แชร์

ตอนที่ 5

ผู้เขียน: นาวิกา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 14:36:57

ตอนที่ 5.

“ที่ไหน?”

เขาลุกพรวดพราดขึ้น แต่เนื้อตัวก็เจ็บออกไปหมด กระดูกบางส่วนลั่นกุ๊บกั๊บจนเจ็บ แสงไฟตรงจุดที่เขานอนไม่สว่างมากนัก แต่ถัดไปตรงมุมห้องโน้นดูสว่างเพราะโคมแบบตั้งพื้นข้างในเป็นดวงไฟนีออน

ใกล้ๆ ไฟดวงนั้นคือร่างที่นอนขดคู้ มีผ้าห่มปิดทับอยู่ ดูแต่ไกลเหมือนกองอะไรสักกองที่ขยุกขยุย

เขาปัดผ้าห่มออกจากตัว แล้วก็ทำหน้าพิกลเมื่อรู้สึกว่าเนื้อตัวว่างๆ โหวงๆ อย่างไรอยู่ แล้วพอก้มลงมอง ก็สะดุ้งเฮือก เพราะไม่มีเสื้อติดตัวเขาเลยสักชิ้น จึงได้แต่ตวัดผ้าห่มกลับขึ้นคลุมตัวเองอยู่อย่างเดิม จะส่งเสียงเรียกคนที่นอนตรงโน้นก็ออกจะเกรงใจ เพราะนึกลำดับเรื่องราวได้แล้วว่า เขาหนีกระเซอะกระเซิงมาเจอผู้หญิงคนหนึ่งเข้า ขอความช่วยเหลือจากหล่อน

ที่นอนอยู่ตรงโน้นอาจจะเป็นหล่อนก็ได้

ได้แต่รอให้หล่อนตื่นขึ้นมา แล้วจะขอเสื้อผ้าจากหล่อน ที่ดีที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้ ก็คือนอนนิ่งๆ รอคอย แม้ท้องจะร้องโครกครากและเจ็บเนื้อตัว เจ็บแผลที่หน้าและที่ศีรษะ และยังรู้สึกเหมือนไข้กำลังขึ้นอีกด้วย

นันทาพลิกตัวกลับมาอีกฟาก ตอนใกล้รุ่งแล้วมีเสียงไก่ขานขันรับกันอยู่ภายนอก ใกล้และไกลออกไปเป็นทอดๆ อย่างไม่ตั้งใจ หล่อนหยีตาขึ้นมองไปทางเตียงที่มีคนแปลกหน้านอนอยู่

แล้วหล่อนก็รีบลุกขึ้นมานั่งโดยเร็ว เมื่อมองเห็นว่า เขามองมาทางหล่อนอยู่แล้ว...นัยน์ตาใสเสียด้วย

แต่พอลุกเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับท่าทางเคร่งขรึม ตาใสๆ นั่นก็ดูไม่ใสสนิท เพราะเหมือนเขากำลังมีไข้สูง เห็นเส้นสีแดงเป็นริ้วๆ ชัดเจนบนพื้นตาขาวของเขา

“ตื่นนานแล้วรึ”

หล่อนถาม วางตัวให้ไม่สนิทกับเขามากนัก แล้วไม่เข้าใกล้เขามากอีกด้วย เพราะหล่อนยังไม่รู้ว่าทั้งหมดนี่เป็นอันตรายเพียงใด และเหมือนเขาจะตามความคิดของหล่อนได้ทัน

“อย่ากลัวผม...” น้ำเสียงของเขาแหบแห้งนัก

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วคุณเป็นใคร...”

“ผมชื่อภีม...”

