Share

4 ตัดเถา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-28 12:07:43

4 ตัดเถา

เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้า นลินลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ และออกจากห้องน้ำด้วยท่าทีอ่อนแรง เพราะนี่เป็นครั้งที่ห้าแล้วที่เธอเข้าห้องน้ำเพราะท้องเสีย หลังจากที่กลับมาจากไร่   แต่ความรู้สึกของเธอบอกตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ตอนที่คว้าขนมปังซองที่ซื้อมาตุนตั้งแต่เมื่อวาน หางตาของเธอก็สบเข้ากับองุ่นเต็งตึงในตะกร้าหวายสานสำหรับวางผลไม้บนโต๊ะกินข้าว   เมื่อวานเธอกินองุ่นพวกนี้โดยที่ไม่ล้างก่อน นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้กลับมาถึงบ้านแล้วท้องเสีย

เธอจัดการกินมื้อเช้าแห้ง ๆ ฝืดคอจนหมดซอง ดื่มน้ำตามอีกครึ่งขวดแล้วรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน จึงไปค้นตู้ยาสามัญประจำบ้านที่รอดพ้นจากการถูกแก๊งทวงหนี้ทำลาย

โชคเข้าข้างที่มีเกลือแร่อยู่หนึ่งซองพอดี เธอไม่ลังเลที่จะ ฉีกซองชงดื่ม อึกแรกรู้สึกได้ถึงความสากลิ้นแต่ไม่สนใจแล้วดื่มจนหมด จู่ ๆ ในหัวก็นึกอยากดูวันหมดอายุของยาขึ้นมา

“ไม่เอาดีกว่า” เธอวางซองเกลือแร่ลงบนโต๊ะพูดงึมงำ

“ช่วงนี้ชีวิตแกก็มีเรื่องให้ท้อแท้มากพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเพิ่มมวลสารแย่ ๆ ให้สมองตั้งแต่เช้า”

นลินออกมานอกบ้านไม่พบรถสองแถว จึงเดินรอไปเกือบ   สิบนาที รถสองแถวที่มีป้ายติดด้านหน้าว่าไร่องุ่นนายหัวก็ได้เคลื่อนที่มาบนถนน  นลินค่อนข้างมั่นใจว่าจำไม่ผิดคันจึงโบก ให้จอด เช้านี้เธอจึงมาถึงที่ทำงานโดยไม่เหนื่อยเท่าเมื่อวาน พอมาถึงลงจากรถได้ทุกคนก็กรูกันเข้าไปในไร่

วันนี้หน้าที่ของคนงานหน้าใหม่ไม่ใช่การแพ็กองุ่นเหมือนเมื่อวาน แต่พี่พรพาเธอออกจากโรงงานไปกลางแจ้ง

“พี่ประเมินแล้วว่าเมื่อวานเธอทำองุ่นดี ๆ ของทางไร่เสียหายไปหลายกิโล วันนี้จะให้ไปอยู่จุดที่ไม่มีผลองุ่น หวังว่าเธอจะไม่ทำเถามันเสียหายไปด้วยนะ”

“ไม่ทำแน่ค่ะ” คนรับปากไม่ได้มั่นใจในตัวเอง แต่นั่นคือคำพูดที่ดีที่สุดที่ต้องพูด ภายในใจนึกเสียดายที่จะไม่ได้องุ่นกลับบ้านแบบฟรี ๆ อีก

พี่พรพาเธอมายังสวนองุ่น ที่แต่ละต้นมีใบหร็อมแหร็มมองดูแล้วเหมือนมองคนหัวล้าน ส่งกรรไกรตัดแต่งกิ่งอันหนักให้แล้วก็ออกคำสั่งให้ลงมือทำ โดยไม่มีการสาธิต

“ตัดเถาที่ผิดปกติทิ้ง”

“พี่พรจะลองทำดูก่อนไหมคะ”

“ไม่ต้อง การตัดแต่งไม่ใช่การส่งขาย ไม่จำเป็นต้องทำให้สวยงามไร้ตำหนิ เธอลงมือได้เลย” เสียงโทรศัพท์มือถือของพรดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมารับสายพร้อมชี้ปลายปากกาขึ้น ๆ ลง ๆ ไปทางนลินเพื่อเร่งให้ลงมือทำงาน

ฉับ !

