ข่าวของพ่อคุ้มอินทรีย์ที่ช่วยเหลือเด็กจากโรงบ่อนแล้วรับเลี้ยงไม่รู้ว่าจะในฐานะลูกเลี้ยงหรือในฐานะอื่นแต่ก็ถือว่าเป็นคนของพ่อคุ้มอินทรีย์ จะไม่มีใครกล้าแตะต้องอัญชันอีกหากพ่อคุ้มยังมีชีวิตอยู่
"ไอ้กล้ามึงเคยเห็นเด็กที่พ่อคุ้มรับเลี้ยงหรือยังวะกูอยากรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง ถึงได้ทำให้พ่อคุ้มรับเลี้ยงได้"ไอ้สนที่อยู่ดี ๆ ก็มีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทั้งๆที่ปกติก็เป็นคนพูดน้อย "กูก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันแหละมึง พ่อคุ้มให้อยู่แต่บนเรือนยังไม่เคยให้ลงมาข้างล่างเรือนเลยตั้งแต่มา" "จริงหรอวะ ปกติพ่อคุ้มไม่เคยชอบเด็กหรือไม่ชอบให้ใครขึ้นไปวุ่นวายบนเรือน หากไม่มีเหตุจริง ๆ แต่มึงดูเด็กคนนี้สิวะ มาถึงก็ได้อยู่บนเรือนใหญ่แถมยังไม่เคยได้ลงมาข้างล่างด้วยนะ" "กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละว่ะ แสดงว่าเด็กคนนี้ต้องมีอะไรดี" ลูกน้องมือซ้ายมือขวาอย่างไอ้ต้นกล้ากับไอ้สนยืนคุยกันอยู่ที่ซุ้มอาวุธ ทั้งสองจึงอยากจะมาที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์เพื่อเห็นหน้าเด็กที่พิเศษคนนั้น อัญชันเองที่มาอยู่เรือนของพ่อคุ้มตั้งแต่เมื่อคืนเธอได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ พ่อคุ้มยังไม่มีชุดอะไรให้เธอใส่ เธอจึงใส่ได้แค่เสื้อตัวโคร่ง ๆ ของพ่อคุ้มอินทรีย์ที่ยื่นให้เธอมา "อัญชัน อัญชัน....เสียงพ่อคุ้มอินทรีย์ตะโกนเรียกอัญชันจนลั่นเรือน "จ๋าพ่อคุ้ม"อัญชันรีบวิ่งดุกดิ๊กพร้อมกับส่งเสียงขานรับ *มัวทำอะไรอยู่วะ ทำไมมาช้าจัง"พ่อคุ้มอินทรีย์กำลังนั่งเลือกผ้าแพรผ้าสไบให้กับอัญชันเด็กที่เขาช่วยเหลือมา "อัญชันกำลังเก็บกวาดเช็ดถูเรือนให้กับพ่อคุ้มอยู่จ๊ะ อัญชันอยู่ว่าง ๆ ไม่รู้จะทำอะไร"อัญชันตอบเสียงใสแจ๋ว "มันไม่ใช่งานที่มึงต้องทำ ต่อไปนี้มึงมีหน้าที่ฝึกทำกับข้าวให้กูกิน ดูแลกูก็พอ ส่วนงานบนเรือนก็ปล่อยให้พวกบ่าวไพร่บนเรือนมันทำกันไป"พ่อคุ้มอินทรีย์พูดโดยไม่มองหน้าอัญชัน เพราะนั่งเลือกเสื้อผ้าให้อัญชันอย่างขะมักเขม้น คนบนเรือนที่ทำหน้าตกใจจนหน้าถอดสีที่เห็นพ่อคุ้มอินทรีย์มานั่งเลือกเสื้อผ้าสตรีเช่นนี้ ส่วนเด็กที่พ่อคุ้มช่วยมา หน้าตาดีน่ารักจิ้มลิ้มและนอบน้อมถ่อมตนขนาดยายปริกคนใช้เก่าแก่ประจำบ้านที่อยู่กับพ่อคุ้มมานานก็ยังรู้สึกแปลกใจ "มึงชอบสีอะไร มึงเลือกดูซิ กูเลือกให้มึงไม่ถูกกูก็เลยเหมามันมาซะหมดเลย"พ่อคุ้มอินทรีย์ตบโต๊ะเบาๆให้อัญชันมานั่งข้างๆ อัญชันที่ไม่รู้ประสีประสาเลือกที่จะนั่งข้างล่างแต่นั่งอยู่ติดขาใหญ่โตของพ่อคุ้ม ด้วยความนอบน้อมถ่อมตนและเกรงใจพ่อคุ้มอินทรีย์ "ทำไมมึงถึงไม่มานั่งข้างบนกับกูล่ะอัญชัน" "อัญชันไม่กล้าขึ้นไปนั่งข้าง ๆ พ่อคุ้มหรอกจ้ะแค่พ่อคุมช่วยชีวิตอัญชัน ก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงหมดแล้ว"อัญชันยังคงก้มหน้าก้มตาไม่กล้าเงยหน้ามองหน้าของพ่อคุ้ม "ฮ่า ฮ่า ทั้งชีวิตกูก็แทบไม่เคยจะช่วยใครจริงจังแบบมึง แต่ถ้าถามว่ากูฆ่าใครตายไปบ้างกูจะบอกมึงว่ากูก็นับศพไม่ถ้วน มึงเลิกกลัวกูเถอะขึ้นมานั่งกับกูนี่เร็วๆ"อัญชันที่ได้ยินว่าพ่อคุ้มฆ่าคนตายนับศพไม่ถ้วนกลับรู้สึกไม่กลัวพ่อคุ้มเลย "จ้ะพ่อคุ้มอินทรีย์"สองเท้าค่อยๆยืนขึ้นและไปนั่งด้านหน้าโต๊ะตัวเดียวกันกับพ่อคุ้มอินทรีย์ "ไหนมึงลองเลือก ซิ ว่ามึงชอบสีอะไร"อินทรีย์นั่งประกบอยู่ทางด้านหลังของอัญชัน.พร้อมกับมองดูอัญชันเลือกเสื้อสไบที่ตนชอบ อัญชันเลือกผ้าใหม่เพียง สองชุดเท่านั้นเพราะเกรงใจพ่อคุ้มอินทรีย์ และไม่ต้องการชุดใหม่มากนัก "เอาสองชุดนี้จ้ะพ่อคุ้ม" อัญชันยื่นชุดไปให้พ่อคุ้มดู อินทรีย์ที่เห็นก็ขัดใจ "อีจวง อีจวง มานี่หน่อยซิ"พ่อคุ้มเรีียกบ่าวคนหนึ่งพี่กำลังถูพื้นเรือนอยู่ "จ้าพ่อคุ้ม พ่อคุ้มมีอันใดให้บ่าวทำหรือเจ้าคะ" อีจวงบ่าวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่นานหน้าตาพอไปวัดไปวา แต่อีจวงเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง อยากจะได้พ่อคุ้มอินทรีย์มาเป็นของตัวเอง จึงหาทางให้ถ้าพ่อคุ้มอินทรีย์ตลอดมา "เดี๋ยวมึงมายกหีบผ้าสไบเข้าไปไว้ในห้องของอัญชันให้กูทีแล้วเก็บให้ดีล่ะ"พ่อคุ้มกำชับอีจวง "ได้จ้ะฉันจะยกเข้าไปให้เดี๋ยวนี้เลย"อีจวงที่จ้องมองอัญชันตั้งแต่หัวจรดตีน รู้สึกอิจฉาบุญวาสนาเด็กคนนี้เหลือเกินที่อยู่ ๆ มาก็ได้ขึ้นมาอยู่บนเรือนใหญ่แถมยังได้เสื้อผ้าใหม่และได้นั่งใกล้ชิดกับพ่อคุ้มอินทรีย์ "ป้าปริกอีนางเด็กนี่มันเป็นใครกัน ทำไมมันถึงได้ขึ้นไปอยู่บนเรือนใหญ่"อีจวงที่ลงมาถึงครัวก็เอ่ยถามยายปริกคนเก่าแก่ของเรือน "แม่อัญชันเป็นเด็กที่พ่อคุ้มอินทรีย์ท่านช่วยเหลือมาแต่น่าจะไม่ได้เหมือนพวกเรา ๆ อย่างเอ็งกับข้าหรอก" ยายปริกรู้ว่าไม่แน่อนาคตของอัญชันถ้าไม่เป็นคุณหนูของเรือน ก็อาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้เพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่เคยให้ใครขึ้นไปเหยียบบนเรือนใหญ่หากไม่มีเหตุจำเป็น นอกจากไอ้กล้ากับไอ้สนและบ่าวรับใช้ที่ต้องไปขัดถูเรือนก็ไม่มีใครได้ขึ้นไป "ก็แค่เด็กที่อุปการะมาเลี้ยงดู เหตุใดมันจึงได้นั่งกินนอนกินเช่นนั้น"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันตั้งแต่แรกเห็น "แข่งอันใดก็แข่งได้อีจวง แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันมิได้ดอกหนา