“สั้นๆ แค่นี้เองน่ะรึ คำแนะนำตัว”

นันทาค่อยๆ นั่งลงริมเตียง แต่ห่างจากเขา ขนาดที่เรียกว่าหากเขานอนอยู่ก็ควานมือมาไม่ถึงร่างหล่อนแน่นอน

“ผม...ไม่แน่ใจ...อันตราย...รอบตัวผมเลยนะ”

“รวมฉันด้วยรึ”

เขามองหล่อนแม้จะวางใจ แต่ก็ยังไม่สนิทนัก ในที่สุดนันทาก็เลยพยักหน้าราวกับจะตัดใจอย่างแรง

“ก็ได้...ไม่อยากบอก ก็ไม่ต้องบอก...”

“ผมหิว” เขาร้องขอ มีความอับอายปนอยู่บ้างเหมือนกัน “แล้วก็อยากให้...ช่วยทำแผลให้หน่อย”

“เมื่อคืนน่ะ ฉันเตรียมอาหารให้คุณแล้ว แต่คุณไปล้มอยู่ในห้องน้ำเสียก่อน แทบแย่ทีเดียวกว่าจะลากคุณมาถึงห้องนี้ได้...ถ้าหิวก็รอก่อนนะ ฉันจะออกไปต้มโจ๊กมาให้ใหม่ อาหารเมื่อคืนกินไม่ได้แล้วล่ะ”

นันทากระวีกระวาดออกไป แต่พอถึงประตู เขาก็ร้องเรียกเอาไว้ แล้วพอหล่อนหันกลับมาทำหน้าเหมือนถาม ก็ได้ยินเสียงเขาขอร้องอย่างแผ่วเบา

“ผมไม่เคยจริงๆ ที่จะนอน โดยไม่นุ่งผ้าติดตัวสักชิ้น”

หล่อนอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ แต่พยายามกลั้นเอาไว้เพราะกลัวว่าเขาจะอับอาย

แต่นัยน์ตาของหล่อนเป็นประกายพราว และนั่นทำให้หน้าเขาร้อนผ่าวเสียยิ่งกว่า ความร้อนจากพิษไข้ที่รุมเร้าเขาอยู่

“รอเดี๋ยวนะคะ”

“ชุดเสื้อผ้าของคุณ...ฉันเพิ่งซัก อยากจะให้หมดกลิ่นเหงื่อเสียก่อน”

หล่อนหยิบเอาเสื้อ และกางเกงชุดเดิมที่ซักแล้วของเขาออกมาให้

เขาหยิบพลิกๆ ดูก่อนจะมองหน้าหล่อนเป็นเชิงถาม

“กางเกงในคุณมันสกปรกมาก ฉันโยนทิ้งไปแล้ว”

“แล้วผมจะนุ่งอะไรข้างในล่ะ” เขาประท้วง

“มีกางเกงตัวนอกก็พอแล้วไม่ใช่หรือคะ” นันทาตอบหน้าตาเฉย แล้วออกไปจากห้อง ทันได้ยินเสียงพูดพึมพำของเขาอยู่เหมือนกัน

“ผมไม่เคย ที่จะไม่นุ่งกางเกงใน”

หล่อนเลยชะงัก เหนี่ยวขอบประตูเอาไว้ยื่นโผล่เฉพาะหน้าเข้ามามองเขา นัยน์ตาแต้มยิ้มยั่ว

“ก็หัดเคยเสีย กะแค่ไม่ได้นุ่งกางเกงในสักวันสองวัน ก็คงไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับต้องหนีภัยหัวซุกหัวซุน

คราวนี้หล่อนออกไปแล้วจริงๆ มันก็จริงทุกประการที่หล่อนพูด เขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด ชายหนุ่มถอนใจยาวและความมึนตื้อก็ยังมีอยู่จนทำให้ต้องทิ้งตัวนอนราบลง หลังจากลุกมาใส่เสื้อใส่กางเกงให้ตัวอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะแทบจะไร้เรี่ยวแรงพยุงตัวเองเอาไว้ให้มั่น

และเขาก็คงจะต้องยึดเอาบ้านนี้ และผู้หญิงคนนี้เป็นที่พึ่งให้กับตัวเองในช่วงนี้ไปก่อน

