LOGINChapter 1
รถหรูแล่นเข้าไปจอดหน้าคฤหาสน์ อาคมรีบลงจากรถแล้วปิดประตูให้ผู้เป็นเจ้านาย ชายร่างสูงลงจากรถหยัดกายขึ้นเต็มความสูง เขากวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก้าวเข้าไปที่ประตูอย่างสง่า
"แม่คะ คริสมาพอดีเลย ลมอะไรหอบแกมาได้นี่" อลิซเอ่ยอย่างดีใจเมื่อได้เจอน้องชายที่ไม่ได้เจอกันเป็นเวลาเกือบปีมาร่วมรับประทานอาหารด้วย
"แม่บอกให้มากูก็ต้องมาสิ"
"หยาบคายตลอดเลย กับพี่มึงกูตลอดนิสัยไม่ดี"
"หึ"
"มาๆแม่กำลังให้คนใช้ตั้งโต๊ะเลย วันนี้แม่กับพ่อคงเจริญอาหารแน่ๆลูกสาวลูกชายแม่มาครบแบบนี้"
"แล้วไอ้คริสโตเฟอร์ล่ะครับ"
"ช่วยเมียทำอะไรสักอย่างนี่แหละอยู่หลังบ้าน"
"แล้วพ่อล่ะครับ"
"เล่นกับหมาอยู่ที่สวน เดี๋ยวก็มา"
"ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อก็ชอบหมากับเขาด้วย"
"อะไรที่คล้ายๆกันก็ย่อมชอบกันเป็นธรรมดา" เซลีนหัวเราะเบาๆ
"นินทาอะไรเฮียอยู่ เฮียได้ยินนะ" วิคเตอร์เดินตรงเข้ามาแล้วฟัดที่พวงแก้มของภรรยาเบาๆ คริสมองการกระทำนั้นใบหน้าราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา
"เปล่าสักหน่อย อาหารน่าจะเสร็จแล้วรีบไปทานกันดีกว่า"
"อื้ม ไปกันเถอะ"
"พ่อดูรักแม่มากเลยนะครับ"
"วันที่ลูกมีความรัก ลูกจะรู้ว่ามันมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้รักใครสักคน"
"ผมก็เคยมีแต่มันไม่ใช่ความสุข" คริสยิ้มร้ายแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ เป็นจังหวะเดียวกันที่คริสเตียนกับภรรยาเดินมาที่โต๊ะอาหาร
"อะๆรีบทานกันเถอะ อลิซไปเรียกคริสโตเฟอร์กับตองเก้ามาเร็วๆ"
"ค่ะพ่อ" อลิซรีบเดินออกไป ไม่นานนักทุกคนก็มารวมตัวบนโต๊ะอาหารแล้วทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
โรงพยาบาลพีเอ็น
อำพลถือข้าวของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องคนไข้ เขาวางถุงอาหารลงบนโต๊ะ หย่อนกายลงนั่งเก้าอี้ข้างเตียง พลางจ้องมองเด็กหญิงร่างเล็กแล้วถอนหายใจออกมา
"หนูลุกมาทานอาหารหน่อย"
"...ฮึก..." มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆ ที่อำพลได้ยินและรู้สึกสงสารเจ้าหล่อนจับใจ
"ทานสักหน่อยนะ หนูต้องสู้ใช้ชีวิตต่อไปนะ คนอยู่ก็ต้องสู้ต่อไป"
"อย่ามายุ่งกับหนู" ทานตะวันปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ เธอไม่ต้องการเจอคนอื่นแม้แต่น้อย คนที่เธออยากเจอตอนนี้คือผู้ให้กำเนิด ไม่ใช่ลูกน้องของคนหน้าเย็นชาคนนั้น
"ทานอาหารรักษาอาการให้หายนะ เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง" ว่าจบอำพลก็หยิบถุงที่มีกล่องข้าวมันไก่เปิดออก "ทานสักหน่อยนะ หนูทานเสร็จลุงก็กลับ ลุงจะไม่อยู่กวนใจหนู"
