Share

5 ตานี่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-28 12:07:52

“มันเป็นงานป้า ป้านั่นแหละทิ้งงาน”

“หน็อยไอ้ต่างด้าวกล้าเถียงแทนเมียมึงเหรอ”

“ไม่ใช่เมีย”

“เออตอนนี้ยังไม่ใช่ แต่อีกหน่อยละไม่แน่ เอ็งก็ทำคะแนนหน่อยแล้วกัน แต่ถึงขั้นยอมให้จับมือถือแขนในที่ลับตา ก็คงจะอีกไม่นานนี้ละว้ากูว่า”

 “ไอ้ที่พูดออกมาน่ะไม่เป็นความจริงสักอย่าง” นลินสวนขึ้นเพราะอดทนฟังอีกต่อไปไม่ได้แล้ว “ไม่กลัวถูกเขาฟ้องหมิ่นประมาทเหรอ”

“ถุ้ย” ป้าตอบโต้อย่างไม่เกรงกลัว “ก็ลองไอ้อีหน้าไหนไปฟ้องกูดูสิวะ กูจะฟ้องมันกลับฐานหนีหนี้ซะให้เข็ด ไอ้คุ้งเอ๊ย เอ็งก็ระวังกระเป๋าเงินเอ็งให้ดีล่ะ อย่าให้มีใครอมได้”

“เตือนอะไรอย่างนั้นละนังอ้อย ไอ้อม ๆ แอ้ม ๆ อะไรนั่นอาจเป็นสิ่งที่ไอ้คุ้งมันหวังมากที่สุดก็ได้”

เกิดเสียงหัวเราะเกลียวขึ้นในวงสนทนา

“ในเมื่อป้ามาแล้วก็ยกเองก็แล้วกัน” คุ้งกระแทกตะกร้าบรรจุผลไม้อย่างแรง เดินไปขึ้นรถขับออกไป ในขณะที่นลินหน้าร้อนขึ้นมาแต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากไปกว่าการเดินหนีไปอีกคน

สินมีหน้าที่ตามหนี้นอกสถานที่ แล้วยังต้องคอยรวบรวมข้อมูลเพื่อไปรายงานกับนายหัว พรรู้หน้าที่ของตัวเองดี ทุกวันก่อนเลิกงานจะต้องนำเอาสรุปผลการทำงานประจำวันของนลินมาส่งในออฟฟิศ เช่นเดียวกับวันนี้

“นำองุ่นกลับบ้านสิบโล ?”

“พอดีมีเรื่องเถียงกันนิดหน่อย คุ้งมันเลยทำองุ่นช้ำทั้งตะกร้าพี่เลยให้ลินเอากลับบ้าน”

“มีเรื่องอะไรกันเหรอ” สินถามด้วยท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจแต่หูผึ่ง

หญิงวัยสามสิบตอนปลายเริ่มเล่าตั้งแต่นลินโดนกรรไกรตัดแต่งกิ่งบาดไปจนเลิกงานให้ฟังโดยละเอียด เล่าจบก็ถามด้วยความอัดอั้น

“เมื่อไหร่ถึงจะให้พี่เลิกสอนงานเด็กคนนั้นซะที บางครั้งพี่ลืมตัวเกือบจะแสดงออกว่าเห็นใจ ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไปคงได้บ้ากันทั้งคู่ แล้วดูสิเถาองุ่นดี ๆ ต้องถูกตัดไปเป็นไร่ ทำแบบนี้มันจะดีจริงเหรอ”

“ดีหรือไม่ดีเราก็มีหน้าที่ทำตาม นายหัวสั่งมาว่าพรุ่งนี้ให้พาเธอไปผสมปุ๋ยคอก” สินยกข้อมือขึ้นดูเวลา

“นี่ก็ได้เวลาเลิกงานแล้วพี่พรกลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้ต้องมาทำงานแต่เช้า”

