ช่วงบ่ายวันนี้เขาไม่มีสอน คาร์ลอสจึงนั่งตรวจงานที่สั่งให้นักศึกษาทำอย่างอารมณ์ดี
เพราะหลังจากได้พูดคุยเรื่องที่ค้างคาใจออกไปบ้างแล้วเขาก็สบายใจขึ้น
และคิดว่าเวลาที่ผ่านมานานนั้นอาจเยียวยาจิตใจของเขาจนเกือบหายดีก็เป็นได้
เขานั่งตรวจงานไปเรื่อยๆ พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีฟ้าก็เริ่มมืดลง
ชายหนุ่มรีบเก็บของให้เข้าที่แล้วรีบขับรถตรงไปยังหอสมุดที่อยู่ไกลออกไปจากภาควิชาของเขาเพียงไม่กี่ตึก
ภายในหอสมุดเวลาเย็นยังพอมีนักศึกษาอยู่บ้างประปราย เขามองตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่เคยเจอกับเธอเป็นครั้งแรก แต่คนที่นั่งอยู่นั้นกลับไม่ใช่คนที่เขาตามหา
หอสมุดแห่งนี้เป็นอาคารขนาดกลางที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 ชั้น โดยสองชั้นแรกนั้นเป็นส่วนของหนังสือและมีโต๊ะสำหรับอ่านหนังสืออยู่เป็นจำนวนมาก ใน ส่วนชั้นที่สามนั้นเป็นส่วนของสื่อสารสนเทศต่างๆ มีห้องประชุมขนาดเล็กหลายห้องและอีกครั้งหนึ่งของชั้นสามก็เป็นคอมพิวเตอร์สำหรับสืบค้นข้อมูลของนักศึกษา
คาร์ลอสเดินไปตามชั้นหนังสือ สองตาคมพยายามมองหาหญิงสาวร่างเล็กที่เจอเมื่อวาน จากชั้นหนังสือ
ชั้นแล้วชั้นเล่าก็ไม่เห็นแม้แต่เงา เขาเดินขึ้นไปยังชั้นสองก็ยังไม่เจอ ครั้นจะไปถามก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
เมื่อกำลังจะออกจากหอสมุดสายตาของเขาก็พลันหันไปเจอผังบุคลากรที่ติดอยู่ตรงใกล้ๆ กับประตูทางออก
คาร์ลอสแทบไม่ต้องใช้เวลาหาเลยสักนิด เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้สายตาของเขาพุ่งตรงไปยังเธอคนเดียวเท่านั้น
“อัญญา ชื่อน่ารักจัง” เขาพึมพำกับตัวเอง แม้ว่าไม่เจอกับเธอแต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าเธอชื่ออะไร เขายิ้มมุมปากก่อนที่จะกลับออกไปอย่างคนมีความหวัง
******
ห้องสมุดภาควิชาเศรษฐศาสตร์
“ขอบใจมากนะจ๊ะ น้องอัญ”
หญิงวัยกลางคนรูปร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์แก่ใกล้คลอดเต็มทีเอ่ยกับอัญญาที่วันนี้เธอมาช่วยงานที่ห้องสมุดที่อยู่ชั้นล่างสุดของตึกคณะเศรษฐศาสตร์
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เบญ ยังไงวันนี้อัญก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ดีซะอีก มาช่วยงานพี่เบญวันนี้ทำให้อัญได้เรียนรู้ระบบของห้องสมุดนี้ได้เยอะเลยค่ะ”
