ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ขัดจังหวะการทำงานของเจ้าของห้อง
“ขออนุญาตค่ะ บอส” เสียงหวานดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างสาวน้อยหน้าใส แม้อายุจะล่วงเข้าเลข 3 หมาด ๆ แต่ก็ยังดูอ่อนเยาว์ รวมถึงทรวดทรงสมบูรณ์ในชุดเดรสทันสมัยเข้ารูป ที่ประตูห้องทำงานบานใหญ่
“ว่าไง เมย์” ภาคิณ วัฒนฤกษ์ชัย ทายาทเจ้าของบริษัท P&M ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทเอ่ยถาม เมษา เลขาสาวส่วนตัว
“ทางบริษัท ไคล์ ตอบกลับมาแล้วค่ะ บอส”
“ทางนั้นว่าไงบ้าง เขาให้เราไปเสนองานไหม” ภาคิณรีบถามด้วยความตื่นเต้น เพราะการที่ได้เสนองานถือเป็นก้าวแรกของการพาบริษัทเข้าสู่ตลาดทางฝั่งยุโรป
“เขาไม่ได้ให้เราไปเสนองานค่ะ แต่คุณริชาร์ด จะมาดูงานที่นี่แทนค่ะ บอส” เมษารีบบอกด้วยความตื่นเต้นไม่แพ้กัน
“ห้ะ!!!” คำตอบที่ได้รับ ออกจะผิดคาดไปมาก เพราะเขาแค่คาดหวังให้ได้มีโอกาสไปนำเสนองานและข้อตกลงกับบริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้น หากทางนั้นสนใจก็อาจจะได้เซ็นสัญญาร่วมงานกัน
แต่นี่ เจ้าของบริษัท ไคล์ ถึงขั้นบินมาดูบริษัทเขาด้วยตัวเองเลย นับว่าเป็นโอกาสทองที่พลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด
“แล้วคุณริชาร์ดจะมาวันไหน”
“คุณเบนจามินแจ้งว่า ท่านจะมาถึงเย็นวันอังคารนี้ค่ะ” เลขาสาวรีบตอบ
วันนี้ก็วันศุกร์แล้ว มีเวลาอีกแค่ 4 วันในการเตรียมตัว
ความจริงแล้ว ทางเขาได้เตรียมการในการเสนอผลงานรวมถึงผลการวิจัยต่าง ๆ ไว้พร้อมแล้ว แต่นั่นก็เป็นการเตรียมในการบินเพื่อไปนำเสนองานที่อังกฤษ
แต่ไม่ใช่การเตรียมตัวต้อนรับนักธุรกิจใหญ่ถึงถิ่นตัวเองแบบนี้!!!
ไหนจะห้องพัก จำนวนคน สถานที่ อาหาร คนต้อนรับ ฯลฯ เขาต้องเร่งแจงงานโดยด่วน
“เมย์ เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมด่วนเลย” ภาคิณสั่งงานด้วยความรวดเร็ว
“พี่พลนัดทุกฝ่ายที่ห้องประชุม ชั้น 11 ตอนบ่ายสาม เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ดีมาก” ภาคิณก้มมองนาฬิกา ที่ขณะนี้เวลา 14.45 น. “เราไปกันเลยแล้วกัน”
ภาคิณเดินออกจากห้องทำงาน พบว่า ชยพล และ ธนัท เลขาหนุ่มของเขาอีก 2 คน ยืนรอพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ
ชยพล ธนัท และเมษา ล้วนแต่เป็นเลขามือหนึ่งของเขา แต่ละคนรับผิดชอบดูแลงานในแต่ละส่วน
ชยพลจบทางด้านการบริหารจัดการ เขาจึงมอบหมายให้ดูแลเรื่องราวการทำงานภายในบริษัท ขณะที่ธนัทจบทางด้านวิทยาศาสตร์ จึงดูแลเกี่ยวกับผลการวิจัย และเมษาที่ถนัดทางด้านต่างประเทศ
เขาจึงมอบหมายให้เมษารับผิดชอบในส่วนของการต้อนรับและประสานงานกับลูกค้าจากต่างประเทศ ด้วยความที่เรียนจบจากต่างประเทศและชอบท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ทำให้เมษาทราบวัฒนธรรมและบริบทของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
###################
ณ ห้องประชุม