“นั่นสินะเรามันก็แค่ลูกจ้าง นายหัวสั่งอะไรจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเราก็ต้องทำตาม ใครใช้ให้พ่อแม่ของนังหนูนั่นหนีหนี้กันล่ะ   เกิดมาเป็นลูกไม่ได้ก่อกรรมแต่ต้องมารับกรรมแทน น่าเศร้าจริง ๆ”

พรระบายความอัดอั้นที่เก็บมาตลอด หมุนตัวกลับเพื่อเดินออกจากห้องไป ทว่าสิ่งที่เห็นได้ทำเอาความอึดอัดตลอดทั้งวันกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลย

“นะ นายหัว ! มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“มานานจนได้ยินว่าพี่พรไม่มีความสุขกับการทำงาน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เห็นแก่ที่พี่ทำงานมานาน เป็นผู้มีประสบการณ์ที่มีความดีความชอบ ผมจะไม่ให้พี่พรต้องทำในสิ่งที่ฝืนใจอีกต่อไป”

“ขอบคุณมาก ขอบคุณมากค่ะนายหัว” พรยิ้มร่าเอามือทาบอก ส่งเสียงใสพูดกับตัวเองอย่างดีใจ

“ดีจัง พรุ่งนี้เราจะได้กลับไปทำเอกสารเหมือนเดิม”   

อิทธิพัทธ์เดินไปนั่ง สั่งลูกน้องคนสนิท “ออกหนังสือเบิกเงินชดเชยแล้วก็เตรียมหนังสือยื่นขอลาออกให้ด้วย พี่พรจะได้เอากลับไปเซ็นที่บ้านได้เลย”

“นะ หนังสือขอลาออก”

“มันจะดีกว่านะครับถ้าเป็นลาออกไม่ใช่ไล่ออก”

สินวางสีหน้าเรียบทำใจเย็น เดินเข้าไปหยิบหนังสือลาออก  ยื่นให้พี่พร

“โชคดีนะครับ ขอบคุณมากที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี”

“พี่ไม่อึดอัดแล้วค่ะ ยินดีทรมานเด็กนั่นให้หนักขึ้นตามคำสั่ง”

“วันนี้มีอะไร” อิทธิพัทธ์หันไปพูดกับสิน บ่งบอกว่าธุระกับพี่พรยุติลงแล้ว เขาเป็นคนเด็ดขาด คำไหนคำนั้น เมื่อแสดงความลังเลจนแตกแถวเขาก็จะไม่เลี้ยงเอาไว้ !

พรทำอะไรมากไม่ได้ ได้แต่ยืนคอตกยอมรับชะตากรรม

“เอ่อ...นายหัวครับ” สินเอยขึ้นด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความนอบน้อมขอความเมตตา

“ถ้าเกิดว่าพี่พรเขายินดีที่จะปรับตัว ก็เห็นแก่ที่เขาอยู่กับเรามานาน ให้โอกาสพี่เขาอีกสักครั้งเถอะนะครับ ผมจะช่วยดูอีกแรงไม่ให้หย่อนยาน”

อิทธิพัทธ์ปรายตามองพี่พร

“ใช่ค่ะ ๆ พี่พรยินดีที่จะปรับตัว พี่พรจะทำให้ดีกว่าเดิม”

“อย่าทำให้ผมผิดหวังอีก”

“ค่ะ ไม่ทำแน่ค่ะ” พรรีบนำหนังสือขอลาออกวางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

สินใช้กำปั้นอุดปากกลั้นเสียงหัวเราะ

“ขำอะไร”

“ปะ เปล่าครับ” สินเดินเข้าใกล้เจ้านาย ก้มหัวขณะส่งยื่นแฟ้มให้ด้วยความนอบน้อมเกินปกติ จนอิทธิพัทธ์ต้องกระแอมคอเตือนว่าการเล่นละครลิงจบลงแล้ว ให้ทำตัวตามปกติ

“เป็นยอดเงินของวันนี้ที่จะหักจากลินครับ” สินรายงาน

“อืม…. ยังไม่มากพอ ไปตามแม่นั่นมาที”

ท่าทางที่เบิกบานเกินไปของนายหัวทำเอาลูกน้องคนสนิทรู้สึกเห็นใจลูกหนี้ตัวน้อยขึ้นมาทันที !

