Beranda / โรแมนติก / ดั่งลิขิตร้าย / 3.เขาคนนั้นช่วยฉันไว้ (1)

Share

3.เขาคนนั้นช่วยฉันไว้ (1)

Penulis: rasita_suin
last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-07 23:10:11

‘คุณจารุพงษ์เพิ่งเข้ามาตอนบ่ายค่ะ แล้วก็กำลังจะออกไปทานข้าวเพราะยังไม่ได้ทาน อารยาไม่กล้าขัดน่ะค่ะ นภาเองก็หาทางถ่วงเวลา พาน้องที่มารอสัมภาษณ์ไปทานข้าวก่อน เพราะฝ่ายบุคคลส่งมารอตั้งแต่สิบเอ็ดโมง บ่ายแล้วก็ยังไม่ได้สัมภาษณ์สักที นภาจนใจจริงๆ ค่ะ’

รถคันโตแบบขับเคลื่อนสี่ล้อของเพชรหยุดลงหน้ารีสอร์ตในตำแหน่งของตัวเองอย่างแรง รู้ว่ากำลังถูกจารุพงษ์เล่นแง่ ด้วยความที่เป็นไม้เบื่อ

ไม้เมากันมาตั้งแต่กลับมาช่วยผู้เป็นป้าบริหารงานเต็มตัว เพราะเหมือนไปดับฝันจารุพงษ์เข้า อีกฝ่ายจึงมักจะคอยขัดเขาทุกเรื่อง ครั้งนี้ก็คงอีกเช่นกัน

ความจริงเพชรไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของจารุพงษ์ แต่ด้วยญาติสาวขอร้องมา เขาเองก็ขอกับทางผู้เป็นป้าไปแล้วว่าวาสิฐีฝากฝังเพื่อนมา ป้าเขาก็อนุญาตอย่างไม่มีปัญหา

ร่างสูงก้าวอย่างรวดเร็วผ่านตึกหลักไปจนถึงอาคารของผู้บริหาร แล้วก็พุ่งผ่านประตูโดยมีนภามายืนรอรับหน้าอยู่

“คุณพงษ์ออกไปหรือยังครับ”

“ยังค่ะ นภาหาเอกสารด่วนให้อารยาเอาเข้าไปให้เซ็นก่อนน่ะค่ะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้น ประตูห้องก็เปิดออก เพชรหันหน้าไปมองก็เห็นร่างสูงที่เตี้ยกว่าตนเองประมาณหนึ่งคืบของจารุพงษ์ออกมา ใบหน้าหล่อเข้มด้วยผิวสีแทนชะงักเมื่อเห็นเขาก่อนจะยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างถือดี พร้อมพาร่างกำยำล่ำสันเดินมาหา แต่แล้วก็ผ่านเลยไปที่ประตูทางออกจนเพชรต้องหยุดเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน”

เสียงเข้มทำให้อารยาที่ตามเจ้านายของตนออกมาด้วยใบหน้าจ๋อยสะดุ้งนิดๆ ทว่าคนถูกเรียกกลับเฉยไม่หยุดเท้าด้วยซ้ำ

เพชรพยายามระงับอารมณ์จากการถูกกวนให้ขุ่นขณะพูดกับอีกฝ่าย

“ถ้าคุณจะออกไปข้างนอก ผมคิดว่าคุณควรจะทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนนะคุณจารุพงษ์”

คนที่ถูกเอ่ยชื่อหยุดกึก หันกลับมายกยิ้มมุมปากให้กับเพชรอย่างหยันๆ

“หน้าที่ผมเหรอ แน่ใจเหรอครับท่านรอง เพราะผมจำได้ว่าคนที่สั่งให้รับพนักงานต้อนรับคนใหม่คือท่านรอง ไม่ใช่ผม...”

