Share

Chapter 9 "นะ..." 1

last update Last Updated: 2024-12-07 10:46:38

สมองส่วนเหตุผลของเนตราร้องให้หนี สถานการณ์ระหว่างเธอกับชวินทร์แปลกเกินไปแล้ว ไม่มีเหตุผลเลยที่เธอกับเขาจะเป็นแฟนกันได้

ขณะสมองส่วนจินตนาการกระซิบฟุ้งฝัน ชวินทร์ชอบเธอ เขาเป็นของเธอ คนอย่างชวินทร์ไม่มาเสียเวลาโกหกเธอหรอก สีหน้าเขาบ่งบอกทุกอย่างเหมือนวันนั้นที่ตื่นมาเจอเธออยู่เตียงเดียวกัน

เนตราควรเป็นสุขในชีวิตที่เหมือนฝัน กับคนที่พึงใจมานานหลายปี ชวินทร์ทั้งรูปหล่อ ร่ำรวย ห่วงใย เอาใจเธอ แต่สมองส่วนเหตุผลยังค้านไม่เลิก

เธอล้ากับความคิดปัจจุบันของตัวเอง จนนั่งลงริมหาด รับลมทะเล ปล่อยใจคิดถึงอดีต ย้อนวันวานที่เคยมีร่วมกัน กระทั่งเขาตามมาพบ

ชวินทร์โกรธ แต่เธอรู้สึกได้ว่าไม่ใช่การโกรธแบบเช้าวันนั้น เขาพาเดินกลับบ้าน บอกให้ไปอาบน้ำ เตรียมตัวทานอาหารเย็น ระหว่างเลือกเสื้อผ้าใส่ ในสมองแวบภาพเหตุการณ์แบบนี้

“ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวพี่แกะข้าวเย็นไว้รอให้”

ใครบางคนเคยพูดกับเธอ เสียงทุ้ม อบอุ่นใจดี แต่ไม่ใช่ชวินทร์ ศีรษะปวดหนึบๆ หลังเนตราพิงประตูตู้เสื้อผ้าไม่ให้ล้ม สูดลมหายใจลึก

เตือนตัวเองให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งเร่งร้อนเอากับสมองนัก ค่อยเป็นค่อยไป หมอยังบอกเองเลยว่าสักพักความทรงจำทั้งหมดจะกลับมา

“ดาว”

ชวินทร์เคาะประตูหน้าห้อง ด้วยเห็นเธอหายไปนาน

“เป็นหรือเปล่า ข้าวเย็นเสร็จแล้วนะ”

“ได้ เดี๋ยวฉันออกไป นายไปรอข้างล่างเถอะ”

เธอนิ่งไปสักพักเพื่อเรียบเรียงสติ แล้วเลือกสวมเสื้อแขนกุดลายดอกไม้ กางเกงห้าส่วนสีเทา ปล่อยผมยาวเคลียบ่า

ชวินทร์ยังอยู่ในชุดเดิม บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยกุ้งหอยปูปลา ข้างกันเป็นถ้วยน้ำจิ้มสีสันจัดจ้าน รสชาติน่าจะแซ่บ

“ถือเป็นการฉลองที่ดาวหายป่วยไง”

โต๊ะใหญ่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเพียงเขากับเธอนั่งกันสองคน

“กินเยอะๆ นะ ดาวผอมไป”

ชวินทร์หยิบก้ามปูที่กะเทาะเปลือกบางส่วนมาให้ เขามองดูเธอจัดการอาหารไป พลางจิบไวน์

“ไว้อาการดีขึ้นกว่านี้ค่อยดื่มแอลกอฮอล์นะ” เขาเย้า

“ฉันไม่ได้อยากดื่มเหล้าสักหน่อย”

เนตราแค่มองเฉยๆ เธอเป็นประเภทคออ่อน ชวินทร์ก็รู้ ห้องกลับมาเงียบ มีเพียงเสียงช้อนกระทบจาน กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้เธอทานลำพัง ขณะเขาดื่มไวน์

“บ้านนี้เป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวนายเหรอ”

เธอชวนคุย ทำลายบรรยากาศแปลกๆ ที่รู้สึกเหมือนเป็นหนูกำลังแอบกินชีสแล้วมีแมวตัวใหญ่จ้องตะปบ

“ฉันเห็นรูปถ่าย นั่นนายกับพ่อแม่หรือเปล่า”

เนตราพยักหน้าไปทางในห้องนั่งเล่น บนผนังมีรูปภาพล้อมกรอบหรูแขวนอยู่หลายภาพ

“เรียกกันซะห่างเหิน อยากให้ดาวเรียกชื่อผมว่าโน้ตมากกว่า”