"..." ทานตะวันนิ่งแล้วนอนหันหลังให้ อำพลมองแผ่นหลังบางเล็กแล้วถอนหายใจออกมาแรงๆ
เขาพยายามพูดคุยกับเธออยู่หลายครั้ง แต่ทว่าทานตะวันกลับไม่สนใจที่จะพูดคุยกับเขาเลยแม้แต่น้อย
"งั้นลุงกลับก่อนนะ เอาไว้วันหลังลุงจากมาเยี่ยมใหม่"
"...." เธอไม่ตอบ เสียงฝีเท้าของคนที่มาเยี่ยมดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดปิดประตู เสียงฝีเท้าดังไกลไปเรื่อยๆจนกระทั่งมันเงียบลง
หยาดน้ำใสๆไหลรินอาบแก้มนวล เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นต่อไปอย่างไรดี ทุกอย่างมันเคว้งไปหมด เมื่อขาดบุคคลอันที่รัก ร่างเล็กสั่นสะท้าน ห่อตัวซุกหน้ากับหมอนกอดรัดตุ๊กตาไอ้เน่าเอาไว้แน่น ราวกับต้องการให้มันเป็นที่พักพิงร่างกายและหัวใจในยามนี้
"ทานตะวัน" น้ำเสียงหวานเย็นเยือกเอ่ยขึ้นทำให้เด็กน้อยเปิดเปลือกตาขึ้นมอง บิดามารดาอันเป็นที่รักยืนอยู่ข้างเตียง ไม่ได้มีบาดแผลใดๆตามเนื้อตัวเลยแม้แต่น้อย
"แม่จ๋าพ่อจ๋าทานตะวันดีใจเหลือเกินที่พ่อกับแม่ยังอยู่" ว่าจบก็โผเข้ากอด แม้บาดแผลที่เกิดในกายมันเจ็บอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็ลืมความเจ็บไปชั่วขณะ
บุพการีทั้งสองในชุดสีขาวสะอาดยิ้มให้ แม้นัยน์ตาของท่านทั้งสองจะเจือปนความเศร้าก็ตาม ทานตะวันดีใจเหลือเกินที่ท่านทั้งสองยังอยู่ไม่ได้จากเธอไปไหน ไม่ได้ตายจากไปเหมือนคนอื่นพูด
"พ่อกับแม่ไม่เคยจากลูกไปไหน เราจะอยู่กับลูกเฝ้ามองดูลูกเติบโตเป็นดอกทานตะวันที่สวยงาม ลูกเป็นดอกไม้งามที่ล้ำค่ารู้ไหม" ทานตะวันกอดรัดร่างมารดาแน่นในขณะที่ท่านลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา
"แม่กับพ่ออย่าไปไหนนะ อย่าทิ้งทานตะวันนะคะ ทานตะวันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ พ่อต้องอยู่ดูทานตะวันเติบโต แม่ต้องอยู่ดูทานตะวันประสบความสำเร็จนะคะ อย่าทิ้งทานตะวันนะคะ"
"พ่อกับแม่ไม่ทิ้งลูกแน่นอนลูกรัก" ทานตะวันเงยหน้ามองบิดาแล้วสวมกอดด้วยความรักสุดหัวใจ "เราจะอยู่กับลูกเสมอ"
"สัญญาแล้วนะคะ"
"พ่อกับแม่สัญญาจ้ะลูกรัก" บิดาจูบที่เรือนผมดำขลับเบาๆ แล้วกอดรัดร่างเธอกับมารดา ทานตะวันอบอุ่นและดีใจเหลือเกินที่ความสุขมันไม่ได้จากเธอไป....
เฮือก! คนร่างเล็กสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับเปิดเปลือกตามองไปรอบๆห้อง ห้องนี้เป็นห้องสีขาวเหมือนเดิมแต่ไร้เงาบิดามารดา
น้ำตาเม็ดใสที่เหือดแห้งไปไม่ถึงสามสิบนาทีไหลเอ่อแก้มนวลใสอีกครั้ง
ทุกอย่างมันเป็นแค่ความฝัน ท่านทั้งสองไม่ได้มาหาเธอ... เธอแค่ฝันไปเท่านั้น....