“พี่ดีใจนะ ที่น้องอัญเป็นคนที่จะมาทำงานแทนพี่ตอนที่พี่ลาคลอด เพราะใครๆ ที่หอสมุดก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องอัญทำงานดี เรียบร้อย”
“พี่เบญก็พูดเกินไปค่ะ อัญไม่เก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่อัญชอบอ่านหนังสือและเข้าห้องสมุดมาตั้งแต่เด็กเวลาทำงานก็เลยมีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางหนังสือ งานก็เลยออกมาดี”
“น้องอัญน่ารักอย่างนี้พี่ชักอยากให้มาทำงานที่นี่กับพี่ตลอดเลยนะเนี่ย”
“แต่ที่นี่ก็มีคนอื่นอยู่แล้วนะคะ”
อัญญาท้วง เธอไม่อยากมาแย่งงานคนอื่น
“ไม่แน่หรอกค่ะน้องอัญ เพราะเห็นว่าเดือนหน้าจะมีหนังสือมาลงเพิ่มอีกเยอะ เราอาจต้องการบรรณารักษ์เพิ่มอีกสักคนก็ได้นะคะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงอัญก็ยินดีค่ะ”
******
หลังจากกลับถึงห้องพักอัญญาก็คิดถึงเรื่องที่พูดกับเบญญาภาบรรณารักษ์รุ่นพี่ที่ทำงานประจำที่ห้องสมุดของคณะเศรษฐศาสตร์ ถ้าเธอได้ไปทำงานที่นั่นก็คงดี เพราะที่ตึกนั้นคนที่มาใช้บริการส่วนมากก็จะเป็นอาจารย์ประจำคณะก็เท่านั้น
อยู่ๆ รอยยิ้มก็หายไปเมื่อคิดไปว่าถ้าเธอมาทำงานที่นี่ก็คงไม่มีโอกาสได้เจอกับเขา ชายคนที่ขโมยจูบแรกไปจากเธอ
“ท่าจะบ้าไปแล้วนะเรา” เธอพูดกับตัวเอง
ติ๊ด.. ติ๊ด..ติ๊ด..เสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น
เมื่อกดรับปลายสายก็ส่งเสียงทักทายอย่างร่าเริงมาทันที
“ยัยอัญ ฉันมีเรื่องจะเล่าแหละ”
นวนันท์เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวเจื้อยแจ้วมาตามสาย
“เสียงตื่นเต้นขนาดนี้อย่าบอกนะว่าทำใจได้แล้ว”
ที่ต้องถามอย่างนี้เพราะเมื่ออาทิตย์ก่อนนวนันท์ยังโทรมาร้องห่มร้องไห้ที่อนิลแฟนหนุ่มซึ่งคบกันมานานบอกเลิกไป
“ทำใจเหรอ No No เรื่องแบบนี้ใครจะทำใจได้”
นวนันท์นั้นเป็นคนที่เปลี่ยนแฟนมาหลายคนแต่คนล่าสุดนั้นก็คบกันมาเกือบปีซึ่งนานกว่าคนอื่นๆ มาก
จนเธอคิดว่าเพื่อนคงจะลงเอยกับชายคนนี้ซะแล้ว
“แล้วมีเรื่องอะไรดีเหรอ เล่ามาสิ”
“ก็เมื่อวานฉันเจอเนื้อคู่”
“เดี๋ยวนะ ฉันงงไปหมดแล้ว ไหนว่ายังทำใจไม่ได้”
“ก็ใช่ไง ทำใจไม่ได้กับอนิลแต่มันก็ไม่เกี่ยวกับคนใหม่ป่ะล่ะ”
นวนันท์ตอบอย่างสาวมั่น
“ฉันละเบื่อกับความเจ้าชู้ของเธอซะจริง”
