Share

ตอนที่ 6

last update Huling Na-update: 2025-06-25 00:06:58

ตอนที่ 6.

หล่อนยักไหล่เล็กน้อย พูดต่อหน้าตาเฉย “แน่ละ...สมัยนี้ ขืนใจดี แล้วก็เป็นคนโง่ ฉันยังไม่อยากตายไว แล้วไปตอบคำถามของยมบาลไม่ได้ว่าทำไมถึงตาย...” หล่อนมองหน้าเขาเขม็ง “การตายด้วยกิจธุระของคนอื่น เป็นเรื่องโก้เก๋นักรึ”

เขาต้องยอมรับว่าหล่อนพูดถูกต้อง แล้วเขาไม่มีสิทธิ์โกรธหล่อนอีกด้วย นันทามองดูเขา แม้ใจหล่อนจะยอมรับว่าเวทนา แต่หล่อนก็ไม่อยากให้เรื่องยุ่งยากเข้ามาพัวพันด้วย

“ที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของฉัน...เพียงแต่มาเฝ้าแทนพี่ชายเขาเท่านั้นเอง ถ้าเขากลับมา ฉันไม่อยากให้เขาดุเอาได้ว่าฉันทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ”

“ผมเข้าใจ”

โจ๊กที่อร่อยเมื่อตักเข้าปากคำแรกๆ ดูจะหมดรสไปแล้วเมื่อเขาคิดถึงว่าเขาจะพาตัวเองหลบหลีกไปจาก “ภัย” ที่เข้าใกล้ตัวเขาพ้นหรือไม่ เขาก็เหมือนคนทั่วๆ ไปอีกจำนวนมากที่ปรารถนาการมีชีวิตอยู่รอดต่อไป

“ฉันไม่มีรถ...แต่จะเรียกรถมาให้ จะไปไหนก็บอกแล้วกันนะ”  หล่อนยังมีแก่ใจเอื้อเฟื้อก่อนจะออกไปจากห้องอีกหนหนึ่ง แล้วกลับเข้ามาใหม่หลังจากนั้นราวๆ สิบห้านาที มีอุปกรณ์ทำแผลและกระติกน้ำร้อนตลอดจนอ่างใบเล็กๆ เข้ามาด้วย หล่อนหอบเอาของพวกนั้นเข้ามาอย่างพะรุงพะรัง

“ฉันจะทำแผลให้ หน้าตาคุณดูแย่เต็มที”

“ผมอยากให้ดูที่หัวมากกว่า”

หล่อนเก็บชามออกไปวางไว้ห่างๆ แล้วจับตัวเขาให้นั่งนิ่งๆ ริมเตียง ห้อยเท้าลงกับพื้นห้อง แล้วตัวหล่อนยืนอยู่ใกล้ๆ แม้เขาจะนั่งอยู่แล้วหล่อนยืน แต่นันทาก็สูงกว่าไม่มากเท่าไหร่

“ตรงไหนคะ”

เขาใช้นิ้วจิ้มๆ ตรงบริเวณที่รู้สึกว่าเต้นตุ๊บๆ แล้วร้อนผ่านไปหมด หล่อนก้มหน้าลงใช้ปลายนิ้วค่อยๆ แหวกเส้นผมของเขาออก แล้วเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นเส้นผมพวกนั้นขมวดเข้าหากันเป็นก้อน เพราะคราบเลือดเกาะแน่นเอาไว้

“หัวแตกนะคะ”

หล่อนเอาผ้าชุบน้ำอุ่นจัด ค่อยๆ ลูบไล้เส้นผมให้เลือดพวกนั้นจางออกไปก่อน แล้วจึงพิจารณาดูแผลที่แตกปริ แม้จะไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ท่าทางลึกและยาว พอกดผ้าลงไปก็ได้ยินเสียงเขาร้องเบาๆ

“เจ็บหรือคะ”

“ฮื่อ!”