เธอตัดเถาของต้นองุ่น เถาที่มีสีเทารูปทรงแห้งเหี่ยวเหมือนว่าตายซากไปแล้ว

ฉับ ! ฉับ ! ฉับ !

จัดการตัดเถาลักษณะเดียวกันอีกหลายเถา กว่าที่พี่พรจะวางสายเธอก็ทำเสร็จแล้วทั้งแถว

พรเดินกลับมาดูผลงาน เบิกตากว้าง ก้มลงจดยิก ๆ เหมือนที่ทำเป็นประจำ เมื่อนลินเห็นว่าไม่มีคำชี้แนะ คนอยากพิสูจน์ตัวว่าขยันก็เคลื่อนที่ไปอีกแถวที่อยู่ถัดไป แถวนั้นมีคนงานประจำอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปใกล้หวังทักทาย แต่กลับถูกไล่ไปอยู่แถวอื่น

นลินเดินพ่นลมออกทางปากไปยังแถวที่ปลอดคน ลงมือตัดแต่งเถาองุ่นอย่างว่องไว ตัดแต่งแถวที่สอง ไปแถวที่สาม ที่สี่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่าโดยรอบไม่เหลือคนอื่นแล้ว มีเพียงต้นองุ่นหัวโล้นที่ถูกตัดแต่งเถาจนเหี้ยนโกร๋นกับดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่   ที่เคลื่อนขึ้นมาตรงกลางหัว บ่งบอกเวลาว่าเป็นช่วงพักเที่ยง

ท้องไส้ก็รู้คิวเป็นอย่างดี พอเดินกลับออกมาจากแปลงองุ่นท้องก็ร้องหิว ๆ เข้าไปในโรงครัวที่มีอาหารแจกฟรีพบว่ามีคนงานคนอื่น ๆ เดินขวักไขว่ บางคนจับจองม้านั่งสำหรับนั่งกินข้าว ต่างคนต่างส่งเสียงคุยจ้อแจ้ จนการมาถึงของเธอนั้นได้ทำให้ทุกเสียงเงียบลง

เมื่อรู้ตัวว่าเป็นที่รังเกียจของสังคมก็ไม่ฝืนอยู่ใกล้ นลินเดินไปตักข้าวราดแกงพูน ๆ กินเผื่อตอนเย็น เดินเลี่ยงออกไปจากจุดที่ทุกคนมองเห็นไม่ถนัด นั่งหลบมุมกินข้าวตามลำพัง กินจนหมดก็นำจานไปเก็บในถังสำหรับใส่จานใช้แล้ว เพื่อให้แม่ครัวนำไปล้างตอนที่พวกเธอกลับออกไปสู้งานต่อ

แต่ร่างกายที่อ่อนล้าเกินจะรับไหวทำให้การทำงานของเธอเริ่มเชื่องช้าลง กรรไกรที่เคยหนักดูเหมือนจะหนักยิ่งขึ้นจน ฝืนยกต่อไปแทบไม่ไหว นลินเกือบจะร้องไห้ออกมา อาการเหม่อลอยทำให้เธอถูกกรรไกรแต่งกิ่งบาดเข้าที่มือ

“โอ๊ย”

 เสียงร้องพร้อมอาการเจ็บแปลบ ตาพร่าลายเมื่อเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกจากนิ้ว เรือนร่างโอนเอนจวนจะล้ม กับแสงแดดที่ร้อนแผดเผา ความอบอ้าวไร้ลมพัด ทุกอย่างผสมปนเป ในตอนนั้นเองที่ได้มีคนงานคนหนึ่งวิ่งเข้ามาช่วยประคองเธอเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มไป

“โฮะ !” เขาอุทาน “นิ้วขาดหรือเปล่านิ”

“ไม่ขนาดนั้น”