“ไหนใครกันเจ้าชู้ แกก็พูดไปเรื่อย ฉันน่ะคบทีละคนย่ะ”
ก็จริงอย่างที่เธอพูดเพราะถ้าเธอได้คบใครแล้วก็จะซื่อตรงกับคนคนนั้นเพียงแต่ระยะเวลาที่คบกันอาจเร็วไปหน่อยเท่านั้นเอง
“ย่ะ แม่คนดี” อัญญาประชดแบบไม่จริงจังมากนัก
“จริงนะแก คนนี้ฉันจริงจังมาก”
“ฉันก็เห็นจริงจังตลอดแหละ”
“แล้วคนนี้เป็นใครล่ะ”
“อือ น่าจะเป็นหมอนะ ถ้าเดาไม่ผิด”
“อ้าว ไม่รู้จักหรอกเหรอ แล้วไหนว่าเนื้อคู่”
“ก็ยังไม่รู้จักไง แต่รู้ว่าเป็นเนื้อคู่ เมื่อวานฉันเจอเขาตรงซุปเปอร์อะแก ผู้ชายเดินซื้อของนี่เซ็กซี่ชะมัด”
“แค่เดินซื้อของเนี่ยนะ”
“อือ คนมันเซ็กซี่อะแก แค่หายใจก็เซ็กซี่แล้วแหละ”
“ฉันล่ะ อยากจะบ้านตายกับแกเสียจริงๆ ถ้าเป็นน้องเป็นนุ่งน่ะ จะจับฉีดยาคุม เอ้ยไม่ใช่สิอย่างแกต้องฝังยาคุมเอาแบบ 5 ปีเลยนะ”
“แก่ก็พูดเกินไป สาวพรหมจรรย์อย่างแกไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“อือ ก็จริงนะ” เสียงตอบแผ่วเบา
“ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น เป็นอะไรหรือเปล่า”
เพราะปกติแล้วอัญญามักจะภูมิใจหนักหนาที่ตัวเองยังรักษาพรหมจรรย์มาจนถึงทุกวันนี้
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันก็แค่คิดว่าฉันรักษาพรหมจรรย์ไปเพื่อใครกัน”
“แกเคยบอกว่า เพื่อนคนที่แกรัก คนที่แกจะใช้ชีวิตด้วยไปตลอด แต่นี่แกก็อายุ 28 แล้วนะ เมื่อไหร่แกจะเจอคนที่ใช่สักที”
“ฉันว่าฉันคงอยู่เป็นโสดตลอดไปแล้วแหละ”
“บ้าน่า เป็นโสดน่ะ มันไม่สนุกเท่าไหร่หรอกนะ หน้าตาแกก็ออกจะสวยแต่แกเองนั่นแหละ ไม่แต่งหน้าไม่แต่งตัว แถมยังทำตัวเย็นชาใครเขาจะกล้ามาจีบ”
“ก็ฉันเป็นของฉันอย่างนี้ ถ้าต้องให้เปลี่ยนตัวเองเพื่อใครฉันคงไม่มีความสุข”
“แหมแก มันก็ต้องมีแรงดึงดูดบ้างสิ ผู้ชายถึงจะกล้าเข้ามาจีบ แกลองไปที่อื่นบ้างนอกจากที่ทำงาน ที่บ้านแล้วก็ร้านฉัน”
“จะให้ไปผับเกือบทุกคืนอย่างแกฉันคงไม่ไหวหรอก”
“ก็ไม่ต้องขนาดนั้น เอาเป็นว่านานๆ ไปทีก็ได้นี่”
“อือ ฉันจะลองคิดดูนะ”
“นั่น มันต้องอย่างนั้นสิเพื่อนฉัน”
“แพร ฉันถามหน่อยสิแกรู้ได้ไงว่าหมอที่เจอเป็นเนื้อคู่ของแก”
“แหม ก็นะ ความรู้สึกมันบอก”
“เอาแบบรูปธรรมหน่อยได้ไหม” คนไม่เคยมีแฟนพูด
“ก็แบบ อยู่ใกล้แล้วใจเต้นแรง ไม่เป็นตัวของตัวเอง เวลาเผลอๆ มันนึกถึงเขา ก็ประมาณแบบนั้นแหละ”
“อ๋อ”
“แกเคยเป็นแบบนั้นไหม”
“....”