"ฮือๆ ทานตะวันคิดถึงพ่อกับแม่เหลือเกิน" หยาดน้ำใสไหลพรั่งพรู หัวใจไม่อาจคลายความทุกข์ระทมตรอมตรมในหัวใจ ร่างบางในชุดโรงพยาบาลสีขาวลุกขึ้นแล้วถอดสายน้ำเกลือออก
เลือดสีแดงไหลไปตามนิ้วแล้วหยอดเป็นทางยาว เด็กน้อยไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้น้อย เธอตรงดิ่งไปที่ระเบียงแล้วปีนมันขึ้นไป
แม่จ๋าพ่อจ๋า ทานตะวันจะตามพ่อกับแม่ไปนะคะ
ตอนพิเศษ"วันนี้พ่อมีของมาฝากหนูชมพูของพ่อด้วยนะ" ชาตรีชูถุงใบใหญ่ให้เด็กสาวแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน"วันนี้พ่อมีอะไรมาฝากชมพูน้าา" ชมพูสิรินลูบแก้มตัวเองเบาๆ พร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด ชาตรีมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูเด็กหญิงตัวเล็กที่เขาอุ้มชูเลี้ยงดูในวันนั้นผ่านมาหลายปี เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สวยสะพรั่งใบหน้าสวยหวานละม้ายคล้ายคลึงมารดา ผู้ที่กุมหัวใจของเขามาตั้งหลายปีเขารักทานตะวันมาก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครอีก เขาไม่รับใครเข้ามาแทนที่เธอกับลูก เขายังรักและหวังดีอยู่เสมอตอนนี้เขามีความสุขที่ได้ดูผู้หญิงที่รักทั้งสองคนมีความสุขคริสเองก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นหัวหน้าครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง เป็นสามี เป็นพ่อที่ดี ทุกอย่างล้วนแต่ดีขึ้น ทานตะวันเองก็มีความสุข เขาก็รู้สึกดีมากๆแล้วการได้มองคนที่เรารักมีความสุข มันเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดแล้วในความรู้สึกของเขา ชาตรีรู้สึกดี รู้สึกยินดีทุกครั้ง ที่เห็นครอบครัวของทานตะวันมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะมันพลอยทำให้เขามีรอยยิ้มและมีความสุขตาม ยิ่งชมพูสิรินบุตรสาวต่างสายเลือดมาเติมเต็มสิ่งต่างๆในชีวิต แค่นี้ชาตรีก็ไม่จำเป็นต้องมีใครเข้ามาแล้
Chapter 50"ลองถามใจตัวเองดูว่ายังเกลียดชังเขาแค่ไหน ลองชั่งใจตัวเองดูว่าพอให้อภัยผู้ชายที่รักทานตะวันได้ไหม ลุงรู้ว่ามันยาก แต่ลุงเชื่อว่าการให้อภัยกันมันเป็นสิ่งที่ดี ถึงเขาจะเลวร้ายทำความชั่วมาทั้งชีวิต แต่เขาก็พยายามปรับปรุงตัว เขาพยายามทำดีทุกอย่างเลยตอนนี้ ก่อนเราจะตัดสินใจอะไร คิดถึงลูกให้มากๆนะ""เฮ้อ!" ทานตะวันถอนหายใจออกมาแรงๆ เธอมองร่างหนาของคริสที่นอนคว่ำหน้าร่างกายเปลือยเปล่า ท่านตะวันยื่นมือไปดึงผ้าห่มเลื่อนขึ้นมาห่มที่แผ่นหลังให้เธอคว้าชุดคลุมมาสวมใส่แล้วตวัดเท้าลงพื้นหยัดกายลุกขึ้นเดินออกไป เธอเข้าไปในห้องของบุตรสาวแล้วนั่งลงบนเตียงชมพูสิรินนอนหลับตาพริ้มกอดตุ๊กตา ใบหน้าสวยอมยิ้มเล็กน้อย เบ่งบอกว่าเด็กน้อยตรงหน้ามีความสุขมากแค่ไหนมือเล็กลูบที่ผมบุตรสาวเบาๆ แล้วเอนกายนอนข้างกัน เธอคิดไม่ตกกับคำพูดของลุง เธอควรให้อภัยคริสไหม หรือใช้ชีวิตกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็ไม่ได้เลวร้ายแล้ว การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทานตะวันไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาทำให้เธอมีความสุขทุกครั้งเวลาที่มองเขากับบุตรสาวหยอกล้อกัน"แม่ควรให้อภัยพ่อไหมชมพู" ทานตะวันสวมกอดบุตรสาวแล้วจุมพิตหน้าผากเล็กเบาๆ ผ่านไป