หัวหน้าจากทุกแผนกเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเตรียมตัวต้อนรับนักธุรกิจจากเมืองผู้ดี โดยภาคิณวางแผนงานมอบหมายในแต่ละส่วน ทั้งการเตรียมความพร้อมของอาคารสถานที่ แผนกวิจัยที่ต้องเตรียมการเพื่อนำเสนอ รวมถึงการต้อนรับแขกผู้มาเยือน
กว่าการประชุมจะจบลงก็ปาเข้าไปเกือบ 6 โมงเย็น พนักงานจึงพากันทยอยเดินออกมา
“โอยยย กว่าจะเสร็จ” พราวฟ้า เพื่อนสนิทที่อยู่แผนกประชาสัมพันธ์ เดินมาบ่นกับเมษาที่กำลังเก็บแฟ้มเอกสารต่าง ๆ
“แกยังดี แค่เตรียมตัวต้อนรับที่นี่” หญิงสาวตอบกลับ “แต่ฉันนี่ ต้องเตรียมอาหาร ที่พัก รถรับส่งสำหรับคนจากบริษัท ไคล์ อีก เดี๋ยวก็ต้องไปประสานงานกับเขาต่ออีก จะมากี่คน กี่วัน คุณริชาร์ดชอบอะไรไม่ชอบอะไร สารพัดสารพัน...”
“บ่นอะไรเป็นหมีกินผึ้งเลยคะ” เสียง กฤษณะ ดังขึ้นที่ด้านหลังสองสาว
“พี่กฤษมาก็ดีเลยค่ะ มาฟังยัยเมย์บ่นแทนพราวที” พราวฟ้าแซว ก่อนจะหยอกตบท้าย “พราวกลับบ้านดีกว่า ไม่อยู่ขวางคนแถวนี้แล้ว บาย”
พราวฟ้าโบกมือลา 2 คนที่เหลือ
กฤษณะ เป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเมษา เขาเป็นแฟนเมษามาตั้งแต่สมัยเรียนในมหาวิทยาลัย และได้ทำงานที่บริษัท P&M ด้วยกัน แต่ทำงานคนละแผนก โดยเมษาเป็นเลขาของรองประธานบริษัท ส่วนเขาเป็นหัวหน้าแผนกวิจัยยาคนสำคัญของบริษัท P&M ซึ่งผลงานวิจัยสำคัญหลาย ๆ ชิ้นก็ล้วนแต่เป็นฝีมือของเขา
“เมย์ไม่ได้บ่นสักหน่อย” ร่างบางยู่หน้าใส่ ก่อนจะบอก “ช่วงนี้ เมย์อาจจะยุ่งหน่อยนะคะ พี่กฤษ”
“ดูจากที่ประชุมวันนี้ พี่ก็รู้แล้ว” กฤษณะหัวเราะเบา ๆ
“ใช่ซี้ พี่กฤษยุ่งเสร็จแล้วนี่” เมษาหยอกกลับ เพราะช่วงก่อนหน้านี้ เป็นช่วงที่ทางบริษัทเธอยื่นข้อเสนอไปทางบริษัท ไคล์
ช่วงนั้น กฤษณะแทบไม่ได้หลับได้นอน ทั้งคอยดูผลการวิจัย ทดลองซ้ำไปซ้ำมา รวมถึงเขียนสรุปผลเพื่อส่งไปรายงานผล
เมื่อสถานการณ์พลิกกลับแบบนี้ ฝ่ายที่ยุ่งดันเป็นเธอซะเอง ที่ต้องมาเตรียมงานต้อนรับ
“แต่พี่ว่ายังดีนะ ที่งานทุกอย่างน่าจะเสร็จก่อนวันแต่งของเรา” กฤษณะพูดลอย ๆ
เพราะอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะถึงงานแต่งของคู่แล้ว หากเป็นช่วงวันนั้น คงดูไม่จืดเลยทีเดียว ที่ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวยืนต้อนรับแขกด้วยขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าอยู่หน้างาน
“ก็จริงค่ะ” เมษาเห็นด้วย “งั้นเมย์ขอตัวไปประสานงานกับทางอังกฤษก่อนแล้วกันนะคะ”
“ให้พี่รอไหม เมย์” กฤษณะช่วยรวบเอกสารเก็บให้
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่กฤษกลับไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวยังไง เมย์ขับรถกลับเองได้ ไม่ต้องห่วง”
สำหรับเมษา เธอมองว่า ความรักในวัยเลขสาม ไม่ใช่ความรักตามอารมณ์แบบวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ต้องตัวติดกัน ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เป็นความรักที่อยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน และมีพื้นที่ส่วนตัวให้กันและกัน
ความรักที่ดี คือ การที่รักได้อย่างสบายใจ และเธอโชคดีที่เจอคนแบบนั้น...
“งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยถือของไปส่งที่โต๊ะแล้วกัน” กฤษณะถือของเดินตามหญิงสาวออกจากห้องประชุม “แต่ถ้าถึงบ้านแล้ว อย่าลืมโทรหาพี่ด้วยนะคะ”
“ได้ค่า ว่าที่สามีใครเนี่ย น่ารักที่สุด!!!” เมษาตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส
ชายหนุ่มสะดุ้งไปกับประโยคนั้นใช่ เขาฝากแม่มาบอกผู้หญิงคนนั้น แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า ผู้หญิงคนนั้นจะกลายเป็นคนที่เขารักสุดใจตรงหน้าแค่ทำให้เธอโกรธ เขายังไม่กล้าเลย นับประสาอะไรจะไปกลั่นแกล้งให้เธอรู้สึกทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น“ตกนรกสวาทไง ที่รัก” สัญชาตญาณความเป็นเสือผู้หญิงทำงานอย่างเร่งด่วน พร้อมมือหนาที่ประคองกอดอยู่ด้านหลังก็รูดซิปชุดเจ้าสาวอย่างรู้หน้าที่ ทำให้ชุดเกาะอกหล่นลงตามแรงโน้มถ่วง พอดีกับที่หญิงสาวยันตัวห่างจากชายหนุ่ม เผยให้เห็นเนินอกอวบเปลือยเปล่าเต็มสองตา“อ๊ะ ว้าย” เมษารู้สึกเหมือนโลกหมุน เพราะคนข้างล่างจัดการพลิกตัวให้เธอลงมานอนแผ่บนเตียงแทน ขณะที่อีกมือก็ดึงเกาะอกลงมา ก่อนจะก้มลงฝังหน้าที่ร่องอกเธออย่างคิดถึง“อึก อ๊ะ อื้อ~”มือหนาขยำอกอวบอย่างคิดถึง พร้อมดันให้เต้านุ่มสู้กับหน้าของตนเอง“หอมจัง” ชายหนุ่มสูดความหอมจากตัวหญิงสาวเข้าเต็มปอด กลิ่นที่เขาคิดถึงอย่างที่สุด พลางเบียดแทรกกายเข้าระหว่างกลางเรียวขางามภายใต้กระโปรงหนานิ้วซุกซนเริ่มขยับมาบี้ยอดอกจนค่อย ๆ แ
ริชาร์ดนั่งรถคันหรูมากับเอวามาอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่รถจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณคฤหาสน์ของแม่ของเขา เมื่อรถจอดสนิท ชายหนุ่มก็ก้าวขายาว ๆ เดินลิ่วไปที่ห้องของตัวเองทันที เพราะทราบมาจากวินเซนต์แล้วว่า ราเชลจัดห้องนอนของเขาเป็นห้องหอร่างสูงก้าวเท้าเดินนำไปอย่างไม่ไยดีเจ้าสาว ในใจเอาแต่นับเวลาถอยหลังให้ครบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะได้เจอใครบางคน ขณะที่เขาจะก้าวไปถึง เสียงบิดาที่ก้าวตามมาติด ๆ เรียกไว้ก่อน“ริชาร์ด”“มีอะไรครับ พ่อ” ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วหมุนตัวมามองบิดาที่ก้าวตามมา ทั้งคู่หยุดยืนที่หน้าบันไดกว้าง“มากับพ่อแปบหนึ่ง” วินเซนต์คว้ามือบุตรชาย ลากเข้าห้องทำงานที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบ“เรื่องหนูเอวาน่ะ” พ่อของเขาเกริ่นขึ้น เมื่อเห็นลูกชายยังนิ่งเงียบ เขาจึงเอ่ยต่อ “เธอเป็นลูกสาวเพื่อนพ่อเอง แม่เธอเป็นคนไทยเพิ่งเสียได้ไม่นาน ยังไงก็ใจดีกับเธอหน่อย”“...” ริชาร์ดไม่ตอบรับคำใด เขาได้แต่นิ่งเงียบ“พ่อรู้ว่า แกน่ะโกรธแม่เขาที่ไม่เข้าใจแกเลย แต่หนูเอ