จารุพงษ์เดินกลับเข้ามาใกล้เพชรก่อนจะพูดต่อ

“ใครรับ คนนั้นก็สัมภาษณ์สิ”

“คุณเป็นผู้จัดการฝ่าย”

“พูดแบบนี้เท่ากับท่านรองก็รู้ดีนี่ แล้วทำไมถึงก้าวก่ายหน้าที่คนอื่นไม่ทราบ”

คนที่ตั้งใจจะก่อกวนสวนขึ้นมาทันควันทำเอาดวงตาคู่คมของเพชรลุกวาบ ปกติเขามักไม่เปิดช่องว่างให้จารุพงษ์เล่นงานได้ เป็นครั้งแรกที่โดนอีกฝ่ายฉีกหน้า ชายหนุ่มขบกรามแน่น ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่ายั่วให้เขาขุ่นเคืองได้สำเร็จ

“คุณจารุพงษ์ อย่าโยกโย้ให้มันมากนัก กลับเข้าไปในห้องของคุณซะ คุณอารยา เรียกตัวคนที่คุณจารุพงษ์ต้องสัมภาษณ์ตามเข้าไป”

เพชรไม่อยากต่อปากต่อคำให้มากความ ขณะที่อารยากำลังจะเอ่ยปากบอกบางอย่าง จารุพงษ์ก็สวนขึ้นเสียงดัง

“ขอโทษครับท่านรอง ผมหิว ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง ถ้าใครอยากจะสัมภาษณ์ก็คงต้องรอไปก่อน”

“เขามารอคุณนานแล้ว ถ้าคุณหัดมาทำงานให้ตรงเวลา ก็สามารถออกไปทานข้าวได้ตรงเวลา แต่นี่คุณมาช้า เพราะฉะนั้นคุณต้องสัมภาษณ์ก่อน”

ผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าสั่งอย่างเด็ดขาด ทำให้จารุพงษ์ฉุนเฉียวขึ้นหลังจากตั้งใจหาเรื่องจนกลายเป็นต้องมานั่งรับคำสั่งจากอีกฝ่าย

“ผมคนนะครับ คนมันหิว จะห้ามไม่ให้ไปกินข้าว มันจะไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิดไปหน่อยเหรอท่านรอง คิดว่าตัวเองใหญ่จะยัดเด็กเส้นก๋วยจั๊บคนไหนเข้ามาก็ได้หรือไง ถ้าคิดแบบนี้ ผมก็คงไม่ต้องสัมภาษณ์แล้วล่ะคร้าบ ท่านรองสั่งคำเดียว คนของท่านก็ไปยืนเชิดหน้าอยู่หน้าฟรอนท์ได้วันนี้พรุ่งนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...”

ครืดดด

เสียงเปิดประตูกระจกขัดขึ้นในช่วงที่อารมณ์ของชายหนุ่มสองคนกำลังพุ่งสูงขึ้น และก็สามารถดึงสายตาทุกคู่ให้หันไปมองได้เช่นกัน

คนเข้ามาใหม่ปิดประตูอย่างเบามือแล้วหันมาเผชิญหน้าจึงเห็นว่าทุกคนต่างมองเธอกันเป็นตาเดียว ระหว่างที่เธอขอตัวไปเข้าห้องน้ำคนที่จะสัมภาษณ์เธอคงมาแล้ว

ศศิทำตัวไม่ถูกเมื่อถูกจ้องแต่แล้วดวงตาคู่สวยก็โตขึ้นเล็กน้อย เมื่อใบหน้าคมขาวที่มีไรเคราจางๆ ของชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นใบหน้าที่เธอเคยพบเจอมาก่อน

‘ใช่เขาจริงๆ ด้วย’

เมื่อสองสามชั่วโมงก่อนเธอรู้สึกว่าคลับคล้ายคลับคลาผู้ชายที่เดินผ่านตรงหน้าฟรอนท์ และชื่อที่เขาเรียกขณะคุยโทรศัพท์ก็ทำให้เธอหันมองตาม ทว่าชายหนุ่มห่างออกไปประมาณหนึ่งจึงเห็นหน้าไม่ชัด

วาสิฐีฝากฝังเธอกับคนที่นี่ ซึ่งศศิเข้าใจว่าเป็นคุณนภาเพราะเธอเคยคุยโทรศัพท์ด้วย แต่ทำไมเพื่อนรุ่นน้องของเธอถึงโทรหาผู้ชายคนนี้?