เอ็งก็เป็นได้แค่ขี้ข้าเหมือนกับข้าทุกวันนี้เช่นไร"ยายปริกพูดตอกหน้าอีจวงอย่างไม่ไว้ "โธ่ยาย ยายก็ไม่ให้ฉันได้ฝันถึงพ่อคุ้มอินทรีย์บ้างหรืออย่างไร ดูพ่อคุ้มสิทั้งหล่อทั้งดูดีใครๆก็อยากเป็นเมียพ่อคุ้มอินทรีย์ทั้งนั้นแหละ"อีจวงพูดจบก็เดินสะบัดตูดพร้อมกับไปตักน้ำใส่ตุ่ม "อีจวงเอ้ยมึงนี่ฝันสูงจริง ๆ เลยหากพ่อคุ้มเขาจะเหลียวแลมึง เขาคงเหลียวแลไปนานแล้ว"ยายปริกตะโกนไล่หลัง "น้อยแน่..!อีเด็กเวรนี่ มาถึงก็ได้ขึ้นไปอยู่บนเรือนเชียว"อีจวงแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ "พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะ ทำไมพ่อคุ้มยกไปทั้งหีบแบบนั้นล่ะจ๊ะ มันต้องเสียเงินมากโขเลยนะ อัญชันไม่ได้อยากได้เยอะขนาดนั้นจ้ะ" อัญชันหันไปถามพร้อมกับทำตาโตใสแป๋ว "มึงไม่ต้องคิดมากดอก เงินทองอัดของกูมีอีกเยอะให้มึงใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่กูอยากให้มึงสุขสบายนับจากวันนี้ไป มึงเป็นคนของกูแล้ว"พ่อคุ้มอินทรีย์ไม่พูดเปล่า อุ้มอัญชันขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับโอบกอดอัญชันด้วยความเอ็นดู อัญชันรู้สึกอบอุ่นถึงอ้อมกอดนี้ อัญชันไม่ได้มีท่าทีรังเกียจรังงอนและไม่มีความตกใจอ้อมกอดนี้ทำให้อัญชันหวนคิดถึงแม่ของตนเองขึ้นมามันช่างอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัยเหลือเกิน...อัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจเพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย"พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็งอินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้"ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน"ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง"แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใครอัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา"ไป
ไอ้ทองอินเดินโซซัดโซเซ ตั้งใจจะเอาชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ไอ้ทองอินเหลือแต่ชีวิตของมัน และไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเมียและญาติคนสุดท้ายมันรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก จึงเดินตุ้มปัดตุ้มเป๋ไปในป่าโดยไร้จุดหมาย"อย่าให้กูฟื้นตัวมาได้นะ..!