จนกว่าเขาจะช่วยเหลือตัวเองได้

โจ๊กร้อนๆ มีไข่ไก่ต่อยใส่มาด้วย ส่งควันกรุ่นกลิ่นหอมชวนให้กินอยู่ไม่ไกลนัก ชายหนุ่มประคองตัวเองขึ้นมานั่งและมองดูหญิงสาวที่ถอยออกไปยืนอยู่เสียห่างจากเขา ท่าทางของหล่อนบอกถึงความไม่วางใจ จนเห็นได้ชัด

“ผมไม่เป็นอันตรายกับคุณ”

“ฉันไม่เชื่อ” หล่อนบอกตรงๆ “แค่คำพูดใครๆ ก็พูดได้ กินโจ๊กซะให้มีกำลังเดี๋ยวฉันจะทำแผลให้ พอสายๆ หน่อยฉันอยากให้คุณไป”

“ผมยังอยากพักอยู่ที่นี่”

“คุณต้องไป” นันทาเน้นเสียง “อย่ามาเล่นแง่กับฉัน ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคุณจะมาอยู่ ฉันไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรบ้างข้างนอก แต่อย่าได้เอาเรื่องเดือดร้อนใจมาให้ฉันดีกว่า ฉันยอมรับว่ากลัว...แล้วยังไม่ใจบุญขนาดจะยอมรับภัยที่จะคืบคลานเข้ามาหา”

“ผมกำลังเดือดร้อนมากนะ” เขาเว้าวอน...แล้วคำรามอยู่ในใจ

...ให้ตาย นี่เราไม่เคยต้องง้องอนใครขนาดนี้มาก่อนเลย กับผู้หญิงตัวเท่านี้เอง ต้องมาทำแบบนี้...

“ถ้าไปได้ ผมจะไปทันที ขืนผมออกไปตอนนี้ ผมอาจจะเอาชีวิตไม่รอดก็ได้”

นันทาทำตาปริบๆ แต่ก็ยังไม่วายเสียงแข็ง “ถ้าจะต้องตาย ก็ตายคนเดียวดีกว่ามั้ง” หล่อนหลุดปากออกไป

“ใจดำ!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 15

    ตอนที่ 15.“แม่ยอมรับพวกเราได้แน่หรือคะ”นั่นสิ...นงนุชก็ต้องทบทวนให้หนักกว่านี้“แม่ทิ้งหนูกับพี่ธมไปนานแล้ว นานมากจนหนูคิดว่าแม่ตายแล้ว และหนูก็รอดมาได้เพราะพี่ธมสู้ชีวิตทุกอย่าง เขาส่งหนูเรียนจนจบ ไม่มีเขา หนูก็ไม่มีวันนี้ แต่แม่....ไม่สำคัญอะไรเลย” หล่อนก้าวถอยหลังและชี้มือไปยังประตูบ้าน “แม่ไปเถิดค่ะ แม่เข้ามาเห็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรตามที่แม่สงสัยไม่ใช่หรือคะ กลับไปเสียเถิดค่ะ กลับไป อย่ามาให้เห็นหน้ากันอีก”หล่อนไล่แม่ นงนุชคอตก เดินไปจนถึงประตู แล้วก็เอ่ยออกมาว่า “หนูพาผู้ชายมาอยู่ด้วยใช่ไหม นันทา”หล่อนสะดุ้ง“ธมรู้ไหม”หล่อนไม่ตอบ กำมือแน่น“ทำตัวให้ดีนะ ผู้ชายน่ะเชื่อยาก”“ออกไป” หล่อนตะโกนสุดเสียง“แม่รักหนูนะ นันทา”หล่อนไม่มีวันเชื่อแม่ ไม่เชื่ออีกแล้ว หล่อนวิ่งมาปิดประตูใส่กลอนมือสั่นแล้วร้องไห้โฮ...เสียงแม่ยังลอดเข้ามา “หนูน่ะลูกแม่ อย่าลืมว่าหนูมีเลือดแม่”นันทานั่งลงเอามือปิดหู กรีดร้องสุดเสียง หล่อนเกลียดคำนี้...เลือดแม่...ไม่...หล่อนจะไม่มีวันเป็นเช่นแม่ ไม่...็นเช่นแม่ไม่...จนกระทั่งมีใครคนหนึ่งมากอดหล่อนเอาไว้ “ผมเอง” เสียงภีมบอก เขากลับมาเองหล่อนดิ้นร