เขากลับเฉคุยเรื่องอื่น

“ฉันไม่ชิน สมัยมหาวิทยาลัยก็เรียกอย่างนี้นี่”

“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เราไม่ใช่แค่เพื่อน”

เพราะแสงดาวไล้ท์อ่อนละมุนหรือเปล่าก็ไม่รู้ คืนนี้ชวินทร์หล่อมาก เนตรารู้สึกตาพร่า โฟกัสอะไรยาก ราวกับเป็นคนเมาทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล้าสักหยด

“เรียกชื่อผมใหม่สิ...ดาว”

เขาวางแก้วไวน์ลง มือทั้งสองประสานใต้คาง ตาจ้องเธอฉ่ำเยิ้มระยิบยับ

“นาย...เมาแล้วมั้ง”

“อย่าเปลี่ยนเรื่องสิ ผมขอแค่ให้เรียกชื่อ”

เนตราไม่คิดเลยว่าการเรียกชื่อใครสักคนจะทำให้อายได้ถึงขนาดนี้

“...นะ” เขาเร่งเร้า ค้อมตัวเข้าใกล้

“โน้ต”

ถ้าไม่เรียกสงสัยเขาจะพุ่งจากอีกฟากโต๊ะมาหาเธอแน่ ชวินทร์ยิ้มพึงใจ คลายมือออก หันไปหยิบแก้วไวน์มาจิบต่อ

“ต่อไปให้เรียกอย่างนี้”

“นายเอ๊ย! โน้ตที่เป็นแฟนประเภทช่างบังคับสินะ”

เธออิ่มของคาวแล้ว คนของเขาที่มาจากไหนไม่รู้ยกอาหารไป และแทนที่ด้วยจานผลไม้ตัดเป็นชิ้นพอคำ

“กล่าวหากันจัง เราเป็นแฟนที่เคารพการตัดสินใจของกันและกันอย่างเท่าเทียม”

“ไม่น่าเป็นไปได้”

“งั้นลองพิสูจน์ไหม” ชวินทร์ชวนเสียงกรุ้มกริ่ม

“ไม่ต้องหรอก ถ้าฉันคบกับโน้ต แสดงว่ายอมรับนิสัยทุกอย่างได้”

เนตราจิ้มแตงโมเข้าปาก

“การเข้าใจอะไรง่ายเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของดาวในสมัยมหาวิทยาลัยที่ผมชอบ”

“พูดเหมือนตอนนี้โน้ตไม่ชอบฉัน”

“ดาวคนในปัจจุบันนี่อ่านยากขึ้น จนบางครั้งผมก็ไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่”

ชวินทร์เล่าเหมือนเพ้อ มือยกแก้วคลึงเล่น ไวน์ในแก้วเคลื่อนเป็นระลอกคลื่นล้อแสงไฟ

“เราอยู่ในช่วงมีปัญหากันหรือเปล่า”

รสหวานของแตงโมดูทว่าจะเจือความขมเสียแล้ว

“เป็นสาเหตุที่ฉันล้มหัวแตกใช่ไหม”

เนตราซุ่มซ่ามอยู่หรอกนะ แต่ไม่คิดว่าขนาดจะหกล้มในบ้านตัวเอง”

“ไม่ใช่เลย ว่าคิดอะไรไร้สาระนะดาว เดี๋ยวก็ปวดหัวหรอก” เขาเอ็ดแกล้มหัวเราะ

“บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวผม”

“หือ” เธอทำหน้างง

“ก็เมื่อกี้ดาวถามไม่ใช่เหรอ”

ชวินทร์เปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว

“รูปในห้องนั่งเล่นนั่นพ่อแม่นายเหรอ”

ดีเหมือนกัน เธอก็ไม่อยากคิดอะไรมากตอนนี้ กลัวยิ่งปวดหัว สู้ค่อยๆ เก็บข้อมูลของตัวเองในปัจจุบันดีกว่า

“ใช่ เห็นรูปผมตอนเด็กๆ หรือยัง น่ารักนะ”

“เห็นแล้ว” เธอย่นจมูกหมั่นไส้

“ตอนเด็กๆ ครอบครัวผมมาพักร้อนที่นี่ทุกปี จนผมขึ้น

ม.ต้นนั่นแหละที่เริ่มหายไป”

“ทำไมล่ะ”

เนตราไม่เคยรู้เรื่องเขาลึกซึ้งไปกว่าการเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัย เป็นครั้งแรกที่ชวินทร์ได้ยินเรื่องครอบครัวจากปากเจ้าตัวเอง