5 ตานี่

 นลินออกจากไร่ก็รีบเดินไปที่สำนักงานเพื่อทำหน้าที่แม่บ้านต่อ แต่กลับถูกสินตามให้ไปพบกับนายหัวอิทธิพัทธ์

วันนี้ยังจะมีอะไรแย่กว่าที่เจอมาทั้งวัน เธอบอกตัวเอง ขณะเดินเข้าไปในสำนักงาน

ใบหน้าคมเข้มของเขานั่นไงที่แย่กว่า นลินสรุปได้ในทันที ความโมโหอันน้อยนิดผุดขึ้นมาทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเจรจา

“นายหัวครับ ลินมาแล้วครับ”

ไม่มีตาหรือไง ถึงต้องให้คนคอยบอกในสิ่งที่เห็นได้ชัด ๆ ตรงหน้า นลินคิดในใจ

“อืม” อิทธิพัทธ์รับรู้ “ออกไปก่อน”

ตานี่จะมาไม้ไหนอีก

“วันนี้เธอทำงานได้ไม่เต็มที่”

“ฉันทำงานเต็มที่เท่าที่ฉันจะทำได้”

“นั่นแหละที่ฉันเรียกว่าไม่เต็มที่ เพราะเต็มที่ที่เธอคิดมันยังไม่มากพอ แล้วยังสร้างความวุ่นวายในที่ทำงาน ทะเลาะเบาะแว้งกับคนงานอีกด้วย”

“ป้าเขามาหาเรื่องฉันก่อน พูดจาไม่ให้เกียรติคุ้งอีกต่างหาก”

“ถึงที่นี่จะไม่ได้มีกฎเคร่งครัดเหมือนที่อื่น แต่ในเวลางาน   ในสถานที่ทำงานหญิงชายไม่ควรทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อ แล้วฉันกับคุ้งก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เราเพิ่งเจอกันวันแรกจะรักกันได้ยังไง”

“ฉันไม่ได้พูดเรื่องความรัก เธอก็ไม่น่าจะไม่รู้ว่าเรื่องที่พูด ๆ กันอยู่นี่มันไม่จำเป็นต้องใช้ความรัก แค่เงินพันสองพัน   ก็เพียงพอ”

 คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย เข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจพูดดูถูก นลินบวกลบคูณหารแล้วคิดว่าพูดแย้งก็มีแต่จะเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงพูดตัดความรำคาญ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   -ต่อ- ตอนพิเศษ

    อิทธิพัทธ์อมยิ้มเล็กน้อย โน้มตัวลงบดจูบริมฝีปากบวมแดงอย่างหลงใหลแค่นลินเผยอปากเพียงนิดเดียว ลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายก็เข้ามากวาดความหวานอย่างตามใจ ไม่รู้ว่าจูบนั้นเพลิดเพลินและโหยหากันและกันมากแค่ไหน พอรู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของเธอก็นาบลงบนเตียงนุ่ม ส่วนผัวรักของเธอก็ยังคงรักษาคอนเซปต์ของความป่าเถือนอย่างคงเส้นคงวาแคว่ก ! เพนตี้ลูกไม้ขาดถูกโยนออกไปไกล“นี่ ! นายหัว ฉีกมันอีกแล้วนะ ไอ้โรค อื้อ…”คำว่า ‘จิต’ ค้างอยู่ในลำคอเมื่อลิ้นอุ่นเลื่อนลงไปทักทายกลีบกลางอย่างรวดเร็ว“ลิน หวานมาก” เขาหยุดแล้วส่งเสียงอู้ ๆ อี้ ๆ บอกเธอก่อนจะทำการชำแหละหาความหมอหวานต่อนลินดิ้นเร่าอ้าขาออกกว้างอย่างหน้าไม่อาย แน่นอนว่าเธอคิดถึงความสุขสุดยอดนี้แค่ไหน นึกว่าอีตาผัวกระทิงควายจะกลายเป็นโรคประสาท สมองกลับจนไม่ทำแบบนี้ให้เธออีกต่อไปแล้ว โอ้วววแม่เจ้า ขอต้อนรับกลับบ้านค่ะนายหัวผัวกระทิงควาย นลินคิดในใจขณะเคลิบเคลิ้มวิ่งเล่นอยู่บนดวงจันทร์“ฉัน อื้อ เสียว ไม่ไหวแล้วค่ะนายหัว”อิทธิพัทธ์หยุดการเคลื่อนไหว นั่นทำให้นลินยิ่งประหลาดใจ ดวงตาพร่าสวาทกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้นก็กว้างขึ้น นัยน์ตาดำขลับมีรูปเครื่องหมายคำถาม ( ?