“ไปทำแผลก่อนดีกว่า เราชื่อคุ้ง เธอเพิ่งมาทำงานใหม่เหรอ”

“ใช่ เราลิน คุ้งทำงานที่นี่นานหรือยัง เป็นคนที่ไหนหน้าตาดูไม่เหมือนคนในพื้นที่”

“ถามซะเยอะ” คุ้งบ่น

ตอนนี้ทั้งสองเดินมาถึงห้องพยาบาลที่มีเตียงนอนพัก โต๊ะ และตู้ยา คุ้งเปิดตู้ค้นหาอุปกรณ์ทำแผล ท่าทางไม่เงอะงะตอนหาของ บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี

“ทำแผลเป็นด้วยเหรอ เก่งจัง”

“ต้องทำเป็น ค่านายหมอแพง”

“ทำไมถึงเรียกนายหมอ”

“ที่บ้านเรียกแบบนี้” คุ้งตอบ

ระหว่างที่ช่วยทำแผลก็ได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น ทำให้นลินรู้ว่าคุ้งเป็นชาวเขาที่ตามญาติมาทำงาน มีหน้าที่ยกจับฉ่าย คือยกตะกร้าองุ่นขึ้นรถส่งออก ยกถัง ยกได้ทุกอย่างตามที่จะถูกเรียกใช้ บางครั้งก็ถูกเรียกตัวไปช่วยงานที่โรงบ่มไวน์

ทำแผลเสร็จ นั่งพักยังไม่หายเหนื่อยพี่พรก็เดินมาตาม ให้กลับไปทำงานต่อ แต่เมื่อเห็นว่าเธอมีแผลที่มือจึงโยนหน้าที่ให้กลับไปแพ็กองุ่น

“ขนาดมือตัวเองยังตัดเดี๋ยวจะตัดต้นองุ่นเอา” พรให้เหตุผล

ทั้งไร่มีแค่คนตรงหน้าที่พูดคุยด้วยมากที่สุด แต่นลินก็ยังรู้สึกได้ว่าพี่พรพูดแบบขอไปที ทำตามหน้าที่แบบเลี่ยงไม่ได้ งานแพ็ก องุ่นถึงจะทำอยู่ในที่ร่มแต่ต้องใช้มือในการทำงาน

ถึงจะรู้ดีว่าการมอบงานนั้นไม่เหมาะสมแต่นลินก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เดิมทีเธอไม่ใช่คนที่จะยอมถูกกระทำง่าย ๆ แต่เพราะเป็นคนมาใหม่ ประวัติครอบครัวไม่ดี คนงานส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจากครอบครัวของเธอ จึงไม่อยากสร้างจุดสนใจ  คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยงานแพ็กก็ได้อยู่ในที่ร่ม แถมยังมีหวังว่าจะได้องุ่นกลับบ้านเหมือนเมื่อวาน

รถขนองุ่นเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าโรงงาน มีคุ้งกระโดดโหยงลงมาจากที่นั่งคนขับ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าไปเปิดท้ายรถ ลากตะกร้าองุ่นลงแล้ววางตรงจุดเริ่มต้นของสายพาน

หัวคิ้วของคุ้งขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อมองเห็นนลิน จากนั้นก็กลับไปสนใจงานของตัวเองอย่างแข็งขัน ปกติต้องมี   คนประจำจุดเทองุ่นจากตะกร้าลงสายพานให้ไหลไปยังจุดแพ็ก แต่เมื่อไม่มีคุ้งเลยลงมือจัดการด้วยตัวเอง

พอป้าคนที่เคยเข้ามาถามว่านลินเป็นลูกพ่อแม่หรือไม่กลับมาก็พูดกับเพื่อนด้วยถ้อยคำเหน็บแนมว่า คนบางคนคงบอบบางจนยกตะกร้าไม่ไหว ต้องให้ผู้ชายคอยช่วย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   -ต่อ- ตอนพิเศษ