“ทุกคนเริ่มโตขึ้น การมาทะเลกับครอบครัวเริ่มไม่สนุกอีกต่อไป ...ก็แค่นั้นแหละ”

แล้วเขาก็กระดกไวน์ลงคอดังเอื้อก

“ครอบครัวดาวล่ะ ชอบไปเที่ยวที่ไหน”

“พ่อกับแม่ชอบพาฉันไปเขาดินบ้าง ไปสวนสยามบ้าง เรามีเงินไม่มากนัก แต่ฉันสนุกสุดๆ ไปเลย ตอนนั้นยังเด็กอ่ะนะ ไม่ได้คิดอะไรมาก”

ความทรงจำย้อนไปไกล สู่ความอบอุ่นของบุพการี ขอบตาเริ่มร้อนผะผ่าว

“พอมัธยมพ่อก็พาขับรถไปเมืองกาญจน์บ้าง ไปบางแสนบ้าง เช่าบังกะโลอยู่คืนสองคืน”

เนตรายังจำได้ถึงมือใหญ่สากๆ จากการทำงานหนักของพ่อ และรอยยิ้มละมุนละไมของแม่

“พ่อชอบขับรถ ทั้งไปทำงานแล้วก็พาฉันกับแม่ไปเที่ยว บางวันก็ขับไปสองคนกับแม่ ท่านทั้งสองอยู่ด้วยกันเสมอ”

เสียงคลื่นซัดสาดลอยแว่วกระทบหู ลมรำเพยนำพากลิ่นลีลาวดีมาต้องจมูก

“จนฉันคิดว่าอยากใช้ชีวิตคู่แบบนั้น”

“แบบที่แม้แต่ตายก็ตายด้วยกันเหรอ”

ชวินทร์จำข่าวการสูญเสียของเธอได้ เขาไม่ตั้งใจจะย้ำ แต่เพราะฤทธิ์น้ำเมาทำให้เผลอพูดสิ่งในใจ

“พูดตายๆ อยู่ได้ ไม่เป็นมงคลเลยเนอะ แล้วโน้ตละอยากใช้ชีวิตคู่แบบไหน แบบพ่อแม่ตัวเองหรือเปล่า”

เนตรากระพือขนตา ไล่น้ำที่กำลังจะไหล ผ่านไปกี่ปีร่องรอยความสูญเสียยังเรียกความเศร้าได้เสมอมา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 54 ‘You’ re my everything’ 2

    “ไม่เจอกันกี่ปีนะ หกปีแล้วใช่ไหม นายเป็นยังไงบ้าง”ฟลุ๊คถามไถ่เริ่มต้นบทสนทนา“ก็ดี ฉันดูแลกิจการครอบครัว”“ถามจริงกับดาวนี่ นายกะจริงจังกับเขานานขนาดไหน”นิ้วเรียวแกร่งที่กำลังจะกดปุ่มเลือกกาแฟจากตู้ชะงัก ดวงตาฟลุ๊คแสดงความไม่เชื่อใจฉายชัด“ถามอย่างนี้มีเคืองนะเว้ย มาต่อยกันดีกว่า”ชวินทร์มองหน้าอีกฝ่ายหมิ่นๆ“ไม่เอาล่ะ ขืนต่อยนายดาวจะพาลโกรธฉัน ฉันกับพวกสาวๆ เป็นห่วงดาว ถ้านายคิดจะเล่นๆ กับเขาก็พอได้แล้ว”เขาพุ่งตัวมา สองมือกระชากคอเสื้อฟลุ๊ค เพื่อนเนตราดาวเตี้ยกว่าเขานิดหน่อย จึงกลายเป็นต้องเขย่งเท้า“อย่าพูดหมาๆ แบบนี้อีก”ชวินทร์กัดฟันกรอด“พูดเรื่องจริงต่างหาก เมื่อหกปีก่อนตอนดาวเสียใจก็มีพวกฉันนี่แหละที่อยู่ปลอบใจ ตอนนั้นนายยังไปง้อแจงอยู่เลย” อีกฝ่ายไม่กลัวเขาเสียด้วย คิดว่าเป็นไงเป็นกัน ถ้าต้องมีเรื่องก็พร้อม“เออ เรื่องตอนนั้นฉันยอมรับผิด แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้น ฉันจริงใจกับดาว”“ฉ

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 53 ‘You’ re my everything’ 1