“เลือดไหลออกอีกแล้วค่ะ เพราะไปเปิดปากแผลเข้า” หล่อนเอาสำลีซับเลือดเบาๆ พยายามจะห้ามเลือดให้ “ขอฉันตัดผมคุณออกหน่อยได้ไหมคะ”

“เธอช่วยเหลือผม จะทำยังไงกับผมก็ได้”

หล่อนแกล้งตีหน้าบึ้ง พูดประชดๆ กับเขา  “แม้กระทั่งจะเอาคุณขึ้นรถไปส่งตำรวจน่ะหรือคะ”

“ถึงเธอจะเป็นนางฟ้าใจดำ ผมก็ไม่หวังว่าจะใจร้ายกันเพียงนั้น ผมมีเหตุผลอย่างที่บอกไปแล้ว มันเป็นเรื่องในครอบครัว ผมไม่อยากให้อื้อฉาว”

“ครอบครัวคุณใหญ่มากหรือไงคะ...” หล่อนอดหมั่นไส้เสียมิได้ “ถึงกลัวจะเป็นข่าวเสียนักหนา”

เขาเกือบจะบอกหล่อนตามความเป็นจริงไปเหมือนกันแต่ยั้งปากยั้งใจเอาไว้ได้ทัน และดูท่าว่าหล่อนเองก็ไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังจากเขาสักเท่าไหร่เลยด้วย เพราะหันไปหยิบกรรไกรด้ามเล็กๆ มาจากเครื่องมือปฐมพยาบาล ตัดเส้นผมของเขาออกไป แล้วจึงทำแผลให้อย่างไม่ชำนาญนัก แต่มันก็ช่วยห้ามเลือดให้กับเขาแล้วทำให้เขาดีขึ้น ตลอดจนแผลที่ใบหน้าหล่อนก็แต้มยาให้

“อาจจะมีคนมองหน่อย เพราะหน้าแต้มสีเอาไว้”

“ขอบคุณมาก ผมจะไม่ลืมเลยว่าคุณช่วยเหลือผมเอาไว้” ก่อนที่นันทาจะถอยห่างออกไป เขาก็ฉวยมือหล่อนเอาไว้ “จะบอกผมได้ไหมว่าเธอชื่ออะไร”

“นันทาค่ะ”

เมื่อบอกชื่อไปแล้ว ด้วยท่าทางเคร่งขรึม  นันทาก็ขยับมือ  ทำให้เขาต้องปล่อยมือหล่อนและนันทาก็ถอยห่างออกจากเขา...และเขาก็ยังมองหล่อน...มีรอยยิ้มเหมือนขำ

ว่าแต่เขาขำอะไร...ชื่อหล่อนหรือ เป็นอีกคนแน่ๆ ที่ขำชื่อหล่อน

คงจะเป็นชื่อเชยๆ สำหรับเขา

“ขำชื่อฉันใช่ไหม”

เขาไม่ตอบ แต่ยังมีรอยยิ้มอยู่  หล่อนถอนใจเบาๆ

“โกรธไหม”

“ไม่  ชื่อฉันอาจจะเชย แต่ชื่อฉัน...ฉันพอใจ ใครไม่ชอบก็ช่างปะไร” คำตอบของหล่อนไม่ยี่หระ ไม่ใส่ใจ  นี่คือนิสัยของนันทา“ฉันรู้ชื่อฉันกับยุคสมัยคงจะไม่เข้ากันนัก”

“ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบ”

“คงจะบอกว่าเชย”

“ใช่” เขาบอก  มีรอยยิ้มบนหน้าเขา  รอยยิ้มที่ทำให้เขาดูดี แปลก...แม้หน้านั้นจะมีการแต้มยาทำแผลให้ แต่เขาก็ยังดูดี

หล่อนแน่ใจว่าเขาเป็นผู้ชายเจ้าเสน่ห์ สังเกตจากรอยยิ้มของเขา...รอยยิ้ม...ที่จะบอกอย่างไรดี เวลาเขายิ้มเช่นนั้น แต่นันทาก็ยังไม่อยากหลงเสนห์รอยยี้มนั้น ด้วยเหตุว่าหล่อนยังไม่รู้จักเขาเลย

ใคร

มาจากไหน

ร่อนเร่พเนจรมาหรือไร

และทำไมถึงโดนทำร้ายจนบาดเจ็บ...