“เอ่อ นี่...น้องศศิ คนที่รอสัมภาษณ์กับคุณจารุพงษ์น่ะค่ะ”

นภาเป็นคนเอ่ยแทรกความเงียบขึ้นมา อารยารีบเดินมาจับมือของศศิแล้วพาเข้าไปใกล้สองหนุ่มในระยะที่เหมาะสมแล้วเอ่ยแนะนำกับ

หญิงสาว

“คุณเพชร...เป็นรองประธานกรรมการของที่นี่จ้ะ ส่วนท่านนี้คือคุณจารุพงษ์ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการจ้ะ”

ศศิยกมือไหว้ทั้งสองคนตามลำดับที่อารยาบอก ขณะสบสายตาคู่คมของหนุ่มใบหน้าขาวคมเธอรู้สึกภายในใจวูบโหวง ทั้งที่เขาไม่มีท่าทางใดแสดงออกว่ารู้จักเธอมาก่อน แต่เมื่อสบกับแววตาวาววามของผู้ชายอีกคนกลับรู้สึกขนท้ายทอยลุก เพราะเขามองเหมือนกับผู้ชายหลายคนที่เธอพบเจอมา แม้จะหวั่นใจแต่มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด คิดดังนั้นหญิงสาวจึงยิ้มน้อยๆ อย่างมีมารยาทให้กับทั้งสองหนุ่ม

จารุพงษ์ยิ้มกว้างตอบเจ้าของใบหน้าสวยจับใจในทันที ความคิดอยากหาเรื่องขัดคนที่เขาหมั่นไส้หมดลงเมื่อเห็นว่าผู้ถูกส่งมาน่าพิสมัยกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก ชายหนุ่มรีบผายมือเชิญหญิงสาวอย่างกระตือรือร้น

“มาสัมภาษณ์ งั้นเชิญทางนี้เลยครับ ผมกำลังรออยู่พอดี เชิญเลยเชิญ”

นภากับอารยาแอบเหลือบมองหน้ากันอย่างรู้ทัน ส่วนเพชรยกมุมปากหยันอีกฝ่าย ทว่าจารุพงษ์ไม่สนใจใครนอกจากสาวสวยถูกใจคนเดียว

ศศิมองคนที่ทำหน้าระรื่นอย่างหนักใจ แต่ก็ยอมก้าวตามเมื่อนภากับอารยาพยักหน้าให้ โดยอารยาผายมือให้เธอเดินตามเจ้านายของตนเข้าไปในห้อง

ดวงตาคู่คมมองตามประตูที่ปิดลงด้วยสายตาที่ไม่มีใครอ่านออก ก่อนเจ้าตัวจะหันกลับมาบอกกับเลขาของผู้เป็นป้า

“ถ้าเขาสัมภาษณ์กันเสร็จแล้ว ก็ฝากคุณนภาช่วยดูแลอีกทีนะครับ ผมขอตัวก่อน ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเหมือนกัน”

เสียงเข้มนั้นดูราบเรียบ ก่อนจะเหลือบไปยังประตูห้องของจารุพงษ์อีกครั้ง เมื่อเห็นอารยาก้าวออกมายิ้มอย่างโล่งอกให้นภาแล้วร่างสูงใหญ่ก็หมุนตัวเดินออกประตูไปเหมือนไม่ใส่ใจอะไรอีก โดยไม่มีใครรู้ว่า การที่

จารุพงษ์ยอมสัมภาษณ์คนที่เขาส่งไปง่ายๆ ทันทีที่เจอหน้าทำให้ชายหนุ่มกลับหนักใจขึ้นมาเสียมากกว่า

=====

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ดั่งลิขิตร้าย   3.เขาคนนั้นช่วยฉันไว้ (2)