    ชวินทร์กลับบ้านตอนห้าโมงเย็น เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด เตรียมไปเฝ้าเนตรา คนรับใช้รีบรายงานเขาทันทีว่ารัชนีรออยู่ในห้องนั่งเล่น มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเขา“อาการเขาเป็นยังไงบ้าง เด็กคนนั้นที่ชื่อดาวน่ะ”เนตราเล่าว่าโดนไล่ออก ชวินทร์ไปไล่เบี้ยกับฉัตรบรรณ พบว่าคำสั่งมาจากฉวีวรรณ ฉัตรบรรณรอคุยกับมารดาช่วงเช้า แต่ท่านก็เลี่ยงด้วยเหตุผลไม่สบายสองหนุ่มวิเคราะห์กันว่ามารดาทั้งสองรวมหัวกันเล่นงานเนตรา เขาไม่แปลกใจนักที่ท่านรู้เรื่องเธอเข้าโรงพยาบาล“ฟื้นแล้วครับ ยังปวดหัวนิดหน่อย เพราะซ้ำรอยแผลที่เคยแตกเดิม”รัชนีพยักหน้า“แน่ใจแล้วเหรอกับคนนี้น่ะ แม่เห็นเขาหาแต่เรื่องเดือดร้อน เสียชื่อเสียง”“แล้วคนยังไงละครับที่คุณแม่ชอบ แบบแจงหรือเจมี่”ดวงตาภายใต้คิ้วเข้มวาวขึ้นทันใด เมื่อนึกถึงสิ่งสองคนนั้นทำ“อย่าประชดแม่นะ”นางเอ็ด แต่ลูกชายไม่สน“ถ้าเป็นดาว เขาจะไม่ทำให้ใครเจ็บตัว ว่าร้ายใครก็ไม่เคย”“ลูกตีค่าผู้หญิงคนนี้สูงไปหรือเปล่า”

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 52 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 3

    “ใครกันมาแต่ไก่โห่”บิดาตวาดด้วยอารมณ์กำลังขึ้น คนรับใช้หน้าเสีย“เขาบอกว่าเป็นลูกน้องเฮียไช้ค่ะ” ชื่อที่ได้ยินทำเอาชะงัก“คุณยังติดต่อกับไอ้เสี่ยนั่นอยู่เหรอ”ภรรยาเบ้ปากอย่างรังเกียจ“ไหนว่าคืนเงินที่ยืมมันหมดไปแล้วไง”สามีหลบตา เดินออกประตูไปหาแขกที่มิได้เต็มใจต้อนรับ“คุณเดี๋ยวก่อนสิ กลับมาพูดกันก่อน!”มารดาดุลยาร้องไล่หลัง“ใครมาหาพ่อคะแม่”“เสี่ยเจ้าของบ่อนที่พ่อแกไปยืมเงินไงล่ะ”นางตอบเสียงสะบัด“ไหนคุณพ่อบอกว่าเล่นพนันนิดๆ หน่อยๆ ไงคะ”บิดาเธอชอบแบบนี้ ท่านมีเพื่อนก้วนที่เล่นกันประจำ โดยเล่าว่ากินเงินกันขำๆ“นิดหน่อยกับผีล่ะสิ เป็นหนี้เสี่ยนั่นทีเป็นสิบล้าน ถามทีไรก็บอกแต่ว่าคืนแล้ว นี่ไม่รู้รอบใหม่เอามาอีกเท่าไร”ดุลยาอึ้งกับความจริงในฐานะครอบครัวที่ยอบแยบมากกว่าที่คิด“พ่อแกก็เป็นแบบนี้ บริหารงานรึก็ไปไม่รอด ญาติคนอื่นก็รอจะฮุบบริษัท”มาร

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 51 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 2

    “แล้วนี่ละพี่”ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเข้ามาพร้อมโทรศัพท์มือถือเครื่องคุ้นตา“ทั้งไลน์ที่ส่งให้คุณเจมี่ คุณแจง ทั้งรูปถ่าย”ฉัตรบรรณรับมาสไลด์ดูช้าๆ ชัดๆ พร้อมกับคิ้วที่ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน ภิรมย์เหงื่อแตกอ้าปากพะงาบๆ“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะคุณแปง คือ...”“รูปนี้ของผมกับดาวมาอยู่ในกล้องพี่ได้ยังไง”ชายหนุ่มเปิดรูปที่เขาปลอบเนตรดาวในวันที่เธอร้องไห้“...พี่เซฟรูปมาจากที่เขาแชร์กันมา”โธ่เอ๋ย! เธอน่าจะตั้งรหัสโทรศัพท์ตั้งแต่แรก เป็นผลจากความกลัวจำไม่ได้ ประมาทว่าจะไม่มีใครยุ่งกับของตัว“แล้วในไลน์ล่ะ”ฉัตรบรรณกดไปดูแอปพลิเคชั่นแชทสุดฮิตในทันใด แชทกลุ่มเจมิลลากับดุลยาปักหมุดไว้บนสุด เขาไล่สายตาตามบทสนทนาทุกบรรทัด ดุลยาเป็นตัวเสี้ยม ภิรมย์เป็นลูกคู่ ช่วยกันวางแผนบงการให้เจมิลลาไปทำเรื่องต่างๆ“ยังมีที่ไปปั่นเฟซอีกค่ะ”เจ้านายกดปิดหน้าจอ เพราะข้อมูลเพียงแค่นี้ก็เพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว“พี่ไปเซ็นใบลาออกที่เอชอาร์ได