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   ตอนพิเศษ

    พยายามจะสะกดใจ แต่…นลินถือไดร์เป่าผมสะบัดไปมาบนผมเปียกที่พึ่งสระเสร็จอยู่หน้ากระจก ท่าทางของเธอเหมือนตั้งใจจะให้ผมนั้นกลับมาแห้งสสวยโดยเร็ว ๆ ทว่าจริงแล้วดวงตากลมโตไม่ได้สนใจผมของตัวเองสักนิด แต่กำลังมองผ่านกระจก ดูเรือนร่างกำยำที่ใส่ผ้าขนหนูในลักษณะหมิ่นเหม่ กำลังเช็ดผมแบบลวก ๆ ทำท่าเหมือนจะอ่อยเธอ นลินนึกถึงเมื่อตอนบ่ายของวันนี้ที่สินประกาศดังลั่น“เอาล่ะทุกคนตอนนี้นายหญิงของไร่ร่างกายอ่อนเพลียมากต้องการพัก เชิญทุกคนไปสังสรรค์ร้องโฮ่ฮู้กันต่อได้ที่โรงอาหาร”เสียงเฮดังลั่นขณะที่เรือนร่างของเธอถูกว่าที่เจ้าบ่าวอุ้ม ตอนนั้นเธอเข้าใจว่าคงต้องปรนเปรอนายหัวกระทิงควายเป็นแน่ เธอคิดถึงเขา เขาคิดถึงเธอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากการกลับมาเจอกันอีกครั้งจะกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์แบบนันสต็อปทว่ากลับผิดคาดเมื่อเขาวางตัวเธอลงบนโซฟาห้องรับแขก ตรงหน้าคืออาหารชั้นดีบำรุงครรภ์ พยาบาลบอกด้วยหน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส ตามมาด้วยยาสำหรับคุณแม่ท้องอ่อน แน่นอนว่าตานายหัวอยู่ร่วมรับประทานอาหารกับเธอ“นายหัวกินข้าวได้เยอะแบบนี้ผมก็เบาใจ”“นายไปร่วมส