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 14

    ตอนที่ 14....แม่คุณ คิดตัวเลขได้ไงนั่น แล้วหากมันจริงตามนั้นก็น่าเศร้าจัง...“ร้อยปี...แม่เจ้า เงินล้านใน100ปี”“มีอีกทางนะ...” ภีมบอกหน้าตาเฉย“ทางไหนคะ”“หาผู้ชายเลี้ยง”นันทาหน้าแดง“หาผัวน่ะ เธอก็สวย...หาผัวรวยๆ ได้เงินล้านโดยไม่ต้องมาเก็บสะสมเบี้ยใต้ถุนร้านทีละพันต่อเดือน....”เขาหัวเราะและหล่อนไม่ยอมหัวเราะด้วยอีกเลย“จริงไหม” ถามซ้ำหล่อนไม่ตอบ“ทำไมไม่ตอบละ”“ขอบคุณที่แนะนำ”“นั่นง่ายสุด”“คุณมีพี่น้องผู้หญิงไหมคะ” นันทาถามกลับหน้าตาเฉยๆบ้างและกว่าเขาจะรู้ว่าหล่อนยอกย้อนประการใด ก็โดนเข้าเต็มๆ“เอาไว้แนะนำพวกเธอนะคะ ถึงจะรวยแล้วก็เถิด เอาไว้เงินต่อเงิน ฉันไม่สนใจคำแนะนำนี่...การมีสามีสักคน...ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการหากระเป๋าเงิน”“อือ...” ภีมรำพึง “เธอไม่เหมือนแม่ของเธอนะ”เหมือนยั่วจุดเจ็บ นันทาหน้าเผือดลง“ได้โปรด...หากสำนึกบุญคุณของฉัน ไม่ต้องเอาเงินล้านให้ฉัน แต่อย่าเอาแม่ฉันมาประณาม แค่นั้นก็พอ”ภีมมองหน้าหล่อนอีกหน เสียงเขาอ่อยลง “มีปมด้วยเรื่องแม่หรือ”หล่อนไม่ตอบ“มีทำไม นันทา อย่าทำชีวิตมีปมด้อยสิ ได้ไหม...อย่าทำให้ตัวเองมีปมด้อยในทุกเรื่อง ได้ยินไหม เพื

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 13

    ตอนที่ 13.“นั่นไง เธอคิดใช่ไหมว่าผมเสียสติ และโดนกักขังเอาไว้เพื่อไม่ให้อันตรายคนอื่น และผมหลุดหนีมาได้”“คุณพุดเองทั้งหมดนี้นะ”“แต่เธอคิดใช่ไหม”“ขอความจริงค่ะ” นันทาบอกเรียบๆ “ได้เวลาพูดความจริงกันดีกว่าไหมคะ”“ก็ได้ ความจริงนะ เอาความจริงกันแบบเนื้อๆ เลยนะ” เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ผมมาจากครอบครัวใหญ่ พ่อผมมีเมียห้าคน มีลูกสี่คน...จากเมียสี่คนในห้า...ผมเป็นลูกคนเล็ก ไพฑูรย์ลูกชายคนที่สาม แต่งงานกับนงนุชแม่ของเธอ และเขาไม่อยากให้มีผมเป็นผู้ชาย เป็นลูกชายอีกคนของป๋าก็เท่านั้น เขาหาทางกำจัดผมมานานแล้ว”“แย่งสมบัติกันหรือครับ”ชายหนุ่มยักไหล่ “เขาคงอยากแย่ง”“แล้วคุณละ”“ผมไม่อยากแย่ง”ดวงตาของนันทาปรากฏรอยคลางแคลงและเสียงของเขาก็เคร่งเครียดทันที “คนเราคิดไม่ต้องเหมือนกันนะ”“ค่ะ” ในที่สุดหล่อนก็ยอมรับสั้นๆ“เธอจะเชื่อผมหรือไม่ก็ตามที แต่ผมไม่ได้เสียสติ ผมโดนพาตัวมาขัง และจะให้ผมเซ็นยินยอมในหุ้น ในทรัพย์สินก่อนจะฆ่าผม”“แม่ฉันอาจจะไม่น่ารักบ้างบางเรื่อง” หล่อนตอบระมัดระวัง “แต่แม่ไม่ใจร้ายขนาดฆ่าคน”เขาหัวเราะใส่หน้า น้ำเสียงหัวเราะแกมเยาะ “กี่ปีแล้วที่เธอไม่เจอแม่ตัวเอง”หล