“ฉันว่าแกต้องเจอแล้วแน่” เมื่อเห็นเพื่อนเงียบนวนันท์ก็เดาออก
“ก็ไม่เชิงนะ”
“เขาเป็นใคร ฉันเคยเจอไหม”
“ฉันไม่รู้”
“อะไรของแกเนี่ย”
“ก็จริง ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ฉันเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว”
“เอาแล้วไงแก แล้วเราจะไปตามหาที่ไหนล่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้”
“แล้วแกเจอเขาที่ไหน”
“ที่หอสมุด”
“โอ๊ย ไม่เห็นจะยากเลย เขามาหอสมุดถ้าไม่ใช่อาจารย์ก็นักศึกษาแหละ”
“ก็คงอย่างนั้น”
“งั้นก็ไม่ยาก แกก็ไปดูประวัติสิ ถ้าเข้ามาใช้บริการก็ต้องมีข้อมูล บรรณารักษ์อย่างแกไม่น่ายาก”
“อือ...ก็คงงั้นแหละ” อัญญาลอบถอนหายใจเพราะมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เพื่อนเธอบอก อีกอย่างตอนนี้เธอก็ต้องย้ายไปทำงานที่คณะเศรษฐศาสตร์แล้ว คงไม่ได้เจอเขาอีกแน่ ๆ
สายตาคาร์ลอสมองรูปร่างภรรยาสาวอย่างชื่นชม อัญญานั้นเป็นผู้หญิงตัวเล็กเอวของเธอคอดกิ่ว แต่สะโพกกับหน้าอกกลับตรงกันข้าม ทั้งอวบอิ่มและงอนงาม ผิวขาวเนียนไปทั่วทุกสัดส่วน เขาหลงใหลทุกตารางนิ้วบนกายของหญิงสาว“ที่รักครับ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยไปทุกส่วนจริงๆ” คนชมเสียยงแหบพร่าร่างกายร้อนดังเปลวเพลิง โดยเฉพาะเมื่อเห็นเต้างามกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจแล้วก็ยากที่จะอดกลั้น“อืมมม อ่าสส์ คาร์ลอส อืมมม” เสียงของอัญญาเริ่มดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อสามีหนุ่มครอบครองทั้งสองเต้าด้วยมือและปากสลับกับลิ้นร้อนที่ปัดป่าย ความเสียวซัดสาดไปทั้งสรรพางค์กาย“อัญจ๋า เต็มไม้เต็มมือดีจัง อืมมม” เสียงแหบพร่า“แล้วชอบไหมคะ ชอบของอัญหรือเปล่า” เสียงหวานถามยั่วยวน“ที่รักผมชอบทุกส่วนของคุณ และตอนนี้ผมก็อยากจะกินคุณไปทุกส่วน”“อ๊ะ” อัญญาสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายลิ้นร้อนสัมผัสเกสรของกุหลาบดอกงาม คาร์ลอสบดริมฝีปากเคล้าคลึง ขบเม้มตามอารมณ์รักและแรงปรารถนา ทุกการกระทำเรียกเสียงครางกระเส่าออกจากปากหญิงสาวครั้งแล้วครั้งเล่าหญิงสาวส่ายสะโพกร่อนขึ้นลงตามอารมณ์ที่ปะทุร้อนขึ้นจนถึงจุดไคลแม็กซ์ ร่างของเธอเกร็งกระตุกถี่ยิบน้ำ
เช้าวันแรกของการแต่งงานหรือจะเรียกบ่ายวันแรกก็คงจะไม่ผิดนักเพราะกว่าคู่บ่าวสาวจะตื่นก็เลยเวลาอาหารเที่ยงไปแล้วอัญญาปวดระบมไปทั่วร่างเมื่อพยายามจะลุกจากเตียง เมื่อคืนเธอไม่รู้ว่าคาร์ลอสไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เพราะบทรักที่เขามอบให้นั้นมันทั้งเร่าร้อนและยาวนานกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และเธอเองก็มีความสุขมากกว่าทุกครั้ง หญิงสาวมองร่างของตัวเองใต้ผ้าห่มแล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าว เนื้อตัวของเธอตอนนี้มีแต่รอยที่เขาฝากไว้เต็มไปหมด“ผมทำเสียงดังจนคุณตื่นหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ คุณตื่นนานแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกกันบ้าง ดูสิแต่งงานวันแรกอัญก็ตื่นซะบ่ายเลย”“ไม่เห็นเป็นไรเลยที่รัก”เขาเข้าสวมกอดเธอที่ร่างกายเปลือยเปล่าส่วนเข้านั้นอยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนสีอ่อน จมูกโด่งกดลงบนแก้มของเธออย่างรักใคร่“อย่าค่ะ อัญยังไม่ได้อาบน้ำเลย”“ก็ผมชอบกลิ่นคุณ” เขาสูดมันเข้าเต็มปอดอีกครั้งอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ“อัญขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”“คุณหิวไหม ผมว่าจะสั่งรูมเซอร์วิสสักหน่อย กว่าจะถึงเวลานัดกับแม่อีกตั้งหลายชั่วโมง”“ค่ะ คุณสั่งให้อัญเลยนะคะ” หญิงสาวก้าวลงจากเตียงอย่างช้าๆ ตอนนี้เธอเจ็บแปลบไปทั่วทั้งหว่างขา บทรั
“พี่ดีใจด้วยนะคะน้องอัญ อาจารย์คาร์ลอสแล้วกำหนดวันแต่งหรือยังคะ”“ยังไม่ได้กำหนดเลยค่ะ แต่น่าจะอีกสองเดือนคาร์ลอสอยากให้แม่ของกับน้องสาวมาร่วมงานด้วยเลยต้องหาเวลาที่เหมาะอีกที”“เวลาแค่สองเดือนอย่าคิดว่ามันนานนะน้องอัญ พี่ว่ารีบเตรียมงานแต่เนิ่นๆ จะดีกว่า อย่างพี่มีเวลาเตรียมตัวเกือบครึ่งปี ยังทำอะไรแทบไม่ทันเลยนะคะ” เบญญาภาเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้รุ่นน้องฟังเพราะอยากให้งานแต่งงานของรุ่นน้องเป็นงานแต่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด“ขอบคุณนะครับพี่เบญ คิดว่างานนี้อาจต้องปรึกษาพี่เบญกับคาร์ลอสบ่อยๆ แน่ครับ”“คาร์ลอส คุณก็รู้นะว่าโทรหาผมได้ทุกเมื่อ” อีริคตบไหล่เขาเบาๆเมื่อแยกจากเบญญาภาและอีริคแล้วคาร์ลอสก็พาอัญญากลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง เพราะตอนออกมาเขาแค่เอกสารที่จะใช้จดทะเบียนสมรสมาเท่านั้นส่วนเอกสารอื่นและโน้ตบุ๊กชายหนุ่มทิ้งไว้บนโต๊ะในห้องทำงาน“คุณจะลงไปกับผมหรือรอที่นี่”“อัญรอในรถดีกว่าค่ะ คุณคงไปไม่นานใช่ไหมคะ”“ครับ” แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในตึกอัญญามองไปรอบๆ ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายนักศึกษาจึงขึ้นเรียนกันไปหมดแล้ว บรรยากาศจึงค่อนข้างเงียบเธอไม่คิดเลยว่าครั้งหนึ่งเธอกับเขาเคยมีอะไรกันที่
เช้าวันอาทิตย์อัญญาก็ต้องแปลกเมื่อเห็นว่าคาร์ลอสกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ในส่วนของห้องครัวที่น้อยครั้งมากที่มันจะถูกใช้งาน“มอร์นิ่งครับที่รัก” เขากล่าวทักทายก่อนจะหันไปสนใจกับกระทะอย่างตั้งใจอัญญาเดินเข้ามาดูว่าเขากำลังทำอะไรกันแน่ และเมื่อเห็นไข่สีเหลืองนวลที่อยู่ในจานก็ต้องตาโตด้วยความประหลาดใจมากขึ้นไปอีก“คุณทำเองเหรอคะ”“ครับ ผมฝึกทำอยู่นานเลยกว่าจะได้แบบนี้” เขาภูมิใจกับออมเล็ตฝีมือตัวเอง“น่ากินมากๆ ค่ะ นี่ไปฝึกทำมาตอนไหนคะ”“อันที่จริงผมเคยทำกินเองตอนที่ยังเรียนอยู่แต่พอมาอยู่ที่นี่แทบไม่ได้เข้าครัวเลย มีอีกหลายอย่างที่ผมทำได้ เอาไว้คุณคอยเป็นคนชิมนะครับ” เขายกจานออมเล็ตกับขนมปังปิ้งหอมกรุ่นมาวางบนโต๊ะอาหารและจากนั้นก็ตามมาด้วยกาแฟอีกสองแก้ว“อัญจะรอชิมนะคะ แต่อย่าทำอร่อยมากนะคะเดี๋ยวอัญจะอ้วน”“พอคุณพูดเรื่องนี้ทำให้ผมนึกได้ ผมว่าตอนนี้คุณผอมลงไปกว่าแต่ก่อนเยอะเลย”“ค่ะ อัญน้ำหนักลดไปนิดหน่อย" อันที่จริงก็ลดไปเกือบ 3 กิโลกรัม“ถ้าอย่างนั้นคงต้องกินเยอะๆ เดี๋ยวกลางวันนี้เราไปซื้อของกันดีไหม ผมจะได้ทำอาหารให้คุณกินทุกวัน”“ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้นะคะ แค่งานสอนกับงานที่ปรึ
