอดกลั้น“อืมมม อ่าสส์ คาร์ลอส อืมมม” เสียงของอัญญาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อสามีหนุ่มครอบครองทั้งสองเต้าด้วยมือและปากสลับกับลิ้นร้อนที่ปัดป่าย ความเสียวซัดสาดไปทั้งสรรพางค์กาย“อัญจ๋า เต็มไม้เต็มมือดีจัง อืมมม” เสียงแหบพร่า“แล้วชอบไหมคะ ชอบของอัญหรือเปล่า” เสียงหวานถามยั่วยวน“ที่รักผมชอบทุกส่วนของคุณ และตอนนี้ผมก็อยากจะกินคุณไปทุกส่วน”“อ๊ะ” อัญญาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายลิ้นร้อนสัมผัสเกสรของกุหลาบดอกงาม คาร์ลอสบดริมฝีปากเคล้าคลึง ขบเม้มตามอารมณ์รักและแรงปรารถนา ทุกการกระทำเรียกเสียงครางกระเส่าออกจากปากหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าหญิงสาวส่ายสะโพกร่อนขึ้นลงตามอารมณ์ที่ปะทุร้อนขึ้นจนถึงจุดไคลแม็กซ์ ร่างของเธอเกร็งกระตุกถี่ยิบน้ำ
เช้าวันแรกของการแต่งงานหรือจะเรียกบ่ายวันแรกก็คงจะไม่ผิดนักเพราะกว่าคู่บ่าวสาวจะตื่นก็เลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้วอัญญาปวดระบมไปทั่วร่างเมื่อพยายามจะลุกจากเตียง เมื่อคืนเธอไม่รู้ว่าคาร์ลอสไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เพราะบทรักที่เขามอบให้นั้นมันทั้งเร่าร้อนและยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และเธอเองก็มีความสุขมากกว่าทุกครั้ง หญิงสาวมองร่างของตัวเองใต้ผ้าห่มแล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าว เนื้อตัวของเธอตอนนี้มีแต่รอยที่เขาฝากไว้เต็มไปหมด“ผมทำเสียงดังจนคุณตื่นหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกกันบ้าง ดูสิแต่งงานวันแรกอัญก็ตื่นซะบ่ายเลย”“ไม่เห็นเป็นไรเลยที่รัก”เขาเข้าสวมกอดเธอที่ร่างกายเปลือยเปล่าส่วนเข้านั้นอยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนสีอ่อน จมูกโด่งกดลงบนแก้มของเธออย่างรักใคร่“อย่าค่ะ อัญยังไม่ได้อาบน้ำเลย”“ก็ผมชอบกลิ่นคุณ” เขาสูดมันเข้าเต็มปอดอีกครั้งอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ“อัญขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”“คุณหิวไหม ผมว่าจะสั่งรูมเซอร์วิสสักหน่อย กว่าจะถึงเวลานัดกับแม่อีกตั้งหลายชั่วโมง”“ค่ะ คุณสั่งให้อัญเลยนะคะ” หญิงสาวก้าวลงจากเตียงอย่างช้าๆ ตอนนี้เธอเจ็บแปลบไปทั่วทั้งหว่างขา บทรั
“พี่ดีใจด้วยนะคะน้องอัญ อาจารย์คาร์ลอสแล้วกำหนดวันแต่งหรือยังคะ”“ยังไม่ได้กำหนดเลยค่ะ แต่น่าจะอีกสองเดือนคาร์ลอสอยากให้แม่ของกับน้องสาวมาร่วมงานด้วยเลยต้องหาเวลาที่เหมาะอีกที”“เวลาแค่สองเดือนอย่าคิดว่ามันนานนะน้องอัญ พี่ว่ารีบเตรียมงานแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า อย่างพี่มีเวลาเตรียมตัวเกือบครึ่งปี ยังทำอะไรแทบไม่ทันเลยนะคะ” เบญญาภาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้รุ่นน้องฟังเพราะอยากให้งานแต่งงานของรุ่นน้องเป็นงานแต่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด“ขอบคุณนะครับพี่เบญ คิดว่างานนี้อาจต้องปรึกษาพี่เบญกับคาร์ลอสบ่อยๆ แน่ครับ”“คาร์ลอส คุณก็รู้นะว่าโทรหาผมได้ทุกเมื่อ” อีริคตบไหล่เขาเบาๆเมื่อแยกจากเบญญาภาและอีริคแล้วคาร์ลอสก็พาอัญญากลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพราะตอนออกมาเขาแค่เอกสารที่จะใช้จดทะเบียนสมรสมาเท่านั้นส่วนเอกสารอื่นและโน้ตบุ๊กชายหนุ่มทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องทำงาน“คุณจะลงไปกับผมหรือรอที่นี่”“อัญรอในรถดีกว่าค่ะ คุณคงไปไม่นานใช่ไหมคะ”“ครับ” แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในตึกอัญญามองไปรอบๆ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายนักศึกษาจึงขึ้นเรียนกันไปหมดแล้ว บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบเธอไม่คิดเลยว่าครั้งหนึ่งเธอกับเขาเคยมีอะไรกันที่