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 12

    ตอนที่ 12.“คงเกินสินะ”“คุณจะให้คนมารับตัวไปใช่ไหม” หล่อนตั้งคำถาม “คนที่คุณให้ฉันติดต่อ”“นันทา...เรายังคุยกันเรื่องแม่เออยู่นะ”“หากคุณอยากต่อว่าเรื่องแม่ฉัน คุณควรเกรงใจฉันบ้าง”“เกรงใจ...?”“ใช่ ยังไงก็แม่ของฉัน”ชายหนุ่มทำท่ารับรู้“แม่อาจจะไม่ดีในสายตาคุณ แต่นั่นคือแม่ของฉัน”“แล้วไง”หล่อนมองสบตากับเขา “ฉันขอใช้สิทธิ์”“สิทธิ์อันใด”“สิทธิ์ปกป้องแม่จากการให้ร้ายของคุณ สิทธิ์ที่ฉันช่วยชีวิตคุณ...”“จะให้ลบล้างหายกันหรือ นันทา รู้ไหมแม่เธอพยายามฆ่าผมนะ...”“ก็ลบล้างกันไป...ฉันช่วยให้คุณรอด รีบไปซะ รีบไป”“เธอกลัวแม่เธอจะรู้ความจริงของเธอหรือกลัวเธอจะรู้ความจริงของแม่”นันทาสบตากับเขาอย่างกล้าหาญ “คุณมีแม่ไหม”“มีสิ ใครบ้างไม่มีแม่”“ถ้ามี...และรักแม่ ไม่ว่าแม่จะเป็นอย่างไร คุณควรรู้ เราย่อมยกย่องเทิดทูนเอาไว้ไม่ยอมลากลงมาพัวพันกับเรื่องไม่ดี เข้าใจไหม”เขารู้ว่านันทาไม่พอใจในการพูดถึงนงนุชและทำอย่างไรหล่อนก็ไม่ยอมพูดหรือคุยเกี่ยวกับนงนุชเลย เขาได้แน่ใจอย่างหนึ่งว่าความสัมพันธ์กับแม่ของหล่อนนั้น “แย่” หนักเอาการ หล่อนคงไม่ได้พบแม่มาหลายปี นงนุชเองก็อยู่ในสภาพสาวใหญ่ที่ไม่มี