ไอ้อินทรีย์ ตาเขียว กูจะมาเอาคืนให้หมดทุกคนเลย ที่ทิ้งกู"ไอ้ทองอินกับเคียดแค้นให้กับลุงแท้ ๆ อย่างตาเขียวที่ไล่ตะเพิดมันออกจากบ้านและคนที่ซื้อลูกสาวมันไปอย่างพ่อคุ้มอินทรีย์ก็ยังจะมาซ้ำมันให้ออกจากหมู่บ้านอีกนับจากวันนั้นเป็นต้นมา วันแล้ววันเล่าชีวิตของอัญชันดูราบรื่นและสวยงาม อัญชันบัดนี้อายุเข้า 17 ปีดูสวยงามสง่า ความเป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนยิ่งผูกมัดใจของอินทรีย์เข้าไปทุกวัน"ยายปริกจ๋า วันนี้อัญชันขอไปลานฝึกอาวุธได้ไหมจ๊ะอยากจะเอาปลาสามรสไปฝากพ่อคุ้ม"อัญชันที่ยิ้ม หวานขอยายปริกให้ใจอ่อน"ก็ได้คุณหนูอัญชัน ยายให้ไปแต่คุณหนูอัญชันจะต้องไม่ไปก่อความวุ่นวายให้กับพ่อคุ้ม ต้องลำบากใจรู้หรือไม่"ยายปริกรู้ว่าอัญชันเองก็เป็นเด็กดีน่ารักแต่ก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย"อัญชันสัญญากับยายปริกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายเด็ดขาด อัญชันจะรีบไปรีบกลับ ขอเอาข้าวไปส่งให้กับ
อีจวงที่วิ่งหน้าตั้งไปตามไอ้สนและไอ้กล้าที่อยู่ร้าน น้ำชาข้างตลาด ไม่ไกลจากบ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์มากนัก เมื่อมาถึงอีจวงจึงรีบตะโกนเรียกคนทั้งสอง"พี่สน พี่กล้า พ่อคุ้มหัวอินทรีย์เรียกหาที่เรือนมีเรื่องรีบกลับไปที่เรือนทันที"อีจวงที่ยืนหอบแฮ่กๆแต่ก็ยังบอกทุกความของพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่มีตกหล่น"เกิดเรื่องอะไรวะ"ไอ้สนและไอ้ต้นกล้าหันไปพูดกับ อีจวงพร้อมกัน"ก็พ่ออีนางเด็กอัญชันน่ะ มันมาอาละวาดที่เรือนจะเอาอีอัญชันกลับ"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันก็เรียกจิกหัว ทันทีสองคนที่ได้ยินดังนั้น"นังจวงพูดจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยเถอะ แม่อัญชันก็เป็นคนสำคัญของที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้สนหันไปเอ็ดอีจวง"ช่างมันเถอะพวกพี่รีบไปเที่ยวเรือนก่อน"อีจวงที่ไม่สนใจเสียงบ่นกรนด่าของไอ้สนไอ้ทองอินที่อยู่ใต้ถุนเรือน ก็ยังคงโวยวายลั่นทำ ท่าทางจะขึ้นมาบนเรือนของอินทรีย์ให้ได้ แต่อินทรีย์ยืนขวางแม้แต่บันไดขั้นเดียวก็ไม่ให้ขึ้นเหยียบ"เอ็งมาทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ข้าอยากจะเอาลูกสาวข้าคืน เอ็งก็คืนมาสิ ข้าเป็นพ่อของมันนะ"ไอ้ทองอินทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่รับเ
สภาพของไอ้ทองอิน ที่โดนซ้อมจนใบหน้าปูดบวมบิดเบี้ยว กว่ามันจะลุกขึ้นมาได้ก็เล่นเอาช้ำใน เจ็บตัวไป 3-4 วัน เงินที่เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาทบาทสุดท้ายในสมัยนั้นเป็นเงินที่มากอยู่พอจะให้ตั้งตัวได้เลยแต่สุดท้ายไอ้ทองอินก็ยังหอบสภาพสังขารด้วยใบหน้าที่ปูดบวมไปเล่นการพนันในบ่อนท้ายหมู่บ้านจนสิ้นเนื้อประดาตัวไอ้อินที่โดนเอามาทิ้งใกล้ ๆ กับโรงหมอ ก็ได้หมอใจดีช่วยรักษาจนหาย แต่คนอย่างไอ้ทองอินก็เปรียบเสมือนงูพิษมันพร้อมจะชกกัดกับทุกคน"หมอข้าขอยาแก้ปวดหน่อยสิ ข้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมด"ใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ของไอ้ทองอินก็ยังไม่ดีขึ้น มันก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ได้อีกแล้ว"ข้าก็เพิ่งจะให้เอ็งกินไปไม่ถึงชั่วยาม เอ็งก็ต้องรอหน่อยสิวะ มันก็ต้องปวดเป็นธรรมดาสมุนไพรยังไม่ออกฤทธิ์"คนเป็นหมอถึงกับส่ายหัว กับคนไข้อย่าง ไอ้ทองอิน แม้แต่เงินสตางค์แดงเดียวไอ้ทองอินก็ไม่จ่าย"โธ่เว้ย..! ทำไมข้าต้องมาทนเจ็บปวดด้วยวะ หมอยังเองนี่มันไม่ได้เรื่อง"ไอ้ทองอินลุกขึ้น โซซัดโซเซ สีหน้าชี้หนาด่าทอหมอที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้"ถ้าเอ็งพูดอย่างนี้ เอ็งก็ออกไปจากโรงหมอของข้าเสีย แล้วอย่าย้อนกลับมาอีก"คนเป็นหมอถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน
ไอ้กล้ากับไอ้สนถือวิสาสะพาตาเขียวเดินขึ้นไปบนเรือนของอินทรีย์ เพื่อไปพบกับอินทรีย์ที่นั่งอยู่กลางเรือน นั่งดูอัญชันฝึกร้อยมาลัยอยู่กับยายปริกที่พื้นด้านล่างตรงหน้าของเขา"พ่อคุ้มอินทรีย์ ดูสิจ๊ะ มาลัยของอัญชันบูดเบี้ยวไม่สวยเหมือนของยายปริกเลย"อัญชันทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกรู้สึกน้อยใจในฝีมือของตัวเองยายปริกจึงพูดปลอบใจอัญชันว่า "ตอนที่ยายฝึกทำครั้งแรกโย้เย้กว่าของเอ็งเยอะเลย อัญชันเนี่ยถือว่าเก่งแล้ว เอ็งต้องฝึกฝีมือมาก ๆ นะ'ยายปริกเอ่ยบอกให้อัญชันได้รู้สึกดีขึ้น"จริงหรอจ๊ะ"อัญชันหันไปถามยายปริกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ"จริงสิ ยายจะหลอกเอ็งทำไมล่ะ กว่ายายร้อยมาลัยเก่ง สวยขนาดนี้ ยายก็ฝึกจนเข็มแทงนิ้วไม่รู้กี่พันรอบ"ยายปริกรู้สึกเหมือนมีหลานสาวตัวเล็ก ๆ ทำให้เรือนนี้ดูมีชีวิตชีวาตาเขียวที่ยืนมองดูหลานสาว อยู่ตรงหัวกระได รู้สึกมีความสุขที่ เห็นหลานสาวมีรอยยิ้มและดูหน้าตาสดใสเพียงแค่เวลาวันสองวันเท่านั้นเอง แต่ตาเขียวก็อยากจะไปคุยกับพ่อคุ้มอินทรีย์ให้รู้เรื่องเพื่อความปลอดภัยของหลานอินทรีย์หันไปตามเสียงก๊อกแก๊กที่ตรงหัวบันไดบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่ไอ้สนกับไอ้กล้า จูงใครคนนึงมาบนบ้านของเขาโ
ไอ้ทองอินที่ได้เงินสามร้อยห้าสิบบาทเป็นเงินที่ขายลูกสาวกิน มันเอาไปถลุงในบ่อนพนันเพียงคืนเดียวก็เหลือติดตัวเพียงยี่สิบบาท มันจึงรีบล่าถอยกลับไปหาลุงของมันที่เรือน"ลุงเขียวจ๊ะ ข้าขอโทษจ้ะ"ไอ้ทองอินก้มลงไปกราบ ลุงเขียว เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ทำให้ลุงได้รับบาดเจ็บตาเขียวที่เห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำท่าทางขอขมาลาโทษก็รู้สึกใจอ่อน