เสียงเพลงสากลหวาน ๆ ดังคลอขับกล่อมคนในงานที่พูดคุยทักทายกันอย่างยินดีกับคู่บ่าวสาวในพิธีมงคลสมรส เจ้าบ่าวร่างสูงในชุดสูทสีขาวยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้างาน โดยมีวินเซนต์และราเชลคอยยืนประกบหลังจากวันนั้น ก็ไม่มีทีมงานออแกไนซ์หน้าไหนเข้ามาติดต่ออีกเลย จนเขาได้ทราบจากเบนจามินว่า มาดามราเชลจัดการเลือกทุกอย่างเองเสร็จสรรพ แต่ก็ช่างเถอะ เขาไม่ได้สนใจไยดีอะไรอยู่แล้วงานแต่งในวันนี้ มันก็เป็นแค่หน้าที่หนึ่งที่เขาตั้งใจทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เพื่อรอเจอหน้าร่างบางที่เขาไม่เจอมานานนับ 2 เดือนตั้งแต่วันที่แม่ริบคนรักของเขาไป“ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย” เสียงมารดาเขากระซิบแผ่วเบา“ผมก็ยิ้มให้แม่ได้เท่านี้แหละ” ชายหนุ่มกระซิบตอบกลับ ก่อนจะยกยิ้มฝืน ๆแม่ของเขาตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบงานแต่งใหม่ โดยให้มาทำพิธีที่โบสถ์แถวชานเมือง ใกล้คฤหาสน์ของพวกท่าน ส่วนแขกเหรื่อก็เชิญแต่คนสนิทไม่กี่สิบคนเท่านั้น ก่อนจะไปจัดงานเฉลิมฉลองพิธีมงคลสมรสที่โรงแรมหรูกลางเมืองในอีก 2 วันข้างหน้า“แล้วผมจะได้เจอเมย์ตอนไหนครับ แม่”“หลังเสร็จเข
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเบนจามินเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา หลังจากที่เคาะประตูขออนุญาต“คุณลิเดียพาทีมออแกไนซ์งานแต่งงานมาแล้วครับ”ลิเดียเดินเข้ามาในห้อง พร้อมทีมงานอีก 3 – 4 คน ริชาร์ดจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน ผายมือเชิญทุกคนนั่งที่ชุดโซฟารับแขก“สวัสดีครับ คุณริชาร์ด” โรเบิร์ต หัวหน้าทีมออแกไนซ์ยื่นมือมาทักทาย“สวัสดีครับ”“นี่ ทีมงานของผมครับ ฮันน่า นาตาลี และเจคอป ครับ” โรเบิร์ดผายมือแนะนำลูกทีมไปทีละคน ริชาร์ดกวาดสายตาทักทายผ่าน ๆ โดยเมินสายตายั่วยวนของนาตาลีไปอย่างไม่ใส่ใจ“ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้น ๆ“เอ่อ งั้นเราเริ่มกันเลยนะครับ” โรเบิร์ตเปิดบทสนทนา เมื่อเห็นว่าริชาร์ดตอบกลับสั้น ๆ “คุณริชาร์ดอยากได้ธีมงานประมาณไหนครับ”“ไม่รู้สิครับ”“เอ่อ เป็นแบบ Vintage แบบ Minimal หรือแบบเรียบหรูดีครับ” หัวหน้าทีมลองให้ตัวเลือกหลาย ๆ แบบ โดยมีฮันน่าเตรียมจดข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ“ไม่รู้สิครับ” ชายหน