    การสัมภาษณ์งานค่อนข้างอึดอัดสำหรับศศิเพราะสายตาแสดงออกชัดเจนของผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการ แถมยังใช้เวลาไม่นานอีกฝ่ายก็เริ่มออกนอกเรื่อง“เอ้อ นี่ก็เกือบจะบ่ายสองแล้ว ผมหิวมากเลย ความจริงกำลังจะออกไปกินกลางวันพอดี”“เอ่อ ขอโทษค่ะ”“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่ ผมไม่ได้จะบอกว่าเป็นเพราะคุณเลยนะครับ จริงๆ แล้วผมตั้งใจจะถามว่า คุณหิวหรือเปล่า เห็นคุณนภาบอกว่ามารอสักพักแล้ว”“คือว่า...”“ต้องขอโทษจริงๆ ก็อย่างที่บอกตอนแรกล่ะครับ ผมไม่รู้ว่าฝ่ายบุคคลจะส่งตัวคุณมาให้สัมภาษณ์”ชายหนุ่มรีบย้ำขึ้นมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด โดยที่ศศิยังไม่ทันได้อธิบายจนจบประโยคด้วยซ้ำ“แต่ก็นั่นแหละนะ คำสั่งท่านรองทั้งคน”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้แล้วก็หยุดมองหน้าเธอ แววตาราวสงสัยชั่วแวบก่อนจะเลือนหายไป ตาคมกลับมาแพรวพราวเช่นเดิม“ว่าไงครับ”“คะ?”ศศิพยายามจะไล่ตามคำพูดของอีกฝ่ายที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี“ก็เรื่องข้าวกลางวันไงครับ คุณน่าจะหิวแล้วเหมือนกัน งั้นผมว่าเราไป...”“เอ่อ พอดีว่าคุณนภากับคุณอารยาพาดิฉันไปทานช่วงพักกลางวันแล้วน่ะค่ะ”“อ้าว...งั้นเหรอครับ”ใบหน้าชายหนุ่มดูอึ้งไปชั่วขณะ แต่

  • ดั่งลิขิตร้าย   3.เขาคนนั้นช่วยฉันไว้ (1)

    ‘คุณจารุพงษ์เพิ่งเข้ามาตอนบ่ายค่ะ แล้วก็กำลังจะออกไปทานข้าวเพราะยังไม่ได้ทาน อารยาไม่กล้าขัดน่ะค่ะ นภาเองก็หาทางถ่วงเวลา พาน้องที่มารอสัมภาษณ์ไปทานข้าวก่อน เพราะฝ่ายบุคคลส่งมารอตั้งแต่สิบเอ็ดโมง บ่ายแล้วก็ยังไม่ได้สัมภาษณ์สักที นภาจนใจจริงๆ ค่ะ’รถคันโตแบบขับเคลื่อนสี่ล้อของเพชรหยุดลงหน้ารีสอร์ตในตำแหน่งของตัวเองอย่างแรง รู้ว่ากำลังถูกจารุพงษ์เล่นแง่ ด้วยความที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่กลับมาช่วยผู้เป็นป้าบริหารงานเต็มตัว เพราะเหมือนไปดับฝันจารุพงษ์เข้า อีกฝ่ายจึงมักจะคอยขัดเขาทุกเรื่อง ครั้งนี้ก็คงอีกเช่นกันความจริงเพชรไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของจารุพงษ์ แต่ด้วยญาติสาวขอร้องมา เขาเองก็ขอกับทางผู้เป็นป้าไปแล้วว่าวาสิฐีฝากฝังเพื่อนมา ป้าเขาก็อนุญาตอย่างไม่มีปัญหาร่างสูงก้าวอย่างรวดเร็วผ่านตึกหลักไปจนถึงอาคารของผู้บริหาร แล้วก็พุ่งผ่านประตูโดยมีนภามายืนรอรับหน้าอยู่“คุณพงษ์ออกไปหรือยังครับ”“ยังค่ะ นภาหาเอกสารด่วนให้อารยาเอาเข้าไปให้เซ็นก่อนน่ะค่ะ”ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้น ประตูห้องก็เปิดออก เพชรหันหน้าไปมองก็เห็นร่างสูงที่เตี้ยกว่าตนเองป

  • ดั่งลิขิตร้าย   2.งานใหม่ ชีวิตใหม่ (2)