ทำไมและทำไม

ผู้ร้ายหรือคนดี ยากจะบอก

เขาหรือจะบอกหากเป็นคนร้าย...

ไม่มีใครพูดความจริงแน่หากตัวเองไม่ใช่คนดีพอ

“เธอไม่มีชื่ออย่างสาวสมัยนี้ อายุคงไม่เท่าไหร่” คำถามเหมือนจะหลอกถามอายุ

หล่อนเงียบ

“ทำไมไม่บอกอายุ”

หล่อนไม่ตอบอีก

“ก็แค่บอกอายุ แคร์อะไร”

“อายุฉันคงแทงหวยไม่ถูก”

“ผมไม่เล่นหวย...” เขาบอก ทำท่าเหมือนรังเกียจสิ่งที่พูดพาดพิงถึง

“อายุฉันสำคัญตรงไหน”

“เธอมีพระคุณกับผม”  เขาเปลี่ยนเรื่อง

“พระคุณเลยหรือ” หล่อนเอ่ยถาม

“เพิ่งเรียนจบมาใช่ไหม”  เขาถามต่อ 

คราวนี้ทำไมหล่อนรู้สึกเหมือนเขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่คุยกับเด็กไม่รู้ได้เหมือนกัน  หน้าหล่อนเด็กนักหรือไร

“ใช่ไหม” เขาถามซ้ำอีกครั้ง

หล่อนไม่ตอบ คนแปลกหน้า เดี๋ยวเขาก็จะไป...โดยนันทาไม่รู้ว่ากว่าเขาจะไป...หล่อนก็...เล่นกับไฟไปเต็มๆ

“ทำงานหรือยัง” เขาถามต่อ ดูมีความอดทนอยู่ไม่น้อย

หล่อนไม่ยอมตอบ

“ถามผิดใช่ไหม ต้องถามว่าหางานได้หรือยัง”

“เกี่ยวกันไหม” หล่อนถามเหมือนจะรวนๆ

เขายังหัวเราะ แล้วทำตัวงอ 

หล่อนนึกสมน้ำหน้าในใจ หัวเราะมากไปคงกระเทือนข้างใน

“สนใจแต่ตัวเองดีกว่าไหม...” หล่อนบอกสั้นๆ และวางท่าทางเคร่งขรึมนัก แล้วก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อไปอีก ก็ได้ยินเสียงรถแล่นมาแถวๆนี้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 105 ตอนอวสาน

    ตอนที่ 105.เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการแม่ยายนันทาขำที่เขาทำทำท่าจริงจังมาก และเมื่อหล่อนมาบ้านที่ริมทะเลนี้ หล่อนคิดว่าเรื่องรักของหล่อนก็เหมือนเรื่องคลื่นลมในทะเล พัดปั่นป่วนรุนแรง แล้วก็เงียบ และก็พัดแรงอีกหนมันเป็นจังหวะสม่ำเสมอเหมือนไฟที่บางครั้งลุกโชน บางครั้งก็อ่อนแสง เหมือนจะดับ แต่ก็ไม่ได้ติดวันนี้หล่อนออกมาเดินเล่นอยู่ริมทะเลคนเดียว ภีมเข้าไปกรุงเทพฯ เพราะมีเรื่องงาน หล่อนรอเขาที่นี่ หลังจากทำอาหารเย็นแล้ว หล่อนก็ออกมาเดินเล่น ที่ชายหาด แต่ลมพัดเม็ดฝนมาพร้อมกับคลื่นที่ม้วนตัวขึ้นมาหาหล่อนหันหลังกลับจากชายหาดกลับไปที่บ้าน ลมพัดแรงจนหล่อนต้องรีบก้าวเดินให้เร็วขึ้น รู้สึกถึงเม็ดฝนที่ตกเปาะแปะลงโดนผิวกายจนต้องวิ่งเพื่อกลับไปที่บ้านแต่ฝนก็ลงมาอย่างแรงเสียก่อน แล้วอยู่ๆ เงาดำเงาหนึ่งก็แวบผ่านมา จนหญิงสาวผงะออกไปอย่างตกใจเต็มที่“นันทา!”ท่ามกลางสายฝนที่อื้ออึงหวั่นไหว เสียงภีมนั่นเองเขาจับแขนหล่อนเอาไว้ “ผมกลับมาบ้านไม่เห็นเธอ นึกแล้วว่าต้องออกมาเดินเล่น ฝนลงหนักแล้วล่ะ รีบกลับเข้าไปบ้านเถอะ”ทั้งเขาและหล่อนต้องก้มหน้า ไม่ให้สำลักน้ำฝนที่กระหน่ำลงมารอบตัว ผ่านความนุ่มหยุ่นของ