เช้าวันอาทิตย์อัญญาก็ต้องแปลกเมื่อเห็นว่าคาร์ลอสกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ในส่วนของห้องครัวที่น้อยครั้งมากที่มันจะถูกใช้งาน“มอร์นิ่งครับที่รัก” เขากล่าวทักทายก่อนจะหันไปสนใจกับกระทะอย่างตั้งใจอัญญาเดินเข้ามาดูว่าเขากำลังทำอะไรกันแน่ และเมื่อเห็นไข่สีเหลืองนวลที่อยู่ในจานก็ต้องตาโตด้วยความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก“คุณทำเองเหรอคะ”“ครับ ผมฝึกทำอยู่นานเลยกว่าจะได้แบบนี้” เขาภูมิใจกับออมเล็ตฝีมือตัวเอง“น่ากินมากๆ ค่ะ นี่ไปฝึกทำมาตอนไหนคะ”“อันที่จริงผมเคยทำกินเองตอนที่ยังเรียนอยู่แต่พอมาอยู่ที่นี่แทบไม่ได้เข้าครัวเลย มีอีกหลายอย่างที่ผมทำได้ เอาไว้คุณคอยเป็นคนชิมนะครับ” เขายกจานออมเล็ตกับขนมปังปิ้งหอมกรุ่นมาวางบนโต๊ะอาหารและจากนั้นก็ตามมาด้วยกาแฟอีกสองแก้ว“อัญจะรอชิมนะคะ แต่อย่าทำอร่อยมากนะคะเดี๋ยวอัญจะอ้วน”“พอคุณพูดเรื่องนี้ทำให้ผมนึกได้ ผมว่าตอนนี้คุณผอมลงไปกว่าแต่ก่อนเยอะเลย”“ค่ะ อัญน้ำหนักลดไปนิดหน่อย" อันที่จริงก็ลดไปเกือบ 3 กิโลกรัม“ถ้าอย่างนั้นคงต้องกินเยอะๆ เดี๋ยวกลางวันนี้เราไปซื้อของกันดีไหม ผมจะได้ทำอาหารให้คุณกินทุกวัน”“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้นะคะ แค่งานสอนกับงานที่ปรึ
“อัญไม่อยากไปเลยค่ะ” หญิงสาวพูดเนือยๆ เมื่อคาร์ลอสชวนเธอไปงานแต่งงานของอาจารย์ศศิกานต์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา“แต่ผมอยากให้คุณไปด้วยนะครับ”“ปกติคุณไม่ชอบไปงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ”“ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่งงานนี้มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คุณไปกับผมหน่อยนะ” เสียงออดอ้อนของเขาเริ่มทำให้หญิงสาวใจอ่อน“แต่อัญยังไม่มีชุดเลยนะคะ คิดว่าอีกสองวันคงเตรียมไม่ทันแน่ๆ” เธอพยายามหาข้ออ้างเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากไปเลยสักนิด“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว”“ดูท่างานนี้อัญจะปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ”เสียงหัวเราะของเขาดังมาตามสายสนทนา จากนั้นเธอกับเขาก็คุยกันต่ออีกไม่น่านก็ต้องรีบวางสายเพราะเลยว่าลาพักเที่ยงของหญิงสาวแล้วแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่อัญญาก็ตื่นนอนแต่เช้าเพราะเธอคิดว่าตัวเองคงต้องไปเข้าสปาเพื่อขัดผิวสักนิดก่อนที่ไปร่วมงานแต่งงานเย็นนี้ แม้จะค่อนข้างมั่นใจในผิวพรรณของตัวเองแต่ชุดที่จะใส่วันนี้ก็ดูเปิดเผยจนเธอต้องเพิ่มความมั่นใจออกจากสปาเธอก็ตรงไปยังร้านทำผมที่เอาแบบชุดที่จะสวมให้เจ้าของร้านดูทางร้านก็จัดการทุกอย่าง หญิงสาวมองตัวเองในกระจกแล้วก็ดูแปลกตาเพราะปกติแล้วเธอจะปล่อ
คาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามคาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามตอนนี้เรื่องราวของเขากับอาจารย์อธิชาดูจะกลายเป็นประเด็นร้อนในที่ทำงานเพราะอธิชาบอกใครต่อใครว่าเธอกับเขาไปด้วยกันไม่ได้และเธอเป็นฝ่ายที่ทิ้งเขาไป ทุกสายตาต่างมองคาร์ลอสด้วยความสงสาร แต่เขาไม่สนใจเลยสักนิดเพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาคงไม่คิดที่จะอธิบายถึงเรื่องราวต่างๆ เพราะมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ผ่านเข้ามา คาร์ลอสเชื่อว่าไม่นานคนก็จะลืมเรื่องทุกอย่างไปเองคาร์ลอสสอนนักศึกษาคาบเรียนสุดท้ายเสร็จก็รีบขับรถตรงไปยังที่ทำงานของอัญญา เขารอจนเห็นเธอเดินลงมา และขับรถตามหญิงสาวไปจนถึงคอนโดมิเนียมของเธอก่อนที่ตัวเองจะกลับคอนโดมิเนียมของตัวเองตลอดหลายวันมานี้เขาคอยตามดูอัญญาอยู่ห่างๆ และโทรศัพท์ไปคุยกับเธอทุกวันจนกลายเป็นเรื่