แต่ก็ไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด"แล้วหลานสาวกูอยู่ที่ไหน มึงเอาแม่อัญชันไปขัดดอกจริงๆ ใช่ไหม"ตาเขียวเค้นถามหลานชายหัวแก้ว หัวแหวน ตาเขียวถามหาหลานสาวสุดที่รักอย่างอัญชันเมื่อวานแกพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยความบาดเจ็บของคนแก่จึงทำอะไรไม่ได้"ฉันขายนางอัญชันให้กับผู้ชายคนนึงไปแล้วฉันได้เงินมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาท" ตาเขียวโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ที่ไอ้ทองอินขายลูกกินอย่างไม่รู้สึกผิด แกจึงใช้ไม้ตะพดฟาดไปที่หัวของ ไอ้ทองอินจนแตก พร้อมกับตวาดลั่นบ้าน แกเอ่ยไล่ไอ้ทองอินทร์ให้ออกจากบ้านไป"มึงนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ ขนาดลูกหมาลูกแมว มันยังรักลูกของตัวเอง แต่นั่นลูกสาวมึงแท้ ๆ มึงยังกล้าขายให้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนคิดไว่ะ..?"
วันนี้เป็นวันแรก ที่อัญชันได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็นเย็นวันนี้อัญชันที่ฝึกทำปลาสามรสกับยายปริกและน้ำพริกกะปิผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์เป็นครั้งแรกอัญชันรีบช่วยยายปริกยกข้าวเย็นขึ้นมาบนเรือน"เอ็งทำอันใดให้ข้ากินหรืออัญชัน"พ่อคุ้มอินทรีย์ที่พึ่งอาบน้ำผัดเสื้อผ้าก็เดินออกมา"อัญชันทำเมนูปลาสามรส น้ำพริกกะปิแล้วก็ผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ ลองกินดูจ๊ะ"อัญชันยิ้มหวานเนื้อตัวยังมีแต่กลิ่นกับข้าวพ่อคุ้มอินทรีย์เดินเข้าไปหาอัญชัน โอบกอดร่างเล็ก ๆ พร้อมกับหอมแก้มเบาๆ ดังฟอด..!"พ่อคุ้ม...!!!"อัญชันเรียกอินทรีย์เสียงดังเพราะแอบตกใจที่อยู่ดีๆก็โดนขโมยหอมแก้ม"ทำไม มึงเป็นคนของกูแล้ว กูบอกมึงแล้วไง ไม่ต้องตกใจหรอก ต่อไปนี้ทุกอย่างบนตัวมึงเป็นของกูแต่เพียงผู้เดียว"อินทรีย์พูดไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น"อัญชันแม้จะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแบบที่พ่อคุ้มทำ ก็ยิ่งรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของตน"ขอบใจเอ็งมาก เอ็งก็มากินข้าวพร้อมข้าเลยแล้วกัน"อินทรีย์ที่จุงมือเล็ก ๆ ให้เดินตามมาด้วยอีจวงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับโถข้าว แทบจะทำโถข้าวหลุดมือ เมื่อเห็นภาพพ่อคุ้มอินทรีย์