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 104

    ตอนที่ 104.เขาเบะปาก ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี สู้ไม่พูดน่าจะดีกว่า เขาเลยได้แต่อึดอัดใจ แม้ตอนนี้เขาจะถูกคาดหน้าตราโทษจากป๋าว่าไม่ให้เขาก่อเรื่องร้ายอีก...ป๋าเรียกเขาไปอบรมเรื่องเลือดสายเดียวกัน คนบ้านเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง น้าหลานหรืออะไรก็ตามแต่ นายภูมินทร์ยืนยันเสมอว่าจะต้องรักกัน หรือหากรักกันไม่ได้ก็ต้องไม่คิดฆ่ากัน และเขาก็คิดว่าหากภีมไม่ได้ครอบครองสมบัติคนเดียว เขาจะไม่คิดทำร้ายภีมอีก เขาเสียเงินสิบล้านเป็นค่าไถ่โทษไปแล้ว มันมากพอแล้ว และตอนนี้เขากับภีมก็ต่างมีเส้นทางเดินของตัวเองนงนุชไม่ได้ใช้ความเป็นแม่ไปต่อสานให้ติดกับนันทา และเขาก็ไม่ได้สนับสนุนหล่อนด้วย“ที่จริงเราแยกตัวมาอยู่ข้างนอกก็ดีนะ คุณว่าไหม”เขาถามหล่อน กอดหล่อนไว้ ยอมรับว่าเขารักหล่อนโดยไม่สนใจอายุของหล่อนเลย แม้คุณพิมจะวิงวอนขอให้เขาทิ้งนงนุช แต่เขาก็ทิ้งไม่ลง “ก็ดี ไม่ต้องกดดันกับสายตาคุณพิม อีกอย่างฉันก็ไม่อยากเจอนันทา ละอายใจ”“เราคงจะต้องมีชีวิตต่อไป” ไพฑูรย์เอ่ยออกมาในที่สุด ไม่ใช่ด้วยเพราะสำนึกได้ แต่เพราะเขาคิดว่าเขาอยากจะมุ่งหน้ามีความสุขในชีวิตส่วนตัว...เขาอาจจะหลงทางไปฟาดฟันกับภีม...แ

