Masuk
บทนำ
บรืน!บรืน!
รถสปอร์ตสุดหรูสองคันขับตามกันอย่างไม่ลดละตามท้องถนนในยามวิกาล เสียงของเครื่องยนต์ดังสนั่นหวั่นไหว จนรถที่กำลังสัญจรอยู่ต้องหลบทางให้
สายฝนตกพรำยิ่งทำให้ถนนลื่น ทำให้ผู้ที่เป็นสารถีประคับประคองยานพาหนะด้วยความยากลำบาก
"เอายังไงดีครับนาย" ลูกน้องเอ่ยเสียงสั่นจ้องมองกระจกหลัง
"ขับไปให้เร็วที่สุด ถ้าพวกมันตามทัน อย่าหวังว่าคนในรถจะรอด" ภาณุวัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด พร้อมกับกอดกระชับร่างบุตรสาวเข้าสู่อ้อมแขน
"พี่นุ ดาหลากลัวว่าพวกเขาจะ ..." ผู้เป็นภรรยาเอ่ยพลางยื่นมือไปจับแขนสามี
"ดาอย่ากังวลใจไปเลย ตราบใดที่พี่ยังมีชีวิตอยู่ ดากับลูกจะต้องปลอดภัย" ภานุวัฒน์เอ่ยอย่างมาดมั่น ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ก็อย่าหวังว่าเขาจะยอมให้ใครมาทำร้ายลูกกับภรรยาของเขาได้
"ค่ะ"
"หลับตาเอาไว้นะลูกรัก ได้ยินเสียงอะไรก็อย่าลืมตาขึ้นดู"
"ค่ะพ่อ"
เด็กหญิงพยักหน้า กอดตุ๊กตาแน่นหลับตาปี๋ด้วยความตื่นกลัว
ปัง!ปัง!ปัง!
"โคร้ม!"
"กรี๊ดด!" เสียงกรีดร้องดังกึกก้อง ร่างทั้งสามถูกเหวี่ยงกระแทกไปมา รถพลิกคว่ำหลายตลบจนกระทั่งนิ่งอยู่กลางถนน ชายร่างสูงลงจากรถในมือถือมัจจุราชสีดำมันวาวไว้ในมือ
"พ่อขาแม่ขา" เด็กน้อยเอ่ยเสียงแผ่วเบา
ปัง!ปัง!ปัง เสียงปืนดังขึ้นหลายนัดพร้อมกับสติของเด็กน้อยที่ดับวูบลง...
ร่างหนาใบหน้าเรียบนิ่งก้าวย่างเข้าไปโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังพร้อมกับลูกน้องคนสนิทคู่ใจ เขาปรายตามองพยาบาลที่เดินคุยกันออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟท์
สายตาคมเข้มนั้น ทำเอาพยาบาลทั้งสองที่หัวเราะต่อกระซิกกันอยู่นิ่งเงียบไปทันที เจ้าของใบหน้าคมเข้มแต่ทว่าเรียบเฉยนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าชายผู้ที่เดินหายเข้าไปในลิฟต์นั้นเป็นใคร
คริส ดำรงค์พงษ์เมธา ทายาทลำดับที่สี่ของวิคเตอร์ ผู้ที่ถูกผู้คนมากมายขนานนามว่า เป็นชายที่ฆ่าคนได้อย่างไม่เกรงกลัว ชายผู้ที่มีธุรกิจมืดบนเกาะไข่มุก และเป็นมาเฟียอันดับหนึ่งของประเทศ
"ดาหลากับไอ้ภานุวัฒน์พวกมันตายแล้วครับนาย เหลือเพียงแต่ลูกสาวของมันที่รักษาตัวอยู่เท่านั้น" ลูกน้องหนุ่มรีบตรงมารายงาน พร้อมกับก้มหน้าอย่างสำรวม
"อืม" เขาเอ่ยตอบรับเพียงสั้นๆแล้วเดินตรงไป มือหนายื่นไปเปิดประตู แล้วผลักเข้าไปเบาๆ ร่างเด็กหญิงตัวเล็กนั่งกอดตุ๊กตาตัวเล็กอยู่บนเตียง น้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวลใส ร่างกายเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล "แล้วต้องให้กูบอกมึงไหมว่าต้องทำยังไงต่อไป"
"นะ ...นายครับ เธอเด็กมากเลยนะครับนาย เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอกครับ"
"หึ! มึงคิดว่ากูควรไว้ชีวิตเด็กนี่เหรอ" เขาปรายตามองร่างเล็กเล็กน้อยแล้วเสหน้ามองอย่างอื่น
"เมตตาเธอสักนิดเถอะครับนาย"
"ดูเหมือนมึงจะพูดเยอะเกินไปแล้วนะอำพล"
"พ่อแม่เด็กก็ไม่อยู่แล้ว ญาติพี่น้องเธอก็ไม่มีแล้วครับนาย แค่นี้ก็ทุกข์ทรมานมากแล้ว ผมอยากให้นายเมตตาเธอสักนิด" อำพลเอ่ยอย่างหนักใจ