อินทรีย์จ้องมองลูกน้องทั้งสองตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่สอดรู้สอดเห็น เรื่องของเขาไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้พวกมันจะดูทะเล้นตึงตังไปบ้าง แต่ยามที่สู้รบปรบมือ พวกมันก็ไม่เคยถอยและไม่เคยทิ้งอินทรีย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นตายแทนเขาได้เสมอ"ช่างสอดรู้สอดเห็นเสียจริงพวกมึง อัญชันเป็นคนของกู นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง"อินทรีย์ใช้น้ำเสียงที่ดูอ่อยโยนทำให้อัญชันไม่รู้สึกกลัว"แม่อัญชันจ๊ะฉันชื่อไอ้กล้า ส่วนเนี่ยไอ้สน แม่อัญชันอย่าได้กลัวฉันสองคนเลยนะ ฉันเป็นลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้กล้าที่มันก็กล้าสมชื่อได้พูดขึ้นไอ้สนใช้มือตบไปที่เพื่อนเบา ๆ ให้หยุดพูดเสียทีเดี๋ยวจะปากพาซวยกันทั้งคู่แต่ไอ้กล้าก็ไม่ได้ฟังอัญชันหันมองคนทั้งสองพร้อมกับผงกหัวรับอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กอย่างอัญชันทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดในสายตาของอินทรีย์ อินทรีย์ค่อย ๆ อุ้มอัญชันออกจากตัก ให้นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้วงแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้"ไหน ไหน ก็ไหน ไหนแล้ว ทำความรู้จักไว้เสียสิอัญชัน อันนั้นไอ้สนหน้าตามันจะดูรูปทั่วตัวดำแต่มันเป็นคนจิตใจดี""ส่วนคนนั้นไอ้กล้าปากหมาพาซวยถึงแม้มันจะดีดดิ้งไปบ้างไม่ค่อยเชื่อฟังคำ
อินทรีย์ที่อุ้มอัญชันขึ้นมากอดกระชับไว้แน่นพร้อมหอมใบบนหน้าผากมนด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของอัญชัน ทำให้อินทรีย์อดใจไม่ไหวจึงแกล้งหยอกล้ออัญชันจนมันหัวเราะร่วน"ฮ่า ฮ่า พ่อคุ้ม อัญชันจั๊กจี้จ้ะ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว"อัญชันที่โดนพ่อคุ้มกลั่นแกล้งนั่งหัวเราะร่วนอยู่บนตักแกร่ง"กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้อัญชัน แต่ต่อไปนี้เอ็งจะต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังทุกเรื่องที่ข้าพูดเข้าใจไหมพ่อคุ้มอินทรีย์บอกกับอัญชันอย่างจริงจัง"อัญชันสัญญาจ้ะ อัญชันจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังที่ พ่อคุ้มบอกทุกเรื่องเลยจ้ะ อัญชันอยากจะเรียนทำอาหารเพิ่มได้ไหมจ๊ะ""เมื่อก่อนแม่ของอัญชัน มักจะสอนอัญชันทำขนมแล้วก็อาหารมากมาย อัญชันอยากรู้ว่าพ่อคุ้มชอบกินอะไรอัญ ชันจะได้ทำให้พ่อคุ้มกินทุกวันเลย"อัญชันที่พูดเอาอกเอาใจพ่อคุ้มอินทรีย์ด้วยความไร้เดียงสาอัญชันรู้สึกรักและผูกพันกับพ่อคุ้มอย่างบอกไม่ถูก"มึงเป็นเด็กที่น่ารัก และรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริงนะไม่เสียแรงที่กูช่วยมึงมา"พ่อคุ้มพูดคุยกับอัญชันอยู่นานสองนานอย่างไม่รู้สึกเบื่อทางด้านไอ้ต้นกล้าและไอ้สนที่เดินดั้นด้นจากลานฝึกมาจนถึงเรือนของพ่อคุ้ม มันแอบดูอยู่ตรงชายบันไดเรือน ก็ถึงก