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 103

    ตอนที่ 103.“ใช่ครับ พี่พิม มาดูแล...เราอาจจะอยู่กันอย่างผัวเมียไม่ได้ แต่เราอยู่กันอย่างคนที่จะดูแลกันและกันได้จนกว่าเราจะไม่อยากเห็นกันอีกจะดีไหม”เขาพูดอะไร...คุณพิมงงๆ“ผมมีแต่พี่พิมมานาน ไม่เคยมีคนอื่นที่อยู่ในใจผมเท่าพี่พิม แต่เราต้องยอมรับความจริงถึงความแตกต่างกัน ก่อนหน้าที่เผยไม่ได้ ผมปรารถนาพี่พิมมากมาย แต่พอเปิดเผยได้ ผมกลับกลัวที่เราจะแสดงความปรารถนาให้คนอื่นรับรู้”“แล้วตอนนี้...ต้องการอะไรกันแน่”“อย่างที่ผมบอกครับ เราจะดูแลกันและกัน ผมจะไม่ยอมให้พี่พิมทำร้ายตัวเอง แต่นั่นไม่สำคัญครับ ที่สำคัญที่สุด...ผมรู้ตลอดเวลาที่ผ่านมา...พี่พิมต้องการผู้ชายสักคน...ของพี่...ของพี่จริงๆ...ผู้ชายที่จะกอดพี่...รักพี่ แล้วทำให้พี่ไม่เดียวดาย...จริงไหม พี่พิม”คำพูดนั้นทำให้คุณพิมร้องไห้โฮ เหมือนเด็กที่ไม่ได้ระมัดระวัง จะเสียภาพพจน์อีกแล้วเมื่อทุกอย่างลงเอยกันได้อย่างที่เรียกว่ามาพบกันครึ่งทาง คุณพิมผู้ได้พบว่าสุดท้ายที่เธอเพียรตะกายหานั่นคือแค่ใครสักคนที่รับรู้ว่าเธอมีตัวตนใครสักคนของเธอ...แค่ใครคนนั้นจริงๆไม่ใช่ “ป๋า” ที่พรากคนที่เธอรักจากไป เมื่อเธอยังเยาว์วัยไม่ใช่ “ลูกชาย

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 102

    ตอนที่ 102.“กับเพื่อนของเธอนะ นัน...พี่พุดทำท่าแปลกๆ”“แปลกยังไงคะ”“ผมว่าเราอาจจะเห็นคุณพุดตะครุบไล่ล่าเมธามาไว้จริงๆ”“หากเขายอม...”“ผมว่าเขาต้องยอม เพราะคุณพุดเป็นนักตื๊อ”“แม่นันก็มีความสุขกับคุณไพฑูรย์...และคนต่อไปที่จะมีความสุขคือพี่ธม เพราะแม่ก็อาจจะช่วยตามเมียกลับมาให้พี่ธมได้ และความสุขพวกนี้จะส่งตัวในครอบครัว เมื่อทุกคนมีควมสุขส่วนตัวก่อน จะมาถึงพี่น้องเครือญาติ มันจะเหมือนวงจรของความสุขที่ไหลเคลื่อนได้โดยไม่ติดขัด”“ช่างพูดจริง” เขาประทับจูบหล่อนเสียก่อนให้หล่อนพูดต่อ แต่เขาก็คิดว่าการไปพูดกับจักราอีกหนน่าจะดี...นันทาปลอบโยนเขาในค่ำคืนวันนี้...หล่อนเรียนรู้เรื่องของความรักจากที่เขาสอน...และตั้งแต่เข้าใจว่าความรักเป็นอย่างไร นันทาก็ทำให้ภีมมีความสุขอย่างแท้จริง ยามที่หล่อนเป็นฝ่ายหยิบยื่นความงดงามของความรักให้กับภีมนั้น แม้หล่อนจะยังงุ่มง่ามไปบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ภีมพบว่าไร้มารยาอย่างยิ่งเขาสามารถเสพสมได้อิ่มเอม และละความเศร้าหมองในหัวใจ...รสาตายแล้ว พ่อของหล่อนถูกจับ เป็นเรื่องอื้อฉาวของครอบครัว ลลิลไม่รู้สึกปิติยินดีตามที่เคยคิดเล่นๆ ในใจแม้แต่น้อย หล่อนเคยวา