Chapter 49ทานตะวันสวมกอดผู้เป็นลุงแล้วร้องไห้โฮ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่แสนจะมีค่า หลังจากที่ใจสลาย หัวใจแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีก่อขึ้นอีกครั้ง ผู้มีพระคุณของเธอกลับมาแล้วโลกทั้งใบที่มันมืดมนเต็มไปด้วยแสงสว่าง ทานตะวันดีใจจนร้องไห้ออกมาไม่หยุด ไม่สามารถปรามน้ำตาที่ไหลรินออกมาได้เลย"ฮือๆ คุณลุงไปอยู่ไหนมา คุณลุงรู้ไหมว่าทานตะวันลำบากและทุกข์แค่ไหนที่ไม่มีลุง ฮึก ทานตะวันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอคุณลุงอีกแล้ว ฮื่อๆ""เด็กโง่เอ้ย! ลุงเจ็บปางตายอยู่เป็นปีๆ ลุงฟื้นขึ้นมาลุงถามหาทานตะวันเป็นคนแรกเลยนะรู้ไหม?" ว่าจบก็ลูบที่ศีรษะทุยเล็กเบาๆ "แต่พอรู้ข่าวว่าทานตะวันกระโดดน้ำตายลุงแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ อยากตายตามไปด้วยซ้ำ" ปากพูดมือก็ลูบผมสลวยไปด้วย"ฮือๆ""แต่ลุงก็อยู่เพื่อพ่อของลุง ท่านอยากให้ลุงอยู่ต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ลุงรอด เหมือนที่ลุงเคยพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตทานตะวัน พ่อของลุงท่านดูแลและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ลุงอีกปีกว่าๆ ลุงเห็นตอนท่านทุกข์ลุงเห็นตอนท่านร้องไห้ ลุงรู้สึกแย่มาก ลุงพยายามสู้จนตอนนี้ลุงปกติดีทุกอย่างแล้ว""ทานตะวันดีใจที่สุดเลยค่ะ ลุงยังอยู่ไม่ได้ตายจากทา
Chapter 48 "ว้าว! อาหารพ่อน่าทานจังค่ะ" ชมพูสิรินพูดแล้วมองอาหารตาโต วันนี้มีอาหารง่ายๆหลายอย่างเลยค่ะ ฉันมองคุณป๋าอย่างแปลกใจ เขาทำอาหารเก่งขนาดนี้เลยเหรอ เมื่อก่อนมีแต่ทำหน้ายักษ์กับใจร้ายเก่ง"พ่อทำอาหารไม่เก่ง แต่พ่อก็อยากให้ชมพูกับแม่ได้ทาน" คุณป๋ายิ้ม ส่วนฉันเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ"วันนี้ต้องอร่อยแน่ๆเลย ใช่ไหมคะคุณแม่""จ้ะ!" ฉันพยักหน้าเบาๆ นั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ คนที่นั่งพูดเจื้อยแจ้วที่สุดเห็นจะเป็นชมพู"ทานกุ้งหน่อยนะทานตะวัน" คุณป๋าตักกุ้งใส่จานให้ฉัน สิ่งที่เขาทำฉันรับรู้ได้ว่า เขากำลังพยายามทำดีกับฉันทุกอย่างเพื่อปรับปรุงตัว"ขอบคุณค่ะ" ฉันยิ้มอ่อนให้แล้วนั่งทานอาหารต่อ"คุณพ่อวันนี้คุณพ่ออจะไปกับชมพูไปกับคุณย่าไหมคะ?""พ่อไม่ได้ไปครับ วันนี้พ่อมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำครับ""ค่ะ ชมพูก็เหมือนกันค่ะ" เธอยิ้มอย่างสดใสตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ บนโต๊ะอาหารมีสองพ่อลูกที่พูดคุยกันไปมา ส่วนฉันถ้าเขาถามฉันก็ตอบ แต่ถ้าเขาไม่ถามหรือพูดคุยกับฉัน ฉันก็เลือกที่จะเงียบฉันจับมือลูกสาวเดินไปขึ้นรถแม่เซลีน ชมพูสิรินดีใจมากที่จะได้ไปหาคุณชาตรี ดีที่แ