    อิทธิพัทธ์อมยิ้มเล็กน้อย โน้มตัวลงบดจูบริมฝีปากบวมแดงอย่างหลงใหลแค่นลินเผยอปากเพียงนิดเดียว ลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายก็เข้ามากวาดความหวานอย่างตามใจ ไม่รู้ว่าจูบนั้นเพลิดเพลินและโหยหากันและกันมากแค่ไหน พอรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของเธอก็นาบลงบนเตียงนุ่ม ส่วนผัวรักของเธอก็ยังคงรักษาคอนเซปต์ของความป่าเถือนอย่างคงเส้นคงวาแคว่ก ! เพนตี้ลูกไม้ขาดถูกโยนออกไปไกล“นี่ ! นายหัว ฉีกมันอีกแล้วนะ ไอ้โรค อื้อ…”คำว่า ‘จิต’ ค้างอยู่ในลำคอเมื่อลิ้นอุ่นเลื่อนลงไปทักทายกลีบกลางอย่างรวดเร็ว“ลิน หวานมาก” เขาหยุดแล้วส่งเสียงอู้ ๆ อี้ ๆ บอกเธอก่อนจะทำการชำแหละหาความหมอหวานต่อนลินดิ้นเร่าอ้าขาออกกว้างอย่างหน้าไม่อาย แน่นอนว่าเธอคิดถึงความสุขสุดยอดนี้แค่ไหน นึกว่าอีตาผัวกระทิงควายจะกลายเป็นโรคประสาท สมองกลับจนไม่ทำแบบนี้ให้เธออีกต่อไปแล้ว โอ้วววแม่เจ้า ขอต้อนรับกลับบ้านค่ะนายหัวผัวกระทิงควาย นลินคิดในใจขณะเคลิบเคลิ้มวิ่งเล่นอยู่บนดวงจันทร์“ฉัน อื้อ เสียว ไม่ไหวแล้วค่ะนายหัว”อิทธิพัทธ์หยุดการเคลื่อนไหว นั่นทำให้นลินยิ่งประหลาดใจ ดวงตาพร่าสวาทกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นก็กว้างขึ้น นัยน์ตาดำขลับมีรูปเครื่องหมายคำถาม ( ?

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   ตอนพิเศษ

    พยายามจะสะกดใจ แต่…นลินถือไดร์เป่าผมสะบัดไปมาบนผมเปียกที่พึ่งสระเสร็จอยู่หน้ากระจก ท่าทางของเธอเหมือนตั้งใจจะให้ผมนั้นกลับมาแห้งสสวยโดยเร็ว ๆ ทว่าจริงแล้วดวงตากลมโตไม่ได้สนใจผมของตัวเองสักนิด แต่กำลังมองผ่านกระจก ดูเรือนร่างกำยำที่ใส่ผ้าขนหนูในลักษณะหมิ่นเหม่ กำลังเช็ดผมแบบลวก ๆ ทำท่าเหมือนจะอ่อยเธอ นลินนึกถึงเมื่อตอนบ่ายของวันนี้ที่สินประกาศดังลั่น“เอาล่ะทุกคนตอนนี้นายหญิงของไร่ร่างกายอ่อนเพลียมากต้องการพัก เชิญทุกคนไปสังสรรค์ร้องโฮ่ฮู้กันต่อได้ที่โรงอาหาร”เสียงเฮดังลั่นขณะที่เรือนร่างของเธอถูกว่าที่เจ้าบ่าวอุ้ม ตอนนั้นเธอเข้าใจว่าคงต้องปรนเปรอนายหัวกระทิงควายเป็นแน่ เธอคิดถึงเขา เขาคิดถึงเธอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากการกลับมาเจอกันอีกครั้งจะกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์แบบนันสต็อปทว่ากลับผิดคาดเมื่อเขาวางตัวเธอลงบนโซฟาห้องรับแขก ตรงหน้าคืออาหารชั้นดีบำรุงครรภ์ พยาบาลบอกด้วยหน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามมาด้วยยาสำหรับคุณแม่ท้องอ่อน แน่นอนว่าตานายหัวอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับเธอ“นายหัวกินข้าวได้เยอะแบบนี้ผมก็เบาใจ”“นายไปร่วมส

