อัญชันเองก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ร้อยวันพันปีตนเองไม่เคยร้องขอสิ่งใดจากอินทรีย์เลย แต่กับนกแก้วตัวนั้นมันช่างน่ารักจับใจแต่อินทรีย์ก็ชั่งใจร้ายกับตนเองเหลือเกิน ที่ไม่ยอมอนุญาตให้รับนกตัวนั้นเอาไว้เลี้ยง
"คุณหนูอัญชันถึงกับร้องไห้เลยหรือเจ้าคะ"ชมพู่ที่เห็นว่าอัญชันไม่เคยร้องไห้เลย "ก็ข้าอยากได้เจ้านกตัวนั้นนี่พี่ชมพู่ มันน่ารักมากเลยนะ"อัญชันระบายสิ่งที่ตนอัดอั้นตันใจ "โถ่คุณหนูอัญชัน มันก็แค่นกตัวหนึ่งเท่านั้นอย่าไปสนใจมันเลยเจ้าค่ะ อย่าร้องไห้เดี๋ยวจะโดนพ่อคุ้มอินทรีเอ็ดเอาได้นะเจ้าคะ"นางชมพู่รีบเช็ดน้ำตาให้กับคุณหนูอัญชัน "ก็แค่อยากได้นี่ ข้าไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงน่ารักเช่นนั้น"อัญชันยังคงพูดทั้งน้ำตา อินทรีย์ที่ใจไม่แข็งพอก็มายืนแอบฟังตรงหน้าห้องของอัญชัน จึงได้ยินทุกถ้อยคำที่อัญชันกล่าวออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ แต่จะให้เขาทำเช่นไรหากให้อัญชันรับของของไอ้พันมันก็จะยิ่งได้ใจไปกันใหญ่ อินทรีย์ที่ได้ยินทุกถ้อยคำของอัญชันเขาก็ทำท่าทีไม่สนใจเดิคืนนี้อินทรีย์เลือกที่จะมานอนกับอัญชันดั่งเช่นทุกวันเพราะปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ความรู้สึกของอัญชันที่เปลี่ยนไปกับรู้สึกใจเต้นระรัวเมื่อเห็นอินทรีย์นอนรอตนอยู่บนเตียง หากเป็นเมื่อก่อนก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจและดีใจเพราะตัวเองเทิดทูนอีกอินทรีย์เยี่ยงผู้มีพระคุณเหนือหัว"เหตุใดจึงใช้สายตามองข้าเช่นนั้นเล่า ข้าไม่สามารถเข้ามานอนกอดเอ็งได้ดั่งเช่นวันวานหรือ"อินทรีย์ที่นอนตะแคงข้างใช้มือข้างหนึ่งเท้าหัวอยู่และใช้มืออีกข้างหนึ่งตบลงบนที่นอนเบา ๆ เป็นสัญญาณให้อัญชันขึ้นมานอนเสียที"เปล่าเสียหน่อยจ้ะพ่อ ข้าแค่รู้สึกไม่เหมือนเดิมกับเรื่องหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นวันนี้นะจ๊ะ"อัญชันเองถึงแม้จะรับรู้ความรู้สึกของอินทรีย์บ้างแล้วแต่ด้วยความที่ยังปรับตัวไม่ได้กลับตื่นเต้นเสียอย่างนั้น"มาเถิด ข้าไม่ทำอะไรเอ็งหรอก มันยังไม่ถึงเวลา แต่ขอให้เอ็งจำในสิ่งที่ข้าบอกเอ็งนับจากนี้ เอ็งอย่าได้เข้าใกล้ผู้ชายคนใดอีก ถ้าเอ็งไม่เชื่อฟังข้า ข้าจะลงโทษเอ็ง"อินทรีย์ที่พูดหมายหัวอัญชันเอาไว้"อัญชันจะเข้าใกล้ผู้ใดได้ล่ะจ๊ะพ่อ พ่อดุอย่างกับเสือเช่นนี้ ผู้
ดวงอาทิตย์อัสดงยามโพล้เพล้สีแดงสดใส สองดวงตาประสานกัน หัวใจทั้งสองดวงเต้นเข้าจังหวะ เหมือนโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ"ก็ข้าน่ะ สิเอ็งคิดว่าเป็นผู้ใดเล่าอัญชัน"อินทรีย์โอบกระชับร่างเล็กให้แนบชิดกับ ลำตัวของเขา แล้วใช้มืออีกข้างเกลี่ยปอยผมของอัญชันเหน็บไปที่ใบหู"บ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์ อัญชันจะคิดว่าเป็นผู้ใดได้อีกเล่า"อัญชันรู้สึกร้อนวูบวาบเขินจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึง"เหตุใดเมื่อเช้าเอ็งจึงหลบหน้าข้า