    “รอสักครู่นะคะ”อีกฝ่ายบอกแล้วหันไปกดโทรศัพท์ภายใน ไม่นานก็หันกลับมาแจ้งกับเธอ“เดี๋ยวเชิญนั่งรอที่โซฟาด้านหน้านะคะ”“ขอบคุณค่ะ”ศศิยิ้มให้ซึ่งก็ได้รอยยิ้มตอบกลับ ตอนนี้เธอถอดแว่นและหมวกไปแล้วอีกฝ่ายก็ดูไม่ได้เอะใจอะไร แน่นอนว่าเธอแต่งหน้าอ่อนๆ ที่สำคัญตอนนี้เธอตัดผมเหลือสั้นแต่ปลายคางเท่านั้น แถมยังรวบเอาไว้ด้านหลังเพราะรำคาญลมที่ตีจากการนั่งเรือร่างระหงหมุนตัวไปทางโซฟาด้านหนึ่งพร้อมกระเป๋าเดินทางลากใบย่อม เพราะไม่ได้เอาอะไรมามากนักนอกจากเสื้อผ้า ด้วยยังไม่แน่ใจว่าจะได้อยู่ที่นี่แน่นอนหรือไม่นั่งรอเพียงไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาหาพร้อมพนักงานต้อนรับคนเดิมที่บอกจะรับฝากกระเป๋าเธอเอาไว้ให้ ศศิจึงหยิบเพียงเอกสารกับกระเป๋าใบเล็กติดตัว แต่ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตนเองแต่งตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าพลิ้วสบายกับกางเกงยีนพอดีตัวพับขาขึ้นสูงห้าส่วนและรองเท้าแตะ“เอ่อ ขอโทษนะคะ ชุดดูไม่ค่อยเรียบร้อย ฉันขอเปลี่ยนเสื้อผ้ายังพอจะทันไหมคะ”ด้วยเกรงว่าจะทำให้เสียเวลาเธอจึงถามดูก่อน คิดว่าหากไม่ทันจริงๆ ก็จะเอ่ยขอโทษกับผู้ที่สัมภาษณ์เองพนักงานต้อนรับกับคนที่มารับเธอซึ่งอยู่ในชุดฟอร์มคนละแ

  • ดั่งลิขิตร้าย   2.งานใหม่ ชีวิตใหม่ (1)

    ท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำกับเสียงหอบหายใจเบาๆ ของร่างสวยจากเบาะหลัง เพชรเหลือบตาคมมองอีกฝ่ายเห็นหญิงสาวเองก็มองเขาผ่านกระจกอยู่เช่นกัน ดวงตาคู่เรียวสวยมีแววหวาดระแวงจนต้องนึกเซ็งในใจ เป็นเขาต่างหากที่ต้องไม่ไว้ใจผู้หญิงอย่างเธอ“จะให้ผมส่งที่ไหน”เขาถามเสียงเรียบ ให้รู้ว่าตนไม่ได้แยแสหรือสนใจเธอจนต้องมานั่งกลัวอย่างที่เป็นอยู่“ที่ไหนก็ได้ค่ะ”เสียงหวานที่ดูออกว่าพยายามไม่ให้สั่นตอบกลับมา สายตาคู่สวยละจากกระจกหลังมาลอบสังเกตท่าทางเขา นั่นยิ่งทำให้เพชรชักหมดความอดทน เขาอุตส่าห์หวังดีช่วยเหลือแต่เธอกลับทำท่าอย่างกับเขาเป็นคนร้ายโรคจิต ทั้งคำตอบขอไปทีนั้นก็ส่งผลกับระดับความขุ่นเคืองในใจเพชรให้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก“งั้นผมส่งคุณป้ายรถเมล์หน้า หรือไม่พาไปคอนโดผมก็ได้สิ”ใบหน้าสวยที่เขาเหลือบมองในกระจกหลังดูเหวอดวงตาฉายแววตระหนกจนเขาหลุดยิ้มที่มุมปาก หากมันก็ดูเหมือนยิ้มหยันเสียมากกว่า“จอดข้างหน้านี่แหละค่ะ”เสียงหวานโพล่งขึ้นทันควัน อาการเกร็งระแวดระวังเพิ่มขึ้นเท่าตัวคิ้วเข้มขมวดฉับ พวกเขาห่างจากโรงแรมมาไกลแล้ว สองข้างทางค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีสถานบันเทิงอื่นหรือร้านอาหารยามดึกแม้แต่ร้านเดียวเพราะเ

  • ดั่งลิขิตร้าย   1.อดีตนางงาม (2)