Chapter 47คุณป๋านิ่งงัน ฉันแกะมือของเขาออกแล้วหันไปจ้องหน้าของเขา ใบหน้าของเขานิ่ง แต่นัยน์ตาเจือปนไปด้วยความเสียใจเขาเสียใจ เขาเจ็บ ก็เหมือนที่ฉันเคยเจ็บเคยเสียใจ"คุณป๋าจะได้แต่ตัว ทานตะวันจะยอมคุณป๋าทุกอย่าง แต่คุณป๋าจะไม่ได้หัวใจทานตะวัน""ได้แต่ตัวสินะ!" คุณป๋าหัวเราะออกมาแห้งๆ แล้วเลื่อนมือมาวางที่บ่าเล็ก "ได้แต่ตัวก็ไม่เป็นไร ขอแค่เธอกับลูกอยู่กับฉันก็พอ แค่นี้ฉันก็พอใจกับทุกอย่างแล้ว""แต่คนที่ทุกข์ในใจคือทานตะวัน""ทุกข์ทุกคนแหละ ฉันก็ทุกข์ที่เธอไม่รักฉัน เธอก็ทุกข์ที่เกลียดฉันแต่หนีฉันไม่ได้ เราเสมอกันทั้งสองฝ่าย""คุณป๋า""ลงไปข้างล่างเถอะ น้ำค้างเริ่มแรงเดี๋ยวไม่สบายนะ""ไปเถอะค่ะ ทานตะวันยังไม่อยากไป""อย่าดื้อน่ะ!" เขาโอบบ่าฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน "ถ้าไม่สบาย เวลาฉันอยากกินเธอ ฉันก็กินนะ เธอก็รู้ว่าฉันมันถึกทนแค่ไหน""ลามก!" ฉันค้อนแต่ก็ยอมเดินตามแต่โดยดี "ทานตะวันจะไปนอนกับลูกนะ""ห้องฉันกับห้องชมพูติดกัน ไปนอนกับฉันก่อนนะ""แต่...""อย่าดื้อน่ะ" พูดเสียงเข้มทำฉันเงียบปากทันที คุณป๋าพาฉันมานอนที่เตียงโดยมีเขาขึ้นมานอนข้างๆ "ฉันรักเธอ" คุณป๋าสวมกอดแล้วซุกไซร้ที่ซอกคอขาว เข
Chapter 46ทานตะวันฉันมองคุณชาตรีที่ทำหน้านิ่งมองพ่อวิคเตอร์ ฉันรู้สึกหนักใจมาก ใครๆก็รู้ว่าท่านโหดร้ายแค่ไหน ฉันกลัวคุณชาตรีจะต้องเจ็บตัวถ้าเกิดท่านไม่พอใจ"กูให้มึงพูดใหม่ไอ้ชาตรี!" ท่านเอ่ยเสียงราบเรียบแต่แววตาและสีหน้าของท่านยากจะคาดเดาว่าท่านคิดอะไร เวลาดีก็ดีใจหาย แต่ถ้าร้ายก็ร้ายแบบสุดๆ"ผมมารับลูกกับภรรยาผมกลับ" คุณชาตรีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แววตาของเขามาดมั่นต้องการพาฉันกับลูกกลับไปด้วย"หึ! ทานตะวันเป็นเมียลูกชายกู ส่วนชมพูสิรินเป็นหลานกู มึงอย่ามาโมเมคิดเองเออเองไอ้ชาตรี ถ้าไม่เห็นแกความดีที่มึงช่วยชีวิตทานตะวันกับลูก อย่าหวังว่ามึงจะมายืนเรียกร้องส้นตีนอยู่ตรงนี้ได้" พ่อวิคเตอร์เอ่ย"แต่เธอเป็นภรรยาของผม ส่วนชมพูสิรินผมก็เลี้ยงมากับมือ ผมเลี้ยงดูเธอด้วยความรัก เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะจนเธอโตมาขนาดนี้ ส่วนทานตะวันผมรักเธอ เลี้ยงดูเชิดชูให้สุขสบาย""ต้องการเงินเท่าไหร่ สำหรับค่าเลี้ยงดูชมพูกับทานตะวัน กูยินดีจ่าย เรียกมาจะเอาเท่าไหร่ อย่ามัวมาเวิ่นเว้อเรื่องความรัก กูฟังแล้วจะอ้วก" พ่อวิคเตอร์นั่งตัวตรงจ้องมองหน้าคุณชาตรี"ใช่ เรียกมาเลย เรายินดีจ่าย แต่ให้คืนทานตะวันไม่มีทางจะได้คืน