“อัญไม่อยากไปเลยค่ะ” หญิงสาวพูดเนือยๆ เมื่อคาร์ลอสชวนเธอไปงานแต่งงานของอาจารย์ศศิกานต์ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา“แต่ผมอยากให้คุณไปด้วยนะครับ”“ปกติคุณไม่ชอบไปงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ”“ผมก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่งงานนี้มันเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คุณไปกับผมหน่อยนะ” เสียงออดอ้อนของเขาเริ่มทำให้หญิงสาวใจอ่อน“แต่อัญยังไม่มีชุดเลยนะคะ คิดว่าอีกสองวันคงเตรียมไม่ทันแน่ๆ” เธอพยายามหาข้ออ้างเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากไปเลยสักนิด“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ผมเตรียมไว้ให้คุณแล้ว”“ดูท่างานนี้อัญจะปฏิเสธไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ”เสียงหัวเราะของเขาดังมาตามสายสนทนา จากนั้นเธอกับเขาก็คุยกันต่ออีกไม่น่านก็ต้องรีบวางสายเพราะเลยว่าลาพักเที่ยงของหญิงสาวแล้วแม้วันนี้จะเป็นวันหยุดแต่อัญญาก็ตื่นนอนแต่เช้าเพราะเธอคิดว่าตัวเองคงต้องไปเข้าสปาเพื่อขัดผิวสักนิดก่อนที่ไปร่วมงานแต่งงานเย็นนี้ แม้จะค่อนข้างมั่นใจในผิวพรรณของตัวเองแต่ชุดที่จะใส่วันนี้ก็ดูเปิดเผยจนเธอต้องเพิ่มความมั่นใจออกจากสปาเธอก็ตรงไปยังร้านทำผมที่เอาแบบชุดที่จะสวมให้เจ้าของร้านดูทางร้านก็จัดการทุกอย่าง หญิงสาวมองตัวเองในกระจกแล้วก็ดูแปลกตาเพราะปกติแล้วเธอจะปล่อ
คาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามคาร์ลอสมองไปที่ประตูห้องของอัญญา เขาอยากจะเปิดมันเข้าไปอีกครั้ง แต่ก็อยากให้เวลาเธอได้อยู่กับตัวเองสักพัก เขาแวะบอกรปภ.ให้โทรศัพท์หาเขาทันทีถ้าเห็นผู้ชายมาหาอัญญา ไม่ว่าคนนั้นจะใครก็ตามตอนนี้เรื่องราวของเขากับอาจารย์อธิชาดูจะกลายเป็นประเด็นร้อนในที่ทำงานเพราะอธิชาบอกใครต่อใครว่าเธอกับเขาไปด้วยกันไม่ได้และเธอเป็นฝ่ายที่ทิ้งเขาไป ทุกสายตาต่างมองคาร์ลอสด้วยความสงสาร แต่เขาไม่สนใจเลยสักนิดเพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เขาคงไม่คิดที่จะอธิบายถึงเรื่องราวต่างๆ เพราะมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ผ่านเข้ามา คาร์ลอสเชื่อว่าไม่นานคนก็จะลืมเรื่องทุกอย่างไปเองคาร์ลอสสอนนักศึกษาคาบเรียนสุดท้ายเสร็จก็รีบขับรถตรงไปยังที่ทำงานของอัญญา เขารอจนเห็นเธอเดินลงมา และขับรถตามหญิงสาวไปจนถึงคอนโดมิเนียมของเธอก่อนที่ตัวเองจะกลับคอนโดมิเนียมของตัวเองตลอดหลายวันมานี้เขาคอยตามดูอัญญาอยู่ห่างๆ และโทรศัพท์ไปคุยกับเธอทุกวันจนกลายเป็นเรื่