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 101

    ตอนที่ 101เขารู้เรื่องนี้เพราะเขาเคยสนิทกับรสาไม่ใช่น้อย สนิทถึงขั้นเกือบจะแต่งงานกับหล่อนครอบครัวเกือบจะ “ดอง” กัน ด้วยความเหมาะสมของผู้คนภายนอกที่มองเข้ามาทุกคน...ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม ทุกอย่างเหมาะสมดีงามทั้งสิ้นแต่เขากับรสาก็ “วืด” จากกัน ไม่ต้องโทษหล่อน หากแต่โทษเขาได้เลย เพราะเขาหันไปมองลลิลที่เข้ามา หล่อนอ่อนวัย ร่าเริง และสนุกสนาน พอดีกับเขามองเห็นว่ารสาอยู่ในกรอบที่เข้มงวด ความสวย ความเพียบพร้อมของหล่อนมีผลทำให้เขาขบคิดมากมายว่าเขาจะทนอยู่ในกรอบได้หรือไม่ การเลือกคบหากับลลิลวันนั้นเป็นเพียงการถอยออกจากรสาและได้ผลทีเดียว รสาถือตัวเกินกว่าจะลดตัวมาแย่งชิงกับหลานสาว และเขาก็ไม่ได้สานต่อกับลลิล เพียงถอยจากรสาได้ ลลิลก็หมดประโยชน์เขาได้เห็นเรื่องวุ่นวายในครอบครัวของรสามาก่อน นั่นก่อนจะได้เห็นเรื่องวุ่นในครอบครัวตัวเอง“พี่น้องกัน...ไม่น่าเลย...คุณพรไชยไม่น่าจะทำแบบนั้น”แต่จะต่างอะไรจากไพฑูรย์เคยทำ“เหมือนที่ไพฑูรย์เคยทำกับผม”นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเล่ารายละเอียดกับหล่อน นันทาเคยถาม เขาก็ไม่เล่า เพราะมีนงนุชอยู่ในเรื่องราวนั้นด้วย หล่อนเชื่อว่าเขาห่วงความรู้สึกหล่

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 100

    ตอนที่ 100.“คุณพิมเธอใส่หน้ากาก เล่นละครมานานมาก ตอนแรกฉันก็โกรธนะ แต่พอรู้เรื่องเบื้องหลังของเธอ ฉันก็โกรธไม่ลง ยิ่งป๋าขอด้วยแล้วฉันก็พร้อมให้อภัยเธอ แต่นายคิดยังไง จะยอมรับคุณพิมไหม”จักราเงยหน้าสบตากับเพื่อน“ฉันเห็นพี่พิมมานาน เธอเป็นผู้หญิงแสนดีทุกอย่าง ที่เราปรารถนาอยากจะได้ แต่พอได้...”เขาเว้นวรรคการพูด ละอายใจที่จะเอ่ยเรื่องนี้“ภีม ฉันไม่อยากพูดมาก จะเหมือนฉันเอาเรื่องลับมาประจาน แต่ฉันต้องพูดเหมือนกัน พี่พิมจะครอบงำฉัน และฉันเพิ่งรู้เรื่องที่เธอเป็นแม่ของไพฑูรย์และเธอคิดไม่ดีกับป๋า ฉันไม่อยากสมรู้ร่วมคิด อีกอย่างความสัมพันธ์ของฉันกับเธอ มันเหมือนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เธอจะครอบงำฉัน และเมื่อความลุ่มหลงจางลง ฉันก็ไม่อยากจะเข้าใกล้เธออีก..”ต้องยอมรับว่าหน่ายแหนงลงไวมาก เพราะที่เกิดไม่ใช่ความรัก“ตอนนี้ฉันไม่ยอมไปเจอเธออีก”“คุณพิมจะยิ่งคลั่งนะ”“ฉัน...อาจจะชั่ว...แต่ฉันไม่อยากเจอเธออีก”จักราบอกออกมาในที่สุด“ทั้งที่...ฉันก็ยังชอบเธอมาก แต่มีอะไรที่ทำให้ฉันอยากถอยห่าง”“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ขอให้นายอยู่ห่างคุณพิมจริงๆ ก็พอ”“ภีม ฉันเสียใจนะ”“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ...นายประ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status