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   26.1

    “ทำไม คุณเสียใจมากหรือไงที่ฉันท้อง หรือคุณจะหาว่าฉันท้องกับคนอื่น”“ลิน” อิทธิพัทธ์ทำหน้าตกใจ เมื่อหันกลับไปพบนลินยืนเท้าสะเอวอยู่ จึงถามเสียงสั่นว่า“มาตั้งแต่เมื่อไหร่”“ไม่สำคัญหรอก” เธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกตามตรงว่าเธอมาตั้งแต่ตอนที่เขาพูดคุยกับนายหัวหนุ่ยทำให้เธอเพิ่งรู้ถึงเหตุผลอันแท้จริงของการที่เขาไล่เธอออกไปจากไร่ และเขายอมเสี่ยงแค่ไหนเพื่อจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง มันทำให้ความโกรธในใจหายไปราวกับปลิดทิ้ง แทนที่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง เขาเป็นคนเดียวในชีวิตที่ยืนหยัดเพื่อเธอมากขนาดนี้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเธอยอมกลืนน้ำลายตัวเอง“ฉันไม่เคยคิดว่าเธอท้องกับคนอื่นเลยนะ ฉันมั่นใจว่าลูกเป็นลูกของฉัน ฉันถึงได้ซื้อของใช้เด็กอ่อนเอาไว้มากมายรอลูกของเรา ฉันอยากให้ลูกเกิดมาบนความพร้อม และความรัก ฉันสัญญาว่าจะทำหน้าที่พ่ออย่างดีที่สุด จะไม่ทำให้ลูกขาดความอบอุ่น หรือรู้สึกต่ำต้อยกว่าคนอื่น ลูกอินทร์ชื่อลูกของเรา มาจากลินกับอิทไง ฉันตั้งเอง”นลินขมวดคิ้วให้กับชื่อนั้น“เห็นไหม บอกแล้วว่าฉันตั้งใจกับหน้าที่พ่อมากแค่ไหน และฉันสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เราคืนดีกันนะ”“ง่ายไปหรือเปล่า”“อะไรง่าย”

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   26 เหตุผล -ตอนจบ-

    26 เหตุผล “มีอะไร” อิทธิพัทธ์ถามเสียงขุ่น ยกมือออกจากหน้าขาของอีกฝ่าย นลินรู้สึกขัดเขินกับความใกล้ชิดต่อหน้าคนอื่น จึงดึงผ้าห่มขึ้นห่มถึงคาง เบือนหน้าออกไปทางหน้าต่างมองแปลงองุ่นที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา “นายหัวหนุ่ยโทร. มาครับ แจ้งว่าต้องการคุยกับนายหัวด่วน คงจะเป็นเรื่อง…” สินหยุดพูดไปเท่านั้น แต่ทุกคนก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่าคงเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากเรื่องที่เขาพานลินเข้าบ้าน นี่เป็นการผิดสัญญาที่เขาเคยรับปากกับนายหัวหนุ่ยไว้ ตอนที่ให้นลินย้ายออกไป เขาถูกนายหัวหนุ่ยเรียกพบเพื่อพูดคุยกันเรื่องนี้ ความจริงแล้วนายหัวหนุ่ยไม่ได้สนใจว่าเขาจะนอนกับใครหรือไล่ใครออกจากงาน ที่เขาสนใจเรื่องนี้เพราะมันกระทบกับลูกสาวของเขา นั่นย่อมหมายถึงกระทบกับตัวเขาเช่นเดียวกัน การที่อิทธิพัทธ์ยอมหักหน้าภาพิมลเพื่อแม่บ้านคนเดียว เป็นเรื่องที่รู้ถึงไหนอายเขาไปถึงนั่น ลูกสาวของเขาถึงจะผิดจะถูกอย่างไรก็เป็นคุณหนูชาติตระกูลดี จะปล่อยให้ถูกคนงาน เยาะเย้ยว่าแพ้แม่บ้านก็เหลือทน นายหัวหนุ่ยบอกอย่างตรงไปตรงมาว่าเรื่องนี้ตนรับไม่ได้ ในเมื่ออิทธิพัทธ์ตัดสินใจไล่แม่บ้านสาวคนนั้นออกไปแล้ว ก็อยากให้มันเป็นการขับไล่อย