ไม่ยอมกินข้าวกับข้าเชียวรึ" อินทรีย์ที่รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังขยั้นขยออยากจะได้คำตอบจากร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาใส่เขา"คืออัญชันแค่ช่วยยายปริกพับดอกบัวไหว้พระพรุ่งนี้นะจ๊ะ ก็เลยไม่ได้มากินข้าวเช้ากับพ่อคุ้มอินทรีย์ดังเช่นทุกวัน"อัญชันเลือกจะโกหกคำโต เป็นการเอาตัวรอดว่าตัวเองตกใจกับเหตุการณ์ในตอนเช้า"เอ็งแน่ใจรึ ว่าไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าข้า" อินทรีย์ยังคงถามคำถามเดิมย้ำไปย้ำมา"อัญชันเปล่าเสียหน่อยจ้ะพ่อคุ้ม จะมาเค้นเอาอะไรกับข้านะ อัญชันว่าขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน อัญเล่นน้ำนานแล้วเดี๋ยวจะได้ไข้อัญชันพยายามหา
หลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่ที่อินทรีย์อยู่กับอัญชัน ทุกอย่างราวกับโลกหยุดหมุน อัญชันที่ได้สติ รีบสลัดมือของอินทรีย์ออกจากแขนเรียวเล็กของตน แล้ววิ่งลงเรือทันที อินทรีย์ได้แต่ยิ้มและหัวเราะตามหลัง เมื่อเห็นอัญชันตกใจดั่งกระต่ายตื่นตูม เพราะก่อนหน้านี้เธอพยศยิ่งกว่าม้าเสียอีก อินทรีย์ใช้มือลูบริมฝีปากหนาพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย "คุณหนูอัญชันเป็นอะไรเจ้าคะ" ชมพู่เห็นอัญชันวิ่งหน้าตั้งลงมาจากเรือน พร้อมกับใช้มือลูบปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า "ปากไปเลยอะไรมาหรือเปล่าเจ้าคะ" ชมพู่ทำท่าชะเง้อคอมองอย่างสงสัย "มะ ไม่อะไรหรอกจ๊ะ..!" อัญชันรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที หัวใจดวงน้อยๆ เต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมพ่อคุ้มอินทรีย์ถึงได้ทำเช่นนั้นกับตน "เดี๋ยวชมพู่พาเด็ก ๆ ไปตั้งสำรับให้พ่อคุ้มอินทรีย์ได้เลยนะ พ่อคุ้มอินทรีย์ตื่นแล้ว" อัญชันสั่งชมพู่เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหา ยายปริก ทำท่าทีลุกลี้ลุกลน จนยายปริกเองก็อดสงสัยไม่ได้ "คุณหนูอัญชันเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงดูลุกลี้ลุกลนแปลก
อัญชันเองก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ร้อยวันพันปีตนเองไม่เคยร้องขอสิ่งใดจากอินทรีย์เลย แต่กับนกแก้วตัวนั้นมันช่างน่ารักจับใจแต่อินทรีย์ก็ชั่งใจร้ายกับตนเองเหลือเกิน ที่ไม่ยอมอนุญาตให้รับนกตัวนั้นเอาไว้เลี้ยง "คุณหนูอัญชันถึงกับร้องไห้เลยหรือเจ้าคะ"ชมพู่ที่เห็นว่าอัญชันไม่เคยร้องไห้เลย "ก็ข้าอยากได้เจ้านกตัวนั้นนี่พี่ชมพู่ มันน่ารักมากเลยนะ"อัญชันระบายสิ่งที่ตนอัดอั้นตันใจ "โถ่คุณหนูอัญชัน มันก็แค่นกตัวหนึ่งเท่านั้นอย่าไปสนใจมันเลยเจ้าค่ะ อย่าร้องไห้เดี๋ยวจะโดนพ่อคุ้มอินทรีเอ็ดเอาได้นะเจ้าคะ"นางชมพู่รีบเช็ดน้ำตาให้กับคุณหนูอัญชัน "ก็แค่อยากได้นี่ ข้าไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงน่ารักเช่นนั้น"อัญชันยังคงพูดทั้งน้ำตา อินทรีย์ที่ใจไม่แข็งพอก็มายืนแอบฟังตรงหน้าห้องของอัญชัน จึงได้ยินทุกถ้อยคำที่อัญชันกล่าวออกมาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ แต่จะให้เขาทำเช่นไรหากให้อัญชันรับของของไอ้พันมันก็จะยิ่งได้ใจไปกันใหญ่ อินทรีย์ที่ได้ยินทุกถ้อยคำของอัญชันเขาก็ทำท่าทีไม่สนใจเดิ
ไอ้พันที่จ้องมองใบหน้าสวยหวานราวกับนางฟ้า ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งอยากได้มาเป็นเมีย รอยยิ้มพิมพ์ใจของอัญชัน กระชากดวงใจทั้งดวงของไอ้พันออกมา ขณะที่อัญชันดีใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับนกแก้วตัวที่มันเตรียมมาให้ "น้องชอบหรือไม่ พี่ตั้งใจสั่งพ่อค้าเล่ที่มาจากเมืองอื่น ใช้เวลาแรมเดือนเลยหนากว่าจะมาถึง" ไอ้พันคุยโวทำคะแนนเก็บแต้มเพื่อเอาใจอัญชัน มันมาในครานี้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ อัญชันยกมือไหว้อย่างสวยงามและรู้สึกพึงพอใจกับสัตว์เลี้ยงที่แสนน่ารัก สีสันสดใสเช่นนี้ มีหรืออัญชันจะไม่ชอบ "ขอบน้ำใจที่พันมากนะจ๊ะที่มีใจนึกถึงข้า มันสวยงามมากเลยจ้ะ" อัญชันตอบกับเสียงใส "ชมพู่เองเห็นหรือไม่ ดูสิ สีสันสวยงามเชียว" อัญชันที่ดีใจเหมือนกับเด็ก หันไปถามนางชมพู่ที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ต่างกัน "แหม ก็แค่นกตัวเดียว จะดีใจอะไรนักหนา" นางมณีที่ทำหน้าปากเบะส่งไปให้กับอัญชัน และไม่ค่อยพอใจที่พี่ชายตนเองอยากได้นางอัญชันมาเป็นเมียจนตัวสั่น "เอ็งพูดอะไรของเอ็ง นี่ไม่ใช่แค่นกเพียงตัวเดียว แต่เป็นนกที่ข้าตั้งใจเอามาให้แม่อัญชันต่างห
มื้อเย็นผ่านไปอย่างทุลักทุเล เศรษฐีอ๋องรู้สึกเหมือนมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาจากตัวของอินทรีย์อยู่ตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่ไอ้พันตักกับข้าวหรือของต่าง ๆ ให้กับอัญชัน เขามักจะเห็นแววตาพิฆาตที่พร้อมจะเชือดลูกชายของตนตลอดเวลา อัญชันนั่งอยู่ข้าง ๆ อินทรีย์อย่างสงบเรียบร้อย เพื่อฟังการทำงานที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ในการช่วยกันตัดต้นไม้และทำทางถนนเกวียนให้ดีขึ้น เศรษฐีอ๋องและอินทรีย์นั่งปรึกษาหารือกันอยู่เกือบครึ่งชั่วยาม ลูกชายอย่างไอ้พันไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรเลย นอกจากนั่งจ้องหน้าอัญชันตาเป็นมัน ส่วนนางมณีก็ขอตัวเดินไปเดินมาอยู่รอบเรือน เพื่อชมบรรยากาศที่สวยงามบนเรือนของอินทรีย์ "อีจวง มึงดูสิ อีกไม่นานหรอก กูจะต้องเป็นเจ้าของครองเรือนนี้ และกูจะไล่อีนางเด็กอัญชันนั่นออกจากเรือนไปเสีย อีเด็กกาฝาก" นางมณีที่พูดกับอีจวงโดยไม่สนว่าจะมีใครมาได้ยิน "ข้าว่า ก่อนที่คุณหนูมณีจะฝันว่ามาเป็นคุณผู้หญิงเรือนนี้ ทำอย่างไรดีเล่า ในเมื่อพ่อคุ้มอินทรีย์ยังไม่แม้แต่จะชายตาแลทแม่มณีเลยสักนิด"