"กูต้องฟังคำพูดมึงเหรอ"
"ธะ...เธอยังเด็ก เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องของผู้ใหญ่ ตอนนี้เธอสูญเสีย เธอไม่เหลือใครแล้ว" แม้จะเกรงกลัวผู้เป็นเจ้านาย แต่อำพลก็ไม่อาจเพิกเฉย ปล่อยให้เด็กน้อยที่ไร้เดียงสา เป็นอะไรไปต่อหน้าได้ "ถือว่าผมขอร้องเถอะครับนาย เธอไม่เหลือใครแล้วจริงๆ"
ประโยคเอื้อนเอ่ยของลูกน้อง ทำให้ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปนาน ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
"ได้ รอดมาได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเด็กนี่ก็แล้วกัน ถ้าไม่มีญาติเดี๋ยวโรงพยาบาลเขาก็จัดการกันเองแหละ มึงพอใจหรือยัง" น้ำเสียงเข้มทำให้ทานตะวันต้องช้อนตาขึ้นมอง ในขณะเดียวกัน ชายตรงหน้าก็จ้องมองเธอไม่เช่นกัน
คนตรงหน้าเย็นชาน่ากลัว ทานตะวันสัมผัสมันได้
เธอกอดกำชับตุ๊กตาแน่นก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงปล่อยน้ำตาไหลร่วงรินออกมาอีกครั้ง บิดามารดาผู้เป็นที่รักจากโลกใบนี้ไปแล้ว ก็มีเหลือเพียงแต่เธอ...ที่ต้องต่อสู้กับโลกที่แสนเลวร้ายนี้เพียงลำพัง
"ครับนาย" อำพลยิ้มออกมาอย่างดีใจ
"กูทำตามคำขอครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ต่อไปไม่ว่ามึงจะขออะไร กูจะไม่ทำตามคำพูดของมึงอีก"
"ครับ"
"พ่อขาแม่ขาทำไมไม่เอาทานตะวันไปอยู่ด้วย ฮึก" เด็กน้อยวัยแปดขวบคร่ำครวญร้องไห้จวนเจียนจะขาดใจ โลกที่แสนสวยงามของเธอบัดนี้มืดมน เมื่อบุคคลอันเป็นที่รักจากไป
เธอมองไม่เห็นทาง มองไม่เห็นแสงสว่างอะไรอีกแล้ว
คริสเม้มปากเเน่นจ้องมองเด็กน้อยโดยที่เขาไม่เอ่ยคำพูดใดๆออกมา ร่างหนาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
"นอนรักษาตัวเถอะนะ เอาไว้วันหลังลุงจะมาเยี่ยมหนูอีกนะ"
เด็กหญิงนอนร้องไห้เงียบๆ ไม่ได้เอ่ยตอบ อำพลถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่ประตู เขาหันกลับไปมองคนที่ร้องไห้บนเตียงคนไข้อีกครั้งแล้วเดินออกไป
ทานตะวันร้องไห้หัวใจปวดร้าว อ้อมกอดอบอุ่นน้ำเสียงนุ่มๆนับจากนี้เธอคงจะไม่ได้ฟังอีกแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว...
ครอบครัวทุกอย่างไม่เหลือแล้ว ไม่มีอีกแล้วความสุข มันไม่เหลือแล้ว...
"มีงานต้องเคลียร์อีกนะครับนาย นายจะไปเลยไหมครับ"
"ช่างหัวงาน วันนี้กูมีทานข้าวกับพ่อแม่กู" คริสเอ่ยเสียงราบเรียบแล้วหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดูหุ้นที่พุ่งขึ้นไม่หยุด เขายิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้ววางมันลงที่เดิม
"ไม่ว่าปีไหน ๆ นายก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวเสมอเลยนะครับ"
"นายเราเย็นชาแต่ทว่าชัดเจนกับครอบครัวเสมอ" อาคมลูกน้องอีกคนเอ่ย
"อืม ครอบครัวสำคัญสำหรับกูเสมอ รีบไปเถอะ"
"ครับนาย" อำพลเอ่ยตอบรับแล้วเหยียบคันเร่ง เร่งความเร็วรถไปอย่างรวดเร็ว
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน



![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)