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   25.1

    แน่นอนว่าลูกค้าคนสำคัญทำให้เธอมีเงินเหลือเก็บ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นเพียงระยะเวลาอันสั้น เด็กสมัยนี้โตไวซื้อของไปก็ใช้ได้แค่แป๊บเดียวเอง เธอจึงอยากหาลูกค้าแบบนี้เพิ่มหลังจากปล่อยให้ความคิดของตัวเองล่องลอยไปได้เพียงไม่นาน นลินก็กลับมาสนใจออเดอร์ของลูกค้าอีกครั้ง จัดแจงกดเบอร์ในมือถือโทรไปยังร้าน ‘โลกของเด็ก’ เป็นร้านขายของใช้เด็กของป้าสวย เพื่อสอบถามสต๊อกและยืมรถสำหรับนำส่งลูกค้าประจำคนนี้เมื่อถึงเวลานัดส่งมอบสินค้า นลินกับเบิ้ม เด็กหนุ่มอายุสิบเจ็ดปี เป็นหลานชายป้าสวย ได้ไปตามสถานที่นัดก่อนเวลานัดหมายสิบนาที และพบว่าพี่ลูกอินทร์ก็มาก่อนเวลาเช่นเดียวกันแต่ผิดคาดเล็กน้อยเมื่อพบว่าลูกค้าดีเด่นคนนี้เป็นผู้ชาย แล้วยังเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่เธอคิดจะขายของใช้เด็กอ่อนให้ !“นายหัว !”“เธอจะตะโกนทำไม” อิทธิพัทธ์สวมแว่นตาดำ ทำให้มองไม่เห็นแววตาของเขา แต่จากสีหน้าสามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกพอใจ“ฉันเอาของมาแล้ว ฉันไม่ได้เอามาให้นายหัวเล่นสนุกนะ”“ใครบอกเธอว่าฉันเล่นสนุก ฉันจะซื้อทุกอย่างจริง ๆ”“นี่มันของใช้เด็กอ่อน”“แล้วไง”“ถามมาได้ว่าแล้วไง นายหัวไม่มีลูกจะซื้อของพวกนี้ไปทำไม อ๋อ แล้วที

  • ดอกบัวในเพลิงมาร   25 ต่อสู้เพื่อหัวใจ

    “ฉันนึกว่าเมื่อรู้แล้วว่าฉันปลดหนี้ได้ แม่จะกลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเมื่อก่อนก็ได้น่ะ” ต่อให้รู้สึกห่างเหินกับมารดา ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นป้า แต่นลินก็คือนลินเด็กกตัญญูอย่างไรเล่า จึงไม่อาจละเลยที่จะไม่เลี้ยงดู“แกปลดหนี้ได้แล้วเหรอ หนี้ที่พวกฉัน…” หญิงวัยกลางคนละอายใจเกินกว่าจะพูดต่อ“ฉันนึกว่าแม่รู้”“ไม่รู้ ดูเหมือนว่านายหัวจะไม่ไว้ใจ กลัวว่าฉันจะมาเกาะแกกินเลยไม่ยอมบอกเรื่องนี้”“ถ้าแม่กับมินตราสัญญาว่าจะปรับตัวใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน จะกลับมาอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ว่า”“แกเป็นคนดีจริง ๆ ลิน น่าเสียดายที่แกต้องอยู่ในการเลี้ยงดูของฉัน ถ้าแกได้อยู่กับแม่แท้ ๆ หรือตายายของแก ชีวิตของแกคงจะมีแต่ความสุข”“พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลี้ยงฉัน แต่แม่เป็นคนที่เลี้ยงฉันมา ขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง และสำหรับกำไลทองนี่ ทั้งที่แม่จะขายทิ้ง เอาเงินมาใช้จ่ายเหมือนสมบัติชิ้นอื่น ๆ ของแม่ฉันก็ได้”วิภาวีพยักหน้าเล็กน้อย แววตายังคงเศร้าปนระอายใจ“ถือว่ามันเป็นสิ่งดีสิ่งเดียวที่ฉันมอบให้ก่อนจากกันก็แล้วกัน เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ฉันจะกลับก่อน”“แม่จะกลับยังไง”“อ๋อ มีพลเมืองดีไปรับไปส่งน่ะ ไม่ต้องงง คนพวกนี้เป็นลูกน้องของน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status