    เสียงที่ได้ยินแว่วมาจากมุมหนึ่งของลานจอดรถมืดๆ ไม่สามารถทำให้ขายาวลดระดับความเร็วลงหรือเรียกความสนใจจากเจ้าของร่างสูงใหญ่เช่นเพชรได้ เขารีบเพราะอยากนอนสักสองสามชั่วโมงก่อนตื่นไปขึ้นเครื่อง“นี่มันหมายความว่ายังไงคะพี่นิดหน่อย เนี่ยนะคะ งานที่พี่บอกว่าจะแนะนำให้ศศิ”“พี่ก็พามาฝากเนื้อฝากตัวกับเสี่ยดิลกแล้วไง งานพรีเซนเตอร์ตอนนี้โดนแคนเซิลหมด เสี่ยเขากว้างขวางในช่อง เดี๋ยวพอมีละครให้เล่นงานก็เข้ามาเอง ใครเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ แค่เอาใจเสี่ยเขาหน่อย”คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมขมวดนิดๆ เพราะเสียงนั้นยังแว่วมาในระยะที่ได้ยิน แต่เพชรไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น แถมยังนึกรำคาญใจด้วยซ้ำที่บังเอิญมาได้ยินเข้าหลังจากแยกย้ายกันเพื่อนเขาต่างไปต่อกับสาวๆ บางคนก็มองเพชรตาละห้อย เขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่เปิดโอกาสให้พวกหล่อนได้มีค่ำคืนด้วยเลยสักครั้ง แม้ในช่วงสามสองเดือนที่ผ่านมาชายหนุ่มมาที่นี่บ่อยเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการลุงทุน“ที่ว่าเอาใจ พี่นิดหน่อยหมายถึงอะไร”“อย่ามาทำอินโนเซนส์หน่อยเลยค่า เชื่อพี่สิ คนนอนคุยกันมันง่ายกว่านั่งคุยตั้งเยอะ”เสียงห้าวที่บีบดัดดูไม่ค่อยสบอารมณ์แต่ก็พยายามกล่อมอีกฝ่าย“ครั

  • ดั่งลิขิตร้าย   1.อดีตนางงาม (1)

    ช่วงเวลาเดียวกันทว่าวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนแตกต่าง ในเมืองแห่งสีสันสี่ทุ่มบรรดานักท่องราตรียังเพิ่งหาที่เที่ยว หากก็ไม่ทำให้หนุ่มที่มาจากเกาะอย่างเพชรตื่นตาตื่นใจ แสงสีเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียนต่างประเทศ แม้จะเข้มงวดในการทำงาน แต่การใช้ชีวิตส่วนตัวของชายหนุ่มก็ไม่ได้แห้งแล้ง เขามีกลุ่มเพื่อนสังสรรค์กันเป็นระยะ แม้กลับมาอยู่เมืองไทยก็นัดพบปะเพื่อนๆ ตามโอกาสที่ขึ้นมาติดต่อเกี่ยวกับธุรกิจเสมอเช่นวันนี้ชายหนุ่มก็มานั่งอยู่ในเลาจน์โรงแรมดัง เพื่อคุยข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนเปิดรีสอร์ตแบบผสมผสานเลาจน์บนเกาะ แม้จะไม่อยากให้เกาะของตนเองมีสถานบันเทิงที่ให้บริการล่อแหลม ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยว เพชรจึงมีข้อตกลงและเงื่อนไขเป็นพิเศษซึ่งต่างก็พอใจกันทั้งสองฝ่าย ด้วยอีกฝ่ายเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนเขา ต่อจากเรื่องงานก็เป็นการดื่มกินปกติโดยมีสาวๆ ดูแลตามประสาหนุ่มๆ“แบบนี้ฉันคงได้ไปเที่ยวเกาะนายบ่อยๆ แน่ เพราะพวกเรายังไม่เคยไปเลยสักครั้ง”พิษณุเพื่อนสนิทของเขาพูดหลังจากชนแก้วกับเขา เพชรเพียงแค่ยิ้มรับน้อยๆ เพราะเพื่อนแต่ละคนรักแสงสีกันทั้งนั้น จึงยังไม่มี

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status