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   26.1

    “ทำไม คุณเสียใจมากหรือไงที่ฉันท้อง หรือคุณจะหาว่าฉันท้องกับคนอื่น”“ลิน” อิทธิพัทธ์ทำหน้าตกใจ เมื่อหันกลับไปพบนลินยืนเท้าสะเอวอยู่ จึงถามเสียงสั่นว่า“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”“ไม่สำคัญหรอก” เธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกตามตรงว่าเธอมาตั้งแต่ตอนที่เขาพูดคุยกับนายหัวหนุ่ยทำให้เธอเพิ่งรู้ถึงเหตุผลอันแท้จริงของการที่เขาไล่เธอออกไปจากไร่ และเขายอมเสี่ยงแค่ไหนเพื่อจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง มันทำให้ความโกรธในใจหายไปราวกับปลิดทิ้ง แทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง เขาเป็นคนเดียวในชีวิตที่ยืนหยัดเพื่อเธอมากขนาดนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอยอมกลืนน้ำลายตัวเอง“ฉันไม่เคยคิดว่าเธอท้องกับคนอื่นเลยนะ ฉันมั่นใจว่าลูกเป็นลูกของฉัน ฉันถึงได้ซื้อของใช้เด็กอ่อนเอาไว้มากมายรอลูกของเรา ฉันอยากให้ลูกเกิดมาบนความพร้อม และความรัก ฉันสัญญาว่าจะทำหน้าที่พ่ออย่างดีที่สุด จะไม่ทำให้ลูกขาดความอบอุ่น หรือรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น ลูกอินทร์ชื่อลูกของเรา มาจากลินกับอิทไง ฉันตั้งเอง”นลินขมวดคิ้วให้กับชื่อนั้น“เห็นไหม บอกแล้วว่าฉันตั้งใจกับหน้าที่พ่อมากแค่ไหน และฉันสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เราคืนดีกันนะ”“ง่ายไปหรือเปล่า”“อะไรง่าย”

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   26 เหตุผล -ตอนจบ-

    26 เหตุผล “มีอะไร” อิทธิพัทธ์ถามเสียงขุ่น ยกมือออกจากหน้าขาของอีกฝ่าย นลินรู้สึกขัดเขินกับความใกล้ชิดต่อหน้าคนอื่น จึงดึงผ้าห่มขึ้นห่มถึงคาง เบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างมองแปลงองุ่นที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา “นายหัวหนุ่ยโทร. มาครับ แจ้งว่าต้องการคุยกับนายหัวด่วน คงจะเป็นเรื่อง…” สินหยุดพูดไปเท่านั้น แต่ทุกคนก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่าคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากเรื่องที่เขาพานลินเข้าบ้าน นี่เป็นการผิดสัญญาที่เขาเคยรับปากกับนายหัวหนุ่ยไว้ ตอนที่ให้นลินย้ายออกไป เขาถูกนายหัวหนุ่ยเรียกพบเพื่อพูดคุยกันเรื่องนี้ ความจริงแล้วนายหัวหนุ่ยไม่ได้สนใจว่าเขาจะนอนกับใครหรือไล่ใครออกจากงาน ที่เขาสนใจเรื่องนี้เพราะมันกระทบกับลูกสาวของเขา นั่นย่อมหมายถึงกระทบกับตัวเขาเช่นเดียวกัน การที่อิทธิพัทธ์ยอมหักหน้าภาพิมลเพื่อแม่บ้านคนเดียว เป็นเรื่องที่รู้ถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น ลูกสาวของเขาถึงจะผิดจะถูกอย่างไรก็เป็นคุณหนูชาติตระกูลดี จะปล่อยให้ถูกคนงาน เยาะเย้ยว่าแพ้แม่บ้านก็เหลือทน นายหัวหนุ่ยบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเรื่องนี้ตนรับไม่ได้ ในเมื่ออิทธิพัทธ์ตัดสินใจไล่แม่บ้านสาวคนนั้นออกไปแล้ว ก็อยากให้มันเป็นการขับไล่อย