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 50 สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม 1

    ชื่อสายเรียกเข้าจากจอมือถือทำดุลยาสะดุ้ง เธอสูดหายใจลึกรวบความกล้าส่งเสียงรับ“ไงคะโน้ต”“คุณแสบมากนะ ทำร้ายคนที่ผมรัก”...คนที่ผมรัก ยิ่งทำใจดุลยาร้อนรุ่ม แต่เธอไม่ใช่เด็กสาวอ่อนวัย จนกรีดร้องเก็บอารมณ์โกรธเกรี้ยวไว้ไม่อยู่“แจงไม่ได้ทำอะไรนะ แค่อยู่ในเหตุการณ์เฉยๆ เจมี่ต่างหากเป็นคนลงมือ เขาหึงคุณแปง”“แล้วใครล่ะที่คอยยุเขา คุณไม่ใช่เหรอ”“อย่ามากล่าวหากันนะ!”ดุลยาไม่เคยทำอะไรผิด ทุกอย่างเพราะสถานการณ์บังคับ หรือไม่ก็กดดันจนเธอต้องตัดสินใจทำอย่างนั้น หญิงสาวหาเหตุผลเข้าข้างตนเองได้เสมอ“ไปสอบสวนเจมี่โน่น”“ผมทำแน่”เขาย้ำเยือกเย็น แต่ดุลยาใจดีสู้เสือทำไม่กลัว“แล้วคุณจะได้รู้ว่าเจมี่เพ้อเจ้อขนาดไหน เขาน่ะเด็กเลี้ยงแกะตัวจริง เรียกร้องความสนใจ รู้เรื่องความแสบของเจมี่สมัยอยู่อเมริกาไหม”“ผมไม่อยากฟังจากคุณ จะคุยกับเจ้าตัวเอง”อย่างน้อยดุลยาก็ปล่อยพิษที่เรียกว่าความค้างคาใจไว้ให้เขาแล้ว

  • ดาวคะนึงรัก   Chapter 49 จะไม่ปล่อยเธอไปไหน 2

    เนตรากะพริบตาปริบๆ เห็นเท้าตนกำลังยืนอยู่บนพื้นที่นุ่มมาก สีขาวและบางเบาเรี่ยข้อเท้า ราวอยู่บนเมฆ ลมอ่อนพัดโชย กลิ่นสดชื่นเหมือนฝนตกใหม่ เธอกำลังก้าวขาไปข้างหน้าเรื่อยๆ ตรงหน้าปรากฎคนคู่หนึ่ง“พ่อคะ...แม่”เธอวิ่งถลาเข้าไปหา เหมือนเวลาเด็กอนุบาลมีพ่อแม่มารับหลังเลิกเรียน ท่านทั้งสองโอบกอดเนตราอย่างอบอุ่น น้ำตาเธอไหลพรากอย่างไม่อาย“หนูคิดถึงพ่อแม่ที่สุด”หญิงสาวบอกอู้อี้กับปกเสื้อพ่อ ซึ่งชื้นด้วยน้ำตา จำได้ว่าตัวนี้สวมให้กับมือก่อนนำร่างท่านบรรจุโลง“พ่อกับแม่ไม่ได้ไปไหน เราอยู่กับลูกเสมอในความทรงจำ”แม่ยิ้มละไม มือลูบศีรษะเธอด้วยความรัก“หนูอยากอยู่กับพ่อแม่”การที่ได้เห็นทั้งสองแบบนี้ แสดงว่าชีวิตเธอดับไปแล้วแน่ และที่นี่คงเป็นสวรรค์ แม้ไม่มีนางฟ้า เทวดา ไม่มีทิพยวิมาน แต่ขอแค่มีพ่อแม่ลูก แค่นั้นก็พอแล้ว“ยังจ้ะดาว ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”เนตราเงยหน้ามองแม่แบบเหวอๆ ท่านยกนิ้วแตะริมฝีปาก“หนูต้องเจอเรื่องต่างๆ อีกเยอะแยะ เข้มแข็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status