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 11

    ตอนที่ 11.ไพฑูรย์ไม่ได้โกรธกับคำวิจารณ์นั้น “ทำไงได้ ป๋าเป็นคนมักมากในกาม” เขาร่วมตำหนิคนเป็นพ่อเสียอีก “เชื้อผู้ชายบ้านเราไวไฟ...มักมาก...”“คุณน่ะฉันพอรู้ แต่คุณภีม เขาเป็นด้วยหรือ”“หมอนั่นน่ะเซียนเลย”“ไม่น่าเชื่อ”เขาปรายตามอง “อยากลองมันหรือ”“บ้าสิ คุณ ฉันจะไปอยากลองเขาทำไม”“ก็เห็นทำท่าสนใจ”“คุณอวดสรรพคุณเขาเองว่าชั้นเซียน ฉันเห็นท่าทีภายนอกของเขาก็ยังงั้น...แค่รูปหล่อ...ไม่คิดว่าจะเก่งกาจเรื่องพรรค์นั้นด้วย อีกอย่างเขาจะเก่งกว่าคุณหรือ”นงนุชกอดแขนเขาทำตาเยิ้มฉ่ำ ก่อหวอดของความใคร่ใหลหลง “คุณน่ะสุดยอดสุดแล้วนา”ไพฑูรย์หัวเราะชอบใจ แน่ละมีความลำพองอยู่ด้วยไม่น้อย...เขาหลงลำพองในตัวเองมากมายในเรื่องนี้ ในเสน่ห์เล่ห์บุรุษที่จะทำให้สตรีติดใจในรสสวาท...และแน่นอนว่าเขาก็เลือกผู้หญิงที่เขาจะอยู่ด้วย...เขาเลือกนงนุชที่อายุมากกว่าเพราะหล่อนมีดีในตัวที่ทำให้เขาติดอกติดใจ...ไม่เพียงแต่หล่อนติดใจเขา ต่างติดใจกันและกัน“นี่เราจะตามหานายภีมได้ที่ไหน”“ติดต่อกลับไปที่บ้านไว้แล้วกัน...หากเขากลับไปเราจะรองรับแผนใดได้อีก”“จริงของคุณ ผมลืมไปเลย แผนสองรองรับหากมันรอดกลับไป”“เราจะ

  • ดั่งไฟพิศวาส   ตอนที่ 10

    ตอนที่ 10.“ผมรู้ว่าเธอไม่อยากจะเชื่อ”“ฉันจะให้คุณอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะไปไหว อย่าลืมรับปากฉันก่อนว่าคุณจะต้องรีบไปทันที เมื่อคุณไปได้”“ผมจะไม่ลืมพระคุณคราวนี้เลย”“ฉันหวังเพียงแค่ว่า สิ่งที่ฉันทำลงไปอาจจะช่วยไถ่บาปที่แม่ฉันทำลงไปได้บ้าง”น้ำเสียงของนันทาขมขื่นเป็นอันมาก แล้วลุกผละไปแต่พอไปถึงประตู เขาก็เรียกหล่อนเอาไว้“มีอีกเรื่องที่ผมอยากรบกวนทำให้ผมด้วย”“ฉันกำลังฟังอยู่ค่ะ”“ผมอยากให้ติดต่อคนคนหนึ่งให้ผม ด่วนที่สุดเลยนะ”เขาบอกชื่อบอกสถานที่ติดต่อ โดยที่นันทาเป็นฝ่ายรับฟังอยู่เงียบๆ โดยไม่พูดประการใดนอกจากรับคำสั้นๆ“ฉันจะทำตามที่คุณร้องขอ”“หลานสาวหน้าตาดีนะ คุณ”ไพฑูรย์ออกปาก...นงนุชยักไหล่แล้วหัวเราะ เอ่ยทีเล่นทีจริง“สนใจล่ะสิ”“ได้ไหม”“อย่าดีกว่า”“ทำไมละ หรือว่าหึง”“เปล่า แต่ฉันไม่อยากให้เป็นเรื่อง เด็กคนนั้นมีพี่ชายที่เหมือนหมาบ้า”หล่อนพูดถึงธม...เขาเป็นเช่นนั้นจริงๆ และทั้งหมดนั้นเพราะหล่อน...ผิดที่หล่อนทิ้งเขาและนันทามาตั้งแต่วันที่สามีตาย...หล่อนทิ้งหน้าที่ของแม่...จำได้ว่าธมเคยขอร้องแกมวิงวอนให้หล่อนอยู่เพื่อเป็นครอบครัว ธมบอกว่าเขาจะหาเลี้ยงครอบครัว เขาพูดเสมอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status