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   25.1

    แน่นอนว่าลูกค้าคนสำคัญทำให้เธอมีเงินเหลือเก็บ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นเพียงระยะเวลาอันสั้น เด็กสมัยนี้โตไวซื้อของไปก็ใช้ได้แค่แป๊บเดียวเอง เธอจึงอยากหาลูกค้าแบบนี้เพิ่มหลังจากปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปได้เพียงไม่นาน นลินก็กลับมาสนใจออเดอร์ของลูกค้าอีกครั้ง จัดแจงกดเบอร์ในมือถือโทรไปยังร้าน ‘โลกของเด็ก’ เป็นร้านขายของใช้เด็กของป้าสวย เพื่อสอบถามสต๊อกและยืมรถสำหรับนำส่งลูกค้าประจำคนนี้เมื่อถึงเวลานัดส่งมอบสินค้า นลินกับเบิ้ม เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี เป็นหลานชายป้าสวย ได้ไปตามสถานที่นัดก่อนเวลานัดหมายสิบนาที และพบว่าพี่ลูกอินทร์ก็มาก่อนเวลาเช่นเดียวกันแต่ผิดคาดเล็กน้อยเมื่อพบว่าลูกค้าดีเด่นคนนี้เป็นผู้ชาย แล้วยังเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่เธอคิดจะขายของใช้เด็กอ่อนให้ !“นายหัว !”“เธอจะตะโกนทำไม” อิทธิพัทธ์สวมแว่นตาดำ ทำให้มองไม่เห็นแววตาของเขา แต่จากสีหน้าสามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกพอใจ“ฉันเอาของมาแล้ว ฉันไม่ได้เอามาให้นายหัวเล่นสนุกนะ”“ใครบอกเธอว่าฉันเล่นสนุก ฉันจะซื้อทุกอย่างจริง ๆ”“นี่มันของใช้เด็กอ่อน”“แล้วไง”“ถามมาได้ว่าแล้วไง นายหัวไม่มีลูกจะซื้อของพวกนี้ไปทำไม อ๋อ แล้วที

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   25 ต่อสู้เพื่อหัวใจ

    “ฉันนึกว่าเมื่อรู้แล้วว่าฉันปลดหนี้ได้ แม่จะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเมื่อก่อนก็ได้น่ะ” ต่อให้รู้สึกห่างเหินกับมารดา ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นป้า แต่นลินก็คือนลินเด็กกตัญญูอย่างไรเล่า จึงไม่อาจละเลยที่จะไม่เลี้ยงดู“แกปลดหนี้ได้แล้วเหรอ หนี้ที่พวกฉัน…” หญิงวัยกลางคนละอายใจเกินกว่าจะพูดต่อ“ฉันนึกว่าแม่รู้”“ไม่รู้ ดูเหมือนว่านายหัวจะไม่ไว้ใจ กลัวว่าฉันจะมาเกาะแกกินเลยไม่ยอมบอกเรื่องนี้”“ถ้าแม่กับมินตราสัญญาว่าจะปรับตัวใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน จะกลับมาอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ว่า”“แกเป็นคนดีจริง ๆ ลิน น่าเสียดายที่แกต้องอยู่ในการเลี้ยงดูของฉัน ถ้าแกได้อยู่กับแม่แท้ ๆ หรือตายายของแก ชีวิตของแกคงจะมีแต่ความสุข”“พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงฉัน แต่แม่เป็นคนที่เลี้ยงฉันมา ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง และสำหรับกำไลทองนี่ ทั้งที่แม่จะขายทิ้ง เอาเงินมาใช้จ่ายเหมือนสมบัติชิ้นอื่น ๆ ของแม่ฉันก็ได้”วิภาวีพยักหน้าเล็กน้อย แววตายังคงเศร้าปนระอายใจ“ถือว่ามันเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่ฉันมอบให้ก่อนจากกันก็แล้วกัน เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันจะกลับก่อน”“แม่จะกลับยังไง”“อ๋อ มีพลเมืองดีไปรับไปส่งน่ะ ไม่ต้องงง คนพวกนี้เป็นลูกน้องของน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status