ตั้งแต่กลับจากบ้านแม่ในคืนนั้น ริชาร์ดก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องนอน เขาครุ่นคิดอย่างหนัก ตั้งแต่แผนการแทรกซึมก็โดนจับได้อย่างไว ส่วนแผนการชิงตัวก็เหมือนว่าแม่เขาจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ถึงได้ไปนั่งดักรออยู่แบบนั้น แถมยังรู้ทันเขาถึงแผนการที่จะไปดีลว่าที่เจ้าสาวไว้ล่วงหน้าอีกเขาแทบไม่สามารถทำอะไรได้เลย เหมือนเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่กำลังวิ่งวนอยู่บนฝ่ามือแม่อย่างไรอย่างนั้นก็เอาเถอะ ใครเป็นคนเลี้ยงดูสั่งสอนเขามาล่ะ“ฮอตตี้ ผมควรทำยังไงดี”ริชาร์ดเงยศีรษะพิงโซฟานุ่มอย่างจนใจ ไม่ว่า จะทำอะไรก็ยิ่งเหมือนรัดตัวเขา และทำร้ายเมษาทางอ้อม เพราะทันทีที่เขากลับถึงบ้านคืนนั้น เขาก็ได้รับคลิปวิดีโอสั้น ๆ จากแม่ของเขาวิดีโอที่เมษากำลังยืนร้องไห้อย่างเงียบ ๆ พร้อมปาดน้ำตาที่ไหลมาไม่หยุด แม้ว่าจะเป็นเพียงคลิปสั้น ๆ ไม่ถึง 10 วินาที แต่ก็สร้างความทรมานใจให้เขาอย่างที่สุดเขาไม่สามารถรับรู้สาเหตุของความเสียใจนั้น ไม่สามารถปลอบโยนคนในโทรศัพท์มือถือได้เลย และนอกจากคลิปนั้น ยังมีข้อความเตือนการกระทำของเขาจากราเชลกำกับไว้อีกชายหนุ่มเลือกที่ค่อย ๆ ป
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูห้องทำงานของประธานบริษัท ไคล์ ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างเลขาสาวของมาดามราเชล“มาดามให้พามาส่งค่ะ” อิซาเบลเอ่ยขึ้นสิ้นเสียงพูด ริชาร์ดผุดลุกขึ้น เพื่อรอรับคนที่เขาอยากเจอมาตลอดสัปดาห์ เพราะนับตั้งแต่วันนั้น เขาก็จำต้องกลับบ้านคนเดียว ไม่สิ... มีคนกลับมากับเขาด้วย‘ลิเดีย ส่งแขก’ สิ้นคำพูดของแม่เขา ลิเดียก็เดินมาหาเขาทันที‘แม่...’ เขาร้องเรียกอีกฝ่ายอีกครั้งอย่างเว้าวอน‘อ่อ ถ้ากลับไปคนเดียวคงจะเหงาสินะ’ จู่ ๆ มาดามก็หันมาถาม ‘วินเซนต์ คุณกลับไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักก็แล้วกัน’อยู่ดี ๆ หวยก็ดันมาออกที่พ่อเขาซะอย่างนั้น วินเซนต์ได้แต่มองตาปริบ ๆ ‘ทำไมล่ะ’‘คิดว่า ฉันไม่รู้หรือไง ที่ลูกหนีฉันได้ตลอด มันก็เป็นเพราะคุณนั่นแหละ’ ราเชลมองตาขวาง ‘เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ ไปอยู่กับลูกซะ’ใช่ คนที่เขาได้พากลับบ้าน คือ พ่อของเขาเอง อย่าคิดว่า พ่อเขาจะค้านแม่ได้ แค่แม่ปรายตาก็ปิดปากเงียบสนิทแล้ว เหอะ เหอะ...